Share

บทที่ 15

Author: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 15

สวีเหยียนเช่อมีแววตาอำมหิต มือค่อย ๆ บีบแรงขึ้น “ไอ้เด็กเวร มึงคิดว่าตระกูลสวีของฉันจะไม่มีใครหนุนหลังซีซีแล้วเหรอ?”

เห็นได้ชัดด้วยตาเปล่าว่าหน้าของฉินเซียวแดงเหมือนสีตับหมู สวีเหยียนเช่อจับแขนเขาไว้ พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

สวีเหยียนซีที่ยืนอึ้งอยู่ที่เดิมมองประตูที่เปิดอยู่ แล้วหันไปมองพวกเขา เมื่อเห็นใบหน้าฉินเซียวดูผิดปกติ เธอจึงส่งเสียงออกไปว่า “พี่ใหญ่ พี่จะบีบคอเขาให้ตายเลยเหรอคะ?”

สวีเหยียนเช่อถึงใจเย็นลงและปล่อยมือออก ก่อนจะหันหน้ามาหาสวีเหยียนซีด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน “ซีซี เธอได้รับบาดเจ็บตรงไหนไหม?”

เธอถอยไปข้างหลัง ไม่ให้เขามีโอกาสได้แตะตัว

ฉินเซียวที่ยืนชิดกำแพงด้านหลังโกรธอย่างสุดขีด พูดว่า “พี่ใหญ่ นี่มันเรื่องของผัวเมีย พี่ไม่ควรมายุ่งนะ?”

“เรื่องของผัวเมีย?” คำพูดไม่กี่คำในชั่วพริบตาเดียวทำให้สวีเหยียนเช่อไม่สบายใจ “มึงมาปั่นหัวน้องสาวกูทั้งสองคน ในฐานะพี่ชายคนโต กูไม่ยุ่งไม่ได้?”

ฉินเซียวขบฟันแน่น

“ซีซีจะหย่ากับมึง ถ้ามึงกล้าปฏิเสธล่ะก็ กูจะทำให้มึงเสียของที่มึงรักที่สุดไป มึงเชื่อไหม?” สวีเหยียนเช่อข่มขู่เขา

ฉินเซียวกำมือแน่นก่อนพูดว่า “หยุดเอาคำพูดแบบนี้มาข่มขู่ผม”

“งั้นเหรอ?” สวีเหยียนเช่อยกมุมปากขึ้น จู่ ๆ ก็หมุนตัวไป “ซีซี”

ดูจากสถานการณ์ ฉินเซียวสังหรณ์ใจไม่ดี หลุดปากออกไปว่า “ที่รัก คุณอย่าฟังที่เขาพูดจาเหลวไหล!”

ดูท่าทางของพวกเขาที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย สวีเหยียนซีก็รู้ทันทีว่ามีพิรุธบางอย่าง เธอยิ้มเยาะ แล้วไม่ได้พูดอะไร ก่อนออกไปจากที่นั่นทันที

สวีเหยียนเช่อกับฉินเซียวแปลกใจพร้อมกัน

“ที่รัก รอผมด้วย”

สวีเหยียนเช่อคว้าคอเสื้อเขากะทันหัน ดันเขาไปติดผนัง แขนวางพาดคอเขา ท่าทีเย็นยะเยือกพร้อมกล่าวว่า “มึงเลือกหนิงหนิงแล้ว”

“ผมเปล่า!” ฉินเซียวตอบอย่างเอาชนะ “ผมจะไปหาภรรยาผม!”

“งั้นเหรอ?” สวีเหยียนเช่อเย้ยหยันด้วยความเย็นชา “แล้วมึงรับปากอะไรพ่อกูไว้?”

“…”

“เห็นแก่ที่นายยังต้องเป็นน้องเขยฉัน ฉันจะอดทนพูดกับนายสักหน่อย หย่ากับซีซีซะดีดี” สวีเหยียนเช่อพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ

ฉินเซียวก็ใจเย็นทันที ยิ้มเยาะก่อนพูดว่า “พี่อยากให้ผมกับเสี่ยวซีหย่ากัน หลังจากนั้นพี่ก็จะได้เสี่ยวซีไปใช่ไหม? สวีเหยียนเช่อ เสี่ยวซีเห็นพี่เป็นพี่ชายมาโดยตลอด พี่กลับมีความคิดอื่นซ่อนไว้ พี่ไม่กลัวเธอจะรังเกียจสะอิดสะเอียนเหรอครับ?”

