รถกระบะของเฮงชะลอลงที่หน้าบ้านสีฟ้าชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิดในเวลาสองทุ่มกว่า จะเป็นบ้านของใครไปไม่ได้ นอกจากบ้านของพริ้งพลอย เพราะรถของหญิงสาวถูกยกไปซ่อมที่อู่ อีกหลายวันกว่าจะซ่อมเสร็จ
“เฮียจะลงไปกินน้ำกินท่าก่อนไหมแล้วค่อยกลับ” พริ้งพลอยเอ่ยชวน
“ไม่” แค่ยอมขับรถมาส่งถึงบ้านก็มากพอแล้ว ยังจะให้เขาเข้าไปในบ้านอีกอย่างนั้นเหรอ คิดว่าเขารู้ไม่ทันหรือไง ว่าเธอกำลังจะตะล่อมเขาเข้าบ้านเพื่อขืนใจ
“ทำไม ที่ไม่เข้าไปเพราะกลัวใจตัวเองเหรอ”
“พูดบ้าอะไรของเธอ”
“ก็พูดความจริงไง ที่เฮียไม่กล้าเข้าบ้านไปกับพริ้ง เพราะเฮียกลัวตัวเองจะทนต่อความสวยของพริ้งไม่ไหว ทนต่อแรงดึงดูดของหัวใจเราสองคนไม่ไหว หรือไม่ก็ทนต่อความรู้สึกที่เฮียมีต่อพริ้งไม่ไหว เพราะจริงๆ แล้วเฮียยังไม่เลิกรักพริ้ง เฮียเองก็ยังมีความรักให้พริ้งอยู่ แต่ปากแข็ง”
“หึ!” หัวเราะแหบต่ำดังขึ้นในลำคอ ร่างสูงขยับตัวมาเผชิญหน้ากับคนหลงตัวเอง มองใบหน้าจิ้มลิ้มที่ไม่ได้จัดว่าสวยจนลืมหายใจ แต่ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร
“กระจกเขามีไว้ให้ส่องนะ เผื่อพริ้งยังไม่รู้” พริ้งพลอยย่นจมูกใส่อย่างหมั่นไส้ ที่ถูกอีกคนย้อนกลับเสียเจ็บแสบ แต่เธอจะยอมแพ้เหรอ ไม่มีทางซะล่ะ
“ความรู้สึก เขาก็มีไว้ให้ยอมรับนะคะ ไม่ได้มีไว้เพื่อฝืน เผื่อเฮียยังไม่รู้”
“ถ้าความรู้สึกที่พริ้งพูดมามันคือคำว่ารำคาญ พี่ยอมรับโดยไม่มีข้อแม้ใด”
“เฮีย!!” คนจะเล่นสงครามน้ำลาย สุดท้ายเธอนี่แหละที่ทนไม่ไหว อยากจะกางเล็บยาวข่วนหน้าหล่อกระชากใจให้เป็นแผลเป็นจริงๆ
“ลงไปได้แล้ว! พี่จะได้กลับบ้านไปพักผ่อน เสียเวลากับเธอมามากแล้วรู้ไหม”
“สุดท้าย เฮียมันก็ดีแต่ปาก เป็นพวกวิ่งหนีความจริง แล้วก็ขี้ขลาด แค่พริ้งชวนเข้าไปกินน้ำแค่นี้ก็ยังไม่กล้า หึ! อ่อนชะมัด ขอบคุณแล้วกันนะคะ”
พูดจบก็ดึงประตูให้เปิดออก โดยไม่สนใจเจ้าของรถที่มาส่งด้วยซ้ำว่าจะเอ่ยอะไรตอบกลับมาหรือไม่ ไขกุญแจรั้วเปิดประตูเข้าไป
“ใครกันแน่ที่อ่อน คนอย่างพี่ถ้าตัดก็คือตัด ต่อให้พริ้งแก้ผ้าอยู่ตรงหน้า พี่ก็ไม่เอา” (มั้ง)
ก็ใครมันจะไปยอมได้ล่ะ เสืออย่างเฮงจะให้แมวปากดีมาดูถูกได้ยังไง ก็แค่เข้าไปนั่งกินน้ำแค่นั้น มันง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย
