"วันนี้ผู้คนในตลาดมากมาย แม่ระย้าแก้วเดิน ระวัง ๆ หน่อยหนา" พระพายพูดด้วยความเป็นห่วง
"พี่พระพายมิต้องห่วงข้าดอก ข้าจะเดินเล่นไม่ไปไหนไกล ข้าอยากไปดูผ้าเสียหน่อย" "ถ้าเยี่ยงนั้น ก็ให้แม่แตงอยู่เป็นเพื่อนเจ้าหนา เดี๋ยวพี่จะเดินไปดูของใช้อื่นๆ ด้านหน้านี้เสียหน่อย" พูดจบทั้งสองก็เดินแยกทางกันไป ซึ่งก็ไม่ได้ไกลกันมากมายนัก ส่วนระย้าแก้วนั้นไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่นาง ทุกย่างก้าวที่เดิน อยู่ภายใต้สายตาคู่นี้มิได้วาง "พี่แตง พี่จักไปเดินดูของกระไรก็ไปเถิด ข้าขอเดินเล่นคนเดียวตรงนี้นี่แหละ" "บ่าวไปหนาเจ้าคะ แต่คุณหนูระย้าแก้ว ทูนหัวของบ่าวจักต้องไม่ไปไหนไกลหนาเจ้าคะ"บ่าวคู่กายอย่างนางแตงก็กระวนกระวายสองจิตสองใจไม่อยากห่างผู้เป็นนาย "ข้าโตแล้วหนาพี่ มิต้องห่วงถ้าดอก"ระย้าแก้วสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะที่จะไม่ดื้อไม่ซน ทางด้านไอ้สิงห์ที่เห็นว่าระย้าแก้วออกไปกับ พระพายโดยการเดินเท้าออกจากวัดไป ปล่อยให้เรือพายนำหน้าไปก่อน มันก็ยิ่งสงสัยว่าพระพาย จักพาระย้าแก้วไปที่ใดมันจึงจะตามไปแต่ติดแม่จันทร์แรม "พี่สิงห์จักไปที่ใดกันเล่า รีบร้อนชอบกล"จันทร์แรมเอ่ยถามทันทีเห็นท่าทีรีบร้อนของไอ้สิงห์ "เอ่อ..พอดีพี่นึกขึ้นได้พี่มีธุระจะต้องจัดการให้กับพ่อก่อน"ไอ้สิงห์ปดคำโต "ไอ้ดำ..เดี๋ยวมึงให้ฝีพายไปส่งแม่จันทร์แรมให้ถึงหมู่บ้านหนา ส่วนมึงก็ไปคลุมเรืออีกลำตามประกบไปเดี๋ยวกูจะต้องไปทำธุระเสียหน่อย" ได้จ้ะพี่สิงห์ ข้าจะดูแลแม่จันทร์แรมอย่างดี มดไม่ให้ไต่ ไรไม่ตอมเลยจ้ะ"ไอ้ดำรู้ใจผู้เป็นนาย "ไม่ไปมิได้หรือ ข้าไม่อยากไปกับไอ้ดำ พี่จักไปที่ใดข้าขอไปด้วยได้หรือไม่"นางจันทร์แรมส่งเสียงออดอ้อน "ไปมิได้ดอก ทางที่พี่จะไปลำบากยิ่งนักจะทำให้ผิวพรรณของเจ้าเสียเปล่าๆ หนา" ไอ้สิงห์ที่พูดจบ ก็รุดหน้ารีบเดินตามหลังระย้าแก้วไปห่าง ๆ เพราะอยากจะรู้ว่าพระพายจะพาระย้าแก้วไปที่ใด ไอ้สิงห์ที่สะกดรอยตามระย้าแก้ว จนรอจังหวะที่จะแยกห่างจากพระพายและบ่าวคู่กายอย่างนางแตง แลรอสบโอกาสกระชากร่างบางเข้ามาในที่ลับตาตรงสระบัวข้างหลังตลาด "ว๊าย..!! อุ๊บ.."