หน้าหลัก / รักโบราณ / เร้นรักสลับดวงชะตา / บทที่ 2 เรื่องบังเอิญที่สุดประหลาด (1)

แชร์

บทที่ 2 เรื่องบังเอิญที่สุดประหลาด (1)

ผู้เขียน: เทียนสื่อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-25 00:25:54

ปลายยามเว่ย [1] ณ จวนหนิงโหว

“ว่าอย่างไรท่านหมอ ลูกสาวของข้าเมื่อครู่ก็ฟื้นขึ้นแล้ว เหตุใดจึงหลับไปอีก”

“ท่านโหวใจเย็นก่อนเถิดขอรับ เมื่อครู่ข้าน้อยลองจับชีพจรท่านหญิงดูแล้ว นี่เป็นอาการอ่อนเพลียเท่านั้น คือผลข้างเคียงจากการที่ร่างกายไม่อาจปรับตัวได้ทันท่วงทีจึงทำให้ท่านหญิงหมดสติอีกครั้ง”

“แล้วถ้าหากนางหลับไปเป็นปีอีกเล่า จะทำอย่างไร”

หนิงโหวหรือหนิงถงไท่สนทนากับหมอสูงวัยหน้าเคร่งเครียด ความกังวลบนใบหน้าไม่คลายลงแม้แต่น้อย กว่าบุตรีเพียงคนเดียวของเขาจะฟื้นคืนสติมิใช่เรื่องง่าย ยังไม่ทันได้พูดคุยสนทนาประสาพ่อลูกนางก็ชิงหลับใหลไปอีกคราเสียอย่างนั้น 

“ซินเอ๋อร์ ซินเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างลูก ท่านพี่ ท่านพี่เจ้าคะซินเอ๋อร์ฟื้นแล้วเจ้าค่ะ” หนิงเข่อเหรินโพล่งเสียงสั่น ทั้งเป็นห่วงทั้งดีใจในเวลาเดียวกัน 

หนิงถงไท่ไม่รอช้า เขาปรี่เข้าหาภรรยาและลูกเดี๋ยวนั้น “ซินเอ๋อร์ โล่งอกไปที ในที่สุดลูกพ่อก็ฟื้นแล้ว”

นัยน์ตาดอกท้อกลอกมองบุรุษและสตรีวัยกลางคนสลับไปมา ทั้งใบหน้าและรูปร่างของพวกเขาดูภูมิฐานน่าเกรงขาม กระนั้นแววตาคนทั้งสองล้วนเจือไปด้วยความอาทรห่วงใย หลี่เสวี่ยซินรับรู้ได้ถึงกระแสความอบอุ่นหลั่งไหลผ่านช่วงกลางอก 

“ท่านพ่อ ท่านแม่” 

หนิงเข่อเหรินโอบกอดลูกสาวไว้แนบอก “ไม่เป็นไรแล้วนะลูก” 

ชั่วขณะที่หลี่เสวี่ยซินนั้นหมดสติ นางได้ย้อนกลับไปยังเหตุการณ์หนึ่งซึ่งถูกฝังอยู่ใต้จิตสำนึกของหนิงเสวี่ยซิน ครั้นลืมตาตื่นเรื่องราวเหล่านั้นกลับหลอมละลายกลายเป็นหมอกควัน 

หลี่เสวี่ยซินจำเรื่องพวกนั้นไม่ได้ราวกับว่าหนิงเสวี่ยซินพยายามจะลบความทรงจำที่ตรงนี้ออก ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายตั้งใจหลงเหลือเพียงความทรงจำที่สวยงามเอาไว้เท่านั้น และในยามนี้มันได้หลอมรวมเข้ากับความทรงจำเดิมของหลี่เสวี่ยซินโดยสมบูรณ์

