เมรี่วิ่งไปตามตรอกซอกซอยที่มืดมิดของแมนเชสเตอร์ เธอหอบหายใจอย่างหนัก หัวใจเต้นรัวด้วยความกังวลและความกลัว เธอไม่รู้ว่าพี่ชายและเพื่อนๆ เป็นอย่างไรบ้าง แต่เธอก็รู้ว่าเธอต้องหาทางช่วยพวกเขาให้ได้
"เราจะต้องทำอย่างไรดี..." เมรี่พึมพำกับตัวเอง ในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น เธอก็เห็นร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งที่เปิดไฟสลัวๆ อยู่ในซอยมืดๆ เธอรู้สึกหิวและเหนื่อยล้า เธอตัดสินใจที่จะเข้าไปพักเหนื่อยและหาอะไรกินก่อนที่จะคิดหาทางออกต่อไป ภายในร้านอาหารนั้นดูอบอุ่นและเป็นกันเอง มีโต๊ะไม้ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ และมีผู้คนนั่งทานอาหารอยู่ประปราย เมรี่เลือกนั่งที่โต๊ะมุมหนึ่งที่มองเห็นประตูทางเข้า เธอสั่งซุปอุ่นๆ มาหนึ่งถ้วย แล้วก็จิบมันอย่างช้าๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ในระหว่างที่เธอกำลังทานอาหารอยู่นั้น เธอก็สังเกตเห็นชายชราผู้หนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะไม่ไกลจากเธอ เขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ดูมีราคา และดูเหมือนว่าเขากำลังรอใครบางคนอยู่ "นี่มันน่าเบื่อจริงๆ" ชายชราคนนั้นพึมพำกับตัวเอง "ข้าจะรอไปถึงเมื่อไหร่กัน" ทันใดนั้นเอง บริกรก็เดินเข้ามาพร้อมกับไวน์ขวดหนึ่ง แล้วรินให้ชายชราคนนั้น ชายชราจิบไวน์ไปเล็กน้อย แล้วก็ทำหน้าเหยเก "นี่มันรสชาติแปลกๆ นะ" ชายชราคนนั้นกล่าว "ขออภัยครับท่าน" บริกรตอบ "ผมจะเปลี่ยนขวดใหม่ให้นะครับ" แต่ยังไม่ทันที่บริกรจะได้ทำอะไร ชายชราคนนั้นก็กระตุกเกร็ง แล้วก็ล้มลงไปจากเก้าอี้ทันที! "เกิดอะไรขึ้น!" ผู้คนในร้านอาหารต่างพากันกรีดร้องด้วยความตกใจ บริกรวิ่งเข้าไปดูชายชราคนนั้นด้วยความตื่นตระหนก "คุณครับ! คุณเป็นอะไรไป!" แต่ชายชราคนนั้นไม่ตอบสนองแล้ว เมรี่เห็นว่าเขามีฟองสีขาวอยู่ที่มุมปาก และดวงตาของเขาก็เบิกโพลงราวกับเห็นอะไรที่น่ากลัวก่อนจะเสียชีวิต การสืบสวนที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง เมรี่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที เธอเดินเข้าไปใกล้ชายชราคนนั้น เธอรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน "เกิดอะไรขึ้นคะ!" เมรี่ถามด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว "เขา...เขาตายแล้วครับ!" บริกรตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!" เมรี่สังเกตเห็นว่ามีรอยเข็มเล็กๆ อยู่ที่ขวดไวน์! เธอรู้แล้วว่านี่คือการฆาตกรรม! "อย่าแตะต้องอะไรทั้งนั้น!" เมรี่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "รีบโทรเรียกตำรวจเดี๋ยวนี้!" ผู้จัดการร้านอาหารวิ่งเข้ามาด้วยความวุ่นวาย "เกิดอะไรขึ้นครับ! ทำไมทุกคนถึงได้แตกตื่นกันขนาดนี้!" "มีคนตายครับ!" บริกรตอบ ผู้จัดการร้านอาหารมองไปที่ชายชราที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความตกใจ แล้วเขาก็พยายามจะเข้าใกล้ขวดไวน์ "อย่าแตะต้องมันค่ะ!" เมรี่ตะโกน "มันอาจจะเป็นหลักฐานสำคัญ!" ผู้จัดการร้านมองไปที่เมรี่ด้วยความสงสัย "คุณเป็นใครกัน!" "ฉันเป็นนักสืบค่ะ" เมรี่ตอบ "และฉันจะสืบหาความจริงในเรื่องนี้เอง!" เมรี่เริ่มเดินสำรวจไปทั่วร้านอาหาร เธอสังเกตเห็นว่ามีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงมุมห้อง เขากำลังจิบกาแฟอย่างใจเย็น และดูเหมือนว่าจะไม่สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย "เขาต้องเป็นฆาตกรแน่ๆ!" เมรี่คิดในใจ เธอเดินตรงไปหาชายคนนั้น เขามีใบหน้าที่เรียบเฉยและมีแววตาที่เย็นชา "คุณเห็นอะไรไหมคะ?" เมรี่ถาม "เห็นอะไรครับ?" ชายคนนั้นถามกลับด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเฉย "คุณไม่เห็นว่ามีคนตายอยู่บนพื้นหรือคะ!" เมรี่กล่าวด้วยความโกรธ ชายคนนั้นมองไปที่ชายชราที่นอนอยู่บนพื้น "อ๋อ...ผมก็เห็นอยู่นะครับ" เมรี่รู้สึกว่าชายคนนี้มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินออกไปจากร้านอาหาร แล้วรอให้ตำรวจมาถึง เบาะแสจากศพ ไม่นานนัก ตำรวจก็มาถึงและเริ่มทำการสืบสวน เมรี่สังเกตการณ์อยู่ห่างๆ เธอเห็นว่าตำรวจกำลังตรวจสอบขวดไวน์และสอบปากคำพนักงานในร้านอาหาร "คุณเป็นใครครับ!" ตำรวจนายหนึ่งเดินเข้ามาหาเมรี่ "ทำไมคุณถึงอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย!" "ฉันเป็นนักสืบจากลอนดอนค่ะ" เมรี่ตอบ "ฉันบังเอิญมาเจอเข้าพอดี" ตำรวจนายนั้นมองไปที่เมรี่ด้วยความไม่ไว้ใจ "คุณมีหลักฐานอะไรมายืนยันครับ?" เมรี่ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าเธอเป็นนักสืบ แต่เธอก็รู้ว่าเธอต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยสืบสวนคดีนี้ "ฉันเห็นรอยเข็มเล็กๆ อยู่ที่ขวดไวน์ค่ะ" เมรี่กล่าว "และผู้ตายก็มีฟองสีขาวอยู่ที่มุมปาก" ตำรวจนายนั้นมองไปที่เมรี่ด้วยความประหลาดใจ "คุณสังเกตได้ละเอียดมาก" "ฉันขออาสาช่วยสืบสวนคดีนี้ค่ะ" เมรี่กล่าว "ฉันเชื่อว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับองค์กรลับบางอย่าง" ตำรวจนายนั้นลังเลเล็กน้อย แต่เขาก็เห็นแววตาที่มุ่งมั่นของเมรี่ "ก็ได้ครับ แต่คุณต้องทำตามคำสั่งของผมทุกอย่าง" เมรี่พยักหน้า เมรี่เริ่มเดินเข้าไปใกล้ศพของชายชราอีกครั้ง เธอสังเกตเห็นว่าที่มือของเขามีกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกบีบไว้แน่น เมื่อเธอกางมันออก เธอก็พบว่ามันคือจดหมายฉบับหนึ่งที่เขียนด้วยลายมือของใครบางคน "ที่อยู่..." เมรี่พึมพำ "นี่คือที่อยู่ของใครบางคน!" เธอพลิกจดหมายกลับไปมา และเห็นว่าด้านหลังของจดหมายมีสัญลักษณ์แปลกๆ ที่เหมือนกับสัญลักษณ์ของ 'เงาแห่งลอนดอน'! "เป็นไปไม่ได้!" เมรี่อุทาน "เขาเกี่ยวข้องกับ 'เงาแห่งลอนดอน' ด้วยหรือ!" ทันใดนั้นเอง ชายคนที่เมรี่เห็นนั่งอยู่ในร้านอาหารก็เดินเข้ามาหาเธอ เขาหยิบมีดพกออกมาจากกระเป๋า แล้วเล็งมาที่เธอ! "ส่งจดหมายนั่นมา!" ชายคนนั้นกล่าว "ไม่อย่างนั้นแกจะต้องตาย!" เมรี่ตกใจ เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะกล้าลงมือในร้านอาหารที่เต็มไปด้วยผู้คน "อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามนะ!" ตำรวจนายหนึ่งตะโกน "วางอาวุธลงเดี๋ยวนี้!" แต่ชายคนนั้นไม่ฟัง เขาพุ่งเข้าใส่เมรี่ทันที! "ปัง!" เสียงปืนดังขึ้นอย่างรุนแรง! ชายคนนั้นล้มลงไปกองกับพื้นในทันที ตำรวจนายนั้นเป็นคนยิงเขา! เมรี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอรู้ว่าเธอรอดมาได้อย่างหวุดหวิด "คุณปลอดภัยแล้วครับ" ตำรวจนายนั้นกล่าว เมรี่มองไปที่ชายคนนั้นที่นอนอยู่บนพื้น ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาคือหนึ่งในลูกสมุนของ 'เงาแห่งลอนดอน' ที่เธอเคยเจอมาก่อน! "พวกเขากำลังตามล่าทุกคนที่รู้ความลับของพวกเขา!" เมรี่พึมพำ "ฉันต้องหาทางช่วยพี่ชายและเพื่อนๆ ให้ได้!"รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กแล่นฉวัดเฉวียนไปตามถนนในลอนดอนอย่างรวดเร็ว โดยมีรถของหัวหน้าใหญ่แห่ง 'ยมทูต' เป็นเป้าหมาย พวกเขาขับผ่านผู้คนและรถยนต์คันอื่นๆ อย่างไม่ลดละ การไล่ล่าดำเนินไปอย่างดุเดือดท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของมหานคร"เราต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงสำนักงานใหญ่ของพวกเขาได้!""สำนักงานใหญ่อยู่ที่ไหนคะ?" เมรี่ถามด้วยความสงสัย"มันอยู่ในใจกลางเมืองครับ" เอดิสันตอบ "เป็นที่ที่เราไม่คาดคิดว่าจะเจอเลย"ในที่สุด รถของ 'ยมทูต' ก็แล่นเข้าไปในอาคารสูงระฟ้าแห่งหนึ่งที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาอย่างน่าตกใจ"นั่นไงครับ!" อเล็กซานเดอร์กล่าว "พวกเขาเข้าไปในนั้นแล้ว!""เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" เฟรเดอริคถาม "ระบบรักษาความปลอดภัยที่นั่นเข้มงวดมาก""เราไม่ต้องเข้าไปครับ" มิสเตอร์คลาร์กยิ้ม "เราจะใช้ทางลับ"เขาพาพวกเขาไปยังทางเข้าอุโมงค์ใต้ดินแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากอาคารนั้น มันเป็นทางเข้าที่ถูกปกปิดไว้อย่างมิดชิด จนแทบไม่มีใครสังเกตเห็น"อุโมงค์นี้จะนำเราไปสู่ทางเข
สองสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่ลอนดอน ชีวิตของเมรี่และทีมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้เป็นแค่นักสืบธรรมดาอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นวีรบุรุษผู้เปิดโปงองค์กรลับที่สั่นสะเทือนสังคมอังกฤษทั้งประเทศ ข่าวของพวกเขาถูกตีพิมพ์ลงบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และชื่อของตระกูลแบล็ควู้ดก็กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งในฐานะนักสืบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้เช้าวันหนึ่ง จดหมายฉบับหนึ่งจากราชสำนักได้ส่งมาถึงพวกเขา มันเป็นจดหมายเชิญให้พวกเขาไปรับรางวัลเกียรติยศที่พระราชวังบักกิงแฮม ในฐานะผู้ที่มีส่วนช่วยในการคลี่คลายคดีสำคัญของประเทศ"นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ!" เฟรเดอริคกล่าวด้วยความตื่นเต้น "เราจะได้ไปพระราชวังบักกิงแฮม!""เราไม่ได้ไปเที่ยวครับพี่เฟรเดอริค" อเล็กซานเดอร์กล่าว "เราไปในฐานะผู้ได้รับเชิญให้ไปรับรางวัล"เมรี่มองไปที่จดหมายเชิญ เธอรู้สึกดีใจและภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำลงไป แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความกังวลบางอย่างที่ไม่อาจทราบสาเหตุ"ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ" เอดิสันกล่าว "เราจะไปพระราชวังกันวันนี้"พวกเขาแต่งกายในชุดสูทและชุดราตรีที่ดูสง่างาม และนั่งรถม้าคันหรูที่ราชสำนักส่
