แชร์

บทที่ 286

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
“หากแม่ทัพน้อยเมิ่งตายไป ทางเหนือจะเกิดความโกลาหล

“ท่านรู้หรือไม่ว่ามีชนเผ่ามากมายที่จ้องเขมือบหนานฉีราวกับดวงตาพยัคฆ์?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงขรึม

“เจ้าคิดว่าตนเองคือเมิ่งสิงโจวจริง ๆ รึ”

เฉียวม่อใช้มือจับตรงคมดาบ เพื่อกันไม่ให้เฟิ่งจิ่วเหยียนแทงลึกลงไปอีก ฝ่ามือของนางถูกบาดเป็นแผล นางพ่นเลือดออกจากปากและเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้าน

“ใช่ ข้าปลอมตัวเป็นเมิ่งสิงโจว ทว่าท่านก็ปลอมตัวเป็นฮองเฮาและอภิเษกสมรสเข้าวัง!

“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่พี่น้อง ส่วนท่าน? เบื้องหลังท่านมีตระกูลเฟิ่ง และยังมีตระกูลเมิ่งที่ท่านห่วงใย

“พวกเราทั้งคู่ ผู้ใดมีความผิดมากกว่า? ผู้ใดมีคนพัวพันมากกว่า?”

บาดแผลของเฉียวม่อยิ่งมีเลือดไหลออกมามาก

นางมองเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างเวทนา และฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับเอ่ยว่า

“ศิษย์พี่ ท่านคิดดูให้ดี สังหารข้าแล้ว จะมีคนอีกไม่น้อยที่ถูกฝังไปพร้อมกับข้า

“ข้ามีคนของข้ารออยู่ภายนอก หากข้าตาย ความลับที่ท่านเข้าอภิเษกสมรสแทนจะถูกเปิดเผยให้ทุกคนรู้ เมื่อถึงตอนนั้น ทั้งตระกูลเฟิ่งและตระกูลเมิ่งจะต้องถูกลงโทษ

“ศิษย์พี่ ข้าไม่เสียหาย”

คำพูดของเฉียวม่อแต่ละค
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Rukchanaporn Nui
เลิกอ่านแล้วเปลืองตังค์เปล่าๆ นางเอกโง่เขลาขนาดนี้ แรกก็ดีฉลาดทันคนหลังๆโง่ซ้ำโง่ซากอวดเก่ง
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
สมน้ำหน้าอีเฉียวม่อ จะตายหรือจะรอด
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1318

    “ทางตำหนักฉือหนิงเกิดอะไรขึ้น?” เฟิ่งจิ่วเหยียนนึกถึงองค์หญิงใหญ่สีหน้าของเซียวอวี้เคร่งขรึม“วันนี้เซียวฉีไปอธิบายกับไทเฮา ไทเฮาทนแรงกระทบเทือนมิได้ โมโหจนเกือบหมดสติไป”“เราจึง รีบออกจากวังมาบอกเรื่องนี้กับเจ้า”เฟิ่งจิ่วเหยียน: ...หากไทเฮามีเรื่องอะไรจริง ๆ ส่งคนมาแจ้งก็พอแล้ว ไฉนจำเป็นต้องให้เขามาเองเช่นนี้ดูเหมือนว่าน่าจะไม่มีอะไรมากแล้วเซียวอวี้เห็นนางไม่ตอบ ทั้งยังไม่แสดงท่าทีใด ๆ จึงทำเป็นถามอย่างกังวล“พวกเราควรจะไปเยี่ยมไทเฮาหรือไม่? แม้นคนจะไม่ได้ไป ก็ควรจะส่งของไปหน่อยก็ยังดี เพื่อปลอบใจคนแก่ชราอย่างนาง เจ้าคิดว่าอย่างไรบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนปรายตามองเขา“ท่านยังคิดว่าวุ่นวายไม่พออีกหรือ?”เซียวอวี้โอบเอวของนาง วางคางลงบนไหล่ของนางอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต่างอะไรกับหมาป่ากำลังส่ายหางออดอ้อน“นั่นสินะ ทำไมเราคิดไม่ได้ เรื่องของสองแม่ลูกอย่างไทเฮากับเซียวฉี ให้พวกนางจัดการเองก็พอ”เฟิ่งจิ่วเหยียนผลักเขาออกด้วยสีหน้าจริงจัง“เมื่อวานก็ได้มีฏีกาค้างเป็นกองแล้วกระมัง“แล้ว วันนี้ยังคิดจะเกียจคร้านต่อหรือ?”แม้นสามีภรรยาจะรักกันมากเพียงใด ก็ไม่ควรปล่อยให้งานสำคัญ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1317

