Share

บทที่ 4

Auteur: เฉียวเหมย
ลู่ซีเจ๋อตกใจเล็กน้อย “อะไรนะ คุณพูดว่าอะไร เฉินมู่ จะมาล้อเล่นกับผมไม่ได้นะ!”

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เฉินมู่คงร้องไห้อย่างขมขื่นทันทีที่ได้ยินคำว่า “ถอนหมั้น” และแสดงท่าทางที่ไม่พอใจจนทำให้เขาหมดความอดทน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะมีบุคลิกที่ขยันดูอ่อนแอ แต่เธอก็ปฏิเสธที่จะยอมแพ้ให้กับลู่ซีเจ๋อ

นอกจากนี้ แม่ของทั้งสองคนยังเคยเป็นเพื่อนสนิทกัน ไม่ว่าจะพูดอะไรแม่ของลู่มักคัดค้านการปฏิเสธของชายหนุ่มเสมอ จึงทำให้งานแต่งที่ว่านี้ยืดเยื้อมาหลายปีจนสรุปผลอย่างเป็นทางการไม่ได้

สุดท้ายเฉินมู่ก็สบตาชายหนุ่มอีกครั้ง “คุณหูหนวกเหรอ? มีประโยคไหนของฉันที่บอกว่าล้อเล่นบ้างล่ะ หรือว่าตอนบ่ายคุณชายลู่ไม่ว่าง? งั้นพรุ่งนี้ก็ได้นะ ฉันได้หมด ถ้าคุณว่าง”

เฉินชิงเสวี่ยตกตะลึงกับคำที่เฉินมู่ดุกล่าวลู่ซีเจ๋อว่าหูหนวกจริงเหรอ?

ยัยนี่เป็นเฉินมู่ตัวจริงหรือเปล่าเนี่ย?

ลู่ซีเจ๋อชะงักค้างอย่างกับถูกเฉินมู่ตบหน้าเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา ผู้หญิงคนนี้...ทำไมถึงก่อกวนเขาไม่หยุด?

“เฉินมู่ คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไรออกมา” ลู่ซีเจ๋อถาม

เฉินมู่พยักหน้าอย่างเฉยเมย “ฉันรู้ ถอนหมั้นไง ยกเลิกการแต่งงานของเรา แปลว่ามันไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันแล้ว”

“คุณเป็นฝ่ายพูดเองนะ เพราะฉะนั้นคุณจะไม่มีเหตุผลใด ๆ มารบกวนผมได้อีก!” ลู่ซีเจ๋อเตือนด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

เขาไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการทำลายการแต่งงานจริง ๆ!

เฉินมู่พูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “หึ อยากรบกวนตายล่ะ”

ลู่ซีเจ๋อรู้สึกมึน เฉินมู่...ในตอนนี้มันช่างแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก เธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ตามสอยห้อยตูดของเขาอีกต่อไป

เฉินมู่ไม่สนใจสิ่งที่อีกฝ่ายคิด เมื่อคืนเธอเปิดหน้าต่างและต่อต้าน ซึ่งตอนนี้เธอเหนื่อยมากจนอยากจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้านอนหลับให้ได้

ทันทีที่เธอก้าวเท้ากำลังจะขึ้นไปชั้นบน ลู่ซีเจ๋อก็เรียกเธออีกครั้งโดยแสดงท่าทางผิดหวังจริงจังออกมา “เสี่ยวมู่ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิงคือการรักตัวเอง แม้ว่าคุณจะไม่สามารถอยู่กับผมได้ คุณต้องรู้จักเคารพตัวเองบ้าง…”

ฟังจบ เฉินมู่ก็กอดอกและเยาะเย้ย “ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ แต่ต้องขอโทษด้วย ผู้ชายของฉันสูงส่งกว่าคุณ หล่อกว่าคุณ และแข็งแกร่งกว่าคุณ จนฉันอดดีใจแทนตัวเองไม่ได้เลย!”

“ส่วนตอนนี้ฉันเหนื่อยจนตาแทบปิด อ้อ ฉันแนะนำว่าให้พวกคุณไปประจ๋อประแจ๋กันที่ห้องนะ เดี๋ยวคุณปู่มาเห็นจะหัวใจวายเอาสะก่อน”

เฉินมู่พูดจบตัดฉับราวกับลั่นไก ก่อนหันกลับเดินไปปิดประตูเสียงดังปัง

เฉินชิงเสวี่ยตกตะลึง หล่อนหันไปมองลู่ซีเจ๋อพร้อมกัดริมฝีปากแน่น “ซีเจ๋อ ทำไมเธอถึงพูดอย่างนั้นกับคุณล่ะ?...คุณบอกฉันไม่ใช่เหรอว่าคุณไม่เคยแตะต้องตัวเธอเลย?”

ลู่ซีเจ๋อกอดเฉินชิงเสวี่ยทันที และอธิบาย “เสวี่ยเอ๋อ แน่นอนผมไม่เคยสัมผัสเธอ! ผมจะสัมผัสเธอได้ยังไง คนที่ผมรักคือคุณนะ!”

เฉินชิงเสวี่ยพยักหน้าสะอึกสะอื้นตอบกลับ “ฉันเชื่อในตัวคุณมาตลอด แต่วันนี้...เพราะฉันแท้ ๆ ที่พี่สาวของฉันกลายเป็นแบบนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะฉัน…”

ลู่ซีเจ๋อรู้สึกไม่สบายใจอยู่พักหนึ่ง เฉินชิงเสวี่ยของเขาช่างเป็นคนใจดีและมีเหตุผลมาโดยตลอด

ณ ชั้นบนสุดของอพาร์ทเมนท์หงเฟิง

ฮั่วหยุนเซียวนั่งหลังโต๊ะไม้เนื้อแข็งขนาดใหญ่ นิ้วยาวเคาะโต๊ะเอ่ยถาม “คนคนนั้นอยู่ที่ไหน?”

โอวจินยักไหล่ “วิ่งออกไปแล้ว เมื่อเช้านี้พยาบาลไปตรวจดู แต่ไม่มีใครอยู่บนเตียงเลย”

ฮั่วหยุนเซียวตวัดตาเหลือบมองที่โอวจินอย่างแรง “ไม่เห็นคนป่วยเหรอ?”

ก่อนที่โอวจินจะมีเวลาโต้เถียงเพื่อนตัวเอง โทรศัพท์มือถือของฮั่วหยุนเซียวก็ดังขึ้น มือหนาหยิบขึ้นมากดรับสาย เสียงที่สงบของพ่อดังเข้ามาในโทรศัพท์ “มื้อค่ำวันนี้เรามีงานเลี้ยงกับตระกูลเฉิน เราเป็นหนี้บุญคุณตระกูลเฉิน ลูกช่วยไปแทนพ่อหน่อยนะ”

ฮั่วหยุนเซียวพิงเก้าอี้หนังสีดำ และถามอย่างแผ่วเบาว่า “แล้วภรรยาของพ่อล่ะ?”

“ทำไมถึงไม่เรียกเขาว่าแม่!” ฮั่วเทียนหลินพูดอย่างไม่พอใจ

“แม่ขังผมไว้ที่โรงแรมเมื่อคืนนี้” ฮั่วหยุนเซียวบ่นอย่างตรงไปตรงมา “เพราะหมอดูบอกเธอว่าเมื่อคืนผมจะมีโชคชะตาด้านความรัก”

ฮั่วเทียนหลินพูดต่อ “...งั้นเดี๋ยวพ่อจะจัดการเอง ลูกอย่าลืมไปงานเลี้ยงด้วยนะ”

“ครับ” ฮั่วหยุนเซียววางสาย

โอวจินตบริมฝีปากแสร้งตกใจ “บอสฮั่วผู้งดงาม มีการฟ้องพ่อด้วยเหรอ?”

ฮั่วหยุนเซียวลุกขึ้นเดินไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อหยิบชุดสูท “คติประจำตระกูลของเราคือ ชายใดที่ปราบผู้หญิงของตนได้ ย่อมได้รับการยอมรับว่าเป็นบุรุษที่แท้จริง”

“แล้วนายจะเปลี่ยนชุดทำไม?” โอวจินถามหลังจากออกมา

ฮั่วหยุนเซียวเปลี่ยนเสื้อผ้า พลางผูกเนคไทไปตอบไป “ก็ไปที่บริษัทน่ะสิ ส่วนงานเลี้ยงตอนเย็นนายก็ต้องไปกับฉันด้วย แค่เข้าไปทักทายตระกูลเฉินพอเป็นพิธีก็พอ จากนั้นค่อยหลีกเลี่ยงการคบค้าสมาคมออกมา”

โอวจินเงียบยืนพิงกำแพง พร้อมเกี่ยวแว่นตาลวดทองของเขาไปด้วย ชายสูงเจ็ดฟุตเพียงแค่มองยืนดูฮั่วหยุนเซียวผูกเนคไท “คุณพี่หยุนเซียวขอรับ นี่พี่กำลังเชิญให้ฉันไปเป็นเพื่อนเหรอ?”

ฮั่วหยุนเซียวเหลือบมองเขาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “นายจะใส่ชุดกี่เพ้าตอนกลางคืนได้นะ เดี๋ยวฉันสั่งให้ฮานเฉิงส่งไปให้”

โอวจิน “…”

ในแง่ของความปากร้าย เขาไม่เคยเอาชนะฮั่วหยุนเซียวได้เลยสักครั้ง!

