แสงสีฟ้าอ่อนนุ่มนวลจากแร่ธาตุเรืองแสงส่องสว่างไปทั่วโถงถ้ำขนาดใหญ่ใน โลกใต้บาดาล ฮานา และ โกฮัน ยืนอยู่เบื้องหน้าทางเข้าที่สลักลวดลายวิจิตรบรรจง ด้านบนของทางเข้ามีอักขระโบราณเรืองแสงเขียนไว้ว่า "ห้องแห่งการฝึกฝน" พลังงานบริสุทธิ์ที่แผ่ออกมาจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ทำให้ร่างกายของพวกเขาสดชื่น แต่จิตใจก็ยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและกังวล
“เอาล่ะเด็กๆ” ภูติแห่งวารี กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงความจริงจัง “นี่คือสถานที่ที่พวกเจ้าจะฝึกฝนพลัง… และเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า” ฮานาก้มมองผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ผืนในมือที่ตอนนี้กลับมาเป็นสีขาวบริสุทธิ์อีกครั้ง “เราต้องควบคุมพลังของผ้ายันต์ที่ถูกแปดเปื้อนใช่ไหมคะ?” “ใช่แล้ว” ภูติแห่งวารีพยักหน้า “ผ้ายันต์เหล่านั้นได้ดูดซับพลังงานทั้งสองด้าน… หากพวกเจ้าสามารถควบคุมสมดุลของแสงและความมืดในตัวพวกมันได้… พวกมันก็จะกลายเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างแท้จริง” โกฮันมองเข้าไปในความมืดมิดของทางเข้าห้องฝึกฝน “แล้วเราต้องทำอะไรในนั้นบ้างครับ?” “ห้องฝึกฝนแห่งนี้แบ่งออกเป็นห้าส่วน แต่ละส่วนจะทดสอบความสามารถที่แตกต่างกัน” ภูติแห่งวารีอธิบาย “และในแต่ละห้อง… จะมี วิญญาณภูมิ ผู้พิทักษ์คอยนำทางและทดสอบพวกเจ้า” “วิญญาณภูมิ?” ฮานาทวนคำ “ใช่… พวกเขาคือดวงวิญญาณของผู้พิทักษ์สวนสนุกในอดีต… ผู้ที่ยังคงเฝ้าระวังภัยจากจอมมารแห่งเงามืด” ภูติแห่งวารีตอบ “พวกเขาจะช่วยชี้แนะและฝึกฝนพวกเจ้า… แต่ก็จงระวัง… บททดสอบของพวกเขานั้นไม่ง่ายเลย” “เราพร้อมแล้วครับ!” โกฮันกล่าวด้วยความมุ่งมั่น “เราจะฝึกให้หนักที่สุด เพื่อไปกำจัดจอมมารแห่งเงามืดให้ได้!” “ดีมาก!” ภูติแห่งวารียิ้ม “เช่นนั้นจงเข้าไปในห้องแรก… ห้องแห่งความเร็ว” ห้องแห่งความเร็ว: บททดสอบแรก ฮานาและโกฮันก้าวเท้าเข้าไปในห้องแห่งความเร็ว ทันทีที่พวกเขาเข้ามา ประตูทางเข้าก็พลันปิดลงเบื้องหลังพวกเขา ห้องนั้นกว้างขวางใหญ่โต ผนังทำจากหินสีดำสนิท ไร้ซึ่งแสงสว่างใดๆ นอกจากแสงสีฟ้าจางๆ ที่ส่องออกมาจากผ้ายันต์ในมือของฮานา และมีดอาคมของโกฮัน “ห้องนี้จะมืดไปไหนเนี่ย?” ฮานาพึมพำ เธอรู้สึกถึงความกดดันบางอย่างในอากาศ “ยินดีต้อนรับ… ผู้กล้าทั้งสอง” เสียงทุ้มต่ำ แต่แฝงไว้ด้วยความคล่องแคล่วว่องไวราวกับสายลม ดังขึ้นมาจากความมืดมิด เบื้องหน้าของพวกเขาจู่ๆ ก็มีร่างโปร่งแสงสีเขียวอ่อนปรากฏขึ้น มันเป็นร่างของนักรบหนุ่มที่มีรูปร่างสูงโปร่ง ผมยาวปลิวไสวราวกับกระแสลม