Share

แค่เริ่มก็ล่มแล้ว (3)

ยายเมิ่งอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าท่านเทพดื่มน้ำแกงเยอะเกินกว่าที่กำหนด นางจึงรีบอ้าปากหมายกล่าวคำห้ามปรามทันที

ปึ้ก!

เฮ่ยเสี่ยวอู่พลันกระทืบเท้ายายเมิ่ง หยุดการกระทำของอีกฝ่ายไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะคว้ากระบวยจากเฮ่ยเสี่ยวฉางมาตักน้ำเเกงใส่ในชามจนเต็มอีกครั้ง

“แต่สองชามนั้นมีไว้สำหรับเทพทั่วๆ ไป เทพที่มีพลังระดับตี้จวินต้องสามเท่านั้นถึงจะพอ” 

ดวงตาคู่งามตวัดมองหน้าคนพูดอยู่ครู่หนึ่ง ท่ามกลางความใจหายใจคว่ำของเฮ่ยเสี่ยวอู่และเฮ่ยเสี่ยวฉาง ท่านเทพบรรพกาลก็ยกชามน้ำแกงขึ้นดื่มเป็นครั้งที่สาม ก่อนจะออกคำสั่งน้ำเสียงราบเรียบ

“ข้าจะไปแล้ว พวกเจ้าจัดการเรื่องวิญญาณต้นไม้นั่นอย่าให้เกิดผิดพลาดได้เล่า” สั่งจบร่างสูงก็ก้าวเดินขึ้นสู่สะพานอนิจจังอย่างสง่างามเพื่อเข้าสู่วัฏสงสารในทันที

“เสี่ยวอู่ ทำอย่างไรดี น้ำเเกงตั้งสามชาม หากเป็นวิญญาณคนธรรมดากินมากกว่าหนึ่งชาม ก็ต้องไปเกิดเป็นคนสติไม่สมประกอบเเล้ว” 

“นั่นเเหละที่ต้องการ หากตี้จวินเป็นเช่นนั้นย่อมไม่มีทางระลึกถึงเรื่องราวของตนเองในภพเทพได้แน่นอน ส่วนพวกเราก็เเค่รีบหาวิญญาณต้นไม้นั่นให้พบโดยไว แล้วนำนางกลับมายังภพนี้ จากนั้นค่อยสร้างเหตุการณ์เผชิญด่านเคราะห์ให้ตี้จวินใหม่ ถึงจะไม่เหมือนกับที่เทพซื่อมิ่งเขียน แต่ถ้าเขาสามารถผ่านด่านได้ก็คงไม่ถือสาเอาความเรา” 

“ตกลง” แม้จะไม่มีความมั่นใจสักนิด ทว่าเสี่ยวฉางก็ตัดสินใจทำตามแผนของสหายทันที พวกเขาทั้งคู่รีบยื่นขอวันลาหยุด เพื่อค้นหาคู่วาสนาที่หายไปของเทพบรรพกาลอย่างขันแข็ง

บนสวรรค์ชั้นฟ้า

ในตำหนักของเฒ่าจันทราผู้มีหน้าที่เชื่อมวาสนาด้ายเเดงเเก่ผู้คน ร่างผอมของเจ้าของตำหนักกำลังนอนกรนคร่อกๆ อย่างสบายใจ ก่อนจะสะดุ้งตื่นตกใจเมื่อได้ยินเสียงเรียกทรงอำนาจดังขึ้นข้างๆ หู

“เฒ่าจันทรา ตื่นได้เเล้ว!” 

