ลินลดาครูโรงเรียนอนุบาลถูกกล่าวใส่ร้ายจนถูกไล่ออก เธอมารับจ้างเป็นครูพี่เลี้ยงตามบ้านเศรษฐี แต่ก็ต้องมาเลี้ยงเด็กเอาแต่ใจ ไม่ใช่แค่ลูกแต่พ่อหรือนายจ้างของเธอก็เอาแต่ใจไม่แพ้กัน
View More“เรื่องนี้ท่านผอ.จะตัดสินใจยังไงคะ?”
คำถามทลายความเงียบดังขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศน่าอึดอัดภายในห้องประชุม สมาชิกที่เข้าร่วมรวมหกชีวิตนั่งประชันหน้ากัน โดยมีผู้อำนวยการวัยใกล้ปลดเกษียณนั่งในตำแหน่งประธาน ตรงกันข้ามกับหญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ ที่นั่งอยู่อีกฟากโต๊ะ
“ครูลินลดามีอะไรจะอธิบายไหม” ชายมากวัยสบตาครูสาวผู้รับหน้าที่ดูแลเด็กอนุบาลและชั้นประถมต้น เธอยืดหลังตรงและมองตอบกลับอย่างแน่วแน่
“ฉันยืนยันคำเดิม ว่าฉันไม่ทราบว่าเงินพวกนั้นมาอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานฉันได้ยังไง” ลินลดายืนกรานเสียงแข็ง
“หลักฐานชัดเจนขนาดนี้ ครูยังกล้าปฏิเสธอีกเหรอ” ครูฝ่ายปกครองเอ่ยแย้งอย่างเอาเรื่อง ทำให้คนฟังถึงกับตกใจ
“ไม่ว่าครูประสานจะพูดยังไง ฉันก็ยังยืนยันว่าไม่ทราบ แต่ถ้าท่านผอ. และทุกคนคิดว่าฉันทำจริง จะไล่ฉันออกก็ตามใจ เพราะยังไงฉันก็ยังยืนยันคำเดิม” ลินลดาโต้กลับ เธออยู่โรงเรียนนี้มาเกือบสองปี ไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องราวอย่างนี้เกิดขึ้น อยู่ดีๆ ก็มีอาจารย์ฝ่ายการเงินไปแจ้งผู้อำนวยการว่าเงินค่าลงทะเบียนของเด็กกลุ่มหนึ่งหายไป เป็นจำนวนเกือบสามแสนบาท แล้วเงินก้อนที่ว่านั้นดันถูกพบในลิ้นชักโต๊ะทำงานของเธอ
“ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ ผมคงต้องไล่คุณออกนะครูลินลดา” ผู้อำนวยการกล่าวมติการประชุมตามเสียงข้างมากที่เชื่อว่าลินลดาเป็นคนยักยอกเงินไป แม้เขาจะนึกเสียดายครูสาวคนสวยที่มากความสามารถคนนี้
“ถ้าท่านผอ.ตัดสินใจอย่างนั้นฉันก็ไม่ขัดค่ะ แต่ฉันขอยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าฉันไม่ได้ทำ มีคนตั้งใจใส่ร้ายฉัน” ลินลดาไล่สายตามองหน้าทุกคนในห้องประชุม ไม่เกรงกลัวแม้จะได้รับสายตาตำหนิกลับมา
“หุบปากไปเลยนะ” เสียงแหลมของครูทิพย์ ฝ่ายบริหารวัยสามสิบปีขัดขึ้นเสียงดังอย่างหยาบคาย “ขี้ขโมยแล้วยังไม่ยอมรับอีก ลูกกำพร้าก็แบบนี้แหละ”
“มันจะมากไปแล้วนะครูทิพย์” ได้ยินดังนั้นลินลดาก็แทบจะเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาทันที ทุกคนรุมกล่าวหาเธอในเรื่องที่เธอไม่มีส่วนรู้เห็นโดยไม่คิดจะตามหาความจริงก่อนไม่พอ ยังมีคนอย่างครูทิพย์มาพูดจาขยี้ปมในใจเธออีก
“ก็มันจริง สงสัยพ่อแม่จะเป็นขโมย ลูกออกมาก็เลยเป็นขโมย ชิ” ครูทิพย์เห็นว่าตนยั่วโมโหอีกฝ่ายได้ก็ลอยหน้าลอยตาไม่รู้สึกรู้สาอะไร โดยที่คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้กล่าวห้ามปรามแต่อย่างใด คงเพราะเชื่อไปแล้วว่าครูที่อายุน้อยที่สุดของโรงเรียนเป็นหญิงสาวขี้ขโมยไปแล้วจริง ๆ คงไม่มีใครคิดอยากปกป้องคนที่ขโมยได้แม้กระทั่งเงินของเด็กตาดำ ๆ หรอก แต่เธอไม่ใช่คนทำ และไหน ๆ มติก็ออกมาแล้วว่าให้เธอออก
เพี๊ยะ!!!
เสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นจนทุกคนผงะ เมื่อฝ่ามือเล็กฟาดลงที่ใบหน้าคนปากร้ายเข้าเต็มแรง จนรอยฝ่ามือแสดงให้เห็นผ่านเครื่องสำอางขึ้นมาอย่างชัดเจน ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องดังลั่นห้องประชุม เกิดการตะลุมบอนขึ้นเมื่อครูทิพย์พุ่งเข้าไปหมายจะฟาดลินลดาคืน ครูคนอื่นเห็นท่าไม่ดีจึงปรี่เข้ามาแยก ใช้วาจาน่ะไม่เท่าไร แต่หากมีการทำร้ายร่างกายแล้วเกิดเป็นเรื่องใหญ่กว่านั้นขึ้นมา ชื่อเสียงของโรงเรียนคงเสียหายไม่น้อย ครูผู้ชายในห้องช่วยกันจับทั้งสองคนแยกออกไปยืนคนละฝั่งเพื่อให้สงบสติอารมณ์
“ครูลินลดา ครูทิพย์พอได้แล้ว” ผู้อำนวยการเอ่ยเตือนทั้งสองที่สาดอารมณ์ใส่กันเมื่อครู่จึงได้เงียบเสียงลง ชายมากวัยตบโต๊ะ มองครูฝ่ายบริหารอย่างตำหนิ
“ครูทิพย์ คุณเป็นครูแต่ความคิดและคำพูดเมื่อครู่มันสะท้อนถึงจิตใจที่ต่ำช้า เป็นสิ่งที่ไม่ควรมีกับคนที่เป็นแบบอย่างให้กับเยาวชน ผมขอติดทัณฑ์บนครูทิพย์หนึ่งปี หากได้ยินว่าครูยังไม่เลิกนิสัยชอบดูถูกคนอื่นอีก ผมจะไล่คุณออก” คำประกาศิตดังสายฟ้าฟาดทำเอาหล่อนถึงกับหน้าถอดสี
“ส่วนครูลินลดาก็ตามมติที่เราเห็นชอบกันเมื่อครู่ แต่เห็นถึงคุณความดีที่คุณเคยสร้างให้แก่โรงเรียนของเรา ส่งเด็กเข้าประกวดได้รับมาหลายรางวัล ผมจะให้คุณเขียนใบลาออกด้วยตัวเองไม่ใช่การเชิญออก เพื่อที่คุณจะได้มีโอกาสไปสมัครงานที่อื่นได้” ผู้อำนวยการวัยใกล้เลขหกหันไปบอกกับครูสาวอย่างนึกเสียดาย เธอเป็นเด็กสาวน่ารัก เรียบร้อย ตั้งใจขยันทำงานมาโดยตลอด และเขาเองก็ไม่เชื่อว่าครูลินลดาจะขโมยเงิน แต่ในเมื่อหลักฐานมันมัดตัวเธอ เขาจึงต้องจำใจทำตามกฎของโรงเรียนอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ขอบคุณท่านผอ.มากค่ะ” ลินลดายกมือไหว้ผู้อำนวยการอย่างนอบน้อม แล้วหันไปยกมือไหว้ครูสูงวัยอีกคนที่ไม่ได้มีท่าทีตั้งแง่ใส่เธอเช่นครูคนอื่น พวกเขารับไหว้แล้วคลี่ยิ้มบางคล้ายให้กำลังใจ ก่อนที่ลินลดาจะจัดการเอกสารลาออกให้เรียบร้อยแล้วหมุนตัวจะออกจากห้องประชุมไป
“แกช่วยหางานให้ฉันหน่อยสิ” ลินลดาต่อสายหาเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เสียงหวานส่งไปตามสายโทรศัพท์ ในใจก็นึกหงุดหงิดแกมสงสัยว่าใครกันที่เป็นตัวการใส่ร้ายเธอจนถึงขั้นต้องออกจากงานแบบนี้
