สองสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่ลอนดอน ชีวิตของเมรี่และทีมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้เป็นแค่นักสืบธรรมดาอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นวีรบุรุษผู้เปิดโปงองค์กรลับที่สั่นสะเทือนสังคมอังกฤษทั้งประเทศ ข่าวของพวกเขาถูกตีพิมพ์ลงบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และชื่อของตระกูลแบล็ควู้ดก็กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งในฐานะนักสืบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้
เช้าวันหนึ่ง จดหมายฉบับหนึ่งจากราชสำนักได้ส่งมาถึงพวกเขา มันเป็นจดหมายเชิญให้พวกเขาไปรับรางวัลเกียรติยศที่พระราชวังบักกิงแฮม ในฐานะผู้ที่มีส่วนช่วยในการคลี่คลายคดีสำคัญของประเทศ "นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ!" เฟรเดอริคกล่าวด้วยความตื่นเต้น "เราจะได้ไปพระราชวังบักกิงแฮม!" "เราไม่ได้ไปเที่ยวครับพี่เฟรเดอริค" อเล็กซานเดอร์กล่าว "เราไปในฐานะผู้ได้รับเชิญให้ไปรับรางวัล" เมรี่มองไปที่จดหมายเชิญ เธอรู้สึกดีใจและภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำลงไป แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความกังวลบางอย่างที่ไม่อาจทราบสาเหตุ "ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ" เอดิสันกล่าว "เราจะไปพระราชวังกันวันนี้" พวกเขาแต่งกายในชุดสูทและชุดราตรีที่ดูสง่างาม และนั่งรถม้าคันหรูที่ราชสำนักส่งมารับพวกเขา การเดินทางจากบ้านพักไปยังพระราชวังเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขและความภาคภูมิใจ "นี่คือความสำเร็จของพวกเราทุกคนค่ะ" เลดี้อลิซาเบธกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ใช่ครับ" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "พวกคุณทุกคนคู่ควรกับรางวัลนี้แล้ว" แต่ในขณะที่รถม้ากำลังแล่นผ่านถนนสายหนึ่งที่คดเคี้ยวและเงียบสงบ จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากด้านหลัง "หยุดรถ!" รถม้าหยุดกะทันหัน ทำให้ทุกคนต้องตัวโยนไปมา พวกเขามองไปที่หน้าต่าง และเห็นชายในชุดดำหลายคนยืนขวางทางอยู่ "พวกเขาเป็นใครกันคะ!" เลดี้อลิซาเบธถามด้วยความตกใจ "ดูเหมือนว่าเราจะถูกซุ่มโจมตีแล้วล่ะครับ" อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด การต่อสู้ในเมืองหลวง คนขับรถม้าพยายามที่จะขับรถหนี แต่ชายในชุดดำก็ยิงปืนใส่ล้อรถม้า ทำให้รถม้าไม่สามารถไปต่อได้ "ลงมา!" หนึ่งในชายในชุดดำตะโกน "ไม่อย่างนั้นพวกแกจะต้องตายอยู่ตรงนี้!" เมรี่และทีมลงมาจากรถม้าอย่างช้าๆ พวกเขามองไปที่ชายในชุดดำที่ยืนล้อมพวกเขาไว้ พวกเขาไม่ได้มีแค่ปืน แต่ยังมีมีดและอาวุธอื่นๆ อีกด้วย "แกคือใคร!" อเล็กซานเดอร์ถาม "พวกเราคือ 'ยมทูต' ของ 'กาลเวลา'!" ชายคนหนึ่งตอบ "พวกเราจะมาล้างแค้นให้ท่านลอร์ดเอียน!" "เป็นไปไม่ได้!" เฟรเดอริคอุทาน "พวกเขายังมีชีวิตอยู่อีกหรือ!" "ใช่!" ชายคนนั้นกล่าว "และพวกเราจะไม่มีวันยอมให้พวกแกเปิดเผยความลับของ 'กาลเวลา' ได้!" การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือดกลางถนนที่ว่างเปล่า! เอดิสันและเบ็นที่อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี พยายามเข้าจัดการกับ 'ยมทูต' อย่างสุดกำลัง เฟรเดอริคและอเล็กซานเดอร์ต่อสู้เพื่อปกป้องมิสเตอร์คลาร์กและเลดี้อลิซาเบธ ส่วนเมรี่ก็มองหาช่องโหว่เพื่อหนีไป "ไปจากที่นี่ซะ!" อเล็กซานเดอร์ตะโกน "พวกเราจะถ่วงเวลาไว้เอง!" แต่เมรี่ไม่ยอมไป เธอรู้ว่าเธอต้องสู้เพื่อทุกคน! "เราจะสู้ด้วยกันค่ะ!" เมรี่กล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว เธอพุ่งเข้าใส่ 'ยมทูต' คนหนึ่งแล้วใช้ทักษะการต่อสู้ทั้งหมดที่มีโจมตีเขาอย่างรวดเร็ว 'ยมทูต' คนนั้นดูเหมือนจะประหลาดใจกับความสามารถของเธอ "แกมันก็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง!" 'ยมทูต' คนนั้นคำราม "แต่ฉันก็สามารถจัดการกับพวกแกได้!" เมรี่ตอบ แสงแห่งความหวังที่ริบหรี่ ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด จู่ๆ ก็มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาอย่างรวดเร็ว! "นั่นใครกัน!" เฟรเดอริคตะโกน รถยนต์คันนั้นหยุดลง แล้วนักสืบโธมัสก็ก้าวลงมาจากรถพร้อมกับตำรวจอีกหลายนาย! "หยุดนะ!" นักสืบโธมัสตะโกน "วางอาวุธลงเดี๋ยวนี้!" 'ยมทูต' มองไปที่ตำรวจด้วยความโกรธแค้น "พวกแกมาทำไม!" "เรามาเพื่อจับกุมพวกแกไง!" นักสืบโธมัสกล่าว 'ยมทูต' ไม่สนใจ พวกเขายังคงต่อสู้ต่อไป แต่ตำรวจก็มีจำนวนมากกว่า "พวกเรากำลังจะแพ้แล้ว!" หนึ่งใน 'ยมทูต' ตะโกน ทันใดนั้นเอง 'ยมทูต' ทุกคนก็หยิบหลอดแก้วเล็กๆ ขึ้นมาแล้วบีบมัน! "พวกแกจะทำอะไร!" อเล็กซานเดอร์ตะโกน ควันสีม่วงลอยออกมาจากหลอดแก้ว และปกคลุมไปทั่วบริเวณนั้น! "แก๊สพิษ!" เอดิสันคำราม "รีบหนีไป!" ทุกคนต่างพากันวิ่งหนีออกจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว แต่เมรี่ก็มองไปที่รถยนต์คันหนึ่งที่กำลังแล่นหนีไป เธอเห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่เบาะหลัง เขาไม่ได้แต่งกายในชุดดำ แต่แต่งกายด้วยชุดสูทที่ดูหรูหรา และเขากำลังยิ้มให้เธอ! "นั่นใครกันคะ!" เมรี่พึมพำ "เขาคือ 'หัวหน้าใหญ่' ของ 'ยมทูต'!" เอดิสันตอบ "เราต้องตามเขาไป!" พวกเขาพุ่งตัวขึ้นรถตำรวจของนักสืบโธมัสทันที แล้วขับตามรถคันนั้นไปอย่างรวดเร็ว "เราจะไปไหนกันครับ!" นักสืบโธมัสถาม "ไปที่ไหนสักแห่งที่เต็มไปด้วยผู้คนค่ะ!" เมรี่ตอบ "พวกเขาไม่กล้าลงมือในที่ที่มีผู้คนเยอะๆ แน่ๆ!" รถยนต์ทั้งสองคันขับไล่กันไปอย่างดุเดือดผ่านใจกลางเมืองลอนดอน รถคันที่เมรี่นั่งอยู่พยายามจะแซงรถของคนร้าย แต่พวกเขาก็ถูกขัดขวางตลอดเวลา "พวกเขาเร็วมาก!" เฟรเดอริคกล่าว "เราต้องหาทางให้พวกเขาหยุดรถครับ!" อเล็กซานเดอร์กล่าว เมรี่มองไปที่ข้างทาง และเห็นรถเข็นขายดอกไม้ที่จอดอยู่ "นักสืบโธมัสคะ! คุณต้องชนรถเข็นนั่นค่ะ!" เมรี่ตะโกน นักสืบโธมัสเบิกตากว้าง "ไม่ได้นะครับ! มันอันตรายเกินไป!" "ถ้าเราไม่ทำ พวกเขาจะหนีไปได้นะคะ!" เมรี่กล่าว "ฉันเชื่อใจคุณค่ะ!" นักสืบโธมัสกัดฟัน แล้วบังคับรถให้ชนเข้ากับรถเข็นขายดอกไม้อย่างจัง! "ตูม!" รถเข็นขายดอกไม้พลิกคว่ำ ดอกไม้กระจัดกระจายไปทั่วถนน และทำให้รถของคนร้ายต้องเบรกกะทันหัน! "ลงไป!" เมรี่ตะโกน พวกเขาลงจากรถทันที แล้ววิ่งตรงไปที่รถของคนร้าย! "ไปเลย!" เอดิสันตะโกน "ฉันจะจัดการเอง!" เอดิสันวิ่งไปที่รถของคนร้ายอย่างรวดเร็ว แล้วกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถ! "แกจะทำอะไร!" 