Share

บทที่ 9

Penulis: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 9

เมื่อนึกได้ว่าตอนนี้จ้าวจวิ้นโจวคือเจ้านายของเธอ สวีเหยียนซีจึงพยายามข่มอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ ก่อนจะกดรับสาย “ท่านประธานจ้าวคะ”

คราวนี้น้ำเสียงของจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้ฟังดูหยอกล้อเหมือนก่อนหน้า แต่กลับเคร่งขรึมและจริงจังขึ้น “เลี้ยวไปจอดข้างทางตรงสี่แยกข้างหน้า”

คำพูดนั้นทำให้เธอชะงักไปชั่วครู่ รีบหันไปมองกระจกหลังทันที

“อยู่ข้างหลังคุณ อย่ามัวแต่มองไปมองมา”

“...” สวีเหยียนซีรีบวางสาย ความเศร้าโศกที่ยังคงอยู่ในใจถูกความประหลาดใจขับออกไปจนหมดสิ้น

เธอหาที่จอดรถข้างทางแล้วลงจากรถ ไม่นานฟางห่าวก็เดินเข้ามาหา

“คุณสวี เชิญขึ้นรถคันหลังเลยครับ รถของคุณผมจะขับไปส่งที่ว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ให้”

ดวงตาของสวีเหยียนซีมองไปยังรถโรลส์-รอยซ์ ฟางห่าวอธิบายต่อว่า “คุณสวี ตั้งแต่คุณขับออกมา คุณสวีเหยียนเช่อก็ให้รถตามประกบคุณแล้วครับ ถ้ายังเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อไป เกรงว่าคุณจะถูกจับได้”

เมื่อได้ยินดังนั้น รูม่านตาของเธอก็หดแคบลงเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าอย่างใจเย็น “งั้นก็รบกวนผู้ช่วยฟางด้วยนะคะ”

เธอไม่ลังเลอีกต่อไป คว้ากระเป๋าแล้วก้าวเข้าไปในรถโรลส์-รอยซ์อย่างใจเย็น

จ้าวจวิ้นโจวกำลังนั่งไขว่ห้าง ท่าทางดูเกียจคร้านและสบาย ๆ

“ท่านประธานจ้าวคะ”

เนื่องจากไฟในรถสว่าง เมื่อดวงตาคมของจ้าวจวิ้นโจวเหลือบไปมองก็สังเกตเห็นรอยฝ่ามือสีแดงจาง ๆ บนแก้มเธอได้อย่างชัดเจน

ในวินาทีถัดมา เขาก็ยื่นมือมาจับคางของเธอ บังคับให้เธอหันใบหน้าข้างที่ขึ้นสี

“ท่านประธานจ้าว...” สวีเหยียนซีพยายามสะบัดใบหน้าออก แต่ใบหน้าของเขากลับโน้มเข้ามาใกล้ ดวงตาสีดำขลับทอประกายที่กร้าวเกินกว่าจะคาดเดาได้ จนเธอถึงกับกลั้นหายใจ

“ตบแรงขนาดนี้ เป็นฝีมือพ่อหรือแม่บุญธรรม?” น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความเย็นชาอย่างชัดเจน

ท่าทางของเขาไม่ได้ดูเหมือนแค่ถามด้วยความเป็นห่วง แต่เหมือนพร้อมที่จะไปเอาเรื่องทันทีถ้าเธอเอ่ยชื่อคนทำออกมา

ความรู้สึกปลอดภัยแบบนี้ มีเพียงโหยวฉีเท่านั้นที่เคยให้เธอ เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะได้รับมันจากผู้ชายอีกคน

เมื่อย้อนคิดกลับไป ฉินเซียวไม่เคยทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยได้อย่างชัดเจนแบบนี้เลยสักครั้ง

ยิ่งคิดก็ยิ่งพบว่าเขามันคนเฮงซวย

สวีเหยียนซีผลักมือของเขาออกแล้วนั่งตัวตรง “ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะท่านประธาน ฉันไม่เป็นไรค่ะ แต่ขอถามหน่อยว่า จะพาไปเจอลูกค้าที่ไหนคะ?”

