Home / โรแมนติก / เขาคนนั้น / บทที่ 9 พาผู้ชายขึ้นห้อง

Share

บทที่ 9 พาผู้ชายขึ้นห้อง

last update Last Updated: 2025-05-16 23:27:06

“เฮ้ยคุณ!”

เธอปล่อยถุงอาหารหลุดมือ พร้อมขึงตาขึ้นกว้าง มากกว่าปกติ ความตกใจลืมหมดแม้ความเย็นชื้นจากสายฝนที่กระหน่ำเทลงไม่ขาดสาย ไม่เหลือพื้นที่แห้งบนเสื้อผ้า แล้วนิ่งทำอะไรไม่ถูก จนเห็นร่างนั้นเริ่มขยับเขยื้อนอีกครั้ง ถึงจะถลาเข้าไปช่วยประคองดึงให้ลุกขึ้นมา

ส่วนเขาพยายามแหงนหน้า ใช้ม่านตาพร่ามัวที่สายฝนเม็ดใหญ่พรั่งพรูใส่ไม่หยุดมอง ก่อนนิ่วหน้าตอนเธอทำเขาเจ็บ บางทีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลก็สำคัญ เสียดายที่ไม่จดจำสมัยได้เรียน

“ตัวคุณหนักมาก ฉันคนเดียวไม่ไหวหรอก ไปตามคนมาช่วยดีกว่า”

หมับ!

แขนเรียวถูกฉุดรั้งทันทีที่พูดจบ ด้วยแรงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดของเขา

“คะ?”

ก่อนอ้าปากค้าง หลังเขาส่ายหน้า

ท้ายที่สุดเป็นเธอที่ต้องพยายาม ดิ้นรนพยุงพาไปยังรถจอดอย่างทุลักทุเล ความหนักของเซลล์ทุกส่วนเป็นอุปสรรคให้ต้องกัดฟันกรอด หลังใช้เท้ายึดพื้นให้มั่นคง เพื่อทรงตัวจังหวะหิ้วปีกเขาลุก

“ค่อยๆนะ”

“เกิดอะไรขึ้นคะ คนพวกนั้นเป็นใคร มาทำร้ายคุณทำไม”

อินถาหันไปถาม ดึงเข็มขัดมาคาดลำตัว เตรียมทำหน้าที่เป็นพลขับ บวกกับความสับสนพยายามไขข้อข้องใจ ให้เหมาะสมไม่คุ้มเสียแก่การตัดสินใจช่วยเหลือเขาด้วยตัวเองแบบนี้

แต่เขาไม่ตอบสนอง พิงพนักหลับตานิ่ง เปิดโอกาสให้จำต้องตัดสินใจเอง เตรียมหักพวงมาลัยหวังมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล

แต่แล้ว...

เสียงเขากลับทำให้ต้องว้าวุ่นอีก จังหวะลืมตาโพลงเอี่ยวตัวเข้ามาจับแขนเธอไว้

“กลับบ้านครับ”

“คะ?”

“พาผมกลับบ้าน”

พร้อมสายตาคมกริบย้อนแย้งกับน้ำเสียง เธอเลิกลัั่กทบทวนอยู่อึดใจก่อนพยักหน้าทำตามที่เขาบอก อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

“ก็ได้ค่ะ”

เปลี่ยนแผนหักพวงมาลัยไปทางเดิมทันที

ลานจอดรถใต้ถุนคอนโด..

