Share

บทที่ 38

Author: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 38

เมื่อเห็นเขามาตามหาซีเอ๋อร์ด้วยท่าทีรีบร้อน โหยวฉีก็อดคิดไม่ได้ว่า ผู้ชายคนนี้มีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่ธรรมดาต่อซีเอ๋อร์อยู่ในใจ ในที่สุดเธอก็อดกลั้นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในใจไม่ได้ พูดด้วยน้ำเสียงที่ปนด้วยความไม่พอใจว่า “ซีเอ๋อร์เซ็นข้อตกลงการหย่าแต่โดยดีแล้วนะคะ ยอมปล่อยให้ฉินเซียวกับสวีหว่านหนิงได้สมหวังแล้ว ตอนนี้เธอเสียใจมาก ต้องการเวลาทำใจค่ะ

“ฉันว่าคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุดก็คือคนในตระกูลสวี แล้วพี่ใหญ่สวี ไม่คิดจะให้เธอได้มีพื้นที่ส่วนตัวบ้างเลยเหรอคะ ทำไมต้องตามหาตัวเธอให้ได้ขนาดนั้น?”

สวีเหยียนเช่อตอบ “ก็เพราะเธอกำลังทุกข์ใจไง เธอถึงต้องมีใครสักคนอยู่เคียงข้าง”

โหยวฉีย้อนถามทันที “แล้วพี่ใหญ่สวีมั่นใจเหรอคะ ว่าซีเอ๋อร์อยากให้พี่เป็นคนอยู่ข้าง ๆ เธอ?”

คำพูดนี้เหมือนแทงเข้ากลางใจ ทำให้สวีเหยียนเช่อรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที เขาหันกลับมาพูดเสียงแข็ง “โหยวฉี เธอเป็นแค่เพื่อนของซีเอ๋อร์เท่านั้น”

โหยวฉีรีบโต้ตอบ “ฉันเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอต่างหาก”

สวีเหยียนเช่อหน้าเคร่ง ไม่พูดอะไรอีก แล้วหันหลังเดินออกไป

โหยวฉียืนมองแผ่นหลังเขา แล้วอดสบถในใจไม่ได้ “เหอะ… นี่มันอะไรกันนักหนา! คนโน้นคนนี้ก็จ้องแต่จะพากันเข้ามาทำร้ายซีเอ๋อร์กันทั้งนั้น

อีกด้าน

ขณะที่สวีเหยียนซีกำลังจะเปิดโหมดเครื่องบินในโทรศัพท์เพื่อเตรียมขึ้นบิน ข้อความจากเบอร์สำรองของโหยวฉีก็ส่งเข้ามา

[เมื่อกี้สวีเหยียนเช่อมาหาฉันที่ร้านแน่ะ ฉันมั่นใจเลยว่าถ้าเขาหาตัวเธอเจอ ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ ซีเอ๋อร์ เธอต้องระวัง อย่าให้เขารู้ว่าเธอไปเมืองไห่]

เธอตอบข้อความเสร็จก็เปิดโหมดเครื่องบินทันที

แต่ภายในใจยังร้อนรุ่มไม่หาย

สวีเหยียนเช่อไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายไปกว่าฉินเซียวเลย ยิ่งกว่านั้น เขายังคิดจะพาเธอไปอยู่ต่างประเทศกับเขาด้วยซ้ำ

ยิ่งคิดก็ยิ่งอึดอัด เธอรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง

คนทั้งตระกูลบ้ากันไปหมดแล้ว!

เธอยกมือขึ้นนวดขมับ พยายามสั่งตัวเองให้เลิกคิดเรื่องเหล่านี้ พอค่อย ๆ คลายความฟุ้งซ่านลง เธอก็เงยหน้าขึ้นแล้วสายตาก็ไปสะดุดกับที่นั่งตรงข้าม

นั่นเป็นที่นั่งของจ้าวจวิ้นโจว

มีแอร์โฮสเตสคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเก้าอี้นั้นพอดี ก้มตัวเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน “คุณจ้าวคะ รับเหมือนเดิมนะคะ ให้ดิฉันเตรียมน้ำมะนาวมาเสิร์ฟไหมคะ?”

