เขมกร
ผมที่ยืนซุ่มดูสถานการณ์อย่างเมามันอยู่กับพวกไทยมุงในผับยามที่เห็นคนทะเลาะกัน อยู่ ๆ ร่างกายของผมก็ถูกบังคับให้เคลื่อนไหวเดินแทรกเหล่าผู้คนพุ่งเข้าไปยืนกลางวงอย่างงง ๆ พร้อมกับรับหมัดหนัก ๆ ของไอ้พระเอกที่เป็นเพื่อนของข้าวตังจนใบหน้าสุดแสนหล่อเหล่าของผมสะบัดไปตามทิศทางของแรงหมัด
"โอ๊ย!ไอ้เหี้ยเจ็บ!!!"ผมร้องตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวดพร้อมกับมือข้างซ้ายยกขึ้นมากุมใบหน้าข้างที่โดนชกตามสัญชาตญาณ
'ยินดีด้วยคุณได้ทำภารกิจสำเร็จ'
เสียงของระบบดังขึ้นให้ผมได้ยินทำเอาผมนั้นรู้สึกหัวเสียไม่น้อยกับประโยคที่ไอ้เหี้ยคุณระบบมันพูด อยากจะกระทืบไอ้ระบบชะมัด แหม...ยินดีด้วย ยินดีกับผีมึงสิบังคับกูมาเจ็บตัวแบบนี้มายินดีเหี้ยอะไรครับ
ด้านนายอาทิตย์ไอ้พระเอกตัวดีเมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองชกเป็นเพื่อนสนิทของตัวเองอย่างผมก็เบิกตากว้างตกใจไปชั่วขณะ พอได้สติกลับคืนมาก็รีบเข้ามาถามพลางต่อว่าให้ผมอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมารับหมัดแทนไอ้คุณพระรองแบบนี้
"เห้ยไอ้ตังเจ็บมากไหมวะ ทำไมมึงถึงทะเล่อทะล่าเข้ามารับหมัดแทนไอ้หน้าอ่อนนี้ฮ้ะ"
กูเองก็อยากจะตะโกนถามไอ้เหี้ยคุณระบบกลับไปเหมือนกันว่าทำไมกูถึงต้องมารับหมัดแทนไอ้พระรองแบบนี้ด้วยครับ แต่ก็นั่นแหละผมก็ได้แต่ยืนกุมแก้มน้ำตาซึมเพราะพูดออกไปไม่ได้ เพราะเดี๋ยวคนจะหาว่าผมบ้า คิดแล้วอยากจะร้องไห้เกิดเป็นไอ้เขมช่างน่าสงสารนัก ได้แต่บ่นในใจตัวเองพอเห็นไอ้พระเอกมองมาอย่างสงสัยก็ต้องจำใจตอบมันกลับไปพร้อมกับแอบด่ามันไปด้วย
"ซี๊ดดด ก็กูไม่อยากให้มึงกับน้องวันจันทร์ต้องทะเลาะกันเพิ่มอีกน่ะสิ อีกอย่างมึงก็เลิกใจร้อนสักทีเถอะอาทิตย์ เหล้าเข้าปากทีไรแม่งใจร้อนทุกที แล้วเมื่อกี้กูได้ยินว่ามึงทะเลาะกับน้องวันจันทร์ใช่ไหม มึงทะเลาะกับน้องทำไมมึงออกมาเที่ยวอีกแล้ววะ ทำไมมึงไม่อยู่กับน้องแล้วปรับความเข้าใจกัน นี่อะไรออกมาเที่ยวสังสรรค์ทำตัวเสเพล ไม่แปลกใจที่โดนเด็กมันว่า"
สวดไอ้พระเอกหน้าหล่อไปหนึ่งแมตช์ ทำให้นายอาทิตย์ที่ไม่ค่อยจะโดนเพื่อนว่าให้ยืนอ้าปากค้างมองมายังผมอย่างอึ้ง ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งน้องวันจันทร์ที่มองมายังผมด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อที่ผมจะกล้าว่าเพื่อนตัวเองแบบนี้
