แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: จิ้งจอกเหลวไหล
ผู้หญิงคนนั้นโน้มตัวมาด้านหน้ากะทันหัน พริบตานั้นร่องอกที่น่าหลงใหลก็ปรากฏสู่สายตาของเยี่ยชิว...

ราวกับจะกระแทกหน้าเขา!

เดิมทีกระดุมอกเสื้อของผู้หญิงคนนั้นก็ต่ำอยู่แล้ว ตอนนี้จงใจโน้มตัวลงมาก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจน นี่เป็นการจงใจยั่วยวนเยี่ยชิวชัดๆ เลย

สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น คือผู้หญิงคนนั้นใช้ฟันขบกัดริมฝีปากล่าง จ้องเยี่ยชิวด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม ราวกับกำลังชักชวนว่า ‘หนุ่มน้อย รีบมาเล่นสนุกด้วยกันสิ’

พริบตานั้น เยี่ยชิวก็ใบหน้าแดงก่ำ

เขายังเป็นชายหนุ่มที่อ่อนต่อโลกอยู่ ไหนเลยจะเคยพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอับอายมากที่สุดคือ ร่างกายของเขาดันมีปฏิกิริยาตอบสนองนี่สิ

เยี่ยชิวกำลังคิดว่าควรจะปกปิดความกระอักกระอ่วนนี้อย่างไรดี ผู้หญิงคนนั้นก็เอ่ยถามขึ้นมาว่า

“หนุ่มน้อย ตอนนี้รู้หรือยังว่าตรงไหนของพี่สาวสวยมากที่สุด?”

เสียงของเธอหวานละมุน ยามที่ได้ยินแบบนั้นแล้วชวนให้คนรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตแบบแปลกๆ จนขนลุกไปทั้งตัว

ปีศาจจิ้งจอกตนนี้ ช่างรับมือยากมากเหลือเกิน

เยี่ยชิวหันหลังวิ่งออกจากห้องผู้ป่วย

“อย่าเพิ่งไปสิหนุ่มน้อย ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนายอีกเยอะเลยนะ ฮ่าๆ ๆ....” ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะออกมาเสียงดัง

โถงทางเดิน

เยี่ยชิวเอามือลูบหน้าตัวเองและพบว่ามันร้อนมาก อดด่าตัวเองในใจไม่ได้ว่า ‘แกมันไอ้ไก่อ่อนจริงๆ เป็นผู้ชายอกสามศอกแต่กลับกลัวผู้หญิงคนหนึ่งจนต้องวิ่งหนี น่าอับอายขายหน้าชะมัด’

แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนั้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือรูปร่างก็ล้วนแล้วแต่สุดยอดทั้งนั้น

อย่างน้อย ในบรรดาผู้หญิงทั้งหมดที่เยี่ยชิวเคยพบเจอมา คงมีแต่ไป๋ปิงที่พอจะสูสีกับเธอได้

เพียงแต่ไป๋ปิงชอบทำหน้าเย็นชานิ่งเฉยตลอดเวลา ราวกับก้อนน้ำแข็งเคลื่อนที่ได้ ไม่ค่อยมีใครเข้าหาเธอได้ ส่วนผู้หญิงคนนี้กลับมีลักษณะนิสัยตรงกันข้ามกับไป๋ปิง มีเสน่ห์น่าค้นหา กระตือรือร้นและเข้ากับคนง่าย แค่ตวัดสายตามองมาครั้งเดียวก็ทำคนแข้งขาอ่อนได้แล้ว เป็นจุดตายของผู้ชายทั้งหลายเลยล่ะ

เยี่ยชิวสูดหายใจเข้าลึกๆ อยู่สักพัก พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองลง

เขากำลังคิดแผนการรับมือ

เยี่ยชิวตระหนักดีว่าถ้าเขารับมือกับผู้ป่วยคนนี้ไม่ได้ ตอนที่กลับไปยืนประจำจุดผู้ช่วยพยาบาล หัวหน้าพยาบาลจะต้องหาเหตุผลมาขับไล่เขาออกจากแผนกผู้ช่วยพยาบาลแน่ ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็จะไม่เหลือโอกาสได้กลับตัวอีก

ดังนั้น เขาจะต้องกลับเข้าไปในห้องผู้ป่วยคนนั้นอีกครั้ง แล้วยังต้องได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้หญิงคนนั้นด้วย

ควรจะทำยังไงดีนะ?

