เรื่องตลกที่ว่าอยู่ดีๆเข้าก็มีคู่หมั้นและที่ตลกกว่าคือ เขานั้นมีคู่หมั้นตั้งสองคน
“พ่อหาคู่หมั้นให้ผมคนหนึ่ง แม่หาคู่หมั้นให้ผมอีกคนหนึ่งแล้วพ่อกับแม่ต่างคนต่างหาคู่หมั้นมาให้ผม สรุปแล้วผมมีคู่หมั้นอยู่สองคนว่าแต่คุณสองคนไม่ตกใจบ้างเลยเหรอที่อยู่ดีๆก็กลายเป็นคู่หมั้นของผม” เบญญาภาหันหน้าไปมองพิมรสาที่นั่งหน้านิ่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เพราะเธอมั่นใจว่าคนที่คุมเกมนั้นเป็นเธอแน่นอน
“แต่ว่าคุณน้าหมั้นเบญกับพี่สิงห์ก่อนนะคะ ไม่รู้ใครที่จู่ๆก็จะมาแย่งพี่สิงห์ของเบญ”
“พ่อเป็นพ่อและพ่อก็มีสิทธิ์ในตัวลูกเต็มที่เพราะพ่อดูแลลูกมาตั้งนานเพราะฉะนั้นคู่หมั้นที่พ่อหาให้ถือว่าเป็นสิทธิ์ขาด สิงห์จะต้องแต่งงานกับหนูพิมรสา”
พิมรสาที่นั่งเชิดหน้าขึ้นดังคนที่ถือไพ่เหนือกว่าเพราะยังไงตอนนี้พยัคฆินก็ถือได้ว่าเป็นผู้สืบทอดโรงแรมใหญ่จากคมสันเพราะฉะนั้นสมบัติทั้งหมดที่คมสันมีก็จะตกเป็นของพยัคฆิน เธอก็ถือว่าเป็นลูกสะใภ้เต็มตัว
พิมรสาก็หันไปยิ้มเยาะให้กับเบญญาภา จนเบญญาภาโมโหและกำลังจะลุกขึ้นต่อว่าพิมรสา พรนภาจึงดึงแขนของเบญญาภาไว้
“ใจเย็นๆหนูเบญเดี๋ยวน้าจัดการเอง”
“คุณจะพูดแบบนี้ไม่ได้นะเพราะว่าความจริงแล้วฉันเป็นแม่ของตาสิงห์และฉันก็เบ่งตาสิงห์ออกมา คุณนี่สิไม่ได้ตั้งท้องไม่ได้เบ่งแต่คุณจะมาบอกว่าคุณมีสิทธิ์ขาดในตัวตาสิงห์ได้ยังไง”
“ผมจะไม่มีสิทธิ์ขาดได้ยังไง ในเมื่อคุณเปลี่ยนใจที่จะไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นแล้วยอมปล่อยให้ลูกอยู่กับผม ผมเลี้ยงของผมมาตั้งแต่เล็กเพราะฉะนั้นคนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ผม ผมก็ต้องเป็นคนเลือก”
“คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง”
“ทำไมผมจะพูดแบบนี้ไม่ได้ ในเมื่อคุณเองได้เงินไปตั้ง 20 ล้านแล้วก็ยอมเซ็นเอกสารให้ผมเป็นผู้ดูแลลูกแต่เพียงผู้เดียว”
“ถึงฉันจะได้ 20 ล้านไป แต่ยังไงตาสิงห์คนนี้ก็ยังเป็นลูกของฉัน” พยัคฆินที่ทนฟังต่อไม่ไหวจึงตบโต๊ะลงเสียงดังด้วยความโมโห ชายหนุ่มกำมือแน่นจนขอบตาร้อนผ่าว
“คุณพ่อคุณแม่ทำไมถึงเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกละครับ” เขาพูดขึ้นเสียงแข็งจนผู้เป็นพ่อและแม่รับรู้ได้ถึงอารมณ์โกรธของลูกชาย จนไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก
“เอาล่ะครับ เรื่องบ้าๆนี้ผมขอให้จบเพียงแค่นี้นะครับ แล้วไม่ต้องพาผู้หญิงสองคนนี้มาให้ผมดูตัวอีก ผมบอกคุณพ่อคุณแม่ได้ชัดเจนเลยว่าผมไม่เลือกใครทั้งนั้นและคนที่ผมจะแต่งงานด้วยไม่ใช่สองคนนี้แน่นอน”
“แล้วแกจะแต่งงานกับใคร”
“ผมมีแล้วครับคนที่ผมจะแต่งงานด้วย” ชายหนุ่มลุกขึ้นเต็มความสูงและจัดชุดสูทของตัวเองพลางสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเอง
“วันนี้ผมคงทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ไม่ลง เชิญคุณพ่อคุณแม่ทานข้าวกับคู่หมั้นทั้งสองคนของผมต่อเลยครับ” ว่าแล้วชายหนุ่มก็หมุนตัวและเดินผลักประตูออกไปด้วยความโมโห
อมรที่ยืนทำท่าอึกอักอยู่ก็รีบไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองและเดินออกไปจากห้องทันที
“ดูสิเจ้าลูกชายตัวดีของคุณ คุณสั่งสอนบ้างนะอยู่กับคุณมาตั้งยี่สิบปี ทำไมพฤติกรรมถึงแย่ขนาดนี้ ถ้าอยู่กับฉันพฤติกรรมคงไม่แย่ขนาดนี้หรอก”
“คุณคิดว่าตัวเองพฤติกรรมดีขนาดนั้นเลยเหรอ แค่มีลูกชายคนเดียวยังไม่กล้าเลี้ยงเลยกลับวิ่งแจ้นไปหาผู้ชายคนอื่น”
“ที่ฉันไม่สามารถอยู่เลี้ยงลูกได้ก็เพราะตัวคุณต่างหากที่ไม่เคยให้เวลากับฉันจนฉันต้องหย่าแล้วไปแต่งงานกับคนอื่น”
“คุณนั่นแหละเป็นคนไม่ดี ทำให้ครอบครัวร้าวฉาน”
“เอาล่ะๆ อย่ามัวมาโทษกันเลยทานข้าวกันเถอะ” เบญญาภาสะกิดแขนของพรนภาด้วยความไม่พอใจที่พยัคฆินไม่สนใจเธอ
“ไม่เป็นไร ยังไงน้าก็จะทำให้หนูเบญได้แต่งงานกับตาสิงห์ให้ได้ ทานข้าวเถอะ”
พิมรสาที่หันไปยิ้มให้กับคมสัน
“คุณลุงไม่ต้องโมโหมากนะคะ เดี๋ยวจะเสียสุขภาพ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะน่าฟังแต่สายตาที่ส่งให้เบญญาภานั้นร้ายกาจไม่เบา หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็ต่างทานข้าวไปเงียบๆ
เมื่อขึ้นมาบนรถแล้วพยัคฆินก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาดูโทรศัพท์ จนเขาโมโหที่เธอไม่ยอมส่งข้อความกลับมาหาเขา
นี่ก็เกือบจะสองทุ่มแล้วแต่หญิงสาวก็ยังไม่ยอมส่งข้อความใดๆกลับมา พยัคฆินจึงส่งข้อความไปหาเธอ
“ตกลงว่าคุณตัดสินใจยังไง”
ฝั่งรติรส
เมื่อรติรสหอบความช้ำไปถึงห้องเธอก็ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่เธอกำลังจะแต่งงานในอีกหนึ่งอาทิตย์เขาจะพาผู้หญิงขึ้นโรงแรมไปจริงๆ