ดวงตาของเขาส่องประกายสีฟ้าเข้ม “ข้าคือ วิญญาณแห่งวายุ ผู้พิทักษ์ห้องแห่งความเร็ว” วิญญาณตนนั้นกล่าว “ข้าจะทดสอบความเร็วของพวกเจ้า… ทั้งความเร็วของร่างกาย… และความเร็วของจิตใจ” “ความเร็วของจิตใจ?” โกฮันถาม “ใช่… ความสามารถในการตัดสินใจอย่างรวดเร็วในสถานการณ์คับขัน” วิญญาณแห่งวายุอธิบาย “แต่ก่อนอื่น… มาลองทดสอบความสามารถพื้นฐานของพวกเจ้ากันก่อน” ทันใดนั้นเอง! แสงสีเขียวอ่อนก็พลันส่องสว่างขึ้นมาจากพื้นห้อง เผยให้เห็นเส้นทางซับซ้อนที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางมากมาย! มีทั้งแท่งหินที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว ช่องแคบที่ต้องเบียดตัวผ่าน และกระแสลมที่พัดรุนแรงจนแทบยืนไม่อยู่ “ภารกิจของพวกเจ้าคือ… วิ่งไปให้ถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางนี้ให้เร็วที่สุด” วิญญาณแห่งวายุกล่าว “และจงจำไว้… หากพวกเจ้าสัมผัสสิ่งกีดขวางแม้เพียงเล็กน้อย… พวกเจ้าจะถูกส่งกลับมายังจุดเริ่มต้นทันที” “ง่ายนิดเดียว!” โกฮันกล่าวอย่างมั่นใจ เขาเคยผ่านการฝึกฝนร่างกายมาอย่างหนัก เขาเชื่อในความเร็วของตัวเอง “อย่าเพิ่งประมาท… เจ้าหนู” วิญญาณแห่งวายุยิ้มบางๆ “จงเริ่มได้!” การทดสอบครั้งแรก: ความประมาทที่ต้องแลกด้วยความเจ็บปวด ทันทีที่วิญญาณแห่งวายุให้สัญญาณ โกฮันก็พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนู เขาวิ่งหลบหลีกแท่งหินที่พุ่งขึ้นมาอย่างคล่องแคล่ว กระโดดข้ามช่องว่างอย่างแม่นยำ ฮานาที่ตามมาทีหลังก็วิ่งอย่างระมัดระวัง พยายามใช้ผ้ายันต์ในมือเพื่อช่วยนำทาง “สบายมาก!” โกฮันตะโกนด้วยความมั่นใจ แต่ในขณะที่เขากำลังจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของเส้นทาง แท่งหินขนาดใหญ่ก็พลันพุ่งขึ้นมาจากพื้นตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็วเกินคาด โกฮันพยายามจะหลบ แต่ก็ไม่ทัน ปลายแท่งหินขูดเข้าที่สีข้างของเขาอย่างจัง! ฟิ้วววว! ร่างของโกฮันก็พลันหายไป! และปรากฏขึ้นอีกครั้งที่จุดเริ่มต้นของเส้นทาง “อ๊าก! อะไรกันเนี่ย!?” โกฮันอุทานด้วยความเจ็บปวดและตกใจ “ทำไมฉันถึงกลับมาอยู่ตรงนี้!?” “เจ้าสัมผัสสิ่งกีดขวาง… แม้เพียงเล็กน้อย” วิญญาณแห่งวายุกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “จงจำไว้… ที่นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น… ความประมาทเพียงชั่ววินาที… อาจนำไปสู่ความตายได้” ฮานามองโกฮันด้วยความเป็นห่วง เธอเองก็เกือบจะชนสิ่งกีดขวางไปหลายครั้งแล้วเช่นกัน แต่ก็สามารถหลบได้หวุดหวิด “เอาใหม่! คราวนี้ฉันจะระวังให้มากกว่าเดิม!” โกฮันกล่าวด้วยความมุ่งมั่น