Share

12

Author: Scince
last update Last Updated: 2025-08-11 15:30:33

ก่อนที่สองยายหลานจะออกจากบ้าน หลิวซือก็เดินมาขวางทางเอาไว้เสียก่อน เธอรู้สึกว่าครั้งนี้ผู้เป็นแม่ทำเกินกว่าเหตุไปสักหน่อย

“จะไปไหนกันแต่เช้าคะ”

“ไปเดินเล่นน่ะ” ยายหลิวตอบ

“ฉันนึกว่าแม่จะไปซื้อตั๋วรถไฟเตรียมกลับบ้านเสียอีก” หลิวซือเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีเรียบเฉย คิดว่าเรื่องที่ท่านเตรียมจะกลับบ้านคงไม่บอกให้ตนรู้เป็นแน่ เลยพูดเรื่องนี้ออกไปเสียเลย เพราะเธอก็รู้สึกอึดอัด

“รู้แล้วจะถามทำไม” ยายหลิวไม่แปลกใจที่ลูกสาวรู้ เพราะคิดว่าเจ้าของร้านค้าที่มาตามท่านไปรับโทรศัพท์น่าจะเป็นคนบอก

“แม่ ถ้าแม่เป็นคนอื่นฉันก็ไม่สนใจหรอกนะ แต่นี่แม่เป็นแม่ของฉัน ฉันถามเพราะเป็นห่วง”

“แกห่วงอะไรล่ะ ห่วงฉันกับลูก หรือว่าห่วงจะไม่ได้เงิน” ยายหลิวถามเสียงเรียบ

ตั้งแต่ท่านมาถึงลูกสาวก็ถามถึงเงินเยียวยา หลังจากนั้นก็ถามแทบจะทุกวันเกี่ยวกับเงินเยียวยา ทั้งพูดทำนองว่าต้องการจะขอยืมเงินเพื่อไปวางมัดจำบ้าน เนื่องจากว่าบ้านที่อยู่มันค่อนข้างจะคับแคบ อยากเป็นส่วนตัวมากกว่านี้

ทว่าเท่าที่ท่านสัมผัส มันกลับไม่ง่ายเหมือนคำที่ลูกสาวพูด เพราะทุกอย่างล้วนรวมเป็นกองกลาง นั่นหมายความว่าหากครอบครัวของลูกสาวอยากจะย้ายออก พวกหล่อนจะต้องแยกบ้านกันก่อน ซึ่งความเป็นไปได้แทบจะไม่มี

“แม่” หลิวซือรู้สึกไม่พอใจที่แม่ชอบมองตนเองในแง่ร้ายอยู่ตลอด

“แม่คะ ยายไม่ได้ไปซื้อตั๋วรถไฟเหมือนที่แม่เข้าใจหรอกค่ะ พวกเราแค่จะออกไปกินมื้อเช้าแล้วก็แวะซื้อชุดนักเรียนให้ฉันน่ะ” เสี่ยวเหลียนพูด

“ซื้อชุดนักเรียน ซื้อทำไม ฉันบอกไปแล้วว่าเรื่องนี้จะเป็นคนจัดการเอง” หลิวซือแย้ง

“ฉันจะไม่อยู่หลายวัน ก่อนไปก็อยากมั่นใจว่าหลานสาวของฉันจะต้องได้เรียนต่อ ไม่ใช่จับแต่งงานกับใครที่ไหนก็ไม่รู้อีก”

“แม่คะ ฉันบอกไปแล้วว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด เอาเป็นว่าฉันรับปากแม่ว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นอีก ยังไงเสี่ยวเหลียนก็ต้องได้เรียนต่อ เชื่อฉันเถอะค่ะ” หลิวซือไม่ยอมให้สองยายหลานออกจากบ้าน พูดโน้มน้าวจนยายหลิวรำคาญและหนีกลับเข้าห้องไป

คืนก่อนวันที่ยายหลิวจะเดินทางกลับบ้าน ท่านสั่งให้หลานสาวปิดประตูลงกลอน เพราะต้องการแน่ใจว่าจะไม่มีใครเปิดประตูเข้ามาในขณะที่ท่านกำลังจะสั่งเรื่องสำคัญ