“ทำไมพี่เพชรถึงทำแบบนี้กับรติทั้ง ๆ ที่เราจะแต่งงานกันอีกหนึ่งอาทิตย์แล้ว”หญิงสาวร้องไห้ด้วยความเสียใจไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายที่เธอกำลังจะเข้าประตูวิวาห์ด้วยอีกหนึ่งอาทิตย์จะทำแบบนี้กับเธอได้
นิ้วเรียวนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าและทิ้งตัวลงนอนกับที่นอน หญิงสาวร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง นิ้วเรียวกดเปิดคลังรูปที่พวกเธอทั้งสองนั้นถ่ายด้วยกัน เธอเปิดเข้าไปดูรูปถ่ายพรีเวดดิ้งของเธอกับเขานั้นถ่ายรูปพร้อมรอยยิ้มอย่างมีความสุขไม่น่าเชื่อเลยผู้ชายที่เคยอบอุ่นที่สุดจะเป็นคนทำร้ายเธอได้เจ็บปวดขนาดนี้
“ฉันจะทำยังไงดีนะ ทำไมโลกช่างโหดร้ายกับฉันแบบนี้” รติรสร้องไห้เหมือนคนจะเป็นบ้า สภาพของเธอนี้ดูไม่จืดเลยและแล้วเธอก็กดเข้าไปในโปรไฟล์เฟชบุ๊กของตัวเอง ข้อความที่เธอนั้นโพสต์บอกว่าให้เพื่อนๆที่ทำงานและเพื่อนตอนเรียนมหาวิทยาลัยนั้นมาร่วมงานแต่งของเธอกับพชร ยิ่งทำให้เธอนั้นอับอายขายขี้หน้าไม่รู้จะทำยังไงดีว่าที่เจ้าบ่าวตัวดีนั้นแอบหิ้วผู้หญิงขึ้นโรงแรมกลางวันแสกๆ
เธอจึงกดเข้าไปดูในกะทู้ถ้าจับได้แล้วว่าคู่หมั้นของตัวเองกำลังคบชู้ควรทำอย่างไร
“อย่างนี้ต้องเลิก เอาไว้เป็นพ่อของลูกไม่ได้เพราะฉะนั้นตัดให้เด็ดขาดเลย”
“เธอจะเลิกได้จริงๆเหรอทั้งๆที่เธอกำลังจะแต่งงานกับเขานะแล้วนี่ทุกอย่างก็เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว” หญิงสาวนอนคิดอยู่นานภาพที่พวกเธอนั้นกำลังมีความสุขด้วยกันก็ผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด มือเรียวกำโทรศัพท์แน่นด้วยความเด็ดเดี่ยว
“ถ้าเขาคิดถึงวันดีๆของพวกเรา เขาคงไม่ทำแบบนี้หรอกยัยรติ เธอสิจะต้องตัดใจ ดีแล้วที่จับได้ในตอนนี้ถ้าหากแต่งงานแล้วมีลูกขึ้นมาพี่เพชรทำแบบนี้กับเธอ เธอจะทำยังไงแล้วมันคงจะเป็นปมของลูกเธออีกด้วย ทางที่ดีตัดไฟตั้งแต่ต้นลม” หญิงสาวพยักหน้าให้กับตัวเองแล้วลุกขึ้นมานั่งแล้วตัดสินใจโพสต์ข้อความลงในเฟชบุ๊กทันที
“ฉันขอประกาศว่าจะไม่มีงานแต่งระหว่างฉันกับพี่เพชร เพราะว่าเราทั้งสองคนได้เลิกกันแล้ว” ประโยคเพียงสั้นๆทำให้รติรสได้รับข้อความจากเฟชบุ๊กของเธอแทบจะไหม้ ทั้งเสียงส่งข้อความ ทั้งเสียงคอมเมนท์เยอะแยะมากมาย จนในที่สุดเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“กริ่งๆ” รติรสหันไปมองก็เห็นเบอร์โทรของเพื่อนสาวก็รีบกดรับทันที ยังไม่ทันที่ต้นสายจะพูดเธอก็ชิงร้องห่มร้องไห้เสียงดังให้เพื่อนสาวฟังซะก่อน