ระย้าแก้วถูกมือปริศนาปิดปากและฉุดกระชากนางมาตรงสระบัว พอมาถึงสระบัวบุรุษปริศนาก็เอาแต่โอบกอดระย้าแก้วจากทางด้านหลังปล่อยให้นางส่งเสียงเจื้อยแจ้วด่าทองอยู่เช่นนั้น "ปล่อยข้าหนา ปล่อย..! ไหนเอ็งเป็นผู้ใดกัน" ระย้าแก้วส่งเสียงข่มขู่บุรุษปริศนาที่ฉุดกระชากนางมาเยี่ยงกับโจร "ทำไมข้าจับต้องตัวเจ้ามิได้รึ..!! รึมีแต่ไอ้พระพายเท่านั้นหรือที่สามารถจับต้องตัวเจ้าได้"เสียงบุรุษปริศนาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาจับต้องตัวข้า..!! ข้าก็เป็นอิสตรีนางหนึ่ง หากแต่มิควรต้องมาใช้แย่งเจ้า"ระย้าแก้วเถียงคอเป็นเอ็น บุรุษร่างถึกสงบนิ่งแล้วจึงคลายอ้อมกอดที่รัดแน่นราวกับครีมเหล็กร้อน ค่อยๆปล่อยระย้าแก้วให้เป็นอิสระ ระย้าแก้วจึงหันกลับไปมองด้วยความกรุ่นโกรธ ที่อยู่ดี ๆ ก็โดนผู้ใดก็มิรู้ ลากไปลากมาราวกับสิ่งของ เมื่อนางหันกลับไปมองก็พบว่าบุรุษตรงหน้าที่ฉุดนางมานั้น คือคนที่เกลียดนางยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ "พี่สิงห์..!!!" "เออ..ข้าเองเอ็งมีปัญหากะไรหรือ.!"ไอ้สิงห์เอาลิ้นโดนกระพุ้งแก้มแล้วก้มลงมองร่างเล็กที่ทำหน้าตกอกตกใจใส่เขา "พี่ฉุดข้ามาด้วยเหตุใดเล่า"ระย้าแก้วเองนั้นก็ไม่เข้าใจเพราะไอ้สิงห์เป็นคนไล่ระย้าแก้วก่อนหน้านี้ด้วยตนเอง "เอ็งเป็นกระไร..ฮะ! ปกติข้าไล่เองยิ่งกว่านี้ก็ไม่เห็นเอ็งจักทำตัวเยี่ยงนี้ใส่ข้า"ไอ้สิงห์ตะคอกใส่ระย้าแก้ว "ข้าก็แค่คิดได้ก็เท่านั้นเอง ว่าข้าควรทำตามที่พี่บอกเสียตั้งนานแล้ว ต่อให้ข้าพยายามให้ตาย พี่ก็มิได้มีใจให้กับข้า รังเกียจข้ายิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือนเสียอีก" ดวงตาคู่สวยแดงกล่ำ กล่ำกลืนก้อนคำพูดที่ดูถูกตนเอง พยายามฝืนน้ำตามิให้ไหลริน แต่มันเกินจะหักห้ามความเสียใจที่บอบช้ำเกินทน ไอ้สิงห์ที่ได้ยินความในใจของระย้าแก้ว มันกลับรู้สึกปวดหน่วงๆ ที่หัวใจด้านซ้ายของมันปกติต่อให้มันจะทำไม่ดีขนาดไหนกับระย้าแก้วนางก็ไม่เคยทำตัว เย็นชาใส่มันเยี่ยงนี้ "ข้า...!!" เมื่อก่อนเขาเห็นน้ำตาของระย้าแก้ว เป็นเพียงของขบขันไว้แก้เบื่อ ต่อให้นางนั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้า เขาก็ไม่เคยจะสงสารนางเลยสักนิด แต่วันนี้กลับรู้สึกปวดใจอย่างบอกมิถูก "แล้วใครใช้ให้เอ็งมาชอบข้ากันเล่า ข้าหาได้บังคับจิตใจเอ็งไม่ แต่วันนี้เอ็งกลับมาต่อว่าข้า หาว่าข้าทำร้ายจิตใจเอ็งเยี่ยงนั้นหรือ..?" ไอ้สิงห์ทั้งที่ใจจริงอยากจะใช้มือปาดน้ำตาที่ใบหน้าสวย แต่หากศักดิ์ศรีลูกผู้ชายมันยังค้ำคอ เพราะมันได้ลั่นวาจาเอาไว้ ว่าต่อให้มันตายมันก็จะไม่รักระย้าแก้วเป็นอันขาด "หากข้ารู้เยี่ยงนี้..