"งั้นมึงก็ไปอาบน้ำไป" เธอบอกเขาอย่างใจเย็น นั่นก็เพราะเธอทนเห็นซันในสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ไหว เวลาที่ซันเสียใจเธอเองก็รู้สึกไม่สบายใจด้วยเช่นกัน
"หมิว"
"ว่า"
แทนที่เขานั้นจะลุกไปอาบน้ำดี ๆ แต่กลับนั่งจ้องหน้าเธออยู่แบบนั้นไม่ยอมไปไหน ก่อนที่เขานั้นจะยกโต๊ะเล็กที่คั่นอยู่ตรงกลางระหว่างเขาเเละเธอออกไป หมิวมองตามอย่างงงงวย นั่นเขาจะทำอะไรงั้นหรือ?
"ทำไรอะ?"
"กอดหน่อย"
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเอ่ยปากขออย่างไม่อายเลยสักนิด เกิดบ้าอะไรขึ้นมาถึงอยากกอดเธอกัน สนิทกันก็จริงอยู่หรอก แต่ถ้าจะให้ทำแบบนี้ก็ขนลุกอยู่บ้างเหมือนกัน
"บ้าเหรอ ไม่เอา"
"กูอยากกอด"
"เอ้าไอ้นี่" เธอปวดหัวกับเขาจริง ๆ เลย งอเเงเป็นเด็กสามขวบไปได้ ตัวโตเท่าควายสมองยังเท่าเมล็ดถั่วเขียวอยู่เลย
"กูขอกำลังใจจากมึงหน่อยสิเพื่อน กูมีแค่มึง"
ซันพูดทั้งน้ำตาคลอ แววตาที่สื่อออกมาล้วนฉายชัดถึงความปวดร้าวภายในใจ นี่ซันรักผู้หญิงคนนั้นมากขนาดนี้เลยหรือ มากจนยอมเสียน้ำตาให้เขาโดยไม่เสียดายเลยสักนิด ทำไมเธอที่รู้อยู่เเล้วกลับแน่นหน้าอกแบบนี้กันนะ ความรู้สึกที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมันเป็นแบบนี้นี่เอง
"อื้อ มา"
ท้ายสุดแล้วเธอก็ยังห่วงเขาเช่นเดิม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอยินดีอยู่ข้างซันเสมอ โอบกอดเขาไว้ราวกับว่าเป็นผ้าห่มยามหนาว เป็นร่มยามฝนให้เขาคนนี้ไม่เปียกปอนอีกต่อไป
"อึก กูโคตรรักมึงเลย"
ซันดีดตัวเข้าสวมกอดคนตัวเล็กจนจมอ้อมเเขน พร้อมกับเอ่ยประโยคนั้นออกมาอย่างจริงใจ หมิวเป็นเพื่อนที่เขารักมากที่สุด ไว้ใจเเละยกพื้นที่ความเชื่อใจให้จนหมดสิ้น แต่กลับไม่เคยคิดมากไปกว่าคำว่าเพื่อนเลยสักครั้ง
เธอเพียงพยักหน้าเบา ๆ เป็นการรับรู้แทนคำพูด เธอไม่ปฏิเสธว่าอ้อมกอดนี้ดีแค่ไหน บางทีเธอไม่ได้ต้องการอะไรเกินตัวด้วยซ้ำ ขอให้ทุก ๆ วันเธอได้ทำหน้าที่ ที่เธอนั้นอยากจะทำก็เพียงพอแล้ว ผ่านไปได้สักพักกว่าซันจะยอมคลายอ้อมเเขน เขารู้สึกดีขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาก่อน เขาเสียใจก็จริงแต่เวลาที่อยู่กับหมิวเเล้วทุกอย่างเหมือนถูกเยียวยา และหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ
"ดีขึ้นยัง?"
"ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณนะหมิว"
"อื้อ งั้นก็กลับห้องไปนอนเถอะ"
เมื่อเห็นว่าอีกคนดีขึ้นอย่างที่บอกแล้ว เธอจึงบอกให้เขานั้นกลับไปยังห้องของตนเพื่อพักผ่อน เพราะเธอคิดว่าซันเองก็ไม่ได้อยากนอนที่นี่ นานหลายเดือนแล้วที่เขาและพองเพื่อนไม่ได้มาซุกตัวอยู่ที่ห้องเธอ ส่วนมากจะเป็นเธอมากกว่าที่ไปอยู่เป็นเพื่อนซันที่คอนโด
"วันนี้ว่าจะขอนอนนี่"
"ก็ตามใจ เดี๋ยวเตรียมที่นอนให้ละกัน"
เธอไม่ได้นอนเตียงเดียวกับเขาหรอกนะ ทุกครั้งที่ซันมาที่นี่ก็แยกกันนอนอยู่แล้ว หรือกระทั่งเวลามีเพื่อนมาทั้งสี่หนุ่มก็จะนอนกองกันเป็นขยะให้เธอนอนคนเดียวสบาย ๆ
"OK" ซันพยักหน้าก่อนจะเดินไปหาผ้าเช็ดตัวของเขาที่เคยทิ้งไว้ ก่อนจะค้นหาเสื้อผ้าพวกชุดนอนที่หมิวเก็บไว้ให้เผื่อวันไหนเขาจำเป็นต้องเปลี่ยน หมิวเป็นคนรอบคอบและค่อนข้างละเอียดอ่อน ต่างจากเขาที่ใช้ชีวิตแบบแล้วแต่จะเป็น ไม่มีเป้าหมายไม่มีสาระไปวัน ๆ ก็คงไม่แปลกที่จะโดนทิ้ง
หลังจากที่เขาอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เหมือนความรู้สึกสบายตัวเข้ามาแทนที่ทุกอย่างจนตาแทบจะปิดอยู่รอมร่อ เขายังคิดถึงแฟนสาวที่บอกเลิกเขาไปก็จริง ก่อนหน้าเข้าขั้นเพ้อหนัก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าโหยหาน้อยลง หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขานั้นเหนื่อยและดื่มไปเยอะหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
"หมิวหลับยัง?"
"......" ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับจากคนที่นอนหลับคอพับ หากตื่นมาคงบ่นปวดคอและใส่ร้ายเขาว่าเป็นต้นเหตุแน่นอน ซันทิ้งตัวลงนอนด้านข้างกับเธอ แต่ก็มีระยะห่างระหว่างที่นอนอยู่พอสมควร เขานอนตะแคงจ้องหน้าคนที่หลับไหล ก่อนจะอดใจไม่ไหวลุกขึ้นไปขยับและเปลี่ยนท่านอนใหม่ให้เธอหลับสบายขึ้น
"อื้อ~~" เสียงครางอู้อี้ในลำคอเมื่อถูกรบกวนเวลานอน คนตัวเล็กพลิกกายไปอีกฝั่งเนื่องจากรำคาญ
"เปล่ากวนซะหน่อย"
เขาบ่นกระปอดประแปดก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกหน เขาเพียงนอนมองแผ่นหลังเนียนของเพื่อนสนิท ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน...
.
.
.
"โคตรหยามเลยว่ะ แม่ง!"
"เสือมึงเงียบดิ"
เจย์เดนเอ่ยปากห้ามอีกคนที่หัวร้อนกว่าคนอื่นหลายเท่า สาเหตุที่ทำเอาเสือหงุดหงิดจนหน้าแดงนั่นก็เพราะว่าอดีตแฟนของเพื่อนสนิทอย่างซันนั้น พาหนุ่มคนใหม่มาหยามหน้าซันที่หมดอาลัยตายอยากได้อย่างไม่เเคร์ไม่สน วันนี้ทุกคนต้องเข้าคณะเพื่อมาสอบ ทำให้ต้องเจอกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ สี่หนุ่มหล่อในชุดนักศึกษาได้แต่มองเขม่น ต่างจากซันที่ดูจะเสียใจมาก แววตาเศร้าหมองมองอดีตแฟนและไอ้หน้าจืดนั่นเดินออกไปอย่างผู้ชนะกันทั้งคู่
