ระหว่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯไพลินขับรถอย่างระมัดระวัง ยายจันหลับไปแล้วหญิงสาวรู้สึกอบอุ่น เธอคิดไว้แล้วว่าสิ้นปีนี้จะกลับไปอยู่กับยาย แต่แค่ยังไม่ได้บอกยาย ไว้กลับไปทำงานครั้งนี้เธอจะแจ้งกับหัวหน้างานให้หาคนมาแทนเธอ และเมื่อได้คนมาแทนแล้ว เธอจะลาออกทันทีระหว่างทางที่ขับรถเข้ากรุงเทพฯไพลินคิดตลอดเวลาว่า ทำไมเธอต้องให้ยายลำบากมา อยู่คอนโดกับเธอด้วย ความสุขของยายคืออยู่บ้านสวน เปลี่ยนใจแล้วพรุ่งนี้ไปทำงานเธอจะเขียนใบลาออกทันที
“ยายจ๋ายาย พายแวะปั้มเข้าห้องน้ำ ลงไปด้วยกันไหมจ๊ะ”
“ถึงไหนแล้วลูก ยายอยากเข้าห้องน้ำเหมือนกัน หลับสนิทเลยหนูพาย ขับรถนิ่งมากเลยนะลูก” ยายจันชมหลานสาวหญิงชราหลับสนิทจริงๆ ถ้าไพลินไม่ปลุกคงยังไม่ตื่นน่าจะเป็นเพราะกินยาด้วย
ไพลินประคองยายลงจากรถพาไปเข้าห้องน้ำ ภาพที่หญิงสาวสวยหุ่นดีที่อยู่ในชุดเดรสผ้าลินนินแขนสั้นคอเชิ้ตยาวเลยเข่าสี่เหลืองไพร ไพลินเป็นคนผิวขาว ใส่เสื้อผ้าสีสดยิ่งขับให้ผิวขาวนวลยิ่งขึ้น ผู้คนที่แวะพักรถระหว่างการเดินที่เดินไปเดินมา อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับไปมอง
“ยายจ๋าเราพักกันก่อนนะ พายว่าจะซื้อกาแฟสักแก้ว เราเข้าไปนั่งพักที่ร้านกาแฟดีกว่าค่ะ”
“ดีเหมือนกันลูกยายอยากกินชาเขียวเหมือนกัน”
“ยายทันสมัยจังเลยน่ารักที่สุด"
หญิงสาวประคองยายจากห้องน้ำเดินไปที่ร้านกาแฟชื่อดัง เธอยิ้มยายทันสมัยจริงๆ ช่วงสายๆ ของวันอาทิตย์แบบนี้ ผู้คนบางตาอาจกำลังเดินทางกลับจากท่องเที่ยว คนและรถยังไม่มากนักสักบ่ายๆ รถคงเยอะกว่านี้
“ยายจ๋านั่งข้างนอกหรือข้างในดี”
“ข้างนอกนี่ดีกว่าลูกอยู่กับแอร์มาตั้งนานข้างนอกนี่โล่งโปร่งดี”
“งั้นยายนั่งรอตรงนี้นะคะ เดี๋ยวพายเข้าไปซื้อน้ำข้างในแป๊ปเดียวค่ะ”
ในร้านกาแฟลูกค้านั่งเรียงรายอยู่ที่บริเวณเก้าอี้และโซฟามากมาย ไพลินได้คิวแล้วระหว่างนั้นหญิงสาวยืนรอเครื่องดื่ม มองออกไปด้านนอกยายจันนั่งหลังพิงเก้าอี้ท่าทางสบาย ด้านหลังของระเบียงที่ยายนั่ง มีต้นไม้ปลูกเต็มพื้นที่อากาศไม่ร้อนมาก เห็นยายแล้วสงสาร คงเพราะห่วงหลานกลัวว่าเธอจะเกิดอุบัติเหตุเหมือนตากับแม่
ตอนนี้เท่ากับว่าเธอเหลือยายที่เป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียว ส่วนพ่อเธอไม่เคยคิดที่จะเข้าไปยุ่งกับครอบครัวใหม่ของพ่อ ยายคงรู้ว่ากำลังมีคนแอบมอง ไพลินยิ้มให้ยายเต็มหน้าทำไมรู้สึกอยากกอดยาย เหมือนยายก็คงจะรู้ความรู้สึกของเธอเวลานี้ ยายจันยิ้มตอบกลับมาอย่างอบอุ่นและอ่อนโยน ไพลินกระพริบตาถี่ๆ ไล่น้ำตาก่อนที่มันจะไหลออกมา หลังจากที่แม่เสียไปอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดก็คือกอดของยาย