ณ ตระกูลเฉิน

ในที่สุดร่างกายของเฉินมู่ก็สะอาดหมดจด ร่างเล็กทิ้งกายนอนอยู่บนเตียงและนอนหลับอย่างสงบสุข ทว่าเมื่อได้ยินเสียงข้างหู เฉินมู่ก็หันไปตามสัญชาตญาณ แล้วคว้าคอของผู้มาเยี่ยมไว้แน่น ดวงตาคมสว่างวาบในห้องสลัว ทั้งดุดันและน่ากลัว “ใคร?”

“คุณ...คุณหนูใหญ่...” คนรับใช้ตกตะลึงกับปฏิกิริยาของเฉินมู่

เฉินมู่ถูกดึงกลับมาสู่ความเป็นจริงด้วยชื่อนี้ โดยจำได้ว่าเธอไม่ใช่นักฆ่าอีกต่อไป เธอปล่อยมือก่อนโบกไปมาอย่างเชื่องช้า “ฉันดูหนังศิลปะการต่อสู้มากเกินไปน่ะ…เธอโอเคไหม?”

คนรับใช้เปิดไฟ แล้วพูดว่า “คุณหนูใหญ่ คุณนายกำลังตามหาคุณอยู่!”

เฉินมู่ตอบโต้ “คุณนายกำลังตามหาฉันอยู่เหรอ?”

เธอใช้เวลาคิดอยู่นานกว่าจะรู้ว่า คุณนายที่เขาหมายถึงคือแม่เลี้ยงของตนเอง ซู่หรูหลาน เสือนอนยิ้มของตระกูลเฉิน หล่อนพยายามดูแลเฉินมู่ดีมาก จนได้รับชื่อเสียงตอบรับที่ดี แต่ความจริงแล้ว เธอหวังว่าเฉินมู่จะถูกไล่ออกจากบ้านเร็วกว่านี้ เพื่อไม่ให้เฉินมู่มาแบ่งปันทรัพย์สมบัติกับพวกหล่อน!

เฉินมู่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดสุภาพแล้วลงไปชั้นล่าง มีชุดเดรสหลายชุดในห้องนั่งเล่น ทางด้านเฉินชิงเสวี่ยเองก็เดินไปมาในห้องแต่งตัว ราวต้องการหยิบของที่ไม่ธรรมดามาประดับเพื่อที่เธอจะได้เป็นจุดเด่นของคืนนี้ และสามารถเปล่งประกายได้

เมื่อเห็นเฉินมู่ลงมาที่ชั้นล่าง ซู่หรูหลานก็โบกมือให้เธออย่างอบอุ่นทันที “เสี่ยวมู่ มานี่สิ สไตลิสต์เอาชุดมาให้เลือกสำหรับงานเลี้ยงตอนเย็น”

เฉินมู่จะยิ้มแต่ก็ยิ้มไม่สุด ใบหน้าที่มีรอยแผลพยักตอบ “ค่ะ ขอบคุณค่ะ ป้าซู่”

เฉินมู่สลับชุดไปมาสองครั้ง หยิบชุดลาเวนเดอร์ยาวขึ้นมาแล้วชี้ไปที่ร่างกายของตัวเอง ซู่หรูหลานชมเธอ “ชุดนี้เข้ากับสีผิวของเธอดีนะ”

เฉินมู่จึงหยิบชุดสีน้ำเงินอีกชุด ซู่หรูหลานก็พยักหน้าแล้วพูดตอบ “ชุดนี้ก็ดีเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่ามันไม่สามารถปกปิดจุดด่างพร้อยได้…”

เฉินมู่เยาะเย้ยในใจ คำพูดแบบนี้ใช่ไหมที่ซู่หรูหลานใช้ทำร้ายเฉินมู่ซ้ำแล้วซ้ำอีก มันย้ำแทงใจเธอเสมอว่ามีรอยแผลเป็นที่น่าเกลียดบนใบหน้า

ควบคู่ไปกับความเยือกเย็นและความขยะแขยงของลู่ซีเจ๋อ การเยาะเย้ยและการวางกรอบของเฉินชิงเสวี่ย ในที่สุดก็ผลักเฉินมู่ไปสู่ขุมนรกแห่งความตาย

เฉินชิงเสวี่ยพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ พี่เลือกชุดไหนก็ได้ตามสบายเลย พี่ยังคาดหวังอยู่อีกเหรอว่าจะใช้ชุดนั้นช่วยปกปิดใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นได้”

“ชิงเสวี่ย ใครบอกให้เธอพูดกับพี่แบบนี้ล่ะ” ซู่หรูหลานขบริมฝีปาก แสร้งทำเป็นว่าแก้ตัว แต่เธอไม่ได้สนใจแม้แต่จะขยับสายตามามองเลยสักนิด
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status