Share

บทที่ 601

Author: จิ้งซิง
เวินเฉวียนเซิ่งสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ข้าจะไปเอง”

พ่อบ้านเข้าใจในทันที

จากนั้น ในไม่ช้าสองนายบ่าวก็มาถึงหน้าห้องหนึ่งในจวนที่ไม่มีคนอาศัยมานานหลายปี

หลังจากพ่อบ้านไขประตูแล้ว เวินเฉวียนเซิ่งก็ค่อย ๆ ยกมือขึ้นและผลักประตูให้เปิดออก

ก่อนหน้านี้จะมีผู้คนมาปัดกวาดที่นี่ทุกวัน

แม้ว่าจะวังเวงแต่ก็ยังสะอาดสะอ้าน ไร้ฝุ่นสักเม็ด

แต่ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขุดศพจากหลุมครั้งนั้น เวินเฉวียนเซิ่งก็กลัวว่าเวินเยวี่ยจะทำเรื่องที่ไม่ควรทำอีก ดังนั้นจึงสั่งให้ใส่กุญแจสถานที่แห่งนี้ไว้

นี่เพิ่งผ่านไปเพียงสองสามเดือน ภายในห้องก็ดูรกร้างแล้ว

แม้กระทั่งในหลาย ๆ มุมก็ยังมีใยแมงมุมห้อยอยู่

เวินเฉวียนเซิ่งมองใยแมงมุมเหล่านั้นแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปในนั้น

หลังจากเดินไปถึงกลางห้อง เขาก็ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

ดวงตาอันลุ่มลึกจ้องมองห้องนี้ สายตากวาดไปรอบ ๆ ทีละนิด

จริงจังเช่นนั้น ราวกับกำลังค้นหาใคร แต่ก็เหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่างด้วย

แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร สุดท้ายเขาก็หาไม่พบอยู่ดี

ห้องนี้ว่างเปล่าลงไปมาก

ตั้งแต่หลานจื่อจวินตายจากไป เขาก็ย้ายออกจากที่นี่ ซ้ำยังย้ายข้าวของข
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 614

    “เจ้า?”หลินเนี่ยนฉือมองนางอย่างไม่อยากเชื่อ “เจ้าทำอะไร?”อันหลันซินกล่าวอย่างยิ้มแย้ม “เจ้าไม่รู้หรือ? ข้าคิดว่าคุณหนูใหญ่หลินอย่างเจ้ารู้ทุกเรื่องเสียอีก เพราะหลังจากที่อาซื่อกลายเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ ครั้งแรกที่เดินทางไปขอฝนที่จินโจวจนชื่อเสียงเลื่องลือ มันเป็นฝีมือของข้า”สีหน้าหลินเนี่ยนฉือเต็มไปด้วยความโกรธทันที “ครั้งนั้นเป็นฝีมือของเจ้าจริงๆ ด้วย!”“อันหลันซิน เจ้าไปเอาความหน้าด้านเช่นนี้มาจากไหน ยังกล้ายอมรับว่าเรื่องนั้นเป็นฝีมือของเจ้าอีกหรือ?! เจ้ารู้หรือไม่ว่า เจ้าเกือบฆ่าอาซื่อตาย!”ตอนนั้นพยายามไม่พูดถึงเรื่องที่ถูกลอบสังหารต่อหน้าหลินเนี่ยนฉือ แต่หลินเนี่ยนฉือกลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ หลังจากถามอยู่หลายครั้งจึงจะรู้ว่าเวินซื่อถูกลอบสังหารระหว่างทางไปจินโจวหลายครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนคอยปกป้องตลอดทาง เกรงว่าอาซื่อของนางกลับมาไม่ได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าชื่อเสียงเลื่องลือหรือไม่!“เจ้าจะไปรู้อะไร? ฐานะและความมั่งคั่งได้มาจากการเสี่ยง ถ้าหากเป็นแค่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่มีแต่ชื่อ เช่นนั้นสักวันอาซื่อก็จะถูกเวินเยวี่ยเหยียบอยู่ใต้แทบเท้า มีเพียงนางก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 613