'หัวหน้าใหญ่' ตะโกน เอดิสันใช้ขาที่ยังบาดเจ็บถีบเข้าที่กระจกหน้ารถอย่างแรง! "เปรี้ยง!" กระจกแตกเป็นเสี่ยงๆ เอดิสันพยายามจะเข้าไปในรถ แต่คนขับก็พยายามจะเหยียบคันเร่งหนี "ไม่นะ!" เมรี่ตะโกน แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดข้างๆ รถของคนร้าย มันคือรถของมิสเตอร์คลาร์ก! "ขึ้นมาเลย!" มิสเตอร์คลาร์กตะโกน เอดิสันกระโดดจากรถของคนร้ายไปที่รถของมิสเตอร์คลาร์กได้อย่างหวุดหวิด แล้วรถของมิสเตอร์คลาร์กก็แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว! รถของคนร้ายยังคงขับต่อไปอย่างบ้าคลั่ง แต่พวกเขาก็ไม่มีทางหนีพ้นไปได้แล้ว! "พวกเขาจะไปไหนกันครับ?" เฟรเดอริคถาม "พวกเขาจะไปที่ที่พวกเขาคิดว่าปลอดภัยที่สุดครับ" เมรี่ตอบ "สำนักงานใหญ่ของ 'กาลเวลา'!" การผจญภัยยังไม่จบลง แต่เมรี่ก็รู้สึกมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถเปิดโปงความจริงและหยุดยั้ง 'กาลเวลา' ได้สำเร็จ!รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กแล่นฉวัดเฉวียนไปตามถนนในลอนดอนอย่างรวดเร็ว โดยมีรถของหัวหน้าใหญ่แห่ง 'ยมทูต' เป็นเป้าหมาย พวกเขาขับผ่านผู้คนและรถยนต์คันอื่นๆ อย่างไม่ลดละ การไล่ล่าดำเนินไปอย่างดุเดือดท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของมหานคร"เราต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงสำนักงานใหญ่ของพวกเขาได้!""สำนักงานใหญ่อยู่ที่ไหนคะ?" เมรี่ถามด้วยความสงสัย"มันอยู่ในใจกลางเมืองครับ" เอดิสันตอบ "เป็นที่ที่เราไม่คาดคิดว่าจะเจอเลย"ในที่สุด รถของ 'ยมทูต' ก็แล่นเข้าไปในอาคารสูงระฟ้าแห่งหนึ่งที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาอย่างน่าตกใจ"นั่นไงครับ!" อเล็กซานเดอร์กล่าว "พวกเขาเข้าไปในนั้นแล้ว!""เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" เฟรเดอริคถาม "ระบบรักษาความปลอดภัยที่นั่นเข้มงวดมาก""เราไม่ต้องเข้าไปครับ" มิสเตอร์คลาร์กยิ้ม "เราจะใช้ทางลับ"เขาพาพวกเขาไปยังทางเข้าอุโมงค์ใต้ดินแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากอาคารนั้น มันเป็นทางเข้าที่ถูกปกปิดไว้อย่างมิดชิด จนแทบไม่มีใครสังเกตเห็น"อุโมงค์นี้จะนำเราไปสู่ทางเข
สองสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่ลอนดอน ชีวิตของเมรี่และทีมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้เป็นแค่นักสืบธรรมดาอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นวีรบุรุษผู้เปิดโปงองค์กรลับที่สั่นสะเทือนสังคมอังกฤษทั้งประเทศ ข่าวของพวกเขาถูกตีพิมพ์ลงบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และชื่อของตระกูลแบล็ควู้ดก็กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งในฐานะนักสืบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้เช้าวันหนึ่ง จดหมายฉบับหนึ่งจากราชสำนักได้ส่งมาถึงพวกเขา มันเป็นจดหมายเชิญให้พวกเขาไปรับรางวัลเกียรติยศที่พระราชวังบักกิงแฮม ในฐานะผู้ที่มีส่วนช่วยในการคลี่คลายคดีสำคัญของประเทศ"นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ!" เฟรเดอริคกล่าวด้วยความตื่นเต้น "เราจะได้ไปพระราชวังบักกิงแฮม!""