ก็นะ ที่ผ่านมาในความทรงจำของข้าวตังตัวละครนี้แทบไม่มีบทบาทอะไรเลย เท่าที่เห็นก็เป็นคนเงียบ ๆ พอน้องวันจันทร์โทรมาถามหาอาทิตย์ก็จะตอบแค่ว่าอยู่กับตัวเองไม่ต้องห่วงเดี๋ยวจะดูแลให้ เป็นตัวละครที่เข้าข้างและช่วยเพื่อนอย่างอาทิตย์สุดขีด ดีจริง ๆ
"นะ นี่มึงด่ากู?"อาทิตย์ถามขึ้นด้วยสีหน้าอย่างคนไม่อยากจะเชื่อว่าจะโดนเพื่อนอย่างข้าวตังที่วัน ๆ ไม่ค่อยพูดและไม่ค่อยแสดงสีหน้าว่าให้
"กูไม่ได้ด่ากูบอกมึง...เฮ่ออาทิตย์มึงเป็นเพื่อนกูนะกูไม่อยากให้มึงเสียคนดี ๆ อย่างน้องวันจันทร์ไป ตอนนี้มันยังทันนะที่มึงจะเปลี่ยนตัวเอง น้องวันจันทร์เขารักมึงมากนะโว้ย เพราะฉะนั้นมึงเลิกทำตัวเหี้ย ๆ กับน้องสักทีเถอะนึกถึงวันที่มึงอยากได้น้องเขาหน่อยสิวะ อย่าเหี้ยไปมากกว่านี้เลยเพื่อน พาน้องเขากลับบ้านแล้วไปปรับความเข้าใจกันเหอะ กูไปล่ะ"
ผมเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยและไม่วายที่จะลืมแอบด่าไอ้พระเอกอย่างนายอาทิตย์ ก่อนที่จะหมุนตัวเดินหนีออกมาในตอนที่อาทิตย์มันยังยืนอึ้งอยู่ ซึ่งแน่นอนน้องวันจันทร์น้องนายเอกของเราเองก็อึ้งตกใจไม่ต่างจากแฟนตัวเอง ส่วนอีตาธีโอคุณพระรองของเรื่องที่วันนี้ผมมารับหมัดแทน ผมไม่รู้หรอกว่านายคนนี้แสดงสีหน้าหรือรู้สึกอย่างไร เพราะตลอดเวลาที่ผมด่าอาทิตย์อยู่นั้นไอ้หมอนี้เล่นยืนเงียบอยู่ด้านหลังของผมตลอดเลย
"ซี๊ดไอ้แม่เย็x...หมัดหนักฉิบหายเลย ร้าวไปทั้งแก้มเลยกู"หลังจากเดินพ้นหน้าผับมาไม่ไกลนักผมก็บ่นกับตัวเองพลางมือก็ยกขึ้นมานวดแก้มข้างที่โดนต่อย ก่อนที่จะบ่นกับตัวเองอีกครั้ง"ชีวิตตัวละครมึงจะน่าสงสารเกินไปแล้วนะข้าวตัง ตื่นมาพบว่าตัวเองหัวแตกไม่พอ ตกค่ำมายังต้องมารับหมัดแทนไอ้พระรองอีก ต่อไปมึงจะเจออะไรอีกเนี่ย"
ปี๊ด ๆ
"แหก ๆ ไอ้แม่หx...แหกหมด บีบหาพ่อหาแม่มึงเหรอกูตกใจหมดไอ้เหี้ย"ผมอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อเดินอยู่ข้างถนนดี ๆ ก็มีรถที่ไหนไม่รู้มาบีบแตรใส่จนผมสะดุ้งตกใจแทบหัวใจวาย
ผมหันไปมองไอ้รถคันที่มันบีบแตรใส่ผมตาขวางพร้อมที่จะมีเรื่องกับไอ้เจ้าของรถ แม่งมีอย่างที่ไหนมาบีบแตรทำให้คนอื่นตกใจแบบนี้ เกิดผมตกใจหัวใจวายตายขึ้นมามันจะรับผิดชอบไหวไหม
เอ๊ะแต่ว่าถ้าเกิดผมตายจริง ๆ ขึ้นมาผมก็อาจจะกลับไปที่โลกของผมได้ไหมอ่ะ ไม่ได้ดิก็ตอนมาผมข้ามมาทั้งตัวจริง ๆ เลยนี่นา ถ้าเกิดมาตายที่โลกนี้งั้นตัวผมก็อาจจะตายจริง ๆ ได้น่ะสิ