เก้าอี้ในร้านไม่ว่างไพลินต้องยืนรอเครื่องดื่มร่างสูงของเธอรวมถึงชุดที่สวมใส่ ทำให้ดูโดดเด่นมาก ลักษณะของไพลินเป็นลักษณะที่ผู้ชายไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ ไม่มีจริตกับผู้ชาย ผู้หญิงแบบไพลินผู้ชายที่คิดจะมาจีบแบบเล่นๆ มักเข้าไม่ถึง และเธอเองก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้ใคร รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลา มีผู้ชายหลายวัยที่รอเครื่องดื่มและนั่งอยู่บริเวณนั้นแอบมองหญิงสาวไม่วางตา
แปลกผู้หญิงแบบไพลินแต่งตัวมิดชิดท่าทางนิ่งๆ กลับเป็นที่สนใจของเหล่าผู้ชาย แต่จะมีผู้หญิงอีกแบบที่พยายามแต่งตัวเปิดเผยเนื้อตัวเพื่อเรียกร้องความสนใจ บางคนอาจคิดว่าเป็นสิทธิ์ของตัวเอง และเป็นความสุขของตัวเองที่จะแต่งตัวแบบไหนก็ได้ แต่บางคนก็ลืมว่าไม่เหมาะสมในบางเวลาและบางสถานที่
“ยายจ๋ามาแล้วค่ะ คนข้างในเยอะจังเลยค่ะยาย ช้านิดนึงยายรอนานไหม”
“ไม่นานหรอกลูกนั่งตรงนี้ลมเย็นมากสบายดี ไม่รู้ดอกอะไรนะหอมมากเลยปลูกอยู่ใกล้ๆ แถวนี้”
“เดี๋ยวพายถ่ายรูปไว้ค่ะ วันเสาร์เดี๋ยวพายพายายไปหาตามร้านต้นไม้ลองไปดูกันว่ามีแบบนี้ไหม”
“หนูพายล่ะลูกเหนื่อยไหมเนี้ย คอยดูแลยายทุกอย่างเลย”
“ไม่ต้องห่วงพายเลยค่ะยาย สบายมากพายไหวอีกชั่วโมงหน่อยๆ ก็ถึงแล้วเราไปกันเลยดีไหมคะ”
ไพลินประคองยายกลับไปที่รถสองยายหลานออกเดินทางอีกครั้งเธอไม่อยากไปถึงที่พักค่ำเพราะรถจะเยอะมาก หญิงสาวขับรถสบายๆ ไม่นานก็ถึงคอนโดไพลินจอดรถหน้าคอนโด และพายายจันเข้าไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าประตูลิฟต์ แล้วรีบขนกระเป๋าลงมาวางไว้ที่พื้นด้านล่าง จากนั้นขับรถวนไปเพื่อหาที่จอดไกลสุดเกือบถึงรั้วคอนโดอีกฝั่ง หญิงสาวมารู้สึกตัวอีกทีรถของตัวเองก็เข้ามาอยู่ท่ามกลางรถหรูคันใหญ่ที่จอดอยู่แล้วโชคดีที่มีที่ว่างให้เธอได้จอดไพลินถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากวนอยู่สามรอบในที่สุดเธอก็ได้ที่จอดรถ หลังล็อครถเรียบร้อยเธอรีบเดินไปหายายทันทีไม่ได้สังเกตุหรือพิจารณาอะไรรอบๆ ตัวหรือบริเวณนั้นเลย ตอนนี้เธออยากพายายและขนสัมภาระขึ้นห้องให้เร็วที่สุด เป็นห่วงยายกลัวว่าจะรอนาน