“ยัยฟ้าที่เพชรเขานอกใจฉัน”
“แกรู้ได้ยังไงว่าพี่เพชรนอกใจแกรติ”
“ก็ฉันเห็นมากับตา วันนี้ฉันไปแจกการ์ดเพื่อนสมัยมัธยมโรงแรมที่เพื่อนฉันทำงานอยู่ ฉันก็เห็นที่เพชรหิ้วผู้หญิงขึ้นโรงแรมทั้ง ๆ ที่พี่เพชรบอกกับฉันว่าพี่เพชรติดประชุมทำไมพี่เพชรทำแบบนี้กับฉันแก” เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจจนฟ้าระวีอดเป็นห่วงไม่ได้
ตอนที่ 54ทำไมผมต้องหย่า“ไม่ค่ะ ฉันไม่เอา” หญิงสาวตอบขึ้นมาด้วยท่าทางหนักแน่น เธอไม่ต้องการเศษเงินของใครแค่นี้ชีวิตเธอก็วุ่นวายมากพอแล้ว เธอไม่อยากได้รับความสงสารจากเขาอีกแม้แต่น้อย เมื่อเห็นท่าทางถือดีของรติรสยิ่งทำให้พยัคฆินขบกรามแน่นพยัคฆินที่กำลังจะจรดปากกาและเซ็นใบหย่าให้เธอ แต่เขาก็หยุดเอาไว้ตรงนั้น“ผมเปลี่ยนใจ ผมไม่หย่า” เจ้าหน้าที่ที่พยายามไกล่เกลี่ยอยู่ตั้งนานอยากจะให้ทั้งคู่ลองคิดทบทวนให้ดีเสียก่อน แต่จู่ ๆ ฝ่ายชายนั้นกลับเปลี่ยนใจขึ้นมาซะงั้นพยัคฆินลุกขึ้นตึงตังแล้วเดินออกไปจากที่ว่าการอำเภอทันทีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“เกิดอะไรขึ้นน่ะ ทำไมคุณสิงห์เปลี่ยนใจขึ้นมา” มินรดาหันไปถามรติรสด้วยท่าทางตกใจ จู่ ๆ รติรสก็ลุกขึ้นแล้วเดินตามพยัคฆินออกไป จนสองเพื่อนสาวมองหน้ากันเหลอหลาแล้วหันไปยิ้มกับเจ้าหน้าที่คนเดิม“ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าฝ่ายชายยังไม่พร้อมค่ะ”“ไม่เป็นไรค่ะ ให้คู่สามีภรรยาคุยกันให้ชัดเจนก่อนนะคะค่อยมาใหม่ก็ได้ค่ะ” สองสาววิ่งหน้าตั้งตามรติรสกับพยัคฆินออกมาข้าง
ตอนที่ 53เสียทั้งตัวเสียทั้งใจ“พี่แก้วคะเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาของคุณสิงห์เหรอคะ ทำไมคุณสิงห์ถึงมาถ่ายพรีเวดดิ้งอีกรอบล่ะคะ” แก้วฤทัยรีบยกมือทำท่าจุ๊ปากไม่ให้วิภาดาพูดมากกว่านี้เธอกลัวว่าพิมรสาจะมาได้ยินเดี๋ยวเป็นเรื่อง“พูดเบา ๆ หน่อยสิน้องดาเดี๋ยวคุณพิมก็มาได้ยินหรอก ดาก็รู้เกียรติศัพท์คุณพิมเธอยิ่งไม่ธรรมดา” วิภาดารีบคว้าข้อมือของแก้วฤทัยเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง“ค่ะ ดาทราบดีค่ะ แต่ดาว่าผู้หญิงคนใหม่นี้ไม่ค่อยน่ารักเลยนะคะ ทั้งจิกกัดและสั่งเรายังกับทาสพี่ก็เห็น”“เห็นแล้วจะทำยังไงได้ล่ะ เขาเป็นลูกค้าไง”“แต่ลูกค้าก็ไม่ใช่พระเจ้านะพี่”“ลูกค้ามีเงินให้เรา ถ้ายังจะพูดมากอีกเดี๋ยวลูกค้าเปลี่ยนใจแล้วเราจะเอาเงินไหนใช้จ่าย ธุรกิจก็ไปต่อไม่ได้ ดานั่นแหละจะโดนไล่ออกจากงานได้” แก้วฤทัยชี้ทางสว่างให้วิภาดาว่าไม่ควรนินทาหรือซุบซิบเรื่องของลูกค้าเพราะมันผิดกฎและที่สำคัญอาจจะเกิดเรื่องใหญ่ได้จนทำให้เธอหลุดจากงานนี้“ค่ะ แต่ดารู้สึกว่าดาสงสารผู้หญิงคนก่อนของคุณสิงห์นะคะเพราะว่าวันท
