Beranda / รักโบราณ / อัปลักษณ์จวนเดียวดาย / ตอนที่ 4 ของขวัญปริศนา 1.4

Share

ตอนที่ 4 ของขวัญปริศนา 1.4

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-05 09:06:17

เมืองลั่วหยาง

เทศกาลดอกโบตั๋นเป็นหนึ่งในเทศกาลระดับชาติ ซึ่งทางการจีนจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี มื่อย่างเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้นานาชนิดก็เริ่มผลิบาน แย้มดอก ออกใบ อวดความสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉมกันอย่างหลากหลายพื้นที่ เป็นอีกหนึ่งเทศกาลดอกไม้ที่สวยงามและหาชมได้ยาก นั่นก็คือเทศกาลดอกโบตั๋น

ดอกโบตั๋นหรือดอกพิโอนีถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่ำรวยและรุ่งเรือง ทำให้ดอกโบตั๋นในประเทศจีนนั้นมีมากมายกว่า 1,200 สายพันธุ์ นอกจากนี้ทุกปีช่วงเดือนเมษายนยังมีเทศกาลดอกโบตั๋นที่เมืองลั่วหยาง Luoyang เมืองแห่งประวัติศาสตร์ชาติจีนโบราณที่ขึ้นชื่อว่าปลูกดอกโบตั๋นได้สวยงามที่สุด

เทศกาลดังกล่าวจะแบ่งสถานที่จัดงานออกเป็นหลายจุดเพื่อกระจายกำลังต้อนรับนักท่องเที่ยว สถานที่หลักในการจัดงานคือ Luoyang National Peony Garden ด้านในมีต้นราชาโบตั๋นสูงกว่า 3 เมตร อายุกว่า 1,600 ปีขึ้นอยู่อย่างโดดเด่น ท่ามกลางดอกโบตั๋นหลากสีมากมายแข่งกันเบ่งบาน ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งงาน

ในขณะที่สองพี่น้องหลี่ยู่และหยางเฟยอี้ เดินทางมาร่วมงานในเทศกาลดอกไม้ลือชื่อดังกล่าวพร้อมขึ้นเวทีมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดแข่งขันเพาะดอกโบตั๋น รวมไปถึงใช้พลังเสียงของเธอขับกล่อมผู้ชมภายในงานจนได้รับเสียงปรบมือด้วยความชื่นชม

ร่างระหงของนักร้องสาวชื่อดังเดินลงจากเวที เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจวันนี้เป็นที่เรียบร้อยก่อนจะยื่นมือรับขวดน้ำดื่มจากพี่สาวมาถือเอาไว้ในมือพลางกวาดสายตาไปทั่วบริเวณงาน

“โอโห่! พี่ใหญ่ดอกโบตั๋นของจริงมีหลายสีขนาดนี้เลยเหรอเพิ่งจะรู้ก็วันนี้แหละดอกเบ้อเริ่มเลย แค่ดอกเดียวก็สามารถปิดหน้าหนูจนมิดเลย” หญิงสาวพูดพลางยกขวดน้ำขึ้นกรอกปากก่อนจะดื่มน้ำอย่างรวดเร็วจนหมด

“ถิงถิง! เดี๋ยวขากลับเราแวะเที่ยวเมืองลั่วหยางกันเถอะ ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะเลย อีกอย่างหมดคิวงานของทางนี้แล้ว กว่าคิวงานจากฮ่องกงจะเริ่มมีเวลาว่างตั้งห้าวันเลยเชียวนะ” หลี่ยู่บอกน้องสาวของเธอพลางเปิดไอแพด ซึ่งบันทึกคิวงานของแต่ละวันขึ้นตรวจสอบอีกครั้ง

“ก็ดีเหมือนกันนะพี่ใหญ่ มีเวลาว่างตั้งห้าวันถือโอกาสใช้เวลานี้เที่ยวพักผ่อนให้ร่างกายผ่อนคลาย หนูจะได้มีเวลานอนยาวๆ สักวันจะได้พักเส้นเสียงไปในตัว กี่ปีแล้วก็ไม่รู้ที่ไม่ได้พักเลยทำแต่งานอย่างเดียว เกิดตายไปก่อนอดได้ใช้เงินตัวเองพอดี หาเงินมาได้ตั้งเยอะแยะ ต้องหาความสุขใส่ตัวเสียบ้างดะ...” หญิงสาวพูดยังไม่ทันจบ

