Share

เพื่อนกัน🔞

last update Last Updated: 2025-05-17 18:16:20

“อ๊ะ ค่อย ๆ กูเจ็บ”

เสียงทุ้มนุ่มครางกระเส่าในลำคอ กล่องดวงใจเต้นแรงราวกับถูกใครเขย่า แก่นกายร้อนแท่งยักษ์แม้จะเบิกทางแต่ก็ยังสร้างความเจ็บปวดให้คนโดนกระทำจนน้ำตาซึม

เพราะเป็นครั้งแรกแถมยังมารับศึกหนักอีก ดวงตาเรียวกระพริบไล่น้ำสีใสที่หัวตาอย่างกั้นไม่อยู่ ส่งผลให้ช่องทางรักรัดแน่นจนจอมทัพแทบขยับไม่ได้ ความปวดแล่นเข้ามาอีกครั้ง

“ผ่อนคลายหน่อยอึก…มันรัดกู…”

จอมทัพกัดฟันกับความคับแน่นที่บีบลูกชายเขาแทบขาด ก่อนจะโน้มตัวลงไปเล่นกับยอดอกเพื่อเบี่ยงเบน ไม่นานช่องทางรักก็ปรับสภาพกับความใหญ่ได้ ชายหนุ่มหน้าดุจัดการโยกเอวเบา ๆ ความเป็นชายสอดเข้าไปจนสุดทางกระทบเข้ากับจุดเสียวของคนใต้ร่างอย่างจัง จนคิระครางเสียงหลง

“อ๊ะอ๊า”

คนที่พึ่งอกหักเสือกไสความเป็นชายด้วยจังหวะอ่อนโยนในช่วงแรก รอจนกระทั่งคนใต้ร่างเริ่มปรับตัวได้จึงค่อย ๆ เร่งความเร็ว

เสียงเนื้อกระทบกันดังผสานกับเสียงครางกระเส่าอย่างเสียวซ่านของหนุ่มลูกครึ่ง หมดลุคคุณชายแสนดูดี ตอนนี้มีเพียงคุณชายร่านรักเพียงเท่านั้น

มือหนาออกแรงนวดคลึงไปตามเรือนร่างขาวนวล น้ำหนักมือที่ลงแรงไมม่หนักมากแต่ผิวของคิระนั้นแสนจะขึ้นสีได้ง่ายไวต่อการสัมผัส ไม่ว่าจอมทัพจะบีบจับตรงไหนก็แดงไปหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งจุกนมสีสวยที่บัดนี้บวมเต่งที่ล่อตาล่อใจ

อดไม่ได้ที่จะไม่ฉกชิมลิ้มลองอีกครั้ง จอมทัพดูดดึงราวกับว่ามันจะมีน้ำนมไหลออกมา จอมทัพผู้รักความยุติธรรมยิ่งชีพไม่ให้อีกข้างน้อยใจ จัดการบดบี้จนเกิดเสียงครางเครืออย่างสุขสมลอยมา

ถึงอย่างนั้นส่วนล่างก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่มีตก เสียงลามกกระทบกันของสองอวัยวะที่ตอกเข้าออกเป็นเครื่องจักร ดังก้องทั่วทั้งห้อง คิระถูกจับพลิกคว่ำโก้งโค้งในท่าหมา ใบหน้านวลซุกลงกับหมอน แอ่นสะโพกไปทางด้านหลัง ท่านี้เห็นแท่งร้อนหลุบเข้าออกได้ชัดเจน แถมรูรักที่ถูกกระแทกก็แดงก่ำอย่างน่าสงสารอีก

“เสียวสัสอื้ม”

จอมทัพแค่นคำหยาบเสียงกระเส่า แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากด้วยความกระสันที่มากขึ้นจากภาพตรงหน้า มือแกร่งประคองสะโพกอวบแน่นของคนตรงหน้าเอาไว้ ก่อนจะโหมแรงตอกกระแทกความเป็นชายเข้าไปลึกสุดอย่างหนักหน่วงระรัวดั่งปืนกล

“อื้อเบา ๆ อ๊า”

ร่างสมส่วนของคิระกระดอนกระเด็นตามจังหวะสอดเข้าออกของแท่งร้อน เสียงครางระงมทั่วห้องปลุกกระตุ้นสัญชาติญาณดิบในตัวของจอมทัพมากขึ้นไปอีก ทนไม่ไหวจนต้องโน้มตัวลงไปพรมจูบตามแผ่นหลังเนียนสวย ร่างกายขาวขึ้นสีแดงห้อเลือดบาง ๆ เป็นรอยกัดรอยดูด เหมือนหมาเด็กฟันพึ่งขึ้น

แก่นกายยักษ์กระทุ้งเข้าออกรูจีบบวมแดงของหนุ่มลูกครึ่งอย่างร้อนแรงหนักหน่วง ภายในช่องทางรักขมิบตอดรับแท่งร้อนอย่างไม่มีใครยอมใคร