ในเวลาเดียวกันหลี่เสวี่ยซินก็ถูกดึงเข้าไปร่วมงานสีดำ ไม่ว่าพยายามพูดคุยอย่างไรก็ไม่มีใครตอบกลับ นั่นเพราะว่าไม่มีใครมองเห็นนางเลย ร่างผอมบางขยับเข้าใกล้โลงไม้ที่แง้มฝาไว้ เคียงข้างกันยังมีแผ่นหลังของชายร่างสูงยืนนิ่งอย่างกับไม่มีจิตวิญญาณ 

หลี่เสวี่ยซินถือวิสาสะมองเข้าไปด้านในโลงไม้ใบนั้น ม่านตากลมโตพลันขยายกว้าง ร่างของหญิงสาวหน้าซีดขาวซึ่งนอนเหยียดยาวภายในโลงศพเป็นนางไม่ผิดแน่ ทว่าสิ่งที่ทำให้หลี่เสวี่ยซินตื่นตะลึงยิ่งกว่ามิใช่ร่างไร้ซึ่งลมหายใจของตน แต่กลับเป็นใบหน้าของชายร่างสูงที่กำลังยืนนิ่งดุจหินผาขนาบข้างตัวนางมากกว่า

สีหน้าและแววตาของชายหนุ่มเย็นชาไร้ความรู้สึก กระบอกตาคมเข้มบวมเป่งแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด ราวกับเขาผ่านการร่ำไห้มาแล้วหลายวัน 

แน่นอนว่าหลี่เสวี่ยซินรู้จักกับเขา เพราะเขาก็คืออดีตสามีนาง ผู้ที่ซึ่งหยามน้ำใจนางโดยการพาหญิงอื่นเข้าบ้าน เดิมทีเขาควรต้องยิ้มยินดีถึงจะถูกต้องมิใช่หรือ เหตุไฉนชายหนุ่มจึงเอาแต่ปั้นหน้าเสียใจดุจฟ้ากำลังถล่ม

หลี่เสวี่ยซินเลือกเบือนหน้าหนีจากชายร่างสูง ภาพฝันเหล่านี้เรื่องจริงก็ดี หรือปั้นแต่งก็ช่าง นางจะขอเดินต่อไปข้างหน้าโดยไร้พันธะ ไร้ความเจ็บปวด อดีตที่เคยสร้างร่วมกันมาขอให้มันจบลงเพียงภพชาตินี้ 

หลี่เสวี่ยซินสะบั้นด้ายแดงเส้นสุดท้ายทิ้ง นางเดินต่อไปเชื่องช้าโดยไร้จุดหมาย หลี่เสวี่ยซินผู้อ่อนแอได้ตายไปแล้ว ในยามนี้สถานะของนางก็คือท่านหญิงผู้สูงสง่า เป็นบุตรีที่หนิงโหวรักถนอม นับจากนี้ไปผู้ใดก็อย่าหมายรังแกนางโดยง่ายดายอีก ถ้าเผยหางออกมาเมื่อใด หลี่เสวี่ยซินสัญญาจะใช้ความสูงส่งเหยียบหน้าพวกคนหยาบช้าให้ต่ำต้อยยิ่งกว่าเศษธุลี 

“ซินเอ๋อร์”

“…”

“ซินเอ๋อร์”

“…”

“ซินเอ๋อร์”

หลี่เสวี่ยซินหลุดจากภวังค์ ริมฝีปากซีดขาวขยับยกเป็นรอยยิ้ม “ท่านแม่ ท่านพ่อ ลูกดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้แค่รู้สึกอ่อนเพลียเท่านั้น”

หนิงถงไท่ถอนหายใจโล่งอก “ดี เช่นนั้นเจ้าก็อย่าทำพวกเราตกใจอีก หมอเร็วเข้าตรวจอาการลูกข้าอีกครั้ง หนนี้ต้องเอาให้ละเอียด ต้องจัดยาบำรุงที่ดีที่สุดให้นางด้วย”

“ขอรับ”

ความรักและความพรั่งพร้อมของคนในครอบครัวสกุลหนิงมีมากจนล้น ความผูกพันหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณของหลี่เสวี่ยซินไปโดยสมบูรณ์ นางกลายเป็นหนิงเสวี่ยซินแล้วจริง ๆ หนำซ้ำความทรงจำเดิมของตนก็มิได้เลือนหาย 