ความประหม่าแม้จะมีน้อยนิดแต่ก็น้อยกว่าความห่วงใย

ช่างน่าแปลกกับสิ่งที่เขาเจอ ทำเธอกังวลมากมายดุจเป็นคนพิเศษรู้จักกันมานาน ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ระทึกตอนเขาถูกชายฉกรรจ์หกคนรุมทำร้าย ก็ยิ่งทำหัวใจร่วงดิ่งแล้วใหญ่ รู้สึกท้ายทอยหนักอึ้งราวกับถูกกระทำซะเองพร้อมกันกับเขา

“เป็นไงบ้างคะ” นิ้วชี้สะกิดตรงแขนกำยำ เจ้าของซึ่งกำลังหลับใหลไม่ได้สติ ผลของความเพลียและบอบช้ำ แต่ก็ยังอุตส่าห์ฝืนลืมตาขึ้นมาให้ “ไหวไหม รอแปปนึงนะ”

แต่เพราะสภาพสะบักสะบอมมีมากไปของเขา แค่เธอคนเดียวไม่ไหวจะประคับประคอง หวังพาขึ้นชั้นบน แม้จะใช้ลิฟต์ก็ยังอยู่ในความเสี่ยงอยู่ดี หากพลาดล้มหัวคะมำทั้งคู่จะได้ไม่คุ้มเสีย

“พี่คะช่วยหน่อย”

อินถาจึงกวักมือเรียกพี่คนหนึ่ง ซึ่งทำงานเป็นผู้รักษาความปลอดภัย และเขาไม่รอช้าที่จะวิ่งมาหา

“ครับ”

ด้วยภาพใบหน้าตื่นตระหนก พร้อมประตูรถถูกเปิดค้างไว้ เผยขาและตักของคนไม่ได้สติให้เห็นแบบจะๆ บวกกับเสื้อผ้าเปียกปอนของทั้งสองคน สามารถบอกได้ทันทีแบบไม่ต้องอธิบาย

“ห้องไหนครับ”

เอ่ยถาม ขณะดึงแขนแกร่งขึ้นพาดบ่าเตรียมแบกเดิน

สมองในส่วนความคิดถูกกระตุ้น ให้คิดคำตอบออกมาภายในเสี้ยววินาที เกี่ยวกับผลของคำถามที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ หากบอกความจริงไปทั้งหมด

“ห้องฉันค่ะ”

พูดจบเธอเดินนำ จงใจสร้างภาพให้มองเป็นฟิลแฟนถูกทำร้าย ทั้งที่รู้การพามาที่คอนโด อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เขาอาจถึงแก่ความตายถ้าข้างในมีบาดแผลฉกรรจ์ หรือรอยแตกหักที่จะต้องพึ่งหมอ ทว่าหญิงสาวไม่กล้าขัด เนื่องจากเกรงกลัวแววตานั้นถึงได้เลือกความถูกใจแทนความถูกต้องเช่นนี้

“ให้ผมเรียกรถพยาบาลให้ไหมครับ”

ว่าแล้วเชียวจะต้องถูกถาม เลยเงียบไปอึดใจหนึ่งคลี่ริมฝีปากยิ้มแฉ่ง ส่ายหน้าเบาๆกลับไปให้

“เขา.. เอ่อ แฟนไม่ยอมค่ะ เขาอยากกลับมาที่นี่”

“แต่ดูท่าทางหนักเอาการอยู่นะครับ”

“อ่า..ทราบค่ะ แต่ว่า.. ไม่เป็นไรค่ะ พี่ทำตามที่หนูบอกก็พอ”

“ครับๆ”

เบือนหน้าหนีไปอีกทาง เพื่อเลี่ยงถูกซักถามต่อและสงสัย อีกนัยคืออายที่กล้าเอ่ยคำว่าแฟนออกมาอย่างชัดเจน

เมื่อมาถึงอินถาเร่งสแกนคีย์การ์ดผลักประตูเปิดทางสะดวกให้กับคนข้างหลัง ก่อนนำหน้าไปยืนข้างเตียง เพื่อให้เขาวางคนเจ็บลงบนนั้น

“ขอบคุณนะคะ”

“มีอะไรให้ช่วยอีกก็แจ้งได้เลยนะครับ”

หลังจากวางร่างไร้สติแล้วเสร็จ ผู้ช่วยก่อนจะไปไม่วายทำหน้างุนงง พร้อมเกากกหูแสดงถึงความสับสน ระหว่างความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ก็ในเมื่อคนที่นอนหมดสติอยู่นั้นเป็นลูกบ้าน อยู่ห้องถัดไปจากเธอ ก็แล้วทำไมถึง..?

