Share

บทที่ 12

Author: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 12

“เข้าใจผิดอะไรกัน ฉันจะเข้าใจอะไรผิดได้ ฉินเซียวนอกใจเธอตอนยังไม่หย่า แล้วทำไมเธอจะทำบ้างไม่ได้”

“…” เอาเถอะ สกิลปากของเพื่อนสนิทเหมือนจะเทียบกับสกิลปากของจ้าวจวิ้นโจวได้เลย

“เธอรู้ดีนี่ ว่าฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น”

“ฉันเข้าใจ”

“กลับเข้าเรื่องดีกว่า เธอจะหย่ากับเขาอยู่แล้ว แถมเธอยังทำงานกับจ้าวจวิ้นโจว เธออนุญาตให้เขาไปหาชู้รักได้ แต่ทำไมจะไม่ให้เธอไปหาเจ้านายบ้างล่ะ?”

ประโยคนี้… ฟังดูแปลก ๆ

“เคยคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าอย่าพาตัวเองไปอยู่ภายใต้คุณธรรมให้มากเทานไป ดูสิหลายปีที่ผ่านมา ความผูกมัดจากคุณธรรมเหล่านี้ ทำร้ายเธอขนาดไหน”โหยวฉีเริ่มชี้นำเธอ “ไม่ว่าเธอจะใช้ความชอบของจ้าวจวิ้นโจวหรือการเดิมพันในตอนนั้นที่เป็นเหตุผลเลือกเข้าหาเขา แต่แผนนี้ ฉันคิดว่าครั้งนี้เธอเลือกถูกที่สุดแล้วนะ”

“จ้าวจวิ้นโจวเป็นใคร ทีมของเขามีอิทธิพลและความสามารถสูงขนาดไหน เธอเอาเขามาเป็นที่พึ่ง ตระกูลสวีหรือแม้แต่ฉินเซียวก็ไม่กล้าแสดงอำนาจต่อหน้าเขาเลย”

…ประโยคนี้ยิ่งแปลกขึ้นอีก

โหยวฉีพูดอย่างจริงจังว่า “บริหารเสน่ห์ของเธอ แสดงศักยภาพความเป็นมืออาชีพของเธอออกมา ไม่ว่าสุดท้ายแล้วจ้าวจวิ้นโจวจะไม่รู้สึกอะไรกับเธอแล้ว อย่างน้อยพลังของเธอยังอยู่ และจะทำให้โดดเด่นในทีมของเขาได้ ต้องมีที่ยื่นมั่นคงในเมืองจิง เตะฉินเซียวออกไป ออกจากตระกูลสวี กระบวนการไม่สำคัญ พวกเราต้องมองที่ผลลัพธ์”

สมกับเป็นเพื่อนสนิทจริง ๆ

โหยวฉีเข้าใจเธอที่สุด

ใช่สิ เรื่องของความรู้สึกไม่สนว่าจะนานแค่ไหน ล้วนเปลี่ยนแปลงได้

หรือบางทีจ้าวจวิ้นโจวอาจจะรู้สึกว่าการเดิมพันครั้งนี้สนุก ดังนั้นเขาจึงอดทนรอมาถึงสามปี

ถึงอย่างไรคนที่ชีวิตราบรื่นมาตั้งแต่ต้นแบบเขา ความอยากชนะจึงสูงกว่าคนอื่น

ต่อให้วันข้างหน้าจ้าวจวิ้นโจวจะหมดสนุกกับเธอแล้ว เธอก็ไม่เสียเปรียบอะไร เธอมีความเชื่อมั่นในศักยภาพและความเป็นมืออาชีพของเธอ การเข้าร่วมทีมของจ้าวจวิ้นโจว ไม่ใช่เพียงแค่การเดิมพันเท่านั้น เธอยังต้องการใช้ทีมของจ้าวจวิ้นโจวเพื่อให้เธอสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองอีกด้วย

-

วันรุ่งขึ้น

สวีเหยียนซีล้างหน้าบ้วนปากเสร็จ ก็นั่งทานอาหารเช้าตามลำพัง โทรศัพท์ของเธอมีข้อความแจ้งเตือนไม่หยุด

