เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ แต่นิรมลกลับตื่นแต่เช้า เธอลงมาใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลให้กับวิญญาณแก้วตา และอธิษฐานในใจเพื่อเป็นการบอกกล่าว
‘วันนี้นิวจะเอาของไปคืนให้สามีคุณแก้วตาให้ได้นะคะ แล้วก็จะคุยเรื่องของลูกชายคุณแก้วตาให้บวชเณรด้วยค่ะ’
หลังจากใส่บาตรเสร็จเรียบร้อย นิรมลกลับขึ้นไปที่ห้อง ก็พบว่านรีนันท์ตื่นแล้ว กำลังค้นหาของในตู้เย็นอยู่
“นัท วันนี้เราไปที่ปทุมธานีกันอีกนะ พี่จะไปหาบ้านให้เจอ”
“ไปอีกเหรอพี่นิว”
นิรมลพยักหน้า
“ใช่ เมื่อวานนี้ภารกิจยังไม่เสร็จสิ้นนี่นา อ้อ...แล้วเมื่อวานผู้ชายคนนั้นเขาโทร. หาเธอหรือเปล่าล่ะนัท คนที่เธอให้เบอร์โทรศัพท์เขาไปน่ะ”
นรีนันท์ส่ายหน้าปฏิเสธ พูดยิ้มๆ กับพี่สาว
“เขาจะโทร. หานัทได้ยังไงล่ะพี่นิว ก็เบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไปของใครก็ไม่รู้นี่นา”
“อ้าว! นัท ทำไมทำแบบนั้นล่ะ...”
นรีนันท์โบกมือ ไม่อยากจะพูดกับพี่สาวต่ออีก เธอเดินหนีไปอีกทาง ก่อนจะบอกกับอีกฝ่าย
“เดี๋ยวนัทขอเวลาอาบน้ำแต่งตัวห้านาที พี่นิวก็ไปเตรียมตัวเหอะ”
นิรมลและนรีนันท์ลงมาข้างล่าง ขึ้นรถเตรียมตัวไปที่จังหวัดปทุมธานี นรีนันท์จัดการเปิด GPS เหมือนเดิม และพูดดังๆ ราวกับว่าอยากให้ใครสักคนได้ยินด้วย
“ขอให้วันนี้พี่นิวทำภารกิจให้สำเร็จด้วยเถอะ เดี๋ยวนัทจะได้ไปซื้อของให้พ่อกับแม่บ้าง สาธุ”
“ไปซื้ออะไรให้พ่อแม่ล่ะนัท ทำไมไม่บอกพี่”
นรีนันท์ยิ้มแหย พลาดไปเสียแล้ว ดันพูดให้พี่สาวรู้เรื่องก่อน
“คือ...พ่อกับแม่จะไปงานบวชลูกป้าค่ะ นัทเห็นว่าพ่อแม่ไม่มีชุดใหม่มาหลายปีแล้ว ก็เลยตั้งใจว่าจะเอาเงินเก็บไปซื้อเสื้อผ้าให้พ่อแม่ ไปเซอร์ไพรส์อะค่ะ”
“แหม ทีเรื่องแบบนี้ไม่ยอมบอกพี่ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าทำภารกิจสำเร็จ เดี๋ยวพี่จะพาไปห้างฯ แล้วจะช่วยออกเงินครึ่งหนึ่งก็แล้วกัน ดีไหม”
นรีนันท์ยิ้มกว้าง รีบขอบคุณพี่สาวก่อนที่จะเปลี่ยนใจ
“ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปกันดีกว่า จะได้รีบไปรีบกลับ”
ทั้งสองคนไปถึงบ้านของแก้วตาได้สำเร็จ เป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์สองชั้นเรียงติดกันเป็นสิบหลัง หญิงสาวเดินไปกดออดที่ประตูรั้ว เพียงครู่เดียวก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมา เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าเธอคือใคร นิรมลรีบถามก่อนที่ชายหนุ่มคนนั้นจะไล่เธอไปเสียก่อน
“ที่นี่...บ้านของพี่แก้วตา...ใช่ไหมคะ?”