ปกติรถเธอจอดตลอดไม่อยู่แค่เสาร์อาทิตย์ วันนี้แปลกรถเยอะมีแต่ราคาแพงๆ ทั้งนั้น หรือว่าที่คอนโดจะมีงาน นอกจากรถเยอะแล้ว ยังมีชายชุดดำแต่งตัวคล้ายตำรวจ หรือบอดี้การ์ดอะไรประมาณน้ัน เดินไปมาแถวที่ลานจอดรถเต็มไปหมด
หญิงสาวมองหายายและสัมภาระ ยายจันหายไปไหนกระเป๋าก็ด้วย อย่าบอกนะว่าขึ้นไปข้างบนห้องแล้ว ไม่น่าใช่ยายจำห้องเธอไม่ได้หรอก และจะขนของไปได้ยังไงคนเดียว ตัดสินใจเข้าไปถามพนักงาน
“คุณคะขอโทษนะคะเห็นคุณยายที่นั่งอยู่ตรงนี้ไหมคะ แล้วพวกกระเป๋าที่วางอยู่ตรงบันได หายไปไหนหมดพอจะทราบไหมคะ”
“อ๋อ....คุณยายที่คุณพายพามานั่งเมื่อสักครู่ใช่ไหมคะ เราพาคุณยายไปที่ห้องแล้วค่ะ แล้วก็ขนกระเป๋าขึ้นไปไว้ให้ที่ห้องข้างบนแล้ว ไม่ต้องห่วงนะคะ”
“เหรอคะ ใจดีจังยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ที่นี่มีงานอะไรเหรอคะเห็นรถและคนเต็มไปหมดเลย”
“อ้อ..พอดีเจ้าของคอนโดมาตรวจค่ะ พนักงานเลยเยอะหน่อย มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเดี๋ยวก็เสร็จแล้วต้องขอโทษด้วยนะคะที่ต้องหาที่จอดรถไกลเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นฉันขอตัวนะคะขอบคุณอีกครั้งที่พายายและกระเป๋าไปส่งที่ห้อง”
“ยินดีค่ะคุณพาย” พนักงานหญิงประจำคอนโดยิ้มให้ไพลิน ก่อนที่จะหันไปทำงานต่อ เธออยู่ที่นี่จนรู้สึกคุ้นเคยกับพนักงานแต่ก็ไม่ไ้ด้สนิทอะไรมาก
เจ้าของคอนโดเหรอ เธอไม่เคยได้ยินว่าเวลามาตรวจคอนโด ทำไมต้องมีบอดี้การ์ดตามมาอารักขาเต็มไปหมดในห้องรับรองลูกค้านี่ก็เหมือนกัน ผู้ชายชุดดำนั่งกันเต็มพื้นที่ ดูเหมือนเป็นบอดี้การ์ดหรือตำรวจนอกเครื่องแบบมากกว่าเป็นพนักงานบริษัทฯ แม้แต่ในลิฟก็ยังมีผู้ชายใส่ชุดดำ ไพลินระวังตัวตลอดเวลาถึงแม้จะเป็นเวลาเลิกงานก็ตาม บางห้องเจ้าของกลับจากทำงานบ้างแล้ว
ห้องของไพลินอยู่ชั้นสิบ พวกผู้ชายชุดดำนี่ดูน่ากลัวมา กเธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้ารู้ว่ามีคนจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา มองผ่านแว่นดำด้วย ไม่มีมารยาทหญิงสาวขยับตัวหนีเมื่อมีคนเข้ามาในลิฟต์เพิ่ม เธอถอยหลังไปจนเกือบชิดผนัง ผู้ชายชุดดำตัวสูงใหญ่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ หูไม่ฝาดแน่เธอได้ยินเสียงเขาหัวเราะในลำคอเบาๆ ยืนใกล้กันขนาดนั้นทำไมถึงจะไม่ได้ยิน นึกใจว่าทำไมลิฟต์หยุดบ่อยจังเธออยากถึงห้องเต็มทีแล้ว เหมือนมีคนกดลิฟต์เล่นวิ่งขึ้นวิ่งลงอยู่นั่น ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยนะ
คอนโดคึกคักไปด้วยคนมากมาย และดูเหมือนว่าจะมีคนย้ายเข้ามาพักใหม่ด้วย อย่าบอกนะว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของคอนโด ไพลินถอนหายใจในที่สุดก็ถึงชั้นที่เธอพักอาศัยสักที เธอต้องแปลกใจอีกครั้งคนชุดดำสี่ห้าคนที่ยืนอยู่ในลิฟต์ก้าวขาออกไปจากลิฟต์ทุกคนเหมือนว่าพวกเขาตั้งใจขึ้นมาชั้นสิบเหมือนเธอ หรือว่าสิ่งที่เธอคิดจะเป็นจริง หญิงาวยืนนิ่งและดูเหมือนว่าคนชุดดำทั้งหมดก็หยุดพร้อมเธอ
ไพลินหันไปมองหน้าคนเหล่านั้น เธออยากรู้ว่ามันเกี่ยวกับเธอไหม รู้สึกไม่ปกติเลยจริงๆ คนเหล่านั้นหันไปพูดคุยกัน หญิงสาวอาศัยช่วงเวลานั้นรีบเดินไปที่ห้องของเธอและเปิดประตูห้องพาตัวเองเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว เสียงยายเปิดทีวีดูทำไมยายรู้ว่ารีโมทตัวไหนเปิดทีวี วางอยู่ด้วยกันตั้งสองสามอัน แปลกอีกแล้ว
“มาแล้วเหรอลูกหนูพาย”
“กว่าจะมาได้ค่ะยาย คนเยอะจังเลยกว่าจะหาที่จอดรถได้ ปกติไม่เป็นแบบนี้นะคะเลยทำให้ยายลำบากเลย”
“ไม่ลำบากหรอกลูก พนักงานของที่นี่เขาน่ารักมากเลยนะ พายายมาที่ห้องช่วยยกกระเป๋ามาเหมือนเขารู้ว่าหนูพายคงนานกว่าจะหาที่จอดรถได้พวกเขาเลยพายายขึ้นมาส่ง เปิดแอร์เปิดทีวีให้ยายด้วย”
“พายก็ว่าอยู่ ว่าทำไมยายเปิดทีวีได้ พนักงานเขามาเปิดให้นี่เอง”
“พนักงานที่นี่น่ารักกันทุกคนเลยนะ พูดจาดีพอเขารู้ว่ายายมากับหนูพาย เขากุลีกุจอช่วยกันเต็มที่เลย”
ไพลินงงกับคำบอกเล่าของยาย ปกติเธอก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกับพนักงานที่นี่ถึงขนาดเข้ามาในห้องได้ เอาจริงๆ เธอไม่รู้จักใครเลยแค่เห็นหน้า แทบจะไม่เห็นด้วยซ้ำเช้าเธอออกไปทำงานแต่เช้า เย็นกลับค่ำทุกวันช่างเถอะเขาดีด้วยก็ดีแล้ว ไว้วันหลังถ้าได้เจอหน้ากันอีกครั้ง เธออาจจะซื้อขนมมาฝากขอบคุณที่เขาช่วยพายายมาที่ห้องและช่วยขนกระเป๋าขึ้นมาถือว่ามีน้ำใจ จากที่รู้สึกตื่นๆ ที่เห็นแต่ชายชุดดำค่อยรู้สึกปลอดภัยหน่อยแต่เธอก็กังวลใจนิดๆ บอกไม่ถูกว่ากังวลใจเรื่องอะไร
หญิงสาวสลัดความรู้สึกนั้นออกจากหัว แล้วเริ่มจัดการกับกระเป๋าเสื้อผ้าของยาย และสัมภาระที่ขนมาจากบ้านสวนพรุ่งนี้เธอจะไปเขียนใบลาออกไพลินไม่รู้อนาคตเลยว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปชีวิตของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปจนแทบไม่เหมือนเดิมเลยอีกเลย