ทั้งหมดล้วนเป็นสายโทรเข้าของฉินเซียว

เธอเมินเฉย ก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังกลุ่มบริษัทย่าซั่วเริ่มทำงาน

ขั้นตอนการเข้าทำงานฟางห่าวเป็นคนนำทางเธอไปเอง ฟางห่าวเป็นคนสนิทข้างกายของจ้าวจวิ้นโจว เขาพาคนไปด้วยตัวเองแบบนี้ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้คนอื่นจับตามองสวีเหยียนซีเป็นพิเศษ

มีคนเดาว่า เธอเข้ามาด้วยเส้นสาย

แต่มีบางคนหลังจากที่รู้ว่าเธอชื่อสวีเหยียนซีก็พลันนึกขึ้นได้ทันทีว่า เมื่อวานซืนมีข่าวที่สร้างความฮือฮาเล็กน้อยในแวดวงว่า สวีเหยียนซีและฉินเซียวจดทะเบียนสมรสกันแล้ว

ดังนั้นเรื่องนี้จึงทำให้คนแปลกใจเข้าไปใหญ่

ตระกูลสวีไม่อนุญาตให้ลูกสาวทำงานไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่เพิ่งจดทะเบียนสมรสกลายเป็นเป็นคุณผู้หญิงเหรอ? ทำไมถึงออกมาทำงานล่ะ?

ข่าวลือแพร่สะพัดออกไปทั่วบริษัทอย่างรวดเร็ว

และในตอนนี้ สวีเหยียนซียืนอยู่ในห้องประชุมแล้ว จ้าวจวิ้นโจวแนะนำตัวเธอว่า “สวีเหยียนซี เธอเข้าร่วมทีมของพวกเราอย่างเป็นทางการ ต่อไปก็ทำงานร่วมกัน”

สวีเหยียนซีโค้งคำนับเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า “สวัสดีค่ะทุกคน”

จ้าวจวิ้นโจวเอ่ยเป็นครั้งที่สองท่ามกลางความสงสัยของทุกคนว่า “ก่อนหน้านี้พวกคุณบอกว่าอยากให้ผมดึงอาซีย่ามาร่วมงานไม่ใช่เหรอ? เธอก็คืออาซีย่า”

สิ้นเสียงประโยคนั้น ทั้งห้องประชุมก็ฮือฮาขึ้นมา

แม้แต่สวีเหยียนซีเองก็ตะลึง เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอคืออาซีย่า?

เพราะว่าตระกูลสวี ดังนั้นเธอทำได้แค่ใช้ชื่ออื่นไปเข้าร่วมการแข่งขันการออกแบบต่าง ๆ จนมาถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีใครรู้เลยว่าอาซีย่าคือใครกันแน่

นอกจากโหยวฉีแล้ว แม้แต่ฉินเซียวเธอก็ไม่ได้บอกความจริง

เธอเม้มปาก ความลับของเธอ จ้าวจวิ้นโจวรู้หมดเลยงั้นหรือ?

มีบางคนถามด้วยความตื่นเต้นว่า “บอสครับ บอสไม่ได้หลอกพวกเราใช่ไหมครับ คุณสวีคืออาซีย่าจริงเหรอครับ?

จ้าวจวิ้นโจวยกกาแฟขึ้นดื่มด้วยสีหน้าไร้คำพูด “หลอกพวกคุณ แล้วผมจะได้เงินหรือไง?”

มีคนบางคนกล้าพูดออกมาว่า “บอสคะ คุณคงจะไม่โดนหลอกนะคะ”

จ้าวจวิ้นโจวและสวีเหยียนซี “…”

สวีเหยียนซียังคงยิ้มรับแล้วเอ่ยว่า “งั้นให้ฉันเข้าสู่ระบบบัญชีของอาซีย่าเพื่อพิสูจน์ดีไหมคะ?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 56