ข้าเองก็จักไม่รักพี่เช่นกัน..ฮึก..ในเมื่อพี่ไล่ข้าแล้ว..ฮื่อ ข้าเองก็มิได้ไปเสนอหน้าให้พี่ได้เห็นอีกเหตุใดพี่ยังมิพอใจอีกเล่า..!" ระย้าแก้วตะคอกกลับเสียงดังพร้อมกับเสียงสะอื้นด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ระย้าแก้ววิ่งหนีไอ้สิงห์ทันที เพื่อกลับไปหา พระพายที่ตลาด เธอปาดน้ำตาให้เหือดแห้ง แม้ความเสียใจจักเท่าทวีคูณ เกินกว่าจะควบคุมหัวใจดวงเล็กๆดวงนี้ได้ ที่ตลอดเวลาลมหายใจเข้าออก ของระย้าแก้วก็มีเพียงไอ้สิงห์เท่านั้น พระพายที่เห็นดวงหน้าสวย เปรอะเปื้อนด้วยน้ำตาก็รีบวิ่งเข้ามาหาระย้าแก้วทันที พร้อมกับโอบกอดปลอบประโลมร่างเล็ก "เอ็งเป็นกระไร ระย้าแก้ว ใครทำอะไรเอ็งบอกพี่มา ซิ อย่าร้องไห้เยี่ยงนี้เลย" ไอ้สิงห์ที่วิ่งตามมาก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้า โมโหโกรธเกรี้ยว กระชากร่างบางออกจากอ้อมอกของพระพายทันที "มึงปล่อยระย้าแก้วเดี๋ยวนี้"พร้อมกับโอบกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขนของตน "พี่สิงห์..!!! พี่เป็นบ้ากระไรนี่ ถึงได้มายืดยุดๆฉุดกระชากข้า เยี่ยงสิ่งของเยี่ยงนี้ ปล่อยข้านะ" ระย้าแก้วเองก็มิยอม แม้น้ำตาจากนองหน้า วันนี้นางจะไม่ยอมให้ไอ้สิงห์อีกต่อไป แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตอบโต้กะไร ไอ้สิงห์ก็โดนตีนใหญ่ของพระพายถีบเข้ายอดอก จนเซถลาไปกองอยู่ที่พื้น ส่วนระย้าแก้วผลจากพันธนาการจากไปสิงห์ก็วิ่งมาหาบ่าวคู่ใจอย่างแตง "ว๊าย...!! นี่ มันเรื่องกะไรกันเจ้าค่ะทูลหัวของบ่าว"แตงที่เพิ่งไปซื้อข้าวของเสร็จก็ตกใจไปตามๆกัน ส่วนสองหนุ่มก็เตะต่อยประเคนหมัดแม่ไม้มวยไทย ใส่กันไม่มีผู้ใดด้อยไปกว่ากันเลย ในเรื่องฝีไม้ลายมือ พระพายเองก็มิเป็นรองไอ้สิงห์ หากต่อยตีกันไปก็มีแต่จะทำให้ทั้งสองเจ็บตัว ดูทรงจะไม่มีทีท่าว่าจักมีผู้แพ้หรือชนะ ไอ้ดำที่ไปส่งนางจันทร์แรมเสร็จ จึงเดินมาตลาดแต่กลับได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมกลางตลาด จึงรีบวิ่งมาดูจึงเห็นว่าผู้เป็นนายกำลังมีเรื่องอยู่จึงรีบเข้าไปห้ามปรามทันที "พี่สิงห์หยุดเถิด..!!