สวีเหยียนเช่อหรี่ตาลงก่อนเอ่ยว่า “นายไม่ต้องมายุ่ง นายแค่ต้องหย่ากับเสี่ยวซีซะดีดี แล้วไปอยู่กับหนิงหนิงก็พอ”

“ฝันไปเถอะ ผมกับเสี่ยวซีก็แค่ทะเลาะกันชั่วคราว พวกเราต่างให้คำมั่นสัญญากันแล้วว่าจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต!”

สวีเหยียนเช่อยิ้มอย่างเย็นยะเยือก ก่อนจะต่อยเขาไปหนึ่งหมัด

ฉินเซียวล้มลงไปข้างขาเขา เขามองลงมาอย่างเย่อหยิ่ง “งั้นกูจะรอดูว่ามึงจะมีปัญญาอยู่กับเธอไปตลอดชีวิตจริงรึเปล่า”

-

ณ ร้านขายดอกไม้ของโหยวฉี

เมื่อสวีเหยียนซีมาถึงก็หมดพลังงาน ล้มนอนลงบนโซฟาของห้องทำงาน

โหยวฉีรู้ว่าเธอยังไม่ได้ทานข้าว จึงดึงให้เธอลุกขึ้นมา ทานอาหารลดไขมันด้วยกัน

“คุยแล้วเหรอ?”

“อืม”

“ล้มเหลวเหรอ?”

“อืม”

เปลือกตาของโหยวฉีกระตุกสองครั้ง เกิดความคิดบางอย่างที่ไม่อยากยอมรับ ก่อนถามว่า “เขาไม่ยอมหย่าใช่ไหม?”

“อืม”

“เชี่ย!” โหยวฉีเกือบจะโยนตะเกียบทิ้ง “เขาคิดว่าตัวเองเป็นคุณชายตระกูลใหญ่จริง ๆ รึไง อยากจะได้ทั้งสองคน ไม่กลัวเอาจนหมดแรงตายก่อนเลยรึไง!”

“…” สำหรับคำพูดที่น่าตกใจและหยาบโลนของเธอ สวีเหยียนซีชินจนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ในบางครั้งก็รู้สึกว่าทนฟังไม่ได้ “ฉินเซียวไม่ปล่อยฉันไป พี่ใหญ่ก็เปิดประตูเข้ามา”

“เชี่ย?!” ดวงตาของโหยวฉีเบิกกว้าง หลังจากช็อกไปสองวินาที ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ “เดี๋ยวนะ เขาเปิดประตูเข้ามา? ไม่ใช่เธอที่เปิดประตูเหรอ?”

“เขาเปิดเข้ามา”

“เชี่ยเชี่ย? ทำไมเขารู้รหัสคอนโดเธอ?!”

จุดนี้เป็นจุดที่สวีเหยียนซีรู้สึกว่าน่ากลัวขึ้นมา แม้คอนโดนั้นคนในตระกูลสวีจะเข้าออกได้อย่างอิสระ แต่รหัสมีเพียงแค่เธอและฉินเซียวที่รู้ ส่วนสวีเหยียนเช่อรู้ได้อย่างไร เธอไม่รู้เลย
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 56