“ใช่ คุณเป็นใคร? จะมาหาใคร ตอนนี้แก้วตาไม่อยู่แล้ว”
นิรมลหยิบซองน้ำตาลออกมาจากกระเป๋า กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอกลับได้ยินเสียงกระซิบข้างหูว่า
‘พี่กล้า แก้วเอาเงินกับสร้อยพระมาให้ สร้อยพระที่พี่ให้แก้วมาไง’
นิรมลพูดทวนคำตามเสียงกระซิบ ทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าหยุดชะงัก แววตามองมาที่นิรมลด้วยความสงสัย
“เธอพูดอะไร สร้อยพระของใคร”
“ใจเย็นก่อนค่ะพี่ คือนิวทำงานอยู่ที่บริษัทเดียวกันกับแก้วตาค่ะ ละ...แล้ว แก้วตาฝากให้นิวเอาของมาคืนให้พี่กล้าค่ะ”
นิรมลยื่นซองสีน้ำตาลให้ชายหนุ่มที่ชื่อเพชรกล้า แต่เขาก็ยังไม่รับซองนั้นมา ยังคงคิ้วขมวดด้วยความสงสัยดังเดิม
“น้องจะมาหลอกอะไรพี่หรือเปล่า แก้วตาคงไม่ฝากของใครมาหรอกมั้ง ปกติเขาเป็นคนขี้เกรงใจคนอื่น”
นิรมลนิ่ง หันมามองหน้านรีนันท์ที่นิ่งฟัง ระหว่างนั้นก็มีเสียงกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวอีกครั้ง
‘พี่กล้าเชื่อเถอะ สร้อยพระนี่ของหวงของพี่ไม่ใช่เหรอ พ่อของพี่ให้ไว้คุ้มครองรักษาตัวพี่ ตอนนี้แก้วไม่จำเป็นต้องใช้อีกแล้ว’
นิรมลพูดทวนตามเสียงกระซิบอีกครั้ง แต่ประโยคนี้กลับทำให้เพชรกล้านิ่งอึ้ง หญิงสาวตรงหน้ารู้ได้อย่างไรว่าสร้อยพระนี้เป็นของที่พ่อของเขาให้มา...
นิรมลยืนมองท่าทีของเพชรกล้า เธอเห็นว่าเขาเริ่มเอนเอียง ดูเหมือนว่าจะเชื่อสิ่งที่หญิงสาวเล่ามา แต่ก็ยังคงมีเสียงกระซิบที่ข้างหูของเธออีกว่า...
‘ฉันเคยคุยกับพี่กล้าว่าอยากให้ลูกชายบวชพระ เพื่อที่จะได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ แต่ตอนนี้ลูกชายฉันยังเล็กนัก ฉันอยากให้เขาได้บวชให้ฉันสักครั้งหนึ่ง’
วิญญาณแก้วตาพูดที่ข้างหูนิรมล หญิงสาวพูดทวนตามที่ได้ยิน ในขณะที่เพชรกล้ามีสีหน้าตกตะลึง และตกใจว่าหญิงสาวตรงหน้ารู้เรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างไร?