พี่ นี่มันกลางตลาดนะหากพ่อพี่รู้เข้าจากโดนลงโทษอย่างหนักเอาได้นะพี่" ไอ้ดำรีบกล่าวเตือนสติพร้อมกับพยุงผู้เป็นนายให้ลุกขึ้นยืนเพราะดูท่าทั้งสองจะสีไม้ลายมือไม่เป็นรองกันต่อยตีกันไปก็มีแต่จะเจ็บตัวทั้งคู่ "มึงรีบลากนายของมึงใส่หัวออกไปเถอะ หากมันยังเป็นหมาบ้าเยี่ยงนี้อยู่ก็จะโดนตีนผู้อื่นมิรู้ตัว"พระพายเองก็ไม่ยอมแพ้ "มึง...ไอ้พระพาย.!!"ไอ้สิงห์เตรียมจักกระโจนใส่พระพายอีกรอบนึงแต่ก็ถูกไอ้ดำดึงรั้งเอาไว้ "พอเถอะพี่พระพาย วันนี้เรามีเรื่องราวกันมากพอแล้ว กลับบเรือนกันเถิดหนา ป่านนี้แม่ข้าคงเป็นห่วงข้าแล้ว"ระย้าแก้วที่น้ำตานองหน้าแต่ก็ยังพอมีสติห่วงแต่กลัวตัวนั้นจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเช่นกัน "ไปจ๊ะระย้าแก้ว พี่ขอโทษเจ้านะ ที่ทิ้งเจ้าจนต้องมีเรื่องมีราวเยี่ยงนี้" ไอ้สิงห์ที่ได้ยินพระพายออดอ้อนระย้าแก้วเขายิ่งรู้สึกอยากจะเอาชนะ แต่แววตาที่เปลี่ยนไปของระย้าแก้วที่มองมาที่เขานั้นมันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดทางด้านจันทร์แรมที่ถือศีลภาวนาตามที่พ่อหมออาจารย์คงได้แนะนำเพราะนางต้องการทำนะหน้าทองในคืนวันเพ็ญที่จะมาถึงอีกสองเพลานางนุ่งขาวห่มขาวมิพูดมิจากับผู้ใด"อีชมลูกสาวกูทำกระไร เหตุอันใดนางจึงจะต้องนุ่งขาวห่มขาวด้วย"ผู้เป็นบิดาของจันทร์แรมเอ่ยถามด้วยความสงสัย"เอ่อ...คือแม่นายจันทร์แรมไปหาอาจารย์คงมาเจ้าค่ะ"อีชุ่มมิอยากอธิบายอะไรมากเพียงแค่เอ่ยชื่ออาจารย์คงบิดาของจันทร์แรมก็เข้าใจทุกอย่างได้ดี"หากข้าเตือนมันแล้วมิฟัง ก็จงปล่อยมันไปตามทางของมันเถิด"ผู้เป็นพ่อถึงกับถอดถอนหายใจเพียงอีกไม่กี่เพลาพี่สิงห์ก็จะตกเป็นของข้าทั้งกายและใจหากนับจากนี้เป็นต้นไปจะไม่มีผู้ใดมาพรากพี่ไปจากข้าได้อีก" จันทร์แรมที่นั่งภาวนาถือศีลอยู่ในห้องได้คิดในใจทางด้านไอ้สิงห์ที่ร้อนรนอยากให้บิดาของตนและแม่ของตนไปขอระย้าแก้วจากแม่ศรีนวลและพ่อหมอไทย"หากแต่สิ่งที่ไอ้สิงห์ทำไว้กับระย้าแก้วบางอย่างก็เกินกว่าจะให้อภัย สุดแล้วแต่เวรกรรมของเอ็งเถิดหนาไอ้สิงห์ หากพ่อไปขอแล้วพ่อและแม่เขามิยกให้ เอ็งจะต้องทำใจหนา"ผู้เป็นบิดาของไอ้สิงห์บอกกับลูกชายตั้งแต่เนิ่นๆ