เขาพุ่งตัวออกไปอีกครั้ง คราวนี้ระมัดระวังมากขึ้น แต่เขาก็ยังคงถูกส่งกลับมาที่จุดเริ่มต้นอีกครั้งแล้วครั้งเล่า! บางครั้งก็ชนแท่งหิน บางครั้งก็สะดุดกระแสลม บางครั้งก็กะจังหวะกระโดดพลาด ฮานาก็เช่นกัน เธอพยายามวิ่งอย่างระมัดระวัง แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านไปได้ เธอรู้สึกว่าเส้นทางนั้นซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนคาดเดาได้ยาก “นี่มัน… ยากกว่าที่คิดเยอะเลย!” ฮานาหอบหายใจอย่างหนัก “พวกเจ้าใช้เพียงความเร็วของร่างกาย… แต่ยังไม่ได้ใช้ความเร็วของจิตใจ” วิญญาณแห่งวายุกล่าว “จงพยายามทำความเข้าใจกับเส้นทาง… อย่าแค่พุ่งชนไปข้างหน้าอย่างเดียว” การฝึกฝนอันแสนสาหัส: การหลอมรวมกายและใจ ฮานาและโกฮันต้องเผชิญกับการทดสอบความเร็วซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาถูกส่งกลับมาที่จุดเริ่มต้นนับครั้งไม่ถ้วน แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ “ดูเหมือนว่าเจ้าปีศาจนี่มันจะสลับรูปแบบสิ่งกีดขวางไปเรื่อยๆ นะฮานา!” โกฮันตะโกน ขณะที่เขากำลังวิ่งหลบแท่งหินที่พุ่งขึ้นมา “ใช่! บางทีมันก็เร็ว บางทีก็ช้า! ต้องเดาจังหวะให้ถูก!” ฮานาตอบ เธอพยายามสังเกตการเคลื่อนไหวของสิ่งกีดขวางอย่างละเอียด วิญญาณแห่งวายุก็เฝ้ามองพวกเขาอย่างเงียบๆ บางครั้งเขาก็ให้คำแนะนำสั้นๆ “จงฟังเสียงลม… จงรู้สึกถึงกระแสพลังงาน… จงเป็นหนึ่งเดียวกับเส้นทาง” “เสียงลม… กระแสพลังงาน…” ฮานาพึมพำ เธอหลับตาลงเล็กน้อย พยายามใช้สัมผัสอื่นที่ไม่ใช่แค่สายตา เธอรู้สึกได้ถึงกระแสลมที่พัดผ่านตัวเธอ กระแสพลังงานที่แผ่ออกมาจากสิ่งกีดขวางแต่ละชิ้น ทันใดนั้นเอง! แสงสีฟ้าอ่อนจากผ้ายันต์ในมือของเธอก็พลันเรืองรองขึ้นเล็กน้อย! เธอรู้สึกว่าผ้ายันต์กำลังเชื่อมโยงกับพลังงานรอบตัวเธอ ทำให้เธอสามารถ “สัมผัส” การเคลื่อนไหวของสิ่งกีดขวางล่วงหน้าได้เล็กน้อย! “โกฮัน! ฉันรู้สึกได้ถึงมัน!” ฮานาตะโกน “มันไม่เกี่ยวกับแค่ความเร็วของร่างกาย! มันเกี่ยวกับความรู้สึก! ความเชื่อมโยง!” โกฮันมองฮานาด้วยความประหลาดใจ “อะไรนะฮานา?” “ลองเชื่อในสัมผัสของนายดูสิ!” ฮานาบอก “อย่ามองแค่ด้วยตา! รู้สึกถึงมัน!” โกฮันพยักหน้า เขาลองทำตามที่ฮานาบอก เขาหลับตาลงชั่วขณะ แล้วพุ่งตัวออกไปอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่ได้มองสิ่งกีดขวางด้วยตาอย่างเดียว แต่เขาพยายาม “รู้สึก” ถึงการเคลื่อนไหวของพวกมัน และเขาก็รู้สึกได้ถึงกระแสลมที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยก่อนที่แท่งหินจะพุ่งขึ้นมา หรือก่อนที่ช่องแคบจะปิดลง “ฉันทำได้! ฉันรู้สึกได้แล้ว!” โกฮันอุทานด้วยความตื่นเต้น เขาสามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างคล่องแคล่วและแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม พวกเขาฝึกฝนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งร่างกายและจิตใจของพวกเขาเริ่มประสานเป็นหนึ่งเดียว ฮานาใช้ผ้ายันต์ในการสัมผัสถึงกระแสพลังงาน และโกฮันใช้มีดอาคมในการแหวกทางและทำลายสิ่งกีดขวางบางอย่างที่ขวางทางได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาเริ่มสื่อสารกันโดยไม่ต้องใช้คำพูด เพียงแค่สบตากันก็เข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร บททดสอบสุดท้าย: การประสานงานและจิตใจที่เด็ดเดี่ยว หลังจากผ่านการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาหลายชั่วโมง ร่างกายของฮานาและโกฮันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าของพวกเขาซีดเซียว แต่แววตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งกว่าเดิม “เอาล่ะ… ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะเริ่มเข้าใจแล้ว” วิญญาณแห่งวายุกล่าว “เช่นนั้น… จงมาเผชิญหน้ากับบททดสอบสุดท้าย!” ทันใดนั้นเอง! ผนังห้องแห่งความเร็วก็พลันยุบตัวลง เผยให้เห็นเส้นทางที่ยาวและซับซ้อนกว่าเดิมหลายเท่า! สิ่งกีดขวางทุกชนิดปรากฏขึ้นพร้อมกันจากทุกทิศทาง ทั้งแท่งหินแหลมคมที่พุ่งออกมาจากผนังและพื้น กระแสลมที่รุนแรงจนสามารถพัดคนให้ลอยขึ้นไปได้ และช่องแคบที่แคบลงจนแทบจะผ่านไม่ได้ “ภารกิจสุดท้าย… คือการผ่านเส้นทางนี้โดยไม่ถูกสัมผัสแม้แต่น้อย… และที่สำคัญ… พวกเจ้าต้องผ่านไปพร้อมกัน!” วิญญาณแห่งวายุประกาศ “หากมีคนใดคนหนึ่งล้มเหลว… พวกเจ้าจะต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด!” ฮานาและโกฮันมองหน้ากัน พวกเขารู้ว่านี่คือบททดสอบที่แท้จริงของการประสานงานและเชื่อใจกัน “พร้อมนะฮานา?” โกฮันถาม “พร้อมแล้วโกฮัน!” ฮานาตอบ “จงเริ่มได้!” วิญญาณแห่งวายุให้สัญญาณ ฮานาและโกฮันพุ่งตัวออกไปพร้อมกันราวกับเงาเดียว พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและพร้อมเพรียง โกฮันใช้มีดอาคมฟันทำลายแท่งหินที่ขวางทาง พลางคอยกันกระแสลมให้ฮานา ในขณะที่ฮานาก็ใช้ผ้ายันต์ในการสัมผัสถึงพลังงาน และนำทางโกฮันให้หลบหลีกสิ่งกีดขวางที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ “ซ้าย! โกฮัน!” ฮานาตะโกน เมื่อสัมผัสได้ถึงแท่งหินที่กำลังจะพุ่งขึ้นมาจากด้านซ้าย โกฮันหักเลี้ยวซ้ายอย่างรวดเร็ว หลบแท่งหินได้อย่างหวุดหวิด “ลมแรง! ข้างหน้า!” โกฮันเตือน เมื่อรู้สึกถึงกระแสลมที่กำลังจะพัดเข้ามาจากด้านหน้า