เพราะตกใจเสียงเรียก ผู้เฒ่าจันทราจึงลืมตาขึ้นมองรอบด้านด้วยท่าทางงุนงง ก่อนจะค้อมกายทำความเคารพอย่างตื่นตะลึง เมื่อเห็นประมุขสวรรค์ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าตนเอง

“คารวะเทียนจวิน” 

เง็กเซียนสะบัดฝ่ามือเป็นเชิงให้ลุกได้ ก่อนจะเริ่มเอ่ยปากกล่าวถึงธุระที่มา” ข้ามาหาเจ้าด้วยเรื่องผูกด้ายเเดงเชื่อมวาสนาของตี้จวิน” 

ผู้เฒ่าพอได้ฟังก็ถึงบางอ้อ รีบงัดด้ายเเดงเส้นหนึ่งขึ้นมาให้ดูทันที “เรียนเทียนจวิน พอได้รายชื่อจากท่านเทพซื่อมิ่ง ผู้น้อยก็รีบผูกให้เเล้วเสร็จในทันทีเลยพ่ะย่ะค่ะ” 

เง็กเซียนปรายตามองเส้นด้ายในมือผู้เฒ่าเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวไม่เห็นชอบ พลางออกความคิดเห็น “ข้าว่าด้ายแดงเส้นแค่นี้คงไม่อาจสำแดงเดช ผูกวาสนาของตี้จวินที่ไร้ชื่อสลักบนหินสามชาติได้ เกรงว่ามันจะขาดเอาเสียก่อนนี่สิ” 

ผู้เฒ่าพลันอ้าปากหมายเเย้งคำพูดประโยคนั้น แต่ฉุกใจคิดขึ้นมาได้ว่าตี้จวินผู้นั้นมีพลังตบะที่มากล้ำ คำกล่าวของเง็กเซียนนับว่ามีโอกาสเป็นไปได้อยู่

“เช่นนั้น เทียนจวินคิดว่าควรทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ” 

ครั้นได้ฟังคำถาม ผู้เป็นใหญ่เเห่งเเดนสรวงพลันมีดวงตาเเวววาวสว่างวาบในทันที ท่าทีคล้ายกับว่ารอคอยคำพูดเช่นนี้อยู่ก่อนเเล้ว

“ข้าได้คิดวิธีเเก้ปัญหาไว้ให้เจ้าเเล้ว นี่คือเชือกวิเศษจากยอดเขาคุนหลุน ที่ข้าได้ขอยืมมาจากเจ้าเเม่ซีหวังหมู่ ถ้าหากใช้มันแทนด้ายแดงผูกชะตา ต่อให้ตี้จวินมีพลังเทพมากเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เชือกเส้นนี้ขาดลงอย่างเเน่นอน” 

ผู้เฒ่าจันทรานั้นรับหน้าที่เชื่อมชะตาผูกด้ายเเดงสร้างบุพเพให้เหล่าผู้คนมาไม่น้อย เเต่ก็ยังไม่เคยได้ยินเรื่องพิลึกพิลั่นขนาดนี้มาก่อน มีอย่างที่ไหนกัน ถึงขนาดต้องใช้เชือกวิเศษจากเจ้าเเม่ซีหวังหมู่เเทนด้ายเเดงปกติ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือด้วยรูปลักษณ์ของเชือกนั่น ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ห่างไกลคำว่าด้ายไปมากโข

เพราะหากจะจำกัดคำเรียก ควรบอกว่าเป็นเชือกที่เอาไว้ใช้ล่ามสัตว์สี่เท้าตัวใหญ่เสียมากกว่า ยิ่งกว่านั้นยังมีปัญหาสำคัญอีกข้อนั่นก็คือว่า ด้ายเเดงยิ่งมีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งมากล้นด้วยพลังเเห่งบุพเพ หากนำเชือกเส้นนี้มาผูกวาสนาแทนด้ายเเดงเชื่อมชะตาให้แก่ตี้จวิน เกรงแต่ว่าวาสนาคู่รักจะไม่มีทางไม่สมหวังแน่นอน

เพียงแต่ตี้จวินนั้นลงไปเผชิญด่านรักที่ไม่สมหวังนี่นา ใช้เชือกเส้นเท่าบ้านขนาดนี้ มีหรือที่ทั้งคู่จะต้านทานอำนาจบุพเพได้ เกรงว่าจากที่ไม่สมหวังจะกลายเป็นรักกันไม่ยอมเเยกจากเเทนน่ะสิ