    บทที่ 56เมื่อลุกขึ้นมามองเวลา แปดโมงแล้ว เธอจึงรีบลุกขึ้นมาล้างหน้าบ้วนปากเมื่อเปิดประตูออกไป เธอชนกับฟางห่าวพอดี“ผู้ช่วยฟาง คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ในขณะเดียวกันเธอสังเกตเห็นยาในมือของฟางห่าว ยาไอบูโพรเฟน… เธอถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “ผู้ช่วยฟาง คุณมีไข้หรือปวดหัวเหรอคะ?”ฟางห่าวตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า “จู่ ๆ ท่านประธานจ้าวก็ไข้ขึ้นสูงครับ”สวีเหยียนซีตะลึงไปชั่วครู่ “ท่านประธานจ้าวไม่สบายเหรอคะ?”เมื่อคืนยังดี ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ?!“ใช่ครับ อุณหภูมิจะแตะสี่สิบองศาแล้ว”“ไม่ได้เรียกหมอเหรอคะ?”“ท่านประธานจ้าวไม่ยอมให้ผมเรียกครับ”โตเป็นผู้ใหญ่แล้วยังจะกลัวหมอ? สวีเหยียนซีจึงพูดว่า “เขาป่วยขนาดนี้แล้วอย่าให้ไข้ขึ้นจนสติมึนงงไปเลยนะคะ ผู้ช่วยฟางฉันแนะนำว่าคุณเรียกหมอดีกว่านะคะ อย่าตามใจเขาเลย คาดว่าตอนนี้เขาน่าจะไข้ขึ้นจนสมองเลอะเลือน ต่อให้เขาจะคัดค้าน เขาก็ไม่มีแรงหรอกค่ะ”เขาเหมือนกับเนื้อปลาวางบนเขียง จัดการได้สบาย ๆในใจของฟางห่าวถึงกับตะลึง สมกับเป็นผู้หญิงที่ประธานจ้าวชอบ ช่างกล้าหาญจริง ๆ“ได้ครับ ผมจะไปเรียกหมอเดี๋ยวนี้ งั้นรบกวนสถาปนิกสวีช่วยผมจับตาดูหน่อยนะคร

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 55

    บทที่ 55“สวีเหยียนซี?”เสียงเคี้ยวน้ำแข็งกรอบแกรบหยุดลงทันที สวีเหยียนซีเงยหน้าขึ้น ด้วยความตะลึงปนงงงวย จ้องไปยังร่างสูงตรงหน้าสีหน้าของจ้าวจวิ้นโจวว่างเปล่าไปหลายวินาที ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่าเธอยัดก้อนน้ำแข็งเข้าปาก แค่ฟังเสียง เขาคงสงสัยว่าเธอกำลังเคี้ยวกระดูกแน่ ๆ“คุณ… เป็นอะไรหรือเปล่า?” หลังจากตกใจ จ้าวจวิ้นโจวก็แสดงสีหน้ากังวล พร้อมกับก้าวสามก้าวเหมือนพุ่งเข้ามา แล้วย่อตัวลงหน้าเธอก่อนถามว่า “อยู่ดี ๆ กินน้ำแข็งทำไม? เป็นไข้เหรอ?”ตอนที่ถาม เขายื่นมือออกไปแตะหน้าผากสวีเหยียนซีอุณหภูมิปกติยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจ จึงสรุปได้เพียงอย่างเดียวว่า “กินน้ำแข็งกลางดึกเป็นนิสัยส่วนตัวคุณเหรอ?”ก้อนน้ำแข็งในปากละลายเป็นน้ำหมดแล้ว สวีเหยียนซีกลืนน้ำลาย แล้วส่ายหน้าว่า “ไม่ใช่ค่ะ คือฉันคอแห้ง”“กระหายน้ำก็ดื่มน้ำสิ คุณกินน้ำแข็งทำไม?!” จ้าวจวิ้นโจวหยิบกล่องใส่น้ำแข็งไป “ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้วนะ สวีเหยียนซี”“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว” สวีเหยียนซีตาไวมือไว ห้ามไม่ให้จ้าวจวิ้นโจวเอากล่องน้ำแข็งกลับใส่ตู้เย็น เธอพูดด้วยความอายว่า “คือเมื่อคืนฉันกินซุปเป็ดมากไป ฉันดื่มน้ำก็ไม่ดี