เพียะ!ฝ่ามือของพี่สาวกระหน่ำลงมาทันที

“พูดอะไรแบบนี้เด็กบ้า! มาต่างบ้านต่างเมืองเขาห้ามไม่ให้พูดเรื่องตายมันเป็นลางไม่ดีรู้หรือเปล่า!” หลี่ยู่เอ็ดน้องน้องสาวต่างพ่อกลับไปท่ามกลางเสียงหัวเราะร่วนของสาวเจ้าดังออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ไร้สาระนะพี่ใหญ่! งมงายไปได้ใครเชื่อก็บ้าแล้ว! ไอ้เรื่องตายคนเราเกิดมาก็ต้องตายทุกคนนั้นแหละ ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ตอนที่ยังไม่ถึงเวลาตายก็ใช้ชีวิตให้มันคุ้มค่าไม่ดีกว่าเหรอ ถึงหนูจะตายตอนนี้ก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วเพราะมีเงินทิ้งให้ปะป๋ากับมะม้าแล้วก็พี่ใหญ่ เพียงพอที่จะอยู่สบายไปทั้งชาติเลย” หญิงสาวพูดออกมาตามความรู้สึกของเธอ

“แต่พี่ใหญ่แกไม่ต้องการ! เรามีกันแค่สองคนพี่น้องเท่านั้นจะทิ้งฉันให้อยู่คนเดียวได้อย่างไงเจ้าน้องบ้า! เลิกพูดเรื่องแบบนี้ได้แล้วอย่าให้ได้ยินอีกนะ เพราะพี่ไม่ชอบให้แกพูดเป็นลางแบบนี้!” หลี่ยู่กำชับน้องสาวเสียงจริงจัง

หมับ! ท่อนแขนเรียวตรงเข้ากอดเอวพี่สาวต่างพ่อ เมื่อเห็นอารมณ์อีกฝ่ายเริ่มไม่ดีขึ้นมาเพราะจากคำพูดของเธอ

“ถิงถิงผิดไปแล้ว พี่ใหญ่อย่าโกรธเลยนะ ต่อไปหนูจะไม่พูดจาอะไรแบบนี้อีกแล้วสัญญาเลย” หญิงสาวพูดพลางชูนิ้วก้อยของเธอขึ้นมาเพื่อเกี่ยวก้อยสัญญากับพี่สาว

หลี่ยู่มองน้องสาวตัวดีของเธอก่อนจะทำตาปะหลับปะเหลือกส่งค้อนให้อีกฝ่าย พลางยื่นนิ้วก้อยเกี่ยวนิ้วของน้องเพื่อให้สัญญาระหว่างพี่น้อง

“สัญญาแล้วนะว่าจะไม่พูด! เป็นเด็กดีของพี่ใหญ่ว่านอนสอนง่ายตลอดไป ไม่ว่าอย่างไรก็ตามแกไปที่ไหนต้องมีพี่ไปด้วยทุกที่ ฉันไม่ปล่อยให้แกต้องไปไหนคนเดียวตามลำพังหรอก” หลี่ยู่บอกน้องกลับไป

“ว้าว! หนูโชคดีมากเลยที่พี่ใหญ่รักและเป็นห่วงมากขนาดนี้ สัญญาเลยว่าจะเด็กดีของพี่ใหญ่และเชื่อฟังทุกอย่างเลย” นักร้องสาววัยแรกรุ่นกล่าวให้สัญญา

“ดีแล้ว! เดี๋ยวเรากลับเข้าที่พักกันก่อนช่วงบ่ายค่อยออกมาเดินเที่ยวเมืองลั่วหยางว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง จะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดสบายๆ ไม่ต้องมากพิธีเหมือนตอนนี้” หลี่ยู่กล่าวพลางตรงเข้าควงแขนน้องสาวเดินไปพร้อมกับเธอพร้อมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“เดี๋ยวช่วงบ่ายเราไปเที่ยวจวนโบราณดีกว่าถิงถิง พี่ใหญ่เห็นโบชัวร์เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชม เป็นจวนอุปราชที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เห็นว่าทางการประกาศขึ้นทะเบียนอนุรักษ์เอาไว้ให้เป็นสมบัติของชาติ ภายในนั้นมีของเก่าแก่มาจัดแสดงด้วยนะ” หลี่ยู่บอกน้องสาว

ในขณะที่คนเป็นน้องไม่ได้ใส่ใจที่จะฟังแม้แต่น้อย สายตาเอาแต่มองดอกโบตั๋นพร้อมเอ่ยขึ้น

“มีแต่คนชอบดอกโบตั๋นกันทั้งนั้นเลยแต่ทำไมเรากลับไม่ชื่นชอบเหมือนคนอื่นเขาหว้า ถ้าเป็นดอกเหมยว่าไปอย่างยิ่งเป็นดอกสีขาวละก็เยี่ยมมากเลย” หยางเฟยอี้บ่นพึมพำอยู่คนเดียว

“ตกลงแกฟังพี่ใหญ่อยู่หรือเปล่าถิงถิง! แล้วนี่อะไรมาเทศกาลดอกโบตั๋นแทนที่จะชื่นชมกลับบ่นหาดอกเหมย นี่มันใช่ฤดูกาลของมันหรือเปล่ายะ! อีกอย่างดอกเหมยสีขาวเป็นพันธ์แท้หายากจะตายในสมัยนี้ ที่เห็นมีแต่พวกกลายพันธ์ทั้งนั้นจะไปหาดูที่ไหนได้!” หลี่ยู่บ่นให้น้องสาวเสียยืดยาวในขณะที่เจ้าตัวได้แต่เงียบปากไม่ตอบโต้แม้แต่คำเดียว

“โอโห่! พี่ใหญ่ทำไมบ่นเก่งจัง อายุก็เพิ่งจะ 24 เท่านั้นเองทำเหมือนคนอายุ 42 เข้าไปได้หูชาไปหมดแล้ว!” หญิงสาวพูดพร้อมยกนิ้วเขี่ยในรูหูของเธอไปมา

โป๊ก! มะเหงกเขกลงกลางศีรษะของน้องสาวเบาๆ เป็นการลงโทษ

“ยายเด็กแก่แดดมาว่าพี่ใหญ่ทำตัวเป็นยายแก่อย่างนั้นเหรอ! แล้วไอ้ที่พูดมามันถูกไหมเล่า ถามจริงตั้งแต่เกิดมาเรานะเคยเห็นดอกเหมยแล้วเหรอถึงได้แยกแยะออกได้ พวกเราเกิดที่ฮ่องกงนะ! เป็นคนฮ่องกงโดยกำเนิดไม่ใช่เกิดและโตในแผ่นดินใหญ่” หลี่ยู่บ่นนน้องสาวเสียยืดยาว

“ก็ชาติที่แล้วหนูเกิดที่นี่!” หยางเฟยอี้สวนพี่สาวกลับไปทันที

หือ!!! หลี่ยู่ส่งเสียงสูงอยู่ในลำคอทันทีที่ได้ยินน้องสาวของเธอกล่าวออกมาเช่นนั้น

ในขณะที่เจ้าตัวก็ชะงันงันอยู่กับที่เช่นกันเพราะเหตุใดจึงพูดประโยคนั้นออกมาได้ ครั้นเหลือบสายตามองพี่สาวก็ต้องรีบหลบทันทีเมื่อหลี่ยู่จอมเฮี้ยบมองเธอเขม็งอยู่ในขณะนี้

“เออ...คือว่า...หนูแค่ลืมตัวก็เลยพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเองพี่ใหญ่” หญิงสาวรีบแก้ตัวให้กับตัวเอง

หลี่ยู่ยกมือขึ้นจับหน้าผากของตัวเองพร้อมใช้มืออีกข้างแตะหน้าากของน้องสาววัดอุณหภูมิในร่างกายเพื่อให้แน่ใจ

“ไม่มีไข้ก็แล้วไป สงสัยคงจะนอนไม่อิ่มก็เลยพูดจาเลอะเลือนออกมา พี่ใหญ่คิดว่าแกต้องนอนพักผ่อนเอาแรงก่อนดีกว่า วันนี้ยังไม่ต้องออกไปไหนหรอกเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ เพื่อจะดีขึ้นกว่าวันนี้” หลี่ยู่ไม่พูดเปล่าตรงเข้าควงแขนของน้องสาวอีกครั้งพร้อมลากร่างระหงของเด็กสาวไปด้วยกัน