ตอนที่ 52 คุณสิงห์จะแต่งงาน“โอ๊ย! ไอ้ลูกเวรมันวอนแต่เช้าเลย” ผู้เป็นพ่อด่าตามหลังสีหราชแต่แล้ว เขาได้ยินเสียงตะโกนของพ่อไล่หลังมาซึ่งไม่รู้หรอกว่าพ่อเขาตะโกนด่าเขาคำไหนแต่เขารู้ว่าพ่อคงจะอวยพรเขาสักอย่างนึง เขาจึงวนรถมอเตอร์ไซค์กลับมาและเบิ้ลรถมอเตอร์ไซค์ใส่ผู้เป็นพ่อจนควันดำจากมอเตอร์ไซค์คลุ้งไปทั่วหน้าบ้าน“ไม่รู้ว่าฉันทำให้แกเกิดมาได้ยังไง ไอ้ลูกเลว” อุไรที่วิ่งออกมาจากห้องครัวเมื่อได้ยินเสียงคมสันตะโกนด่าลูกชายลั่นบ้าน“เจ้าเสือทำอะไรน่ะ หยุดนะ” จากที่เธอกำลังทอดไก่อยู่พอได้ยินเสียงของคมสันตะโกนด่าลูกชาย เธอก็รีบวิ่งมาห้ามศึกทันที แม้แต่ตะหลิวก็ยังติดมือของอุไรมาด้วยเมื่อเห็นลูกชายทำท่าเบิ้ลรถจนควันดำโขม่งโฉงเฉงทั่วบ้าน เธออยากที่จะเอาตะหลิวเคาะหัวลูกชายสักทีสองทีให้หลาบจำจะได้ไม่ทำพฤติกรรมแบบนั้นอีก ไม่รู้โตมายังไงทั้ง ๆ ที่เธอก็สอนเขามาอย่างดีแต่เขาก็ยังเป็นเด็กก้าวร้าวและไม่เคารพผู้ใหญ่เมื่อสีหราชเห็นผู้เป็นพ่อนั้นโกรธจนควันออกหูและเห็นแม่กำลังวิ่งออกมาจาก
ตอนที่ 51ผู้ชายใจโลเล“อะไรนะ” เสียงพ่อและน้องชายตะโกนใส่หน้าเขาจนขี้หูเขาแทบจะเต้นระบำ“แกถอยออกห่าง ๆ เลยไอ้เสือ” ผู้เป็นพ่อดึงแขนของลูกชายคนเล็กให้ถอยห่างจากพยัคฆินแล้วเขาเดินก้าวฉับ ๆ ไปนั่งข้าง ๆ ลูกชายคนโตที่มีทีท่าว่าจะอ่อนลงในเรื่องที่เขาขอร้อง“ลูกช่วยพูดอีกทีสิเจ้าสิงห์”“ผมบอกว่าผมตกลงจะแต่งกับผู้หญิงที่พ่อหาให้ครับ” พยัคฆินพูดเพียงสั้น ๆ แล้วลุกขึ้นจากโซฟาเดินตรงขึ้นไปยังบันได ผู้เป็นพ่อรีบวิ่งตามไปทันที“ลูกพูดให้ชัด ๆ หน่อยตกลงลูกจะแต่งกับหนูพิมใช่ไหม”“ครับผมจะแต่งงานกับเธอให้เร็วที่สุด” คำพูดของพยัคฆินเล่นเอาสีหราชเบิกตากว้างและอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เกิดอะไรขึ้นกับพี่เขาเนี่ยหรือว่าการประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้เขาสมองกลับจนตัดสินใจแต่งงานกับพิมรสา“พี่ ๆ อย่านะ อย่าแต่งนะ”“แล้วมันเรื่องอะไรของแกล่ะไอ้เสือ” ผู้เป็นพ่อดึงแขนสีหราชออกจากพยัคฆิน เมื่อพยัคฆินเห็นความวุ่นวายกำลังจะเกิดขึ้นพยัคฆินจึงเดินขึ้นไปบนบันไดและตรงไปยังห้องนอนพร้อมล็อกประตูทันทีไม่ว่าเ
