คนที่ถูกเรียกว่า ‘ดาด้า’ ชื่อจริงคือ ‘ดาริน’ เธอเป็นสาวประเภทสองผ่านการทำศัลยกรรมมาครบทุกอย่างแล้ว กิริยาท่าทางก็เหมือนผู้หญิงทุกอย่าง มองผ่านๆ แทบหาจุดจับผิดว่าเคยเป็นผู้ชายมาก่อนไม่เจอ
“แพรยังหางานทำอยู่ใช่ไหม” เกรซพูดเข้าประเด็น
“ก็อย่างที่รู้นั่นแหละ” แพรดาวยิ้มเหงาๆคนไม่มีเส้นสายนี้หางานยากจริงๆ
“มาทำงานพิเศษที่นี่ก่อนไหม”
“ทำอะไรเหรอ” แพรดาวมองรอบตัว “ที่นี่ขาดแม่บ้านเหรอคะ”
ดารินแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่เกรซหัวเราะร่า
“ยัยแพร เธอดูถูกตัวเองไปแล้วนะ ที่นี่ชื่อ ซีเคร็ท คลับ เป็นคลับรับเฉพาะรับเฉพาะลูกค้า VIP ที่มีบัตรผ่านเท่านั้นไม่ใช่ทุกคนจะเข้ามาที่นี่ได้ง่ายๆ จะเปิดบริการเร็วๆนี้ แต่ยังขาดพนักงานที่มีความรู้ความสามารถโดยเฉพาะพูดภาษาอังกฤษกับญี่ปุ่นได้คล่องๆ ฉันก็เลยนึกถึงเธอขึ้นมาจะแนะนำเธอให้แม่ดาด้ารู้จัก”
“อย่างนั้นเองเหรอ” แพรยาวยิ้มเขินๆ ออกใส
ดารินสนใจเด็กสาวคนนี้มากขึ้น เธออยู่ในแวดวงนี้มานานย่อมดูคนออกแม้แต่กับเกรซที่ชอบทำตัวสนิทสนมกับเธอ แต่จริงๆ ก็ต้องรักษาระยะไม่ใกล้ชิดมากเกินไป
“ยัยแพรเก่งภาษาค่ะ พูดอังกฤษกับญี่ปุ่นได้” เกรซเชียร์เพื่อนออกนอกหน้า ความจริงที่เกรซอยากให้แพรดาวได้ทำงานที่นี่ก็เพราะเธอเองจะได้พึ่งพาเพื่อนสาวนะสิ
“เป็นแค่พนักงานเสิร์ฟแต่ว่าบางคนน่ะได้ทิปเยอะนะ ฉันไม่ได้ดูถูกแพรนะ แต่งานแม่บ้านจะทำไปถึงเมื่อไหรกัน งานที่นี่ ต้องการพนักงานที่มีความสามารถในการสื่อสาร เพราะลูกค้ามีระดับ และต้องเก็บความลับของลูกค้าด้วย ให้สมกับที่ชื่อ ซีเคร็ท คลับ”
‘จนแล้วยังเลือกงานอีก’
เกรซแอบเบ้ปากมองบน ก่อนจะปรับสีหน้าและฉีกยิ้มออกมา ได้
“แม่ดาด้าว่าไงคะ เพื่อนเกรซพอไหวไหม”
“ก็อยู่ที่เจ้าตัวเขาอยากทำหรือเปล่า”
ดารินเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วกวาดตามองอีกครั้ง มองครั้งแรกอาจไม่สะดุดตานักแต่ว่าเมื่อเธอกวาดตามองก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้หน้าตาน่ารักอยู่ไม่น้อย ดูไม่มีพิษมีภัย ถ้าคนอยู่ใกล้ๆก็คงรู้สึกสบายใจไม่ต้องคอยระวังตัวก็คนๆ นี้จะเอามีดมาแทงข้างหลังตอนไหน
แพรดาวรู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่เพื่อนพูดแบบนั้นเธอก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆแล้วยกมือไหว้สวัสดีทักทายเป็นภาษาไทยก่อนทักทายด้วยภาษาญี่ปุ่น
“สำเนียงใช้ได้ เรามีลูกค้าหลายระดับต้องการคนที่มีความรู้เรื่องภาษาดี แล้วนี่รุ่นเดียวกับเกรซเหรอหน้าอ่อนจังเหมือนเด็กมัธยมเลย”
เกรซไม่โอเคเท่าไหร่ที่ได้ยินดารินพูดแบบนั้น มันก็เหมือนเธอหน้าแก่กว่าวัยน่ะสิ