    ความสงสัยนี้คลี่คลายลงในพริบตาที่เห็นอันหลันซิน หลินเนี่ยนฉือกัดฟันยันร่างกายลุกขึ้น มองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ทำไม ข้ากลับเมืองหลวงเจ้าก็นั่งไม่ติดแล้ว? แต่ข้าก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่า เจ้าอยากจะให้ข้าตายถึงเพียงนี้ ดูเหมือนเจ้าจะเกลียดข้ามากจริงๆ”หลินเนี่ยนฉือรู้นานแล้วว่าอันหลันซินมีท่าทีที่เป็นปรปักษ์และเกลียดนางอย่างน่าประหลาดนางคิดว่าเป็นเพราะตอนนั้นนางไปด่าทออันหลันซินที่สกุลอัน ทำให้คนทั้งเมืองหลวงรู้เรื่องที่นางอันหลันซินไร้มโนธรรม เนรคุณ และทรยศเพื่อน ทำให้ชีวิตของอันหลันซินตกลงไปในก้นเหวอีกครั้งแต่เหมือนว่ามันก็ยังไม่สมเหตุสมผลก็จริงว่าความเกลียดชังเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น แต่ความเป็นปรปักษ์กลับมีตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกนางรู้จักกันจนถึงวันนี้ หลินเนี่ยนฉือก็ยังไม่เข้าใจแต่นางก็สามารถรู้ได้อย่างคลุมเครือว่าเป็นเพราะอาซื่อแน่นอน“หลินเนี่ยนฉือ เหตุใดเจ้าต้องกลับเมืองหลวง?”อันหลานซินยืนจ้องหลินเนี่ยนฉืออยู่ตรงที่เดิมอย่างไม่ละสายตา สายตาเย็นชาเหมือนคมมีด ราวกับอยากเฉือนเนื้อจากร่างหลินเนี่ยนฉือหลินเนี่ยนฉือกำแส้ม้าในมือแน่น แม้ร่างกายสะบักสะบอมมาก แต่ท่าทีของนางย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 612

    ตะขอเหล็กทะลุหน้าต่าง เกี่ยวกับตัวรถม้าแน่นหลินเนี่ยนฉือที่เห็นภาพนี้ ม่านตาหดฉับพลัน “แย่แล้ว!”แทบจะก่อนรถม้าเอียงหนึ่งวินาที นางกระโดดออกจากหน้าต่างรถม้าฉับพลัน“คุณหนูใหญ่ระวัง!”หลินเนี่ยนฉือเพิ่งตกลงบนพื้น ก็มีชายปิดหน้าสองคนพุ่งมาทางนางโชคดีที่หลินเนี่ยนฉือตอบสนองไว นางเหวี่ยนแส้ม้าในมือออกไปอย่างแรง“เพียะ!”เสียงแส้ม้าที่ชัดเจนจุดประกายการต่อสู้ครั้งนี้คนสะกดรอยตามที่ปิดหน้ามีสามสิบคนจริงๆพวกเขาปิดล้อมหลินเนี่ยนฉือกับองครักษ์ทั้งหมดของนางในป่า และเริ่มลงมือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงโดยเฉพาะหลินเนี่ยนฉือ ยิ่งถูกหลายคนล้อมโจมตีถ้าไม่ใช่เพราะองครักษ์ที่นางพามาด้วยแต่ละคนล้วนเป็นระดับหัวกะทิ ประกอบกับฝีมือของนางยังสามารถสู้หนึ่งต่อสามได้ชั่วคราว เกรงว่าการต่อสู้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นก็เกือบจะถูกฆ่าตายหมดแล้วแต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ต้านได้อีกไม่นานแล้วเพราะคนปิดหน้ากลุ่มนี้ตระหนักถึงความแตกต่างของความแข็งแกร่งระหว่างสองฝ่ายอย่างรวดเร็ว พวกเขาเปลี่ยนกลยุทธ์ทันที ไม่ได้ฝืนใช้กำลัง แต่ใช้ความได้เปรียบจากจำนวนคนผลัดกันโจมตีเมื่อเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 611