เมื่อคิดได้ดังนี้ผมยิ่งโมโหไอ้เจ้าของรถมากกว่าเดิม หันไปมองรถหรูคันสีดำเงาตาไม่กะพริบ จ้องมองรถที่เคลื่อนตัวมาจอดขนาบข้างตัวด้วยแววตาที่ไม่ต้อนรับอย่างแรง ก่อนที่จะเห็นว่าไอ้เจ้าของรถมันลดกระจกข้างคนขับลงจนเห็นใบหน้าของมัน
"โทษทีไม่คิดว่าจะทำให้ตกใจขนาดนี้"เสียงทุ้มดังขึ้นหลังจากลดกระจกรถข้างด้านคนขับจนสุด และเมื่อผมเห็นว่าเป็นใครความโมโหของผมยิ่งพวยพุ่งขึ้นมากกว่าเดิม
ไอ้หมอนี้อีกแล้ว!!! ตั้งแต่ผมเข้ามาอยู่บทข้าวตังไอ้หมอนี้มันทำให้ผมเจ็บตัวถึง2ครั้งและเมื่อกี้ก็เกือบหัวใจวายตาย ครั้งแรกก็เดินสะดุดสายไฟจนทำให้ผมหัวแตกเข้าโรงพยาบาลครั้งที่2ก็ทำให้ผมต้องมาปากแตกเพราะรับหมัดแทนมัน แถมล่าสุดเกือบทำให้ผมหัวใจวายตายอีก
ทำไมอยู่ ๆ ผมถึงได้รู้สึกว่าเห็นหน้าไอ้หมอนี้แล้วชีวิตผมจะสั้นลงนะ
"ครั้งหน้าก็หัดคิดให้มันมาก ๆ หน่อยเถอะ"ผมตอบกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมเตรียมจะเดินต่อ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเท้าเมื่อเสียงทุ้มของคนในรถเอ่ยรั้งไว้ซะก่อน
"เดี๋ยวสิคุณ"
"อะไรอีก"ตอบกลับไปเสียงห้วนพลางชักสีหน้าใส่บอกให้ไอ้คุณพระร้องรู้ว่าในตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีอย่างแรง ซึ่งก็ดูเหมือนว่าไอ้คุณพระรองมันจะดูออกว่าผมนั้นหัวเสียเอาการ
"ไม่ได้เอารถมาเหรอ"
"แล้วเห็นไหมล่ะ"
"กวนตีน คนเขาอุตส่าห์ถามดี ๆ ตอบดี ๆ มันจะตายหรือไง ไม่ติดว่าช่วยรับหมัดแทนนะ"
ไอ้คุณพระรองมันบ่นพึมพำกับตัวเองอยู่ในรถ คงคิดว่าผมไม่ได้ยินซินะ แต่ทานโทษนะกูหูดีครับ ผมยืนกอดอกจ้องมองไอ้พระรองหน้าหล่อตาเขม็ง ก่อนจะตัดสินใจพูดแทรกกลับไปอย่างหัวเสีย
"จะบ่นอีกนานไหม คิดว่าตัวเองพูดเบานักหรือไงไอ้ที่บ่นออกมากูได้ยินหมดครับ แล้วคิดว่าอยากจะรับหมัดแทนนักหรือไงใจจริงก็ไม่ได้ต้องการเจ็บตัวนักหรอก แต่ทำไงได้วะก็ตัวมันขยับไปเอง"พอได้พูดตอกกลับไปผมก็ดันระบายความในใจกับไอ้คุณพระรองออกไปซะอย่างนั้น มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่นายธีโอพูดแทรกมา
"เอ่อคือผมไม่ได้ต้องการชวนคุณทะเลาะ แต่ที่ถามเพราะอยากจะไปส่งคุณเป็นการตอบแทนที่คุณช่วยรับหมัดแทนผม"
"รับรู้แล้วแต่ไม่ต้องการ งั้นขอตัว"ตอบไปเพียงสั้น ๆ สองเท้าก็เตรียมที่จะเดินต่อแต่ไอ้พระรองที่เห็นแบบนั้นก็รีบเปิดประตูลงจากรถวิ่งมาขวางหน้าทั้ง ๆ ที่ไม่ได้สวมแมสปิดบังใบหน้า