    บทที่ 56เมื่อลุกขึ้นมามองเวลา แปดโมงแล้ว เธอจึงรีบลุกขึ้นมาล้างหน้าบ้วนปากเมื่อเปิดประตูออกไป เธอชนกับฟางห่าวพอดี“ผู้ช่วยฟาง คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ในขณะเดียวกันเธอสังเกตเห็นยาในมือของฟางห่าว ยาไอบูโพรเฟน… เธอถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “ผู้ช่วยฟาง คุณมีไข้หรือปวดหัวเหรอคะ?”ฟางห่าวตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า “จู่ ๆ ท่านประธานจ้าวก็ไข้ขึ้นสูงครับ”สวีเหยียนซีตะลึงไปชั่วครู่ “ท่านประธานจ้าวไม่สบายเหรอคะ?”เมื่อคืนยังดี ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ?!“ใช่ครับ อุณหภูมิจะแตะสี่สิบองศาแล้ว”“ไม่ได้เรียกหมอเหรอคะ?”“ท่านประธานจ้าวไม่ยอมให้ผมเรียกครับ”โตเป็นผู้ใหญ่แล้วยังจะกลัวหมอ? สวีเหยียนซีจึงพูดว่า “เขาป่วยขนาดนี้แล้วอย่าให้ไข้ขึ้นจนสติมึนงงไปเลยนะคะ ผู้ช่วยฟางฉันแนะนำว่าคุณเรียกหมอดีกว่านะคะ อย่าตามใจเขาเลย คาดว่าตอนนี้เขาน่าจะไข้ขึ้นจนสมองเลอะเลือน ต่อให้เขาจะคัดค้าน เขาก็ไม่มีแรงหรอกค่ะ”เขาเหมือนกับเนื้อปลาวางบนเขียง จัดการได้สบาย ๆในใจของฟางห่าวถึงกับตะลึง สมกับเป็นผู้หญิงที่ประธานจ้าวชอบ ช่างกล้าหาญจริง ๆ“ได้ครับ ผมจะไปเรียกหมอเดี๋ยวนี้ งั้นรบกวนสถาปนิกสวีช่วยผมจับตาดูหน่อยนะคร

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 55

    บทที่ 55“สวีเหยียนซี?”เสียงเคี้ยวน้ำแข็งกรอบแกรบหยุดลงทันที สวีเหยียนซีเงยหน้าขึ้น ด้วยความตะลึงปนงงงวย จ้องไปยังร่างสูงตรงหน้าสีหน้าของจ้าวจวิ้นโจวว่างเปล่าไปหลายวินาที ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่าเธอยัดก้อนน้ำแข็งเข้าปาก แค่ฟังเสียง เขาคงสงสัยว่าเธอกำลังเคี้ยวกระดูกแน่ ๆ“คุณ… เป็นอะไรหรือเปล่า?” หลังจากตกใจ จ้าวจวิ้นโจวก็แสดงสีหน้ากังวล พร้อมกับก้าวสามก้าวเหมือนพุ่งเข้ามา แล้วย่อตัวลงหน้าเธอก่อนถามว่า “อยู่ดี ๆ กินน้ำแข็งทำไม? เป็นไข้เหรอ?”ตอนที่ถาม เขายื่นมือออกไปแตะหน้าผากสวีเหยียนซีอุณหภูมิปกติยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจ จึงสรุปได้เพียงอย่างเดียวว่า “กินน้ำแข็งกลางดึกเป็นนิสัยส่วนตัวคุณเหรอ?”ก้อนน้ำแข็งในปากละลายเป็นน้ำหมดแล้ว สวีเหยียนซีกลืนน้ำลาย แล้วส่ายหน้าว่า “ไม่ใช่ค่ะ คือฉันคอแห้ง”“กระหายน้ำก็ดื่มน้ำสิ คุณกินน้ำแข็งทำไม?!” จ้าวจวิ้นโจวหยิบกล่องใส่น้ำแข็งไป “ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้วนะ สวีเหยียนซี”“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว” สวีเหยียนซีตาไวมือไว ห้ามไม่ให้จ้าวจวิ้นโจวเอากล่องน้ำแข็งกลับใส่ตู้เย็น เธอพูดด้วยความอายว่า “คือเมื่อคืนฉันกินซุปเป็ดมากไป ฉันดื่มน้ำก็ไม่ดี

