แสงอาทิตย์ยามสายสาดส่องเข้ามาในรถที่กำลังแล่นไปตามถนนในลอนดอน เมรี่นั่งพิงเบาะด้วยใบหน้าซีดเผือด ต้นแขนของเธอยังคงปวดแปลบจากบาดแผลมีดของมิสเตอร์คลาร์ก เอดิสันได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว แต่เมรี่รู้ว่าเธอต้องการการรักษาที่เหมาะสมกว่านี้"ไหวไหมเมรี่?" อเล็กซานเดอร์ถามด้วยความเป็นห่วง"ไหวค่ะพี่" เมรี่ตอบพยายามยิ้ม "แค่เจ็บนิดหน่อย"เฟรเดอริคกุมมือเมรี่ไว้แน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "เราจะไปที่หอจดหมายเหตุเลยใช่ไหมคะคุณเอดิสัน?""ใช่ครับ" เอดิสันตอบ "เราต้องไปที่นั่นให้เร็วที่สุด ก่อนที่พวก 'เงาแห่งลอนดอน' จะตามรอยเราเจออีกครั้ง"พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็มาถึงหอจดหมายเหตุแห่งชาติ อาคารเก่าแก่ที่ดูเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เมรี่รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้ ที่ซึ่งความลับนับไม่ถ้วนถูกเก็บรักษาไว้"คุณเอดิสันคะ เราจะเข้าไปได้อย่างไรคะ?" เมรี่ถาม"หอจดหมายเหตุเป็นสถานที่สาธารณะครับ" เอดิสันตอบ "แต่ส่วนที่เราต้องการเข้าไปน่าจะเป็นส่วนที่ต้องได้รับอนุญาตพิเศษ"พวกเขาเดินเข้าไปในหอจดหมายเหตุ บรรยากาศภายในเงียบสงบ มีเพียงเสียงกระดาษพลิกไปมาและเสียงผู้คนกระซิบกระซา
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างรุนแรง เสียงหมัดกระทบเนื้อดังสนั่นไปทั่วหอนาฬิกา อเล็กซานเดอร์ใช้ทักษะการต่อสู้ที่เหนือกว่าในการรับมือกับมิสเตอร์คลาร์ก แต่มิสเตอร์คลาร์กก็แข็งแกร่งและว่องไวไม่แพ้กันในขณะเดียวกัน เฟรเดอริคก็กำลังต่อสู้อย่างยากลำบากกับลูกสมุนอีกคน แม้ร่างกายของเขาจะเริ่มฟื้นตัวแล้ว แต่เขาก็ยังไม่แข็งแรงเต็มที่นัก ลูกสมุนคนนั้นใช้จังหวะที่เฟรเดอริคพลาดท่า ถีบเข้าที่ท้องของเขาอย่างแรง เฟรเดอริคล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด"พี่เฟรเดอริค!" เมรี่ร้องเรียกด้วยความตกใจ เธอวิ่งเข้าไปหาพี่ชายทันทีลูกสมุนคนนั้นฉวยโอกาสที่จะซ้ำเติมเฟรเดอริค แต่เอดิสันก็พุ่งเข้ามาขวางไว้ เขาจัดการกับลูกสมุนคนนั้นได้อย่างรวดเร็ว"พี่เฟรเดอริคเป็นอะไรไหมคะ!" เมรี่ถามด้วยความเป็นห่วง เธอช่วยประคองพี่ชายขึ้นมาเฟรเดอริคกัดฟันด้วยความเจ็บปวด "ไม่เป็นไรเมรี่ แค่จุกนิดหน่อยเท่านั้น"ในขณะที่มิสเตอร์คลาร์กกำลังต่อสู้กับอเล็กซานเดอร์อย่างดุเดือด เขาก็เหลือบไปเห็นเมรี่และเฟรเดอริค เขายิ้มเหยียด แล้วโยนมีดสั้นเล่มเล็กๆ ออกไปอย่างรวดเร็ว มีดเล่มนั้นพุ่งตรงไปยังเมรี่!"เมรี่! ระวัง!" เ