เยี่ยชิวแอบปวดหัวเล็กน้อย เรื่องแบบนี้เขาไม่มีประสบการณ์เลยสักนิด

“ช่างมันเถอะ เข้าไปก่อนค่อยคิดทีหลัง”

เยี่ยชิวบากหน้าเดินกลับเข้าไปในห้องผู้ป่วย

“อ้าว ทำไมนายกลับเข้ามาอีกแล้วล่ะ?” ผู้หญิงคนนั้นเห็นเยี่ยชิวเดินเข้ามา ดวงตาคู่สวยก็ฉายแววประหลาดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยท่าทางเย้ายวนว่า “เมื่อกี๊ยังดูไม่เต็มตาเหรอ?”

ซ่า——

ใบหน้าของเยี่ยชิวแดงก่ำอย่างห้ามไม่อยู่

“อุ้ยตาย แค่นี้ก็เขินแล้วเหรอ บอกมาสิว่าอยากดูอะไร เดี๋ยวพี่สาวจะเปิดให้นายดูเอง”

เยี่ยชิวมองผู้หญิงตรงหน้าแวบหนึ่งแล้วบอกว่า “ผมอยากดูขาของคุณครับ”

“ไม่เบานี่เจ้าเด็กตัวแสบ เห็นท่าทางใส่ซื่อแบบนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะลามกขนาดนี้ อยากจะเห็นเรียวขาของฉันงั้นเหรอ น่าอายชะมัดเลย!” ผู้หญิงคนนั้นทำเสียงเล็กเสียงน้อย เสแสร้งทำเป็นเขินอาย

เยี่ยชิวรีบแก้ตัวอย่างทันควัน “คุณผู้หญิงท่านนี้ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิครับ ผมแค่อยากจะดูแผลที่ขาของคุณเท่านั้น”

ผู้หญิงคนนั้นชะงัก “นายไม่ได้อยากดูขาของฉันเหรอ?”

“ไม่ใช่ครับ” เยี่ยชิวปฏิเสธ

ผู้หญิงคนนั้นจ้องเยี่ยชิวสักพัก ก่อนจะคลี่ยิ้มหวาน “หนุ่มน้อย นายไม่จริงใจเอาเสียเลยนะ!”

“ผมเป็นผู้ช่วยพยาบาล หน้าที่ของผมคือการตรวจบาดแผลของคุณ ถ้ามันจำเป็นผมก็ต้องช่วยคุณทำแผลใหม่ด้วย” เยี่ยชิวตอบด้วยท่าทางจริงจัง

“ก็ได้!” ผู้หญิงคนนั้นพลิกผ้าห่มออก เผยให้เห็นขาข้างขวาที่บริเวณน่องมีผ้าพันแผลปิดอยู่

เยี่ยชิวเดินเข้าไปข้างเตียงผู้ป่วยแล้วย่อตัวลง แกะผ้าพันแผลบนขาของผู้หญิงคนนั้นอย่างระมัดระวังแล้วตรวจดูบาดแผล

แผลนั้นยาวเกือบสิบเซนติเมตร มีรอยเย็บปิดแผลเรียงกันหนาแน่นราวกับขาของตะขาบ แลดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก

สวรรค์ริษยาคนงามสินะ!

เยี่ยชิวรู้สึกอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันควัน ผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวยถึงเพียงนี้ กลับต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ สวรรค์นี่ตาบอดโดยแท้

“แผลเกิดจากอะไรครับ?” เยี่ยชิวถามเบาๆ

“อุบัติเหตุทางรถยนต์น่ะ กระดูกหัก” ผู้หญิงคนนั้นตอบ “คิดว่าจะรออีกสักสองสามวัน ค่อยผ่าตัดอีกรอบ”

“ผ่าตัดมาแล้วไม่ใช่เหรอครับ ทำไมยังต้องผ่าตัดซ้ำอีกรอบด้วยล่ะ?” เยี่ยชิวเกิดสงสัยขึ้นมา จากประสบการณ์เป็นแพทย์ของเขา สถานการณ์ของผู้หญิงคนนี้ไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดซ้ำสักนิด

“ฉันเป็นคนรักสวยรักงามน่ะ ไม่อยากให้มีรอยแผลเป็น” ผู้หญิงคนนั้นตอบยิ้มๆ

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง

“แพทย์เจ้าของไข้บอกว่า แผลของฉันค่อนข้างใหญ่ การผ่าตัดครั้งที่สองเพื่อลบรอยแผลเป็นออกนั้นยากมาก ตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี ถ้าหากลบรอยแผลเป็นออกไม่ได้ ชั่วชีวิตนี้ฉันก็จะสวมกระโปรงสั้นไม่ได้อีกแล้ว น่าเศร้าจะตายไป”