ถึงแม้จะรู้สึกขัดแย้งเพียงใด แต่อีกฝ่ายคือเง็กเซียนประมุขเเห่งเเดนสวรรค์เชียวนะ เขามีหรือจะกล้าขัดใจ ผู้เฒ่าตำหนักจันทราได้เเต่ยิ้มแห้งๆ ขณะรับเชือกวิเศษจากท่านผู้นำ ก่อนลงมือผูกวาสนาให้แก่ผู้ที่ถูกกล่าวถึง แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าเทียนจวินนั้นต้องการจะกลั่นแกล้งตี้จวินก็ตาม

'ตี้จวิน ข้าน้อยถูกสั่งให้กระทำ หากท่านหวนกลับคืนมาเเล้วรู้เรื่องนี้ ก็ขอให้ไปทวงเเค้นกับเทียนจวินผู้นั้นเอาเองเถิด'

เง็กเซียนยืนมองการกระทำของผู้เฒ่าจันทราเขม็ง เขายกมือขึ้นลูบเคราตนเองพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ท่าทีพออกพอใจเป็นอย่างมาก เจ้าตัวอันธพาลนั่นต้องลงไปเผชิญด่านเคราะห์รักที่ไม่สมหวัง จึงจะกลับขึ้นมาสู่ภพเทพได้ แล้วถ้าหากสมหวังเล่า...

ใช้เชือกจากเขาคุนหลุนมาผูกเสียขนาดนี้ ต่อให้อีกฝ่ายเก่งกล้าเพียงใดก็ไม่อาจทำลายมันลงได้ เช่นนี้มีหรือความรักจะไม่สมหวังอย่างที่คิด แต่ถ้าสมหวังก็ย่อมกลับคืนฐานะเทพไม่ได้

หากไม่มีเจ้าเทพอันธพาลนั่นค่อยปั่นป่วน แดนสวรรค์ของเขาก็จะสงบสุขตลอดกาล

เพราะฉะนั้นตี้จวินท่านก็จงอยู่กับรักที่สมหวังของท่านในโลกมนุษย์เถอะ ยิ่งคิดเง็กเซียนก็ยิ่งอารมณ์ดี ต่อไปก็จะไม่มีใครกล้าขัดคอหรือหาเรื่องทุบตีเขาอีกเเล้ว

“อืม...ข้านี่ช่างฉลาดล้ำที่สุดในสามโลก” 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   ล่อลวงให้หลงรัก

    หลังจากหักห้ามใจไม่ให้ยืนมองคนรูปงามสำเร็จ สองยมทูตกับหนึ่งดวงวิญญาณก็เดินทางมาถึงเรือนมู่ตานของคุณชายจวินเทียนเฮ่อ พวกเขาพากันทะลุผ่านเข้าไปวางแผนในห้องนอนเจ้าของเรือนอย่างถือวิสาสะมู่ตานนั้นเป็นชื่อของบุปผา หากเป็นบุรุษทั่วไปนำมาใช้ตั้งชื่อเรือนเช่นนี้คงดูไม่สมชาย ทว่าพอเป็นหนุ่มรูปงามในอาภรณ์แสงจันทร์นั่น กลับให้ความรู้สึกว่าสมตัวเป็นอย่างยิ่งแล้ว“เจ้าต้องทำให้ตี้จวินหลงรักในตัวเจ้า” เฮ่ยเสี่ยวอู่ประกาศขึ้นเป็นประโยคแรก หลังจากทรุดลงนั่งล้อมวงสุมหัวกันเป็นที่เรียบร้อย “จงใช้รูปลักษณ์และเสน่ห์ของหญิงสาวที่เจ้าพึงมี ล่อลวงให้ท่านหลงใหลเสีย”กล่าวจบทุกสายตาก็หันมาจับจ้องดวงวิญญาณหญิงสาวหนึ่งเดียวในที่นั้น ไม่เว้นเเม้เเต่เจ้าตัวเองที่พอก้มหน้ามองดูตนเองเเล้วก็นึกอยากร่ำไห้นัก รูปลักษณ์และเสน่ห์อย่างนั้นหรือจริงอยู่ว่าหยูหนิงนั้นออกจากร่างมนุษย์มาตอนอายุสิบห้าย่างสิบหกปี เป็นสาวน้อยวัยกำลังขบเผาะ อีกทั้งยังน่ารักราวกับตุ๊กตาแก้วเจียระไน สำหรับมาตรฐานของคนทั่วไปคงต้องบอกว่าอยู่ในเกณฑ์ดีงามเเล้ว เเต่…เป้าหมายนั้นคือผู้ใด ตี้จวินเชียวนะ ถ้าหากเป็นบุรุษอื่นทั่วไปแล้ว ด้วยรูปลักษณ์ของหยู