    หลังจากส่งบทสวดขอพรของวันนี้ไป เวินซื่อที่จู่ๆ ก็รู้สึกไม่สบายใจวิ่งเข้าไปในแปลงสมุนไพรนางใช้จอบน้อยถางหญ้าเงียบๆหวังใช้วิธีเช่นนี้ข่มอารมณ์ที่สับสนของตัวเองเพราะปกติเวลาที่นางอารมณ์ไม่ดีหรือไม่สบายใจ ก็ทำเช่นนี้ตลอดถางหญ้า ปลูกสมุนไพร ไม่นานก็ดีขึ้นแล้วแต่วันนี้กลับไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด นางถางหญ้าที่หลังภูเขาจนหมดเกลี้ยง อารมณ์ที่กระสับกระส่ายยังคงไม่สงบลง“ข้าเป็นอะไรกันแน่?”เวินซื่อลุกคน ลูบหน้าอกด้วยความกังวลนางเงยหน้ามองลงไปที่เชิงเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงจะหยิบตะกร้าและจอบขึ้นมา “ช่างเถอะ วันนี้กลับไปก่อนดีกว่า”กลับไปเตรียมอาหารเย็นเสร็จ อีกสักพักหลินเนี่ยนฉือก็น่าจะกลับมาแล้วทุกครั้งที่นางกลับมาก็บ่นว่าหิว นี่ถ้าไม่เตรียมไว้ให้นางก่อน เกรงว่ากลับมาก็จะเริ่มโวยวายอีกแล้วเมื่อคิดเช่นนี้ เวินซื่อยิ้มแล้วยิ้มอีก จากนั้นกลับไปที่เรือนเล็กอย่างรวดเร็วขณะเดียวกัน หลินเนี่ยนฉือก็อยู่ระหว่างทางกลับอารามสุ่ยเยว่แล้วจริงๆและในรถม้ายังมีองุ่นใสแจ๋วสองตะกร้าที่แท้ที่ไทเฮาเรียกหลินเนี่ยนฉือไปวันนี้ ก็เพราะองุ่นที่เบื้องล่างถวายมาถึงแล้ว และยังมีผ้าไหมชั้นดีบางส่วนไทเฮ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 610

    “เหอะ พี่สาม ใครทำให้ท่านตกใจกลัว เยวี่ยเอ๋อร์ในสภาพนี้น่ากลัวมากหรือ?”เวินเยวี่ยหัวเราะออกมาโดยพลัน พยายามฉีกยิ้มมุมปาก ข่มเจตนาฆ่าในดวงตาเอาไว้ฆ่าไม่ได้อย่างน้อยก็ยังฆ่าไม่ได้ในตอนนี้หากฆ่าไปแล้ว บิดาต้องสงสัยนางเป็นแน่เดิมทีช่วงนี้บิดาก็ไม่พอใจในตัวนางเป็นอย่างมากอยู่แล้วดังนั้นต่อให้นางต้องการฆ่าก็ต้องหาเวลาที่เหมาะสมถึงขั้นที่ว่า ยังต้องใช้คุณค่าสุดท้ายของเวินจื่อเยวี่ยให้คุ้มค่าสักหน่อยไม่เช่นนั้น นางเสแสร้งต่อหน้าเวินจื่อเยวี่ยเป็นเวลานานเช่นนี้แต่กลับไม่ได้อะไรเลย มันจะขาดทุนขนาดไหน?หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว เวินเยวี่ยก็ยกมือขึ้นแตะใบหน้าโชกเลือดของตัวเอง เผยความคับข้องใจออกมาเช่นเคยพลางเอ่ยว่า “อย่าบอกนะว่าพี่สามรู้สึกเยวี่ยเอ๋อร์เสียโฉมแล้ว ก็เลยไม่ชอบเยวี่ยเอ๋อร์แล้ว?”“จะเป็นไปได้อย่างไร! ไม่ใช่นะ ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้นแน่นอน!”เดิมทีเวินจื่อเยวี่ยยังสะดุ้งโหยงกับสายตาของเวินเยวี่ยเมื่อครู่นี้ แต่ทันทีที่เห็นการร้องไห้อย่างคับข้องใจก็เปลี่ยนคำพูดทันที “ผิดที่เมื่อครู่พี่สามตาลายเอง เห็นสายตาของน้องหกไม่ชัดเจน พี่สามขอโทษน้องหก น้องหกอย่าร้องไห้เลยได้ไหม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 609