สิ้นเสียงของผู้หญิงคนนั้น ก็เห็นหมอผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก ด้านหลังมีแพทย์ฝึกหัดติดตามมาจำนวนหนึ่ง

“คุณหลินครับ วันนี้อาการเป็นยังไงบ้างครับ?” แพทย์ชายคนดังกล่าวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร

“ก็โอเคดีค่ะ หมอหวังคะ คุณหาทางลบรอยแผลเป็นของฉันได้หรือยังคะ?” ผู้หญิงคนนั้นรีบสอบถาม

“คุณหลินครับ เกรงว่าผมจะทำให้คุณผิดหวังแล้ว” แพทย์ชายคนนั้นหุบยิ้ม เอ่ยด้วยน้ำเสียงเสียดายว่า “ผมไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแล้ว ดูเหมือนในกรณีของคุณแล้ว หากคิดจะลบรอยแผลเป็นทั้งหมดให้หายไปคงจะเป็นไปไม่ได้ ต่อให้ทำการผ่าตัดปิดผิวหนังอีกครั้ง รอยแผลเป็นก็ไม่หายไปแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่ดี”

“ไม่มีวิธีแล้วจริงๆ เหรอคะ?” ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมแพ้ เธอเอ่ยขอร้องว่า “หมอหวังคะ ขอแค่คุณสามารถลบรอยแผลเป็นให้ฉันได้ ไม่ว่ากี่บาทฉันก็พร้อมจ่ายทั้งนั้น”

“คุณหลินครับ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เงินหรอกครับ แต่เทคโนโลยีและทักษะการแพทย์ของโรงพยาบาลเราตอนนี้ ไม่สามารถทำตามคำขอของคุณได้จริงๆ”

ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกหมดหวังอย่างมาก

สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว หากตามร่างกายมีรอยแผลเป็นที่เห็นชัดมากสักแห่งหนึ่ง ก็เท่ากับว่ามีจุดด่างพร้อยในชีวิตเพิ่มมาหนึ่งอย่าง เป็นความงามที่ไม่สมบูรณ์แบบ ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็นคนที่รักสวยรักงามมากด้วย

ไม่รู้ทำไมพอเห็นท่าทางผิดหวังของเธอ เยี่ยชิวก็เกิดรู้สึกสงสารเธอขึ้นมา จึงเผลอหลุดปากออกไปแบบไม่รู้ตัวว่า “ความจริงแล้วมันก็พอจะมีวิธีอยู่นะ”

พอได้ยินแบบนั้น สายตาของทุกคนก็หันมามองเยี่ยชิวเป็นตาเดียวกัน

หมอหวังมองเยี่ยชิวอย่างพิจารณาก่อนจะถามว่า “นายเป็นใคร?”

“ผมคือ...”

เยี่ยชิวกำลังจะแนะนำตัวเอง แต่กลับถูกแพทย์ฝึกหัดที่อยู่ด้านหลังหมอหวังชิงตอบเสียก่อน “คุณหมอหวัง เขาคือเยี่ยชิว เป็นผู้ช่วยพยาบาล”

“ผู้ช่วยพยาบาล?” หมอหวังขมวดคิ้วแน่น ถามเยี่ยชิวว่า “ที่นายพูดเมื่อกี๊นี้หมายความว่ายังไง?”

เยี่ยชิวรีบอธิบายว่า “หมอหวังครับ ที่จริงแล้วกรณีของคุณหลิน อาจจะยังพอมีทางออกก็ได้ครับ”

หมอหวังได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม ถามต่อว่า “นายพูดแบบนี้ แปลว่ามีวิธีอย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่ครับ” เยี่ยชิวพยักหน้า

“วิธีการแบบไหนล่ะ?”

“ใช้คัมภีร์คาถาเหมาซาน”

“เหลวไหล!” หมอหวังหน้าบึ้งตึงทันที เขาตวาดเสียงดัง “นี่มันยุคสมัยไหนกันแล้ว นายยังพูดถึงเรื่องงมงายพรรค์นั้นอยู่อีก ไม่อยากทำงานในโรงพยาบาลแล้วหรือไง?”