‘นี่คงเป็นความรู้สึกของนางที่มีต่อบุพการี แล้วเหตุใดหนิงเสวี่ยซินผู้นี้จึงยกสถานะและร่างกายให้กับข้า เกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่’

หลี่เสวี่ยซินใคร่ครวญจนท้อ นางไม่อาจเข้าใจเจตนาแท้จริงของหนิงเสวี่ยซินได้เลย ในโลกใบนี้จะมีผู้ใดยอมละทิ้งชีวิตสวยหรูไปได้ นั่นมันเรื่องตลกร้ายชัด ๆ 

‘นางคงมิได้โยนเผือกร้อน [2] เพื่อหลอกให้ข้ามาตามสะสางต่อกระมัง’ หลี่เสวี่ยซินนึกได้เช่นนั้นก็ขนลุกเกรียว 

“ซินเอ๋อร์เป็นอะไรไปลูก” หนิงเข่อเหรินเอ่ยด้วยความห่วงใย

“เปล่าเจ้าค่ะ ลูกอยากพักอีกหน่อยจะได้หรือไม่”

“ได้สิ เช่นนั้นก็พักให้มาก ๆ แล้วอย่าลืมไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง”

“เจ้าค่ะ” หลี่เสวี่ยซินยิ้มไปจนถึงดวงตา 

เรื่องราวและบรรยากาศโดยรอบดั่งถูกจารึกเอาไว้ในโซนสมอง หลี่เสวี่ยซินไม่ได้อึดอัด ตรงกันข้ามนางกลับเห็นพวกเขาประหนึ่งครอบครัวที่แท้จริง 

“โอ๊ะ!” หนิงเสวี่ยซินขมวดคิ้วแน่นพลางยกมือกุมอกซ้าย 

‘เกิดอะไรขึ้น!?’

เชิงอรรถ

[marker-1-1] ยามเว่ย" (未时) ในการนับเวลาแบบจีนโบราณ หมายถึง ช่วงเวลา 13:00 น. ถึง 14:59 น. หรือก็คือช่วงบ่ายสองโมงถึงบ่ายสามโมงของเวลาปัจจุบัน

[marker-2-1] "เผือกร้อน" มาจากสำนวนภาษาอังกฤษ "hot potato" ซึ่งมีความหมายเดียวกัน คือ ปัญหาหรือสถานการณ์ที่ยุ่งยากและไม่มีใครอยากรับผิดชอบ

[marker-3-1]  

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เร้นรักสลับดวงชะตา   บทที่ 29 กำยานผสานจิต

    “มากันจนได้สินะ” เสียงเล็กสั่นเครือแว่วมาตามสายลม บ่งบอกได้ว่าคนผู้นี้เป็นสตรี และอายุของนางคงไม่น้อยแล้วชายหนุ่มทั้งสองชะงัก ลั่วเทียนเฉินลดมือลงแช่มช้า เขาแตะกระบี่ข้างกายเอาไว้อย่างระแวดระวัง ตลาดมืดแห่งนี้มีเรื่องราวเร้นลับมากมายที่ยากคาดเดา ไม่ว่าจะด้วยการตบตาก็ดี หรือเรื่องจริงก็ช่าง อย่างไรเสียก็นับว่าเป็นสถานที่ไร้ซึ่งกฎหมายในการปกครองลั่วเทียนเฉินจำใจตอบรับการร่วมเดินทางจากสหายอีกหนึ่งเพราะไม่อยากเสียเวลา คนผู้นั้นจะเป็นใครไปเสียอีกหากไม่ใช่ฮั่วเหวินหลงฝ่ามือกว้างยื่นแตะลงบนหลังมือของลั่วเทียนเฉิน นัยน์ตาคมกริบตวัดมองเข้ม ก่อนอีกฝ่ายจะชักมือกลับพลางยิ้มยียวนฮั่วเหวินหลงกระซิบ “ใจเย็นหน่อย”สายตาดุจมีดดาบของลั่วเทียนเฉินทำให้ฮั่วเหวินหลงต้องเร่งถอยห่าง “หากท่านเคยมาก็คงรู้กฎของที่นี่ แม้ไม่อยู่ภายใต้การปกครองตามหลักมนุษยธรรม แต่ก็มิได้สนับสนุนการนองเลือด”ลั่วเทียนเฉินแค่นยิ้ม “ดูเหมือนใต้เท้าฮั่วชำนาญมากทีเดียว คงมาเยือนสถานที่ประหลาดนี้บ่อยสิท่า”“เกรงว่าคงไม่น้อยไปกว่าท่าน ว่าหรือไม่”“ฮ่า ฮ่า ผู้มีวา