“อะไรเหรอคะ” เสี่ยวเหลียนมองกระเป๋าผ้าสีซีดที่ยายยัดใส่มือของตนเอง

“เงินยังไงล่ะ ไปครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะต้องไปนานแค่ไหน ไหนๆ ก็ไปแล้วก็อยากทำให้มันเรียบร้อย ก่อนหน้านี้ยายบอกกับผู้นำหมู่บ้านแล้วว่าต้องการขายที่ดินของเราด้วย เลยคิดว่าอยากจะอยู่จนกว่าจะขายที่ได้” ยายหลิวสั่ง

ท่านรู้ดีแก่ใจว่าหลานสาวอยากจะอยู่ในเมืองกับแม่มาตลอด แต่ท่านเองมาสัมผัสแล้วคิดว่าตนเองคงอยู่ไม่ได้ ที่ชนบทถึงจะลำบากไปสักหน่อย แต่ก็ไม่มีใครมาทวงบุญคุณเช้าเย็น สบายใจกว่าเยอะ

“หมายความว่ายังไงคะ” เสี่ยวเหลียนเพิ่งมา เป็นธรรมดาที่เดาความคิดของผู้เป็นยายไม่ออก

“หมายความว่าให้แกเก็บเงินนี้เอาไว้ให้ดี ห้ามใจจ่ายสุรุ่ยสุร่ายเด็ดขาด ใช้เท่าที่จำเป็น อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้วว่าจะสอบเป็นพยาบาลมารักษายาย”

“เป็นพยาบาลจะรักษาคนไข้ได้ยังไงละคะ ต้องเป็นหมอสิถึงจะรักษาได้” หญิงสาวเถียง

“แค่พยาบาลก็สอบให้มันได้ก่อนเถอะ เก่งในเมืองกับเก่งบ้านนอกมันต่างกันมากนะ”

ครั้งแรกที่มาหลี่เฟินเอาหนังสือมาให้เสี่ยวเหลียนสอน แต่จนใจที่เจ้าตัวตอบน้องสาวไม่ได้เลย เพราะเป็นหนังสือภาษาอังกฤษ โรงเรียนอันดับสิบเจ็บหรือจะสู้โรงเรียนอันดับหนึ่ง ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะที่คนเป็นพี่เก่งไม่สู้น้องสาว ทั้งที่อายุห่างกันถึงสี่ปี

“ถ้าฉันจะสอบทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ ยายคอยดูเถอะ” เสี่ยวเหลีนเถียงใจใน

ชาติที่แล้วเธอถือว่าเป็นคนหัวดีคนหนึ่ง แต่เพราะยากจนทำให้ไม่มีเงินส่งตัวเองเรียนสูงขนาดนั้น ต้องทำงานไปด้วยส่งตัวเองเรียนไปด้วย

“ดี ถ้าอย่างนั้นยายก็วางใจ” ยายหลิวยิ้มกริ่มที่เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของหลานสาว

“ว่าแต่ยายเถอะ ถึงแล้วต้องส่งข่าวมาบอกฉันนะคะ ทำธุระเสร็จแล้วก็ต้องรีบกลับมา อย่าเก็บเงินไว้ที่ตัวมากเกินไป ได้เงินมาแล้วก็ให้เอาไปฝากธนาคารไว้”

เธอยังไม่คุ้นชินกับคนยุคนี้ ไม่รู้ว่าพวกเขานิยมเก็บเงินไว้ที่ไหน แต่ก็มั่นใจว่าคนยังไม่วางใจจะฝากเงินกับธนาคารมากเท่าไหร่ เพราะกลัวจะถูกตรวจสอบ

“รู้แล้วๆ เก็บไว้ในบัญชีส่วนตัวของแกดีหรือเปล่าล่ะ”

“ไม่เอาหรอกค่ะ เอาไว้ในบัญชียายนั่นแหละเผื่อมีเรื่องต้องใช้เงินจะได้เบิกมาใช้ได้”

“ได้ เชื่อฟังหลานสาว”

จ้าวเสี่ยวเหลียนไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่กำเงินในห่อผ้าที่ผู้เป็นยายให้มาแน่น

เช้าวันถัดมาสองยายหลานก็ออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด ยังไม่มีใครตื่นอีกตามเคย ถึงวันที่ยายหลิวต้องเดินทางกลับบ้านที่ชนบทแล้ว แม้ในใจจะเป็นห่วงหลานสาวมากแค่ไหน แต่ท่านก็อยากให้เธอได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากที่นี่ เผื่อว่าวันหนึ่งที่ท่านไม่อยู่บนโลกนี้จริงๆ จะได้มั่นใจว่าหลานสาวสามารถเอาตัวรอดได้