    “เวินจื่อเยวี่ย!”หลินเนี่ยนฉือขึ้นเสียงอย่างดุดัน จ้องมองเขาแวบหนึ่งอย่างดุร้าย “อย่าเอาปากเน่า ๆ ของท่านมาพูดถึงอาซื่อของข้า อาซื่อของข้าดีกว่าพวกท่านสองคนเป็นพันเท่าหมื่นเท่า และนางไม่จำเป็นต้องมาพูดอะไรกับข้า เพราะข้าชอบเอาใจนาง ต้องการสั่งสอนบทเรียนให้กับพวกท่านที่กล้ารังแกนาง!”“อีกอย่าง จงจำไว้ให้ดี ครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น”สายตาเย็นชาของหลินเนี่ยนฉือเลื่อนผ่านตัวเวินเยวี่ย นางเอ่ยยิ้มเยาะ “จากนี้ไปพวกท่านต้องซ่อนตัวสักหน่อยจะดีที่สุด ข้าบอกไปแต่แรกแล้วว่า หากพวกท่านกล้าปรากฏตัวต่อหน้าข้าหนึ่งครั้ง ข้าก็จะทุบตีพวกท่านหนึ่งครั้ง”“ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เวลาใด ทุบตีถึงระดับไหนขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นข้ามีอารมณ์อย่างไร”และวันนี้ อารมณ์ของนางนั้นแย่มากดังนั้นจึงเอาใบหน้าของลูกสาวนอกสมรสคนนี้มาทำให้อารมณ์ดีสำหรับเวินจื่อเยวี่ยนั้น...“เพียะ! เพียะ! เพียะ!”หลินเนี่ยนฉือฟาดลงบนตัวเวินจื่อเยวี่ยอย่างแรงด้วยแส้อีกสามครั้งโดยไม่เกรงใจยิ่งเขาปกป้องเวินเยวี่ยได้ดีและแน่นหนาขึ้นเท่าใด นางก็ยิ่งตีเขารุนแรงมากขึ้นเท่านั้นแส้สุดท้ายฟาดลงไป เกือบทำให้กระดูกแขนของเขาแตก “เป

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 608

    “อุ๊บ!”ความเจ็บปวดที่จินตนาการไว้ไม่ได้เกิดขึ้นแต่สิ่งที่ดังขึ้นมากลับเป็นเสียงหัวเราะเยาะที่ไร้เยื่อใย“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ดูท่าทางขี้ขลาดของเจ้าสิ ตลกชะมัด”หลินเนี่ยนฉือถือแส้ยืนห่างออกไปสามเมตร หัวเราะจนตัวงอ ซ้ำยังเอานิ้วชี้ไปที่เวินเยวี่ย ราวกับเห็นเรื่องตลกที่สุดในโลกเวินเยวี่ยที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองถูกแกล้งก็โกรธจนใบหน้าแดงก่ำเหมือนกับก้นลิงไม่มีผิดทันใดนางอดรนทนไม่ไหวอีกแล้ว กระโดดออกมาระเบิดอารมณ์ในทันที “นังสารเลวกล้าเล่นกับข้าหรือ?!”“ผัวะ!”วินาทีต่อมา หลินเนี่ยนฉือก็หุบรอยยิ้มเยาะบนใบหน้า แส้ในมือถูกสะบัดไปที่ตัวเวินเยวี่ยที่ไม่มีเวินจื่อเยวี่ยคอยกำบังโดยไม่ทันตั้งตัวโอ้ไม่ใช่ ควรบอกว่าเป็นใบหน้าของนางเพราะแส้เดียวนี้ได้ฟาดอย่างรุนแรงจนใบหน้าครึ่งหนึ่งของเวินเยวี่ยเสียโฉม“โอ๊ย ๆ ๆ ๆ!”เสียงร้องโอดโอยในครั้งนี้แม้แต่ชาวบ้านที่กำลังทำงานหนักห่างออกไปเป็นโยชน์ก็ได้ยินกันหมด“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อครู่คือเสียงอะไร?”“ไม่รู้...”หลังจากที่แต่ละคนมองไปรอบ ๆ และไม่เห็นอะไรเลย ก็ก้มหน้าก้มเอวทำงานต่อไปในขณะนี้บนถนนใหญ่ เวินจื่อเยวี่ยกำลังมองดูใบหน้าที่โชกเลือดของเวินเย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 607