“อ๊า ไม่ไหว อื้อจะแตก”

คนตัวขาวส่ายหน้าไปมาแนบกับหมอน เส้นผมสีเข้มสะบัดไปมา เสียงร้องครางระคนสุขสมใกล้ได้รับการปลดปล่อย ยิ่งอีกฝ่ายตะบี้ตะบันแทงเข้ามาอย่าถี่รัว ร่างกายสมส่วนของคิระก็สั่นไม่หยุด ขาเรียวสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้แทบทรุดลงอยู่รอมร่อ ถ้าไม่ได้แขนแกร่งของจอมทัพประคองไว้ทรุดเป็นแน่

“อีกนิด…ซี๊ดดเสร็จพร้อมกัน”

เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นข้างหู ก่อนจะเร่งความเร็วตอกความเป็นชายเข้ารูรักถี่รัว ร่างขาวหัวสั่นคลอนไปตามแรงกระแทก เสียงครางปนหอบผสมปนเปจนแยกไม่ออกว่าของใครกันแน่

“อ๊า!”

ไม่นานก็ถึงปลายทาง น้ำรักทุกหยาดหยดส่งเข้าไปยังตัวของเพื่อนรักตรงหน้า จอมทัพหมดแรงล้มตัวนอนทับ ทั้ง ๆ ที่ยังคาแท่งร้อนไว้ในตัวของอีกฝ่าย ไม่พอยังกระตุกพ่นน้ำรักไม่หยุดหย่อน ความอุ่นร้อนที่ถูกฉีดพ่นเข้าไปทำเอาคิระรู้สึกวูบวาบ ท้องแกร่งมีซิกแพคอ่อน ๆ ของคิระพองจากการปลดปล่อยน้ำกาม ถ้าเป็นผู้หญิงคงท้องเป็นแน่

คิระผลักจอมทัพออกด้วยแรงเฮือกสุดท้าย แท่งร้อนหลุดออกจากรูจีบบวมช้ำส่งผลให้น้ำรักที่ปลดปล่อยไหลย้อยลงมาที่หน้าขา คิระไม่มีแรงลุกไปจัดการตัวเอง เปลือกตาสีอ่อนปิดลงสนิท สติที่มีอยู่เริ่มดับวูบลงตามกันไป

ความหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ร่างกายที่เปลือยเปล่าของทั้งคู่ขดตัวเข้าหาความอุ่นจากกันและกันราวกับแม่เหล็ก

รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อะไรเย็น ๆ แปะลงบนหน้าผาก แสงแดดยามสายแยงตาจนต้องหรี่ตาลง คิระขมวดคิ้วนิด ๆ พลางยกมือขึ้นแตะเจลเย็นบนหน้าผาก ก่อนค่อย ๆ ปรับโฟกัสในห้อง

เงียบ ไม่มีเสียงพูด ไม่มีเสียงฝีเท้า มีเพียงเสียงลมหายใจกับแอร์เย็น ๆ ที่หมุนเวียนไปทั่วห้อง

คิระลุกขึ้นนั่งช้า ๆ หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นเงาเจ้าของห้อง มองดูนาฬิกาที่หัวนอนบ่งบอกว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยง คาดว่าอีกคนคงออกไปส่งงานแล้ว

ก็ดี…คิระคิดในใจ ไม่รู้ว่าถ้าเจอกันตอนนี้ควรทำหน้าแบบไหนดี ถึงจะไม่รู้สึกแปลกไปยิ่งกว่าเดิม

“ตื่นแล้วเหรอ” น้ำเสียงทุ้มกล่าวขึ้นมาเงียบ ๆ คนบนเตียงตกใจสะดุ้งจนตัวโยน ไม่คิดว่าอีกคนจะยังอยู่ในห้อง

“อืม…” คิระตอบในลำคอพลางเบือนหน้าไปทางอื่นไม่กล้าสบสายตาจากเพื่อนรักตรงหน้า

“คิน…กูขอโทษ” จอมทัพเอ่ยแผ่วเบา พลางเดินเข้ามายืนที่ปลายเตียงก้มหน้าไม่สบสายตา

จังหวะเงียบลงของทั้งคู่ได้ยินเพียงลมหายใจกับลมแอร์

“กูขอโทษมึงจะต่อยจะตีอะไรยังไงกูยอมหมดเลย” เป็นจอมทัพที่พูดขอโทษขึ้นมาอีกครั้ง เสียงสั่นเครือประกอบกับใบหน้าเศร้า ๆ กับท่าทีเหมือนหมาที่หูลู่ลงอย่างสำนึกผิด ทำเอาคิระถอนหายใจออกมา เพราะมันเป็นแบบนี้ไงเขาถึงไม่เคยโกรธมันได้สักที

“เออไม่ต้องคิดมาก กูกับมึงน่าจะโดนยาทั้งคู่” คิระตอบปัด ๆ อย่างไม่สนใจ

“เพราะกูเอง…” ท่าทีสำนึกผิดของจอมทัพเริ่มทำให้คิระหงุดหงิดขึ้นมาเล็ก ๆ

“เลิกโทษตัวเองได้แล้ว กูไม่ได้อะไร แต่ถ้ามึงยังไม่เลิกพูดกูจะโกรธจริงด้วย”