“หนูเป็นเพื่อนกับเกรซค่ะ เรียนคณะเดียวกันชั้นเดียวกันเกสคอยช่วยเหลือมาตลอด”
แพรดาวพูดอย่างที่คิด โดยไม่เคยรู้ว่าที่ผ่านมาเกรซมองเธอแบบไหน สำหรับเธอแล้ว เกรซเป็นเพื่อนที่ดี ช่วยเหลือเธอมาตลอด งานพิเศษเล็กๆน้อยๆหลายอย่างก็ได้มาจากเกรซแนะนำให้ ทำให้เธอพอมีเงินใช้ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นงานรับจ้างทำรายงานเข้าห้องเรียนหรือการจด lecture วิชาอื่นๆ ความใสชื่อของแพรดาวทำให้ดารินรู้สึกประทับใจ ในขณะเดียวกันก็รู้ว่าแพรดาวถูกเกรซหลอกใช้ด้วยคำว่าเพื่อน
ไม่มีทางหรอกที่ยัยคนนี้จะให้คนอื่นมาเหนือกว่าตัวเอง
แต่เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องอะไรที่ดารินต้องมาใส่ใจ คนอ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของคนเข้มแข็งถ้าเด็กคนนี้ไม่รู้จักปรับตัวเองก็จะถูกคนอื่นเหยียบย่ำอยู่ตลอดไป
“แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่” ดารินเริ่มสอบถามด้วยความสนใจ เรื่องรับพนักงาน Boss ให้เธอตัดสินใจได้แต่ก็ต้องส่งรายละเอียดให้ตรวจสอบอีกที
“ก็สมัครงานไว้หลายๆ ที่ค่ะ แต่ว่ายังไม่ได้สักที่ แล้วระหว่านี้หนูก็ทำงานเป็นแม่บ้านค่ะ”
“อะไรนะ”
แพรดาวยิ้มกว้างเธอไม่รู้สึกว่าเป็นการดูถูกแต่อย่างใด
“เป็นแม่บ้านค่ะรับจ้างทำความสะอาดตามบ้านค่ะ แม่ของแพรทำงานที่บริษัทรับจ้างทำความสะอาด แต่ครึ่งปีก่อนประสบอุบัติเหตุเดินเหินไม่สะดวก แพรก็เลยเข้าไปทำงานแทนตำแหน่งของแม่ในช่วงที่ยังหางานประจำทำไม่ได้ค่ะ”
“เป็นคนขยันดีจริงๆ เอาอย่างนี้ลองทำดูก่อนก็แล้วกัน ถือว่าทดลองงาน เริ่มงานหกโมงเย็นไปถึงตีหนึ่ง เธอก็ไปบริหารจัดการเวลาเอาเอง ฉันให้คืนละหนึ่งพันห้าร้อยบาทไม่รวมทิปที่ลูกค้าให้ ถ้าผ่านช่วงทดลองงานแล้วเธอยังอยากทำงานที่นี่ต่อ จะให้เงินเดือนเดือนล่ะสองหมื่นสามพันบาท”
แพรดาวอ้าปากค้างไม่คิดว่าจะมีการจ้างงานราคาขนาดนี้
“ได้ค่ะจะให้แพรเริ่มงานเมื่อไหร่คะ”
“คลับของเราจะเปิดเร็วๆนี้ แต่เราต้องมาเตรียมงานก่อน เพราะฉะนั้นอีกสองวันเธอก็เข้ามาทำงานที่นี่ได้เลย”
“ได้ค่ะ หนูยินดีมาเริ่มงานที่นี่ค่ะฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ เอ่อจะให้หนูเลือกพี่ว่าอะไรดีคะ”
“เรียกพี่ดาด้าเหมือนเจ้าเกรซก็ได้”
“ขอบคุณมากค่ะพี่ดาด้า”
แพรดาวหันไปยิ้มให้กับเกรซที่ยื่นมือมาจับมือเพื่อนสาวพอดี
“เกรซก็ทำงานที่นี่ใช่ไหม” แพรดาวถามอย่างเพิ่งนึกได้ แต่เพื่อนของเธอเป็นคนสวยและเก่งมาก คงไม่ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟเหมือนเธอแน่ๆ
