Share

บทที่ 8

Author: จิ้งซิง
เมื่อเวินฉางอวิ้นเดินขึ้นมาบนปะรำพิธี สายตาทอดมองไปที่น้องสาวทั้งสองคน เดิมทียังลังเลอยู่บ้าง

แต่เมื่อสบสายตาคาดหวังของเวินเยวี่ย เขาก็คลายหัวคิ้วในพริบตา

หัวเราะอย่างไม่มีทางเลือก

ช่างเถิด หากจะโทษก็ได้แต่โทษน้องห้าที่ไม่ได้รับความชื่นชอบเอง

ใครใช้ให้นางมีนิสัยอิจฉาริษยา ไม่ยอมให้น้องหกเลยสักนิดเล่า

ดังนั้นเวินฉางอวิ้นจึงไม่ลังเลอีกต่อไป เดินผ่านหน้าเวินซื่อแล้วยื่นดอกไม้ให้เวินเยวี่ย

จากนั้นก็เป็นเวินจื่อเฉิน เวินจื่อเยวี่ย เวินอวี้จือ...

รวมถึงคนสกุลเวิน ทุกคนต่างก็มอบดอกไม้ให้เวินเยวี่ย

ก็เหมือนกับชาติที่แล้ว...

เวินซื่อผู้โดดเดี่ยวกับเวินเยวี่ยที่ล้อมรอบไปด้วยดอกไม้สดและคำอวยพร

เวินซื่อไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรนางก็รู้ผลสรุปเช่นนี้มานานแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่คาดหวังใด ๆ อีกต่อไปอย่างแน่นอน

หลังจากคนเหล่านั้นก็เป็นชุยเส้าเจ๋อ เทียบกับดอกไม้หนึ่งดอกที่คนอื่นมอบให้แล้ว เขาหอบดอกไม้บานหลากสีสันกำใหญ่เต็ม ๆ ไม่มองเวินซื่อสักแวบเดียว ก่อนจะยัดใส่อ้อมแขนของเวินเยวี่ยโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“น้องเยวี่ยเอ๋อร์ ดอกฉยงฮวาอวยพรวันเกิด ดนตรีเสียงสวรรค์ห้อมล้อมความงามให้น่าหลงใหล ขอให้ความงามของเจ้าคงอยู่ตลอดไป ยิ้มแย้มมิแปรเปลี่ยน”

“ขอบคุณพี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม พี่ สี่ แล้วก็พี่เส้าเจ๋อด้วยเจ้าค่ะ ดอกไม้ที่พวกท่านมอบให้งามมากเลย ดอกไม้มากมายเพียงนี้ละลานตาข้าไปหมดแล้ว”

เวินเยวี่ยกล่าวด้วยเสียงอ่อนหวาน

พวกชุยเส้าเจ๋อห้อมล้อมนางไว้ บ้างก็ลูบศีรษะนางด้วยความเอ็นดู บ้างก็มอบของขวัญที่ตั้งใจเตรียมไว้นานแล้ว

เนื่องจากคนที่มอบดอกไม้มีเยอะมากเกินไป เวินจื่อเฉินจึงถูกคนเบียดจนถอยหลังไปสองก้าว ชนเวินซื่อโดยไม่ทันระวัง

เมื่อเวินจื่อเฉินหันหน้าไปมองนาง พบว่านางไม่ได้รับดอกไม้เลยสักดอกก็หัวเราะเยาะเบา ๆ

“เจ้าก็อย่าอิจฉาเกินไป ถึงอย่างไรน้องหกได้รับดอกไม้มากมายถึงเพียงนี้ก็เป็นเพราะนางมีจิตใจดีบริสุทธิ์ หากเจ้าสามารถมีสักหนึ่งในสิบของน้องหกได้ ก็คงไม่ถึงขนาดไม่ได้รับดอกไม้สักดอกหรอก”

“ดังนั้น ต่อไปต้องสำนึกผิดให้มาก ๆ เสีย”

“ขอบคุณพี่รองที่ห่วงใยเจ้าค่ะ ไม่จำเป็นต้องสำนึกผิดแล้ว ข้าคิดว่าข้าเป็นแบบนี้ก็ดีมาก”