หมอหวังคุณฟังที่ผมพูดก่อนครับ คัมภีร์คาถาเหมาซานไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่เป็นศาสตร์ที่ลึกซึ่งอย่างยิ่งแขนงหนึ่ง มันสามารถลบรอยแผลเป็นของคุณหลินได้...”

“ออกไป!” เยี่ยชิวยังพูดไม่ทันจบก็ถูกหมอหวังตะคอกใส่ด้วยความโกรธ “ถ้ายังกล้าพูดจาไร้สาระอีก ฉันจะไล่นายออกจากแผนกผู้ช่วยพยาบาลทันที!”

ทำไมถึงไม่มีใครเชื่อว่าเขาพูดเรื่องจริงกันนะ?

เยี่ยชิวอยากจะอธิบายต่อ แต่พอเห็นว่าสีหน้าของหมอหวังไม่ค่อยจะดีนัก จึงถอนหายใจเบาๆ แล้วเตรียมจะเดินออกจากห้องไป ทว่าตอนนั้นเอง——

“เดี๋ยวก่อน!”

ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยปากรั้งเขาไว้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 40

    เจียงโจวมีภูเขาที่มีชื่อเสียงสองลูก หนึ่งในนั้นคือภูเขาเมฆหมอกที่เต็มไปด้วยคนมีอำนาจและร่ำรวย อีกลูกหนึ่งคือภูเขาหนานซานที่รกร้างไร้ผู้คนขณะนี้บนยอดเขาหนานซาน ลูกน้องของจ้าวอวิ๋นกำลังใช้พลั่วขุดหลุมอย่างแข็งขันขณะที่เหลยหู่ ถูกมัดอย่างแน่นหนา คุกเข่าอยู่ต่อหน้าเยี่ยชิวเพื่ออ้อนวอนขอความเมตตา"คุณเยี่ย ได้โปรดอย่าฆ่าผมเลยครับ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของกัวเส้าชง กัวเส้าชงบอกว่าถ้าผมฆ่าคุณกับแม่ของคุณได้ เขาจะให้ผมห้าล้านบาท"แม้ว่าเหลยหู่จะตัวใหญ่ล่ำสัน มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า ดูเหมือนคนดุร้ายใจเหี้ยม แต่ตอนนี้เขากลัวจนตัวสั่นระริก"เขาบอกให้แกฆ่าคน แกก็ฆ่า ถ้าเขาบอกให้แกกินขี้ แกก็จะกินใช่ไหม?" เยี่ยชิวพูดด้วยสีหน้าเย็นชา"คุณเยี่ย ถ้าคุณปล่อยผมไป ตั้งแต่นี้ต่อไป ผมจะรับใช้คุณเหมือนวัวเหมือนม้า ไม่สิ ผมจะเป็นหมาของคุณก็ได้ โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง..." เหลยหู่ถึงกับเลียนเสียงหมาเห่า"อยากเป็นหมาของฉัน แกยังไม่มีคุณสมบัติพอ" เยี่ยชิวตัดสินใจขุดรากถอนโคนเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาภายหลัง"คุณเยี่ย คุณใช้ชีวิตอยู่กับแม่เพียงลำพัง แม่ของคุณก็รักคุณมาก คุณเคยคิดถึงใจเธอบ้างไหม? ถ้าคุณฆ่าผม คุณก

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 39

    ตอนนั้นเยี่ยชิวไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ไม่คิดว่ากัวเส้าชงจะลงมือรวดเร็วขนาดนี้ เพื่อจะฆ่าตนเอง นอกจากจะเรียกพวกนักเลงมาแล้ว ยังลักพาตัวแม่เขามาอีกเยี่ยชิวหันไปมองเฉียนจิ้งหลันแวบหนึ่ง เฉียนจิ้งหลันเอ่ยทั้งน้ำตา “ชิวเอ๋อร์ สัญญากับแม่ อย่าฆ่าคนนะลูก อย่าทำเรื่องผิดกฎหมายได้ไหมลูก?”“ได้” เยี่ยชิวยอมปล่อยมือเหลยหู่เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ เขาล้มไปนอนกองกับพื้นเยี่ยชิวช่วยแกะเชือกที่มัดมือมัดเท้าของเฉียนจิ้งหลันออก ก่อนจะช่วยจัดทรงผมให้เฉียนจิ้งหลันเล็กน้อย บอกด้วยความรู้สึกผิดว่า “แม่ครับ เป็นความผิดของผมเอง แม่ต้องพลอยติดร่างแหมาด้วย”“แม่ไม่เป็นไร” เฉียนจิ้งหลันลุกขึ้นยืนโดยมีเยี่ยชิวช่วยประคองตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าอันเร่งรีบจำนวนหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอกสองวินาทีต่อมา จ้าวอวิ๋นก็ปรากฏตัวจ้าวอวิ๋นสวมชุดดำทั้งตัว ใบหน้าเคร่งขรึมดุดัน ด้านหลังของเขามีผู้ชายร่างกายบึกบึนติดตามมาสี่คนเมื่อเห็นว่าเยี่ยชิวกับเฉียนจิ้งหลันปลอดภัยดี จ้าวอวิ๋นก็พรูลมหายใจอย่างโล่งอกจากนั้น เขาก็กวาดตามองสถานการณ์โดยรอบเมื่อเห็นว่ามีคนนอนสลบเกลื่อนพื้นอยู่สิบกว่าคน จ้าวอวิ๋นก็มีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด เขา