เสียงหวานใสของแอร์โฮสเตสไม่ดังมาก แต่สวีเหยียนซีก็ได้ยินชัดเจน

ปฏิกิริยาแรกของเธอพวกเขารู้จักกันด้วยเหรอ

แต่ทันใดนั้นเอง ฟางห่าวซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ก็เอียงตัวโน้มเข้ามาใกล้ ก่อนที่สวีเหยียนซีจะตกใจ เขาก็อธิบายเสียงเบาว่า “ท่านประธานจ้าวเป็นผู้ถือหุ้นของสายการบินนี้ครับ”

ซีเอ๋อร์ถึงกับทำหน้างง ???

ฟางห่าวยิ้มอย่างสุภาพ “พนักงานต้อนรับทุกคนของสายบินนี้ ผ่านการอบรมมาเป็นพิเศษ รู้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับความชอบของผู้บริหาร เพียงแค่นั้นเองครับ”

สวีเหยียนซีหน้าแดงด้วยความกระอักกระอวน พลางคิดในใจว่าเธอก็ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย

เมื่ออธิบายเสร็จ ฟางห่าวก็กลับไปนั่งประจำที่ และคาดเข็มขัดให้เรียบร้อย

แม้สวีเหยียนซีจะบอกว่าเธอไม่ได้คิดอะไร แต่ปัญหาก็ปรากฏชัดบนใบหน้าของเธอตั้งนานแล้ว อย่าปล่อยให้ความเข้าใจผิดแบบนี้เกิดขึ้นดีกว่า เพราะถ้ามันระเบิดขึ้นทีหลัง มันคงเป็นระเบิดลูกใหญ่แน่ ๆ

เขาอดไม่ได้ที่ถอนหายใจในใจ

เป็นแค่ผู้ช่วยแท้ ๆ แต่ต้องคอยตามลบความเข้าใจผิดไม่ให้บานปลาย สงสัยต้องคุยกับเจ้านายเรื่องขึ้นเงินเดือนแล้วล่ะ

สวีเหยียนซีทำเป็นไม่ใส่ใจกับเรื่องเมื่อครู่ เพื่อหลีกเลี่ยงความอับอายที่มากขึ้นเมื่อยิ่งคิดถึงเรื่องนี้

ขณะที่เธอเปิดนิตยสารอ่าน แอร์โฮสเตสคนเดิมก็เดินเข้ามาพร้อมถ้วยชา ก่อนก้มศีรษะพูดกับเธออย่างนอบน้อมว่า “คุณซีคะ นี่คือชาลี่ซานสำหรับคุณค่ะ”

ชาลี่ซาน?!

บนเครื่องบินลี่ซานด้วยเหรอ?!

เธอพูดอย่างงงงวย “แต่ฉันไม่ได้จะดื่มชานี่นะคะ”

แอร์โฮสเตสยังคงยิ้มสุภาพ “นี่เป็นคำสั่งของคุณจ้าวค่ะ เขาบอกว่าคุณชอบดื่มชาลี่ซานค่ะ”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 56