เวินซื่อยิ้มอย่างขอไปที และไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย

วันนี้เสียเวลาไปมากแล้ว สาเหตุที่นางยังต้องยืนอยู่ที่นี่ก็เพื่อรอให้ชุยเส้าเจ๋อรีบยกเลิกการหมั้น

แต่คนบางคนขึ้นปะรำพิธีแล้วก็เอาแต่สนใจกับการมอบดอกไม้ เหมือนใกล้จะลืม ‘เรื่องสำคัญ’ ของตนเองไปแล้ว

เวินซื่อหมดความอดทนเล็กน้อย จึงตัดสินใจผลักดันเขา

“ท่านพ่อ ในเมื่อพิธีปักปิ่นสิ้นสุดลงแล้ว ดูเหมือนทุกคนก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องการข้าแล้ว ไม่เช่นนั้นตอนนี้ข้าขอตัวกลับไปเลยแล้วกัน?”

เวินซื่อไม่สนใจเวินจื่อเฉินอีกต่อไป ก่อนจะหันหน้าไปเอ่ยกับเวินเฉวียนเซิ่ง

เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อได้ยินว่านางจะไปแล้ว ชุยเส้าเจ๋อที่เดิมทียังคงล้อมรอบเวินเยวี่ยพลันหันหน้ากลับมา “เดี๋ยวก่อน เจ้าไปไม่ได้ ข้ายังมีเรื่องจะกล่าว”

ในที่สุดก็มาเสียที

ชุยเส้าเจ๋อถลึงตามองเวินซื่อ ตากนั้นก็ประสานมือกล่าวเสียงดังกับเวินเฉวียนเซิ่งที่อยู่ตำแหน่งประธานพิธีว่า “ท่านลุง วันนี้หลานมีสองเรื่องอยากขอให้ท่านลุงช่วยตัดสินใจ เพื่อให้หลานสามารถสมหวังกับการแต่งงานด้วยขอรับ”

ทุกคนได้ยินคำพูดประโยคหลัง ยังนึกว่าชุยเส้าเจ๋อจะหารือเรื่องวันแต่งงานกับจวนเจิ้นกั๋วกง ในที่สุดก็เตรียมตัวจะแต่งงานกับเวินซื่อแล้ว

เวินเยวี่ยตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

นางไม่อยากให้เวินซื่อแย่งชุยเส้าเจ๋อไป

“พี่เส้าเจ๋อ...”

ชุยเส้าเจ๋อเห็นความตื่นตระหนกในดวงตาของนาง ในใจพลันเกิดความรู้สึกปีติยินดี

เป็นอย่างที่คิดไว้เลย น้องเยวี่ยเอ๋อร์รักเขา

ดังนั้นนางจึงกลัวว่าเขาจะแต่งงานกับเวินซื่อจริง ๆ

แต่ไม่เป็นไร เขาเองก็รักน้องเยวี่ยเอ๋อร์เช่นกัน

ดังนั้นเขาไม่มีทางแต่งงานกับเวินซื่อเป็นอันขาด

ชาตินี้คนที่เขาจะแต่งงานด้วยมีเพียงคนเดียวเท่านั้น!

ชุยเส้าเจ๋อลูบศีรษะของเวินเยวี่ยอย่างรักใคร่เอ็นดู “เยวี่ยเอ๋อร์วางใจได้ ข้าจะมอบเรื่องน่าประหลาดใจให้เจ้า”

เขากล่าวจบก็สบตากับเวินเฉวียนเซิ่งโดยไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงดังว่า “เรื่องแรกคือข้าอยากจะถอนหมั้น”

“ข้าอยากถอนหมั้นกับเวินซื่อ!”

“บังอาจ”

“เส้าเจ๋อ!”