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 38

    เยี่ยชิวมองเหลยหู่ด้วยสายตาเย็นเยียบ ถามอย่างไร้ความปรานี“บอกมา แกอยากตายยังไง?”นับตั้งแต่วินาทีที่เหล่ยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลัน เยี่ยชิวก็คิดจะฆ่าเขาทิ้งนานแล้วเหล่ยหู่รู้สึกหวาดกลัวเยี่ยชิวจับใจ แต่ยังทำเป็นปากแข็ง เขากล่าวอย่างชั่วร้ายว่า “ไอ้เด็กเวร แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”“ไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย” เยี่ยชิวตอบ “กล้าแตะต้องแม่ฉัน จุดจบมีเพียงอย่างเดียว คือตาย”“แกจะฆ่าฉันเหรอ?” เหลยหู่หัวเราะขึ้นมาเสียอย่างนั้น “อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ การฆ่าคนเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ?”เพี๊ยะ!เยี่ยชิวปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเหลยหู่ราวกับภูตผี ก่อนจะตบหน้าเหลยหู่อย่างแรงเหลยหู่ถึงกับตัวแข็งทื่อ เขายังไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะถูกตบหน้า อีกทั้งคนที่ตบเขายังเป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพื้นเพอะไรเลยด้วย!นี่มันเป็นเรื่องที่...น่าอับอายขายหน้าที่สุด!โกรธ! เขาเดือดดาลมาก!เหลยหู่รู้สึกว่าในอกของเขามีเพลิงโทสะกำลังลุกไหม้ เขาแทบอยากจะสับเยี่ยชิวเป็นพันๆ หมื่นๆ ชิ้น“แกไม่รู้หรือไงวะว่าฉันเป็นใคร?” เหลยหู่ตะเบ็งเสียงถาม“ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกจะเป็นใครมาจากไหน ฉันจะถามอีกครั้ง แกอยากตายแบบไ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 37

    อย่างไรก็ตาม ไม้เบสบอลหยุดชะงักกลางอากาศ เมื่ออยู่ห่างจากศีรษะของเยี่ยชิวประมาณยี่สิบเซนติเมตรชายหนุ่มพยายามเพ่งมอง จึงพบว่าปลายอีกด้านของไม้เบสบอลถูกเยี่ยชิวใช้มือจับไว้"โอ้ ตอบสนองเร็วดีนี่" ชายหนุ่มยิ้มแล้วออกแรงดึงแต่ไม้เบสบอลในมือของเยี่ยชิวเหมือนมีแม่เหล็กดูดเอาไว้ ไม่ว่าชายหนุ่มจะออกแรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถขยับมันได้แม้แต่น้อย“มีเรี่ยวแรงอยู่แค่นี้กลับกล้าโผล่หัวมาคนแรก ชอบเป็นตัวประกอบหรือไง?”เยี่ยชิวออกแรงที่ข้อมือเล็กน้อย ไม้เบสบอลก็ถูกเขาแย่งมาอยู่ในมือแทน จากนั้นเขาก็หวดไม้กลับไปที่หน้าอกของชายหนุ่มปัง!ร่างของชายหนุ่มลอยกระเด็นออกไป ชนกระแทกพื้นที่ห่างออกไปสิบกว่าเมตร เลือดพุ่งออกจากปากและหมดสติไปทันทีนี่...ความตกตะลึงปรากฏในแววตาของทุกคนโดยเฉพาะกัวเส้าชงที่มองเยี่ยชิวเหมือนเห็นผี โพล่งด้วยความตกใจว่า "เขาแข็งแรงขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"สีหน้าของเหลยหู่มืดครึ้มลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ใครจะรู้ว่า ตัวเยี่ยชิวเองก็ตกใจเช่นกันการตีครั้งนี้ เขาใช้แรงเพียงห้าส่วน ก็ทำให้ชายหนุ่มกระเด็นออกไปและหมดสติได้ งั้นถ้าใช้แรงเต็มสิบส่วน จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ?เกรงว่าจะฟ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 36

