LOGINหลังจากการเปิดเผยความจริงอันน่าสะเทือนใจเกี่ยวกับชะตากรรมของปราสาท การกำเนิดของเงาปีศาจ และความหวังที่ฝากไว้กับ ผ้ายันต์ 5 ผืน บาระและเร็นก็นั่งนิ่งอยู่กับความคิดของตัวเอง ท่ามกลางเสียงกระซิบของผู้รอดชีวิตในห้องโถงใต้ดิน
"ผ้ายันต์ผืนที่ 2 อยู่ที่ ภูเขาน้ำแข็งแห่งความโศกเศร้า..." บาระพึมพำขณะที่เธอกำลังศึกษาแผนที่โบราณที่มาวินนำมาให้ "ถ้าปีศาจยิ่งลึกเข้าไปยิ่งแข็งแกร่ง เราจะรอดไปถึงที่นั่นได้ยังไงคะมาวิน?" มาวินสวมชุดเจ้าชายเรียบร้อยแล้ว เขายืนขึ้นอย่างสง่างามและมองไปยังบาระและเร็นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น แต่ก็มีความกังวลฉายอยู่ "เจ้าพูดถูกบาระ" มาวินถอนหายใจยาว "การต่อสู้กับเจ็ดอสุรกายในทางลับเมื่อครู่เป็นเพียง บททดสอบแรก เท่านั้น ปีศาจที่เฝ้าผ้ายันต์ผืนที่ 2 จะแข็งแกร่งกว่าขุนพลเงาที่เราเจอมาอย่างน้อยสิบเท่า" เขาหันไปมองกลุ่มผู้รอดชีวิตที่กำลังมองมาที่พวกเขาอย่างตั้งใจ หญิงชราคนหนึ่งชื่อ เอเลน่า ซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้อาวุโสในกลุ่ม เดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน "พวกเราทุกคนรู้ดีว่าหนทางข้างหน้าของพวกเจ้าอันตรายเพียงใด" เอเลน่าพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นแต่หนักแน่น "พวกเราไม่ได้เป็นแค่อาณานิคมของผู้รอดชีวิต แต่พวกเราคือ ผู้พิทักษ์ความรู้โบราณ ของอาณาจักรนี้! พวกเราจะช่วยพวกเจ้าเอง" เร็นมองไปที่เหล่าผู้รอดชีวิตที่ดูเหมือนพลเมืองธรรมดา "แต่... พวกคุณจะช่วยพวกเราได้ยังไงครับ?" มาวินยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "พวกเขาอาจจะไม่มีพละกำลังที่จะต่อสู้ แต่พวกเขาคือ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาคมและการต่อสู้โบราณ ที่ถูกสอนโดยบรรพบุรุษของข้า พวกเราตัดสินใจแล้ว... เราจะฝึกฝนพวกเจ้าอย่างไม่หยุดหย่อนเป็นเวลา 5 วัน 5 คืน! เราจะสอนทุกสิ่งที่เรารู้ก่อนที่พวกเจ้าจะออกเดินทางสู่ภูเขาน้ำแข็ง" บาระและเร็นมองหน้ากันด้วยความตกใจ การฝึกฝน 5 วัน 5 คืนโดยไม่หยุดพักฟังดูเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับร่างกายมนุษย์ แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก "พวกเราพร้อมค่ะ/ครับ!" ทั้งคู่ตอบพร้อมกันด้วยความมุ่งมั่น บทที่ 2: 5 วัน 5 คืนแห่งการหลอมรวม มาวินและเอเลน่าแบ่งการฝึกฝนออกเป็นสองส่วนหลัก: การต่อสู้และสัญชาตญาณ สำหรับเร็น และ คาถาอาคมและการควบคุมพลังงาน สำหรับบาระ โดยพวกเขาใช้ห้องโถงแห่งพันธะนี้เป็นโรงฝึก โดยมีผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ ผลัดกันมาช่วยสอนและดูแลตลอด 120 ชั่วโมงที่กำลังจะมาถึง วันที่ 1: รากฐานและความอดทน เช้า (มาวิน - เร็น): * การวิ่งและการหลบหลีกในที่มืด: มาวินสั่งให้เร็นวิ่งรอบห้องโถงที่ถูกปิดไฟทั้งหมด โดยมีมาวินคอยขว้างวัตถุเล็ก ๆ ใส่เขาอย่างต่อเนื่อง * บทพูด (มาวิน): "เร็วอีกเร็น! ความสามารถพิเศษของนักกีฬาคือ ความเร็วและการตอบสนองต่อแสงและเสียง! นายต้องเรียนรู้ที่จะใช้สัญชาตญาณแทนดวงตา! ในความมืดมิด นายต้อง เป็นเงา ไม่ใช่เป้าหมาย!" * การฟื้นฟูร่างกาย: เร็นต้องเรียนรู้เทคนิคการหายใจและการยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว เพื่อลดผลกระทบจากความเหนื่อยล้าหลังการปะทะ (ใช้ประสบการณ์การเป็นนักกีฬา) บ่าย/เย็น (เอเลน่า - บาระ): * พื้นฐานพลังงาน: บาระเรียนรู้ที่จะสัมผัสถึง พลังชีวิต (Aura) ของตนเองและสิ่งรอบข้าง เธอต้องเรียนรู้ที่จะ 'มองเห็น' ปีศาจแม้ในความมืดมิดโดยไม่ต้องใช้คาถา * บทพูด (เอเลน่า): "พลังอาคมไม่ใช่แค่การร่ายคาถา! บาระ! มันคือการ ควบคุมลมหายใจและสติ เจ้าต้องร่ายคาถาพื้นฐานได้โดยไม่ต้องเปิดสมุดอาคม! คาถาแสงสว่าง ต้องออกจากนิ้วมือเจ้าได้ทันทีโดยไม่ต้องคิด!" * การจดจำคาถา: บาระต้องเริ่มจดจำ คาถาลับโบราณ ที่ซับซ้อนกว่าคาถาที่เธอรู้ โดยเฉพาะ "คาถาผนึกเสียง" เพื่อใช้ซ่อนตัวจากการรับฟังของปีศาจ กลางคืน (ร่วม): * ทฤษฎีปีศาจ: ผู้รอดชีวิตกลุ่มอื่น ๆ มานั่งรวมกันและเล่าถึง พฤติกรรมและจุดอ่อน ของเงาปีศาจชั้นสูงที่พวกเขาเคยสังเกตเห็นก่อนที่จะถอยหนีมาที่นี่ วันที่ 2: การควบคุมและการประสานงาน เช้า (มาวิน - เร็น): * การใช้มีดอาคม (ต่อยอดจากผ้ายันต์): เร็นฝึกการฟันและแทงด้วยมีดอาคมของเขาให้ แม่นยำ ที่สุด โดยเน้นการแทงเข้าที่ จุดพลังงาน ของศัตรู (ตามที่ผ้ายันต์เผยให้เห็น) * บทพูด (เร็น): "การแทงทะลุหัวใจมันคือการจบเกม! ผมจะไม่มีวันพลาดอีก!" เร็นตะโกนขณะที่เขาแทงมีดเข้าใส่เป้าจำลองที่ทำจากก้อนหินอย่างรวดเร็ว บ่าย/เย็น (มาวิน - บาระ): * คาถาเคลื่อนย้ายและป้องกัน: มาวินสอนบาระให้ใช้คาถาในการ สร้างกำแพงพลังงานเคลื่อนที่ได้ เพื่อป้องกันตนเองและเร็นในขณะที่เร็นกำลังเข้าจู่โจม ซึ่งแตกต่างจากอาณาเขตป้องกันแบบตายตัวที่เธอเคยใช้มา * บทพูด (มาวิน): "เมื่อเร็นเข้าโจมตี เจ้าต้องเป็น โล่ ให้เขาได้ทันที! กำแพงพลังงานต้องตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของเจ้าและเร็น! จงอย่าให้ช่องว่างเกิดขึ้นแม้แต่วินาทีเดียว!" กลางคืน (เอเลน่า - บาระ): * คาถาฟื้นฟูเร่งด่วน: บาระต้องฝึกร่ายคาถารักษาอย่างรวดเร็วและใช้พลังงานน้อยที่สุด เพราะในสถานการณ์จริง เธอไม่มีเวลาพักนานเป็นชั่วโมงเหมือนครั้งแรกที่รักษาเร็น วันที่ 3: ความทนทานและความมืดมิดที่แท้จริง เช้า (เร็น): * การต่อสู้โดยไม่มีแสงสว่าง: มาวินบังคับให้เร็นเข้าปะทะกับ ผู้ฝึกสอน ที่สวมเสื้อผ้าสีดำสนิทในห้องที่มืดสนิท เร็นต้องพึ่งพา เสียงลมหายใจ และ กลิ่น ของศัตรูเท่านั้น * บทพูด (มาวิน): "เจ้าต้องทำลายการพึ่งพาสายตา! เงาปีศาจไม่มีกลิ่นและไม่มีเสียงลมหายใจที่ชัดเจน! แต่พวกมันมีการ สั่นสะเทือน ของพลังงาน! เรียนรู้ที่จะสัมผัสมันด้วยผิวหนังของเจ้า!" บ่าย/เย็น (บาระ): * การผสานผ้ายันต์: บาระฝึกใช้ ผ้ายันต์ผืนที่ 1 ร่วมกับคาถาของเธอเพื่อเพิ่มพลังการโจมตีและการป้องกันเป็นสองเท่า เธอต้องสามารถเปลี่ยนผ้ายันต์จากเครื่องป้องกันไปเป็น อาวุธเสริม ได้ทันที * บทพูด (บาระ): "พลังของการปกป้องยังไงก็ไม่พอ... ฉันต้องเปลี่ยนมันให้เป็น คลื่นพลังโจมตี ได้!" เธอฝึกร่ายคาถาที่ทำให้ผ้ายันต์ปล่อยคลื่นพลังออกมาผลักดันศัตรู กลางคืน (เอเลน่า - ทั้งคู่): * การเดินทัพและอาคมพรางตัว: ทั้งคู่ถูกสอนให้เดินอย่างเงียบเชียบและใช้คาถาพรางตัวร่วมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับปีศาจที่ไม่จำเป็น (การรักษาพลังงาน) วันที่ 4: การจำลองการต่อสู้และขีดจำกัด ทั้งวัน (มาวินและเร็น): * การจำลองสถานการณ์ 7 อสุรกาย: มาวินและผู้ฝึกสอนใช้คาถาและกลไกง่าย ๆ เพื่อ จำลองการโจมตี ของเจ็ดอสุรกายที่พวกเขาเคยเจอมา เร็นต้องจัดการกับพวกมันทีละตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีบาระคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง * บทพูด (มาวิน): "ปีศาจคลื่นเสียง! ปัด! ปีศาจพิษ! โล่! เร็วเข้าเร็น! นายต้องตอบสนองได้ในเสี้ยววินาที!" * ความอ่อนล้าขั้นสูงสุด: เร็นถูกผลักดันจนถึงขีดจำกัดทางร่างกาย เขาแทบจะทรุดตัวลงด้วยความอ่อนเพลีย แต่การสนับสนุนทางจิตใจจากบาระและการตะโกนของมาวินทำให้เขายืนหยัดได้ ทั้งวัน (มาวินและบาระ): * คาถาแห่งการทำลายล้างชั่วคราว: บาระฝึกร่าย คาถาที่รุนแรงที่สุด เท่าที่เธอจะใช้ได้ โดยมีมาวินคอยควบคุมไม่ให้เธอใช้พลังงานอาคมจนเกินขีดจำกัด คาถานี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ทำลายเกราะ ป้องกันของปีศาจชั้นสูงในระยะประชิด * บทพูด (บาระ): "ข้าขอปลดปล่อย... พลังแห่งการแตกสลาย... จงพังทลาย!" เธอร่ายคาถาจนร่างกายสั่นสะท้าน และแสงสีม่วงเข้มก็พุ่งเข้าใส่เป้าหมายจำลองจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ วันที่ 5: การเชื่อใจและการผสานวิญญาณ ทั้งวัน (เร็น & บาระ): * การฝึกผสาน (The Pact Drill): วันนี้คือบทสรุปของการฝึกทั้งหมด บาระและเร็นต้องร่วมกันต่อสู้กับ มาวิน โดยมีผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ คอยสร้างความวุ่นวายรอบตัว * มาวินใช้ทักษะดาบที่ว่องไวและพลังอาคมที่เหนือกว่าเพื่อกดดันพวกเขาอย่างหนัก * เร็น: ต้องเข้าโจมตีและถอยกลับตาม สัญญาณทางจิต ที่บาระส่งให้ * บาระ: ต้องร่ายคาถาป้องกันและโจมตีตาม การเคลื่อนไหว ของเร็น โดยไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด * บทพูด (เร็น): "บาระ! ป้องกันทางขวา!" เร็นตะโกน แม้คำพูดจะออกมาจากปาก แต่บาระก็ร่ายคาถาได้ก่อนที่เขาจะพูดจบ * บทพูด (บาระ): "มาวิน! พวกเราจะไม่แพ้!" ในที่สุด หลังจากการต่อสู้จำลองที่ยาวนานและหอบเหนื่อย เร็นและบาระก็สามารถร่วมกันเอาชนะมาวินได้ด้วยการผสานระหว่างมีดอาคมของเร็นและคาถาผนึกชั่วคราวของบาระ มาวิน ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ เขาล้มตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง "ยอดเยี่ยม... พวกเจ้าพร้อมแล้ว" เอเลน่า ก้าวเข้ามาพร้อมกับผ้าขนหนูและน้ำดื่ม "พวกเจ้าผ่านบททดสอบที่โหดร้ายที่สุดแล้ว... เจ้าคือความหวังที่แท้จริงของอาณาจักรนี้" เร็นและบาระมองหน้ากัน ร่างกายของพวกเขาทุกส่วนรู้สึกเจ็บปวดและอ่อนล้าอย่างที่สุด แต่ดวงตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วย พลังและความมั่นใจ ที่ไม่เคยมีมาก่อน "มาวิน... เราจะออกเดินทางเมื่อไหร่คะ?" บาระถามด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว "รุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้... เราจะไปหา ผ้ายันต์ผืนที่ 2 ที่ภูเขาน้ำแข็งแห่งความโศกเศร้า" มาวินตอบ "แต่ก่อนอื่น... ข้าต้องพาพวกเจ้าไปพบกับเพื่อนของเจ้าที่ถูกกักตัวไว้ก่อน"หลังจากที่เร็นช่วยบาระออกมาจากกับดักที่ปีกทิศใต้ได้สำเร็จ ทั้งคู่รีบออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ หอสังเกตการณ์ทิศใต้ ซึ่งเป็นที่ซ่อนของผ้ายันต์ผืนสุดท้าย พวกเขาใช้ แผนที่สู่จุดเริ่มต้น ที่ได้จากบาลาซาร์เป็นเครื่องนำทาง"แผนที่บอกว่าเราต้องผ่านซากปรักหักพังเก่า ๆ ทางทิศใต้ไปอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง" บาระกล่าวขณะที่ใช้แท่นแก้วใส (กุญแจอาคม) ชี้ทิศทางเร็นพยักหน้า "ต้องระวังให้มาก บาระ พวกเงาปีศาจรู้แล้วว่าเรากำลังจะถึงจุดสุดท้ายของการรวบรวมผ้ายันต์ พวกมันจะส่งทุกอย่างที่มีมาขวางทางเราแน่"เมื่อพวกเขาเดินเข้าสู่บริเวณที่เป็นซากปรักหักพังที่มีกำแพงหินสูงใหญ่เรียงรายอยู่มากมาย ทันใดนั้น แสงรอบตัวก็พลันบิดเบือน พวกเขารู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน ภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว"เร็น! นี่มันไม่ใช่แค่ซากปรักหักพัง!" บาระอุทานด้วยความตื่นตระหนก "กำแพงมันเปลี่ยนทิศทาง! เราถูกดึงเข้ามาในอาณาเขตอาคม!"พวกเขาพบว่าตัวเองยืนอยู่กลาง เขาวงกตที่ไร้จุดสิ้นสุด ที่ทำจากกำแพงหินสีดำขัดเงาสูงเสียดฟ้า กำแพงเหล่านี้ไม่ได้อยู่นิ่ง แต่ เลื่อนและเปลี่ยนตำแหน่ง ได้เองตามความตั้งใจของพลังงานมืดมิด"เขาวงกต! นี่คือ เขาวงกตแห
เร็นและบาระใช้ กุญแจอาคม ที่ได้มาจากบาลาซาร์ในการเปิดประตูมิติที่นำไปสู่ สวนต้องห้าม (The Forbidden Gardens) สวนแห่งนี้ไม่ได้มืดมิดเหมือนปราสาท แต่กลับสวยงามอย่างน่าขนลุก ทุกอย่างเป็นสีเขียวมรกตและมีหมอกบาง ๆ ปกคลุมพวกเขาต้องฝ่าฟันกับ กับดักแห่งชีวิต ที่ซับซ้อน: พืชกินคน ที่มีพลังอาคม, ภูติพฤกษา ที่โจมตีด้วยภาพลวงตาแห่งความอุดมสมบูรณ์, และ ทางเดินที่บิดเบือน กาลเวลาในที่สุด พวกเขาก็มาถึงแท่นบูชาที่อยู่ใจกลางสวน ที่นั่น ผ้ายันต์ผืนที่ 4 (ผ้ายันต์แห่งการฟื้นฟูชีวิต) เรืองแสงสีทองอร่ามอยู่"เราทำได้แล้วเร็น!" บาระเอื้อมมือไปเก็บผ้ายันต์ไว้ในทันที พลังงานฟื้นฟู ที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังแผ่ออกมาจากผ้ายันต์ผืนนั้น ทำให้ความอ่อนล้าของพวกเขาบรรเทาลงทันที"ผืนที่สี่แล้วบาระ" เร็นยิ้มอย่างโล่งอก "เหลืออีกแค่ผืนเดียวเท่านั้น... ผ้ายันต์แห่งการหยุดยั้ง!"บทที่ 2: กับดักมรณะและการถูกจับกุมพวกเขาใช้เวลาพักฟื้นเล็กน้อยในสวนต้องห้าม และใช้ แผนที่สู่จุดเริ่มต้น ที่ได้จากบาลาซาร์นำทาง พวกเขาต้องเดินทางผ่าน ปีกทางทิศใต้ของปราสาท เพื่อไปยังผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่เชื่อว่าถูกซ่อนอยู่ในหอสังเกตการณ์ทิศใต้เมื่อ