ครบสองเดือนที่ไพลินกลับมาอยู่บ้าน หญิงสาวมีความสุขมากได้ดูแลยาย ทำกับข้าวให้ยายกิน ตักบาตรเช้า ไปวัดทำบุญ สวดมนต์ทุกวันพระพร้อมกับยาย ทำงานบ้าน ทำงานที่ชอบ เธอไปที่ร้านขายอุปกรณ์การเย็บปักถักร้อยบ่อยมากๆ ผลิตผลงานมากมายประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเครื่องจักร ถักได้ถักดี ว่างก็วาดรูป อะไรที่ชอบมักทำได้ดีเสมอ ไพลินถักทุกอย่างที่ลูกค้าสั่ง ล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้าต่างชาติทั้งนั้น ได้ราคาดียิ่งเป็นงานฝีมือต่างชาติยิ่งชอบ แต่เธอก็ดูแลยายไม่ให้ขาดตกบกพร่อง เพราะไม่มีอะไรมากวนใจชีวิตเหมือนตัดขาดจากโลกภายนอก เช้าตื่นทำกับข้าวใส่บาตรกับยาย ทำกับอาหารกิน ไปตลาดซื้อของสดมาไว้ทำกับข้าว ปลูกผักไว้กินเอง วันๆ เธอไม่ค่อยมีเวลาว่างเลย เย็นวันศุกร์ถ้าบัวชมพูไม่ติดงานหรือกลับบ้าน ก็จะมาพักที่บ้านสวนกับไพลินเป็นประจำเรื่องสวนไม่ต้องห่วงลุงปานกับเมียดูแลให้ ยายให้ลุงเอาผลไม้ในสวนไปขายได้ แบ่งกันใช้แบ่งกันกิน บางครั้งผลไม้สุกกินไม่ทันยายก็ให้เธอเอาไปให้โรงเรียน ถวายพระที่วัดบ้างได้บุญกันถ้วนหน้าวันเสาร์และวันอาทิตย์ไพลินจะหยุดงานถักและงานวาด เธอจะพายายไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ตามโรงเรียนที่
เช้านี้ที่บ้านสวน ยายจันตื่นแต่เช้าเข้าครัวทำกับข้าวใส่บาตร ไพลินตื่นเป็นคนที่สองตามด้วยบัวชมพู ทั้งสองรีบอาบน้ำตามยายลงไปใส่บาตรเช้า กรวดน้ำเรียบร้อยแล้วขึ้นมากินข้าวเช้าพร้อมกัน“หนูพายกินข้าวเสร็จแล้วก็รีบไปธนาคารเสียนะหลาน โอนเงินให้เขา ไปทำเสียให้เรียบร้อย”“จ๊ะยาย พายเตรียมไว้แล้วค่ะ ยายอยากได้อะไรไหมเดี๋ยวเสร็จแล้วพายจะได้แวะตลาดสด”“อะไรก็ได้ลูก แล้วแต่หนูพายกับชมพูเลย อยากกินอะไรก็ซื้อมาของยายไม่ต้องเผ็ดก็พอ”ไพลินกับบัวชมพูนำเงินที่ได้จากการช่วยงานคุณพายัพไปฝากธนาคาร และโอนเข้าบัญชีแดนไทยทันทีเธอส่งสลิปให้คุณอำพล เพิ่งดูโทรศัพท์ว่าคุณอำพลโทรหาเธอตั้งแต่เมื่อคืน ทั้งโทรทั้งไลน์ หญิงสาวตกใจ ปกติคุณอำพลไม่เคยโทรแบบนี้ จะมีเรื่องอะไรอีก หญิงสาวรีบโทรกลับทันที“สวัสดีค่ะคุณอำพลฉันขอโทษนะคะ พอดีเมื่อวานกลับถึงบ้านแล้วนอนยาวเลยค่ะ เพิ่งดูโทรศัพท์เมื่อกี้เลย เอ่อ...คุณอำพลคะฉันโอนเงินใช้หนี้หมดแล้วนะคะแล้วเดี๋ยวฉันส่งสลิปให้ รบกวนคุณอำพลเรื่องเอกสารด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ถ้ามีโอกาสฉันเข้ากรุงเทพฯ จะนัดกินข้าวนะคะ”“ไพลินฉันเอง ไพลินฟังฉันก่อนคุยกับฉันหน่อยได้ไหม ฉันอธิบายได้น