“ทำไม ลาออกแล้วเหรอ ไหนว่าที่นี่งานดีไง” แพนเค้กเอ่ยถาม ก่อนหน้านี้เธอเคยชวนลินลดาไปเป็นครูพี่เลี้ยงตามบ้านแล้ว ทั้ง ๆ ที่เงินดีกว่าแต่เพื่อนสาวของเธอกลับไม่สนใจ เอาแต่บอกว่าทำที่โรงเรียนนั้นดีอยู่แล้ว
“อืม ช่วยฉันหางานหน่อยนะ ทำตามบ้านก็ได้ ถ้าได้กินอยู่กับนายจ้างยิ่งดีเธอจะได้ลดภาระเรื่องที่พัก”
“แล้วตอนนี้แกอยู่ไหน ออกมาเจอกันหน่อยมั้ย พอดีวันนี้ฉันว่างนะ” แพนเค้กเสนอ เพราะฟังจากน้ำเสียงของเพื่อนดูเครียดมาก
“ฉันยังอยู่หอพักครูจนถึงสิ้นเดือนนี้น่ะ วันนี้ไปเจอแกก็ดีเหมือนกัน อยู่ห้องแบบนี้ฉันต้องเป็นบ้าตายก่อนแน่ ๆ” สองสาวนัดแนะเวลาและสถานที่เรียบร้อย ลินลดาจึงเตรียมตัวเพื่อที่จะออกไปเจอเพื่อนสาว
@สถานบันเทิง ยามราตรี
“ทางนี้ ๆ” แพนเค้กตะโกนเรียกเพื่อนสาวเสียงดัง ทำเอาคนในร้านหันมามองเป็นตาเดียว
“เสียงดังไปได้ อายเขา” ลินลดารีบเดินมาที่โต๊ะ เอ่ยตำหนิเพื่อนเสียงเบา
“ไหนเล่าให้ฟังหน่อยซิ มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของแกตอนนี้” แพนเค้กถามพลางยื่นน้ำสีอำพันส่งให้ ระหว่างที่ลินลดาเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น แพนเค้กยังคงทำหน้าที่รินแอลกอฮอล์เติมให้เธอได้เป็นอย่างดี ยิ่งเติมให้รสชาติก็ยิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนสาวสบถอย่างมีน้ำโหเมื่อฟังเรื่องเล่ามาจนถึงจุดที่เพื่อนโดนตัดสินให้ออกจากงาน โดยที่ยังไม่ทันได้มีการสืบสวนอย่างจริงจังก่อนเสียด้วยซ้ำ
“แกคิดดู ชีวิตฉันมันบัดซบขนาดไหน ขยันตั้งใจทำงานอย่างดี แต่มาเจอเรื่องแบบนี้ฉันละพูดไม่ออกเลย...” เสียงยานครางของคนเมาที่ครองสติไม่อยู่
“อืม... ฉันว่าต้องมีคนอิจฉาแก เลยหาเรื่องใส่ร้าย” แพนเค้กเสนอความคิดเห็น วันนี้เธอดื่มไม่เยอะเพราะพรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้า แต่อยากให้เพื่อนหายเครียดเลยรับหน้าที่เป็นนางชง ชงให้เพื่อนเข้ม ๆ ไปเลย
“แกช่วยฉันหางานด้วยนะ เพราะเดี๋ยวอีกไม่กี่วันแม่ต้องมาตามเอาเงินกับฉันอีกแน่” ลินลดาพูดอย่างเบื่อหน่าย เธอเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกชายหญิงคู่หนึ่งรับไปเลี้ยงดูตั้งแต่ยังเด็ก ๆ พ่อบุญธรรมดูแลเธออย่างดี ชอบซื้อของเล่นให้และพาเธอไปเที่ยวบ่อย ๆ ต่างจากแม่บุญธรรมที่ไม่ค่อยจะสนใจเธอเท่าไรนัก แต่เมื่อเธออายุสิบห้าปีพ่อบุญธรรมก็เสียไปด้วยโรคร้าย ทิ้งเงินประกันไว้ส่วนหนึ่ง