เข้าสู่ระบบเดิมพันรักครั้งที่ 173/3“เออมินนี่ เปรมมันคบกับแก้วตาอยู่เหรอ” ไอถามฉัน ไอรู้จักเปรมอยู่แล้ว ส่วนแก้วตาเขาก็รู้จักฉันเพราะอย่างที่บอกว่าเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันก่อนจะมาเป็นแฟน ดังนั้นไอก็เป็นหนึ่งในเพื่อนไม่กี่คนที่รู้เรื่องแก้วตา ซึ่งคนที่รู้ก็จะมีเจต ไอ ลิตา แล้วก็จีจี้ ซึ่งเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันตอนมัธยมสี่คนนี้เป็นเพื่อนกลุ่มฉันและไม่มีทางที่จะหลุดปากพูดเรื่องแก้วตาอยู่แล้ว“ทำไมถึงถามแบบนั้นเหรอ” ฉันถามกลับคืนเพราะสองคนนั้นก็ดูเหมือนจะไม่มีทางโคจรมาคบกันได้หรอก ถึงแก้วตาจะชอบเปรมมานานแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าเปรมจะชอบเธอ เปรมเจ้ายศเจ้าอย่าง และเขารู้อยู่แล้วว่าแก้วตาเป็นลูกเมียน้อยพ่อฉัน“ก็วันก่อนที่ผับ เราเห็นว่าสองคนนั้นไปด้วยกันแล้วก็นัวพอสมควร”“มิกกี้ไปไหม” ไอสั่นหัวเบา ๆ แทนการตอบว่าไม่ไปกลับมา “มินนี่ก็ไม่รู้สิ ตั้งแต่ออกจากบ้านมาก็ไม่ได้คุยกับเปรมเลย มินนี่บล็อกเปมไปแล้วด้วย”“ถ้าคบกันนี่ว้าวเลยนะ คนอย่างไอ้เปรมอะ”“ว้าวมากเลยล่ะ ตั้งแต่เด็กเปรมแทบไม่เคยมองเห็นแก้วตาด้วยซ้ำต่อให้แก้วตาจะยืนตรงหน้าก็เถอะ” มันไม่ใช่คำพูดที่สะใจอะไรหรอก แต่ฉันอิงจากที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนโต
เดิมพันรักครั้งที่ 172/3“น้องมินนี่” ฉันยิ้มให้พี่จ๋า เพื่อนของพี่เรย์ เธอวนรถมาจอดด้านหน้าพอดี วันนี้ฉันจะไปมหาลัยกับเธอเพราะว่าเธอจะทำธุระแถวนั้นพี่เรย์เลยฝากพี่จ๋าไปส่งฉัน “ยังจะไปกับพี่อยู่ไหมจ๊ะ แฟนมารับแล้วนี่”“ไปค่ะ” ฉันตอบพี่จ๋าไปอย่างไม่สนใจเกียร์ พี่จ๋าฟอลไอจีฉัน ย่อมรู้อยู่แล้วว่าแฟนฉันเป็นใคร“ไม่ไปกับแฟนแล้วเหรอ”“ไม่ค่ะ ไปกับพี่จ๋าดีกว่า” ฉันเดินวนไปขึ้นรถพี่จ๋าแล้วทำเหมือนเกียร์ไม่มีตัวตน และเกียร์ก็ดูไม่ดันทุลังเท่าไหร่ เขาคงรู้งว่าควรจะปฏิบัติตัวยังไงในเวลานี้พี่จ๋าเป็นเพื่อนตอนเรียนป.ตรีใบที่สองของพี่เรมี่ แต่เธอเด็กกว่าพี่เรย์ประมาณสี่ปีนะ แก่กว่าฉันสองปี ตอนพี่ชายฉันกลับมาเมืองไทยแล้วก็เลยหาอะไรทำด้วยการเรียนปริญญาตรีอีกใบเพื่อประชดพ่อน่ะ เพราะถึงแม้ตอนนั้นมิกกี้จะเข้าเตรียมทหารไปแล้วแต่พ่อก็หวังให้พี่เรย์เรียนตำรวจอยู่ดีพี่ชายฉันจบปริญญาโทไปแล้วแต่ก็ยังมาเรียนปริญญาตรีอีกใบที่เป็นบริหาร ทำให้เพื่อนที่เรียนที่ไทยของเขาจะเด็กกว่าอย่างพี่เตอร์ พี่ไปร์ท พี่ชมพู พี่พลอย พี่จูน แต่ทุกคนแก่กว่าฉันนิดหน่อยเอง ปีนี้พี่จ๋าก็อายุยี่สิบสี่ ส่วนพี่เรย์ก็อายุยี่สิแปดแล้ว ฉ