ฮานารีบใช้ผ้ายันต์สร้างเกราะพลังงานสีดำอ่อนๆ ขึ้นมาปกป้องพวกเขาจากแรงลม และพวกเขาก็ฝ่ากระแสลมนั้นไปได้อย่างปลอดภัย พวกเขาเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ผ่านสิ่งกีดขวางนับร้อยนับพันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ การประสานงานของพวกเขาสมบูรณ์แบบ ไม่มีใครนำหน้าหรือล้าหลังกว่าอีกฝ่าย ทุกการเคลื่อนไหวล้วนเป็นไปอย่างสอดคล้องกัน จนกระทั่ง! พวกเขาก็มาถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทาง! ฟิ้วววว! ลมที่เคยพัดอย่างบ้าคลั่งก็พลันสงบลง แท่งหินที่เคยพุ่งขึ้นก็จมหายไปในพื้นดิน ผนังห้องกลับคืนสู่สภาพเดิม ห้องแห่งความเร็วกลับคืนสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง ฮานาและโกฮันทิ้งตัวลงกับพื้นด้วยความอ่อนล้าอย่างถึงที่สุด พวกเขาหอบหายใจอย่างหนัก แต่รอยยิ้มก็พลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา “เรา… เราทำได้แล้ว!” ฮานาพูดเสียงแผ่ว “ใช่! เราทำได้แล้ว!” โกฮันเสริม วิญญาณแห่งวายุปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา ดวงตาของเขาส่องประกายด้วยความพึงพอใจ “ยอดเยี่ยมมาก… เด็กๆ” เขาชมเชย “พวกเจ้าได้แสดงให้เห็นถึงความเร็วที่แท้จริง… ทั้งความเร็วของร่างกาย… และความเร็วของจิตใจ… และที่สำคัญที่สุด… คือความสามารถในการประสานงานและเชื่อใจซึ่งกันและกัน” “นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดในการต่อสู้กับจอมมารแห่งเงามืด” วิญญาณแห่งวายุกล่าวต่อ “เพราะมันจะพยายามจะเล่นงานจุดอ่อนของพวกเจ้า… ความกลัว… ความไม่เชื่อใจ… และความโดดเดี่ยว” “ขอบคุณมากครับท่านวิญญาณแห่งวายุ” โกฮันกล่าวด้วยความเคารพ “ขอบคุณมากเพคะ” ฮานาเสริม “บททดสอบของข้าจบลงแล้ว… พวกเจ้าผ่านการฝึกฝนในห้องนี้แล้ว” วิญญาณแห่งวายุกยิ้ม “จงไปสู่ห้องต่อไป… ห้องแห่งพละกำลัง… ที่นั่น… วิญญาณแห่งพสุธาจะรอพวกเจ้าอยู่” ทันใดนั้นเอง! ผนังอีกด้านหนึ่งของห้องก็พลันเปิดออก เผยให้เห็นทางเดินที่ทอดยาวไปสู่ความมืดมิด ฮานาและโกฮันพยักหน้าให้กัน พวกเขารู้ว่าการเดินทางยังอีกยาวไกล แต่ด้วยพลังที่เพิ่มขึ้น และความเข้าใจในผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พวกเขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับบททดสอบต่อไป!