เธอคิดว่านั่นคือเงินที่พ่อบุญธรรมทิ้งไว้ให้เธอเป็นค่าเล่าเรียน แต่เงินก้อนนั้นกลับไม่เคยตกมาถึงมือเธอ เพราะแม่บุญธรรมเอามันไปถลุงกับการพนันทุกรูปแบบ แล้วยังติดเหล้าเมามายจนเสียผู้เสียคน ผ่านไปไม่ถึงปีเงินทองที่มีก็มลายหายไป ลินลดาในวัยย่างเข้าสิบหกปีต้องหางานทำเพื่อเอามาจ่ายค่าเล่าเรียน เธอรับจ้างทำงานทุกอย่าง แต่ไม่วายก็ถูกแม่บุญธรรมมารีดไถเงินไม่หยุด
“ฉันยอมรับว่าที่ผ่านมาฉันอาจจะหูเบาหลงเชื่อคนผิดจนทำอะไรไม่ดีกับหนูและหลานในท้องโดยไม่ตั้งใจ ตอนนี้ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว หนูจะยกโทษให้ฉันได้มั้ย” ลินลดามองตาของชายชราตรงหน้าที่มีแววตาสั่นไหว แสดงออกถึงความรู้สึกผิดและเสียใจจริงๆ“คุณท่าน อย่าพูดแบบนี้เลยนะคะ ทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิด หนูไม่เคยคิดโกรธเคืองคุณท่านแม้แต่น้อย”“จริงเหรอ...ถ้าเธอไม่โกรธฉันจริงๆ ต่อจากนี้ก็เรียกฉันว่าพ่อเถอะนะ” นิโคไลมองหน้าหญิงสาว ด้วยแววตาเป็นประกายมีรอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้น“ค่ะ คุณพ่อ” ตั้งแต่ที่พ่อบุญธรรมจากไป เธอก็ไม่ได้พูดคำนี้กับใครอีกเลย คำว่าพ่อที่หญิงสาวเอ่ยออกมา พรั่งพรูไปด้วยความอัดอั้นตันใจ น้ำตาไหลพราก จู่ๆ เธอก็คิดถึงพ่อบุญธรรมที่จากไป“ลินลดาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” อีวานตั้งใจจะเดินมาหาลินลดาแต่เห็นว่ามีพ่อของเขายืนอยู่ด้วย แล้วลินลดากำลังร้องไห้เขาจึงหันไปมองหน้าพออย่างเอาเรื่อง เพราะคิดว่าพ่อมาพูดอะไรให้เธอเสียใจอีก“แกมองหน้าฉันแบบนี้ คิดว่าฉันทำเมียแกร้องไห้ซินะ” แค่มองตาของลูกชายนิโค
เช้าวันใหม่จิระหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาแต่เห็นมีสายเรียกเข้าจากอีวานนับสิบสาย และยังมีข้อความที่ส่งมาให้เขาติดต่อกลับตั้งแต่เมื่อวาน ปกติอีวานจะไม่เคยโทรหาเขาเยอะแบบนี้ แปลว่าในระหว่างที่เขาและนัชชากำลังทำสงครามสวาทสุดร้อนแรง ทางอีวานต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอนหรือว่าจะเป็นเรื่องของคนที่นอนอยู่ข้างเขา จิระหันไปมองหญิงสาวที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง“สวัสดีครับบอส” จิระค่อยๆ ลงจากเตียงแล้วออกมาโทรศัพท์ที่ระเบียง“กว่าจะโทรกลับมาได้นะ แล้วนี่นัชชายังอยู่กับมึงหรือเปล่า”