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 54

    บทที่ 54“ได้ค่ะ รับทราบค่ะ”สวีเหยียนซีไม่ตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย เพราะจ้าวจวิ้นโจวรู้ดีว่านี่เป็นหนึ่งในจุดแข็งด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมของเธอหลังจ้าวจวิ้นโจวทานอิ่มแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาตอบข้อความ เขาไม่ได้ขยับตัว เพราะสวีเหยียนซียังทานอาหารอยู่ เขาจึงนั่งเป็นเพื่อนเธอแบบแฝง ๆส่วนสวีเหยียนซีกลับคิดว่าเขาแค่นั่งตอบข้อความเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงไม่อยากขยับ แต่ด้วยความประหม่า เธอก็เลยทานอีกไม่กี่คำก็เสร็จอย่างลวก ๆพฤติกรรมของเธอหลบไม่พ้นสายตาของจ้าวจวิ้นโจว“ผมเร่งให้คุณทานเร็ว ๆ หรือไง?”“ฉันกินอิ่มแล้วค่ะ” สวีเหยียนซีส่ายหน้าอธิบายมือซ้ายของจ้าวจวิ้นโจววางโทรศัพท์บนต้นขาอย่างสบาย ๆ ดวงตาเป็นประกาย แต่ที่มากกว่าคือความจนปัญญา “สวีเหยียนซี ทำไมคุณทำราวกับผมจะกินคุณอย่างไงอย่างงั้น”สวีเหยียนซีอายจนหน้าแดง ก่อนยิ้มตอบด้วยความสุภาพว่า “เปล่าค่ะ ฉันอิ่มแล้วจริง ๆ”สำหรับความสุภาพจอมปลอมนี้ของเธอ จ้าวจวิ้นโจวควรชินตั้งนานแล้ว แต่ยิ่งมองเขายิ่งอยากจะฉีกหน้ากากจอมปลอมของผู้หญิงคนนี้ออกจริง ๆเมื่อถูกจ้องมองอยู่แบบนี้ สวีเหยียนซีรู้สึกราวกับโดนสัตว์ป่าที่จ้องมองเหยื่ออันแสนอร่อย

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 53

    บทที่ 53จ้าวจวิ้นโจวหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง ราวกับจะบอกเธอว่า จู่ ๆ ก็ลากผมเข้ามาเกี่ยวด้วยทำไมสวีเหยียนซีรู้สึกว่าครั้งนี้เธอฉลาดเป็นพิเศษ แทบจะเข้าใจสีหน้าของเขาทันที เธอยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดว่า “ประธานจ้าว ถ้าคุณเห็นผู้หญิงทุกคนที่จู่ ๆ ก็คลื่นไส้ขึ้นมา คุณจะสงสัยว่าท้องหมดล่ะสิ”ประโยคนี้เต็มไปด้วยการหยอกล้อกวนประสาท รวมทั้งเป็นการตำหนิพฤติกรรมเดามั่ว ๆ ของจ้าวจวิ้นโจวด้วยจ้าวจวิ้นโจว “…”ฟางห่าวกระแอมไอขึ้นมาอีกครั้ง พลางยกกำปั้นทุบฝ่ามือซ้ายอย่างไม่แรงไม่เบา ก่อนเอ่ยว่า “หา ที่แท้เป็นเรื่องเข้าใจผิดนี่เอง สถาปนิกสวี คุณรู้ไหมครับ ตอนนั้นท่าทางคุณที่รีบไปห้องน้ำ ทำให้คนอื่นตกใจกันหมด ผมก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้ว รอประธานจ้าวแจ้งให้ผมเรียกรถฉุกเฉินหรือรถพยาบาล”“เรียกรถพยาบาลทำไมคะ?” สวีเหยียนซีหลุดปากถามออกไป“ผมกับท่านประธานจ้าวสงสัยว่าอาหารร้านนั้นจะไม่สะอาด” ฟางห่าวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง จนทำให้สวีเหยียนซีเกือบเชื่อสนิทใจฟางห่าวยิ้มกว้างด้วยความเป็นมิตร ก่อนหยิบน้ำมะนาวขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น “ในเมื่อสถาปนิกสวีอยากดื่มกาแฟ งั้นผมไปเปลี่ยนมาให้นะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ…” เมื