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   ถึงตายก็ไม่ยอม

    “ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมเข้าไปเล่า” เฮ่ยเสี่ยวฉางถามวิญญาณดวงสำคัญพลางยกมือเกาศีรษะเเกรกๆพวกเขาหรืออุตส่าห์วางแผนคิดบทละครกันมาเป็นอย่างดี ทว่าพอถึงเวลาที่ต้องปฏิบัติจริง เด็กสาวผู้เป็นคู่วาสนากลับไม่ยอมให้ความร่วมมือเสียนี่ ทำเอาเฮ่ยเสี่ยวอู่พลันมีสีหน้าเคร่งขรึม“ไม่เอาหรอก ก็หนิงหนิงเพิ่งรู้นี่นาว่าการจะการเป็นคู่วาสนา หมายถึงต้องเป็นคนรักของตี้จวินอะไรนั่น หนิงหนิงไม่ได้ชอบเขา เพราะอย่างนั้นไม่มีทางไปสร้างวาสนาอะไรด้วยหรอก”พวกเขาล้อเล่นหรือไร เธอชอบผู้ชายในฝันคนนั้นต่างหาก ตี้จวินอะไรนั่นต่อให้เป็นท่านเทพที่ไหนก็ไม่เอาด้วยเด็ดขาด!เฮ่ยเสี่ยวอู่ถลึงตาโปนใส่แทบถลนออกนอกเบ้า ส่วนทางเฮ่ยเสี่ยวฉางก็เบะปากเกือบปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย พวกเขาวางแผนกำกับบทละครเพื่อให้เรื่องราวดำเนินไปได้ เเต่วิญญาณดวงสำคัญดันไม่เอาด้วยเเบบนี้ก็เเย่น่ะสิ ถ้าหากว่าไม่สามารถทำให้ชาตินี้ของตี้จวินผ่านพ้นด่านเคราะห์ได้สำเร็จ คนแรกที่ต้องถูกเล่นงานคือเขาและเสี่ยวอู่เป็นแน่ เมื่อคิดได้ดังนั้นเฮ่ยเสี่ยวฉางจึงเริ่มเกลี้ยกล่อมดวงวิญญาณตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง จะอย่างไรเสียเขาก็ต้องทำให้นางยอมร่วมมือให้จงได้“เสี่ยวหนิงคนดี