รอยยิ้มของเกรซแข็งค้างไปชั่วขณะก่อนหันไปสบตากับดารินที่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น ถึงเห็น มันก็ไม่ใช่เรื่องเธอ ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของธุรกิจล้วนๆ แล้วเธอก็ไม่ได้หลอกใครมาทำงานนี้ด้วย
“อื้ม” เกรซแบ่งรับแบ่งสู้ไป เธอใช้เงินเกินตัว หนี้บัตรเครติตหลายใบรวมกันก็เฉียดล้านเข้าไปแล้ว ทำงานคืนละพันห้าอย่างแพรดาวยังไม่พอจ่ายหนี้นอกระบบเลย ตอนนี้ก็มีอย่างเดียวให้เธอขายแลกเงินแล้วล่ะ
“ดีจัง” แพรดาวยิ้มดีใจ อย่างน้อยก็มีเพื่อนทำงานที่เดียวกัน ถ้าเธอเผลอทำอะไรซุ่มซ่ามก็ยังมีเกรซอยู่ใกล้ๆ
ดารินมองสองสาวที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ยัยเด็กแพรดาวนี้ถ้าจับแต่งเนื้อแต่งตัวหน่อยก็สวยระดับนางแบบได้เลย แต่คงเพราะอยู่กับเกรซที่ไม่ยอมให้ใครสวยกว่าก็เลยไม่รู้ว่าตัวเองมีดีอยู่กับตัว
ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องใส่ใจ ตอนนี้ต้องมุ่งไปที่เรื่องการเปิดคลับให้ได้ตามที่เจ้านายสั่ง ในฐานะที่เธอเป็นผู้จัดการ จะต้องไม่มีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด
หญิงสาวหลับๆ ตื่นๆ มาหลายวัน เธอไม่แน่ใจนักว่าผ่านมากี่วัน ทุกครั้งที่รู้สึกตัวจะมีมืออบอุ่นคอยกุมมือเธออยู่เสมอ จนกระทั่งวันนี้ตื่นเต็มตาก็พบว่าแม่นิตยานั่งอยู่ใกล้ๆ “คุณแม่...” น้ำเสียงแหบแห้งดังขึ้นแผ่วเบา แต่กระนั้นคุณนิตยาที่นั่งก้มอ่านข้อความในโทรศัพท์มือถือก็ได้ยิน เมื่อหันไปมองก็พบดวงตาคู่สวยปรือตามองมาทางนาง “ตื่นแล้วเหรอลูก” “หนูหิวน้ำ...” “จ๊ะๆ เดี๋ยวแม่รินน้ำให้นะ” คทาภัทรได้ยินเสียงจึงหันมาดู เขาเก็บโทรศัพท์มือถือแล้วเดินมาประคองน้องสาวให้นั่งเอนหลังพิงหัวเตียง แพรดาวอ้าปากงับหลอดดูดน้ำที่คุณนิตยาส่งให้แล้วดูดน้ำในแก้วด้วยความกระหาย “เบาๆลูกเดี๋ยวสำลัก” ดื่มน้ำไปหมดแก้วแล้วค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย หญิงสาวกวาดสายตาไปรอบๆ พบว่าเป็นผู้ป่วยพิเศษ เธอจึงเอ่ยถามคทาภัทร “พี่ภัทรคะ...ที่นี่...” “โรงพยาบาลของเราเอง” “น้องแพรจำได้แค่ว่าเป็นลมในบ้านไร่แล้วที่เหลือก็จำอะไรไม่ได้เลย” หญิงสาวมองไม่เห็นคุณฐากูรก็อดเป็นกังวลไม่ได้ “คุณพ่อล่ะ
หลังจากปล่อยหมัดหนักๆ ใส่คนงานจนมันล้มหน้าคว่ำไปกับพื้นดินแล้ว ธามไทก็ตวัดตามองชายอีกคนที่เตะคนงานในไร่สองคนหมอบไปถึงสองคน เขาหรี่ตามองแล้วสาวเท้าไปยื่นมือไปหมายจะหยิบหมวกที่อีกฝ่ายสวมอยู่ แต่หัสดินปัดป้องมือข้างนั้นตามสัญชาติญาณ มืออีกข้างพุ่งไปหมายซัดเข้าที่เบ้าหน้าฝ่ายตรงข้าม “อย่าค่ะพี่ดิน!” แพรดาวพุ่งเข้าใส่ร่างหัสดินจากด้านข้าง ชายหนุ่มเสียหลักแต่สองเท้ายังมั่นคงไม่ล้มลงไปทั้งสองคน แพรดาวกอดเอวหัสดินแน่นแล้วเงยหน้าขึ้นมอง “อย่าทำร้ายคุณธามไทนะคะ แพรขอร้อง” “น้องแพร...” อารมรณ์กรุ่นโกรธเริ่มลดลง แทนที่ด้วยความปวดใจที่เห็นว่าคนรักขอร้องแทนผู้ชายคนอื่นอยู่! “ทำไมนายมาอยู่ที่นี่!” ธามไทตวาดอย่างหัวเสีย ทั้งที่เขาระวังดีแล้วแท้ๆ แต่ไอ้หมอนี้มาเหยียบถึงถิ่นเขาได้! เมื่อเปิดตัวเร็วขนาดนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนอีก หัสดินถอดหมวกแก็ปแล้วโยนทิ้ง ยกมือขึ้นเสยผมยุ่งๆ ให้เข้าที่ ดวงตาคมหรี่มองอีกฝ่ายอย่างดูแคลน “ก็มารับตัวผู้หญิงของกูนะสิ!” สิ้นเสียงของหัสดิน ลูกน้องที่ตามมาด้วยก็เข้ามาประกบผู
หัวหน้าประยงค์กวาดตามองชายหนุ่มสามสี่คนที่เข้ามาสมัครทำงานในไร่ เป็นอย่างนี้เสมอ คนเก่าไปคนใหม่เข้ามาแทนที่ วัยรุ่นวัยแรงงานอยู่ทำงานไม่ค่อยทนเท่าไรนัก ที่นี่ห่างไกลตัวเมืองและแสงสี “ถอดหมวกสิ” ประยงค์สั่งชายหนุ่มที่สวมหมวกแก๊ปอยู่ อีกฝ่ายก็ทำตามสั่งอย่างว่าง่าย เขาพยักหน้าแล้วใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปบัตรประชาชนของแต่ละคนไว้เป็นหลักฐาน “ก็อย่างที่บอกค่าแรงรายวัน รับเงินทุกสิบห้าวัน เริ่มงานเลยไหม” “ได้ครับหัวหน้า” ‘ไม่อยู่ถึงขนาดนั้นหรอก’ หัสดินใส่หมวกตามเดิม เขาหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องที่ตามมาด้วย เขาไม่ได้สนใจว่าหัวหน้าคนงานสั่งอะไร สายตากวาดมองไปทั่ว สำรวจเส้นทาง จำนวนคนและที่สำคัญมองหาใครบางคนที่ทำให้หัวใจของเขาร้อนเป็นไฟ ‘พิกัดล่าสุดของแพรดาวอยู่บริเวณนี้ หรือใกล้เคียงที่นี่ ถ้าไม่เพราะเกรงใจอัครเวชซึ่งเป็นว่าที่พ่อตาแม่ยายของเขาแล้วล่ะก็...เขาคงยกกำลังคนของตนมาถล่มชิงตัวแพรดาวไปไม่สนใจใครทั้งนั้น’ “นี่ๆ นังหนู หิ้วกระติกน้ำให้มันดีๆหน่อย น้ำมันหกหมดแล้ว” ประยงค์ตะคอกคนงานใหม่ท
“ฉันไม่รู้เรื่องนี้” ครั้งนี้การะเกดพูดความจริง หลายปีที่ผ่านมาไม่ได้ข่าวของเด็กผู้หญิงคนนั้น แม้เธอก่นด่าลูกชายทุกวี่วันที่พบหน้า จนลูกไม่อยากอยู่บ้านทั้งที่สร้างคฤหาสน์หลังใหญ่โตให้ทว่าลึกๆ แล้วกลับรู้สึกว่าการหาไม่พบนั้น อาจดีกว่าได้พบก็เป็นได้ “ถ้าอย่างนั้น...” ฐากูรหันไปมองลูกชาย เพราะข่าวที่ได้มาจากหัสดินก็ชัดเจนว่าธามไทเป็นคนจับตัวแพรดาวไป “มันก็ยี่สิบปีแล้ว” การะเกดถอนหายใจหนักหน่วง เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ ลูกๆ ของแต่ละคน ต่างก็มีหลานมาให้อุ้มกันแล้ว ชีวิตที่จมกับความโกรธแค้นของเธอทำให้ธามไทไม่เคยมีใคร เพราะทุ่มเททำในสิ่งที่เธอต้องการเท่านั้น เงินที่ใช้ตามหาเด็กคนนั้นก็หมดไปหลายล้านแล้ว “คุณน้ารู้ไหมครับว่า ธามไทจับน้องสาวของผมไปที่ไหน” “มั่นใจจังนะว่าลูกชายฉันจับตัวลูกสาวเธอไป” การะเกดพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก “ไปกับผู้ชายคนอื่นหรือเปล่าก็ไม่รู้” “ไม่ครับ เพราะว่า...” คทาภัทรขยับแว่นตาแล้วตัดสินใจพูดไปตามจริง “เพราะที่ผ่านมาผมตามหาน้องสาวมาตลอด และทุกอย่างเชื่อมโยงไปที่นรบดี ตอนที่เจอ