“…มึงเจ็บมั้ย” คนตัวใหญ่แต่ใจเล็กจิ๋วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ กลัวว่าเพื่อนจะเจ็บ เพราะเมื่อคืนก็พอจำได้ว่าใส่ไม่ยั้งแรงเลยด้วย

คิระกลอกตาเมื่อได้ยินคำถามแสนซื่อจากคนตรงหน้า

“เจ็บดิวะ มึงกระแทกมาไม่ยั้ง อดอยากปากแห้งมาจากไหน”

ความรู้สึกเจ็บเสียดแล่นมาถึงกลางกลังยามขยับตัวแรง ๆ ทุกครั้งที่มีอะไรกับใครคิระมักจะรุกเสมอ ดังนั้นครั้งนี้เป็นครั้งแรกประสบการณ์ครั้งแรกในการเป็นฝ่ายรับเลยก็ว่าได้ ถึงจะรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็รู้สึกดีเกินกว่าที่คิดไว้ คาดยากที่จะยอมรับ

“กูไม่ค่อยได้ปลดปล่อย” จอมทัพหลบสายตาพลางขยับมือเกาท้ายทอยแก้เขิน จริง ๆ แล้วจอมทัพไม่ใช่พวกที่ดีลกับคนที่ไม่รู้จัก ตั้งแต่โตมาก็ใช้นิ้วมือทั้งห้ามาตลอด จนมีแฟนก็พึ่งได้เคยทำครั้งแรกและครั้งเดียว และใช่ คิระเป็นผู้ชายคนแรกที่เปิดซิงน้องชายเขาด้วยเช่นกัน

คิระพ่นลมหายใจดัง ๆ เอื้อมมือเตรียมจะดึงผ้าห่มออก

“กูจะไปอาบน้ำ มาช่วยพยุงหน่อย”

“เอ่อ...อื้อ”

มือขาวเลิกผ้าห่มออก

จอมทัพเดินไปพยุงอีกคนเข้าห้องน้ำ ทันทีที่เปิดผ้าห่ม หน้าแดงขึ้นสีแดงแปร๊ดราวกับมะเขือเทศสด ร่างกายสมส่วนออกไปทางมีกล้ามเนื้อที่สวยงามที่สาวยังต้องหลง บัดนี้ลายพร้อยเป็นตุ๊กแก นี่เป็นฝีมือของเขาหรอ ไหนจะคราบน้ำกามสีขุ่นที่ไหลลงมาตรงช่องทางรักที่แทบปิดไม่มิด

จอมทัพกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก

ใจเย็น ๆ ไว้น้องชาย จอมทัพบอกกับตัวเองในใจก่อนจะช่วยพยุงคนตรงหน้าไปห้องน้ำ

ซ่า!!

“อึก…อ๊ะ!” คนตรงหน้าพยายามกลั้นเสียงครางไม่ให้หลุดลอดออกมาโดยเอามือตะครุบปากไว้ ใบหน้าหล่อเหลาปนหวานแดงซ่าน แม้จะทำหน้านิ่งปกปิดเอาไว้ก็ตาม

จอมทัพค่อย ๆ เอานิ้วคว้านเอาน้ำพิษที่ลูกชายตนเองคายทิ้งไว้ออกมาจากช่องทางรักบวมแดงตรงหน้า ร่างกายโอนอ่อนระทวยแทบระทวยของคนใต้อ้อมแขนสั่นเป็นลูกนก

“ทำช้าจังวะ” คิระเอ่ยเสียงกระเส่า

“กลัวมึงเจ็บ”

“อึก!”

คำตอบของอีกฝ่ายทำเอาคนโดนกระทำทั้งคืนหน้าขึ้นสีอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่จอมทัพไม่เห็นมุมขวยเขินนั้น

“เรายังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิมใช่มั้ย”

นิ้วมือแกร่งคว้านจนเสร็จก็หยุดชะงักดึงออกมา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบปนสั่นเอ่ยข้างใบหูขาว บ่งบอกถึงความกังวลใจที่ท่วมท้นอย่างปิดไม่มิด

ชีวิตนี้จอมทัพไม่ใช่คนที่มีเพื่อนเยอะนัก เอาตรง ๆ เลยก็คือมีแค่ 3 คนเท่านั้นที่เขาสนิท สายฟ้า ปั้นสิบ และคนตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าจะยังอยากเป็นเพื่อนเขาต่ออยู่มั้ย

ความรู้สึกผิดท่วมท้นภายในใจจนร่างกายทนไม่ไหวแสดงออกมาจนหมด ความเศร้าที่ผ่านทางสีหน้า น้ำเสียงสั่นเครือ สองมือกำแน่นจนเส้นเลือดขึ้น