ตอนที่ 50ฉันเป็นภรรยาของเขาหลังจากที่แยกกันกับรติรสที่อำเภอ พยัคฆินก็ขับรถตรงไปยังห้องโดยที่ไม่เข้าบริษัทไม่ว่าใครจะโทรหา เขาก็ไม่รับสายใครสักคนชายหนุ่มเอาแต่ดื่มเหล้าตั้งแต่เช้ายันเย็น เขาเมาจนหัวราน้ำในที่สุดก็หลับไป พอตื่นขึ้นมาในเวลาสองทุ่ม เขาก็เฝ้าวนเวียนเห็นภาพเธอเดินไปมาในห้องจนในที่สุดชายหนุ่มตัดสินใจกดเปิดเครื่อง เขาโทรหาเธอแต่รติรสที่ร้องไห้หนักจนหลับไปก็ไม่ได้รับโทรศัพท์จากเขา“ตื๊ด ตื๊ด” ไม่ว่าเขาจะโทรหาเธอกี่ครั้งเธอก็ไม่ยอมรับสายเขาเลย พยัคฆินจึงตัดสินใจที่จะขับรถไปหาเธอ เขาก็พยายามกดโทรหาเธอหลายครั้งต่อหลายครั้ง“ทำไมคุณไม่รับสายผมหรือคุณกำลังอยู่กับใคร” ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยความคิดที่วิ่งเข้ามาในหัวด้วยความคิดฟุ้งซ่านจู่ ๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซค์กำลังจะยูเทิร์นและตัดหน้ารถของเขาทำให้พยัคฆินหลบรถมอเตอร์ไซค์คนนั้น“เฮ้ย!”“โครม” รถยนต์ของเขาหักหลบพุ่งเข้าข้างทางและตกลงไปในร่องคูน้ำและไปชนกับต้นไม้ทั้ง ๆ ที่เขารู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอกที่กระแทกเข้ากับพวงมาลัยแต
ตอนที่ 49พยานหย่า“มาเจอกันที่อำเภอ ฉันจะหย่ากับคุณสิงห์” ฟ้าระวีใบหน้าซีดเผือดนึกว่าเมื่อคืนรติรสนั้นจะปรับความเข้าใจกับพยัคฆินแล้วซะอีกเพราะเธอไม่ได้กลับบ้านมาทั้งคืน แต่ทำไมตื่นเช้ามาเพื่อนสาวของเธอจึงส่งข้อความนี้มา“ยัยมิ้นตื่น ตื่นได้แล้ว” ฟ้าระวียื่นมือไปเขย่าแขนเพื่อนที่เมาหลับไม่ได้สติยันเช้า มินรดาลุกขึ้นนั่งทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ลืมตาด้วยซ้ำ ผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิงไปซะหมด“อะไรล่ะยัยฟ้า ปลุกซะเสียงดังเลยเพิ่งจะได้นอนเนี่ย”“ไม่ต้องนอนแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปที่อำเภอ”“ไปที่อำเภอแล้วไปทำไมวะ”“ก็ไปเป็นพยานหย่าไง” ฟ้าระวีหันมาแว๊ดเสียงใส่มินรดาจนมิรดานิ่งงันไปในทันที“หย่าเหรอ ยัยรติจะหย่ากับคุณสิงห์จริง ๆ เหรอ” ฟ้าระวีหันมาพยักหน้าให้กับเพื่อนสาวณ ที่ว่าการอำเภอ“รติ” มินรดาเรียกรติรสขึ้นเสียงดังจากทางด้านหลังและหันไปมองพยัคฆินด้วยความไม่พอใจ“แกจะหย่ากับคุณสิงห์จริงเหรอ”