หลังจากท่องเที่ยวต่างประเทศนานนับเดือน ทันทีที่กลับถึงกรุงเทพฯ คุณการะเกดประหลาดใจที่เห็นคนเคยรู้จักมาเยี่ยมเยือนถึงบ้าน“เกิดอะไรขึ้น คนตระกูลอัครเวชยกโขยงมาเยื่อนบ้านนรบดีได้” คุณฐากูรสูดลมหายใจลึก ในขณะที่คุณนิตยายืนจับมือคทาภัทรลูกชายคนโต คุณการะเกดเองก็ประหลาดใจ สองครอบครัวไม่ถูกกันมานานเป็นยี่สิบกว่าปี แม้ติดตามข่าวอยู่เสมอตามประสาคนในแวดวงเดียวกัน และเจอกันตามงานสังคมบ้าง แต่ก็ไม่เคยมาเจอกันที่บ้านแบบนี้“นั่งก่อนสิ ประเดี๋ยวจะคิดว่านรบดีไร้มารยาท” การะเกดอยู่ในวัยเดียวกับนิตยา ถ้าจะพูดให้ถูกทั้งสองก็เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน อัครเวชฐานะร่ำรวยตั้งแต่รุ่นปู่ทวด จากต่างนรบดีที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตนเอง สามีของเธอคือไพศาลเดิมที่เป็นร่วมโรงเรียนเดียวกับฐากูร ที่ไพศาลได้เข้าโรงเรียนดีๆ ได้ก็เพราะเรียนดีได้ทุนเรียนฟรี จากที่สามีมักเล่าให้ฟังเสมอ คือทั้งสองช่วยเหลือกันและกัน กระทั่งเรียนมหาวิทยาลัย ครอบครัวอัครเวชก็ให้ทุนค่าเล่าเรียน จนกระทั่งทำงาน สามีของเธอก็ยังทำงานที่อัครเวช แต่แน่นอนว่า ทุกคนต้องใฝ่ฝันอยากมีกิจการของตัวเอง เป็นเจ้าคนนายคน และเธอเองก็สนับสนุนสามีให้ท
แพรดาวถูกส่งตัวมาทำงานในไร่มันสำปะหลัง ธามไททิ้งเธอไว้กับหัวหน้าคนงานชื่อประยงค์ เป็นชายร่างใหญ่วัยสี่สิบปลายๆ พ่อม่ายเมียทิ้งไปอยู่กับนักร้องคาเฟ่ในเมือง ประยงค์เห็นผู้หญิงที่เจ้านายเอามาทิ้งไว้ก็ขมวดคิ้ว ถึงจะบอกให้ ‘ใช้งานตามใจ’ แต่ดูแล้วคงทำตามใจไม่ได้ เหมือนโดนโยนเผือกร้อนใส่มือยังไงไม่รู้ หญิงสาวรูปร่างเล็กแต่สู้งานไม่น้อย เขาชี้นิ้วสั่งให้ทำอะไรก็ทำ ให้หิ้วกระติกน้ำไปให้คนงานก็ไม่มีอิดออด เจ้าพวกหนุ่มๆในไร่เห็นแล้วก็มองตาเป็นมัน เขาต้องใช้ร่างกายตัวเองบังสายตาไอ้พวกนั้นไว้ ยังไงก็ผู้หญิงของเจ้านาย สำหรับแพรดาวแล้ว งานเหล่านี้ไม่ได้นักหนาอะไรเลย แต่เพราะทำงานตากแดดและยังถูกลักพาตัวมาอีก เธอจึงรู้สึกหน้ามืดวิงเวียน แต่พยายามประคองตัวเองไว้ จนถึงเวลาเลิกงาน หัวหน้าประยงค์จึงเรียกเธอขึ้นรถกระบะมาส่งที่บ้านของเจ้านาย “พรุ่งนี้ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ” “พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน” “ขอบคุณค่ะ” แพรดาวยกมือไหว้แล้วลงจากรถ เธอยืนลังเลครู่ใหญ่ กำลังเตรียมใจว่าจะต้องเจออะไรบ้าง ก็เป็นจังหวะที่บานประตูเปิดออกพร้อมร่