“ไว้ค่อยไปวันหลัง”

คำตอบนั้นทำให้เธอเงยหน้ามองเขาในทันที

บนใบหน้าหล่อเหลาของเขา เหมือนมีตัวอักษรเขียนชัดเจนว่า ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี

“...ในเมื่อไม่ไปเจอแล้ว ฉันควรลงจากรถได้แล้วใช่ไหมคะ?” สวีเหยียนซีถาม

จ้าวจวิ้นโจวเท้าศอกพิงขอบหน้าต่างรถ ใช้มือเท้าคางอย่างสบายอารมณ์ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงยียวน “สถาปนิกสวี คุณจำเงื่อนไขพิเศษในสัญญาได้ขึ้นใจหรือยัง?”

สวีเหยียนซีสีหน้าไม่เปลี่ยน “อืม จำได้ค่ะ แต่คุณก็บอกแล้วว่าเรื่องลูกค้าไว้ค่อยไปเจอวันหลัง”

“ลูกค้าไว้ค่อยไปเจอวันหลัง แต่ผมเคยบอกหรือเปล่าว่าคุณจะไม่มีงานอื่น?”

“...” สวีเหยียนซีถึงกับจนปัญญาที่จะโต้ตอบ “แล้วท่านประธานจ้าวมีอะไรจะให้ฉันรับใช้คะ?”

“นั่งเฉย ๆ”

สวีเหยียนซีไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร แต่ก็ยอมทำตาม นั่งชิดประตูอย่างเรียบร้อย ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอกำลังจะล้วงโทรศัพท์ออกมา ปรากฏว่าเป็นสายจากฉินเซียว

ยังไม่ทันที่เธอจะกดรับ เสียงเย็นเยียบของใครบางคนก็ดังขึ้นเสียก่อน “อยู่ในรถของผม ห้ามรับโทรศัพท์... ไม่ว่าจะของใครก็ตาม”

สวีเหยียนซีเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกดปิดเสียงโทรศัพท์แล้วเก็บใส่กระเป๋า

ถึงเขาไม่พูด เธอก็ไม่คิดจะรับสายอยู่แล้ว

เมื่อเห็นเธอตัดสินใจไม่รับสายอย่างไม่ลังเล ไม่ว่าจะเป็นเพราะความตั้งใจของเธอเองหรือเพราะคำสั่งของเขา อย่างน้อยสีหน้าของเขาก็ดีขึ้นเล็กน้อย

โทรศัพท์ที่ถูกปิดเสียงสั่นอยู่ในกระเป๋าของเธอตลอดทาง จนกระทั่งรถโรลส์-รอยซ์แล่นเข้ามายังคฤหาสน์จวี๋ซาน

ณ คฤหาสน์จวี๋ซาน...

หัวใจของสวีเหยียนซีหดรัดแน่น เธอก้าวลงจากรถพร้อมกับแสร้งทำเป็นสงบ เธอปิดประตูรถ พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ว่า “ท่านประธานจ้าวคะ ถ้าคุณต้องการพักผ่อน งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 56