รุ่งเช้าอันหนาวเหน็บของลอนดอน เมฆหนาทึบปกคลุมท้องฟ้า เมรี่ เฟรเดอริค อเล็กซานเดอร์ และเอดิสัน ยืนอยู่บนสะพานเวสต์มินสเตอร์ มองไปยังหอนาฬิกาบิ๊กเบนที่สูงตระหง่าน เสียงระฆังบ่งบอกเวลาเจ็ดโมงเช้าดังแว่วมาตามลม หอจดหมายเหตุแห่งชาติอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก แต่เอดิสันเชื่อว่าบิ๊กเบนคือจุดเริ่มต้น"รหัสลับบอกว่า 'ที่ที่เวลาหยุดนิ่ง' " เอดิสันกล่าว "นั่นน่าจะหมายถึงบิ๊กเบนครับ""แล้ว 'ประวัติศาสตร์ถูกจารึก' ล่ะคะ?" เมรี่ถาม"นั่นน่าจะหมายถึงหอจดหมายเหตุ" อเล็กซานเดอร์ตอบ "แต่เราจะเริ่มต้นจากบิ๊กเบนก่อน เพราะมันน่าจะเป็นจุดที่สังเกตได้ง่ายที่สุด"เฟรเดอริคพยักหน้า สีหน้าของเขายังคงซีดเซียวเล็กน้อย แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "เราต้องระวังให้ดี พวกมันน่าจะรู้แล้วว่าเรากำลังตามหารหัสลับพวกนี้อยู่""ใช่ครับ" เอดิสันเสริม "และผมคิดว่า มิสเตอร์คลาร์ก จะต้องอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน"พวกเขาค่อยๆ เดินตรงไปยังหอนาฬิกาบิ๊กเบน ท่ามกลางผู้คนที่เริ่มออกมาใช้ชีวิตประจำวัน เมรี่สอดส่องสายตาไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง เธอรู้สึกถึงสายตาหลายคู่ที่กำลังจับจ้องมาที่พวกเขากับดักบน
"พวกแกตามเรามาได้อย่างไร!" อเล็กซานเดอร์ถาม"พวกเรามีดวงตาและหูอยู่ทุกที่ครับมิสเตอร์แบล็ควู้ด" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "พวกเราเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของพวกคุณมาตั้งแต่ต้นแล้ว""ส่งรหัสลับมาให้เราซะ!" ชายอีกคนหนึ่งกล่าว น้ำเสียงแข็งกร้าว"ไม่มีทางหรอก!" เฟรเดอริคตอบ เขาจับม้วนกระดาษไว้แน่น"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเสียใจนะ" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว เขาให้สัญญาณกับลูกสมุนลูกสมุนทั้งสองพุ่งเข้าใส่เมรี่และคณะทันที การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในโรงละครที่เต็มไปด้วยผู้คน เสียงต่อยตีและเสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นระงม แขกคนอื่นๆ ที่กำลังนั่งชมการแสดงต่างลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นตระหนกเอดิสันจัดการกับลูกสมุนคนหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ส่วนอเล็กซานเดอร์และเฟรเดอริคก็เข้าจัดการกับอีกคนหนึ่ง เมรี่ฉวยโอกาสวิ่งตรงไปที่เวที"เราต้องหนีไปจากที่นี่!" เมรี่ตะโกนพวกเขาปีนขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางความตกตะลึงของนักแสดงและผู้ชม การแสดงหยุดชะงักลง นักแสดงหญิงคนหนึ่งกรีดร้องออกมา"จับพวกมันไว้!" มิสเตอร์คลาร์กตะโกนไล่ตามมาติดๆพวกเขาวิ่งเข้าไปในส่วนหลังเวที ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ประกอบฉ