  • เร้นรักสลับดวงชะตา   บทที่ 28 สองคนเพื่อนตาย (2)

    ซวี่หนิงพยักหน้าทิ้งความเคืองขุ่นลงชั่วขณะ “ก็เวลาที่ซินซินตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก ใต้เท้าลั่วคนนี้มาช่วยนางไว้ได้ตลอด ข้าว่าพวกเขาจะต้องมีบุพเพต่อกันเป็นแน่”ฮั่วเหวินหลงเงียบ เขากำลังไตร่ตรอง และพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวทุกอย่าง ซวี่หนิงเห็นเขาไร้ปฏิกิริยาก็คิดว่าฮั่วเหวินหลงไม่อาจตัดใจจากสหายตนได้นางเอนตัวลงนอน แสร้งถอนหายใจดัง “เคยได้ยินคำนี้หรือไม่ มาก่อนมาหลังไม่สำคัญ อยู่ที่ว่าคนในใจนั้นคือใคร ท่านก็อย่าคิดมากเลย ถอนหมั้นได้ก็หมั้นใหม่ได้”เสียงของซวี่หนิงประหนึ่งลมสายหนึ่งสำหรับเขา มันดังลอดเข้าหูซ้ายและทะลุผ่านหูขวา สิ่งที่ฮั่วเหวินหลงสนใจในตอนนี้คือ วันที่ลั่วเทียนเฉินเข้าไปพบหนิงโหวต่างหาก“หรือว่าเขาจะเป็นคนของหนิงโหวแล้ว” ฮั่วเหวินหลงพึมพำ“ท่านว่าอะไรนะ” ซวี่หนิงได้ยินอีกฝ่ายใจลอยทั้งยังขมุบขมิบอยู่ผู้เดียวจึงเอ่ยถาม ดูเหมือนฮั่วเหวินหลงกำลังจิตใจปั่นป่วนดุจถูกมะนาวสดบีบใส่บาดแผลแต่นั่นจะสำคัญอะไร นางเองก็เคยเจ็บช้ำเพราะคนตรงหน้ามิใช่หรือ ให้เขาได้เรียนรู้ความเจ็บปวดสักหน่อยจะได้รู้รสชาติ “ชิ เช่นนั้นข้าว่าข้ากลับจวนดีกว่า”

  • เร้นรักสลับดวงชะตา   บทที่ 28 สองคนเพื่อนตาย (1)