ของงานคุณพายัพดำเนินมาคืนสุดท้าย แขกมาร่วมแสดงความเสียใจมากมายกว่าสองวันที่ผ่านมา คุณทัตเทพและคุณดรุณีให้คุณอำพลและแดนไทยไปช่วยกันต้อนรับแขก เพราะเป็นนักธุรกิจที่ทั้งคู่รู้จักอยู่แล้ว ส่วนมากแขกที่มาเข้ามาแสดงความเสียใจกับไพลินเกือบทุกคน หญิงสาวปลื้มใจกับคุณพายัพที่มีแต่คนรักน้ำตาคลอตลอดเวลา เสียดายที่พ่อด่วนจากไปมีลูกค้าฝรั่งใหม่ๆ หลายคนเข้ามาทักทายแสดงความเสียใจด้วย บางคนรู้ว่ามีญาติผู้ใหญ่มา ถึงกับเข้าไปขอทักทาย เป็นที่แปลกใจสำหรับทุกคนในงาน ที่ยายจันถึงแม่จะแก่มากแล้ว ก็ยังสามารถพูดคุยทักทายกับฝรั่งต่างชาติโดยใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมากๆ ไพลินกับบัวชมพูไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะยายมีทั้งลูกศิษย์ และเพื่อนที่เป็นต่างชาติมากมายสมัยที่ยังเป็นครู ยายสอนภาษาอังกฤษ แดนไทยทึ่งที่สุดมีอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับครอบครัวของไพลินที่เขายังไม่รู้ หลายคนในงานมองยายจันอย่างชื่นชม“คุณไพลินครับ นี่คือมิสเตอร์มาร์ค เป็นลูกค้ารายใหญ่ของคุณพายัพ เขาเพิ่งทราบข่าวคุณพายัพ และรีบเดินทางมาแสดงความเสียใจด้วย” คุณอำพลพาชาวต่างชาติเข้ามาแนะนำให้เธอได้รู้จักไพลินยกมือไหว้และทักทายด้วยภ
คืนที่สอง ไพลินกับบัวชมพูยังสู้มาก มีหลายคนคอยช่วยงาน ยายจันให้จ้างทุกอย่าง ทำให้ไพลินกับบัวชมพูมีเวลาได้พักบ้าง เหนื่อยน้อยกว่าคืนแรก คาดว่าคืนนี้แขกคงเยอะเหมือนเดิม ยายจันจัดเครื่องประดับมาให้สองสาวครบวันที่ต้องทำงาน แยกของใครของมัน สมหน้าตาลูกสาวอดีตเจ้าของบริษัทฯมาก ไพลินไม่น้อยหน้าใครเลยใกล้เที่ยงปรากฎรถของแดนไทยเลี้ยวเข้ามาภายในบริเวณวัด เขามาพร้อมผู้หญิงหน้าตาคล้ายกัน ชังน้ำหน้านักแต่ก็อยู่ระหว่างงานพ่อจะแสดงออกมากกว่านั้นก็ไม่ได้ หลายคนในงานจับตามองดูเธออยู่ ไพลินยืนอยู่ภายในศาลาเมื่อเห็นว่าสองคนนั้นเดินเข้ามา เธอลุกขึ้นยืนสบตากับฝ่ายหญิงเท่านั้น“สวัสดีค่ะน้องพายใช่ไหมคะ พี่ชื่อดารณีเป็นน้องพี่แดนไทย พี่แสดงความเสียใจด้วย เรียกพี่ดาก็ได้นะคะ มีอะไรให้พี่ช่วยบ้าง วันนี้พี่ว่างทั้งวัน” ดารณีแนะนำตัวเองกับไพลิน แค่เห็นหน้าเธอก็รู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้แล้ว สวยหุ่นดีมาก ถึงแม้จะอยู่ในอาการเศร้าหมองก็ตาม“เอ่อ สวัสดีค่ะขอบคุณมากนะคะ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้ช่วยเลยช่วงเย็นแขกมาเยอะจะยุ่งหน่อยค่ะ” หญิงสาวยกมือไหวดารณี ไม่แม้แต่จะมองหน้