ส่วนคนที่รู้ว่าจุดอ่อนของเฮงคืออะไรก็ลอบยิ้มออกมา คิดว่าตัวเองคือเสือ แต่คงไม่รู้ว่าแมวที่รู้จุดอ่อนเสืออย่างเธอนี่แหละ จะเอาให้เสือตัวนี้มันต้องคลานเข่าเข้ามาหา และก้มลงกราบแทบตักในสักวัน
ไม่เชื่อก็รอดูได้เลย
พริ้งพลอยวางกระป๋องเบียร์เย็นๆ ที่แช่ไว้ในตู้เย็นอยู่เป็นประจำลงบนโต๊ะไม้ตัวเล็ก เข้าชุดกันกับโซฟาไม้สักมันวาวที่เฮงกำลังนั่งอยู่
“ขี้เมา” เฮงเลิกคิ้วถาม แต่มือกลับยื่นไปหยิบกระป๋องเบียร์มาเปิดจิบ ทำงานตากแดดร้อนอบอ้าวมาทั้งวัน ได้ดื่มอะไรเย็นๆ ชุ่มคอแบบนี้ก็รู้สึกดีเหมือนกัน
“ก็ซื้อมาแช่ไว้ตั้งแต่คบกับเฮียนั่นแหละ ยกมาเป็นถาดแต่เฮียดันมาเทพริ้งซะก่อน ก็เลยปล่อยมันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในตู้เย็น”
“พี่ไม่ได้เทพริ้งนะ แต่เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้ เราเข้ากันไม่ได้”
“เข้าไม่ได้กับผีน่ะสิ เราเข้ากันได้ดีมากต่างหาก แต่เพราะเฮียนั่นแหละเบื่อพริ้ง ก็เลยเอาคำที่ดาราชอบพูด ว่าเราเข้ากันไม่ได้มาเป็นข้ออ้างในการเลิก คิดว่าพริ้งไม่รู้หรือไง”
“รู้แล้วแต่ก็ยังไม่ยอมเลิก” พริ้งพลอยผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ หันมองหน้าผู้ชายที่เธอคิดอยากจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเขา
วาดฝันถึงอนาคตร่วมกัน มีเขาเป็นพ่อ มีเธอเป็นแม่ มีลูกน่ารักๆ ด้วยกันสองคน แต่เขากลับดับฝันของเธอลง ด้วยการสาดน้ำใส่โครมใหญ่
“ก็รักไปแล้วจะให้ทำยังไง พริ้งอยู่ของพริ้งดีๆ แล้วแท้ๆ แต่เฮียนั่นแหละที่เดินเข้ามาในชีวิตพริ้งเอง ทำให้พริ้งรัก ทำให้พริ้งหลง แล้วจะเดินออกไป มันจะไม่ง่ายไปหน่อยเหรอเฮีย”
ที่พริ้งพลอยพูดมาก็ถูก เธออยู่ของเธอดีๆ เป็นเขาเองนี่แหละที่อยากจะลองดี ได้ยินมาว่าพริ้งพลอยเล่นตัวจีบยาก
คนอย่างไอ้เฮงมันก็เป็นพวกชอบลองซะด้วยไง ยิ่งมีใครบางคนมากระตุกหนวดเสือ คนอย่างไอ้เฮงมันก็เลยใส่เกียร์หมาวิ่งเข้าใส่
สุดท้ายคนอย่างเฮงก็ไม่เคยมีคำว่าทำไม่ได้ แม้จะต้องใช้เวลาในการปิดดีลนานเกือบปีกว่าก็ตาม
“เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะพริ้ง ยิ่งพูดก็ยิ่งวนกลับมาที่เดิม พี่ว่าพี่กลับดีกว่า”
“กินเบียร์ให้หมดกระป๋องก่อนเถอะแล้วค่อยกลับ พริ้งจะได้เอากระป๋องไปขายที่ร้านเฮีย เดี๋ยวไปดูแหนมในตู้มาให้ จะได้มีกับแกล้ม” พริ้งพลอยลุกเดินเข้าไปในห้องครัว ไม่คิดจะสนใจคนที่นั่งกระแทกลมหายใจออกมาแต่อย่างใด สุดท้ายเฮงก็ต้องยกเบียร์ในมือขึ้นดื่ม
