สามปีต่อมาในระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาฉันกับออสตินคอยช่วยกันเลี้ยงดูลูกเป็นอย่างดี มันก็มีบ้างที่คนเราจะต้องเหนื่อย และมันก็มีบ้างที่เราจะมีปากเสียงกันแต่สุดท้ายแล้วเราก็เลือกที่จะปรับความเข้าใจกันเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะอยู่ด้วยกันแล้วจะมีความคิดเห็นบางอย่างไม่ตรงกันและมีปากเสียงกันบ้าง แต่พอเราลองถอยกันคนละก้าวและพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมามันก็ทำให้เราสองคนเข้าใจกันปรับความเข้าใจกันมันเลยไม่มีการทะเลาะกันใหญ่โต ตอนนี้ฉันกำลังท้องลูกคนที่สองได้ห้าเดือนแล้วเป็นผู้หญิง ตอนแรกออสตินก็ไม่กล้าที่จะให้ฉันท้องอีกเพราะกลัวว่าฉันจะต้องเจ็บ รายนั้นกลัวฉันเจ็บมากๆ ถึงขั้นมีความคิดที่จะไปทำหมันตัวเองเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีลูกอีกฉันจะได้ไม่ต้องเจ็บอีกทั้งที่ตัวเองคิดเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้วว่าจะมีลูกอีกหลายๆ คนลูกจะได้ไม่เหงา สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องปลอบใจและอธิบายให้เขาเข้าใจจนเขาล้มเลิกความคิดที่จะไปทำหมัน และตอนนี้ออสก้ากำลังเข้าเรียนในชั้นเตรียมอนุบาล ออสตินจะขับรถไปส่งทุกๆวันพอเลิกงานก็จะแวะรับลูกชายกลับมาด้วยเพราะงั้นฉันเลยไม่ได้ต้องวุ่นวายตรงนี้ ตอนเช้าตื่นมาออสตินก็จะเป็นคนจัดแจงอาบน้ำแต่งตัว
เวลาต่อมา ตอนนี้ฉันคลอดลูกแล้วและก็กลับมาอยูที่บ้านแล้วด้วย ลูกตัวใหญ่แต่ก็คลอดออกมาเองได้เพราะร่างกายของฉันแข็งแรงพอที่จะคลอดเองได้ ก่อนหน้านั้นออสตินเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยเลย เพราะก่อนจะคลอดฉันมีอาการปวดที่เรียกว่าปวดสุดๆ ปวดจนหน้าซีดไปหมด ปวดจนตัวบิดงอ มันเหมือนร่างกายมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ที่เขาว่ากันว่าการคลอดลูกของผู้หญิงมันเจ็บปวดที่สุดแล้วเพิ่งจะเข้าใจก็วันนี้นี่แหละ “เฮ้อ…”“เจ็บแผลหรือเปล่าครับพี่”“ไม่หรอก ไม่เจ็บแล้ว” ฉันตอบ พอคลอดเสร็จแล้วพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลสองวันก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วล่ะ เพราะร่างกายมันฟื้นตัวได้เร็วกกว่า ลูกของฉันเองก็แข็งแรงสมบูรณ์ดีเลยกลับบ้านได้พร้อมกับฉันเลย ตอนนี้ก็ได้แม่บ้านกับออสตินคอยดูแลอยู่ฉันเลยได้มีเวลาพักฟื้นตัวเอง เขาไม่ยอมให้ฉันได้หยิบจับอะไรเลยนอกจากนอนดูพวกเขาช่วยกันเลี้ยงลูกนิ่งๆ “คุณหนูน้อยเลี้ยงง่ายจังเลยค่ะ ไม่ร้องงอแงเลย” “ดีแล้วค่ะที่เลี้ยงง่าย ถ้าแกเลี้ยงยากทุกคนคงต้องเหนื่อยเพิ่มกันแน่ๆ เลยค่ะ” “พี่ครับ..ผมพาขึ้นไปพักไหมครับ”“ไม่เป็นอะไรหรอก ให้ฉันได้นั่งรับลมอยู่ข้างล่างนี่แหละ ตอนเย็นๆ ว่าจะไปเดินเล่นสักหน่อย เหมือนจ