    บทที่ 56เมื่อลุกขึ้นมามองเวลา แปดโมงแล้ว เธอจึงรีบลุกขึ้นมาล้างหน้าบ้วนปากเมื่อเปิดประตูออกไป เธอชนกับฟางห่าวพอดี“ผู้ช่วยฟาง คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ในขณะเดียวกันเธอสังเกตเห็นยาในมือของฟางห่าว ยาไอบูโพรเฟน… เธอถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “ผู้ช่วยฟาง คุณมีไข้หรือปวดหัวเหรอคะ?”ฟางห่าวตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า “จู่ ๆ ท่านประธานจ้าวก็ไข้ขึ้นสูงครับ”สวีเหยียนซีตะลึงไปชั่วครู่ “ท่านประธานจ้าวไม่สบายเหรอคะ?”เมื่อคืนยังดี ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ?!“ใช่ครับ อุณหภูมิจะแตะสี่สิบองศาแล้ว”“ไม่ได้เรียกหมอเหรอคะ?”“ท่านประธานจ้าวไม่ยอมให้ผมเรียกครับ”โตเป็นผู้ใหญ่แล้วยังจะกลัวหมอ? สวีเหยียนซีจึงพูดว่า “เขาป่วยขนาดนี้แล้วอย่าให้ไข้ขึ้นจนสติมึนงงไปเลยนะคะ ผู้ช่วยฟางฉันแนะนำว่าคุณเรียกหมอดีกว่านะคะ อย่าตามใจเขาเลย คาดว่าตอนนี้เขาน่าจะไข้ขึ้นจนสมองเลอะเลือน ต่อให้เขาจะคัดค้าน เขาก็ไม่มีแรงหรอกค่ะ”เขาเหมือนกับเนื้อปลาวางบนเขียง จัดการได้สบาย ๆในใจของฟางห่าวถึงกับตะลึง สมกับเป็นผู้หญิงที่ประธานจ้าวชอบ ช่างกล้าหาญจริง ๆ“ได้ครับ ผมจะไปเรียกหมอเดี๋ยวนี้ งั้นรบกวนสถาปนิกสวีช่วยผมจับตาดูหน่อยนะคร

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 55

    บทที่ 55“สวีเหยียนซี?”เสียงเคี้ยวน้ำแข็งกรอบแกรบหยุดลงทันที สวีเหยียนซีเงยหน้าขึ้น ด้วยความตะลึงปนงงงวย จ้องไปยังร่างสูงตรงหน้าสีหน้าของจ้าวจวิ้นโจวว่างเปล่าไปหลายวินาที ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่าเธอยัดก้อนน้ำแข็งเข้าปาก แค่ฟังเสียง เขาคงสงสัยว่าเธอกำลังเคี้ยวกระดูกแน่ ๆ“คุณ… เป็นอะไรหรือเปล่า?” หลังจากตกใจ จ้าวจวิ้นโจวก็แสดงสีหน้ากังวล พร้อมกับก้าวสามก้าวเหมือนพุ่งเข้ามา แล้วย่อตัวลงหน้าเธอก่อนถามว่า “อยู่ดี ๆ กินน้ำแข็งทำไม? เป็นไข้เหรอ?”ตอนที่ถาม เขายื่นมือออกไปแตะหน้าผากสวีเหยียนซีอุณหภูมิปกติยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจ จึงสรุปได้เพียงอย่างเดียวว่า “กินน้ำแข็งกลางดึกเป็นนิสัยส่วนตัวคุณเหรอ?”ก้อนน้ำแข็งในปากละลายเป็นน้ำหมดแล้ว สวีเหยียนซีกลืนน้ำลาย แล้วส่ายหน้าว่า “ไม่ใช่ค่ะ คือฉันคอแห้ง”“กระหายน้ำก็ดื่มน้ำสิ คุณกินน้ำแข็งทำไม?!” จ้าวจวิ้นโจวหยิบกล่องใส่น้ำแข็งไป “ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้วนะ สวีเหยียนซี”“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว” สวีเหยียนซีตาไวมือไว ห้ามไม่ให้จ้าวจวิ้นโจวเอากล่องน้ำแข็งกลับใส่ตู้เย็น เธอพูดด้วยความอายว่า “คือเมื่อคืนฉันกินซุปเป็ดมากไป ฉันดื่มน้ำก็ไม่ดี