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   โปเย โปโลเย

    เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ได้ ในที่สุดหยูหนิงก็ค่อยๆ รู้สึกตัวได้สติ เด็กสาวมองรอบด้านที่จะว่ามืดก็ไม่ใช่สว่างก็ไม่เชิงอย่างงุนงง ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อมองเห็นว่าข้างกายของตนนั้นมีคนแปลกหน้าอยู่ด้วยสองคน“พวกคุณเป็นใคร”คนแปลกหน้าทั้งสองเป็นหญิงสาวสวยต่างสไตล์ คนหนึ่งสวยเรียบๆ ท่าทางไม่สบอารมณ์ ใบหน้าเผยแววบึ้งตึง ส่วนอีกคนนั้นเรียกได้ว่าสวยหยาดฟ้ามาดิน เรือนร่างอวบอัดของเธออยู่ในชุดสีเเดงเพลิงเจิดจ้า พอเห็นว่าหยูหนิงรู้สึกตัว ทั้งคู่ก็รีบเดินเข้ามาหาทันที ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเอ่ยคำทักทายขึ้น“สวัสดีหยูหนิง ฉันคือเสี่ยวฟ่าง เป็นยมทูต” คำทักทายแสนเรียบง่าย แต่ฟังเเล้วชวนให้รู้สึกตกตะลึงอย่างยิ่ง คนเเรกเอ่ยปากมาก็ทำเอาสมองคิดตามไม่ทันเเล้ว อีกคนที่มาด้วยกันยิ่งทำให้หยูหนิงคล้ายภายในหัวระเบิดดัง 'ปั้ง’“สวัสดี ฉันอี้ฉาง เป็นเจ้าของร่างและสถานะที่เธอกำลังครอบครองในตอนนี้!”‘คุณเเม่ขา หยูหนิงอยากเป็นลม ต้องทำยังไงคะ!’แม้จะคิดในใจเช่นนั้น ทว่าเธอก็ไม่ได้เป็นลมไปจริงๆ หยูหนิงฟังเรื่องราวจากยมทูตเสี่ยวฟ่างแล้วทำความเข้าใจเงียบๆ ที่แท้ทั้งร่างกายและทุกอย่างที่เป็น ‘หยูหนิง’ นั้นไม่ใช่ของเธอแม้

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   พบแล้ว(2)

    เร่งฝีเท้าเดินออกจากร้านมาได้ไม่นาน หยูหนิงก็นึกได้ว่าเธอลืมของเสียเเล้ว“ไม่น่ารีบร้อนออกมาจนลืมหนังสือเลย” เด็กสาวบ่นกับตัวเองเบาๆ ยามหันหลังเดินกลับเส้นทางเก่า ร่างบางผ่านตรอกซอยเล็กๆ ที่อยู่ก่อนถึงจุดหมาย ซึ่งเธอคงจะเดินเลยไป ถ้าในที่เเห่งนั้นไม่มีร่างของคนคุ้นเคยอยู่ ทว่ายังไม่ทันที่หยูหนิงจะส่งเสียงเรียกอีกฝ่าย หนึ่งในสองก็กล่าวคำพูดขึ้นมาเสียก่อน“ที่นายคอยหลบหน้าฉันช่วงนี้เป็นเพราะหนิงหนิงสินะ”“ไม่เกี่ยวอะไรกับหนิงหนิง อย่าลืมนะว่าตั้งแต่แรกพวกเราเองก็ไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว” น้ำเสียงเย็นชาของฝ่ายชายดังขึ้นโต้ตอบผู้หญิงอีกคนมองร่างสูงตรงหน้าด้วยดวงตาฉ่ำน้ำ ริมฝีปากบางถูกขบเม้มจนเเน่น ก่อนที่เธอจะถามขึ้นมาอีกครั้ง“เเล้วที่นายนอนกับฉันมันคืออะไร อย่างนี้นายยังกล้าบอกว่าพวกเราไม่เกี่ยวข้องกันอีกหรือเฉิงเหยียน!”‘นอนอย่างนั้นหรือ เฉิงเหยียนกับรั่วฉินนี่นะ!’ หยูหนิงตกใจไม่น้อย ร่างเล็กขยับหลบชิดมุมกำเเพงเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นตัวเอง ในใจยังคงสับสนกับสถานะของเพื่อนทั้งสองไม่คลาย“หึ! ก็เรียก 'sexfriend' ยังไงล่ะ เธอมีความสุข ตัวฉันเองก็พอใจ ในเมื่อพวกเราต่างก็วิน-วินด้วยกันทั้งค

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   พบแล้ว (1)