    แผ่นหลังของเวินจื่อเยวี่ยเมื่อครู่นี้ก็ถูกแส้เฆี่ยนหนึ่งครั้งเช่นกัน เจ็บปวดจนเขาสูดลมเย็นเข้าปากหากจะบอกว่าคนที่ใช้แส้ได้เก่งกาจที่สุดก็คือหลินเนี่ยนฉือหญิงผู้นี้นั่นเองแส้ในมือของนางอาจดูธรรมดาทั่วไป แต่ความจริงแล้วมันคืออาวุธที่สกุลหลินจ้างช่างใหญ่และใช้วัสดุพิเศษผลิตขึ้นมาเพื่อนางโดยเฉพาะ ดุดันยิ่งกว่าแส้กฎประจำตระกูลในจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขาเสียอีกดังนั้นแม้ว่าเขาและเวินเยวี่ยจะถูกตีจนผิวหนังเหวอะหวะ แต่หลินเนี่ยนฉือบอกว่าจะปรานี ก็ต้องปรานีจริง ๆเพราะหากนางใช้กำลังไปสิบส่วนจริง ๆ ทันทีที่ฟาดแส้ลงไป โอกาสที่จะตีกระดูกของพวกเขาหักก็มีสูงมาก!“หลินเนี่ยนฉือ เจ้าใจเย็นลงหน่อยได้ไหม?”เวินจื่อเยวี่ยกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด พูดกับหลินเนี่ยนฉือว่า “เจ้าไม่พอใจน้องหกตรงไหนกันแน่? เจ้าพูดออกมาสิ ทำไมจะต้องลงไม้ลงมือให้ได้? เป็นผู้หญิงด้วยกัน เหตุใดเจ้าต้องกลั่นแกล้งนางเช่นนี้?”“คำพูดแบบนี้ท่านควรไปถามน้องหกของท่าน ว่าตอนนั้นนางไม่พอใจอะไรในตัวอาซื่อของข้ากันแน่? พยายามบีบบังคับอาซื่ออย่างหนัก บังคับจนต้องออกบวชเป็นชียังไม่พอ ยังปล่อยให้พวกท่านรังแกนาง ดูถูกนางต่อไปอีก ถึงขนาดให

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 606

    “โอ๊ย!”เวินเยวี่ยร้องอุทานออกมาโดยพลัน ราวกับตกใจอะไรบางอย่าง พลางคว้าแขนของเวินจื่อเยวี่ยไว้ จากนั้นก็หันหลังแล้วกระโจนเข้าไปในอ้อมอกของเขา“พี่สาม พี่หญิงเนี่ยนฉือจะตีเยวี่ยเอ๋อร์อีกแล้ว เยวี่ยเอ๋อร์กลัว!”เวินเยวี่ยมีสีหน้าร้องไห้หวาดกลัว ร้องไห้ดั่งลูกสาลี่ตากน้ำฝน เห็นแล้วก็น่าเอ็นดูเวินจื่อเยวี่ยที่รู้สึกสงสารรีบเอื้อมมือออกไปปกป้องนางไว้ “น้องหกไม่ต้องกลัว มีพี่สามอยู่ พี่หญิงเนี่ยนฉือของเจ้าจะไม่มีทางตีเจ้าอีก”แม้ว่าเมื่อครู่เวินเยวี่ยจะพูดคำเหล่านั้นเพื่อยุแยงตะแคงรั่ว แต่ก็ไม่นึกว่าคำพูดปลอบโยนของเวินจื่อเยวี่ย กลับทำให้นางอดแสยะมุมปากไม่ได้ดวงตาท่านบอดหรืออย่างไร?ไม่เห็นหรือว่านางเฆี่ยนตีข้าต่อหน้าท่านไปแล้วหนึ่งครั้ง?ท่านกล้าพูดได้อย่างไรว่านางจะไม่ตี?เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันในใจไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ใช่เพราะยังท่านมีประโยชน์อยู่เล็กน้อย ท่านคิดว่าข้าจะยังเก็บท่านไว้หรืออย่างไร?!เวินเยวี่ยกลัวว่าหลินเนี่ยนฉือจะลงมืออีกครั้ง จึงรีบคว้าเวินจื่อเยวี่ยไว้ ตัวเองซุกอยู่ในอ้อมอกของเขา ปล่อยให้เขาใช้ร่างกายกำบังให้ทำแบบนี้ นางอยากดูว่าหลินเนี่ยนฉือยังก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status