"มึงอย่าไปสนนะเว่ยไอ้ซัน แม่งไม่เหมาะกับมึงสัส"
"เสือ หุบปากดิ"
เสือถึงกับต้องนั่งลงกับที่อย่างคนเรียบร้อย และหุบปากทันทีเมื่อประโยคหลังนั้นมาจากหญิงสาวร่างเล็กในชุดนักศึกษาเช่นเดียวกัน เป็นหมิวที่อดทนดูอาการอยู่นาน และพยายามสังเกตซันอยู่ตลอดเวลา เพราะเธอกลัวซันนั้นจะเข้าไปอาละวาดทำให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา แต่โชคดีที่ซันเสียใจหนักจนไม่มีแม้แต่แรงขยับไปไหน
"เออ ดูสิไอ้ซันหน้าเหลืองเป็นขี้แล้ว" เป็นทัพที่พ่อหนุ่มตัวเสริมแห่งกลุ่มเอ่ยขึ้นบ้าง แต่กลับไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด และดูเหมือนจะเป็นการซ้ำเติมเสียอีก
"พามันไปหาไรกินเหอะ เที่ยงแล้ว"
เป็นเจย์เดนที่ดูมีความหน้าเชื่อถือสูสีกับหมิว แต่เขานั้นให้เกียรติหมิวเป็นที่หนึ่งดีกว่า เขาถือว่าเป็นมือขวาให้เธอแล้วกัน
"อื้อ หิ้ว"
คนตัวเล็กพยักหน้าก่อนจะพูดเพียงประโยคสั้น ๆ เท่านั้น และเพื่อนเธอต่างก็รู้ใจเป็นอย่างดี รับทราบในทันทีโดยมีเสือและเจย์เดนหิ้วปีกซันให้ลุกขึ้นเดิน เพราะซันนั้นดูเหมือนคนอ่อนแรงแม้แต่จะหายใจยังดูเป็นการลำบาก
"ถ้ามึงผ่านจุดนี้ไปได้นะไอ้เหี้ยซัน มึงจะรู้ว่าเหล้าหกเจ็บกว่าสาวทิ้งกูบอกเลย" พ่อเสือสุดหล่อเพย์บอยของกลุ่มเอ่ยพลันส่ายหน้าอย่างคนเบื่อหน่าย
รถยนต์คันหรูขับเข้าจอดหน้ารีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวที่ผู้เป็นพ่อของซันบริหารอยู่ แต่ไม่แน่ว่าอีกไม่นานซันเองก็จะมีโอกาสมาดูแลเเทน นั่นเพราะพี่ชายคนโตอย่างเฮียโซลก็มีธุระกิจของตัวเอง ส่วนเฮียโซ่รายนั้นไม่คิดจะสนใจ ไปทำตามความฝันของตัวเองที่เมืองนอก เหลือเพียงซันเท่านั้น แม้เมื่อก่อนจะเป็นคนที่ไม่เอาไหนมากที่สุด มาเวลานี้กลับเป็นคนที่เอาการเอางานจนราวกับเป็นคนละคน"ป๊าไม่ได้บอกมี๊แน่นะ?"ซันเอ่ยถามผู้เป็นพ่อที่ลงจากรถมาพร้อมกัน เพราะเขาเตรียมเซอร์ไพร์สคนที่แอบคิดถึง เขาตั้งใจไม่ยอมบอกหมิวว่าจะกลับวันไหน รอให้เขาเดินเข้าไปเจอเธอโน่นแหละถึงจะตื่นเต้นดี คิดเเล้วก็กลับเป็นตัวเขาเองที่ตื่นเต้นมากกว่าเธอด้วยซ้ำ"ยังไม่บอก ๆ ""ป๊าว่าหมิวเจอผมจะดีใจม่ะ?" ในระหว่างเดินเท้าเข้าบ้านซันก็เอ่ยถามกวน ๆ อย่างปกติ ในใจพลันเต้นเเรงอย่างบอกไม่ถูก"คิดว่าไม่" ผู้เป็นพ่อเองก็เอ่ยความจริงในใจอย่างไม่ปิดบังเลยสักนิด"ป๊า!! ป๊าไม่คิดว่าเมียผมจะคิดถึงผมบ้างเลยหรือไง"ชายหนุ่มทำปากคว่ำเมื่อไม่เป็นดั่งใจ เขาก็คาดหวังคำตอบที่จะตรงกับใ