เมื่อคำพูดของชุยเส้าเจ๋อออกมา แขกเหรื่อรอบด้านก็ส่งเสียงฮือฮา

ดวงตาของเวินเยวี่ยเปล่งประกาย

เวินเฉวียนเซิ่งกลับมีสีหน้าบึ้งตึง จ้องมองชุยเส้าเจ๋ออย่างเย็นชา

เวินหย่าลี่รู้นิสัยของพี่ชายจึงรีบดึงบุตรชายของตนไว้ “เส้าเจ๋อ มีเรื่องอะไรค่อยกล่าวกันทีหลัง วันนี้เป็นวันมงคลปักปิ่นของน้องสาวทั้งสองคนของเจ้า อย่าได้ก่อความวุ่นวายที่นี่”

แม้ว่านางไม่ชอบเวินซื่อเช่นกัน แต่ว่าต่อให้อยากจะถอนหมั้นก็ไม่ใช่การถอนหมั้นกันเช่นนี้

การถอนหมั้นต่อหน้าผู้คนไม่ใช่ว่ากำลังฉีกหน้าทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงหรือไร?

ชุยเส้าเจ๋อยังคงยืนกราน สะบัดมือของเวินหย่าลี่ออกทันทีแล้วเอ่ยอย่างดื้อดึงว่า “ท่านแม่ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมอีกต่อไปแล้ว ข้าคิดดีนานแล้ว”

เวินจื่อเฉินพลันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเช่นกัน เอ่ยถามอย่างเดือดดาลว่า “ข้าจะบอกให้นะชุยเส้าเจ๋อ ต่อให้น้องห้าเป็นเช่นไร นางก็เป็นน้องสาวที่เติบโตมาตั้งแต่เด็กด้วยกันกับเจ้า เจ้ากับนางเป็นเพื่อนเล่นกันมาหลายปี เจ้าจะต้องหยามเกียรตินาง หยามเกียรติจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเราวันนี้ให้ได้หรือ?!”

เวินจื่อเฉินไม่ได้ปกป้องเวินซื่อ

เขาเพียงแค่รู้สึกว่าชุยเส้าเจ๋อไม่เห็นสกุลเวินของพวกเขาอยู่ในสายตามากเกินไปแล้ว!

“พี่รอง ข้าไม่ได้อยากหยามเกียรติสกุลเวิน ข้าเพียงแค่ไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับสตรีจิตใจชั่วช้าและยังชอบอิจฉาริษยาอย่างเวินซื่อไปตลอดชีวิต! ดังนั้นไม่ว่าพวกท่านจะกล่าวอย่างไร วันนี้ข้าก็จะถอนหมั้น!”

ชุยเส้าเจ๋อเองก็รู้ว่าการที่ตนทำเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนเป็นการทำผิดต่อสกุลเวินอยู่บ้าง

แต่เขาไม่นึกเสียใจ!

เวินเยวี่ยดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง หากพี่เส้าเจ๋อถอนหมั้นกับเวินซื่อ เช่นนั้นนางก็มีโอกาสแล้วใช่หรือไม่?

และดูจากการแสดงออกของชุยเส้าเจ๋อในยามปกติ ตำแหน่งฮูหยินของซื่อจื่อจวนจงหย่งโหวจะต้องเป็นของนางอย่างแน่นอน!

อย่างไรก็ตามแม้เวินเยวี่ยจะมั่นใจแล้ว แต่ตอนนี้นางเป็นน้องสาวที่ ‘บริสุทธิ์จิตใจดี’ นะ~

เมื่อคิดเช่นนี้ เวินเยวี่ยก็ข่มกลั้นความพึงพอใจตรงมุมปาก แล้วแสร้งพูดเกลี้ยกล้อมชุยเส้าเจ๋อ

“พี่เส้าเจ๋อ พี่หญิงห้านางเคยทำผิดไปบ้าง แต่ว่าทำกับนางเช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือเจ้าคะ? ถึงอย่างไรพี่หญิงห้าก็ชอบท่านถึงเพียงนั้น ไม่เช่นนั้นท่านก็เห็นแก่หน้าของข้า ให้อภัยพี่หญิงเถิดนะเจ้าคะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดที่ว่า ‘พี่หญิงห้าชอบท่านถึงเพียงนั้น’ ชุยเส้าเจ๋อก็ตกใจทันที

ใช่แล้ว เยวี่ยเอ๋อร์เตือนสติเขาจริง ๆ!