"เดี๋ยวสิคุณ ให้ผมไปส่งเป็นการขอบคุณ คุณเถอะนะ ผมไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร"
"เล้าหลือน่ารำคาญจริง เออ ๆ แค่ยอมให้ไปส่งก็จะจบใช่ไหม"ผมถามกลับไปอย่างรำคาญและเมื่อเห็นว่าไอ้หน้าหล่อนี้พยักหน้ารับน้อย ๆ ก็หมุนตัวเดินไปเปิดประตูและขึ้นไปนั่งข้างคนขับอย่างตัดรำคาญ ซึ่งพอนายธีโอเห็นอย่างนั้นก็เดินกลับมาขึ้นฝั่งคนขับและถามไถ่เส้นทางกับผม ผมก็ตอบกลับไป
หลังจากนั้นตลอดเส้นทางผมก็หวังว่าจะเต็มไปด้วยความเงียบเพราะผมเลือกที่จะก้มหน้าเล่นมือถือหนีจากสายตาของไอ้คุณนายแบบที่มองมายังผมเป็นระยะ ๆ แต่กระนั้นไอ้นายแบบก็ยังชวนผมพูดและขอแวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อของ ซึ่งผมก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง และตลอดระยะทางตรงไปบ้านของผมไอ้หมอนี้ก็ยังคงพยายามชวนผมคุย
ผมบอกเลยนะไอ้หมอนี้เป็นผู้ชายที่แม่งโคตรน่ารำคาญเลย
"อ่าส์พี่เขมอย่ารัดธีแน่นนักสิ"ทีปกรครางเสียงต่ำในลำคอ ใบหน้าหล่อก็โน้มลงไปกระซิบพูดเสียงแหบพร่าข้างใบหูเล็กของเขมกร ที่ในตอนนี้นอนหอบหายใจหมดสภาพอยู่บนเตียงนอนนุ่มหลังใหญ่นัยน์ตากลมสีน้ำตาลจ้องมองเด็กตัวสูงที่ยังคงรังแกเขาไม่ยอมปล่อยมานานหลายชั่วโมงแล้ว ในตอนนี้เปลือกตาสีมุกของเขมจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่อยู่รอมร่อ เขาโดนไอ้พระรองหน้าหล่อนี้กระทำชำเรามาตั้งแต่ฟ้าสว่างจนตอนนี้ฟ้ามืด ไอ้พระรองนี้ก็ยังไม่ปล่อยเขาให้เป็นอิสระเลย ทำไปไม่รู้ตั้งกี่รอบแล้วก็ไม่รู้ (เพราะไม่มีเวลามานั่งนับ) ไอ้พระรองนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดทำ ไม่รู้ไปเก็บกดมาจากไหน"อึก ธีพอเถอะพี่ไม่ไหวแล้วจริง ๆ "ร้องขอคนเด็กกว่าพลันสะอึกออกมาด้วยหายใจไม่ทัน จนคนที่อายุน้อยกว่าอดเอ็นดูคนพี่ไม่ได้โน้มใบหน้าลงมาใช้ริมฝีปากกดจูบและดูดดึงปากล่างโดยไม่ได้รุกล้ำ ก่อนจะละริมฝีปากมาเอ่ยพูดด้วยรอยยิ้มหวาน"ไม่ไหวอะไรกันครับ พี่เขมยังรัดของธีแน่นอยู่เลย"ไม่พูดเปล่าธีโอยังเริ่มโยกขยับเอวสอบของตัวเองเบา