“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”

ร่างบางโน้มตัวลงอย่างนอบน้อม รอให้ร่างนั้นหายลับไปก่อนจึงจะปิดประตู

ท่ามกลางความเงียบกริบและมืด เธอเลือกที่จะเปิดไฟหัวเตียงเพียงดวงเดียว เนื่องจากสีเหลืองนวลสามารถถนอมสายตาได้ เลี่ยงทแยงตาคนนอนหลับ พลางยืนจ้องมองเขาหลังถอนหายใจทิ้งไปแล้วสองรอบ

“เอาไงต่อ..”

ลากสายตาจากเท้าสู่หัว เผลอพินิจพิเคราะห์ลักษณะของเขา ผู้ชายตรงหน้าแลดูเหมือนไม่ใช่แค่ภายนอกที่มีเสน่ห์ดูโดดเด่นและดึงดูด แต่ภายในที่เรียกว่าออร่าจัดเต็ม และดูน่ากลัว บวกน่าเกรงขามแผ่รัศมีให้ต้องยำเกรงด้วย

ทำไมการถูกทำร้ายครั้งนี้ของเขาถึงทำให้มองว่าเป็นผู้ถูกกระทำมากกว่าเป็นคนกระทำผิดนะ

เขาเป็นใครกันแน่?

“จะยืนมองอีกนานไหมครับ หนาวจะตายอยู่แล้ว”

“...!!!”

เห็นได้ชัดว่าร่างบางสะดุ้งโหยง ให้กับเสียงทุ้มที่อยู่ๆก็โพล่งขึ้น ท่ามกลางความเงียบได้ยินแค่เครื่องปรับอากาศ และเสียงแว่วของการจราจรภายนอก

“ขอผ้าเช็ดตัวหน่อยครับ”

ร่างสูงลุกจากท่านอนเป็นท่านั่ง เขาบิดขี้เกียจเป็นสิ่งแรกแทนจะถามตนนั้นอยู่ที่ไหน ไม่พอยังหันมาคุยกับเธออีก ด้วยเสียงสุภาพที่ทำให้คนฟังตัวอ่อนยวบ

อินถาใจสั่นทำอะไรไม่ถูก เธอลบริมฝีปากบางเฉียบราวกับกลบเกลื่อนและควบคุมความประหม่านั้น

“ดะ ได้ค่ะ”

กุลีกุจอไปหาผ้าเช็ดตัว ถึงกับต้องเปิดตู้รื้อลิ้นชัก แน่นอนมันต้องเป็นผืนใหม่ที่ไม่เคยใช้มาก่อน จากนั้นจึงเดินเร็วกลับมา แล้วเกือบสะดุดขาหน้าคะมำ

“เหวอ!”

เพราะจังหวะผ่านวงกบประตูห้องแต่งตัวไปยังห้องนอน คล้ายกับโค้งหักศอก ภายในห้องนั้นที่ไม่ใช่มุมอับ พบว่าชายผู้นั้นกำลังโป๊เปลือยอยู่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขาคนนั้น   บทที่ 15 คำถามง่ายๆ