    “ซินซิน!”ซวี่หนิงเบิกตาโพลง ลมหายใจหนักหน่วงถี่กระชั้น “ข้าอยู่ที่ไหน?”ขมับทั้งสองข้างกำลังแข่งกันเต้นรัวไม่หยุด ไม่ทันขยับยกมือขวาขึ้น ก็ต้องพบกับความประหลาดใจระลอกใหญ่เจ้าของใบหน้าเกลี้ยงเกลาดั่งหยกเนื้อละเอียดกำลังฟุบหลับอยู่ไม่ห่าง หนำซ้ำมือของนางยังถูกเขากุมเอาไว้จนแน่น“ฮั่วเหวินหลง เขามาอยู่นี่ได้อย่างไร” ซวี่หนิงคิดทบทวนย้อนกลับไปไม่กี่ชั่วยามก่อน ไม่นานก็เข้าใจสถานการณ์ชัดขึ้น“เช่นนั้นซินซินเล่า นางจะเป็นอย่างไรบ้าง” ซวี่หนิงค่อย ๆ เลื่อนมือของตนออกจากการเกาะกุม มือเนียนนุ่มจับปลายนิ้วเรียวแข็งกระด้างยกออกทีละนิ้ว กว่าจะสลัดออกได้ก็ทำเอาหอบหญิงสาวย่องเบาลงจากเตียง ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บที่ขาเป็นเหตุให้ร่างระหงทรุดฮวบลงบนพื้น “โอ๊ย”เสียงโอดครวญเมื่อครู่สะท้อนเข้าหูฮั่วเหวินหลงจนปลายนิ้วขยับ ครั้นไม่เห็นว่าชายหนุ่มตกใจตื่น ซวี่หนิงจึงผ่อนหายใจโล่งอก จากนั้นพยุงร่างเดินขากะเผลกห่างออกมา ไม่ทันก้าวข้ามกรอบประตูเสียงทุ้มพลันกระแอมขัด“จะไปไหน”ซวี่หนิงตกใจจนตัวแข็ง“เดินแทบไม่ไหวก็ยังดื้ออีก เจ

  • เร้นรักสลับดวงชะตา   บทที่ 27 ตอกตะปูปิดฝาโลง (2)

    หลี่เสวี่ยซินเข้าใจเจตนาของเขา การต่อต้านจึงยุติ ลั่วเทียนเฉินตั้งใจล้างมือให้นางต่อไปเงียบเชียบมีเพียงเสียงจากฝนที่ทำให้จิตใจของคนทั้งสองไหวสะท้าน หลี่เสวี่ยซินสลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้ง“ท่านทำเช่นนี้ฮูหยินของท่านอาจไม่พอใจ”ลั่วเทียนเฉินขบขัน นัยน์ตาคมกริบช้อนขึ้นมองตอบ “หากเป็นท่านหญิงนางอาจจะไม่ว่าก็ได้ ว่าหรือไม่”หลี่เสวี่ยซินอึ้งงัน เมื่อครู่นางเห็นบางอย่างฉายวาบอยู่ในประกายตาของเขา มือเรียวชักกลับทันควัน “ไม่ต้องล้างแล้ว ข้าดีขึ้นมากแล้ว”ลั่วเทียนเฉินมองมือและลำคอระหงที่ยังแดงก่ำ มุมปากของเขาขยับเล็กน้อย “รับไปสิ”ชายหนุ่มยื่นขวดกระเบื้องเคลือบขนาดเล็กและถุงน้ำสะอาดส่งให้หลี่เสวี่ยซินเฉไฉ “ข้าหายแล้ว ไม่จำเป็น”“จะทำเอง หรือจะให้ข้าทำให้”หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เร่งคว้าของจากมือชายหนุ่มทันควัน ครั้นหลุบตามองขวดกระเบื้องเคลือบในมือ แววตาของนางพลันระริกไหวอย่างเห็นได้ชัด แม้เกิดขึ้นเพียงพริบตา ทว่าลั่วเทียนเฉินกลับเห็นอย่างชัดเจน“ยาแก้แพ้หรือ เหตุใดท่านถึงยังพกยาแก้แพ้เอาไว้”“พูดราวกับรู้ว่าเ

  • เร้นรักสลับดวงชะตา   บทที่ 27 ตอกตะปูปิดฝาโลง (1)