เช้าย่ำรุ่งไอ้สิงห์ที่ตื่นก่อนระย้าแก้ว มันจึงค่อยๆคลายอ้อมกอด ออกจากร่างอรชร ที่หลับสนิทมันแกะเชือกที่พันรอบข้อมือเล็กของระย้าแก้ว เอากลับไปผูกที่เอวของมันดังเดิมมันยังคงมลืมก้มลงไปจูบหน้าผากมนราวกับหวงแหน ความรู้สึกของมันบัดนี้ชัดเจนเกินกว่าที่มันจะปฏิเสธหัวใจของตนเองได้"ข้าจักรีบกลับมาหาเอ็ง แลทำดีกับเอ็งให้มากกว่านี้จากนี้ต่อให้เอ็งมิให้อภัยข้า ข้าก็จะตามรักเองทุกชาติไประย้าแก้ว" ไอ้สิงห์พูดจบมันก็รีบปีนออกจากห้องนอนของระย้าแก้ว หากอยู่จนมีคนมาพบมันเกรงว่าชื่อเสียงของระย้าแก้วจากเสียงหายวันนี้เป็นวันที่สองที่ระย้าแก้ว ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกมากมาย แม้ก่อนหน้านี้จะมุ่งมั่นและแน่วแน่ที่ตัดสินใจว่าจะตัดไอ้สิงห์ออกจากหัวใจ แต่หากนางกลับคิดย้อนกลับ หากเมื่อคืนที่ผ่านมามิใช่ฝันนาง ก็จะเก็บทุกความรู้สึกที่ไอ้สิงห์มอบให้จบจนวันสุดท้ายของนาง หากแม้มิใช่บุพเพสันนิวาสกันแล้วก็คงต้องแคล้วกันไป"หากพี่กับข้าเป็นเนื้อคู่กัน เราคงได้กลับมาเจอกันอีก หากเพลาในเพลานั้นข้ายังรักพี่ แลพี่เองก็ยังรักข้า เราคงได้ครองคู่กัน" ระย้าแก้วเมื่อนางตัดสิน
คืนนี้รคืนนี้ระย้าแก้วยังคงยืนมองพระจันทร์ที่หน้าต่าง ตรงที่เดิมเป็นประจำ โดยที่ระย้าแก้วมิได้สังเกตเงาดำทะมึนของชายร่างใหญ่คนหนึ่งที่แอบอยู่ตรงโคนต้นไม้ใหญ่ ตรงข้ามกับหน้าต่างห้องของเธอกิ่งก้านสาขาแข็งแรง จนโน้มมาถึงหน้าต่างพอดีนั่นคือไอ้สิงห์ที่ลอบแอบตามระย้าแก้วมาตั้งแต่ตลาดหลังจากสลัดจันแรมได้ มันเพียงหาโอกาสที่จะเข้าใกล้ระย้าแก้วในคืนนี้"คืนนี้ข้าจักรอดูคนเก่งเยี่ยงเอ็ง หากเห็นข้าในห้องเอ็งจะทำเช่นไร"ไอ้สิงห์นึกสนุก คึกคะนองอยากจะจัดการระย้าแก้วที่ยิงทรนงขึ้นทุกวันระย้าแก้วคืนนี้ที่นอนมิหลับ นางจึงเอาแต่นั่งเล่นรับลมอยู่ริมหน้าต่าง จนกระทั่งเดินไปที่เตียงนอน นอนเล่นพลิกไปพลิกมา ทำอย่างไรก็มิหลับไอ้สิงห์ที่เห็นว่าตอนนี้ เป็นเวลาที่ทุกคนหลับสนิทหมดแล้ว มันจึงค่อยๆ ปีนต้นไม้มาที่ตรงระเบียงห้องหน้าต่างของระย้าแก้วระย้าแก้วที่ได้ยินเสียงกุกกักก็คิดว่าเป็นเสียงหนูกระมังก็ไม่ได้สนใจอันใด"แม่ตัวดี นอนหลับตาพริ้มเชียวหนา"เสียงไอ้สิงห์พูดเบาๆ แผ่วเบาแต่กลับได้ยินชัดเจนไปที่หูของระย้าแก้ว"พี่สิงห์ใช่หรือไม่..!!"เพียงแค่