พริ้งพลอยกลับมาอีกครั้งพร้อมกับแหนมที่ถูกหั่นใส่จาน มีพริกสดและแตงกวาเสิร์ฟมาคู่กัน พร้อมด้วยเบียร์อีกสองกระป๋อง
“ช่วยกินให้หมดที เหลืออยู่ไม่กี่กระป๋องแล้ว บอกตามตรงว่าเห็นเบียร์แล้วคิดถึงเฮียน่ะ พอไม่มีเบียร์ก็น่าจะไม่คิดถึง” พริ้งพลอยพูดตามความจริง เปิดตู้เย็นยามใด พอเห็นกระป๋องเบียร์ที่แช่ไว้ก็ปวดหนึบในใจ พานพาให้คิดถึงคนที่ชอบกินอย่างเฮงไม่ได้
ส่วนคนที่บอกว่าถูกคิดถึง ความรู้สึกแรกมันอุ่นวาบในอก แต่เมื่อพริ้งพลอยบอกว่าไม่อยากคิดถึงในประโยคต่อมา ความรู้สึกคันยุบยิบในใจก็เกิดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
พร้อมกับความไม่พอใจที่มันอัดกระแทกเข้ามา จนต้องรีบกระดกกระป๋องแรกในมือให้หมด ตามมาด้วยกระป๋องที่สอง สาม และสี่
เช่นเดียวกับพริ้งพลอยก็ดื่มไปมากถึงสองกระป๋องด้วยกัน ส่วนมากเธอไม่ค่อยดื่มของมึนเมาเท่าไหร่ เพราะไม่ชอบรสชาติขมปร่าติดลิ้นของมัน
แต่แปลกที่วันนี้เธอดื่มไปถึงสองกระป๋อง กำลังจะยื่นมือไปหยิบกระป๋องที่สาม แต่กลับถูกเฮงคว้ามันไปเสียก่อน
“พอได้แล้วมั้ง เดี๋ยวก็ได้เมากันพอดี”
“เห้อ! เมาก็ดีสิ เวลาเฮียกลับพริ้งจะได้ไม่รู้สึกอาลัยอาวรณ์เฮีย พริ้งไม่ชอบเลยที่ต้องมานั่งมองเฮียเดินกลับไป พริ้งใจหายทุกครั้งเลยรู้ไหม วันนี้เฮียรอให้พริ้งหลับก่อนนะแล้วค่อยกลับ มาค่ะ เอากระป๋องนั้นมา พริ้งจะรีบกินแล้วจะได้หลับ”
“น้องแพรวไม่วิ่งค่ะเดี๋ยวล้ม”“น้องแพรวคะ ม้าบอกว่าไม่ให้วิ่งยังไงล่ะคะ”“วิ่งเลยครับลูก วิ่งมาหาป๊าเร็ว ป๊ารอตรงนี้”นั่งคือประโยคของสองสามีภรรยาที่ดังขึ้นไล่เลี่ยกัน เพื่อบอกลูกสาวที่กำลังวิ่งเล่นในสวนของดอกทานตะวันนับสิบไร่ เหลืองอร่ามสวยงามในช่วงเช้า ที่พระอาทิตย์ทอแสงแดดอ่อนๆ ยังไม่แรงกล้าจนร้อนระอุแพรวพลอยในวัยสองขวบกว่า ถูกพามาเที่ยวที่ไร่ทานตะวัน ไม่ใช่ความต้องการของหนูน้อย แต่เหมือนจะเป็นความต้องการของผู้เป็นพ่อมากกว่า ที่อยากพาครอบครัวมาที่นี่ และนี่ก็นับว่าเป็นครั้งแรกในการเที่ยวต่างจังหวัดของครอบครัว“เฮียก็ชอบตามใจลูกตลอด” อดไม่ได้ที่จะดุให้สามี ที่ชอบตามใจลูกสาว ส่วนเธอก็คือนางร้ายในสายตาลูกสาวไปแล้ว ที่ชอบขัดใจอยู่เสมอ“เฮียไม่ได้ตามใจครับ เฮียก็แค่อยากให้ลูกได้วิ่งเล่นเฉยๆ เฮียรักพริ้งนะ”พริ้งพลอยจะด่าก็ด่าไม่ได้ เพราะเฮงรู้จุดอ่อนชอบบอกรักเธอเป็นการปิดท้าย ทำให้ประโยคที่เตรียมจะต่อว่ากลืนหายไปในลำคอ“ตลอดเลยนะ”“ก็เฮียรักพริ้งจริงๆ นี่น่า”“ปาค่า” เสียงเล็กของลูกน้อย พร้อมกับมือเล็กๆ ที่จับชายเสื้อผู้เป็นพ่อและดึงเบาๆ ทำให้เฮงต้องย่อตัวลงนั่งให้อยู่ในระดับเดียวกันกั
การมีภรรยาสวยนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปสินะ ยิ่งเป็นคนสวยอัธยาศัยดียิ่งไม่ดีเข้าไปใหญ่ เพราะพวกผู้ชายหน้าหม้อจ้องจะมาอ้อล้ออยู่บ่อยๆแม้จะรู้อยู่เต็มอก เห็นอยู่เต็มตา ว่าผัวเขานั่งอยู่ตรงนี้ ก็ยังไม่วายจะพูดกับภรรยาเขาเสียงอ่อนเสียงหวาน ตาหวานเยิ้มมันน่าเดินไปควักลูกตาออกซะจริงๆ“พริ้งจ๋า ลูกคิดถึงแล้วครับ” เฮงร้องตะโกนไปขัดจังหวะ เมื่อการสนทนาระหว่างภรรยาคนสวย กับเสี่ยไร้อ้อยอย่างเสี่ยบำรุงกำลังออกรสออกชาติพริ้งพลอยหันมาถลึงตาใส่เฮง ด้วยรู้ดีว่าเฮงหึงตัวเองมากแค่ไหน เห็นเธอคุยกับเสี่ยบำรุงหรือลูกค้าผู้ชายนานๆ ก็ออกอาการหึงหวงจนขึ้นหน้า เข้ามาขัดจังหวะแบบนี้ทุกที“ถ้าอย่างั้นเสี่ยกลับก่อนนะ วันหน้าจะพาคนงานมาอุดหนุนใหม่”“ได้เลยค่ะเสี่ย พริ้งยินดีต้อนรับเสมอค่ะ”“งั้นเสี่ยไปล่ะ”“จ้า” พริ้งพลอยยิ้มให้ลูกค้าเจ้าประจำ ที่เดินออกจากร้านไป จวบจนเสี่ยบำรุงขึ้นรถ จึงได้หุบยิ้มและหันมามองหน้าสามี ที่นั่งหน้าบึ้งไม่สบอารมณ์อยู่ที่โต๊ะ“จะยิ้มอะไรนักหนา” ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้งแสนงอน พริ้งพลอยเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า“ก็เสี่ยเขาเป็นลูกค้านี่คะ ก็ต้องยิ้มให้ลูกค้าสิ”“แต่เสี่ยนั่นไม่ได้อยากเป
อยากโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนแบบนี้ตลอดไป อยากตื่นมาแล้วเห็นหน้าเธอเป็นคนแรก อยากทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีให้ทั้งเธอและลูกสาว นั่นคือสิ่งที่เฮงปรารถนามากที่สุดในชีวิตเพราะกว่าจะมีวันนี้ได้ ชายหนุ่มก็ต้องเรียนรู้อะไรหลายอย่าง จากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามา จนเกือบทำให้เขาต้องเสียภรรยาและลูกสาวที่น่ารักไปสุดท้ายเฮงก็ยังอยากขอบคุณพริ้งพลอยอยู่ทุกวัน ที่มอบโอกาสครั้งสำคัญและยิ่งใหญ่นี้ให้ ขอบคุณที่เธอยอมให้เขารักเธออีกครั้ง“ปะปา