    เยี่ยชิวรีบมาที่นี่มาก เขาจึงยังใส่ชุดผู้ช่วยพยาบาลอยู่ ประกอบกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและสะอาดเกลี้ยงเกลา ทำให้มองเผินๆ แล้วเหมือนนักเรียนคนหนึ่ง ทว่าตัวเขาในยามนี้ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยเพลิงโทสะ แววตาสองข้างทอประกายเย็นชา"พี่เหลย เขามาแล้ว" กัวเส้าชงพูดพร้อมรอยยิ้มเหลยหู่หันไปมอง เห็นเยี่ยชิวเดินเข้ามาในตึกร้าง จึงปล่อยผมของเฉียนจิ้งหลัน แค่นเสียงเย็นชาแล้วบอกว่า "เดี๋ยวจัดการลูกชายเธอเสร็จแล้ว ฉันจะมาจัดการเธอต่อ"เฉียนจิ้งหลันเห็นเยี่ยชิวก็ตะโกนเสียงดังว่า "ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไป พวกเขาคิดจะฆ่าลูก”"จัดการ!"เหลยหู่กลัวว่าเยี่ยชิวจะหนี จึงออกคำสั่งทันควัน พวกลูกน้องที่ถือไม้กระบองก็รีบวิ่งเข้าไปล้อมเยี่ยชิวไว้เยี่ยชิวไม่สนใจคนพวกนี้ สายตาของเขาจดจ้องที่ใบหน้าของเฉียนจิ้งหลัน ถามด้วยความเป็นห่วงว่า "แม่ครับ แม่เป็นอย่างไรบ้าง?""แม่ไม่เป็นไร ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไปซะ พวกเขาจะฆ่าลูก..."เพี๊ยะ!เหลยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลันฉาดหนึ่งแล้วด่าว่า “ถ้ายังไม่เลิกโวยวาย ฉันจะฆ่าเธอด้วย”ทันใดนั้น สายตาของเยี่ยชิวก็เบนไปทางร่างของเหลยหู่แทน เขาเอ่ยเสียงเย็นเยียบว่า “กล้าตบแม่ฉันเหรอ แกตายแ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 35

    "กรี๊ด!" เฉียนจิ้งหลันตกใจรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเหลยหู่ ถามอย่างเสียขวัญว่า "คุณเป็นใคร? คุณคิดจะทำอะไร?"เหลยหู่หัวเราะในลำคอก่อนพูดว่า "ไม่ต้องกลัว ที่นี่ปลอดภัยมาก แค่คุณยอมเชื่อฟังผม ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเอง""คุณเป็นใครกันแน่?" เฉียนจิ้งหลันถามเสียงแข็งเมื่อสังเกตเห็นว่ามีชายอีกสิบกว่าคนกำลังยืนถือไม้กระบองอยู่ เธอก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา"อีแก่ แกจำฉันไม่ได้แล้วเหรอ?" กัวเส้าชงหันหน้ากลับมา มองเฉียนจิ้งหลันอย่างเย็นชา"หมอ...หมอกัว? ทำไมเป็นคุณล่ะคะ? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?" เฉียนจิ้งหลันประหลาดใจมาก"ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่? ฮ่าๆๆ ถามได้ดีมาก ฉันจะบอกความจริงให้ฟังก็ได้ ฉันกำลังรอลูกชายสุดที่รักของเธออยู่""รอเยี่ยชิว? หมอกัว คุณรอเยี่ยชิวทำไมคะ?" เฉียนจิ้งหลันยังไม่เข้าใจสถานการณ์"เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ" ใบหน้าของกัวเส้าชงปรากฏแววอำมหิตเฉียนจิ้งหลันรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอพยายามดิ้นรนและตะโกนว่า "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ""แจ้งตำรวจ?" กัวเส้าชงแสยะยิ้มด้วยความสมเพช "แกอยู่ในสภาพแบบนี้ จะมีปัญญาแจ้งตำรวจงั้นเหรอ?"ทั้งมือและเท้าของเฉียนจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status