จ้าวเสี่ยวเหลียมมองใบหน้าเหี่ยวย่นที่มีรอยยิ้มทั่วไปหน้าจนลับตา ขบวนรถไฟเที่ยวแรกหายลับไปกับสายตา เธอจึงละสายตาจากรางรถไฟ

ทว่าจุดหมายของเธอกลับไม่ใช่บ้าน แต่เป็นอีกฟากของตรอกถนน มาอยู่ในร่างนี้เกือบเดือน นอกกินนอนแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ถึงเวลาที่จะต้องหาช่องทางหาเงินให้ตัวเองแล้ว

เธอรู้ดีว่าการจะย้ายออกจากบ้านหลี่ได้ ไม่ใช่แค่มีเงินเท่านั้น เพราะไม่อย่างนั้นแม่ไม่มีททางให้เธอย้ายออกแน่

“เดี๋ยวก่อน” ขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปในตรอกหนึ่ง เสี่ยวเหลียนก็ถูกคนตัวใหญ่ขวางทางเอาไว้

“หืม” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง พบว่าเป็นผู้ชายร่างท้วมยืนทำหน้าเจ้าเล่ห์

“น้องสาว รหัสผ่านล่ะ”

เสี่ยวเหลียนกลืนน้ำลาย ตลอดทางที่มายังสถานที่ต้องห้ามนี้ เธอหลอกถามทางจากคนแถวนี้ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่กว่าพวกเขาจะยอมบอกที่ตั้ง แต่เธอกลับไม่รู้ว่าจะเข้าที่นี่ได้จะต้องมีรหัสผ่าน

“พี่ชาย ฉันเพิ่งมาอยู่ที่นี่ไม่นาน ไม่รู้จักใคร แต่เพราะว่ายาย เอ่อ..ย่าที่บ้านป่วยหนักใกล้ตายอยากจะกินขาหมู่สักครั้งก่อนตาย พี่ชายก็น่าจะรู้ว่าถ้าไปลงชื่อซื้อที่ร้านขายเนื้อเดือนหน้าก็ไม่รู้ว่าจะถึงคิวฉันหรือเปล่า แต่ต่อให้ถึงคิวก็ไม่รู้ว่าย่าจะอยู่รอจนถึงวันนั้นหรือเปล่า ฮือ…ย่าคะ ฉันสงสารย่าจริงๆ เลยค่ะ”

หญิงสาวแสร้งบีบน้ำตา ด้วยเป็นคนที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มๆ เวลาเบ้ปากเตรียมจะร้องไห้ ดวงตากลมโตแดงก่ำ จมูกโด่งรั้นของเธอแดงระเรื่อทำให้คนที่เห็นอดสงสารไม่ได้

“น้องสาว ไม่ใช้ว่าพวกเราไม่เห็นใจ แต่กฎก็คือกฎ” เห็นสามงามร้องไห้ใครมันจะไปทนไหว แต่ถ้าปล่อยไปเขาก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสายสืบที่ทางการส่งมาหรือเปล่า

“ลูกพี่ ดูๆ ไปแล้วก็ไม่น่ามีพิษมีภัยอะไรหรอก ออกจะซื่อเกินไปเสียด้วยซ้ำ” ชายผอมอีกคนกระซิบบอก

เขาสังเกตจากลักษณะการแต่งตัวของอีกฝ่ายแล้วไม่เหมือนกับคนแถวนี้จริงๆ นั่นแหละ น่าจะเป็นพวกต่างถิ่นเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่

“แต่ว่า” คนที่ถูกเรียกว่าลูกพี่ลังเล

“พี่ชายถ้าฉันได้ขาหมูไป วันนี้ฉันจะไม่ลืมพระคุณทั้งสองเลย” แต่รออยู่นานอีกฝ่ายก็ไม่ยอมใจอ่อน เธอเลยทำหน้าสลด ก้มหน้าคอตกแล้วพูดขึ้นว่า

“ถ้างั้นฉันก็ไม่กล้าทำให้พี่ชายลำบากใจ ขาหมูที่ย่าอยากกินคงต้องตามไปกินในชาติหน้าแล้วล่ะ”