หลังจากผ่านการต่อสู้อันดุเดือดกับบริวารแห่งความมืด ฮานาและโกฮันก็มาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า หอคอยแห่งความมืด ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางสวนสนุกร้าง ตัวหอคอยสูงเสียดฟ้า ปกคลุมไปด้วยเงามืดทะมึนราวกับถูกสร้างขึ้นจากความสิ้นหวัง แสงสลัวๆ รอบๆ ไม่สามารถส่องเข้าไปได้เลยแม้แต่น้อย มันดูดกลืนทุกสิ่งไว้ในความมืดมิด มีเพียงแสงเรืองรองสีแดงฉานจากดวงตาปีศาจที่ประดับอยู่ตามผนังหอคอยเท่านั้นที่กะพริบเป็นจังหวะ ราวกับกำลังจับจ้องพวกเขา กลิ่นอายความชั่วร้ายที่แผ่ออกมาทำให้รู้สึกอึดอัดและหนาวเหน็บไปถึงกระดูก“นี่แหละ… ที่ที่จอมมารแห่งเงามืดซ่อนผ้ายันต์สองผืนสุดท้ายไว้” ฮานากล่าว เสียงของเธอหนักแน่น แม้จะมีความกังวลฉายแววในดวงตา“มันดูน่ากลัวกว่าที่คิดเยอะเลยนะฮานา” โกฮันพึมพำ เขากำมีดอาคมแน่น แสงสีเทาจากมันส่องสว่างขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังงานด้านลบมหาศาล“ใช่… แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วโกฮัน” ฮานาตอบ เธอสอดส่องสายตาไปรอบๆ หอคอย “ท่านภูติแห่งวารีบอกว่ามีเงาปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดเฝ้าอยู่”“เราพร้อมแล้วฮานา! เราฝึกมาหนักเพื่อวันนี้!” โกฮันประกาศด้วยความมุ่งมั่น ดวงตาของเขาฉายแววกล้าหาญ “ไปกันเถอะ!”พวกเขาเ
แสงสีฟ้าอ่อนนวลตาห่อหุ้มร่างของ ฮานา และ โกฮัน ลอยขึ้นช้าๆ ผ่านโพรงถ้ำที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยเรืองแสง พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานบริสุทธิ์ของโลกใต้บาดาลที่ยังคงไหลเวียนอยู่ในกาย พลังงานที่ได้จากการฝึกฝนอย่างหนักในห้องต่างๆ ภายใต้การชี้แนะของเหล่าวิญญาณภูมิ“เรากลับมาแล้วฮานา…” โกฮันพึมพำ ดวงตาของเขาฉายแววความมุ่งมั่น“ใช่… ถึงเวลาที่เราจะต้องทำในสิ่งที่ต้องทำแล้วโกฮัน” ฮานาตอบ เสียงของเธอหนักแน่น ไม่มีความลังเลอีกต่อไป ผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดผืนในมือของเธอเปล่งแสงสีเทาอ่อนๆ ที่แสดงถึงพลังแห่งแสงและความมืดที่หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อร่างของพวกเขาพ้นจากปากโพรงถ้ำ แสงแดดที่เจิดจ้าก็สาดส่องกระทบดวงตา ทำให้พวกเขาต้องหรี่ตาลง สวนสนุกร้างที่เคยดูมืดมิดและน่ากลัว บัดนี้กลับมีแสงสว่างสลัวๆ ส่องเข้ามาจากด้านบน เผยให้เห็นซากปรักหักพังที่น่าเศร้าและบรรยากาศที่เงียบงันราวกับถูกทิ้งร้างมานานหลายศตวรรษ“พวกเจ้ากลับมาแล้ว…” เสียงใสราวระฆังแก้วของ ภูติแห่งวารี ดังขึ้น เบื้องหน้าพวกเขา ภูติแห่งวารีกำลังลอยอยู่เหนือพื้นดิน รายล้อมด้วยพลังงานแสงสีฟ้าอ่อนโยน“ท่านภูติแห่งวารี!” ฮานาและโกฮันกล่