    จื้อจ้ายจวีเซียวอวี้อยู่ที่นี่ไม่ยอมไป เฟิ่งจิ่วเหยียนจะไล่อย่างไรก็ไร้ประโยชน์เขายังใช้ลูกมาเป็นไม้กันหมา“อาหลิ่นกับอาลี่ไม่อยากให้เสด็จพ่อไป”ใช่ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนใจไม้ไส้ระกำ นางเป็นห่วงว่าเขาจะไม่สนใจเรื่องบ้านเมืองยามค่ำ เซียวอวี้ค้างแรมที่จื้อจ้ายจวีเฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นเขาแล้วรำคาญ“ในฐานะฮ่องเต้ผู้นำแคว้น จะเอาแต่ใจเช่นนี้ได้อย่างไร?”เซียวอวี้โน้มเข้ามาใกล้ อุ้มนางเอาไว้บนตัก“ข้าเองก็เป็นเพียงชายทั่วไป ต้องการภรรยาและลูกอยู่เคียงข้าง เล่าเรื่องเมื่อกลางวันมาสิ เซียวฉีพูดอะไรกับเจ้า? สีหน้าเจ้าตอนกลับมาไม่สู้ดีนัก?”เฟิ่งจิ่วเหยียนครุ่นคิดแล้วกล่าว“เรื่องของจั่วเฟิงไม่แน่นอนสักที หม่อมฉันกลัวจะมีการเปลี่ยนแปลง”เซียวอวี้ทำหน้าไม่ใส่ใจ“แต่งตั้งรองหัวหน้าไว้ล่วงหน้า เมื่อใดที่จั่วเฟิงไม่อาจไปหนานเจียง ก็เลื่อนตำแหน่งรองหัวหน้า”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้า“นี่เป็นวิธีที่ดี”“แต่น่าเสียดายจั่วเฟิง”สุดท้ายแล้ว นางก็ยังทำใจไม่ได้ใช่ว่าใครก็เป็นนักรบอัจฉริยะเซียวอวี้เห็นนางขมวดคิ้ว จึงถามอย่างห่วงใย“หากเจ้าอยากเก็บจั่วเฟิงไว้จริง พรุ่งนี้ข้าจะส่งคนไปตำหนักฉื