ระย้าแก้วพอเที่ยวจนหนำใจจึงชวนอีแตงและพ่อพระพรายกลับเรือน เพราะแดดเริ่มแรงมาก ทั้งสามจึงเดินกลับไปที่ท่าเรือ เพื่อจะขึ้นเรือกลับไปที่เรือนของระย้าแก้ว"วันนี้น้องสนุกมากเลยเจ้าค่ะ พี่พระพราย"ระแก้วยิ้มอารมณ์ดี"เจ้าสนุกพี่ก็ดีใจ พี่ไม่อยากเห็นเจ้าทุกข์ใจ ไม่ว่าเรื่องอันใดก็ตาม เจ้ามิเหมาะที่จะร้องไห้หนาระย้าแก้วของพี่"ระย้าแก้วที่เห็นความจริงใจและความใส่ใจของพระพรายที่มีต่อเธอ เธอรู้สึกขอบคุณที่พระพรายเอ็นดูและเมตตาเธอเช่นนี้ไอ้สิงห์ที่เห็นพระพรายและระย้าแก้ว พากันขึ้นเรือจากท่าน้ำที่ตลาด มันจึงเร่งให้ไอ้ดำเดินตามและเตรียมออกจากตลาดเช่นกัน วันนี้มันจะต้องคุยกับระย้าแก้วให้ได้ มิว่าเกิดอันใดจักเกิดขึ้นก็ตาม"พี่จักรีบไปที่ใดกันเล่า" ไอ้ดำรีบเอ่ยถามเห็นท่าทีรีบร้อนของไอ้สิงห์"กูจะรีบไปที่ท่าเรือ มึงก็รีบตามกูมาเถิดกูมีบางอย่างจักต้องทำ"แต่พูดยังไม่ทันจบก็เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งให้ไอ้สิงห์มีเหตุเมื่อเจอนางจันทร์แรมที่กลางตลาด"พี่สิงห์..! พี่หายหน้าหายตาไปที่ใดมา เหตุใดพี่จึงมิไปหาข้าบ้างเลยเล่า"นางจันทร์แรมที่ทำท่าทีระริกระ
วันนี้ระย้าแก้วใช้เรือลำใหญ่ของพระพรายที่มีหลังคาบังแดด บังฝนได้ เป็นอย่างดีพร้อมกับฝีพายและอีแตงบ่าวรับใช้ผู้ซื่อสัตย์"วันนี้แดดดีเสียจริงหนาพี่พระพราย"ระย้าแก้วนั่งพูดคุยสนุกสนาน เป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน ที่ระย้าแก้วกลับมาพูดและดูสดใส"หากแดดแรงเช่นนี้ เจ้าก็ระวังผิวของเจ้าเสียหน่อยเถิด ตอนเดินในตลาดให้อีแตงกางร่มให้เจ้าหนา" พระพรายเป็นห่วงระย้าแก้วแต่เหมือนความบังเอิญและโชคชะตาอยากจะเล่นตลกทำให้คนที่มิอยากเจอ ก็เจอ แม้จะอยู่กลางคูน้ำก็ยังได้เจอ เรือของไอ้สิงห์พายตีคู่ประกบเรือของพ่อ พระพรายแม้จะไม่เห็นหน้าของระย้าแก้วเพราะมีผ้าไหมบาง ๆ กั้นแต่มันก็มองเห็นลาง ๆ และจำได้มิเสื่อมคลาย"ไอ้ดำ.! มึงพายไปใกล้ ๆเรือของมัน" ไอ้สิงห์สั่งเสียงเหี้ยม"เราจักพายไปใกล้เรือของมันทำไมกันเล่า"พี่ไอ้ดำเอ่ยปากถามอย่างสงสัย"เออ..กูสั่งให้มึงพายก็พายไปเถอะ กูก็อยากจะตีคู่เรือของหน้าอ่อนอย่างมันเช่นไรเล่า"ไอ้สิงห์ที่พาลจะหาเรื่องพ่อพระพราย มันก็สู้มิถอยยิ่งเห็นว่าพระพรายมากับแม่ระย้าแก้วมันยิ่งรู้สึกหงุดหงิดอยากจะเอาชนะให้ได้"ว้าย..! เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ เหตุใดเรือจึงโคลงเคลงเช่นนี้เล่า"เสียงอีแตงร