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งการควบคุม ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว นี่คือบททดสอบสุดท้ายของการฝึกฝนในโลกใต้บาดาล แสงภายในห้องนี้แตกต่างจากทุกห้องที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง มันไม่ใช่แสงสีเดียว แต่เป็นแสงสีขาวดำที่สลับกันไปมาอย่างรวดเร็วราวกับชีพจรของจักรวาล พื้นห้องเป็นเหมือนตารางหมากรุกขนาดใหญ่ที่ช่องสี่เหลี่ยมสีขาวและดำเคลื่อนไหวและสลับตำแหน่งกันไม่หยุด กำแพงห้องทอดยาวขึ้นไปสูงลิบตาจนมองไม่เห็นเพดาน และมีกระแสพลังงานที่มองไม่เห็นไหลวนไปมา ทำให้รู้สึกถึงความสมดุลที่เปราะบางและพร้อมจะแตกหักได้ทุกเมื่อ บรรยากาศเงียบสงัดไร้เสียงใดๆ มีเพียงเสียงการเคลื่อนไหวของแสงและเงาที่สร้างความรู้สึกแปลกประหลาดและกดดัน“ห้องนี้… มันดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ฮานา” โกฮันกระซิบเสียงแผ่ว เขากำมีดอาคมแน่น แสงสีเทาที่เปล่งออกมาจากผ้ายันต์และมีดอาคมของพวกเขาส่องสว่างตัดกับแสงขาวดำในห้อง“ใช่… เหมือนมันกำลังเตือนว่าทุกอย่างมันต้องอยู่ในความสมดุล” ฮานาตอบ เธอพยายามตั้งสติ ผ้ายันต์ในมือของเธอกำแน่นทันใดนั้นเอง! แสงสีขาวดำที่สลับกันไปมาก็พลันรวมตัวกันเป็นร่างโปร่งแสงสีเทาอ่อน รูปร่างของเขาดูคล้ายชายชราผู้ทรงภูมิ มีเครายาวส
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งการแยกสมาธิ ด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นและความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ แสงภายในห้องนี้แตกต่างออกไปอีกครั้ง ที่นี่มืดมิดเกือบสนิท มีเพียงแสงสลัวๆ สีฟ้าอมเขียวคล้ายแสงออโรร่าที่เต้นระริกบนเพดานและผนังห้อง ทำให้เกิดเงาที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็ว พื้นห้องเต็มไปด้วยแท่นหินเล็กๆ นับไม่ถ้วนที่เรียงรายอยู่ไม่เป็นระเบียบ แต่ละแท่นมีอักขระโบราณที่ส่องแสงริบหรี่จารึกไว้ เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ไม่สามารถจับใจความได้ดังแว่วมาเป็นระยะๆ ชวนให้รู้สึกรบกวนสมาธิ“ห้องนี้ดูประหลาดกว่าห้องอื่นอีกนะฮานา” โกฮันพึมพำ เขากวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง มีดอาคมในมือของเขาส่องแสงสีเทาอ่อนๆ“ใช่… บรรยากาศมันชวนให้รู้สึกสับสนยังไงก็ไม่รู้” ฮานาตอบ เธอพยายามตั้งสติ ผ้ายันต์ในมือของเธอเปล่งแสงสีเทาเช่นกันทันใดนั้นเอง! แสงสลัวๆ บนเพดานก็พลันรวมตัวกันเป็นร่างโปร่งแสงสีม่วงเข้ม รูปร่างของเขาดูสง่างามคล้ายนักปราชญ์โบราณ เขามีผมสีขาวยาวสลวยผูกเป็นมวยไว้ด้านหลัง ดวงตาของเขาสุกใสราวกับดวงดาวที่มองเห็นทะลุปรุโปร่งทุกสิ่ง ในมือถือคัมภีร์เล่มเก่าที่เปล่งแสงเรื