“…มึงยังอยากเป็นเพื่อนกับกูอยู่มั้ยล่ะ?” เสียงเรียบนิ่งของคิระเอ่ยขึ้นอย่างลองใจ ก่อนจะหันเผชิญหน้า

ทุกพฤติกรรมของจอมทัพอยู่ในสายตาของคิระทั้งหมด เวลากังวลอีกฝ่ายจะชอบขมวดคิ้วกัดปาก ซึ่งตอนนี้จอมทัพแสดงออกทุกอย่างที่กล่าวมาโดยไม่รู้ตัว

“ทำไมถามอย่างนั้น กูไม่อยากเลิกเป็นเพื่อนมึง” คิ้วเข้มขมวดเป็นปมหลังได้ยินคำถามคนตรงหน้า

“เอองั้นก็เป็นเพื่อนกันต่อ เรื่องแค่นี้กูไม่คิดมากอยู่แล้ว” ขณะพูดคนตัวขาวก็เอื้อมมือไปคลึงระหว่างคิ้วของคนตรงหน้าให้คลายออกไปด้วย

สีหน้าเรียบเฉยยากที่จะอ่านได้ออกของคิระทำเอาจอมทัพสับสนในใจ

นากาโมโตะ คิริ บุคคลที่จอมทัพยกให้อันดับหนึ่งในการอ่านยากที่สุด ไม่รู้เลยว่าภายใต้ความนิ่งนั้นอีกคนรู้สึกยังไงกันแน่

“จริงหรอ…” จอมทัพได้แต่เถียงตัวเองในใจ แต่เขาก็อยากเป็นเพื่อนกับมันต่อไป จึงจำใจต้องกดความสงสัยไว้ให้ลึกสุดชั้นหัวใจ “สัญญานะ! ห้ามเลิกคบกูนะ!”

แต่ก็ช่างมันเถอะ ในเมื่ออ่านไม่ออกก็ใช้สัญชาตญาณนำทางไปละกัน จอมทัพตัดสินใจใช้เซนส์ของตัวเองนำทาง

โดยลืมไปว่าจอมทัพเป็นคนที่รับรู้อะไรได้ช้าที่สุด เซนส์เซิ้นอะไรไม่เคยมีกับเขาหรอก

“เห้ออ กูก็มีเพื่อนแค่พวกมึง 3 ตัวมั้ยล่ะ เลิกดราม่าแล้วอาบน้ำกันได้แล้ว” คิระพูดตัดบทเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูดีขึ้นของหมาใหญ่ตรงหน้า

“เอ่อ…งั้นมึงอาบก่อนก็ได้เดี๋ยวกูออกไปรอข้างนอกก่อน”

จอมทัพพูดจบก็หันหลังเตรียมออกไปรอข้างนอก แต่ทันทีที่หันหลังได้ไม่นาน คนเปลือยเปล่าก็กุมมือยั้งตัวเขาไว้ด้วยคำพูดที่ธรรมดา แต่ทำเอาใจคนฟังแทบสะดุดหน้าทิ่ม

“เห็นกันมาหมดแล้วจะอายอะไรวะ” คิระพูดด้วยใบหน้านิ่งเฉยราวกับหุ่นยนต์ ไม่มีท่าทีเอียงอาย ผิดกับจอมทัพที่ใบหูแดงจนร้อนผ่าว แม้จะกัดปากกลั้นความอายแค่ไหนก็ไม่อาจพ้นสายตาของหนุ่มลูกครึ่งตรงหน้า

“อืม”

ในเมื่อพูดเช่นนี้จอมทัพก็ไม่อาจปฏิเสธได้ คนตัวสูงกว่าห้าเซนจัดการอาบน้ำตนเองอย่างรวดเร็ว กดข่มลูกชายไม่ให้ตั้งด้วยการนับแกะในใจไปเกือบร้อยตัว พยายามบังคับใบหน้าไม่ให้หันไปมองร่างกายอีกคน ภายในสองนาทีเท่านั้นจอมทัพก็จัดการอาบน้ำเสร็จ ไม่รั้งรอรีบเดินออกมาทันที ทิ้งให้คิระอาบน้ำอยู่เพียงลำพัง

ร่างแกร่งก้าวเดินฉับ ๆ ออกไปโดยไม่หันกลับมามองคนข้างหลังเลยสักนิด

โดยมีสายตานุ่มลึกยากที่จะอ่านออกได้ของคนข้างหลังที่มองมา รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏเพียงชั่วพริบตาก่อนจะหายไป เหลือไว้เพียงสีหน้าเรียบเฉยยากจะคาดเดา…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   พิซซ่า