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1316

    องค์หญิงใหญ่มีสนมชายมากมาย แต่กลับไม่มีสักคนที่นางรักอย่างแท้จริงแต่นางไม่สนใจสิ่งที่นางต้องการคือไม่รู้สึกผิดต่อตัวเอง“ข้าอยากดีกับตัวเอง” องค์หญิงใหญ่ดื่มน้ำชาหนึ่งคำ ในแววตาเผยความโศกเศร้าเล็กน้อยเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่พูดแทรก ฟังอยู่เงียบ ๆ“ตอนนั้น ฮ่องเต้เพิ่งขึ้นครองราชย์ ศัตรูมารุกราน ข้าทำเพื่อแคว้นหนานฉี อภิเษกเชื่อมสัมพันธ์กับแคว้นต้าเซี่ย”“หลายปีที่อยู่ในแคว้นต้าเซี่ย ข้าราวกับศพเดินได้”“จนกระทั่งข้าได้พบท่าน นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าหวั่นไหวเพราะชายหนุ่มคนหนึ่ง”องค์หญิงใหญ่จ้องมองฮองเฮาตรงหน้า สายตาราวกับทะลุผ่านมิติเวลา กลับไปตอนที่เพิ่งพบกันครั้งแรกสายตาเฟิ่งจิ่วเหยียนซื่อตรง“เรื่องนี้เป็นความผิดของข้า”มุมปากองค์หญิงใหญ่ยกขึ้น“ท่านไม่ต้องรู้สึกผิด ข้าปล่อยวางนานแล้ว”“ตั้งแต่รู้ว่าท่านเป็นสตรี ข้าก็ไม่เคยคิดเกินเลย”“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนแรกที่ได้พบกัน เกิดขึ้นภายใต้ความตื่นตระหนกของข้า แล้วท่านปรากฏตัวพอดี จึงทำให้เกิดความสับสน”“ตอนนี้เมื่อคิดดู ความจริงหากเปลี่ยนเป็นใครสักคน บางทีข้าก็อาจหวั่นไหวเหมือนกัน”เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นด้วยกับคำพูดนี้“เป็นเช่นน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1315

    หลังเซียวอวี้เข้ามา ฮูหยินเมิ่งขอตัวออกไปเฟิ่งจิ่วเหยียนเหลือบมองเซียวอวี้แวบหนึ่ง“ข้ากับท่านแม่กำลังคุยกัน ทำไมฝ่าบาทจึงมากะทันหัน?”ต่อมานางถามสีหน้าจริงจัง “หรือเกิดเรื่องใดขึ้นหรือ?”เซียวอวี้กลับโอบนางเข้ามากอดอย่างทนไม่ไหว“ในวังว่างเปล่า ในใจข้าเองก็ว่างเปล่า จึงอยากมาเยี่ยมพวกเจ้า”บนเตียงเล็ก เด็กน้อยสองคนยื่นหัวออกมา จ้องมองเสด็จพ่อเซียวอวี้ใจอ่อนยวบ รีบไปอุ้มพวกเขาทันที“อาหลิ่น อาลี่ คิดถึงเสด็จพ่อหรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูภาพนี้ ราวกับเด็กสองคนได้กลายเป็นยาวิเศษของเขาไปแล้ว“ฝ่าบาทควรรีบกลับวังก่อน” นางเอ่ยเตือนเซียวอวี้อุ้มเด็กน้อยสองคนเอาไว้ ทำเหมือนไม่ได้ยิน“ฎีกาจัดการเสร็จหมดแล้ว ในวังไม่มีธุระใด”เขากำลังโกหกเฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็รู้อยู่แก่ใจเมื่อเห็นเขาคิดถึงลูกมากขนาดนี้ จึงอนุญาตให้เขาอยู่ต่ออีกสักครู่เพียงไม่นาน นอกเรือนมีคนรายงาน“พระนาง ในวังมีคนมาแจ้งข่าว องค์หญิงใหญ่มีธุระกับท่านเพคะ”เซียวอวี้ที่กำลังกล่อมลูกชะงัก หันมองเฟิ่งจิ่วเหยียน“เซียวฉีหาเจ้า น่าจะเป็นเรื่องของจั่วเฟิง”หลังเฟิ่งจิ่วเหยียนออกจากวัง โดยไม่รู้เรื่องราวหลังจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1314