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 54

    บทที่ 54“ได้ค่ะ รับทราบค่ะ”สวีเหยียนซีไม่ตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย เพราะจ้าวจวิ้นโจวรู้ดีว่านี่เป็นหนึ่งในจุดแข็งด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมของเธอหลังจ้าวจวิ้นโจวทานอิ่มแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาตอบข้อความ เขาไม่ได้ขยับตัว เพราะสวีเหยียนซียังทานอาหารอยู่ เขาจึงนั่งเป็นเพื่อนเธอแบบแฝง ๆส่วนสวีเหยียนซีกลับคิดว่าเขาแค่นั่งตอบข้อความเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงไม่อยากขยับ แต่ด้วยความประหม่า เธอก็เลยทานอีกไม่กี่คำก็เสร็จอย่างลวก ๆพฤติกรรมของเธอหลบไม่พ้นสายตาของจ้าวจวิ้นโจว“ผมเร่งให้คุณทานเร็ว ๆ หรือไง?”“ฉันกินอิ่มแล้วค่ะ” สวีเหยียนซีส่ายหน้าอธิบายมือซ้ายของจ้าวจวิ้นโจววางโทรศัพท์บนต้นขาอย่างสบาย ๆ ดวงตาเป็นประกาย แต่ที่มากกว่าคือความจนปัญญา “สวีเหยียนซี ทำไมคุณทำราวกับผมจะกินคุณอย่างไงอย่างงั้น”สวีเหยียนซีอายจนหน้าแดง ก่อนยิ้มตอบด้วยความสุภาพว่า “เปล่าค่ะ ฉันอิ่มแล้วจริง ๆ”สำหรับความสุภาพจอมปลอมนี้ของเธอ จ้าวจวิ้นโจวควรชินตั้งนานแล้ว แต่ยิ่งมองเขายิ่งอยากจะฉีกหน้ากากจอมปลอมของผู้หญิงคนนี้ออกจริง ๆเมื่อถูกจ้องมองอยู่แบบนี้ สวีเหยียนซีรู้สึกราวกับโดนสัตว์ป่าที่จ้องมองเหยื่ออันแสนอร่อย

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 53

    บทที่ 53จ้าวจวิ้นโจวหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง ราวกับจะบอกเธอว่า จู่ ๆ ก็ลากผมเข้ามาเกี่ยวด้วยทำไมสวีเหยียนซีรู้สึกว่าครั้งนี้เธอฉลาดเป็นพิเศษ แทบจะเข้าใจสีหน้าของเขาทันที เธอยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดว่า “ประธานจ้าว ถ้าคุณเห็นผู้หญิงทุกคนที่จู่ ๆ ก็คลื่นไส้ขึ้นมา คุณจะสงสัยว่าท้องหมดล่ะสิ”ประโยคนี้เต็มไปด้วยการหยอกล้อกวนประสาท รวมทั้งเป็นการตำหนิพฤติกรรมเดามั่ว ๆ ของจ้าวจวิ้นโจวด้วยจ้าวจวิ้นโจว “…”ฟางห่าวกระแอมไอขึ้นมาอีกครั้ง พลางยกกำปั้นทุบฝ่ามือซ้ายอย่างไม่แรงไม่เบา ก่อนเอ่ยว่า “หา ที่แท้เป็นเรื่องเข้าใจผิดนี่เอง สถาปนิกสวี คุณรู้ไหมครับ ตอนนั้นท่าทางคุณที่รีบไปห้องน้ำ ทำให้คนอื่นตกใจกันหมด ผมก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้ว รอประธานจ้าวแจ้งให้ผมเรียกรถฉุกเฉินหรือรถพยาบาล”“เรียกรถพยาบาลทำไมคะ?” สวีเหยียนซีหลุดปากถามออกไป“ผมกับท่านประธานจ้าวสงสัยว่าอาหารร้านนั้นจะไม่สะอาด” ฟางห่าวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง จนทำให้สวีเหยียนซีเกือบเชื่อสนิทใจฟางห่าวยิ้มกว้างด้วยความเป็นมิตร ก่อนหยิบน้ำมะนาวขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น “ในเมื่อสถาปนิกสวีอยากดื่มกาแฟ งั้นผมไปเปลี่ยนมาให้นะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ…” เมื