ทีปกรหลังจากวันนั้นวันที่ผมจะไปซื้อกาแฟแล้วบังเอิญเจอข้าวตังกำลังนั่งคุยกับอาทิตย์แฟนของวันจันทร์เพื่อนของผมอยู่ในร้าน ผมก็ตัดสินใจที่จะซุ่มรอโอกาสที่จะเข้าไปหาข้าวตังเพื่อขอตกลงเรื่องเซ็กซ์กันใหม่ และในวันนั้นผมก็ทำให้ข้าวตังตกลงปลงใจดีลเรื่องเซ็กซ์กันได้สำเร็จจนวันนี้วันเวลาก็ผ่านพ้นมาถึงเดือนครึ่งแล้วที่ผมกับข้าวตังเราได้เป็นคู่เซ็กซ์กัน ถ้าจะให้เรียกง่าย ๆ ก็คงจะเรียกว่าคู่นอนหรือเพื่อนนอนล่ะมั้ง เพราะผมกับข้าวตังเรายังไม่ได้ตกลงกันเรื่องความสัมพันธ์อื่น ก็ในตอนนั้นผมคุยกับข้าวตังเพียงแค่เรื่องบนเตียงไม่ได้คุยเรื่องอื่นเลย เพราะวินาทีนั้นผมคิดเพียงว่าทำอย่างไรก็ได้ให้ข้าวตังตกลงที่จะเป็นคู่นอนกับผมให้ได้เท่านั้นจนในตอนนี้วันเวลาก็ผ่านมาเรื่อย ๆ ผมเองก็โทรหาทักหาข้าวตังทุกวัน ทักชวนไปกินข้าวบ้างดูหนังบ้าง ไปเที่ยวที่ใกล้ ๆ บ้าง เรื่องเซ็กซ์นั้น ก็ทำวันเว้นวันบางทีก็2วันครั้งแล้วแต่อารมณ์ของเจ้าตัว
เขมกร"ไอ้เหี้ยใครวะ!"ผมสบถออกมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าตกใจพร้อมกับหันไปมองว่าใครกันที่กล้ามาจับตัวคนอื่นแบบนี้"เจอคุณทีไรผมไม่เคยจะได้เป็นคนเลย"ไอ้คนที่มันมารั้งแขนของผมให้หันไปมองเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเหมือนเอือมระอากับคำพูดของผม"คุณที"ทว่าทันทีที่ผมหันไปเห็นหน้าเจ้าของมือที่รั้งผมไว้ผมก็เผลอสบถชื่อนายแบบหนุ่มในโลกปัจจุบันออกมาอย่างลืมตัว เพราะเมื่อสบสายตากับคนตรงหน้าภาพใบหน้าของคุณทีนายแบบชื่อดังที่โลกของผมดันลอยเข้ามาในหัวเสียอย่างนั้น"มันอะไรนักกับชื่อนี้ ทำไมถึงได้ชอบเรียกผมคุณทีตลอดเลย"หัวคิ้วเรียงเส้นสวยขมวดเข้าหากันพลางนัยน์ตาคมก็จ้องมองผมด้วยแววตาแสดงถึงความไม่สบอารมณ์กับการที่โดนผมเรียกชื่อคุณทีอยู่บ่อยครั้งอย่าว่าแต่นายที่ไม่เข้าใจเลยธีโอ ฉันเองก็ไม่เข้าใจตัวเ
หลายวันต่อมาเป็นอีกครั้งที่ในหัวของเขมกรเกิดความคิดที่ว่าเขามาทำอะไรที่นี่ นัยน์ตาทรงกลมทอดมองพระเอกเรื่องอาทิตย์ครองจันทร์ที่นั่งหน้าอมทุกข์อยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ มือขาวข้างถนัดของเขมกรเท้าค้างส่วนอีกข้างจับช้อนคนกาแฟร้อนในแก้วอย่างไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไงกับคนตรงหน้าเพราะสถานการณ์ในตอนนี้เขมกรกำลังทำภารกิจมาเป็นที่ปรึกษาปัญหาชีวิตของไอ้พระเอกของเรื่อง ที่มันทะเลาะกับน้องนายเอกเรื่องเดิม ๆ อีกแล้ว นั้นก็คือไม่เรื่องที่มันไม่ค่อยใส่ใจไม่ค่อยมีเวลาให้หรือไม่ก็เรื่องที่มันเนื้อหอมหว่านเสน่ห์ไปทั่วทำให้สาวน้อยสาวใหญ่และหนุ่ม ๆ หลงเต็มไปหมด"กูจะทำยังไงดีวะข้าวตัง กูกับน้องทะเลาะกันเรื่องเดิม ๆ อีกแล้ววะ ช่วงนี้กูแม่งโคตรเหนื่อยเลย เหนื่อยเรื่องแข่งรถไม่พอกูต้องมาเหนื่อยกับความงี่เง่าของน้องมันอีก"อาทิตย์ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายพร้อมกับบ่นออกมาด้วยใบ