    บทที่ 56เมื่อลุกขึ้นมามองเวลา แปดโมงแล้ว เธอจึงรีบลุกขึ้นมาล้างหน้าบ้วนปากเมื่อเปิดประตูออกไป เธอชนกับฟางห่าวพอดี“ผู้ช่วยฟาง คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ในขณะเดียวกันเธอสังเกตเห็นยาในมือของฟางห่าว ยาไอบูโพรเฟน… เธอถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “ผู้ช่วยฟาง คุณมีไข้หรือปวดหัวเหรอคะ?”ฟางห่าวตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า “จู่ ๆ ท่านประธานจ้าวก็ไข้ขึ้นสูงครับ”สวีเหยียนซีตะลึงไปชั่วครู่ “ท่านประธานจ้าวไม่สบายเหรอคะ?”เมื่อคืนยังดี ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ?!“ใช่ครับ อุณหภูมิจะแตะสี่สิบองศาแล้ว”“ไม่ได้เรียกหมอเหรอคะ?”“ท่านประธานจ้าวไม่ยอมให้ผมเรียกครับ”โตเป็นผู้ใหญ่แล้วยังจะกลัวหมอ? สวีเหยียนซีจึงพูดว่า “เขาป่วยขนาดนี้แล้วอย่าให้ไข้ขึ้นจนสติมึนงงไปเลยนะคะ ผู้ช่วยฟางฉันแนะนำว่าคุณเรียกหมอดีกว่านะคะ อย่าตามใจเขาเลย คาดว่าตอนนี้เขาน่าจะไข้ขึ้นจนสมองเลอะเลือน ต่อให้เขาจะคัดค้าน เขาก็ไม่มีแรงหรอกค่ะ”เขาเหมือนกับเนื้อปลาวางบนเขียง จัดการได้สบาย ๆในใจของฟางห่าวถึงกับตะลึง สมกับเป็นผู้หญิงที่ประธานจ้าวชอบ ช่างกล้าหาญจริง ๆ“ได้ครับ ผมจะไปเรียกหมอเดี๋ยวนี้ งั้นรบกวนสถาปนิกสวีช่วยผมจับตาดูหน่อยนะคร

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 55

    บทที่ 55“สวีเหยียนซี?”เสียงเคี้ยวน้ำแข็งกรอบแกรบหยุดลงทันที สวีเหยียนซีเงยหน้าขึ้น ด้วยความตะลึงปนงงงวย จ้องไปยังร่างสูงตรงหน้าสีหน้าของจ้าวจวิ้นโจวว่างเปล่าไปหลายวินาที ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่าเธอยัดก้อนน้ำแข็งเข้าปาก แค่ฟังเสียง เขาคงสงสัยว่าเธอกำลังเคี้ยวกระดูกแน่ ๆ“คุณ… เป็นอะไรหรือเปล่า?” หลังจากตกใจ จ้าวจวิ้นโจวก็แสดงสีหน้ากังวล พร้อมกับก้าวสามก้าวเหมือนพุ่งเข้ามา แล้วย่อตัวลงหน้าเธอก่อนถามว่า “อยู่ดี ๆ กินน้ำแข็งทำไม? เป็นไข้เหรอ?”ตอนที่ถาม เขายื่นมือออกไปแตะหน้าผากสวีเหยียนซีอุณหภูมิปกติยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจ จึงสรุปได้เพียงอย่างเดียวว่า “กินน้ำแข็งกลางดึกเป็นนิสัยส่วนตัวคุณเหรอ?”ก้อนน้ำแข็งในปากละลายเป็นน้ำหมดแล้ว สวีเหยียนซีกลืนน้ำลาย แล้วส่ายหน้าว่า “ไม่ใช่ค่ะ คือฉันคอแห้ง”“กระหายน้ำก็ดื่มน้ำสิ คุณกินน้ำแข็งทำไม?!” จ้าวจวิ้นโจวหยิบกล่องใส่น้ำแข็งไป “ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้วนะ สวีเหยียนซี”“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว” สวีเหยียนซีตาไวมือไว ห้ามไม่ให้จ้าวจวิ้นโจวเอากล่องน้ำแข็งกลับใส่ตู้เย็น เธอพูดด้วยความอายว่า “คือเมื่อคืนฉันกินซุปเป็ดมากไป ฉันดื่มน้ำก็ไม่ดี