    ในห้องคอนโดขนาดใหญ่ปกคลุมไปด้วยอุณหภูมิเย็น ถูกเปิดราวกับต้องการดับร้อนของคนทั้งคู่ ซึ่งกำลังกอดรัดฟันเหวี่ยงกันอย่างเมามันอยู่บนเตียง แน่นอนพวกเขาไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น ชุดชั้นในของฝ่ายหญิงก็ไม่มีเหลือ ตกหล่นกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ผสานเสียงหอบกระเส่าเป็นอีกหนึ่งของพร็อพประกอบ ให้ฉากโดยรอบดูขลังอีกเท่าตัว ทว่าความร้อนระอุจากการสร้างขึ้นของคนทั้งคู่ ที่มีความหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศนั้น ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ไม่พอเหมือนจะหมดประสิทธิภาพไปเลยด้วย“อือ..เบาๆสิคะ”ซ้ำอารมณ์กระสันรัญจวน เมื่อเปรียบเทียบกับเม็ดเหงื่อที่พรั่งพรูเกาะอยู่บนเนื้อตัวทั้งสองฝ่าย ยังเยอะกว่าเลย“ขอโทษครับ..”หน้านิ่วคิ้วขมวดไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความเจ็บปวดปานใกล้ใจจะขาด แต่มันคือความเร้าใจที่เก็บเอาไว้ไม่ไหวของเขา ผู้ควบคุมชายหนุ่มผงกหัวขึ้นมาเอ่ยเสียงแหบ หลังใช้ปากถูไถเนินเต้าอูมอวบแล้วเผลอลงฟันอย่างมันเขี้ยวอินถาแหงนหน้าขึ้นสุด จนลำคอเห็นเส้นจังหวะคู่กิจกรรมบรรเลงเพลงรักแบบถึงพริกถึงขิง อย่างไร้ความปราณี เธอเสียวซ่าน และสิ่งนั้นทำให้เผลอใช้เล็บจิกลงไปบนแผ่นหลังขาวแข็งแกร่งน่าแปลกหญิงสาวยืนอยู่ตรงนี้ มุมห้องฝ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 14 เพื่อนสนิทที่รู้สึก

    หลังจากนั้นเขาก็เดินกลับห้องของตัวเอง ปล่อยให้เธอนอนโดดเดี่ยวอยู่บนฟูกสายเรียกเข้านับร้อยสาย แจ้งเตือนจากข้อความอีกมากมายทำเขาหงุดหงิด หลังเปลี่ยนโหมดห้ามรบกวนหลายชั่วโมง ซึ่งหากเขาติดต่อกลับหรือตอบข้อความทุกแจ้งเตือนมีหวังได้นอนเช้าเป็นแน่ จึงจำต้องเลือกเพียงบุคคลที่สำคัญเท่านั้น(กว่าจะโทรกลับมานะมึง)ความตึงเครียดเกิดขึ้นทันทีนับจากได้ยินเสียงปลายสาย ราล์ฟทิ้งตัวบนโซฟา แผ่นหลังพิงพนักกลับไม่ได้ช่วยให้ผ่อนคลายขึ้น“เพิ่งจะห่างกันมา”เสียงทุ้มแหบพร่าแสดงให้รู้ถึงความเหนื่อยจากการต้องแบกรับน้ำหนักของคนเมาคนหนึ่งพาดบ่า ทว่าปลายสายไม่ได้คิดเช่นนั้น(อย่าบอกนะ..จัดมาแล้ว?)เขามีความถ่อยเป็นของตัวเอง ที่คนอย่างราล์ฟมักจะหลีกเลี่ยงด้วยการเงียบทุกครั้งไป แล้วเรื่องนั้นจะถูกเปลี่ยนอัตโนมัติ ไม่สนใจผลลัพธ์หรือคำตอบ“มีอะไรหรือเปล่าครับ”(ไม่ได้สำคัญมากหรอก แค่จะเตือนว่าอย่าพาผู้หญิงเข้าห้อง ถ้าจะเที่ยวจะกินไปหาที่อื่น ห่างจากอีนี่สักหน่อย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ไว้ใจมึง)“ผมรู้ละน่า”(นี่มึงหงุดหงิดกูเรอะ)น้ำเสียงราล์ฟเปลี่ยนไป ห้วนกระด้างจากเดิม อย่างที่ปลายสายว่า อยู่ๆข้างในจิตใจเขานึกฉุนเฉี