“เดี๋ยวก่อน” ขณะที่กำลังจะถอนใจอีกฝ่ายก็พูดขัดขึ้น

มุมปากเล็กยกยิ้มขึ้นน้อยๆ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ทำหน้าให้ดูเศร้าสลดมากที่สุดกับขาหมูแค่ขาเดียว “มีอะไรเหรอคะพี่ชาย”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   18

    ทางด้านเสี่ยวเหลียนเองก็ยิ้มมุมปากขณะที่เดินออกมาจากอาคารสอบ เธอไม่คิดว่าหวังหลินจะหลงตัวเองถึงขั้นเข้าใจผิด คิดว่าผู้ชายรอหน้าห้อง ทั้งที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนไปถึงจุดนัดหมายก็เห็นว่าอาสามนั่งคุยกับคุณนายจางอยู่ ทันทีที่เห็นหน้าหลานสาวอาสามก็รีบเดินเข้ามาจับแขนแสดงความห่วงใยทันที“เป็นยังไงบ้าง เสี่ยวเหลียนทำได้หรือเปล่า ไม่ต้องคิดมากไปหรอกนะ ก็แค่สอบเลือกห้องเท่านั้น รอให้หลานเรียนไปสักพัก พอขึ้นปีสองก็จะมีการคัดเลือกห้องใหม่ ไว้ค่อยไปสู้เอาตอนนั้นก็ยังไม่สายหรอก”คำพูดของอาสาม ทำเอาป้าหลานมองหน้ากันไปมา ในขณะที่เสี่ยวเหลียนทำเพียงยิ้มน้อยๆ พยักหน้าเห็นด้วย เพราะไม่จำเป็นต้องโอ้อวดตัวเอง รอวัดกันที่ผลสอบจะดีกว่า“ไหนๆ ก็มากันครบแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องขอตัวก่อนนะคะ อ่อแล้วก็ขอยืมตัวหนูเสี่ยวเหลียนสักพัก เอาไว้ฉันจะไปส่งที่บ้านด้วยตัวเอง” คุณนายจางพูดก่อนหน้าที่เจอกันรู้สึกไม่ถูกชะตาทั้งคำพูดและการกระทำ แต่ครั้งนี้ท่านั่นใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องไม่ชอบลูกสะใภ้ของท่านเป็นแน่ แต่ก็คงจะไม่แปลกอะไรเพราะเป็นแค่ลูกเลี้ยง ถึงยังไงก็ต้องถูกมองว่าเป็นคนนอก ยิ่งเห็นแบบนี้ท่านก็ยิ่งเอ็นดูจ้าวเสี่

  • 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   17

    1 กันยายน 1975วันนี้เป็นวันที่จ้าวเสี่ยวเหลียนต้องไปสอบเลือกห้อง เพราะเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ นักเรียนบางคนเข้าเรียนได้เพราะเป็นคนในเขตพื้นที่ และได้โควตาพิเศษ อีกส่วนหนึ่งคือสอบเข้าเหมือนกับเสี่ยวเหลียน เลยทำให้ต้องสอบคัดเลือกอีกทีหนึ่งผู้ปกครองมาให้กำลังใจลูกหลานตัวเองเป็นจำนวนมาก รวมถึงอาสามของบ้านหลี่ด้วยที่มาเฝ้าลูกสาว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ” เสี่ยวเหลียนหยุดทักทาย เพราะหากจะเดินผ่านหน้าไปเลยก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่“อือ” อาสามพยักหน้าแบบขอไปที เพราะจุดที่ตนนั่งนั้นยังมีเพื่อนอีกหลายคน“นั่นใครเหรอ” เพื่อนบ้านคนหนึ่งสะกิดถาม“ลูกสาวคนโตพี่ใหญ่น่ะ” อาสามตอบ ถึงจะไม่ชอบหน้า แต่เวลาอยู่ข้างนอกก็ยังต้องให้เกียรติพี่ชายเรื่องที่พี่ชายแต่งงานกับผู้หญิงหม้ายลูกติดคนแถวนี