"หากหลังจากนี้น้องจะต้องเดินทางอีก 3 วันข้างหน้า น้องต้องรักษาตัวให้ดี เตรียมข้าวของให้พร้อมการเดินทางข้างหน้าอีกยาวไกล ใช้เวลาหลายวันโขกว่าเราจะถึงตัวเมืองสุโขทัย พระพรายพูดเสริม"น้องจักเตรียมตัวให้ดีเจ้าค่ะ คุณพี่มิต้องเป็นห่วงน้องดีขึ้นมากแล้ว ทั้งงกายแลใจ" ระย้าแก้วตั้งใจแน่วแน่ที่จะตัดใจจากไอ้สิงห์ แม้ทั้งหัวใจยังคงรักและอาลัยแต่ตอนนี้นางกลับมิแสดงอาการใดๆออกมา"ถ้าทั้งหมดเห็นพ้องต้องกัน เช่นนั้นลูกก็ไปเตรียมตัวเถิด แม่กับพ่อจะเตรียมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ทั้งยาแลสมุนไพร ให้กับลูกแลพ่อพระพรายเพื่อออกเดินทางกว่าจะถึงสุโขทัยก็ใช้เวลา 3-4 วัน""ลูกขอบน้ำใจคุณพ่อกับคุณแม่ ที่รักและเป็นห่วงความรู้สึกของลูกเหนือสิ่งอื่นใด""ไปเถอะลูก ไปใช้ชีวิตในแบบที่เจ้าอยากจะใช้ พ่อมิอาจห้ามลูกได้หนา" พร้อมกับลูบไปที่หัวลูกสาวด้วยสายตาเอ็นดู"ขอบน้ำใจเจ้าค่ะคุณพ่อ"หลังจากพูดคุยกันจบ พระพรายได้ฝากท้องที่เรือนของระย้าแก้ว ก่อนหน้านี้แทบจะทุกวัน พระพรายคลุกคลีกับระย้าแก้วไม่ห่างระย้าแก้วเตรียมตัวเตรียมใจที่จะจากบ้านเรือนที่ตนรักและพ่อแม่ที่รักตนมาก นางนั่งถอดถอนหายใจรู้สึกใจหาย ถึงแม้นางจะอายุเ
เสียงดังเอ็ดตะโรลั่นสวนลั่นทมของระย้าแก้วกำลังเป็นที่ดึงดูดความสนใจ ของเราบรรดาข้าทาสบริวารในเรือน เพราะเสียงระย้าแก้วทะเลาะกับไอ้สิงห์เสียงดังลั่น จังหวะนั้นพระพรายที่มาเยี่ยมไข้ระย้าแก้วมาตลอด ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง เดินลงเรือนมา ตั้งใจจะเอาขนมมาฝากระย้าแก้ว ที่สวนดอกลั่นทมพอดี"นั่นมึงทำกระไรแม่ระย้าแก้ว ..!! ไอ้สิงห์ปล่อยนางบัดเดี๋ยวนี้" พระพายที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาระย้าแก้วที่ติดพันธนาการภายใต้ร่างใหญ่ของไอ้สิงห์"ที่แท้ทำเป็นสะดีดสะดิ้ง ไม่อยากได้ข้าเป็นผัว ก็เพราะมีผู้ชาย หน้าละอ่อนเยี่ยงไอ้เวร..! นี่ เทียวไล้เทียวขื่อ จนหัวกระไดไม่แห้งเยี่ยงนี้นี่เอง"ไอ้สิงห์พ่นคำร้ายๆใส่ระย้าแก้ว"ปล่อยข้าบัดเดี๋ยวนี้ ข้ามิต้องการเห็นหน้าคนอย่างพี่อีก ออกไปจากเรือนข้าซะ"ระย้าแก้วก็ไม่ยอมแพ้ให้กับคนนี้ใส่เสียและหยิ่งทรนงเช่นไอ้สิงห์ดั่งเก่าก่อน"กูบอกให้มึงปล่อยมือ แม่ระย้าแก้วอย่างไรเล่า หากมึงมิปล่อยแม่ระย้าแก้ว มึงได้มีเรื่องกับกูเป็นแน่.!"พระพายก็โมโหเลือดขึ้นหน้าที่ไอ้สิงห์ไม่ให้เกียรติระย้าแก้ว"กูปล่อยก็ได้..!แต่มึงจำไว้ความรักทั