  • เขาคนนั้น   บทที่ 13 แผนเริ่มต้น

    แสงไฟอยู่บนทั้งเชิงเทียน และลอยน้ำยิ่งยกระดับความหรูหรามากขึ้น อินถาไม่รู้แสงสว่างตรงจุดนี้เป็นตัวช่วยขับเสน่ห์ให้กับเธอ ทั้งความสวยและสดใสเขย่าใจคนมอง เลี่ยงเปรียบเทียบกับผู้หญิงหลายคนที่เคยผ่านมาและพามาไม่ได้ หากแต่ข้อเปรียบเทียบนี้จะต้องเก็บไว้ในใจ ให้มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยิน ภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบนั้นสีหน้าอินถาแลดูเปลี่ยนทันที หลังได้ยินคำตอบของคำถามที่ตนใคร่รู้ โชคดีบรรยากาศตอนกลางคืนซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวท่ามกลางท้องฟ้ามืดมิด ลับกับเสียงไฟจากดวงกลมรอบๆร้านจงใจจัดแต่งให้ดูดีมีสไตล์มากขึ้น และลมเบาหวิวพัดโชย ทำให้การเกี่ยวเส้นผมมาทัดหู ยามปลิวว่อนปกปิดหน้า ไม่ได้ถูกมองว่าเคอะเขินจนดูแย่ แต่ดูน่าค้นหาไปอีกแบบผู้หญิงตรงหน้า เป็นคนเดียวที่ทำให้เขาเสียอาการ ในความสดใสถึงขนาดพกติดสมองไปด้วยทุกที่ ช่วงไหนที่ว่างช่วงนั้นเรื่องราวของเธอจะมาแทรกแซง“ว่ายังไงคะ ได้ไหม? หนูยังไม่ให้คำตอบพี่เลย”ดวงตาคู่สวยเหลือบขึ้นมาจากจานอาหาร หลังถูกยกเสิร์ฟได้สักพัก พร้อมเม้มริมฝีปากแนบสนิท ในหัวปั่นป่วนพอๆกับท้องน้อย ถ้าสมมุติปฏิเสธเขาจะเป็นอย่างไร?ร่างบางคิดหนัก พยายามทบทวนความเป็นจริงระหว่างระยะเ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 12 ภาพจำที่ต่าง

    ชายหนุ่มในคราบเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำ กับกระดุมเสื้อถูกปลดออกไปแล้วสองเม็ด ไม่ได้ทำให้ดูแย่ลง กลับกันทำให้เข้าใจง่ายว่าเขาเหนื่อยมาจากงานที่ทำด้วยซ้ำ และการเผยช่องโหว่ของแผงอกเป็นการคลายความร้อนกับความอึดลงอย่างหนึ่งอินถายิ้มน้อยๆเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้า โดยระดับความสูงของเธอเทียมหน้าอกของพอดิบพอดี เพราะระดับต่างกันจึงทำให้ต้องแหงนหน้าขึ้นไปคุย“เอ่อ..” สายตามองผ่านไปยังรถของตัวเองก่อน จึงจะลากกลับมายังใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง “คุณมารออหนูเหรอคะ”“ใช่ค่ะ”ตอบทันควันแบบไม่ได้คิด คนชะงักไปไม่ถูกกลายเป็นคนที่ถาม เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองรอบที่ล้าน!“รอทำไมคะ แล้วรู้ได้ยังไงว่าหนูยังอยู่ที่นี่”“เอาคำถามไหนดี ก่อนหรือหลัง”ต่างจากเขาที่ดูสบายๆ ราวกับช่ำชองเรื่องนี้มานาน ดูไม่ประหม่า ควบคุมสถานการณ์ได้ดีและอยู่หมัดนาทีนี้อินถารู้สึกถึงความเล็กภายในตัวเองที่เล็กยิ่งกว่าอะตอมภายใต้เซลล์ประหนึ่งควาร์ก (Quark)ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี ที่ไม่ได้ดีมากขนาดนั้น เข้าถึงง่ายแต่ไม่เปิดโอกาสให้สนิทเอาเป็นว่า เขาคือผู้ใหญ่ที่มีเสน่ห์และน่าค้นหาคนหนึ่ง หากเปรียบด้วยผู้คนตลอดชีวิตยี่