“พี่ใหญ่หนูไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ!” นักร้องดังบ่นพึมพำไปตลอดทางเมื่อถูกพี่สาวกักตัวเธอเอาไว้แต่ในที่พักแบบนั้น

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 11 อินอวิ๋นหยาง

    เทือกเขาหลงเมิ่งเทืองเขาสูงเสียดฟ้าถูกปกคุลมด้วยสายหมอกเมฆาเห็นเป็นทะเลหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ สายลมเย็นยะเยือกพาดผ่านไปมาอยู่เป็นระยะ กระทบอาภรณ์ขาวจนชายผ้าพลิ้วไหวสะบัดไปมาเส้นผมสีดำสนิทยาวถึงบั้นเอวถูกเกล้าครึ่งศีรษะปล่อยส่วนปลายให้ทิ้งตัวลงในวันสบายๆ เช่นนี้ มวยผมถูกจัดให้เป็นทรงได้รูปสวยงามเสียบปิ่นปักผมทำจากหยกสีขาว กำลังยืนเอามือไพล่หลังพร้อมหมุนหยกก้อนกลมสีขาวเหมือนกับอาภรณ์ไปมาอยู่ตลอดเวลา พลางทอดสายตามองขุนเขาสูงตรงหน้าที่เพิ่งจะกลับมาพำนักอยู่ได้เพียงแค่สามปีเท่านั้นร่างสูงใหญ่ท่ามกลางอาภรณ์ขาวสวมใส่อยู่บนเรือนกาย เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลคู่โศก ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มรับกับจมูกโด่งสูงและริมฝีปากหยักได้รูปสวยโครงหน้าประหนึ่งรูปสลัก หล่อเหลางดงามเป็นที่เลื่องลือไปทั่วหล้าว่าเป็นบุรุษรูปงามที่หาพบได้ยากยิ่งหากแต่บุรุษผู้ลือนามอันเป็นที่กล่าวขานไปทั่วแผ่นดินผู้นี้ กับมีสมญานามที่ผิดไปจากรูปลักษณ์ภายนอกอันงดงามอย่างสิ้นเชิง อุปราชอำมหิต นามเลื่องลือที่ผู้คนต่างสะพรึงกลัวและหวาดหวั่น อุปราชอินอวิ๋นหยางแห่งหยวนเป่ย ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีชีวิตที่ลึกลับและน่าพิศว

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 9 อินอวิ๋นฉวี่ 1.3

    ฉาด!!!! พระหัตถ์ตบลงบนหน้าขาของพระองค์จนได้ยินเสียงดังอย่างชัดเจน ติดตามด้วยเสียงหัวเราะดักกึกก้องออกมาทันทีไม่รู้ว่าเห็นด้วยกับวิธีการของขันทีคนสนิทหรือเห็นต่างกันแน่“ดี! เจ้าทำได้ดีมากเสี่ยวฉิงจื่อ! ความคิดของเจ้ายอดเยี่ยมช่างตรงกับความต้องการที่อยู่ในภายในใจของข้า! ข้าต้องการให้เสด็จอาตายไปเสียที! ยิ่งเร็วได้เท่าไรยิ่งดีจะได้ไม่ต้องอยู่ขวางทางอำนาจของข้าอีกต่อไป”รับสั่งของฮ่องเต้น้อยทำให้ไส้ศึกจากสองแคว้นผ่อนลมหายใจของตนออกมาทันที รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นบนใบหน้า ในที่สุดฮ่องเต้โง่ผู้นี้ก็มีความเห็นคล้อยตามที่คิดจะกำจัดอุปราชอินอวิ๋นหยางเกิดขึ้นภายในจิตใจ ไม่เสียแรงที่เฝ้ายุแยงมานานหลายปีไม่ทำให้ลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์“แต่ว่าแล้วจะเอามือสังหารจากที่ไหนทำงานนี้ได้ ในเมื่อเสด็จอามีวรยุทธสูงมากขนาดนั้น ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าใกล้ได้เลยส่งไปก็ถูกฆ่าดั่งใบไม้ร่วงหล่นโดยเปล่าประโยชน์ และเสด็จอาต้องล่วงรู้ว่าข้าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ แบบนี้ข้าก็แย่สิดีไม่ดีจะกลายเป็นคนถูกฆ่าเสียเอง เกิดเสด็จอาฉวยโอกาสนี้หาข้ออ้างปลิดชีวิตข้าแล้วชิงบัลลังก์ขอ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 10 อินอวิ๋นฉวี่ 1.4