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 54

    บทที่ 54“ได้ค่ะ รับทราบค่ะ”สวีเหยียนซีไม่ตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย เพราะจ้าวจวิ้นโจวรู้ดีว่านี่เป็นหนึ่งในจุดแข็งด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมของเธอหลังจ้าวจวิ้นโจวทานอิ่มแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาตอบข้อความ เขาไม่ได้ขยับตัว เพราะสวีเหยียนซียังทานอาหารอยู่ เขาจึงนั่งเป็นเพื่อนเธอแบบแฝง ๆส่วนสวีเหยียนซีกลับคิดว่าเขาแค่นั่งตอบข้อความเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงไม่อยากขยับ แต่ด้วยความประหม่า เธอก็เลยทานอีกไม่กี่คำก็เสร็จอย่างลวก ๆพฤติกรรมของเธอหลบไม่พ้นสายตาของจ้าวจวิ้นโจว“ผมเร่งให้คุณทานเร็ว ๆ หรือไง?”“ฉันกินอิ่มแล้วค่ะ” สวีเหยียนซีส่ายหน้าอธิบายมือซ้ายของจ้าวจวิ้นโจววางโทรศัพท์บนต้นขาอย่างสบาย ๆ ดวงตาเป็นประกาย แต่ที่มากกว่าคือความจนปัญญา “สวีเหยียนซี ทำไมคุณทำราวกับผมจะกินคุณอย่างไงอย่างงั้น”สวีเหยียนซีอายจนหน้าแดง ก่อนยิ้มตอบด้วยความสุภาพว่า “เปล่าค่ะ ฉันอิ่มแล้วจริง ๆ”สำหรับความสุภาพจอมปลอมนี้ของเธอ จ้าวจวิ้นโจวควรชินตั้งนานแล้ว แต่ยิ่งมองเขายิ่งอยากจะฉีกหน้ากากจอมปลอมของผู้หญิงคนนี้ออกจริง ๆเมื่อถูกจ้องมองอยู่แบบนี้ สวีเหยียนซีรู้สึกราวกับโดนสัตว์ป่าที่จ้องมองเหยื่ออันแสนอร่อย

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 53

    บทที่ 53จ้าวจวิ้นโจวหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง ราวกับจะบอกเธอว่า จู่ ๆ ก็ลากผมเข้ามาเกี่ยวด้วยทำไมสวีเหยียนซีรู้สึกว่าครั้งนี้เธอฉลาดเป็นพิเศษ แทบจะเข้าใจสีหน้าของเขาทันที เธอยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดว่า “ประธานจ้าว ถ้าคุณเห็นผู้หญิงทุกคนที่จู่ ๆ ก็คลื่นไส้ขึ้นมา คุณจะสงสัยว่าท้องหมดล่ะสิ”ประโยคนี้เต็มไปด้วยการหยอกล้อกวนประสาท รวมทั้งเป็นการตำหนิพฤติกรรมเดามั่ว ๆ ของจ้าวจวิ้นโจวด้วยจ้าวจวิ้นโจว “…”ฟางห่าวกระแอมไอขึ้นมาอีกครั้ง พลางยกกำปั้นทุบฝ่ามือซ้ายอย่างไม่แรงไม่เบา ก่อนเอ่ยว่า “หา ที่แท้เป็นเรื่องเข้าใจผิดนี่เอง สถาปนิกสวี คุณรู้ไหมครับ ตอนนั้นท่าทางคุณที่รีบไปห้องน้ำ ทำให้คนอื่นตกใจกันหมด ผมก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้ว รอประธานจ้าวแจ้งให้ผมเรียกรถฉุกเฉินหรือรถพยาบาล”“เรียกรถพยาบาลทำไมคะ?” สวีเหยียนซีหลุดปากถามออกไป“ผมกับท่านประธานจ้าวสงสัยว่าอาหารร้านนั้นจะไม่สะอาด” ฟางห่าวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง จนทำให้สวีเหยียนซีเกือบเชื่อสนิทใจฟางห่าวยิ้มกว้างด้วยความเป็นมิตร ก่อนหยิบน้ำมะนาวขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น “ในเมื่อสถาปนิกสวีอยากดื่มกาแฟ งั้นผมไปเปลี่ยนมาให้นะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ…” เมื