"วู้ว ~~~~~"หลังจากประโยคพูดของเธอจบลง ก็เกิดเสียงโห่ร้องดังทั่วทั้งร้าน โดยเฉพาะเหล่าเพื่อนทั้งสามที่คอยเชียร์อยู่ด้านล่าง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเสียงดังกว่าใคร ๆ ฉากสวีทหวานของหนุ่มสาวที่จูบโชว์สายตาหลายคู่นั้น เรียกเสียงฮือฮาและเสียงแซวกันยกใหญ่ หนำซ้ำยังมีหลายคนต่างก็ชื่นชอบเป็นอย่างมาก"กรี๊ดดด!" เมื่อไม่เป็นที่สนใจก็ต้องสร้างจุดสนใจ เจนกรีดร้องราวกับคนปรี๊ดแตกเมื่อถูกหักหน้าแบบนั้น เธอคิดเสมอว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น โดยเฉพาะหมิว แต่ตอนนี้เธอกลับแพ้! เธอไม่อยากยอมรับมันเด็ดขาด!"อะไรวะเนี่ย ร้องน่ารำคาญชะมัดเลย" ทัพเอ่ยจิ๊จ๊ะอย่างไม่พอใจ นั่นเพราะรำคาญเสียงแสบแก้วหูที่ร้องวีด ๆ อยู่ในตอนนี้"แต่งเลย แต่งเลย แต่งเลย"จู่ ๆ เสือก็แหกปากร้องเชียร์เสียงดังลั่นร้าน เป็นตัวเปิดให้อีกหลายคนได้ร้องตามบ้าง ทำเอาหมิวรีบดันตัวซันออกห่างทันที เธอตั้งใจว่าจะหันไปส่งสัญญาณให้เพื่อนหุบปากเสียที เธอเพียงแค่อยากให้ยัยนั่นหน้าแตกก็เท่านั้น ส่วนเรื่องแต่งงานมันไม่ใช่เวลานี้ซะหน่อย เธอกับซันตกลงกันแล้วว่าต้องใช้เวลาอีกสักพัก"อื้อ~ เสือ มึงหุบปาก
"เด็ก ๆ มานี่ซิ"เสียงเรียกดังขึ้นภายในบาร์ซึ่งซันเป็นเจ้าของกิจการอยู่ เขาเอ่ยเรียกน้อง ๆ พนักงานในร้านเข้ามา เพื่อแนะนำใครบางคนให้เหล่าพนักงานทุกคนได้รู้จัก ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนตัวเล็กข้างกายเขา"สวัสดีครับเฮีย"หนุ่มน้อยราว ๆ สิบคนเดินเข้ามาทักทายเจ้าของร้าน เวลานี้ในร้านไม่มีลูกค้าเลยสักคน มีเพียงพนักงานที่นั่งเหงาหงอยกันเท่านั้น"อื้อ นี่ ซ้อหมิว เมียเฮียเอง""หู้~~~ ซ้อสวัสดีครับผม"หนึ่งในโฮสเดินเข้ามาไหว้เธออย่างใกล้ชิด ทั้ง ๆ ที่ซันก็เพิ่งบอกไปหมาด ๆ ว่านี่เมียเขา ไอ้เด็กพวกนี้เห็นสาวหน่อยเป็นไม่ได้ ถึงกับวิ่งเข้าใส่ไม่ดูตีนดูมือผัวเขาเลยสักนิด"เมียกู! ๆ "ซันง้างเท้าหมายจะถีบหนุ่มน้อยคนนั้นเสียเเล้ว แต่โชคดีที่โดนหมิวตีขาไว้ก่อน เพราะซันเป็นแบบนี้เด็กมันถึงไม่นับถือล่ะสิ"ซันหยุดดิ๊""ขอโทษครับเฮีย ผมแค่หยอกซ้อเล่นเฉย ๆ ""ช่างเถอะ ๆ ในนี้ใครเป็นเบอร์ตอง"หมิวมาถึงก็เปิดประเด็นถามทันที นั่นเพราะเธอสังเกตทุกอย่างโดยรอบ การจัดตกแต่งทุกอย่างในร้านซันทำได้ดีมาก ดีจนน่าทึ
"ทำได้แน่นอนครับ หมิวรอนะ"คนตัวโตเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาที่มองเธอก็ล้วนแต่จริงจัง เพราะเขาอยากทำเพื่อเธอจริง ๆ หมิวเองก็รับรู้ถึงความตั้งใจของซัน เธอเองก็ดีใจจนแทบร้องไห้เหมือนกัน แต่ดีที่กลั้นน้ำตาไว้ได้ นี่คือซันที่เธอต้องการไม่ใช่หรือ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธออดเป็นห่วงซันไม่ได้เลยสักวัน กลัวว่าถ้าเขาไม่เอาไหนแบบนั้นแล้วใครจะทนอยู่กับเขาได้ ใครจะรักและอยู่เคียงข้างและคอยช่วยเหลือเขา เธอทั้งรักทั้งห่วงขนาดนี้ หวังว่าต่อจากนี้ไปซันจะเป็นคนที่ดีขึ้น และพึ่งพาได้อย่างที่เขาสัญญา"อื้อ จะรอแล้วกัน แต่ต้องมาขอจริง ๆ นะ หม้ายขันหมากไม่เอานะเว่ย" เธอเอ่ยติดตลกพร้อมกับโถมตัวเข้ากอดชายหนุ่มตรงหน้า"หม้ายได้ไงเล่า มึงได้กูแล้วนะหมิว เราต้องแต่งงานกันอยู่เเล้ว""สลับบทพูดป่ะ คือมึงต้องบอกว่ามึงได้กู""ไม่ เราได้กันต่างหาก" ประโยคนี้ซันเริ่มพูดเสียงดังมากขึ้น จนเธอกลัวว่าคนที่อยู่บนบ้านจะได้ยินเข้า จึงรีบห้ามปราม"อย่าเสียงดังซัน""เอ้า ก็พูดความจริงอะ ว่าแล้วก็...วันนี้เรามารื้อฟื้นความหลังหน่อยไหม?"รอยยิ้มร้ายยกขึ้นมุ