วันนี้เขาดึงดันจะถอนหมั้นให้ได้ แต่รับประกันไม่ได้ว่าต่อไปนางยังจะตามพัวพันเขาอีกหรือไม่

ดังนั้นเขาจำเป็นต้องทำให้เวินซื่อล้มเลิกความคิดทั้งหมด!

ชุยเส้าเจ๋อหันหน้าไปเอ่ยเตือนเวินซื่อว่า “เวินซื่อ เจ้าต้องรู้เอาไว้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจ้าทำตัวเอง ต่อให้ข้าตายก็จะไม่แต่งงานกับเจ้าเป็นอันขาด ดังนั้นทางที่ดีเจ้ารู้จักดูสถานการณ์แล้วตกลงเรื่องนี้เสีย อย่างน้อยข้าจะรับปากเงื่อนไขของเจ้าหนึ่งข้อเพื่อเห็นแก่หน้าสกุลเวิน”

“แต่ทางที่ดีเจ้าอย่าละโมบมากเกินไป ชาตินี้ข้าจะแต่งงานกับสตรีนางเดียวเท่านั้น คนผู้นั้นไม่ใช่เจ้า และข้าก็ไม่มีทางรับอนุด้วย”

คำพูดนี้ของชุยเส้าเจ๋อแทบจะชี้หน้าเวินซื่อบอกว่า ภรรยาก็ไม่ได้ อนุภรรยายิ่งอย่าฝัน!

ถึงอย่างไรเขารู้ว่าเวินซื่อชอบเขามาก ไม่อย่างนั้นนางคงไม่พัวพันเขามาหลายปีเช่นนี้

เขาบอกว่าสามารถรับปากเงื่อนไขของนางหนึ่งข้อ แต่ถ้าเกิดนางใช้เงื่อนไขนี้มาข่มขู่ให้เขารับนางเป็นอนุภรรยาจะทำอย่างไร?

ดังนั้นเขาจำเป็นต้องเตือนนางอย่างรุนแรง

เลิกคิดเพ้อฝัน!

“หึ ๆ”

เวินซื่อที่มองพวกเขาเล่นละครอย่างเงียบ ๆ มาตลอดพลันหัวเราะเบา ๆ ออกมาอย่างทนไม่ไหว

หลังจากนั้นเวินซื่อก็เหลือบมองเวินเยวี่ยที่กำลังแอบส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความลำพองใจและความท้าทายให้นาง ก่อนที่เวินซื่อจะยิ้มน้อย ๆ

“ได้สิ ข้ารับปากท่านก็ได้ แต่ท่านก็บอกเองนะว่าจะรับปากเงื่อนไขข้าหนึ่งข้อใช่หรือไม่?”

“ถูกต้อง”

ชุยเส้าเจ๋อกอดอก เชิดหน้ามองนาง “ขอเพียงเจ้าเลิกคิดจะเข้าประตูจวนจงหย่งโหวของพวกเรา เรื่องอื่นข้ารับปากเจ้าได้ทั้งหมด”

“ดีเหลือเกิน ในเมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าก็สาบานต่อหน้าผู้คนเถิด...”

รอยยิ้มตรงมุมปากของเวินซื่อค่อย ๆ กว้างขึ้น

ชอบยั่วยุนางถึงเพียงนั้น เช่นนั้นก็มาดูว่าสุดท้ายใครจะร้อนใจก่อนกัน

“...บอกว่า ท่านชุยเส้าเจ๋อจะไม่มีวันแต่งงานสตรีแซ่เวินคนใดไปชั่วชีวิต”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ชุยเส้าเจ๋อกับเวินเยวี่ยแทบจะหน้าเปลี่ยนสีพร้อมกัน
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1090