    “เจ้าให้ข้าพูดแบบนั้นหมายความว่าอย่างไงกันแน่! ข้าไม่เคยต้องการให้คนผู้นั้นแผ่ลูกหลานสายสกุลอินออกมาแม้แต่น้อยตรงกันข้ามจะฆ่าไม่ให้เหลือเสียด้วยซ้ำ! ลูกหลานสายสกุลอินจะต้องมาจากข้าเท่านั้นจึงจะถูกต้อง!” รับสั่งอย่างไม่พอพระทัย“โธ่! ฝ่าบาทไปกันใหญ่แล้ว! อย่าเพิ่งเข้าพระทัยผิดพ่ะย่ะค่ะ ทรงทำความเข้าใจเสียใหม่ว่านี้คือแผนหลอกล่อจึงต้องยกข้ออ้างเช่นนั้นออกมา หาไม่แล้วแผนต่อไปจะสำเร็จได้อย่างไร จะทำให้อุปราชไว้วางพระทัยว่าไม่มีอะไรแอบแฝงก็ต้องยกยอไปก่อนแล้วค่อยจัดการภายหลัง” เสี่ยวฉิงจื่ออธิบายกลับไปพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย“คนผู้นี้ช่างโง่เขลาเสียจริง! ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดข้าจึงทนได้มานานหลายปีเช่นนี้นะไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ” เสี่ยวฉิงจื่อรำพึงอยู่ภายในใจในขณะที่ฮ่องเต้หยวนเป่ยได้ยินคำอธิบายกลับมาเช่นนั้น พระองค์พยักพระพักตร์ขึ้นลงด้วยไม่เห็นต่างจากเสี่ยวฉิงจื่อ“จริงด้วย! จะสังหารเสด็จอาก็ต้องทำให้ไว้วางใจเสียก่อน หาไม่แล้วจะเสียแผนการทั้งหมด ดี! ใช้แผนนี้ดีที่สุดว่าแต่จะทำให้สตรีจากต้าซางและต้าเหลียงเป็นคนของเ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 8 อินอวิ๋นฉวี่ 1.2

    ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าตัวตนดั้งเดิมที่แท้จริงของขันทีผู้นี้หาใช่ชาวหยวนเป่ยโดยกำเนิด ในความเป็นจริงแล้วคือสายลับที่ถูกฮ่องเต้ต้าเหลียงและฮ่องเต้ต้าซางซึ่งจับมือผนึกกำลังหวังโค่นล้มหยวนเป่ย ถูกส่งตัวเข้ามาแทรกซึมคอยหาข่าวภายในราชสำนักหยวนเป่ย เป้าหมายเพื่อหาโอกาสลอบสังหารอุปราชอวิ๋นหยาง และถ้าหากลงมือกับอุปราชผู้นั้นสำเร็จมีหรือชีวิตของอินอวิ๋นฉวี่จะอยู่รอดต่อไปได้นาน ฮ่องเต้หนุ่มจะต้องถูกสังหารตายตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ทันทีที่ชีวิตของอินอวิ๋นหยางหลุดลอยออกจากร่างแต่ที่ไม่ลงมือปลงพระชนม์อินอวิ๋นฉวี่ด้วยเพราะ หากอวิ๋นฉวี่สวรรคตลงวันใดแน่นอนว่า แผ่นดินหยวนเป่ยจะต้องตกเป็นของอุปราชผู้กล้าอินอวิ๋นหยางโดยทันที และนั่นจะยิ่งยากกว่าอะไรทั้งหมดหากจะคิดเป็นอิสระและก้าวขึ้นมาครอบครองหยวนเป่ย แทนที่นั้นต้องสืบล่วงรู้จุดอ่อนของอุปราชลือชื่อผู้นี้ให้จงได้รวมไปถึงที่พำนักอันแท้จริงของพระองค์ด้วยไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้เลยว่าแท้จริงแล้วอุปราชผู้นี้ประทับอยู่แห่งหนใดและบริหารแผ่นดินโดยใช้อินทรีทองสื่อสารอันเป็นสัญลักษณ์ของพระองค์ ซึ่งต้าเหลียงและต้าซางรวมไปถึงหยวนเป่ยนั้นต่างรบพุ่งกันมานานเพื