“ช่างมันเถอะเพื่อน เรื่องที่ผ่านมาแล้วกูไม่อยากรู้” นิโคไลบอกปัด เขาไม่อยากรับรู้เรื่องในอดีตที่ผ่านมา เพราะยังไงก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ถึงจะรู้สึกผิดหวังในตัวเพื่อนแต่ก็คิดถึงความดีที่เคยมีต่อกันมาโดยตลอด“มึงไม่อยากรู้เหรอว่าพริ้งเพราหายไปไหน” ศักดาเอ่ยขึ้น ทำเอานิโคไลและอีวานหันไปมองพร้อมกัน“พริ้งเพรามันก็เป็นเมียกูอีกคน เอาจริงๆกูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลูกพริ้งเพรามันเป็นลูกมึงหรือลูกกู ฮ่าๆๆๆ” เสียงศักดาหัวเราะดังลั่นด้วยความสะใจ“มึงนี้มันเลวเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ” อีวานเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห ปืนในมือเหนี่ยวไกพร้อมที่จะยิง“เดี๋ยว! แล้วตอนนี้พริ้งเพราอยู่ไหน” นิโคไลหันไปห้ามลูกชาย ก่อนที่จะหันไปถามศักดาที่ยืนแสยะยิ้มอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว“หึ มึงยังคิดถึงผู้หญิงไร้ยางอายแบบอีพริ้งเพราอีกเหรอ ตั้งแต่มันหนีจากมึงมาอยู่กับกูไม่กี่ปีก็ขอไปอยู่ต่างประเทศ ป่านนี้ได้ผัวฝรั่งไปหลายคนแล้วมั้ง” นิโคไลได้ฟังสิ่งที่ศักดาพูดก็ทำให้เขาเสียใจและผิดหวังมากขึ้นกว่าเดิม นิโคไลมองด้วยสายตาโกรธเคือง ผิดหวัง เสียใจ ที่หลงไว้ใจศักดามานานขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะโง่จนดูคนไม่ออกว่าใครดี ใครเลว“มีอะไรที่
อีวานกลับมาที่บ้านหลังจากที่มั่นใจว่าจิระได้ทำตามคำสั่ง เขาจึงกลับมารอทอมที่บ้านตามที่ได้นัดหมายกันไว้ และเพื่อความปลอดภัยอีวาวให้สาวใช้ทั้งหมดพร้อมการ์ดฝีมือดีพาไบรอันไปอยู่ที่บ้านของคุณปู่นิโคไล ในระหว่างที่รอทอมอยู่นั่งเขาคิดถึงเรื่องของนัชชา เขารู้ว่าตัวเองใจร้ายกับนัชชามากแค่ไหน ที่สั่งให้จิระไปทำหน้าที่แทนเขา ถ้าหากนัชชาไม่โดนวางยาเขาคงไม่ใจร้ายกับเธอมากขนาดนี้ที่วางแผนไว้คือหลังจากที่จับตัวหนอนบ่อนไส้ได้ เขาก็จะไปคุยกับศักดาให้รู้เรื่องหวังว่าเขาจะเลิกส่งคนมาทำร้ายลินลดา แล้วเขาก็จะคุยกับนัชชาให้เข้าใจว่าเขาเห็นเธอเป็นเพียงแค่น้องสาวเท่านั้นแต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรแบบนี้ไม่ว่ายังไงเขาก็สามารถมีอะไรกับนัชชาได้“สวัสดีครับบอส” ทอมเดินเข้ามาภายในห้องรับแขก แล้วทักทาย ทำให้อีวานหลุดออกจากภวังค์“...” อีวานหันไปมองลูกน้องคนสนิทอีกคนโดยที่ไม่พูดอะไร ส่วนทอมก็แสดงท่าทางปกติ สีหน้าแววตาสงบนิ่งไม่มีพิรุธแม้แต่น้อย สมกับที่ถูกฝึกฝนมานาน แม้แต่อีวานยังจับผิดไม่ได้“กูว่าช่วงนี้มึงทำงานพลาดบ่อยไปนะ มีอะไรปิดบังกูอยู่หรือเปล่า”“ขอโทษครับบอส” ทอมก้มหัวยอมรับผิด ก่อนที่เขาจะมาที่นี่เขาประเมิ