    ทันทีที่คำพูดอันเดือดดาลของเวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยออกมาเวินจื่อเยวี่ยถึงเพิ่งรู้ตัวว่าครั้งนี้บิดาของเขาโกรธจริง ๆเพียงแต่เวินจื่อเยวี่ยก็กลัวว่าเวินเฉวียนเซิ่งจะเชื่อคำพูดของเอ้อถานหลัวเข้าจริง ๆ อยากจะพูดแทนน้องหกสักสองประโยค แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งแล้วก็ไม่กล้าที่จะพูดต่ออีกทำได้เพียงข่มสีหน้าคับแค้นใจ ถลึงตาใส่หลานซื่ออย่างเกรี้ยวกราด“ต้องโทษเจ้า!”เพียงสามคำนี้ ก็โยนความผิดทั้งหมดใส่ตัวหลานซื่อเวลานี้หลานซื่อที่นั่งลงบนเก้าอี้ที่เกาหยางยกมาแล้ว ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองเขาด้วยซ้ำ เพียงยกถ้วยชาขึ้นจิบอึกหนึ่งอย่างเฉยเมยนางรู้ว่าคืนนี้ความลับของเวินเยวี่ยจะปกปิดไว้ไม่ได้อีกแล้วนางก็ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องราวที่รู้มานานแล้วนางเพียงกำลังคิดว่า ยามนี้เอ้อถานหลัวผู้นั้นคงสนใจเวินเยวี่ยขึ้นมาจริง ๆ แต่ไม่ว่าเพื่อการวิจัยหรืออย่างไรก็ตาม มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางเลยแต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับจงใจเอาตัวเสี่ยวหานมาใช้กดดันดูคล้ายว่าเขาต้องการข่มขู่เวินเฉวียนเซิ่ง แต่ที่จริงแล้วกลับเป็นการข่มขู่นางหลังจากที่หลานซื่อใจเย็นลงแล้วขบคิดอย่างถี่ถ้วน ก็มองทะลุอุบายของเอ้อถานหลัวห

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1089

    เวินเฉวียนเซิ่งจ้องมองหลานซื่ออยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ยอมประนีประนอม“ไต้ซือ ปล่อยคนออกมาเถิด”เพื่อที่จะฟื้นฟูร่างกายที่พิการนี้ อย่างน้อยเขาต้องได้ดอกบัวกระดูกมังกรมาไว้ในมือ!แต่ใครจะรู้ว่าเขายอมประนีประนอมแล้ว ทว่าเอ้อถานหลัวกลับไม่ยอม“อมิตตาพุทธ ไม่ได้”เวินเฉวียนเซิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง เขาขมวดคิ้ว “ไต้ซือหมายความว่าอย่างไร?”เอ้อถานหลัวกล่าวอย่างใจเย็น “เพราะอาตมาก็สนใจบุตรสาวคนเมื่อครู่ของท่านค่อนข้างมาก หากท่านสามารถพานางกลับมาได้ อาตมาก็จะคืนนังหนูที่จับมาแก่ท่าน”เวินเฉวียนเซิ่งที่ได้ยินคำพูดนี้กำหมัดแน่น“เอ้อถานหลัวไต้ซือ ท่านไม่ได้กำลังเล่นตลกกับข้าใช่ไหม?”เวินเฉวียนเซิ่งโกรธจนกัดฟันกรอดเอ้อถานหลัวกลับกล่าวอย่างจริงจัง “ที่ไหนกันเล่า? อาตมาไม่เคยเล่นตลกกับผู้อื่น”“เช่นนั้นเมื่อครู่นางก็อยู่ที่นี่ เหตุใดท่านไม่ลงมือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดนี้เช่นกันที่อยู่ด้านข้างซักถามอย่างเดือดดาล“เพราะอาตมาไม่อยากล่วงเกินอ๋องชาง”เหตุผลง่ายดายเพียงข้อเดียวกลับทำให้เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยสองพ่อลูกโกรธจนแทบจะระเบิดโดยเฉพาะเวินเฉวียนเซิ่ง ในตอนนี้เขาห่าง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1088