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 52

    บทที่ 52สวีเหยียนซีเม้มปากเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า “ผู้ช่วยฟาง ฉันขอถามหน่อยค่ะว่าพวกเราต้องอยู่เมืองไห่อีกนานเท่าไหร่?”ฟางห่าวแปลกใจเล็กน้อย “สถาปนิกสวีมีธุระด่วนหรือเปล่าครับ?”เธอส่ายหัวก่อนตอบว่า “เมื่อกี้ฉันเจอเพื่อนของพี่ใหญ่ที่ใต้ตึกค่ะ”นี่ไม่ใช่เรื่องด่วน แต่เป็นเรื่องไม่ค่อยดี ฟางห่าวจึงพูดว่า “งั้นคุณเข้าไปบอกท่านประธานจ้าวเถอะครับ”หลังจากจ้าวจวิ้นโจวได้ฟังเรื่องนี้ ก็ขมวดคิ้วก่อนถามว่า “ใคร?”“ลู่ฉือค่ะ”ตระกูลลู่ก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลตระกูลหนึ่งในเมืองจิง จ้าวจวิ้นโจวเคยได้ยินมาบ้าง “งั้นก็เปลี่ยนที่อยู่”ประมาณสิบห้านาทีต่อมา สวีเหยียนซีสังเกตเห็นรถของพวกเขาแล่นเข้าไปยังคฤหาสน์สไตล์โบราณที่เงียบสงบท่ามกลางย่านพลุกพล่านพ่อบ้านและบรรดาคนรับใช้ยืนเรียงกันเป็นระเบียบทั้งสองฝั่ง พร้อมกันเอ่ยว่า “ยินดีต้อนรับคุณผู้ชายกลับบ้านครับ/ค่ะ”สวีเหยียนซีเพิ่งรู้ตัวว่า นี่คือคฤหาสน์ของจ้าวจวิ้นโจวเขามีบ้านอยู่ที่นี่ แล้วยังจะไปอยู่โรงแรมทำไมกัน?มีเงินเยอะจนไม่มีที่ใช้งั้นเหรอ?ฟางห่าวสังเกตเห็นว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงอธิบายด้วยความเป็นมิตรว่า “ท่านประธานจ้าวเกรงว

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 51

    บทที่ 51ตอนที่เรื่องราวของสวีหว่านหนิงและฉินเซียวแล่นเข้ามาในสมองเธออย่างบ้าคลั่ง สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้โดยไม่มีเหตุผลอย่างฉับพลัน“ขอโทษนะคะ ฉันไปห้องน้ำก่อนนะคะ”เธอวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่แสดงความบิดเบี้ยวนั้นจ้าวจวิ้นโจวมองเห็นได้อย่างชัดเจน ดวงตาของเขามืดดำลง ก่อนลุกขึ้น และหยิบขวดเลมอนโซดาจากโซนที่วางเครื่องดื่ม แล้วก็เดินอย่างไม่ช้าไม่เร็วไปยังห้องน้ำในห้องน้ำ สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้หลายครั้ง แต่ไม่ได้อาเจียนอะไรออกมาเลย หลังจากที่เธอบังคับตัวเองไม่ให้คิดถึงภาพที่น่าสะอิดสะเอียน อาการคลื่นไส้นั้นจึงค่อย ๆ หายไปบ้าไปแล้ว อยู่ดี ๆ จะคิดเรื่องนั้นทำไมกันเธอสะอิดสะเอียนตัวเองชัด ๆหลังจากล้างมือเสร็จ สวีเหยียนซีก็เดินออกมาจากห้องน้ำเธอพบว่าจ้าวจวิ้นโจวยืนพิงผนังอยู่ เธออึ้งไปก่อนเอ่ยว่า “ท่านประธานจ้าวคะ คุณก็มาเข้าห้องน้ำเหรอคะ?”“มาหาคุณ”“???” สวีเหยียนซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง เธอคิดว่าเขาอยากจะถามเรื่องที่เธอคุยกับเหมาเจียนั่ว “ประธานจ้าววางใจเถอะค่ะ คุณเหมาไม่ได้มาถามเรื่องคุณกับฉันหรอกค่ะ”จ้าวจวิ้นโจวหน้าตาเคร่งขรึม ไม่สามารถอ่านอารมณ์ออก เขายื่นเลมอนโซดาใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status