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 7 อินอวิ๋นฉวี่ 1.1

    ยุคอดีตแคว้นหยวนเป่ยณ.พระราชวังหลวงภายในแคว้นหยวนเป่ยในเวลานี้อยู่ในสมัยการปกครองของสายสกุลอิน ซึ่งขึ้นมามีอำนาจเป็นใหญ่ในแผ่นดินฮ่องเต้แต่ละพระองค์มีทั้งเข้มแข็งและอ่อนแอสลับกันไป และได้นั่งบัลลังก์สืบทอดมานานกว่า 111 ปี จนถึงสมัยอินอวิ๋นฉวี่ขึ้นปกครองแคว้นในขณะที่มีพระชนม์มายุเพียงแค่ 10 พระชันษาเท่านั้นสืบเนื่องจากอดีตฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระราชบิดาเสด็จสวรรคตลงอย่างกะทันหัน ในขณะที่มีพระชนมายุเพียง 27 พระชันษาและขึ้นปกครองแคว้นได้เพียงห้าปีเท่านั้น ด้วยสาเหตุเลือดในพระวรกายเกิดเป็นพิษซึ่งหากเทียบในยุคปัจจุบันคือติดเชื้อในกระแสเลือดนั่นเอง จึงเป็นเหตุให้องค์ชายอินอวิ๋นฉวี่ ที่ประสูติจากหยางฮองเฮาขึ้นเป็นฮ่องเต้ครองแคว้นด้วยเพราะเป็นพระโอรสเพียงหนึ่งเดียว ส่วนอีกแปดพระองค์นอกนั้นเป็นพระราชธิดาทั้งสิ้นในขณะที่หยางฮองเฮาพระราชมารดา ก็สิ้นพระชนม์ตามพระสวามีไปด้วยเพราะทรงตรอมพระทัย เพียงแค่สามเดือนที่ฮ่องเต้อวิ๋นโฉสวรรคตพระนางก็จากไป จึงทำให้ฮ่องเต้น้อยผู้ครองแคว้นหยวนเป่ย ซึ่งยังเยาว์วัยยิ่งนักต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว พระองค์เหลือเพียงฮองไทเฮาเสด็จย่า แล

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 6 ของขวัญปริศนา 1.6

    ทันใดนั้นเอง“ข้ารอเจ้ามานานแสนนานแล้ว! มาหาข้า! ข้ารอเจ้าอยู่ที่จวนเดียวดาย! รอเจ้าที่จวนเดียวดาย” เสียงดังกล่าวกึกก้องออกมาจากภาพวาดที่อยู่ในมือของนักร้องสาวคนดังและเธอก็ได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน“ไม่จริง! มันจะต้องไม่เป็นความจริง! ฉันต้องหูฝาดแน่ๆ ต้องไม่ใช่! ไม่ใช่!!!”ในขณะที่เสียงจากภาพวาดยังคงดังกึกก้องออกมาอย่างไม่ขาดสาย“มาหาข้า! ข้ารอเจ้าที่จวนเดียวดาย!” เสียงเรียกนั้นเริ่มดังขึ้นพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับหยางเฟยอี้ตุบ! ภาพวาดที่กำลังถืออยู่มือร่วงหล่นลงพื้นอย่างรวดเร็ว เมื่อนักร้องสาวมีอาการหายใจไม่ออกขึ้นมาอย่างกะทันหัน หยางเฟยอี้พยายามที่จะหายใจทางปากแต่กลับทำให้เจ็บแปลบเข้าที่หัวใจจนไม่สามารถทำให้เธอหายใจได้เป็นปกติอะ...โอ๊ยยยยย!!! มือเรียวสวยยกขึ้นจับศีรษะของเธอทันทีเมื่อเสียงร้องเรียกดังกล่าวทำให้นักร้องดังมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงพร้อมเริ่มมีอาการหายใจไม่ออกอย่างเฉียบพลัน“ชะ...ช่วย...ช่วยด้วย...หะ...หายใจ...ไม่ออก!!!” สิ้นเสียงตะกุกตะกักที่เธอพยายามสื่อสารให้กับเจ้าหน้าที่ต

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status