"อย่าโทษตัวเองสิหมิว กูต่างหากที่ผิด กูไม่หนักแน่นพอทำให้มึงคิดมากเอง แต่กูไม่เคยทำแบบนั้นจริง ๆ มึงเชื่อกูแล้วใช่ไหม กูรักมึงมากเลยนะหมิว ต่อให้มึงไม่บังคับกูหรือขอร้องกู กูก็จะซื่อสัตย์กับมึงแค่คนเดียวนะ"ซันผละตัวออกเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยร่ายยาวด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่นเช่นเดียวกับเเววตา ความหมายที่สื่อออกมาไม่มีผิดเพี้ยน นั่นเพราะเขารักคนตรงหน้ามาก และสัญญาว่าจะดีกับเธอเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำเพื่อคนที่รักได้"ต่อไปนี้เราเชื่อมั่นในกันและกันนะ กูสัญญานะหมิว กูจะป็นคนที่ดีกว่านี้เพื่อมึง กูจะไม่ทำให้มึงคิดมากหรือเจ็บแม้เเต่นิดเดียว ให้โอกาสคนแย่ ๆ แบบกูอีกสักครั้งนะ"ครั้งนี้ซันจริงจังมากเสียจนเธอเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ยิ่งพอเวลาที่เธอได้สบตาเข้ากับดวงตาคมคู่นั้นก็อดหวั่นไหวไม่ได้ ดวงตาคู่นี้ที่เธอหลงรัก เช่นเดียวกับเขาที่ชอบดวงตากลมคู่นี้ของเธอ รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นบนมุมปากเล็ก เธอไม่ตอบเขาเพียงแค่พยักหน้า นั่นก็เป็นคำตอบที่เพียงพอแล้ว"โคตรรักมึงเลย จุ๊บทีดิ๊" ซันดีใจจนแทบเก็บอาการไม่ไหว ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างด้วยความพอใจ ความเหนื่อยล้า
ซันเอ่ยตามตรงไม่มีโกหก เขาไม่ได้นอนจริง ๆ เพราะมัวแต่นั่งคิดทุกอย่างจนกระทั่งหาทางออกได้แล้ว และรอเพียงเวลาเท่านั้น ระหว่างนี้เขาจึงพยายามพิสูจน์ตนเองกับครอบครัวของหมิว เผื่อท่านจะรู้สึกเอ็นดูเขาขึ้นมาบ้าง? หรือไม่ก็อาจจะทำให้ท่านอยากฆ่าเขาน้อยลงหน่อยก็ยังดี"ใครถ่างตามึงไว้ ทำไมไม่นอน" คุณตาเอ่ยปากเหน็บแนมพร้อมกับเดินลงบันไดบ้านผ่านร่างซันลงมา แต่เช้านี้ท่านกลับไม่มีทีท่าจะเอาอะไรมาทุกเขาอย่างเมื่อวานเเล้ว"ไม่มีครับ ผมแค่นั่งคิดเรื่องสำคัญ" ซันตอบกลับด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม พร้อมกับชะโงกหน้าขึ้นไปดูบนบ้านว่าหมิวนั้นตื่นหรือยัง เขาอยากเจอหน้าเธอให้ชื่นใจสักหน่อย แต่กลับต้องผิดหวัง"มึงมองอะไรไอ้เผือก""มองหาเมียครับ""โว๊ะ! ไอ้ห่านี่ มึงอยากตายเหรอ?" คุณตาเริ่มอารมณ์เสียกับคำตอบของซันเสียแล้ว ไม่แน่ซันอาจจะตั้งใจพูดก่อกวน แต่ไม่แน่อีกว่านี่เป็นนิสัยปกติของเขา"ปะ เปล่าครับ ๆ แฮ่ แฮ่" ซันถึงกับยิ้มแห้งให้คุณตา นั่นเพราะเขากลัวว่าหน้าตาตัวเองจะไปสะดุดอาวุธมีคมที่คุณตาแกสะสมไว้จะเป็นเรื่องเอาได้"แล้วคุณตาจะไปไหนเหรอครับ? มีอะไ