ไอ้สิงห์ก้าวเดินไปตามทาง พร้อมกับหันไปเห็นร่างอรชรที่กำลังนั่งร้อยมาลัย รับลมอยู่กลางศาลาน้ำ เหล่าฝูงปลาแหวกไหว้ ดอกลั่นทมตามสะพรั่งทั้งสวน หัวใจของมันรู้สึกสั่นไหว มันมิรู้จักสู้หน้าระย้าแก้วเช่นไรเพราะบัดนี้นางได้เปลี่ยนไปสิ้นตั้งแต่วันที่มันได้เห็นแววตาคู่นั้นที่ว่างเปล่า "ระย้าแก้วเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง"เสียงแผ่วเบาราวกับสายลมจากปากของไอ้สิงห์ ระย้าแก้วที่ได้ยินเสียงคุ้นหู จึงหันกลับไปมองเจ้าของเสียง ในขณะที่สองมือยังคงร้อยมาลัยดอกลั่นทม นางปรายตามองไอสิงห์ด้วยสายตาที่เรียบเฉยไม่มีความรู้สึกหลงเหลืออยู่ในดวงตาผู้สวย "ลมอันใดหอบพี่มาที่นี่เล่า เหตุใดวันนี้พี่จึงมาเรือนของข้าได้..พี่มาผิดเรือนหรือไม่..? ข้าจะต้องขออภัย ที่ไม่สามารถต้อนรับพี่ได้ในเพลานี้ พี่กลับไปเสียเถิด" ในรอบหลายวันนี่เป็นประโยคยาวๆ ประโยคแรกที่ระยะแก้วได้พูด ระย้าแก้วปรายตามองไอ้สิงห์เพียงแวบเดียวแล้วหันกลับไปร้อยมาลัยดอกลั่นทมต่อ ปากก็พูดแต่มิหันไปมองหน้าไอ้สิงห์เลย "เอ็งไม่ต้องไล่ข้าดอก ข้าแค่อยากจะมาดูว่าเอ็งตายหรือยัง เพราะเห็นข่าวว่าจับไข้เสียหลาย"ว
มือหนาเย็นเฉียบ โอบกอดไปที่ร่างอรชรที่ไร้สติ แม้คนข้างหลังจะห้ามปรามไอ้สิงห์ ให้วางร่างของ ระย้าแก้วลง แต่มันกลับดื้อดึงไม่ยอมปล่อยและเดินตรงกับเรือนอย่างรวดเร็ว ไอ้สิงห์ก้าวขึ้นเรือนของพ่อหมอไทยด้วยความช่ำชองแล้วตรงเข้าห้องของระย้าแก้วทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจว่าเหตุใดมันจึงรู้ว่าห้องไหนเป็นของนาง"ขอบน้ำใจพ่อสิงห์ ที่อุตส่าห์อุ้มลูกสาวข้า มาส่งถึงที่เรือน หากแต่มิมีอันใดน่าเป็นห่วงแล้ว พ่อกลับเรือนของพ่อเถิด" พ่อหมอไทยเอ่ยปากไล่ไอ้สิงห์ทันที"แต่ว่า...!!!" ไอ้สิงห์จะเอ่ยปาก ขออยู่รอดูอาการของระย้าแก้ว แต่กลับมิมีโอกาส"ถือว่าข้าขอพ่อสิงห์สักครั้งเถิด พ่อกลับเรือนของพ่อไปก่อนหนา ให้ข้าได้รักษาลูกสาวข้าด้วยเถิด" พ่อหมอไทยส่ายหัวไปมาอย่างผิดหวังไอ้สิงห์จำใจต้องลุกขึ้น เดินออกจากเรือน พร้อมกับความรู้สึกผิดพรั่งพรู ในหัวใจของมันตีกันวุ่นไปหมด ไอ้สิงห์เดินลงมายืนอยู่ตรงหน้าเรือนอย่างสงบนิ่งพาลคิดทบทวนเรื่องราวมากมายของตนเอง พร้อมกับปลายตาหันกลับไปมองชายคาห้องของระย้าแก้ว"กลับเรือนเถิดพี่สิงห์ ประเดี๋ยวเอาไว้แม่ระย้า