  • เขาคนนั้น   บทที่ 11 ดักรอ

    เช้าตรู่ของการตื่นนอนที่ไม่ปกติ เนื่องจากตื่นก่อนเวลาเป็นชั่วโมง แต่พอเดินออกมายังห้องรับแขกที่มีโซฟา กลับพบว่าอีกคนตื่นเร็วกว่า แถมไม่อยู่ตรงนั้นแล้วอินถาถอนหายใจพรืด หมุนตัวเดินกลับไปที่เดิม เพื่ออาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะกลับออกมาใหม่อีกครั้งก็ตอนฟ้าสว่าง จังหวะนั้นกำลังจะเดินผ่าน เหลือบตามองเห็นกระดาษโน้ตสีเหลืองวางอยู่บนโต๊ะโดยมีรีโมตแอร์ทับไว้'ขอบคุณมากค่ะ ไว้คราวหน้าพี่จะพาไปทานข้าวนะ'สาวเจ้าเลิกคิ้วเอียงคอ ทำไมต้องพาทานข้าว เธอไม่ได้อดอยากสักหน่อย พลางสูดลมหายใจยิ้มกว้าง เตรียมตัวไปทำงานต่อ ก่อนจะเดินมุ่งหน้าสู่กล่องลิฟต์ไม่วายยืนจ้องมองประตูห้องของเขา คิดไปเองว่าชายหนุ่มอาจจะอยู่ในนั้น แต่ต้องขมวดคิ้วภายหลังเมื่อนึกขึ้นได้ว่า..“คีย์การ์ดเขาหายนี่นา..”จึงจะส่ายศีรษะหนีจากความคิด มุ่งสู่ที่ทำงานตามเดิมที่ทำงาน...แปะ!“ฮึ่ย”คนตัวเล็กบนเก้าอี้สำนักงานสะดุ้ง ให้กับฝ่ามือใหญ่ที่จงใจปะทะเข้าหากันเพื่อปลุกให้ตื่นจากการเหม่อลอย"เป็นอะไรเนี่ย"เจ้าของมือคือนักรบ เขาถามก่อนคำตอบของเธอจะเป็นต้นเหตุของรอยยิ้มที่หายไป“รบ เมื่อคืนเขามานอนห้องฉัน”“ฮะ” ไม่พอ แถมหัวคิ้วขมวดเข้าหากันด้วย “

  • เขาคนนั้น   บทที่ 10 อ่อย

    เสียงร้องมาพร้อมกับเท้าสะดุด ผลของการเดินเร็วจนเกินไป แล้วหยุดชะงักกลางคัน เพราะภาพตรงหน้าคือผู้ชายคนหนึ่งยืนเปลือยล่อนจ้อนอยู่หน้าไม่อาย!สามารถใช้คำนี้ได้เลยอินถาอ้าปากค้างมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนขึงตาโตก็ตอนเห็นตรงนั้นประเจิดประเจ้อ“เหวอ!”เธอเบือนหน้าหนีไปทางอื่น หลังตั้งสติได้ว่าไม่ควรจ้องนาน กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ สาบานเลยว่าสิ่งที่เห็นเต็มสองตาเมื่อครู่ จะไม่มีวันลืม“ขอโทษค่ะ พี่ไม่คิดว่าหนูจะกลับมาเร็ว”แล้วถ้าเดินกลับมาช้าจะเป็นยังไงเล่า จะล่องหนหรือหายตัวไปนะหรือ“คุณมีคาถาหายตัวได้รึไงกัน”ร่างบางกัดฟันกรอดเอ่ยเสียงแผ่ว ยังคงยืนหันหลังให้เขาอยู่ คนถูกถามกระตุกยิ้ม กลั้นขำ“ก็จะหันหลังให้ จะไม่ยืนโจ่งแจ้งแบบนี้”“ห๊า..” ถึงกับลืมตาโพลง คิดตามที่เขาพูด เมื่อคิดยังไงก็ไม่ใช่เหตุผลถึงกับคอตก “คุณก็รอหนูกลับมาก่อนก็ได้นี่ ของสงวนแบบนั้นไม่ควรเอาออกมาให้เห็นกันง่ายๆรู้ไหมคะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่ถือ”What??!อินถากะพริบตาถี่ เขาโดนซ้อมจนสมองตีลังกากลับหลังไปแล้วกระมัง“แต่ถาเป็นผู้หญิงนะคะ”“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอโทษก็แล้วกัน ขอผ้าเช็ดตัวให้พี่ได้หรือยัง”“ยะ อย่าเข้ามานะคะ”สาวเจ้