ออสติน Talk "จะเข้ามากอดอะไรขนาดนั้น""....." พอพี่น้ำผึ้งพูดผมก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ตอนนี้ผมกำลังเอาหูแนบฟังลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง ถึงแม้ตอนที่ผมเข้ามาสัมผัสแกจะไม่ดิ้นเลยก็เถอะ แต่ผมก็จะรออยู่แบบนี้จนกว่าจะได้เห็นว่าลูกดิ้นเป็นแบบไหน พี่น้ำผึ้งบอกเสมอว่าลูกชอบดิ้นตอนกลางคืนจนทำให้พี่แกนอนไม่ค่อยหลับบวกกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ผมมักจะรอดูว่าลูกจะดิ้นตอนไหนแต่ทุกครั้งก็ต้องเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาแล้ว "พี่หนักท้องไหม?""ก็มีบ้าง ท้องฉันมันโตขึ้นตั้งเยอะ จะบอกไม่หนักเลยก็แปลกสิ" "อืม..." ท้องใหญ่ๆ ของพี่น้ำผึ้งเริ่มมีรอยแตกลาย คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องบางคนที่พอหน้าท้องขยายแล้วก็จะมีรอยแตกแบบนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันน่าเกลียดเลย กลับกันผมรู้สึกสงสารพี่น้ำผึ้งด้วยซ้ำที่ต้องยอมเสียสละร่างกายยอมตัวแตกลายเพื่ออุ้มท้อง ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะเสียเปรียบผู้ชายมันคงจะจริงสินะเพราะผู้ชายไม่สามารถท้องได้ ไม่สามารถเป็นประจำเดือนได้ "ทำไมนายชอบจูบท้องฉันนักล่ะ""จูบเพราะแสดงความรักกับลูกแล้วก็จูบเพราะผมอยากจูบ" ".....""พี่ครับ...ถ้าคลอดลูกคนนี้แล้ว พี่ไม่อยากม
ออสติน Talk "จะเข้ามากอดอะไรขนาดนั้น""....." พอพี่น้ำผึ้งพูดผมก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ตอนนี้ผมกำลังเอาหูแนบฟังลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง ถึงแม้ตอนที่ผมเข้ามาสัมผัสแกจะไม่ดิ้นเลยก็เถอะ แต่ผมก็จะรออยู่แบบนี้จนกว่าจะได้เห็นว่าลูกดิ้นเป็นแบบไหน พี่น้ำผึ้งบอกเสมอว่าลูกชอบดิ้นตอนกลางคืนจนทำให้พี่แกนอนไม่ค่อยหลับบวกกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ผมมักจะรอดูว่าลูกจะดิ้นตอนไหนแต่ทุกครั้งก็ต้องเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาแล้ว "พี่หนักท้องไหม?""ก็มีบ้าง ท้องฉันมันโตขึ้นตั้งเยอะ จะบอกไม่หนักเลยก็แปลกสิ" "อืม..." ท้องใหญ่ๆ ของพี่น้ำผึ้งเริ่มมีรอยแตกลาย คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องบางคนที่พอหน้าท้องขยายแล้วก็จะมีรอยแตกแบบนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันน่าเกลียดเลย กลับกันผมรู้สึกสงสารพี่น้ำผึ้งด้วยซ้ำที่ต้องยอมเสียสละร่างกายยอมตัวแตกลายเพื่ออุ้มท้อง ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะเสียเปรียบผู้ชายมันคงจะจริงสินะเพราะผู้ชายไม่สามารถท้องได้ ไม่สามารถเป็นประจำเดือนได้ "ทำไมนายชอบจูบท้องฉันนักล่ะ""จูบเพราะแสดงความรักกับลูกแล้วก็จูบเพราะผมอยากจูบ" ".....""พี่ครับ...ถ้าคลอดลูกคนนี้แล้ว พี่ไม่อยากม