เร็นและบาระปีนขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของหอคอยหลักของปราสาทอย่างทุลักทุเล หลังจากเอาชนะผู้บัญชาการเงา 10 ตนมาได้ พวกเขาทั้งเหนื่อยล้าแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ที่นั่นเป็นห้องขนาดใหญ่ มี คริสตัลเงาสีดำ ขนาดมหึมาลอยอยู่กลางอากาศ มันคือแหล่งพลังงานหลักที่แผ่ความมืดมิดไปทั่วปราสาทเมื่อพวกเขาเตรียมตัวที่จะใช้ ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ ทำลายคริสตัล ทันใดนั้น แสงสีทองอร่าม ก็พลันสาดส่องลงมาจากเพดานผู้พิทักษ์ ตนหนึ่งพลันปรากฏตัวขึ้น! เขาไม่ได้ดูเหมือนปีศาจเงาหรือภูตน้ำแข็ง แต่มีรูปลักษณ์ที่สง่างามราวกับ นักปราชญ์โบราณ ที่ล้อมรอบด้วยอักษรรูนสีทอง"จงหยุด ณ ที่แห่งนี้ ผู้ถูกเลือก" ผู้พิทักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจแต่แฝงไว้ด้วยความเมตตา "ข้าคือ 'บาลาซาร์' ผู้พิทักษ์แห่งความสมดุลและหอคอย! ข้ารู้ถึงเจตนาของพวกเจ้า... แต่การทำลายนั้นง่ายเกินไป""เราไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับท่าน บาลาซาร์" บาระกล่าวอย่างระมัดระวัง "เรามาเพื่อหา ผ้ายันต์ผืนที่ 4 และทำลายแหล่งพลังงานที่ชั่วร้ายนี้!"บาลาซาร์ยิ้มอย่างขมขื่น "ผ้ายันต์ผืนที่ 4 ไม่ได้อยู่ที่นี่... แต่มันถูกซ่อนอยู่ใน สวนต้องห้าม และมี กุญแจอาคม ที่จำเป็นในการเปิ
เร็นและบาระไม่ได้มุ่งหน้าสู่ สวนต้องห้าม ทันทีตามที่มาวินสั่ง หลังจากเดินทางผ่านอุโมงค์ลับและออกมาสู่ทางเดินหลักของปราสาท บาระหยุดชะงัก"เร็น... ฉันคิดว่าเราไม่ควรไปสวนต้องห้ามตอนนี้" บาระกล่าวขณะที่มองไปยังยอด หอคอยหลัก ที่สูงเสียดฟ้าของปราสาทที่ปกคลุมด้วยเงามืด"ทำไมล่ะบาระ? มาวินสั่งให้เราไป..." เร็นถามด้วยความแปลกใจ"พลังงานมืดมิดที่แผ่ออกมาจากหอคอยนั้น รุนแรงกว่าเดิมมาก" บาระอธิบาย "ฉันสัมผัสได้ว่าพวกมันกำลังใช้หอคอยนี้เป็น ศูนย์กลางพลัง ในการควบคุมปีศาจทั้งหมด! ถ้าเราไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4 ทันที โดยที่ปล่อยให้แหล่งพลังงานนี้ทำงานต่อไป... การต่อสู้ของเราก็จะไม่มีวันสิ้นสุด! เราต้องทำลายมันก่อน!"เร็นมองไปยังดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ในมือของเขา ดาบนั้นเรืองแสงสีม่วงอ่อน ๆ ราวกับตอบรับกับความมุ่งมั่นของบาระ"ถูกต้อง! เรามีอาวุธใหม่และทักษะใหม่ที่เพิ่งฝึกมา! เราจะทำลายแหล่งกำเนิดพลังงานนี้ก่อน แล้วค่อยไปหาผ้ายันต์ผืนที่ 4! ไปกันเถอะ... สู่หอคอย!"พวกเขาปีนขึ้นไปยังบันไดวนที่ทอดสู่ด้านบนของหอคอย แต่เมื่อพวกเขาเดินมาถึง ชั้นที่สาม ของหอคอย ทางเดินแคบ ๆ ก็พลันถูกสกัดกั้นด้วย ปีศาจเงา ถึง 10 ตน