  • เขาคนนั้น   บทที่ 9 พาผู้ชายขึ้นห้อง

    “เฮ้ยคุณ!”เธอปล่อยถุงอาหารหลุดมือ พร้อมขึงตาขึ้นกว้าง มากกว่าปกติ ความตกใจลืมหมดแม้ความเย็นชื้นจากสายฝนที่กระหน่ำเทลงไม่ขาดสาย ไม่เหลือพื้นที่แห้งบนเสื้อผ้า แล้วนิ่งทำอะไรไม่ถูก จนเห็นร่างนั้นเริ่มขยับเขยื้อนอีกครั้ง ถึงจะถลาเข้าไปช่วยประคองดึงให้ลุกขึ้นมาส่วนเขาพยายามแหงนหน้า ใช้ม่านตาพร่ามัวที่สายฝนเม็ดใหญ่พรั่งพรูใส่ไม่หยุดมอง ก่อนนิ่วหน้าตอนเธอทำเขาเจ็บ บางทีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลก็สำคัญ เสียดายที่ไม่จดจำสมัยได้เรียน“ตัวคุณหนักมาก ฉันคนเดียวไม่ไหวหรอก ไปตามคนมาช่วยดีกว่า”หมับ!แขนเรียวถูกฉุดรั้งทันทีที่พูดจบ ด้วยแรงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดของเขา“คะ?”ก่อนอ้าปากค้าง หลังเขาส่ายหน้าท้ายที่สุดเป็นเธอที่ต้องพยายาม ดิ้นรนพยุงพาไปยังรถจอดอย่างทุลักทุเล ความหนักของเซลล์ทุกส่วนเป็นอุปสรรคให้ต้องกัดฟันกรอด หลังใช้เท้ายึดพื้นให้มั่นคง เพื่อทรงตัวจังหวะหิ้วปีกเขาลุก“ค่อยๆนะ”“เกิดอะไรขึ้นคะ คนพวกนั้นเป็นใคร มาทำร้ายคุณทำไม”อินถาหันไปถาม ดึงเข็มขัดมาคาดลำตัว เตรียมทำหน้าที่เป็นพลขับ บวกกับความสับสนพยายามไขข้อข้องใจ ให้เหมาะสมไม่คุ้มเสียแก่การตัดสินใจช่วยเหลือเขาด้วยตัวเองแ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 8 ฟ้าฝนเป็นใจ