เราไม่ได้ไปเที่ยวครับพี่เฟรเดอริค" อเล็กซานเดอร์กล่าว "เราไปในฐานะผู้ได้รับเชิญให้ไปรับรางวัล"เมรี่มองไปที่จดหมายเชิญ เธอรู้สึกดีใจและภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำลงไป แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความกังวลบางอย่างที่ไม่อาจทราบสาเหตุ"ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ" เอดิสันกล่าว "เราจะไปพระราชวังกันวันนี้"พวกเขาแต่งกายในชุดสูทและชุดราตรีที่ดูสง่างาม และนั่งรถม้าคันหรูที่ราชสำนักส่
ท้องฟ้าเหนือลอนดอนเป็นสีเทาหม่น แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านก้อนเมฆหนาทึบ บรรยากาศเงียบสงัดราวกับกำลังรอคอยบทสรุปของเรื่องราวที่ยืดเยื้อมานาน เมรี่และทีมยืนเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดเอียน เกรย์ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและอำมหิต"คิดว่าการจับกุมผู้การฟิลลิปส์จะหยุดย้าข้าได้งั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนกล่าว "ข้าคือ 'ท่านลอร์ดผู้สูงศักดิ์' ที่แท้จริง และพวกเจ้าทุกคนจะกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ตรงนี้!"เขาไม่ได้มาคนเดียว ชายฉกรรจ์ในชุดดำหลายคนปรากฏตัวขึ้นจากเงามืด รายล้อมพวกเขาไว้จากทุกทิศทาง"พวกแกมีกันแค่หกคน" ท่านลอร์ดเอียนเยาะเย้ย "จะสู้กับคนจำนวนมากอย่างพวกเราได้อย่างไร!""เราสู้เพื่อความถูกต้อง!" เมรี่ตะโกน "ความจริงจะเปิดเผยทุกอย่าง!""ความจริงอย่างนั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนหัวเราะ "ข้าคือความจริง! ข้าคือผู้กำหนดชะตากรรมของลอนดอน!"การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเริ่มต้นขึ้นแล้ว!เบ็นกับเอดิสันที่อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี พยายามเข้าจัดการกับลูกสมุนของท่านลอร์ดเอียนอย่างสุดกำลัง เฟรเดอริคกับอเล็กซานเดอร์ต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อปกป้องเลดี้อลิซาเบธ เมรี่คว้ามีดสั้นที่มิสเตอร์คลาร์กเก็บไว้ให้เ
รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กจอดนิ่งอยู่ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน ผู้การฟิลลิปส์ยืนจ้องมองพวกเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความแค้น ใบหน้าของเขาดูเย็นชาและน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจเสียอีก"ส่งสมุดบันทึกนั่นมาให้ข้า!" ผู้การฟิลลิปส์คำราม "แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกแกทุกคน!""ไม่มีทางหรอก!" อเล็กซานเดอร์ตอบ เขาคว้าปืนพกที่เก็บซ่อนไว้ในรถขึ้นมาเล็งไปที่ผู้การฟิลลิปส์"คิดว่าปืนกระบอกเดียวจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ!" ผู้การฟิลลิปส์ยิ้มเยาะ "ข้ามีกำลังคนมากกว่าที่พวกแกคิดนัก!"ทันใดนั้นเอง ก็มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดข้างๆ ผู้การฟิลลิปส์ แล้วชายร่างใหญ่ในชุดสูทสีดำหลายคนก็ลงมาจากรถ"นี่ไง! พวกเขาทั้งหมดก็อยู่ที่นี่แล้ว!" หนึ่งในนั้นตะโกนสถานการณ์ดูเลวร้ายลงเรื่อยๆ เมรี่รู้ว่าพวกเขาตกอยู่ในวงล้อมแล้ว"เราต้องสู้ครับ!" เอดิสันกล่าว เขาพยายามพยุงตัวเองให้ยืนได้ด้วยขาที่บาดเจ็บ"เราจะสู้ด้วยกัน!" เลดี้อลิซาเบธกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวการต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือด!เฟรเดอริคและเบ็นพุ่งเข้าใส่ลูกสมุนของ 'เงาแห่งลอนดอน' อย่างรวดเร็ว พวกเขาต่อสู้กันอย่างไม่ลดละ ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็ยิงปืนใส่คนร้ายอย่างแม่นยำเมรี่และเอดิสัน