เวลาต่อมา ออสตินคอยดูแลฉันเป็นอย่างดีไม่ว่าจะลุกจะเดินหรือจะทำอะไรเขาจะเป็นคนจัดการให้ทุกครั้ง ออสตินดูแลฉันอยู่เป็นอาทิตย์หลังจากนั้นเขาก็กลับไปทำงานต่อเพราะเขามั่นใจแล้วว่าอาการแพ้ท้องของฉันมันไม่ได้หนักหนาอะไรและที่บ้านก็ยังมีแม่บ้านคอยอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วย แต่ออสตินก็ยังจะกลับบ้านเร็วกว่าปกติ บางครั้งก็จะกลับมาในช่วงเที่ยงๆ ไม่ได้กลับไปทำงานต่อ ออสตินทั้งทำงานไปด้วยดูแลฉันไปด้วย จนบางครั้งฉันก็แอบห่วงสุขภาพของเขาเหมือนกัน อาการแพ้ท้องของฉันมันไม่ได้หนักหนาอะไร ฉันไม่ได้อาเจียนจนกินอะไรไม่ได้ จะมีก็แค่รู้สึกเวียนหัวบ้างเป็นบางครั้ง ออสตินสั่งห้ามฉันทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะงานเล็กงานน้อย และเขาก็สั่งกำชับกับแม่บ้านเอาไว้อย่างดีเลยด้วย ฉันแอบไม่ได้หรอกเพราะเรื่องนี้แม่บ้านก็เห็นด้วยกับออสตินไม่มีใครเห็นด้วยกับฉันเลย "ผมกลับมาแล้วครับ" "วันนี้กลับเร็วอีกแล้วนะ" "ก็กลับมาดูแลพี่ไงครับ" "นายเองก็พักบ้างสิดูแลแต่ฉัน แต่ตัวนายไม่ได้พักเลยแบบนี้ฉันก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะ" "พี่ไม่ต้องรู้สึกผิดเลยครับ ภรรยาของผมกำลังท้องลูกของผมอยู่สามีอย่างผมก็ต้องดูแลภรรยาอย่างเต็มที่สิครับ""แต่นายก็
ออสติน Talk ตอนเย็นหลังเลิกงาน ผมขับรถกลับมาที่บ้านตามปกติเหมือนอย่างเคย บางวันผมก็ขับรถเอง วันไหนเหนื่อยขี้เกียจขับรถก็จะมีคนขับรถค่อยขับรถไปส่งที่บริษัท แต่วันนี้ผมขับรถกลับมาเอง "พี่ค้าบ..." พอกลับมาถึงสิ่งที่ผมทำอย่างแรกเลยคือการได้อ้อนพี่น้ำผึ้ง ผมชอบเข้าไปกอดเธอหอมแก้มเธอ การได้ทำแบบนี้มันทำให้ผมหายเหนื่อยจากที่ทำงานมาเป็นปลิดทิ้งเลย "วันนี้เหนื่อยไหม""เหนื่อยครับ แต่พอเห็นหน้าพี่แล้วก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ""อ้อนเก่งนักนะนายเนี่ย" "ผมขอชาร์จแบตหน่อย" "หิวหรือยัง กินข้าวก่อนแล้วค่อยขึ้นไปอาบน้ำก็ได้จะได้พักทีเดียวเลย""ครับ" ทุกๆ อย่างมันไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย ผมกลับมาจากที่ทำงานกินข้าวพร้อมกับพี่น้ำผึ้งแล้วก็ขึ้นไปนอนด้วยกัน เราสองคนไม่ได้เที่ยวที่ไหน กลับกันเราใช้ชีวิตดั่งเช่นสามีภรรยาทั่วไปมากกว่า พี่น้ำผึ้งเธอจะคอยทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน ทำอาหารไว้รอผมในทุกๆ วัน มันอาจจะไม่ได้พิเศษอะไรในสายตาของคนอื่นแต่ในสายตาของผมการได้เห็นหน้าพี่น้ำผึ้งในทุกๆ วันได้พูดคุยกับเธอได้บอกรักเธอมันเป็นวันที่แสนพิเศษสำหรับผมมากที่สุดเลย เพราะงั้นผมถึงได้คิดว่าทุกๆ วันที่ผมตื่นมาแล้ว