    คอนโดของสายฟ้าพื้นห้องนั่งเล่นเหมาะสำหรับการติวกลุ่มเล็ก ตรงสี่เหลี่ยมหน้าทีวีเหมาะสำหรับนำมาใช้นั่งติว คิระ จอมทัพ สายฟ้า และปั้นสิบ นั่งล้อมรอบโต๊ะโดยนั่งบนพื้น เอนหลังพิงโซฟาตัวใหญ่ ที่เขาบอกว่าคนไทยชอบนั่งพื้นแทนที่จะนั่งโซฟาเห็นทีจะเป็นเรื่องจริง“เข้าใจกันใช่มั้ยที่สอนไปเมื่อกี้นี้”“เข้าใจ แต่ขอพักก่อนได้มั้ยปวดหมองไปหมดแล้ววว”“อืม งั้นพัก 15 นาที”“โอ้ยยย เมื่อยตัวไปหมดแล้ว ไอ้ฟ้าห้องมึงมีไรกินบ้างวะ” นอกจากจะเมื่อยแล้วก็ยังหิวอีกด้วย ปั้นสิบลุกขึ้นถามเจ้าของห้องที่นอนสลับอยู่ที่โซฟา ก่อนจะสาวเท้าเดินไปทางห้องครัว“มีเบียร์อยู่” สายฟ้าตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงยานคาง พักสายตาด้วยการหลับตาพูด ไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าปั้นสิบจะทำหน้ายังไง“ไอ้ห่า กูหิวข้าวไม่ได้เสี้ยนเหล้านะ” ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าห้องสายฟ้าคงไม่มีอาหารอุดมสมบูรณ์เหมือนห้องจอมทัพก็ตาม แต่ความหิวก็อดไม่ได้ที่ปั้นสิบจะถามคำถามที่รู้คำตอบอยู่แล้วออกมา“กูทำกับข้าวเป็นซะที่ไหน มีน้ำเปล่าให้พวกมึงกินก็ดีเท่าไหร่แล้ว”“หาไรกินกันก่อนมั้ยล่ะ” จอมทัพที่ทนฟังน้ำเสียงหิวโหยของปั้นสิบไม่ไหวพูดขึ้นมาก่อน สั่งไว้ก่อนแล้วติว

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   ติว

    “ช่วงนี้เบื่อ ๆ เนอะพวก เราไปตี้กันหน่อยดีกว่าว่ะ”เสียงเบื่อหน่ายยานคางของปั้นสิบดังขึ้นกลางวง ทำเอาคนฟังขมวดคิ้วด้วยความรำคาญเล็ก ๆ ปั้นสิบฟุบหน้าลงกับต้นแขนของตนเองก่อนจะเอียงคอมาทางกลุ่มเพื่อนที่กำลังทำโปรเจ็ควิชาในสาขากันอยู่อย่างจริงจัง“ก่อนจะไปตี้มึงมาช่วยพวกกูทำกันก่อนเลยไอ้สัดอย่ากินแรง” สายฟ้ากระแทกเสียงขึ้นมา พลางเหล่มองปั้นสิบที่กำลังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้“อะไรกูก็ทำเหอะพึ่งได้พักเนี่ย ดนัยสั่งเมื่อวานจะเอาวันนี้เจริญล่ะ” ปั้นสิบพึมพำตอบกลับ“เออคิดว่านิสิตเก่งกันขนาดไหนกันเชียว เก่งมากผมไม่เรียนกันหรอกค้าบบบ” สายฟ้าประชดประชันด้วย ลากคำยาวเสียงสูง“พูดอีกก็ถูกอีกเพื่อนรัก เพื่อนสิบคิดว่าเราควรพักสมองลงบ้างว่ะ วันนี้เราเคร่งเครียดกันมาทั้งวันแล้วนะเว้ย” “งานส่งพรุ่งนี้แล้วนะสัดสิบมึงชิวไปไหนของมึง” สายฟ้าตะโกนด่าอย่างหมดความอดทนกับความขี้เกียจสันหลังยาวของไอ้สิบ นอกจากไม่ช่วยยังชวนเที่ยวอีก มือไม่พายยังเอาเท้าราน้ำอีกนะมึง สายฟ้าทดไว้ในใจพลางหันมาทำงานในมือต่อ“เรามีไอ้คิน ท๊อปเซคจะห่วงไรวะ เพื่อนเราเก่งสุดแล้วนะเว้ยมึงไม่เชื่อใจเพื่อนเราหรอวะเพื่อนฟ้า” “พูดไ