  • 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   16

    ช่วงเย็นจ้าวเสี่ยวเหลียนตั้งแต่มาถึงก็ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง คิดหาวิธีเอาตัวรอดกับงานแต่งงานในครั้งนี้ แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นทางออก ติดต่อยายหลิวตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะท่านเพิ่งจะไปได้แค่วันเดียว อย่างน้อยๆ ก็ต้อง 4-5 วัน แบบนี้คงไม่ทันการณ์เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ตามด้วยเสียงใสของน้องสาวที่ดังอยู่ข้างนอก ทำให้หญิงสาวหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง“เข้ามาสิ”“พี่ แม่ให้มาตามไปกินข้าว” หลี่เฟินเดินมาหยุดตรงหน้าพี่สาว“เฟินเอ๋อร์ไปกินเถอะ บอกแม่ว่าพี่ไม่หิว”“พี่ แม่บอกมาแล้วว่ายังไงก็ต้องออกไปกินข้าว ถ้าพี่ไม่ไปฉันก็ห้ามกินข้าว” หลี่เฟินพูดด้วยน้ำเสียงแกมอ้อนวอนเด็กสาวไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพียงแต่คิดว่าถ้าอาสามมาที่บ้านส่วนมากแล้วก็จะมีเรื่องทุกที ยิ่งมาเห็นท่าทางกลัดกลุ้มของพี่สาวก็ยิ่งมั่นใจว่าตนเองสันนิษฐานไม่ผิด“ไม่มีอะไรหรอกแค่เป็นห่วงยายน่ะ ถ้างั้นพวกเราออกไปกินข้าวกันเถอะ”เห็นน้องสาวทำสายตาอ้อนวอนก็อดที่จะสงสารไม่ไหว แม้ว่าคนในครอบครัวจะไม่หวังดีกับเธอ แต่ก็รับรู้ได้ว่าน้องสาวแตกต่าง เป็นธรรมดาที่ทั้งสองคนไม่สนิทกัน เพราะพี่น้องเพิ่งเจอหน้ากันได้ไม่นาน แต่คำว

  • 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   15

    หลังจากที่แยกกับหยางเถาฮวา อาสามก็ไม่ได้รีบกลับบ้านของตัวเอง แต่กลับไปบ้านหลี่แทน อยู่รอจนกระทั่งย่าหลี่กลับจากทำงานถึงได้เล่าเรื่องวันนี้ให้กับผู้เป็นแม่ฟัง“โชคดีขนาดนั้นเชียวเหรอ” ย่าหลี่ไม่อยากจะเชื่อ ผู้พันที่ไหนจะมาแต่งงานกับชนชั้นแรงงาน อย่างน้อยก็ต้องแต่งกับลูกหลานทหารด้วยกัน หรือไม่ก็ลูกสาวนายพลถึงจะเหมาะสม“นั่นสิคะ ทีแรกที่ติดต่อมาฉันก็นึกว่าเป็นลูกหลานขอคนแถวนี้เสียอีก แม่คะเราจะทำยังไงกันดีละคะ” อาสามถามผู้เป็นแม่ด้วยความกลัดกลุ้ม“จะทำยังไงล่ะ ในเมื่อทางนั้นพูดออกมาแล้วว่าจะรับผิดชอบ เราก็มีหน้าที่เรียกสินสอดให้คุ้มกับที่เจ้าใหญ่เลี้ยงดูมาตั้งแต่แบเบาะ” ย่าหลี่นึกถึงสินสอดที่จะได้รับแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“ได้ยังไงละคะแม่ อย่าเห็นแก่เงินน้อยนิดสิคะ นึกถึงผลที่จะเกิดขึ้นระยะยาว แค่นี้พี่สะใภ้ก็คอยื่นคอยาว ถ้าเกิดว่าหล่อนได้เป็นแม่ยายผู้พันจริงๆ คิดเหรอว่าต่อไปหล่อนจะยอมก้มหัวให้กับพวกเรา”“อืม ที่แกพูดมาก็มีเหตุผล” ย่าหลี่คิดตามคำพูดของลูกสาวที่ผ่านมาท่านพอใจกับลูกสะใภ้คนนี้มาก พูดง่าย แล้วก็ไม่เคยทำเรื่องให้ลำบากใจ เรียกได้ว่าชี้นกเป็นนก ไม่มีปากมีเสียง ลูกชายของท่านตาถ