    “เจ้ามีหญิงที่พึงใจอยู่หรือไม่ ไม่มีความจำเป็นต้องบอกข้า” องค์หญิงใหญ่หันหลังเดินไปอุทยานหลวงต่อจั่วเฟิงตามอยู่ด้านหลังนาง เหยียบเงาของนางเป็นบางครั้งเขาพูดโกหกไปเพราะเขาได้ยินว่าองค์หญิงใหญ่มักมากในกาม เขากลัวถูกนางหมายตาเมื่อถึงอุทยานหลวง องค์หญิงใหญ่นั่งลงภายในศาลา“ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ดอกไม้ร่วงไปนานแล้ว ช่างน่าเบื่อสิ้นดี”ในสายตาของนาง จั่วเฟิงผู้นี้ก็เหมือนดอกไม้ที่โรยราส่วนพวกที่อยู่ในจวนของนาง บางคนเป็นดอกตูมยังไม่บาน บางคนงดงามเย้ายวน มีผู้ใดที่สู้เขาไม่ได้?เสด็จแม่เองก็เหลือเกิน คำโกหกที่ชัดเจนเช่นนี้ก็แยกแยะไม่ออกขอเพียงเสด็จแม่ใส่ใจสายตาในการเลือกชายหนุ่มของนาง คงไม่คิดว่านางจะชอบจั่วเฟิงจริงๆจั่วเฟิงยืนอยู่นอกศาลา ไม่คิดจะลามปามเขายืนอยู่ข้างนอก ดูเหมือนองครักษ์ขององค์หญิงขณะนี้ ภายในตำหนักฉือหนิงวันนี้เชิญคนตระกูลจั่วเข้าวัง เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างองค์หญิงใหญ่และจั่วเฟิงตั้งแต่เข้าวังมาเมื่อวาน คนของตระกูลจั่วก็คิดตกแล้วพวกเขามีจั่วเฟิงเป็นลูกชายเพียงคนเดียว เมื่อก่อนไม่อยากให้เขาเป็นทหาร แต่เขาก็เป็นแล้วต่อมา ฮูหยินจั่วข่มขู่ด้วยชีวิต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1313

    ภายในตำหนักฉือหนิง คนที่ควรมาล้วนมาถึงแล้วใบหน้าไทเฮามีแต่รอยยิ้ม หันมององค์หญิงใหญ่“ฉีเอ๋อร์ รีบนั่งลง”เด็กคนนี้ ดีใจจนอึ้งไปแล้วหรือช่างไม่รู้เลย องค์หญิงใหญ่ตกใจจนอึ้งต่างหากนี่เสด็จแม่บังคับให้แต่งงานหรือ?นางหันมองจั่วเฟิง จั่วเฟิงสวมชุดลำลอง สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใด สายตามองอิฐเบื้องหน้า ไม่มองนางสักนิดทำราวกับนางไม่มีตัวตนองค์หญิงใหญ่ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นอย่าเห็นว่าอยู่ต่อหน้าผู้อื่นนางดูสูงส่ง แต่อยู่ต่อหน้าเสด็จแม่ นางคือเด็กคนหนึ่งตลอดไปเป็นเด็กที่ทำความผิดแล้วร้อนตัวปฏิกิริยาตอบโต้ของนาง คือการหนี!“เสด็จแม่ หม่อมฉันไปตำหนักหย่งเหอก่อนเพคะ!”พูดจบ ไม่รอให้ไทเฮาคัดค้าน รีบก้าวจากไปทันที……เดิมองค์หญิงใหญ่คิดจะไปหลบที่ตำหนักหย่งเหอเมื่อไปถึงกลับถูกแจ้งว่าฮองเฮาไม่อยู่ตำหนักหย่งเหอ วันนี้พาองค์ชายทั้งสองออกจากวังไปตั้งแต่เช้านางกำนัลคนนั้นสนิทกับองค์หญิงใหญ่ จึงพูดให้ฟังอีก“ฮ่องเต้อยู่ด้านใน องค์หญิงใหญ่จะพบฮ่องเต้หรือไม่เพคะ?”ในหัวองค์หญิงใหญ่มีคำพูดหลายคำผุดขึ้น รักษาม้าตายเหมือนม้าเป็นไม่ต้องสงสัย เซียวอวี้คือม้าตายตัวนั้นนางไม่หวังให้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status