‘พี่กล้าไม่ใช่คนที่เชื่อเรื่องพวกนี้ ลองถามดูสิว่าถ้าวันหนึ่งแก้วเสียชีวิตไป พี่กล้าจะต้องไม่อยู่ที่บ้านหลังนี้แน่นอน เพราะเขาเคยบอกว่าบ้านหลังนี้พี่จะอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีแก้วอยู่ด้วย’
นิรมลพูดทวนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เพชรกล้านิ่งชะงัก ใบหน้าซีดเผือดราวกับว่าคำพูดคราวนี้โดนใจเขา หญิงสาวจึงยื่นซองสีน้ำตาลให้เขาอีกครั้ง
“แก้วตาฝากของพวกนี้มาให้คุณค่ะ ต่อไปสิ่งนี้จะมีค่ากับคุณมาก และขอให้ลูกชายบวชเณรตามความต้องการของเธอด้วยค่ะ”
นิรมลพูดเพียงแค่นี้ เธอพยักหน้าให้นรีนันท์แล้วขึ้นรถยนต์กลับ ในขณะที่เพชรกล้ากำลังยืนงง เขามองซองสีน้ำตาลในมือ ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดซองออกดูว่าคืออะไร
ของในซองนั้นคือสร้อยพระ และเงินสดจำนวนหนึ่งหมื่นบาท เขาพึมพำอย่างไม่เชื่อสายตาของตัวเอง
“สร้อย...กับเงินจริงๆ ด้วย น้องแก้ว”
เพชรกล้าหันมาทางรถยนต์ของนิรมลอีกครั้ง รถยนต์แล่นออกไปจากหน้าบ้านแล้ว เขารีบวิ่งออกไปแล้วตะโกนสุดเสียง ด้วยความหวังว่าคนในรถยนต์จะได้ยิน
“ขอบคุณมากนะครับ ผมจะทำตามที่แก้วต้องการทุกอย่าง”
เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นเช้าวันจันทร์ นิรมลถูกปลุกด้วยเสียงเคาะประตูของน้องสาว“พี่นิว ตื่นหรือยังคะ ตอนนี้เจ็ดโมงแล้วนะพี่ ไม่ไปทำงานเหรอคะ”นิรมลสะดุ้ง หันไปหยิบนาฬิกาเพื่อดูเวลา เจ็ดโมงแล้วจริงๆ แต่ในตอนนี้เธอรู้สึกปวดหัวจนไม่อยากจะลุกขึ้น ได้แต่นอนหลับตานิ่งๆ และในการหลับตาครั้งนี้ นิรมลได้เห็นอะไรบางอย่างอีกครั้ง เหมือนเธอฝันไปนิรมลเห็นภาพเหตุการณ์การเกิดอุบัติเหตุของเธอที่ผ่านมา รวมทั้งการได้พูดคุยกับยมบาลในครั้งก่อน และการที่เธอขอโอกาสในการย้อนกลับมา เพื่อตามหาว่าใครคิดทำร้ายเธอกันแน่!ก๊อก...ก๊อก...“พี่นิว นัทออกไปแล้วนะคะ เดี๋ยวจะไม่ทันรอบรถเมล์กลับบ้าน”“เฮ้ย!”นิรมลร้องอุทาน พร้อมกับรีบลุกขึ้นไปเปิดประตูทันที นรีนันท์ที่กำลังถือกระเป๋าเตรียมจะออกไปหันหน้ามามอง“นัทคิดว่าพี่นิวยังไม่ตื่นเสียอีก เมื่อวานพี่คงเหนื่อย นัทกลับแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ”นิรมลยังคงพูดอะไรไม่ออก จะคุยกับน้องสาวก็ไม่รู้ว่าจะเรียบเรียงคำพูดอย่างไร จึงได้แต่พยักหน้าอย่างเดียว นรีนันท์เดินออกจากห้องไป หญิงสาวมองตามหลั