ท้องฟ้าเหนือลอนดอนเป็นสีเทาหม่น แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านก้อนเมฆหนาทึบ บรรยากาศเงียบสงัดราวกับกำลังรอคอยบทสรุปของเรื่องราวที่ยืดเยื้อมานาน เมรี่และทีมยืนเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดเอียน เกรย์ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและอำมหิต"คิดว่าการจับกุมผู้การฟิลลิปส์จะหยุดย้าข้าได้งั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนกล่าว "ข้าคือ 'ท่านลอร์ดผู้สูงศักดิ์' ที่แท้จริง และพวกเจ้าทุกคนจะกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ตรงนี้!"เขาไม่ได้มาคนเดียว ชายฉกรรจ์ในชุดดำหลายคนปรากฏตัวขึ้นจากเงามืด รายล้อมพวกเขาไว้จากทุกทิศทาง"พวกแกมีกันแค่หกคน" ท่านลอร์ดเอียนเยาะเย้ย "จะสู้กับคนจำนวนมากอย่างพวกเราได้อย่างไร!""เราสู้เพื่อความถูกต้อง!" เมรี่ตะโกน "ความจริงจะเปิดเผยทุกอย่าง!""ความจริงอย่างนั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนหัวเราะ "ข้าคือความจริง! ข้าคือผู้กำหนดชะตากรรมของลอนดอน!"การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเริ่มต้นขึ้นแล้ว!เบ็นกับเอดิสันที่อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี พยายามเข้าจัดการกับลูกสมุนของท่านลอร์ดเอียนอย่างสุดกำลัง เฟรเดอริคกับอเล็กซานเดอร์ต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อปกป้องเลดี้อลิซาเบธ เมรี่คว้ามีดสั้นที่มิสเตอร์คลาร์กเก็บไว้ให้เ
รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กจอดนิ่งอยู่ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน ผู้การฟิลลิปส์ยืนจ้องมองพวกเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความแค้น ใบหน้าของเขาดูเย็นชาและน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจเสียอีก"ส่งสมุดบันทึกนั่นมาให้ข้า!" ผู้การฟิลลิปส์คำราม "แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกแกทุกคน!""ไม่มีทางหรอก!" อเล็กซานเดอร์ตอบ เขาคว้าปืนพกที่เก็บซ่อนไว้ในรถขึ้นมาเล็งไปที่ผู้การฟิลลิปส์"คิดว่าปืนกระบอกเดียวจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ!" ผู้การฟิลลิปส์ยิ้มเยาะ "ข้ามีกำลังคนมากกว่าที่พวกแกคิดนัก!"ทันใดนั้นเอง ก็มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดข้างๆ ผู้การฟิลลิปส์ แล้วชายร่างใหญ่ในชุดสูทสีดำหลายคนก็ลงมาจากรถ"นี่ไง! พวกเขาทั้งหมดก็อยู่ที่นี่แล้ว!" หนึ่งในนั้นตะโกนสถานการณ์ดูเลวร้ายลงเรื่อยๆ เมรี่รู้ว่าพวกเขาตกอยู่ในวงล้อมแล้ว"เราต้องสู้ครับ!" เอดิสันกล่าว เขาพยายามพยุงตัวเองให้ยืนได้ด้วยขาที่บาดเจ็บ"เราจะสู้ด้วยกัน!" เลดี้อลิซาเบธกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวการต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือด!เฟรเดอริคและเบ็นพุ่งเข้าใส่ลูกสมุนของ 'เงาแห่งลอนดอน' อย่างรวดเร็ว พวกเขาต่อสู้กันอย่างไม่ลดละ ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็ยิงปืนใส่คนร้ายอย่างแม่นยำเมรี่และเอดิสัน