    ยิ่งใกล้ไตรมาสสุดท้ายงานยิ่งล้นมือ หลายวันมานี้อินถาไม่มีเวลาแม้แต่จะเข้ายิม หรือโผล่หน้าสดไปให้พนักงานร้านกาแฟได้เห็น ชีวิตมีอยู่แค่สองทาง คือทางกลับบ้านกับทางไปทำงาน และสายทุกวัน“ฮ๊าววว~”เสียงหาววอดผสานกับเสียงเสียดสีของก้นแก้วกาแฟเลื่อนผ่านโต๊ะเนื้อไม้มาจอดอยู่ตรงหน้า สาวเจ้าเหลือบมอง พยักหน้ายิ้มบางๆแทนคำขอบคุณ“ขอบใจนะ”“เมื่อคืนดึกหรือ”นักรบทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม ในมือก็ถืออยู่อีกแก้วหนึ่ง“ใช่~ พี่ติ๋วอะดิ แกบ้าจี้อะไรไม่รู้โทรมาสั่งให้แก้งานกะทันหัน กะจะไม่รับสายแล้วนะ แต่ก็กลัวจะเป็นเรื่องด่วนหรือเป็นแกเองที่ขอความช่วยเหลือ”ได้ทีอินถาบ่นใหญ่ ทว่าสายตาไม่ได้จับจ้องคู่สนทนา แต่หรี่ต่ำมองแก้วในมือตัวเอง มองควันที่พวยพุ่งจากความร้อนนั้นอยู่ดีๆในหัวเกิดมีภาพแห่งความทรงจำเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านทำไมกันนะ กับอีแค่ยาไม่กี่แผง ถึงได้มีอิทธิพลทำให้เธอรู้สึกดีได้มากขนาดนี้ ทั้งๆที่เขานั้นก็มีเจ้าของอยู่แล้วอินถาเผลอยิ้ม แอบเข้าข้างตัวเอง แต่ปัจจุบันเขานั้นหายไปเลย ไร้วี่แววแม้แต่เงา เสียงเงียบราวกับไม่มีใครอยู่ในห้องข้างๆในขณะเดียวกันก็ตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อไปด้วย เ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 7 กลิ่นเทาเขาคิวปิด

    อินถายืนสงบนิ่งให้กับความสับสนของตัวเองที่ได้มาอย่างไม่ทันตั้งตัว ในมือชูถุงยาขึ้น มองมันราวกับเป็นของวิเศษแวบมาจากทิศทางใดไม่รู้สักแห่ง ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาเขา เจ้าของผู้กระทำนำพา ทว่าทั้งทางเดินพบแต่ความว่างเปล่าความรู้สึกกระดี่ได้น้ำถูกเก็บไว้ในที่ตื้น ชนิดหากไม่รีบทำอะไรสักอย่างอาจโผล่พ้นออกมาให้เห็นได้เนื่องจากยากต่อการควบคุม เธอถึงได้เร่งเปิดประตูแล้วพาตัวเองเข้าไปในห้องนั้น เพื่อกระโดดโลดเต้น ดีใจประหนึ่งถูกรางวัลฉลากกินแบ่งรัฐบาล จิตใต้สำนึกบวกสัญชาตญาณกระซิบบอกให้เข้าข้างตัวเอง สิ่งนี้ที่ถืออยู่อาจเป็นของเขาผู้ชายที่แอบชอบไม่รอช้าหญิงสาวรีบคลี่ปมของมันทันที ก่อนจะหยิบออกมาดูทีละชิ้น เมื่อพบว่าเป็นยารักษาแผลทั้งภายในและภายนอก ก็ขึงตาโต“พระเจ้าคะ..” มือผสานเข้าหากัน แหงนหน้าขึ้น พร้อมยิ้มปลื้มดุจน้ำตาจะไหล ซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าจูปิเตอร์ “ทรงได้ยินคำขอของอินถาแล้วสินะคะ อินถาสามารถตัดชุดแต่งงานรอได้เลยใช่ไหม งื้อ..”ความตื่นเต้นถึงขนาดหัวเราะดังลั่นห้องอย่างลืมอาย จากนั้นจึงจะเดินไปทิ้งตัวลงกลางเตียง“เฮ้อ สบายใจจัง...”แล้วเผลอหลับไปเพราะความเพลียในที่สุดด้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status