แสงจันทร์สีเงินสาดส่องลงมาบนโต๊ะไม้ในห้องสมุดเก่าแก่ ม้วนกระดาษที่ได้มาจากสุสานไฮเกตถูกคลี่ออก เผยให้เห็นลายมือที่เขียนด้วยหมึกโบราณ มันไม่ใช่ตัวอักษรธรรมดา แต่เป็น แผนผังดวงดาว ที่ซับซ้อน พร้อมด้วยสัญลักษณ์แปลกๆ บางอย่าง"นี่มันอะไรกันคะ?" เมรี่ถามด้วยความสับสนเอดิสันหยิบแว่นขยายขึ้นมาส่อง "ดูเหมือนจะเป็นแผนที่ท้องฟ้าจำลองครับ และสัญลักษณ์เหล่านี้ก็น่าจะเป็นตัวแทนของดวงดาวหรือกลุ่มดาวบางอย่าง"อเล็กซานเดอร์ที่ยังคงดูอ่อนล้าจากการผจญภัย แต่แววตายังคงเฉียบคม ก้มลงมองแผนผัง "และนี่...รหัสตัวเลขชุดหนึ่งที่อยู่ด้านล่างสุด"เฟรเดอริคซึ่งเริ่มมีเรี่ยวแรงกลับคืนมาแล้ว พิจารณาแผนผังอย่างละเอียด "มันไม่ใช่แค่แผนที่ดวงดาวธรรมดาหรอกครับ ผมว่ามันเป็น รหัสตำแหน่ง บางอย่าง"มิสซิสเพอร์ซิวัลเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับถ้วยชาอุ่นๆ "ศาสตราจารย์มอร์ริสันเป็นคนที่หลงใหลในดาราศาสตร์มากจ้ะ เขาเชื่อว่าความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมักจะถูกซ่อนอยู่ในที่ที่ไม่มีใครคาดคิด""ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องถอดรหัสนี้ให้ได้" เมรี่กล่าวอย่างมุ่งมั่นพวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการพยายามถอดรหัส แผนผังดวงด
การไล่ล่าในสุสาน"วิ่ง!" เฟรเดอริคตะโกน เขากุมมือเมรี่แล้ววิ่งตรงไปตามทางเดินที่คดเคี้ยวในสุสาน กลุ่มคนร้ายไล่ตามมาติดๆ เสียงฝีเท้ากระทบพื้นหินดังหนักแน่น เมรี่รู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นรัวราวกับกลองศึก เธอไม่เคยคิดเลยว่าการตามหารหัสลับจะอันตรายถึงเพียงนี้"ไปทางนี้ครับ!" เสียงของเอดิสันดังขึ้นจากด้านหน้า เมรี่เห็นเอดิสันและอเล็กซานเดอร์วิ่งมาสมทบกับพวกเขา"พวกมันอยู่ไหนครับ!" อเล็กซานเดอร์ถามขณะที่พวกเขาวิ่งผ่านอนุสาวรีย์เก่าแก่"ตามหลังมาติดๆ เลยค่ะพี่!" เมรี่หอบหายใจ "พวกมันกำลังงัดหลุมศพบางหลุมอยู่ด้วย!"เอดิสันและอเล็กซานเดอร์หันไปมองด้านหลัง พวกเขาเห็นกลุ่มคนร้ายกำลังวิ่งไล่ตามมาไม่ลดละ การไล่ล่าดำเนินไปอย่างดุเดือดในความมืดสลัวของสุสานยามเย็น พวกเขากระโดดข้ามรั้วหินเก่าๆ วิ่งหลบหลุมศพที่ตั้งเรียงราย"ทางนั้นมีอุโมงค์!" เอดิสันชี้ไปที่ช่องอุโมงค์เล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้ต้นไม้เก่าแก่ต้นหนึ่ง"ไปเลยครับ!" อเล็กซานเดอร์ตะโกนพวกเขาวิ่งเข้าไปในอุโมงค์ อุโมงค์นั้นแคบและมืดมิด มีกลิ่นดินและกลิ่นเหม็นอับ เมรี่รู้สึกถึงความเย็นเยือกที่แผ่ซ่านไปทั่วตัว แต่เธอก