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในร้านอาหาร เมรี่ก็ได้ที่อยู่จากจดหมายที่อยู่ในมือของชายชราผู้ล่วงลับ มันเป็นที่อยู่ของบ้านหลังหนึ่งที่ดูเก่าแก่ในย่านชานเมืองของแมนเชสเตอร์ เมรี่รู้ว่าเธอต้องไปที่นั่นเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม แต่เธอก็รู้ว่าเธอไม่สามารถไปคนเดียวได้"ฉันต้องหาทางติดต่อพี่ชายให้ได้" เมรี่พึมพำกับตัวเองในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น เธอก็เห็นรถตำรวจคันหนึ่งแล่นผ่านมา เธอจำตำรวจนายนั้นได้ทันที เขาคือตำรวจที่เคยช่วยเธอไว้ที่ร้านอาหาร!"คุณเมรี่!" ตำรวจนายนั้นกล่าว "คุณกำลังจะไปไหนครับ!""ฉันต้องไปที่ที่อยู่แห่งหนึ่งค่ะ" เมรี่ตอบ "มันอาจจะเกี่ยวข้องกับ 'เงาแห่งลอนดอน' "ตำรวจนายนั้นมองไปที่เมรี่ด้วยความสงสัย "ผมไม่คิดว่าคุณควรไปคนเดียวนะครับ""ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วค่ะ" เมรี่ตอบ "เพื่อนและพี่ชายของฉันถูกจับตัวไป และฉันต้องหาทางช่วยพวกเขาให้ได้"ตำรวจนายนั้นมองไปที่เมรี่ด้วยความประทับใจในความกล้าหาญของเธอ "ผมจะไปกับคุณครับ"เมรี่เบิกตากว้าง "คุณจะไปกับฉันอย่างนั้นหรือคะ?""ใช่ครับ" ตำรวจนายนั้นตอบ "ผมเชื่อในสิ่งที่คุณพูด และผมเชื่อว่าคุณกำลังต่อสู้เพื่อความถูกต้อง"เมรี่รู้สึกดีใจ เธอรู้
เมรี่วิ่งไปตามตรอกซอกซอยที่มืดมิดของแมนเชสเตอร์ เธอหอบหายใจอย่างหนัก หัวใจเต้นรัวด้วยความกังวลและความกลัว เธอไม่รู้ว่าพี่ชายและเพื่อนๆ เป็นอย่างไรบ้าง แต่เธอก็รู้ว่าเธอต้องหาทางช่วยพวกเขาให้ได้"เราจะต้องทำอย่างไรดี..." เมรี่พึมพำกับตัวเองในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น เธอก็เห็นร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งที่เปิดไฟสลัวๆ อยู่ในซอยมืดๆ เธอรู้สึกหิวและเหนื่อยล้า เธอตัดสินใจที่จะเข้าไปพักเหนื่อยและหาอะไรกินก่อนที่จะคิดหาทางออกต่อไปภายในร้านอาหารนั้นดูอบอุ่นและเป็นกันเอง มีโต๊ะไม้ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ และมีผู้คนนั่งทานอาหารอยู่ประปราย เมรี่เลือกนั่งที่โต๊ะมุมหนึ่งที่มองเห็นประตูทางเข้า เธอสั่งซุปอุ่นๆ มาหนึ่งถ้วย แล้วก็จิบมันอย่างช้าๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นในระหว่างที่เธอกำลังทานอาหารอยู่นั้น เธอก็สังเกตเห็นชายชราผู้หนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะไม่ไกลจากเธอ เขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ดูมีราคา และดูเหมือนว่าเขากำลังรอใครบางคนอยู่"นี่มันน่าเบื่อจริงๆ" ชายชราคนนั้นพึมพำกับตัวเอง "ข้าจะรอไปถึงเมื่อไหร่กัน"ทันใดนั้นเอง บริกรก็เดินเข้ามาพร้อมกับไวน์ขวดหนึ่ง แล้วรินให้ชายชราคนนั้น ชายชราจิบไวน์ไปเล็กน้