ไพลินหลบอยู่แถวหลังร้านกาแฟของปั้มน้ำมัน กระวนกระวายกลัวว่าแดนไทยจะตามมาเจอ เธอจำไม่ได้ว่าแทงเขาไปกี่ครั้ง เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ไม่มีผิดเขาคิดไม่ดีกับเธอ ไม่น่าไว้ใจเขาเกือบยี่สิบนาที กัลยาหรือเก่๋เพื่อนของบัวชมพูที่ไว้ใจได้มารับเธอ บัวชมพูอยู่ในสายกับเพื่อนเพื่อเป็นการยืนยันว่ากัลยาเป็นเพื่อนของบัวชมพูแน่นอน บ้านพักของกัลยาอยู่ภายในโรงพยาบาล กัลยาอาศัยอยู่ลำพังซึ่งปลอดภัยแน่่นอน บัวชมพูไม่ได้บอกเพื่อนว่าไพลินเจออะไรมา เล่าให้ฟังเพียงแต่ว่ามีปัญหากับคนรู้จักขอพักรอบัวชมพูแค่สามชั่วโมง เพื่อนของชมพูไม่ติดใจอะไร"พายนอนพักก่อนนะ เก๋อยู่คนเดียว ที่นี่เป็นหอใน ถ้าไม่มีคนรู็จักที่พักอยู่ที่นี่คนนอกก็ไม่สามารถเข้ามาได้ ไม่ต้องกลัวนะอีกตั้งสามชั่วโมงกว่าชมพูจะขับรถมาถึงที่นี่ เก๋ว่าพายนอนพักก่อนเถอะขากลับพายจะได้เปลี่ยนพูขับรถ""พายขอบใจนะเก๋ ขอบใจมากพายจะไม่ลืมเลยที่ช่วยพายไว้ รบกวนเก๋ด้วยนะ""ไม่ต้องห่วงหรอกเพื่อนชมพูก็เหมือนเพื่อนเก๋นั่นแหละ เอาล่ะพายอาบน้ำก่อนก็ได้นะจะได้สบายตัว ใช้ชุดเก๋ได้เลย "ไพลินอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดนอนของกัลยา เตรียมตัวนอนหันมาอ
ที่โรงพยาบาลมีพนักงานเก่าแก่สองสามคนที่อาสาอยู่เป็นเพื่อนไพลิน หญิงสาวใช้เวลาพูดคุยเรื่องของพ่อเรื่องโรงงานเรื่องการทำงานกับเหล่าพนักงานอย่างเป็นกันเอง ครึ่งวันเช้าจนเที่ยงทุกคนขอเลี้ยงข้าวเธอที่ห้องอาหารของโรงพยาบาล แดนไทยไม่ว่าอะไรเขาคอยดูอยู่ห่างๆ กินข้าวเที่ยงเสร็จแล้วทุกคนขอตัวกลับ ยืนยันว่าจะมาเยี่ยมพ่อเธอทุกวัน นั่นทำให้ไพลินรู้สึกอบอุ่น เหมือนทุกคนเป็นญาติผู้ใหญ่ หญิงสาวน้ำตาคลอตลอดเวลาที่ได้พูดคุยกับเหล่าพนักงานโรงงานของพ่อหลังทุกคนลากลับ ไพลินจ่ายค่ารักษาพยาบาลของพ่อ เงินของยายเธอยังไม่ได้ใช้ยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง เธอยังไม่อยากกลับคอนโด ดีที่โรงพยาบาลที่นี่มีทุกอย่างพร้อม ร้านอาหาร คาเฟ่ เหมือนห้างสรรพสินค้ามากกว่า หมอ พยาบาลเดินกันขวักไขว่ ตึกที่พ่อเธออยู่มีร้านสะดวกซื้อไว้บริการสำหรับญาติคนป่วย และคนที่ทำงานในโรงพยาบาล เธอเดินกลับไปหาแดนไทยที่นั่งอยู่อีกฝั่งเขานั่งตั้งแต่เธอกินข้าวกับเพื่อนๆ ของพ่อ“ฉันต้องแวะไปที่ทำงานสักหน่อยเธอเสร็จรึยัง”“ฉันขออยู่ที่นี่จนถึงเย็นได้ไหมคะ เดี๋ยวสักสองทุ่มฉันกลับเองก็ได้”“งั้