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 52

    บทที่ 52สวีเหยียนซีเม้มปากเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า “ผู้ช่วยฟาง ฉันขอถามหน่อยค่ะว่าพวกเราต้องอยู่เมืองไห่อีกนานเท่าไหร่?”ฟางห่าวแปลกใจเล็กน้อย “สถาปนิกสวีมีธุระด่วนหรือเปล่าครับ?”เธอส่ายหัวก่อนตอบว่า “เมื่อกี้ฉันเจอเพื่อนของพี่ใหญ่ที่ใต้ตึกค่ะ”นี่ไม่ใช่เรื่องด่วน แต่เป็นเรื่องไม่ค่อยดี ฟางห่าวจึงพูดว่า “งั้นคุณเข้าไปบอกท่านประธานจ้าวเถอะครับ”หลังจากจ้าวจวิ้นโจวได้ฟังเรื่องนี้ ก็ขมวดคิ้วก่อนถามว่า “ใคร?”“ลู่ฉือค่ะ”ตระกูลลู่ก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลตระกูลหนึ่งในเมืองจิง จ้าวจวิ้นโจวเคยได้ยินมาบ้าง “งั้นก็เปลี่ยนที่อยู่”ประมาณสิบห้านาทีต่อมา สวีเหยียนซีสังเกตเห็นรถของพวกเขาแล่นเข้าไปยังคฤหาสน์สไตล์โบราณที่เงียบสงบท่ามกลางย่านพลุกพล่านพ่อบ้านและบรรดาคนรับใช้ยืนเรียงกันเป็นระเบียบทั้งสองฝั่ง พร้อมกันเอ่ยว่า “ยินดีต้อนรับคุณผู้ชายกลับบ้านครับ/ค่ะ”สวีเหยียนซีเพิ่งรู้ตัวว่า นี่คือคฤหาสน์ของจ้าวจวิ้นโจวเขามีบ้านอยู่ที่นี่ แล้วยังจะไปอยู่โรงแรมทำไมกัน?มีเงินเยอะจนไม่มีที่ใช้งั้นเหรอ?ฟางห่าวสังเกตเห็นว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงอธิบายด้วยความเป็นมิตรว่า “ท่านประธานจ้าวเกรงว

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 51

    บทที่ 51ตอนที่เรื่องราวของสวีหว่านหนิงและฉินเซียวแล่นเข้ามาในสมองเธออย่างบ้าคลั่ง สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้โดยไม่มีเหตุผลอย่างฉับพลัน“ขอโทษนะคะ ฉันไปห้องน้ำก่อนนะคะ”เธอวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่แสดงความบิดเบี้ยวนั้นจ้าวจวิ้นโจวมองเห็นได้อย่างชัดเจน ดวงตาของเขามืดดำลง ก่อนลุกขึ้น และหยิบขวดเลมอนโซดาจากโซนที่วางเครื่องดื่ม แล้วก็เดินอย่างไม่ช้าไม่เร็วไปยังห้องน้ำในห้องน้ำ สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้หลายครั้ง แต่ไม่ได้อาเจียนอะไรออกมาเลย หลังจากที่เธอบังคับตัวเองไม่ให้คิดถึงภาพที่น่าสะอิดสะเอียน อาการคลื่นไส้นั้นจึงค่อย ๆ หายไปบ้าไปแล้ว อยู่ดี ๆ จะคิดเรื่องนั้นทำไมกันเธอสะอิดสะเอียนตัวเองชัด ๆหลังจากล้างมือเสร็จ สวีเหยียนซีก็เดินออกมาจากห้องน้ำเธอพบว่าจ้าวจวิ้นโจวยืนพิงผนังอยู่ เธออึ้งไปก่อนเอ่ยว่า “ท่านประธานจ้าวคะ คุณก็มาเข้าห้องน้ำเหรอคะ?”“มาหาคุณ”“???” สวีเหยียนซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง เธอคิดว่าเขาอยากจะถามเรื่องที่เธอคุยกับเหมาเจียนั่ว “ประธานจ้าววางใจเถอะค่ะ คุณเหมาไม่ได้มาถามเรื่องคุณกับฉันหรอกค่ะ”จ้าวจวิ้นโจวหน้าตาเคร่งขรึม ไม่สามารถอ่านอารมณ์ออก เขายื่นเลมอนโซดาใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status