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งการแยกสัมผัส ท่ามกลางความงุนงง แสงสว่างภายในห้องนี้ดูแปลกประหลาด มันเป็นแสงสีรุ้งที่หมุนวนไปมาอย่างช้าๆ ทำให้ภาพที่เห็นบิดเบี้ยวและพร่าเลือน ผนังห้องทำจากวัสดุโปร่งแสงที่ไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไร ทุกอย่างในห้องดูเลือนลางและไม่แน่นอน กลิ่นหอมแปลกๆ ลอยคละคลุ้งในอากาศ ชวนให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มและมึนงง“นี่มัน… ห้องอะไรกันเนี่ย?” ฮานาพึมพำ เธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยเมื่อมองแสงสีรุ้งที่หมุนวนไม่หยุด“ฉันก็ไม่แน่ใจฮานา… แต่บรรยากาศมันประหลาดมาก” โกฮันตอบ เสียงของเขามีอาการมึนงงเล็กน้อย เขากำมีดอาคมแน่น พยายามตั้งสติทันใดนั้นเอง! แสงสีรุ้งก็พลันรวมตัวกันเป็นร่างโปร่งแสงสีขาวบริสุทธิ์ รูปร่างคล้ายหญิงสาวงดงามราวกับนางฟ้า เธอมีปีกสีรุ้งโปร่งแสงขนาดใหญ่ ผมยาวสลวยสีเงินระยิบระยับ ดวงตาของเธอเป็นสีฟ้าใสราวกับท้องฟ้าไร้เมฆ และมีรัศมีอ่อนโยนแผ่ออกมาจากตัวเธอ“ยินดีต้อนรับ… ผู้กล้าทั้งสอง” เสียงใสราวกับเสียงกระดิ่งแก้วดังขึ้นในห้อง “ข้าคือ วิญญาณแห่งดารา ผู้พิทักษ์ห้องแห่งการแยกสัมผัส… ข้าจะทดสอบความสามารถในการแยกแยะของพวกเจ้า… ทั้งการแยกแยะประสาทสัมผัส… และการแยกแยะคว
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งพละกำลัง ด้วยความตื่นเต้นระคนความเหนื่อยล้าจากการฝึกฝนในห้องแห่งความเร็ว แสงสว่างภายในห้องนี้แตกต่างจากห้องก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ที่นี่สว่างไสวด้วยแสงสีส้มอมแดงที่ดูอบอุ่นและมั่นคง ผนังห้องเป็นหินแกรนิตสีเข้มแข็งแกร่ง มีรอยจารึกรูปค้อนและขวานโบราณประดับอยู่ทั่วไป กลิ่นดินและแร่ธาตุที่คุ้นเคยในโลกใต้บาดาลกลับเข้มข้นขึ้นในห้องนี้ ให้ความรู้สึกดิบและทรงพลัง“ดูเหมือนว่าห้องนี้จะไม่ได้เน้นความเร็วแล้วนะฮานา” โกฮันกล่าว เขากำหมัดแน่น รู้สึกถึงพละกำลังที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายหลังจากได้รับการเยียวยาจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์“ฉันก็ว่างั้น… บรรยากาศมันต่างกันลิบลับเลย” ฮานาตอบพลางกวาดตามองไปรอบๆ เธอยกผ้ายันต์ในมือขึ้น มันเปล่งแสงสีขาวนวลตัดกับแสงสีส้มอมแดงของห้องทันใดนั้นเอง! เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นราวกับแผ่นดินไหวก็ดังขึ้นมาจากมุมมืดของห้อง ร่างสูงใหญ่กำยำปรากฏตัวขึ้นช้าๆ มันเป็นร่างโปร่งแสงสีน้ำตาลเข้ม มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ผมของเขาสั้นเกรียน ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราดกดำ ดวงตาคมกริบราวกับหินผา ในมือถือค้อนขนาดมหึมาที่ดูหนักอึ้ง“ยินดีต้อนรับ… ผู้กล้าทั้งสอง” เสียงท