    “หนิงหนิง นี่เธอจะไม่ไปเรียนที่เดียวกับพวกเราจริงๆ น่ะหรือ” รั่วฉินเพื่อนวัยเด็กที่เรียนมาด้วยกันตั้งเเต่ชั้นประถมเอ่ยขึ้นหยูหนิงมองถ้วยไอศกรีมตรงหน้า จนเวลาผ่านไปพักหนึ่งจึงเงยหน้ามามองคนถามเเล้วพยักหน้าแทนคำตอบ“ทำไมล่ะ เพราะอะไรหนิงหนิงถึงไม่ไปเรียนที่เดียวกับพวกเรา” คราวนี้ทั้งกลุ่มหันมาถามเป็นเสียงเดียวกันเด็กสาววัยสิบห้าเวลาอยู่รวมกันแล้วเหมือนนกกระจอกเเตกรังอย่างที่เขาว่าจริงด้วย หยูหนิงคิดในใจพลางหัวเราะขำๆ ดวงตาสีดำคู่โตหันไปมองที่ถ้วยของคนอื่น โดยลืมให้เหตุผลเพื่อนตัวเองเสียสนิท'อืม...วานิลลาของรั่วฉินน่ากินมากเลย สตรอว์เบอร์รี่ของหวางอินก็ดูท่าทางจะอร่อย ชาเขียวของมั่วฉางก็สีสันน่ากินสุดๆ หรือเราจะเเลกกันคนละคำกับพวกเธอดี'เห็นท่าทางอยู่ในโลกส่วนตัวของหยูหนิงแล้ว ทุกคนก็ได้เเต่ส่ายหน้าปลงตก เพราะรู้ดีว่าต่อให้พยายามถามอีกก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา พวกเธอจึงหันไปสนใจถ้วยไอศกรีมตัวเองบ้าง ทว่าพอไอศกรีมหมดเสียงจอเเจก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง หยูหนิงมองเพื่อนๆ ที่พยายามถามเธออย่างเอาเป็นเอาตาย เเล้วส่ายหน้านึกในใจขำๆ เวลาเรียนตั้งใจกันขนาดนี้ไหมเนี่ย“สรุปว่าเธอจะไม่ไปสอบเข้าที่เดียวกั

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   กำเนิดเกิดเป็นมนุษย์

    จากวันกลายเป็นเดือน จากเดือนเคลื่อนเป็นปี โลกมนุษย์ทั้งอดีตเเละอนาคตผันผ่านไปตามกาลเวลากระบองเพชรน้อยต้นไม้จากเมืองมนุษย์ถูกนำลงสู่ยมโลก ได้ไอหยินเเละหยาดน้ำทิพย์จากสระมรกตหล่อเลี้ยงจนเริ่มมีพลังวิญญาณ ทว่ายังมิทันได้สร้างรูปลักษณ์ของตนเองขึ้นมา นางกลับถูกความมักง่ายของมหาเทพบรรพกาลนอกฝั่งฟ้าเล่นงาน โดนเปลี่ยนเเปลงวิญญาณด้วยพลังเทพ ต้องเข้าสู่วัฏสงสารเพื่อเวียนว่ายตายเกิดบัดนี้นางถือกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์เต็มตัวแล้ว อิ๋งอิ๋งน้อยของเหยียนหลัวหวางมีชื่อใหม่ในชาติภพนี้ว่า 'หยูหนิง' เกิดในครอบครัวสกุลหยูที่มีฐานะค่อนข้างดี ทว่าตอนที่หยูหนิงเกิด ในห้องคลอดนั้นไร้เสียงร้องของทารกให้ได้ยิน มีเพียงความเงียบที่แผ่ขยาย ไม่ว่าคุณหมอหรือนางพยายาลจะใช้วิธีไหน เด็กน้อยก็เพียงแค่นอนมองตาเเป๋วข่าวร้ายที่มาพร้อมการเกิดของลูกสาวทำให้ผู้เป็นเเม่เเทบหัวใจสลาย สามีที่เป็นช่างภาพไปถ่ายงานนอกสถานที่ เกิดอุบัติเหตุรถที่โดยสารพลิกคว่ำ เพราะคนขับรถบัสประมาทจึงทำให้สามีเสียชีวิต ทว่าคนในตระกูลหยูกลับพากันกล่าวโทษว่าเพราะลูกสาวเธอเป็นตัวซวยเฮอะ สารเลว...เด็กเกิดมาจะไปรู้เรื่องอะไร รถบัสพลิกคว่ำเพราะคนขับหลับใน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status