    “ไม่นะ…อ๊า! ท่านพ่อช่วยข้าด้วย!”เวินเยวี่ยยังคิดจะดิ้นรนอยู่ แต่น่าเสียดายว่าตอนนี้ยักษ์ต่างเผ่าได้ยืนยันอย่างสมบูรณ์แล้วว่าเป็นนางฝ่ามือใหญ่ยกขึ้น พุ่งตรงไปที่นาง“ถอยไป! ถอยไปเร็ว!”“น้องหกหนีไปเร็ว!”เวินจื่อเยวี่ยยังพยายามขัดขวางยักษ์ต่างเผ่าผู้นั้น แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่คู่ต่อกรของยักษ์ต่างเผ่าโดยสิ้นเชิงเขาพุ่งเข้าไปพร้อมดาบเล่มหนึ่ง ยังไม่ทันฟันถูกร่างกายของยักษ์ต่างเผ่า ก็ถูกอีกฝ่ายใช้ฝ่ามือตบกระเด็นออกไปทันที จนกระแทกต้นไม้ต้นหนึ่งหักโค่น“ไต้ซือ ลูกสาวของข้านางสามารถ…”“ไม่ได้”เอ้อถานหลัวตัดบทคำพูดของเวินเฉวียนเซิ่งโดยตรง ปฏิเสธคำขอที่เขากำลังจะเอ่ยออกมาเวินเฉวียนเซิ่งตามติดข้างหลังเอ้อถานหลัวอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเขาทำข้อตกลงอะไรกับเอ้อถานหลัวไว้บ้าง ในตอนนี้แม้เอ้อถานหลัวจะกำลังนั่งดูเรื่องสนุกอยู่เฉย ๆ แต่ก็ไม่ได้ไม่สนใจเขาเสียทีเดียวเพียงแต่กับคนอื่นแล้ว เอ้อถานหลัวไม่คิดจะลงมือ“คำพูดของบุรุษทรงพลังผู้นี้เมื่อครู่พวกเจ้าก็ได้ยินแล้ว เขามาตามคำสั่งของอ๋องชาง เป็นผู้ใต้บัญชาของอ๋องชางแห่งราชสำนัก ในเมื่ออ๋องชางส่งคนมาจับตัวธิดาศักดิ์สิทธิ์ ก็จะไม่ฆ่านา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1087

    “ใคร...คือ...ธิดา...ศักดิ์สิทธิ์...”ยักษ์ต่างเผ่าหมุนกาย ตะโกนถามทุกคนรอบข้างด้วยเสียงดังลั่นและเพราะคำไม่กี่คำที่เขาพูดออกมาล้วนเป็นภาษาจงหยวนดังนั้นทุกคนที่อยู่ในที่นั้นจึงเข้าใจในทันทีตามหาธิดาศักดิ์สิทธิ์หรือ?!สีหน้าของหลานซื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเวินเยวี่ยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสีหน้าดีใจขึ้นมาทันใด กำลังจะยกมือชี้มาที่นาง หลานซื่อก็รีบชิงตัดหน้านางในทันที...“นาง…”“นางคือธิดาศักดิ์สิทธิ์!”ยักษ์ต่างเผ่าถูกดึงดูดด้วยเสียงของนางดังคาด ไม่เห็นการเคลื่อนไหวของเวินเยวี่ย “ใคร! ใคร...คือ...ธิดาศักดิ์สิทธิ์!”หลานซื่อชี้ไปที่เวินเยวี่ย “นาง! หญิงชาวจงหยวนผู้นั้น ก็คือธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้ากำลังตามหา!”ที่นี่เกือบทุกคนเปลี่ยนมาสวมใส่เสื้อผ้าและแต่งกายแบบชาวต่างเผ่าแล้วมีเพียงเวินเยวี่ยเท่านั้นที่ไม่ชอบสภาพที่ดูน่าเกลียดแบบที่ต้องเอาผ้ามาคลุมศีรษะ และไม่ชอบวาดลวดลายสีเขียว ๆ บนใบหน้า ดังนั้นถึงแม้นางจะเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าของสตรีชาวต่างเผ่าแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผูกผ้าบนศีรษะเหมือนกับสตรีชาวต่างเผ่าด้วยเหตุนี้ยักษ์ต่างเผ่าผู้นั้นจึงมองตามนิ้วมือของหลานซื่อไป ก็เห็นใบหน้าที