เดิมพันรักครั้งที่ 171/3“เธอปล่อยมินนี่ไว้บ้านคนเดียว แทบไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันเลยมินนี่พยายามคิดว่าเธอทำงานแต่สุดท้ายเธอก็มาทำแบบนี้” ฉันเกือบจะมีน้ำตาออกมาแล้ว “ถ้าเธอไม่ทำตัวแบบนั้นมินนี่ก็คงไม่เช็กเธอหรอกเกียร์ รู้ไหมว่าการอยู่แบบระแวงมันอึดอัดนะ”“มินนี่เคยเชื่อใจเกียร์กว่านี้ เคยเข้าใจเกียร์กว่านี้ แต่ถ้าเธอจะอึดอัดขนาดนั้นจะไปจากที่นี่ก็ได้นะมินนี่” เขาไล่ฉันเหรอ เขาไล่ฉันใช่ไหม......ฉันไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจที่อยู่กับเขานะ แต่อึดอัดใจที่ต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มากกว่า ซึ่งฉันอยากให้เกียร์บอก หรือคุยกับฉันให้เข้าใจ ไม่ใช่แก้ปัญหาโดยการให้ฉันไปที่อื่นฉันมองตามแผ่นหลังเกียร์ที่เดินผ่านไปหลังจากพูดจบ เขาดูหงุดหงิดและงุ่นง่านใจ ส่วนฉันก็รู้สึกหน่วงแบบบอกไม่ถูก อาจจะเพราะฉันไม่คิดมั้งว่าเกียร์จะพูดกับฉันอย่างนี้เขาหายไปในห้องน้ำเข้าใจว่าอาจจะไปอาบน้ำก็ได้ ส่วนฉันก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบชุดมาสองสามชุดและชุดนักศึกษาเพื่อจะต้องใส่เรียนพรุ่งนี้ด้วยจะหาว่าฉันเล่นใหญ่ก็ได้นะ แต่เข้าใจความรู้สึกของการใช้อำนาจในการเป็นเจ้าของพื้นที่ไหม เกียร์ไล่ฉันแบบนี้ได้ กล้าพูดแบบนี้ได้เพราะเขาเป
เดิมพันรักครั้งที่ 163/3“พี่เขายังหามือกลองไม่ได้เลย อีกอย่างช่วงนี้ลูกค้าก็คิวแน่นมากอีก”“ค่ะ” ฉันตอบรับสั้น ๆ แล้วไม่ได้หันไปมองเขา“งอนเหรอ เกียร์ถามมาทั้งที่ก็รู้อยู่”“เปล่าหรอก ร้านคนเยอะนี่ รีบไปดูเถอะ” ฉันมีความน้อยใจปนอยู่ และหวังว่าเกียร์จะรับรู้ถึงความรู้สึกของฉัน แต่เปล่าเลย ฉันไม่รู้ว่าเขาออกไปตอนไหนเพราะฉันไม่ได้หันหลังไปมอง แต่ว่ารู้อีกทีเสียงรถก็ดังซึ่งบ่งบอกว่าเขาออกไปแล้วฉันถอนหายใจก่อนจะเดินไปเอากู๊ฟฟี่มาอาบน้ำ ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าฉันกับเกียร์เหินห่างกันเกินไป เราไม่ค่อยได้ใช้เวลาด้วยกันเลย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นฉันก็พยายามบอกตัวเองไม่ให้ระแวงนะ ฉันรักเกียร์แล้วก็ไม่อยากให้เราต้องมามีปญหากันเพราะความน้อยอกน้อยใจของฉันหรอก“หวาน เดี๋ยวหวานแวะส่งมินนี่ที่ร้านเกียร์ก็ได้นะ เกียร์บอกมินนี่ว่าอยู่ร้านหวานจะได้ไม่ต้องเลยไปส่งมินนี่ที่บ้าน” ฉันบอกน้ำหวานในวันถัดมาซึ่งเป็นวันที่เราต้องนัดกันทำวิจัย ฉันไปทำงานกับหวานเสร็จแล้วหวานก็อาสามาส่ง แต่หอหวานมันอยู่ก่อนถึงบ้านฉันน่ะ แต่ร้านเกียร์อยู่ถึงหอหวาน“งั้นก็ได้ เราก็ขี้เกียจยูเทิร์น” ฉันพยักหน้ารับให้กับเพื่อนก่อนที่น้ำหวา