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในร้านอาหาร เมรี่ก็ได้ที่อยู่จากจดหมายที่อยู่ในมือของชายชราผู้ล่วงลับ มันเป็นที่อยู่ของบ้านหลังหนึ่งที่ดูเก่าแก่ในย่านชานเมืองของแมนเชสเตอร์ เมรี่รู้ว่าเธอต้องไปที่นั่นเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม แต่เธอก็รู้ว่าเธอไม่สามารถไปคนเดียวได้"ฉันต้องหาทางติดต่อพี่ชายให้ได้" เมรี่พึมพำกับตัวเองในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น เธอก็เห็นรถตำรวจคันหนึ่งแล่นผ่านมา เธอจำตำรวจนายนั้นได้ทันที เขาคือตำรวจที่เคยช่วยเธอไว้ที่ร้านอาหาร!"คุณเมรี่!" ตำรวจนายนั้นกล่าว "คุณกำลังจะไปไหนครับ!""ฉันต้องไปที่ที่อยู่แห่งหนึ่งค่ะ" เมรี่ตอบ "มันอาจจะเกี่ยวข้องกับ 'เงาแห่งลอนดอน' "ตำรวจนายนั้นมองไปที่เมรี่ด้วยความสงสัย "ผมไม่คิดว่าคุณควรไปคนเดียวนะครับ""ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วค่ะ" เมรี่ตอบ "เพื่อนและพี่ชายของฉันถูกจับตัวไป และฉันต้องหาทางช่วยพวกเขาให้ได้"ตำรวจนายนั้นมองไปที่เมรี่ด้วยความประทับใจในความกล้าหาญของเธอ "ผมจะไปกับคุณครับ"เมรี่เบิกตากว้าง "คุณจะไปกับฉันอย่างนั้นหรือคะ?""ใช่ครับ" ตำรวจนายนั้นตอบ "ผมเชื่อในสิ่งที่คุณพูด และผมเชื่อว่าคุณกำลังต่อสู้เพื่อความถูกต้อง"เมรี่รู้สึกดีใจ เธอรู้
เมรี่วิ่งไปตามตรอกซอกซอยที่มืดมิดของแมนเชสเตอร์ เธอหอบหายใจอย่างหนัก หัวใจเต้นรัวด้วยความกังวลและความกลัว เธอไม่รู้ว่าพี่ชายและเพื่อนๆ เป็นอย่างไรบ้าง แต่เธอก็รู้ว่าเธอต้องหาทางช่วยพวกเขาให้ได้"เราจะต้องทำอย่างไรดี..." เมรี่พึมพำกับตัวเองในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น เธอก็เห็นร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งที่เปิดไฟสลัวๆ อยู่ในซอยมืดๆ เธอรู้สึกหิวและเหนื่อยล้า เธอตัดสินใจที่จะเข้าไปพักเหนื่อยและหาอะไรกินก่อนที่จะคิดหาทางออกต่อไปภายในร้านอาหารนั้นดูอบอุ่นและเป็นกันเอง มีโต๊ะไม้ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ และมีผู้คนนั่งทานอาหารอยู่ประปราย เมรี่เลือกนั่งที่โต๊ะมุมหนึ่งที่มองเห็นประตูทางเข้า เธอสั่งซุปอุ่นๆ มาหนึ่งถ้วย แล้วก็จิบมันอย่างช้าๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นในระหว่างที่เธอกำลังทานอาหารอยู่นั้น เธอก็สังเกตเห็นชายชราผู้หนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะไม่ไกลจากเธอ เขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ดูมีราคา และดูเหมือนว่าเขากำลังรอใครบางคนอยู่"นี่มันน่าเบื่อจริงๆ" ชายชราคนนั้นพึมพำกับตัวเอง "ข้าจะรอไปถึงเมื่อไหร่กัน"ทันใดนั้นเอง บริกรก็เดินเข้ามาพร้อมกับไวน์ขวดหนึ่ง แล้วรินให้ชายชราคนนั้น ชายชราจิบไวน์ไปเล็กน้