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 54

    บทที่ 54“ได้ค่ะ รับทราบค่ะ”สวีเหยียนซีไม่ตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย เพราะจ้าวจวิ้นโจวรู้ดีว่านี่เป็นหนึ่งในจุดแข็งด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมของเธอหลังจ้าวจวิ้นโจวทานอิ่มแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาตอบข้อความ เขาไม่ได้ขยับตัว เพราะสวีเหยียนซียังทานอาหารอยู่ เขาจึงนั่งเป็นเพื่อนเธอแบบแฝง ๆส่วนสวีเหยียนซีกลับคิดว่าเขาแค่นั่งตอบข้อความเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงไม่อยากขยับ แต่ด้วยความประหม่า เธอก็เลยทานอีกไม่กี่คำก็เสร็จอย่างลวก ๆพฤติกรรมของเธอหลบไม่พ้นสายตาของจ้าวจวิ้นโจว“ผมเร่งให้คุณทานเร็ว ๆ หรือไง?”“ฉันกินอิ่มแล้วค่ะ” สวีเหยียนซีส่ายหน้าอธิบายมือซ้ายของจ้าวจวิ้นโจววางโทรศัพท์บนต้นขาอย่างสบาย ๆ ดวงตาเป็นประกาย แต่ที่มากกว่าคือความจนปัญญา “สวีเหยียนซี ทำไมคุณทำราวกับผมจะกินคุณอย่างไงอย่างงั้น”สวีเหยียนซีอายจนหน้าแดง ก่อนยิ้มตอบด้วยความสุภาพว่า “เปล่าค่ะ ฉันอิ่มแล้วจริง ๆ”สำหรับความสุภาพจอมปลอมนี้ของเธอ จ้าวจวิ้นโจวควรชินตั้งนานแล้ว แต่ยิ่งมองเขายิ่งอยากจะฉีกหน้ากากจอมปลอมของผู้หญิงคนนี้ออกจริง ๆเมื่อถูกจ้องมองอยู่แบบนี้ สวีเหยียนซีรู้สึกราวกับโดนสัตว์ป่าที่จ้องมองเหยื่ออันแสนอร่อย

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 53

    บทที่ 53จ้าวจวิ้นโจวหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง ราวกับจะบอกเธอว่า จู่ ๆ ก็ลากผมเข้ามาเกี่ยวด้วยทำไมสวีเหยียนซีรู้สึกว่าครั้งนี้เธอฉลาดเป็นพิเศษ แทบจะเข้าใจสีหน้าของเขาทันที เธอยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดว่า “ประธานจ้าว ถ้าคุณเห็นผู้หญิงทุกคนที่จู่ ๆ ก็คลื่นไส้ขึ้นมา คุณจะสงสัยว่าท้องหมดล่ะสิ”ประโยคนี้เต็มไปด้วยการหยอกล้อกวนประสาท รวมทั้งเป็นการตำหนิพฤติกรรมเดามั่ว ๆ ของจ้าวจวิ้นโจวด้วยจ้าวจวิ้นโจว “…”ฟางห่าวกระแอมไอขึ้นมาอีกครั้ง พลางยกกำปั้นทุบฝ่ามือซ้ายอย่างไม่แรงไม่เบา ก่อนเอ่ยว่า “หา ที่แท้เป็นเรื่องเข้าใจผิดนี่เอง สถาปนิกสวี คุณรู้ไหมครับ ตอนนั้นท่าทางคุณที่รีบไปห้องน้ำ ทำให้คนอื่นตกใจกันหมด ผมก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้ว รอประธานจ้าวแจ้งให้ผมเรียกรถฉุกเฉินหรือรถพยาบาล”“เรียกรถพยาบาลทำไมคะ?” สวีเหยียนซีหลุดปากถามออกไป“ผมกับท่านประธานจ้าวสงสัยว่าอาหารร้านนั้นจะไม่สะอาด” ฟางห่าวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง จนทำให้สวีเหยียนซีเกือบเชื่อสนิทใจฟางห่าวยิ้มกว้างด้วยความเป็นมิตร ก่อนหยิบน้ำมะนาวขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น “ในเมื่อสถาปนิกสวีอยากดื่มกาแฟ งั้นผมไปเปลี่ยนมาให้นะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ…” เมื