นิรมลขับรถพานรีนันท์มาที่ห้างสรรพสินค้าตามสัญญาที่ให้ไว้ ทั้งสองคนช่วยกันเลือกซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้พ่อกับแม่คนละชุด นอกจากนี้นิรมลยังซื้อเสื้อผ้าเพิ่มให้ทั้งพ่อแม่และน้องสาวอีกคนละหนึ่งชุด“พี่นิวจะซื้อให้นัทใหม่อีกทำไมล่ะคะ เสื้อผ้านัทมีเยอะอยู่แล้ว สิ้นเปลืองเงินทองเปล่าๆ พ่อแม่รู้บ่นแน่เลย หาว่านัทขอให้พี่นิวซื้อให้”นิรมลยิ้มให้น้องสาว“ถือว่าเป็นของตอบแทนที่ไปเป็นเพื่อนพี่ก็แล้วกัน ถ้าพ่อแม่ว่าก็บอก เดี๋ยวพี่คุยเอง”ทั้งสองคนพี่น้องชี้ชวนกันเข้าร้านโน้นออกร้านนี้อย่างเพลิดเพลิน ในระหว่างที่นรีนันท์กำลังดูเสื้อผ้าอยู่นั้น อยู่ๆ พวกเธอก็ได้พบกับบุคคลที่ไม่คิดว่าจะพบเจอ“เอ๊ะ! นั่นพี่ชมพูหรือเปล่าพี่นิว มาซื้อของเยอะเสียด้วยสิ”นรีนันท์ชี้ให้นิรมลดู พี่สาวหันไปมองตามที่น้องสาวชี้ ทันได้เห็นชมพูนุทถือของพะรุงพะรังเดินผ่านมาพอดี ท่าทางจะไม่ได้สังเกตดูคนรอบข้าง นิรมลจึงเรียกเพื่อน“ชมพู!”ได้ผล...ชมพูนุทสะดุ้ง หันหน้ามาตามเสียงเรียกทันที“พี่ชมพูจริงด้วย สวัสดีค่ะ&rdq
เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ แต่นิรมลกลับตื่นแต่เช้า เธอลงมาใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลให้กับวิญญาณแก้วตา และอธิษฐานในใจเพื่อเป็นการบอกกล่าว‘วันนี้นิวจะเอาของไปคืนให้สามีคุณแก้วตาให้ได้นะคะ แล้วก็จะคุยเรื่องของลูกชายคุณแก้วตาให้บวชเณรด้วยค่ะ’หลังจากใส่บาตรเสร็จเรียบร้อย นิรมลกลับขึ้นไปที่ห้อง ก็พบว่านรีนันท์ตื่นแล้ว กำลังค้นหาของในตู้เย็นอยู่“นัท วันนี้เราไปที่ปทุมธานีกันอีกนะ พี่จะไปหาบ้านให้เจอ”“ไปอีกเหรอพี่นิว”นิรมลพยักหน้า“ใช่ เมื่อวานนี้ภารกิจยังไม่เสร็จสิ้นนี่นา อ้อ...แล้วเมื่อวานผู้ชายคนนั้นเขาโทร. หาเธอหรือเปล่าล่ะนัท คนที่เธอให้เบอร์โทรศัพท์เขาไปน่ะ”นรีนันท์ส่ายหน้าปฏิเสธ พูดยิ้มๆ กับพี่สาว“เขาจะโทร. หานัทได้ยังไงล่ะพี่นิว ก็เบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไปของใครก็ไม่รู้นี่นา”“อ้าว! นัท ทำไมทำแบบนั้นล่ะ...”นรีนันท์โบกมือ ไม่อยากจะพูดกับพี่สาวต่ออีก เธอเดินหนีไปอีกทาง ก่อนจะบอกกับอีกฝ่าย“เดี๋ยวนัทขอเวลาอาบน้ำแต่งตัวห้านาที พี่นิ
จนกระทั่งเช้าวันเสาร์ นิรมลตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำบุญใส่บาตร อุทิศส่วนกุศลให้กับแก้วตาและดวงวิญญาณอื่นๆ วันนี้เธอนัดเอกภพไว้ตอนแปดโมง เพื่อเดินทางไปยังบ้านของแก้วตาในระหว่างที่หญิงสาวกำลังล้างจานและเก็บของอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา เธอรีบเดินมารับสายโดยที่ไม่ได้มองว่าใครเป็นคนโทร. มาแต่...เสียงที่ดังมาตามสายกลับไม่ใช่เอกภพ แต่กลับกลายเป็นนรีนันท์ นิรมลรีบรับคำแล้วโทรศัพท์อีกครั้ง“น้องสาวของนิวมา ให้เขาขึ้นมาได้เลยนะคะ ห้องหนึ่งศูนย์หนึ่งสี่นะคะ ขอบคุณค่ะ”หลังจากวางสายได้ประมาณสิบนาที เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น นิรมลรีบเดินไปเปิดประตู“พี่นิว สวัสดีค่ะ”นรีนันท์ทักทาย เธอมาด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์แบบวัยรุ่น รวบผมมัดไว้ด้านหลังเป็นหางม้า นิรมลทักทายน้องสาวแล้วชวนให้ออกไปทำธุระข้างนอก“นัทมาได้เวลาพอดีเลย เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอก ไปหาบ้านคนคนหนึ่งที่ปทุมธานี นัทไปกับพี่หน่อยนะ”“อ้าว พี่นิว งั้นนัทขอเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม ขอเวลาห้านาที”นรีนันท์พูดแค่น
เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลมาทำงานตามปกติ ในวันนี้พนักงานส่วนใหญ่ใส่เสื้อผ้าสีดำกัน เนื่องจากในคืนนี้ทางบริษัทรับเป็นเจ้าภาพงานศพของแก้วตา นิรมลก็สวมใส่เสื้อสีดำเพื่อไปงานเช่นกันก่อนเริ่มทำงาน นิรมลนึกถึงคำร้องขอของแก้วตาขึ้นมาได้ เธอจึงเดินไปยังห้องพักของแม่บ้านที่ชั้นหนึ่ง ไม่มีใครอยู่ในห้อง หญิงสาวเดินไปที่ตู้ล็อกเกอร์ที่ใช้เก็บของ มองหาตู้เก็บของที่มีชื่อแก้วตา แต่ไม่สามารถเปิดได้เพราะมีกุญแจล็อกอยู่นิรมลมองซ้ายมองขวา หาอุปกรณ์ที่จะนำมางัดตู้ล็อกเกอร์ ระหว่างที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่นั้น มีแม่บ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพักแห่งนี้ มองหญิงสาวอย่างสงสัย“คุณทำอะไรคะ ต้องการอะไรหรือเปล่า”นิรมลชะงัก เริ่มอึกอัก มองซ้ายมองขวาเหมือนหาบางสิ่งบางอย่างอยู่ แม่บ้านยืนมองด้วยสีหน้าแปลกใจ หญิงสาวยืนนิ่ง ได้แต่บอกเสียงอ่อย“คะ...คือ...นิวอยากจะเปิดตู้ล็อกเกอร์ของแก้วตาค่ะ”“คุณจะเปิดตู้ล็อกเกอร์ของแก้วตาทำไมล่ะคะ มีอะไรหรือเปล่า”นิรมลนึกหาคำตอบ แล้วอยู่ๆ เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้“เมื่อวันก่อนที่แ
ทั้งสองคนแทบจะไม่ได้พบกันอีกเลยหลังจากเรียนจบ จนวันหนึ่งนิรมลได้พบชมพูนุทตอนกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวบริษัท“ชมพูจริงๆ ด้วย เธอมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ”นิรมลทักทายเพื่อนด้วยความดีใจ ชมพูนุทเองก็ยินดีที่ได้พบเจอเพื่อนอีกครั้ง แต่สีหน้าอีกฝ่ายดูเศร้าสร้อย หญิงสาวรีบถามเพื่อน“เป็นอะไรหรือเปล่าชมพู มีอะไรเล่าให้นิวฟังได้นะ”“ฉันหางานทำอยู่น่ะ นี่ฉันเป็นคนว่างงานมาสามเดือนแล้ว ไปสมัครงานไว้ก็ยังไม่มีที่ไหนเรียกไปทำเสียที ถ้าเดือนนี้ยังไม่มีงานทำอีก ฉันคงต้องกลับบ้านนอกแล้วละ”น้ำเสียงของชมพูนุทฟังดูน่าสงสารและน่าเห็นใจ นิรมลนิ่งคิด จะช่วยเหลือเพื่อนอย่างไรดีนะ แล้วหญิงสาวก็นึกอะไรขึ้นมาได้“ชมพูไปสมัครงานที่บริษัทของนิวสิ ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครประชาสัมพันธ์อยู่ ถ้าโชคดีเธออาจจะได้มาทำงานด้วยกันนะ”ชมพูนุทพยักหน้ารับคำ เธอไปสมัครงานที่บริษัทตามคำแนะนำของนิรมล และชมพูนุทก็ได้เข้ามาทำงานที่บริษัทด้วยกัน............................................เช้าวันรุ่งขึ้น นิรมลมาทำงานตามปกติ เธอลืมเรื่องราวท