ปะปา” เสียงเล็กเอ่ยเรียกผู้เป็นพ่อ ร่างจ้ำม่ำของหนูน้อยวัยขวบเศษคลานเข้ามาหาผู้เป็นพ่อที่นั่งเล่นอยู่บนโซฟาเฮงยิ้มให้ลูกสาวสุดที่รัก ขยับตัวลงนั่งที่พื้นด้านล่าง ยื่นมือไปด้านหน้า พร้อมรับลูกสาวที่กำลังคลานเข้ามาหา“ว่าไงครับคนเก่งของปะป๊า มาครับมาหาป๊าเร็ว” หนูน้อยได้ยินเสียงที่คุ้นเคยตั้งแต่อยู่ในท้อง ก็ยิ่งรีบคลานเข้ามาใกล้ สุดท้ายก็พาร่างจ้ำม่ำเข้ามาสู่อ้อมกอดของผู้เป็นพ่อได้สำเร็จ และยังได้รางวัลเป็นหอมฟอดใหญ่ทั้งแก้มซ้ายและขวา“แก้มลูกสาวป๊าหอมที่สุดเลยค่ะ หอมๆๆ” เฮงฟัดจมูกลงบนแก้มนิ่มนั้นอีกครั้งอย่างมันเขี้ยว หนูน้อยก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจเสียงหัวเราะและประ
ให้โอกาสยังไม่ทันไร ไอ้ผัวเฮงซวยก็ทำตัวมีพิรุธให้เห็นซะแล้ว ท่าทางลับๆ ล่อๆ มีลับลมคมใน เหมือนมีอะไรปิดปังไม่อยากให้รู้ ยิ่งทำให้พริ้งพลอยอยากรู้มากขึ้นจากเดิมจากที่ต้องมารับกลับไปส่งที่บ้านหลังจากเก็บร้านเสร็จ ก็บอกให้พริ้งพลอยกลับบ้านเองไปก่อน เป็นแบบนี้มาสามวันแล้วไหนจะเวลากลางคืนที่อยู่ด้วยกันที่บ้าน หลังจากพาลูกสาวเข้านอน เฮงก็ชอบมานั่งดูโทรศัพท์ที่โซฟาด้านนอก เมื่อเห็นเธอเดินเข้าไปหา ก็ทำตัวมีพิรุธน่าสงสัย ครั้นถามว่าทำอะไรก็บอกว่าไม่มี แบบนี้ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่“นี่อย่าบอกนะ ว่ามึงตัดสินใจผิดอีกแล้วอีพริ้ง เห้อ!”“บ่นอะไรพี่พริ้ง” จอยเอ่ยถาม เมื่อได้ยินพริ้งพลอยพึมพำอะไรออกมาสักอย่าง ในระหว่างที่ช่วยกันเก็บร้าน“ก็เฮยน่ะสิจอย พี่ว่าเฮียดูมีพิรุธยังไงก็ไม่รู้”“ยังไงพี่”“ก็ชอบทำตัวลับๆ ล่อๆ ดูแต่โทรศัพท์พอเห็นพี่ก็รีบวาง หรือว่าเฮียจะแอบคุยกับผู้หญิงคนไหนอีก”“ไม่หรอกมั้งพี่พริ้ง กว่าพี่เฮงจะทำให้พี่ใจอ่อนได้ ใช้เวลาเกือบปี นี่เพิ่งจะกลับไปคืนดีกันได้แค่เดือนกว่า จะหาผู้หญิงคนใหม่คุยแล้วอย่างนั้นเหรอ ไม่ใช่มั้ง”“แล้วทำไมเฮียถึงทำตัวมีพิรุธล่ะ”“คำถามนี้ พี่พริ้งก็ต้องเป็น