ตลอดเวลาที่จิระปรนเปรอบทสวาทให้กับนัชชา เขารับรู้ได้ว่าเธอกำลังเศร้าเสียใจและผิดหวังมากแค่ไหนกับการที่ถูกคนที่รักหมดใจผลักไสให้ไปมีอะไรกับคนอื่น ต่อหน้าอีวานเธอจะพยายามทำตัวน่ารักอ่อนหวาน แต่กับคนอื่นเธอจะเป็นคุณหนูที่เย่อหยิ่ง ไม่ยอมใคร ไม่ว่าเธอจะพยายามปั้นแต่งภายนอกอย่างไร แต่ภายในเธอเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาที่กำลังเจ็บปวดจากการรักเขาข้างเดียวจิระทำได้เพียงมอบเซ็กที่แสนนุ่มนวลและเร้าใจให้กับเธอ เพื่อช่วยให้เธอบรรเทาความเจ็บปวดลงได้บ้าง ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าหากเรื่องนี้ถึงหูคุณศักดาพ่อของเธอเขาคงได้ไปนอนคุยกับรากมะม่วงแน่ และนายท่านคงไม่พอใจเช่นกันที่ลูกน้องของลูกชายมาทำแบบนี้กับว่าที่ลูกสะใภ้ แต่จะให้เขาทำอย่างไรในเมื่อนี่คือคำสั่งเจ้านายกับคุณนัชชาทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนาน
เมื่อคิดได้อย่างนั้น นัชชาหันกลับไปหาจิระแล้วเป็นฝ่ายจูงมือ หนุ่มขาวตี๋ สไตล์เกาหลีอย่างจิระเข้าไปในห้องน้ำ“ให้ผมออกไปรอข้างนอกนะครับ หากต้องการอะไรเพิ่มเติมเรียกใช้ผมได้” จิระก้าวถอยหลัง โค้งลงเล็กน้อย เตรียมจะหมุนตัวออกจากห้องน้ำ แต่ถูกนัชชาสั่งให้หยุด“ในเมื่อคุณไม่เห็นค่าความรักของฉัน ทำกับฉันอย่างคนไร้ค่า ต่อจากนี้ฉันจะไม่สนใจคุณอีกแล้ว” เธอพูดกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมากับหัวใจที่บอบช้ำได้ไม่นาน ฤทธิ์ยาปลุกเซ็กมันยังคงต้องการสิ่งที่จะเข้ามาตอบสนอง ดีที่เมื่อกี้เธอตัดสินใจช่วยตัวเองไปก่อน ไม่งั้นเธอต้องตายแน่ๆนัชชาจับตัวหนุ่มขาวตี๋ตรงหน้าให้หันกลับมา เธอเขย่งยืดตัวเพื่อที่จะจูบแต่จิระกลับเบี่ยงตัวออกด้วยความตกใจ“ผมว่าให้บอสเข้ามาดีกว่านะครับ”“ฉันต้องการให้นายช่วยฉัน...นี่คือคำสั่ง”“แต่คุณนัชชา ผมว่า...” จิระยังพูดไม่ทันจบก็ถูกริมฝีปากของนัชชาปิดไว้สนิท ตอนนี้เธอไม่อยากฟังอะไรแล้วนอกจากอยากได้เอ็นอุ่นเข้ามาในตัวเธอ เธอทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ไม่ใช่แค่ร่างกายที่ร้อนรุ่มราวกับจะแต
Comments