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   ของโปรด

    เวลาสองชั่วโมงผ่านไปไวราวกับโกหก คาบเรียนมาราธอนสุดโหดกผ่านพ้นไป เสียงบ่นโหยหวนเจ้าประจำอย่างปั้นสิบก็ลอยเข้ามา แต่คิระไม่ได้สนใจ หนุ่มลูกครึ่งจัดการเตรียมเก็บของเข้ากระเป๋าก่อนระหว่างนั้นหูไม่รักดีก็ได้ยินเสียงพูดคุยไม่ดังไม่เบาจากด้านหลังตาเรียวเหลือบตามองไปยังต้นเสียง ภาพตรงหน้าเป็นหญิงสาวสวมเสื้อเอวลอยคลุมด้วยเสื้อช็อปทับอีกที ใบหน้าขาวนวลจิ้มลิ้มแย้มยิ้มกว้าง พูดคุยอย่างออกรสออกชาติกับหนุ่มตัวสูงใหญ่ผู้ที่ไร้ความยาวของเส้นผมปรกคลุมศีรษะอย่างจอมทัพท่าทางสนิทชิดเชื้ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาคนตัวขาวหายใจแรงกว่าปกติอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะยกมือเสยผมหน้าที่ปิดบังวิสัยทัศน์ของตนเองขึ้น พอดีกับคนหัวเกรียนที่หันมาสบตาพอดี“งั้นเราไปก่อนนะแพร ถ้าจะให้ช่วยอะไรก็ทักมาได้นะ” จอมทัพหันไปพูดลาเพื่อนผู้หญิงที่ชื่อ แพร ก่อนจะหันมาหาคิระคนตัวสูงเดินมาใกล้พลางจับข้อมือคิระไว้ก่อนจะกระตุกดึงเบา ๆ เป็นสัญญาณให้เดินตามมา คนตัวขาวไม่ได้ขัดขืนอะไร ยอมเดินตามโดยง่าย โดยที่จอมทัพไม่รู้เลยว่าคนข้างกายคิดไปไกลแค่ไหนกับเรื่องเมื่อครู่และทั้งคู่ก็ไม่รู้เลยว่า หญิงสาวที่อยู่เบื้องหลังนั้นอดกลั้นรอยยิ

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   ชดใช้?

    ครืด ๆเสียงสั่นของเครื่องมือสื่อสารใต้หมอนปลุกเจ้าของออกจากการหลับใหล ร่างแกร่งพลิกตัวเบา ๆ เปลือกตาสีอ่อนค่อย ๆ ลืม ภาพเพดานสีขาวเรียบที่ไม่คุ้นเคยส่งผลให้ลืมตาตื่นทันทีด้วยความตกใจ แต่ไม่นานก็โล่งใจเมื่อจำได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่คอนโดปั้นสิบไม่ใช่กุฎิวัดต่างจังหวัดอีกต่อไป ตาคมเหลือบตามองคนด้านข้างที่เป็นเหตุให้นอนไม่หลับเมื่อคืน ใบหน้าขาวใสไร้ที่ติ จมูกโด่งเป็นสัน ปลายเชิ่ดขึ้นระคนดื้อรั้น ริมฝีปากอมชมพูกระจับ ทุกองค์ประกอบผสมอย่างลงตัว ไหนจะขี้แมลงวันจุดเล็กถ้าไม่สังเกตใกล้ ๆ ก็จะมองไม่เห็นเม็ดน้ำตาลที่เกาะลงใต้ตาข้างขวาส่งผลให้ดูเจ้าเล่ห์กว่าเดิมเสียงสั่นของโทรศัพท์เงียบไปสักพัก ก่อนจะสั่นขึ้นอีกครั้ง มือแกร่งยกขึ้นกดแนบหู น้ำเสียงใจดีดังลอดออกมา ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นมารดาผู้ให้กำเนิดเขานั่นเอง“ฮัลโหลครับแม่” เสียงทุ้มนุ่มตอบรับปลายสายเบา ๆ“ทัพลูกเป็นยังไงบ้าง แม่โทรมากวนหรือป่าว”“อื้อ…” คนข้างกายขยับตัว คนนอนดิ้นตวัดมือมาพาดที่เอวหนา ลมหายใจอุ่นๆรินรดเบาๆ ร่างแกร่งเกร็งค้างจนตัวแข็ง จอมทัพเผลอกลั้นหายใจไปหลายจังหวะ เมื่อสำรวจว่าอีกคนมีท่าทีจะตื่นก็โล่งใจ จอมทัพไล่สายต

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   หายใจเข้าพุทธ

    แปะๆ“ไม่นะเพื่อนรัก มึงอย่าเศร้าไปเลย” เสียงตบบ่าให้กำลังใจของสายฟ้าเรียกสติจอมทัพให้หลุดจากภวังค์ตอนแรกจอมทัพตัดสินใจจะไม่เล่าเรื่องที่เขาอกหักให้ปั้นสิบกับสายฟ้าฟัง“เออ คนไม่รักดีแบบนั้นอย่าไปเสียใจให้นานเลย เอางี้คืนนี้ฉลองกันดีกว่า!”“ร้านพี่ยักษ์มั้ย ไม่ได้เจอพี่แกนานละตั้งแต่มีเมียไป” สายฟ้าเสนอชื่อร้านพี่ยักษ์ พี่ชายคนสนิทขึ้นมา “เออไปกินเหล้าให้เมาย้อมใจกันดีกว่าเพื่อน” ปั้นสิบพูดก่อนจะยกมือพาดคอคนอกหักอย่างแนบแน่นคำว่า เมา ที่ดังขึ้นข้างหู ส่งผลให้ก้อนเนื้อด้านซ้าที่่อกบีบรัดแน่นขึ้น ลมหายใจสะดุด จนหัวใจจอมทัพเต้นผิดจังหวะ เหงื่อผุดขึ้นตามกรอบหน้าคม ดวงตาสั่นระริกค่อย ๆ เหลือบมองไปยังคนที่นั่งกอดอกอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างช้า ๆ อีกฝ่ายมองหน้าเขาอยู่ก่อนแล้ว สายตานิ่งเรียบยากที่จะอ่านความคิดได้ จังหวะที่จอมทัพสบตากับคิระเหมือนโลกหยุดหมุน บรรยากาศอึมครึมกดทับจนแทบหยุดหายใจใบหน้าของจอมทัพออกอาการเลิ่กลั่กจนคนสบตาต้องยิ้มอ่อนให้พลางส่ายหัวไปมา เป็นการส่งสัญญาณว่า ‘กูไม่ได้คิดอะไร มึงอย่าคิดมาก’ทันใดนั้นบรรยากาศที่กดทับตัวของจอมทัพก็มลายหายไป เหมือนท้องฟ้าที่สดใสหลังฝน