“ลูกหลับแล้วเหรอคะ” เฮงเดินเข้ามานั่งลงข้างแม่ของลูกส่งยิ้มบางให้“ใช่ เหนื่อยไหม” คำนี้ต้องเป็นพริ้งพลอยหรือเปล่าที่เอ่ยถามเฮง แต่เฮงกลับเป็นฝ่ายถามเธอทุกวันว่าเธอเหนื่อยไหมทั้งที่เขาทำงานหนักมากกว่าเธอมากนัก ไหนจะงานที่ร้านรับซื้อของเก่า งานที่ร้านก๋วยเตี๋ยว และยังต้องมาช่วยเธอเลี้ยงลูกอีก กว่าจะได้นอนพักก็ดึกดื่น ยังต้องตื่นแต่เช้าไปซื้อของให้เธอที่ตลาด“พี่” เฮงเลิกคิ้วขึ้นมองหน้าคนที่เรียกตัวเอง ก็เห็นถึงแววตาประหม่าที่มองมายังเขา“พี่เหนื่อยไหม” เพียงแค่คำถามง่ายๆ แต่ทำให้เฮงน้ำตารื้นขอบตาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ไหนจะก้อนแข็งๆ ที่วิ่งมาจุกที่ลำคออีก จึงได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ“พี่จะร้องไห้เหรอ” เพราะเห็นน้ำตาคลอเบ้าและนัยน์ตาแดงก่ำของเฮงทันทีที่สิ้นเสียงถาม น้ำตาของลูกผู้ชายก็ไหลลงมาอย่างกลั้นไม่ไหว ดึงพริ้งพลอยเข้ามากอดเอาไว้ไม่อยากให้หญิงสาวเห็นน้ำตาของตัวเอง รีบใช้มือเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าแต่พริ้งพลอยก็ผละตัวออกห่าง มองหน้าที่เปื้อนด้วยน้ำตาของเฮงด้วยความไม่เข้าใจ ว่าเขาร้องไห้ด้วยเรื่องอะไร“พี่ร้องไห้ทำไม” เฮงรีบใช้หลังมือปาดน้ำตาออกลวกๆ ส่งยิ้มให้คนตรงหน้า“เฮียแค่...เฮีย
“ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่ามึงจะใจแข็งได้มากขนาดนี้ ใจแข็งตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง จนตอนนี้ลูกออกมาลืมตาดูโลก ก็ยังไม่ใจอ่อนให้พ่อของลูกอีก”ไข่ลากเก้าอี้มานั่งข้างเพื่อนสาว ที่นั่งพับผ้าอ้อมที่โซฟาภายในบ้าน ส่วนลูกน้อยก็ถูกคุณพ่อของแกพาเข้านอนในห้องพริ้งพลอยคลอดลูกสาว ร่างกายแข็งแรงจ้ำม่ำ ด้วยน้ำหนักสามโลกว่าออกมาได้เดือนเศษแล้วและคนที่มาคอยช่วยเลี้ยงคงหนีไม่พ้นพ่อของลูก ที่หยิบจับงานทุกอย่างแทนเธอไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน อาหารการกิน รวมไปถึงซักเสื้อผ้าลูกน้อยรวมทั้งของเธอ อาบน้ำ พาเข้านอน เฮงทำเป็นหมดทุกอย่างซึ่งพริ้งพลอยเองก็ยังแปลกใจ และเพิ่งมารู้ความจริงจากไฮ ว่าเฮงไปเข้าคอร์สเรียนสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ก่อนที่เธอจะคลอด“ก็ไม่ได้ใจแข็งอะไรนะ”“ไม่ได้ใจแข็ง แต่ก็ไม่ยอมกลับไปคืนดีกับพ่อของลูกเนี่ยนะ”“และที่ให้มาวุ่นวาย เดินเข้าเดินออกภายในบ้านได้แบบนี้ ไม่เรียกว่าใจอ่อนอีกเหรอ”“ก็แค่ทำหน้าที่พ่อไง แกกูรู้ว่าพี่เฮงเขาอยากทำหน้าที่ผัวด้วย”“ผัวที่ดีคือผัวใหม่” ไข่เบะปากใส่เพื่อนรักไปหนึ่งที“ไม่ใช่ผัวเก่าคนโปรดเหรอ ถึงได้ไม่เปิดใจให้ใครสักที”“ตอนนั้นท้องโย่ขนาดนั้น ใครจะมาสนใจ”“ตอนนี้ก็