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 52

    บทที่ 52สวีเหยียนซีเม้มปากเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า “ผู้ช่วยฟาง ฉันขอถามหน่อยค่ะว่าพวกเราต้องอยู่เมืองไห่อีกนานเท่าไหร่?”ฟางห่าวแปลกใจเล็กน้อย “สถาปนิกสวีมีธุระด่วนหรือเปล่าครับ?”เธอส่ายหัวก่อนตอบว่า “เมื่อกี้ฉันเจอเพื่อนของพี่ใหญ่ที่ใต้ตึกค่ะ”นี่ไม่ใช่เรื่องด่วน แต่เป็นเรื่องไม่ค่อยดี ฟางห่าวจึงพูดว่า “งั้นคุณเข้าไปบอกท่านประธานจ้าวเถอะครับ”หลังจากจ้าวจวิ้นโจวได้ฟังเรื่องนี้ ก็ขมวดคิ้วก่อนถามว่า “ใคร?”“ลู่ฉือค่ะ”ตระกูลลู่ก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลตระกูลหนึ่งในเมืองจิง จ้าวจวิ้นโจวเคยได้ยินมาบ้าง “งั้นก็เปลี่ยนที่อยู่”ประมาณสิบห้านาทีต่อมา สวีเหยียนซีสังเกตเห็นรถของพวกเขาแล่นเข้าไปยังคฤหาสน์สไตล์โบราณที่เงียบสงบท่ามกลางย่านพลุกพล่านพ่อบ้านและบรรดาคนรับใช้ยืนเรียงกันเป็นระเบียบทั้งสองฝั่ง พร้อมกันเอ่ยว่า “ยินดีต้อนรับคุณผู้ชายกลับบ้านครับ/ค่ะ”สวีเหยียนซีเพิ่งรู้ตัวว่า นี่คือคฤหาสน์ของจ้าวจวิ้นโจวเขามีบ้านอยู่ที่นี่ แล้วยังจะไปอยู่โรงแรมทำไมกัน?มีเงินเยอะจนไม่มีที่ใช้งั้นเหรอ?ฟางห่าวสังเกตเห็นว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงอธิบายด้วยความเป็นมิตรว่า “ท่านประธานจ้าวเกรงว

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 51

    บทที่ 51ตอนที่เรื่องราวของสวีหว่านหนิงและฉินเซียวแล่นเข้ามาในสมองเธออย่างบ้าคลั่ง สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้โดยไม่มีเหตุผลอย่างฉับพลัน“ขอโทษนะคะ ฉันไปห้องน้ำก่อนนะคะ”เธอวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่แสดงความบิดเบี้ยวนั้นจ้าวจวิ้นโจวมองเห็นได้อย่างชัดเจน ดวงตาของเขามืดดำลง ก่อนลุกขึ้น และหยิบขวดเลมอนโซดาจากโซนที่วางเครื่องดื่ม แล้วก็เดินอย่างไม่ช้าไม่เร็วไปยังห้องน้ำในห้องน้ำ สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้หลายครั้ง แต่ไม่ได้อาเจียนอะไรออกมาเลย หลังจากที่เธอบังคับตัวเองไม่ให้คิดถึงภาพที่น่าสะอิดสะเอียน อาการคลื่นไส้นั้นจึงค่อย ๆ หายไปบ้าไปแล้ว อยู่ดี ๆ จะคิดเรื่องนั้นทำไมกันเธอสะอิดสะเอียนตัวเองชัด ๆหลังจากล้างมือเสร็จ สวีเหยียนซีก็เดินออกมาจากห้องน้ำเธอพบว่าจ้าวจวิ้นโจวยืนพิงผนังอยู่ เธออึ้งไปก่อนเอ่ยว่า “ท่านประธานจ้าวคะ คุณก็มาเข้าห้องน้ำเหรอคะ?”“มาหาคุณ”“???” สวีเหยียนซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง เธอคิดว่าเขาอยากจะถามเรื่องที่เธอคุยกับเหมาเจียนั่ว “ประธานจ้าววางใจเถอะค่ะ คุณเหมาไม่ได้มาถามเรื่องคุณกับฉันหรอกค่ะ”จ้าวจวิ้นโจวหน้าตาเคร่งขรึม ไม่สามารถอ่านอารมณ์ออก เขายื่นเลมอนโซดาใ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status