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   เพื่อนกัน🔞

    “อ๊ะ ค่อย ๆ กูเจ็บ”เสียงทุ้มนุ่มครางกระเส่าในลำคอ กล่องดวงใจเต้นแรงราวกับถูกใครเขย่า แก่นกายร้อนแท่งยักษ์แม้จะเบิกทางแต่ก็ยังสร้างความเจ็บปวดให้คนโดนกระทำจนน้ำตาซึมเพราะเป็นครั้งแรกแถมยังมารับศึกหนักอีก ดวงตาเรียวกระพริบไล่น้ำสีใสที่หัวตาอย่างกั้นไม่อยู่ ส่งผลให้ช่องทางรักรัดแน่นจนจอมทัพแทบขยับไม่ได้ ความปวดแล่นเข้ามาอีกครั้ง“ผ่อนคลายหน่อยอึก…มันรัดกู…”จอมทัพกัดฟันกับความคับแน่นที่บีบลูกชายเขาแทบขาด ก่อนจะโน้มตัวลงไปเล่นกับยอดอกเพื่อเบี่ยงเบน ไม่นานช่องทางรักก็ปรับสภาพกับความใหญ่ได้ ชายหนุ่มหน้าดุจัดการโยกเอวเบา ๆ ความเป็นชายสอดเข้าไปจนสุดทางกระทบเข้ากับจุดเสียวของคนใต้ร่างอย่างจัง จนคิระครางเสียงหลง“อ๊ะอ๊า”คนที่พึ่งอกหักเสือกไสความเป็นชายด้วยจังหวะอ่อนโยนในช่วงแรก รอจนกระทั่งคนใต้ร่างเริ่มปรับตัวได้จึงค่อย ๆ เร่งความเร็ว เสียงเนื้อกระทบกันดังผสานกับเสียงครางกระเส่าอย่างเสียวซ่านของหนุ่มลูกครึ่ง หมดลุคคุณชายแสนดูดี ตอนนี้มีเพียงคุณชายร่านรักเพียงเท่านั้นมือหนาออกแรงนวดคลึงไปตามเรือนร่างขาวนวล น้ำหนักมือที่ลงแรงไมม่หนักมากแต่ผิวของคิระนั้นแสนจะขึ้นสีได้ง่ายไวต่อการสัมผั

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   อกหักทำพิษ🔞

    หมับ! จอมทัพคว้าน่องเรียวขาวเอาไว้ก่อนจะออกแรงบีบอย่างลืมตัวคนขี้แกล้งสะดุ้งโหยง ใบหน้าเหยเกทันที สีหน้าเจ็บปวดของอีกคนทำเอาจอมทัพตกใจจนต้องปล่อยมือ ประจวบกับรถจอดนิ่ง ปั้นสิบหันหน้ามาถามพวกเขาว่าจะเอาไรมั้ยจะเข้าร้านสะดวกซื้อ จอมทัพได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธไป ส่วนคิระบอกไปว่าอยากกินน้ำองุ่นซ่า ๆ แทนไม่นานบรรยากาศในรถก็กลับสู่สภาวะเงียบงันอีกครั้ง ความเย็นของแอร์ยังไม่สู้บรรยากาศระหว่างคนสองคน จอมทัพที่ละมือออกจากขาเรียวก็ผินหน้าออกไปอีกฝั่ง ข่มกลั้นอารมณ์บางอย่างที่ผุดออกมาภายใน แต่อีกคนยังไม่เข็ดคิระยังคงใช้ส้นเท้าลูบไล้ผ่านเป้ากางเกงเพื่อนด้านข้างที่หันหลังให้เขา ผินหน้าออกไปทางหน้าต่างอีกด้าน ยิ่งอีกคนฟึดฟัดก็ยิ่งน่าแกล้ง นั่นแหละนิสัยของคิน หรือ นากาโมโตะ คิระ“มึงเลิกแกล้งกูสักที” เป็นจอมทัพที่ทนไม่ไหวหันมาสบตากับคิระที่ตอนนี้ได้วางโทรศัพท์ลงบนตักเรียบร้อยแล้วพลางเท้าคางมองหน้าเขาอยู่“อะไร ไปบวชมาก็ต้องอดทนได้สิ” ว่าพลางกดย้ำน้ำหนักลงที่เป้ากรอด! เสียงขบฟันกรามกระทบกันอย่างกลั้นอารมณ์ความคิดของเขาเหมือนถูกผลักดันให้กลับไปหวนคืน…คืนนั้นคืนที่ทุกอย่างหลุดจากการควบคุม…คืนที่ทำใ