เขมกรผมที่รู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันก็พลันขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยสีหน้างงงวย ที่นี่ที่ไหนวะ คำถามนี้แล่นเข้ามาในหัวของผมอย่างกับในละครที่เวลาตัวพระนายตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลแล้วมักจะเอ่ยคำถามโง่ ๆ นี้ออกมาเสมอ ซึ่งผมในตอนนี้เองก็ไม่ต่างกันแต่ทว่าผมที่กำลังเกิดความสงสัยนั้นเป็นต้องเบิกตาโตอ้าปากค้าง เมื่อภาพความทรงจำอันร้อนแรงเมื่อคืนวิ่งพุ่งเข้ามาในหัวเป็นฉาก ๆ ให้ผมได้เห็นว่าค่ำคืนที่ผ่านมานี้ผมได้ทำอะไรลงไปบ้างไอ้แม่เย็x"แม่เจ้ากูพึ่งรู้ว่าโดนผู้ชายเสียบมันเจ็บขนาดนี้"คำพูดประโยคแรกของวันหลุดออกจากปากของผมหลังจากสติสตางค์ของผมกลับสู่ภาวะปกติ คงจะสงสัยล่ะสิว่าเหตุไฉนผมไม่โวยวายหรือเสียใจกับเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นเลยสักนิด ก็นะ ก็เพราะเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นการตัดสินใจของผมทั้งนั้น
ทันทีที่ทีปกรเป็นฝ่ายเถียงชนะจอมดื้ออย่างเขมกรได้ นายแบบหนุ่มอย่างธีโอก็จัดการฉีกซองสารหล่อลื่นแล้วทำการยื่นไปบีบราดชโลมใส่ช่องทางปิดสนิทและบีบชโลมใส่ฝ่ามือของตัวเองจนทั่ว ก่อนจะก้าวขึ้นเตียงไปนั่งคุกเข่าลงบนเตียงนุ่มที่มีข้าวตังรออยู่ในท่าคลานสี่ขาปลายนิ้วยาวชุ่มฉ่ำเอื้อมไปนวดคลึงยังรอยแยกที่ฉ่ำไปด้วยสารหล่อลื่น เขมกรรู้สึกสะดุ้งเล็กน้อยยามเมื่อรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมค่อย ๆ สอดแทรกเข้ามาช่องทางด้านหลังของตนเองอย่างช้า ๆ หัวใจของเขมเต้นรัวเร็วพลางริมฝีปากก็กัดเม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรง ก่อนที่ไม่นานจะเผยอร้องครางต่ำออกมาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อธีโอเริ่มขยับนิ้วเข้าออกอย่างเป็นจังหวะในยามนี้หัวสมองของเขมกรนั้นขาวโพลนไปหมดแล้ว ตัวของเขาได้สติหลุดอย่างสมบูรณ์แบบ ตัวของเขมกรในตอนนี้ดำเนินไปด้วยสัญชาตญาณเขาไม่มีสติหลงเหลืออยู่แล้ว ความคิดในหัวของเขามันร่ำร้องบอกแค่ว่าต้องการที่จะปลดปล่อย จะอะไรอย่างไรก็ได้ในตอนนี้ขอเพียงแค่ได้ปลดปล่อยเป็นพอ ร่างกายมันรู้สึกอึดอัด มันร้อน