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากการลงอาคมดาบแห่งพันธะสมบูรณ์เสร็จสิ้น มาวินได้เรียก จอมทัพเกรย์ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังรักษาพระองค์ที่เหลือรอดเพียงไม่กี่คน และ อดีตองครักษ์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธมาเข้าพบ"จอมทัพเกรย์!" มาวินออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ดาบแห่งพันธะสมบูรณ์ถูกสร้างขึ้นแล้ว! แต่ดาบที่ทรงพลังนี้จะเป็นเพียงเหล็กไร้ค่า หากผู้ใช้ไม่เชี่ยวชาญ! เจ้าจงใช้เวลา 5 วันเต็ม ในการฝึกฝนเร็นและบาระให้สามารถใช้ดาบนี้ได้อย่างคล่องแคล่วและรู้ถึงขีดจำกัดสูงสุดของมัน!"จอมทัพเกรย์เป็นชายร่างกำยำ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากการสู้รบ แต่ดวงตาของเขายังคงส่องประกายด้วยความภักดีและความมุ่งมั่น เขาคุกเข่าลงต่อหน้ามาวิน"พะยะค่ะ ฝ่าบาท! ข้าน้อยจะทำการฝึกฝนพวกเขาอย่างเข้มงวดที่สุด! พวกเขาจะพร้อมออกรบภายใน 5 วัน!"การฝึกฝนถูกจัดขึ้นในบริเวณที่กว้างที่สุดของห้องโถงแห่งพันธะ ที่นี่กลายเป็น สนามฝึกซ้อมชั่วคราว ที่เต็มไปด้วยเหงื่อไคลและความมุ่งมั่นบทที่ 2: การฝึกฝน 5 วันกับดาบแห่งพันธะสมบูรณ์เป้าหมายหลักของการฝึกฝน 5 วันนี้คือการทำให้เร็นสามารถใช้ดาบได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่า
มาวิน, เร็น, และบาระกลับมาถึงห้องโถงแห่งพันธะด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความสำเร็จ พวกเขามอบ แร่เหล็กแห่งเงาสะท้อน ที่มีประกายคล้ายกระจกให้แก่ไอรอนฮาร์ท ช่างตีเหล็กผู้ยิ่งใหญ่ไอรอนฮาร์ทรับแร่เหล็กนั้นไว้ด้วยความเคารพ เขาใช้มือที่หยาบกร้านสัมผัสผิวของแร่เหล็กราวกับมันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด"แร่นี้... เป็นเพียงชิ้นส่วนสุดท้ายที่ขาดหายไป" ไอรอนฮาร์ทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ "ข้าขอรับรองต่อหน้าเจ้าชายมาวินและผู้ถูกเลือกทั้งสอง... ข้าจะใช้เวลา 3 วันเต็มในการตีเหล็กให้ได้รูปทรง และอีก 1 วันเต็มในการลงอาคมแห่งพันธะสมบูรณ์!"มาวินพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม "ข้าฝากความหวังของอาณาจักรไว้ที่ท่านไอรอนฮาร์ท!""แล้วเราจะทำยังไงในช่วงสี่วันนี้คะ? เราควรไปหาผ้ายันต์ผืนต่อไปเลยไหม?" บาระถามด้วยความกระตือรือร้นมาวินส่ายศีรษะ "ไม่ได้บาระ... การบุกเข้าไปใน สวนต้องห้าม โดยไม่มีอาวุธที่สามารถผนึกพลังมืดมิดได้สมบูรณ์เป็นเรื่องที่อันตรายเกินไป"เอเลน่า ผู้อาวุโสแห่งอาคมก้าวเข้ามาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น "พวกเจ้ายังไม่ได้ใช้เวลาที่นี่อย่างคุ้มค่าเลย... พวกเจ้าอาจได้อาวุธ แต่ คาถาอาค