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   ลา

    “หลวงพี่ก็เลยมาบวชอะหรอ” เณรพ่ายถาม ใบหน้าเล็กแหงนมองหลวงพี่ด้วยสายตาที่ตั้งใจจดจ่อ ทำเอาคนเล่าอย่างจอมทัพเอ็นดูกับความตั้งใจฟังของคนตัวเล็กตรงหน้า จอมทัพพยักหน้าตอบเบา ๆ “ประมาณนั้น” จอมทัพเล่าทั้งหมดให้แก่เณรพ่ายฟังเสร็จก็เดินไปหยิบไม้กวาดทางมะพร้าวที่วางทิ้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาหมายจะกวาดต่อ เรื่องนี้มีแค่เพื่อน ๆ ของเขาเท่านั้นที่รู้ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังอะไร เพราะตอนนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกรักเจนแล้วเหลือแต่ความรู้สึกว่างเปล่า ต่อจากนี้…ต่างคนก็ต่างเดินบนทางของตัวเอง “ไม่เป็นไรนะหลวงพี่ หล่อ ๆ อย่างหลวงพี่เณรเชื่อว่าสึกไปสาวติดตรึม” คำพูดและท่าทางแก่แดดของเจ้าตัวจ้อยทำเอาจอมทัพถึงกับถลึงตาดุคนตัวเล็กตรงหน้าทันที “เณรสำรวม ระวังคำพูดด้วย” จอมทัพเอ่ยเสียงดุ ท่าทีจริงจังรวมกับสายตาที่ดุดันทำให้คนตัวเล็กหน้าหงอยลงทันตา “ขอประทานโทษครับหลวงพี่” เสียงอ้อมแอ้มเอ่ยขอโทษเบา ๆ สีหน้าเจื้อนลงถนัดตาร่วมกับท่าทีสำนึกผิดของเณรพ่ายทำเอาจอมทัพถึงกลับใจอ่อน เด็กยังไงก็เป็นเด็ก จอมทัพปลอบตัวเองในใจ “เฮ้อ เอาเถอะ เดี๋ยวไปช่วยกันกวาดศาลากัน” “ครับหลวงพี่!” ใบหน้าหงอยกลับมายิ้มอี

  • หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ   สาเหตุ

    จิ๊บ ๆ ~เสียงร้องเจื้อยแจ้วของนกเขาตัวเมีย ส่งเสียงเรียกปลุกลูกนกออกจากรังเพื่อป้อนอาหาร วัดนี้เป็นวัดต่างจังหวัดในภาคกลาง พื้นดินถือว่าอุดมสมบูรณณ์ รายล้อมไปด้วยทุ่งนา แมกไม้ วัวควาย และเสียงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นเก่าที่กว่าจะสตาร์ทได้แต่ละทีเล่นเอาเหนื่อยหอบ ยังคงดังผ่านไปมา เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายที่จอมทัพเจอมาตลอดสามเดือนนี้สายลมเย็น ๆ พัดพาดวงใจเงียบสงบเสมอมา ทว่าครั้งนี้กลับไม่เหมือนเช่นเคย คงเป็นเพราะในใจแอบไหววูบเล็กน้อยที่ต้องจากที่นี่ไปในอีกไม่กี่วัน หรือแท้จริงแล้ว ไม่อยากจะพบเจอใครบางคนแต่ยังไงงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกราอยู่ดี เขาอยู่ที่นี่ไปตลอดไม่ได้ ยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ไหนจะครอบครัว เพื่อนฝูง ที่รอคอยเขากลับไปแกร็ก ๆเสียงไม้กวาดทางมะพร้าวกระทบพื้นปูนเปลือยใต้ศาลาวัด ในทุกเช้าจอมทัพจะทำหน้าที่หลัก ๆ อยู่ไม่กี่อย่าง อย่างเช่นตอนนี้ที่เขากวาดลานวัดอยู่ หลังจากกลับมาจากบิณฑบาตรกับหลวงพ่อและเณร“หลวงพี่ทัพพพพ!” สิ้นเสียงเล็กแหลมตะโกนดังเข้ามาจอมทัพก็หลุดออกจากภวังค์ความคิด ใบหน้าคมหันตามเสียงเรียก เป็นเณรพ่ายนั่นเอง“ว่าไงเณร เรียกซะเสียงดังเลย”“เณรเรียกหล

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status