    หลี่เสวี่ยซินถอนสายตากลับ มือที่ชะงักเมื่อครู่ขยับต่อ นางทำราวกับว่าคำพูดที่หลุดออกจากปากของลั่วเทียนเฉินไม่มีสิ่งใดแอบแฝง แท้จริงหลี่เสวี่ยซินกำลังเก็บอาการตระหนกตื่นซึ่งผุดขึ้นภายในใจ“แน่นอนว่าข้าก็คือซินซิน ซินซินเป็นนามรองของข้า”มือเรียวหยิบแพรพกออกมา จากนั้นก็ใช้มันพันแผลเพื่อห้ามเลือดให้เขา ลั่วเทียนเฉินมิได้ละสายตาจากนาง เขาจับจ้ององคาพยพของหญิงสาวต่อไปเงียบ ๆใบหน้างามแหงนขึ้นแช่มช้าเพราะสัมผัสถึงความเงียบที่ผิดปกติ “หน้าข้ามีสิ่งใดติดหรือ หรือว่าใต้เท้าลั่วอยากให้ข้าเป็นใคร”ริมฝีปากได้รูปกระตุกเล็กน้อย ลั่วเทียนเฉินแสร้งทอดถอนใจ “ข้าคงคิดมากไปเองจริง ๆ ท่านหญิงก็แค่คล้ายคนที่ข้ารู้จัก”“อ้อ…เช่นนี้เอง ท่านอย่าฟุ้งซ่านเกินไปจะดีกว่า ไม่รู้ว่าแส้ของเขาอาบยาพิษไว้หรือไม่”ลั่วเทียนเฉินพยักหน้า เขามองแพรพกซึ่งถูกผูกปมเอาไว้ด้วยดวงตาเป็นประกาย นอกจากฝีเข็มที่คุ้นตาแล้วการผูกผ้ายังคล้ายกันไม่ผิดเพี้ยน“ตะวันจะลับขอบฟ้าแล้ว หากไม่รีบกลับท่านหญิงจะเสียหาย ดูท่ามือของข้าเจ็บเอาการ มิทราบท่านหญิงจะช่วยควบม้าแทนข้าได้หรือไม่”

  • เร้นรักสลับดวงชะตา   บทที่ 26 ท่ามกลางห้วงแห่งกาลเวลา

    หลี่เสวี่ยซินที่แสร้งเชื่อฟังยอมกลับเข้าไปด้านในรถม้าแต่โดยดี หญิงสาวหันรีหันขวางก่อนจะปลดถุงหอมออกมาจากข้างเอวตน เพราะเมื่อก่อนมักถูกรังแกอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นด้านในถุงหอมของนางจึงมักใส่ปิงเพี่ยน [1] ห่อด้วยกระดาษอย่างหนาเพื่อป้องกันการระเหยเอาไว้ด้วยระหว่างที่รถม้ายังเคลื่อนตัวก็ปลดสร้อยลูกปัดออกมาโปรยเอาไว้ตามรายทางเป็นระยะ แม้เบื้องหลังนั้นไร้ร่องรอยการติดตามแล้ว ทว่าการไม่ทำอะไรเลยมิเท่ากับตัดพ้อให้ชีวิตหรือครั้งนี้หลี่เสวี่ยซินไม่มีทางยอมแพ้ต่อโชคชะตาเด็ดขาด ถึงไม่รู้ว่าการแบกรับหน้าที่บุตรีเพียงคนเดียวของหนิงโหวดุจใช้มือต้านพายุลูกใหญ่หรือไม่ ทว่าหลี่เสวี่ยซินก็จะฝืนตั้งรับอย่างสุดกำลังดูเหมือนว่ารถม้าจะเริ่มชะลอตัวแล้ว คนผู้นี้ใจกล้าวรยุทธ์เลิศล้ำ เขาลงมือผู้เดียวได้อย่างเฉียบขาด กระนั้นขอเพียงนางซื้อเวลาเพิ่มมาอีกหน่อย บางทีอาจมีใครโผล่มาช่วยก็เป็นได้หลี่เสวี่ยซินใช้จังหวะนี้ออกมาจากด้านใน เสียงเคลื่อนไหวของนางทำให้เขารู้ตัว ชายร่างสูงลุกพรวด คว้าแขนเล็กเอาไว้แน่น“คิดทำอะไร”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status