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1086

    “ผู้อาวุโส! ไต้ซือ! หากท่านยังไม่ลงมือ สิ่งที่เคยรับปากกับท่านไว้ก่อนหน้านี้จะไม่มีใครมอบให้ท่านได้อีก!”ครั้งนี้ คำขอความช่วยเหลือของเวินเฉวียนเซิ่งในที่สุดก็เรียกการตอบสนองจากคนที่อยู่ในเงามืดได้อีกครั้ง“ติ๊ง!”เสียงกระดิ่งดังขึ้นในป่าโดยพลันเสียงกระดิ่งนั้นไม่เพียงทำให้ฝูงแมลงพิษทั้งหมดชะงักงัน แต่ยังสั่นสะเทือนจิตใจของผู้คนอีกด้วยตรงหน้าหลานซื่อพลันมืดลง รู้สึกได้เพียงว่าสายตาพร่ามัวไปชั่วขณะ ร่างกายของนางโอนเอนเล็กน้อย เกือบจะล้มลงกับพื้นเมื่อนางกัดฟันเพื่อตั้งสติได้ แล้วมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง ในใจก็พลันตื่นตระหนก“นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนสามารถทนต่อเสียงกระดิ่งมารได้”เอ้อถานหลัวค่อย ๆ เดินออกมาจากความมืด มองหลานซื่อที่ยังยืนอยู่ได้ในสถานที่นั้นเพียงผู้เดียว สายตานั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจดวงตาชราภาพคู่นั้นพลันฉายแววเฉียบคมเพ่งพินิจหลานซื่ออย่างละเอียด ราวกับต้องการค้นหาสาเหตุจากตัวนางว่าเพราะเหตุใดนางถึงสามารถยืนอยู่ที่นี่ได้แต่น่าเสียดาย เขาไม่อาจมองเห็นอะไรได้เลยและด้วยเหตุนี้เอง สายตาที่เอ้อถานหลัวมองหลานซื่อจึงยิ่งเต็มไปด้วยความใคร่รู้และตื่นเต

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1085

    “ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย รีบส่งของที่ข้าต้องการออกมาเดี๋ยวนี้”เมื่อทั้งสองพูดจบ บรรยากาศทั่วทั้งป่าก็กลับมาตึงเครียดอีกครั้งทันทีหลานซื่อจ้องมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยสายตาเย็นชา“ดูเหมือนจะไม่มีพื้นที่ให้เจรจาแล้ว”ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ “ลงมือ”หลานซื่อแสร้งทำเป็นออกคำสั่งกับผู้อื่น เอ่ยออกมาคำหนึ่ง และในวินาทีถัดมา...“ตูม!”ในชั่วพริบตา แมลงพิษนับไม่ถ้วนก็พลุ่งพล่านอยู่ใต้พื้นดินเวินเฉวียนเซิ่งกับพวกยังไม่ทันรู้ตัว ก็เห็นแมลงสีดำสนิทหลากหลายชนิดผุดขึ้นมาจากพื้นดินรอบ ๆ ตัวพวกเขา ก่อนจะพุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างเนืองแน่นเวินเฉวียนเซิ่งสะดุ้งตกใจในทันทีฝูงแมลงพวกนี้คือแมลงชนิดเดียวกับที่โจมตีเขาคราวก่อนที่บริเวณใกล้ภูเขาหนาน!เป็นไปตามคาดลูกสาวเนรคุณผู้นี้มีปรมาจารย์กู่คอยหนุนหลังอยู่จริง ๆ!เวินเฉวียนเซิ่งตะโกนเสียงดังทันที “ท่านผู้อาวุโสช่วยข้าด้วย!”ในขณะที่แมลงพิษเหล่านั้นกำลังจะพุ่งเข้าถึงตัวเวินเฉวียนเซิ่งกับพวก เสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดก็ดังมาจากที่ไกล ๆ อย่างกะทันหัน...“ถอย!”ฝูงแมลงพิษกว่าครึ่งของหลานซื่อชะงักงันในทันทีแต่ในเสี้ยววินาทีถัดมา พวกมันก็หลุ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status