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 52

    บทที่ 52สวีเหยียนซีเม้มปากเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า “ผู้ช่วยฟาง ฉันขอถามหน่อยค่ะว่าพวกเราต้องอยู่เมืองไห่อีกนานเท่าไหร่?”ฟางห่าวแปลกใจเล็กน้อย “สถาปนิกสวีมีธุระด่วนหรือเปล่าครับ?”เธอส่ายหัวก่อนตอบว่า “เมื่อกี้ฉันเจอเพื่อนของพี่ใหญ่ที่ใต้ตึกค่ะ”นี่ไม่ใช่เรื่องด่วน แต่เป็นเรื่องไม่ค่อยดี ฟางห่าวจึงพูดว่า “งั้นคุณเข้าไปบอกท่านประธานจ้าวเถอะครับ”หลังจากจ้าวจวิ้นโจวได้ฟังเรื่องนี้ ก็ขมวดคิ้วก่อนถามว่า “ใคร?”“ลู่ฉือค่ะ”ตระกูลลู่ก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลตระกูลหนึ่งในเมืองจิง จ้าวจวิ้นโจวเคยได้ยินมาบ้าง “งั้นก็เปลี่ยนที่อยู่”ประมาณสิบห้านาทีต่อมา สวีเหยียนซีสังเกตเห็นรถของพวกเขาแล่นเข้าไปยังคฤหาสน์สไตล์โบราณที่เงียบสงบท่ามกลางย่านพลุกพล่านพ่อบ้านและบรรดาคนรับใช้ยืนเรียงกันเป็นระเบียบทั้งสองฝั่ง พร้อมกันเอ่ยว่า “ยินดีต้อนรับคุณผู้ชายกลับบ้านครับ/ค่ะ”สวีเหยียนซีเพิ่งรู้ตัวว่า นี่คือคฤหาสน์ของจ้าวจวิ้นโจวเขามีบ้านอยู่ที่นี่ แล้วยังจะไปอยู่โรงแรมทำไมกัน?มีเงินเยอะจนไม่มีที่ใช้งั้นเหรอ?ฟางห่าวสังเกตเห็นว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงอธิบายด้วยความเป็นมิตรว่า “ท่านประธานจ้าวเกรงว

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 51

    บทที่ 51ตอนที่เรื่องราวของสวีหว่านหนิงและฉินเซียวแล่นเข้ามาในสมองเธออย่างบ้าคลั่ง สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้โดยไม่มีเหตุผลอย่างฉับพลัน“ขอโทษนะคะ ฉันไปห้องน้ำก่อนนะคะ”เธอวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่แสดงความบิดเบี้ยวนั้นจ้าวจวิ้นโจวมองเห็นได้อย่างชัดเจน ดวงตาของเขามืดดำลง ก่อนลุกขึ้น และหยิบขวดเลมอนโซดาจากโซนที่วางเครื่องดื่ม แล้วก็เดินอย่างไม่ช้าไม่เร็วไปยังห้องน้ำในห้องน้ำ สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้หลายครั้ง แต่ไม่ได้อาเจียนอะไรออกมาเลย หลังจากที่เธอบังคับตัวเองไม่ให้คิดถึงภาพที่น่าสะอิดสะเอียน อาการคลื่นไส้นั้นจึงค่อย ๆ หายไปบ้าไปแล้ว อยู่ดี ๆ จะคิดเรื่องนั้นทำไมกันเธอสะอิดสะเอียนตัวเองชัด ๆหลังจากล้างมือเสร็จ สวีเหยียนซีก็เดินออกมาจากห้องน้ำเธอพบว่าจ้าวจวิ้นโจวยืนพิงผนังอยู่ เธออึ้งไปก่อนเอ่ยว่า “ท่านประธานจ้าวคะ คุณก็มาเข้าห้องน้ำเหรอคะ?”“มาหาคุณ”“???” สวีเหยียนซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง เธอคิดว่าเขาอยากจะถามเรื่องที่เธอคุยกับเหมาเจียนั่ว “ประธานจ้าววางใจเถอะค่ะ คุณเหมาไม่ได้มาถามเรื่องคุณกับฉันหรอกค่ะ”จ้าวจวิ้นโจวหน้าตาเคร่งขรึม ไม่สามารถอ่านอารมณ์ออก เขายื่นเลมอนโซดาใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status