  • 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   14

    อาสามได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มค้าง ส่วนหลิวซือนั้นได้แต่นั่งนิ่งพูดไม่ออก เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะดูดีขนาดนี้ เดิมทีคิดว่าเป็นชนชั้นแรงงานเหมือนกันเสียอีก“ไอหยาคุณนายอย่าเพิ่งใจร้อนไปสิคะ ทำความรู้จักกันก่อน” อาสามพูดแก้สถานการณ์ เห็นการแต่งตัวของอีกฝ่ายแล้วไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าเป็นคนมีเงิน เพราะแบบนี้ถึงได้บอกให้อีกฝ่ายใจเย็นๆ“เย็นไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ เสียงพูดถึงหนูเสี่ยวเหลียนดังเข้าหูมาทุกวัน กว่าที่ฉันจะติดต่อพวกคุณได้ไม่ใช่ง่าย” คนที่แนะนำตัวว่าเป็นหยางเถาฮวาพูดขึ้นเธอเห็นหน้าว่าที่ลูกสะใภ้แล้วก็พยักหน้าพอใจ ก่อนหน้าที่ลูกชายจะไปทำงานได้บอกแล้วว่าไปล่วงเกินสาวคนหนึ่งเข้า ไม่รู้ว่าทางนั้นจะมาเอาเรื่องหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็รับปากรับผิดชอบไป เพราะตนล่วงเกินอีกฝ่ายจริง“เดี๋ยวก่อนนะคะ ตกลงว่านี่มันเรื่องอะไรกัน” เสี่ยวเหลียนได้กลิ่นไม่ดีเลยถามออกไปอย่างงุนงง“เสี่ยวเหลียนจ๊ะ ผู้ใหญ่คุยกันเด็กอย่าเพิ่งพูดแทรก เดี๋ยวก็รู้เองแหละว่าเรื่องอะไร” คำพูดของอาสามทำเอาหยางเถาฮวาที่กำลังจะอ้าปากอธิบายต้องกลืนคำพูดลงท้องของตัวเองไป“นั่นสิ รอให้อาสามพูดจบก่อน” หลิวซือพยักหน้าเห็นด้วยกับน้องส

  • 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   12

    ก่อนที่สองยายหลานจะออกจากบ้าน หลิวซือก็เดินมาขวางทางเอาไว้เสียก่อน เธอรู้สึกว่าครั้งนี้ผู้เป็นแม่ทำเกินกว่าเหตุไปสักหน่อย“จะไปไหนกันแต่เช้าคะ”“ไปเดินเล่นน่ะ” ยายหลิวตอบ“ฉันนึกว่าแม่จะไปซื้อตั๋วรถไฟเตรียมกลับบ้านเสียอีก” หลิวซือเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีเรียบเฉย คิดว่าเรื่องที่ท่านเตรียมจะกลับบ้านคงไม่บอกให้ตนรู้เป็นแน่ เลยพูดเรื่องนี้ออกไปเสียเลย เพราะเธอก็รู้สึกอึดอัด“รู้แล้วจะถามทำไม” ยายหลิวไม่แปลกใจที่ลูกสาวรู้ เพราะคิดว่าเจ้าของร้านค้าที่มาตามท่านไปรับโทรศัพท์น่าจะเป็นคนบอก“แม่ ถ้าแม่เป็นคนอื่นฉันก็ไม่สนใจหรอกนะ แต่นี่แม่เป็นแม่ของฉัน ฉันถามเพราะเป็นห่วง”“แกห่วงอะไรล่ะ ห่วงฉันกับลูก หรือว่าห่วงจะไม่ได้เงิน” ยายหลิวถามเสียงเรียบตั้งแต่ท่านมาถึงลูกสาวก็ถามถึงเงินเยียวยา หลังจากนั้นก็ถามแทบจะทุกวันเกี่ยวกับเงินเยียวยา ทั้งพูดทำนองว่าต้องการจะขอยืมเงินเพื่อไปวางมัดจำบ้าน เนื่องจากว่าบ้านที่อยู่มันค่อนข้างจะคับแคบ อยากเป็นส่วนตัวมากกว่านี้ทว่าเท่าที่ท่านสัมผัส มันกลับไม่ง่ายเหมือนคำที่ลูกสาวพูด เพราะทุกอย่างล้วนรวมเป็นกองกลาง นั่นหมายความว่าหากครอบครัวของลูกสาวอยากจะย้ายออก พวกหล่อนจะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status