เดิมพันรักครั้งที่ 162/3“คุณแม่เคยเห็นแม่หนูตอนสาว ๆ ด้วยเหรอคะ”“ตอนสาว ๆ เคยเห็นแต่ในรูปจ้ะ” คุณแม่ว่าแล้วก็ยิ้มเหมือนเคย ส่วนคุณพ่อดูจะไม่ได้อยากจะร่วมวงสนทนากับเราเท่าไหร่นัก “ตัวจริงได้มาเจอครั้งแรกก็ตอนพ่อเกียร์ย้ายกลับมาประจำที่กรุงเทพล่ะจ้ะ เจอกันที่งานเลี้ยงรุ่นเตรียมทหาร ตอนที่จัดเมื่อก่อนพ่อเขาไม่ได้มาเพราะไปประจำการอยู่ต่างจังหวัด”ตอนนั้นฉันอยากถามว่าแม่เกียร์นะว่าเคยเห็นรูปแม่ฉันตอนสาว ๆ จากไหนแต่ก็ไม่ได้ถามเพราะอาหารมาเสิร์ฟพอดีน่ะเราสี่คนทานข้าวแล้วก็พูดคุยกันไป ฉันคิดว่าเขาน่าจะรู้สึกโอเคกับพ่อแม่เขามากแล้ว ดูไม่ค่อยต่อต้านเท่าช่วงแรกที่กลับมาคุยกัน อาจจะเป็นเพราะว่าพ่อกับแม่เกียร์แสดงออกให้เห็นถึงความอ่อนโยนและเข้าอกเข้าใจลูกมากขึ้น ดูจากมุมมองเขาน่ะนะเราจะอยู่มัลดีฟส์กันประมาณสี่คืนห้าวัน เป็นทริปที่ฉันอยู่แล้วมีความสุขมาก เราไปดำน้ำ ไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ฉันเองก็เห็นว่าเกียร์มีความสุขมากเลยล่ะ ฉันได้ทำผมให้แม่เกียร์ ได้พูดคุยกระชับความสนิทสนมขึ้นมาอีก ท่านใจดีและน่ารักกับฉันมากเลย“คุณแม่เห็นเกียร์ไหมคะ วันที่สามฉันออกมาเดินตามหาเกียร์เพราะหลังจากไปดำน้ำมาแล้วฉั
เดิมพันรักครั้งที่ 161/3Minnie Pharita Talk“เป็นอะไร หน้าบูดหน้าบึ้ง” ฉันถามเกียร์ตอนที่เขายกข้าวต้มมาให้บนห้อง ฉันไม่สบายเพราะเมื่อวานไปเล่นน้ำมาแล้วก็แช่น้ำในอ่างเกือบชั่วโมง แถมยังนอนทั้งที่แอร์ในห้องยังฉ่ำ แล้วก็เกียร์รังแกฉันจนเกือบตีสาม ฉันหลับไม่เต็มตื่นก็เลยป่วยเช้านี้ฉันตื่นมาแล้วก็เห็นว่าเกียร์ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี ฉันคิดว่าเขาจะหายหงุดหงิดเรื่องเมื่อวานแล้วซะอีกนะ เพราะเมื่อคืนก็เธอคะเธอขาทั้งคืนไปแล้ว“ยังไม่หายงอนอีกหรือไงล่ะ” ฉันบ่น ๆ ใส่ ทั้งที่คนที่งอนหนักกว่ามันคือฉันนะ ฉันก็ยังคิดว่าตัวเองหายงอนแล้วเลยเพราะถ้าไม่หายเกียร์ก็คงพยายามจะง้อฉันต่อ ฉันอาจจะตายได้เพราะการง้อของเขา“ใช่” เกียร์ตอบสั้น ๆ “เธอจะทิ้งเกียร์อะมินนี่”“ทิ้งอะไร เดินลงจากเตียงจะไม่ไหวเลย” ฉันว่าด้วยน้ำเสียงติดแหบหน่อย ๆ เพราะมันเจ็บคอแล้วก็ปวดตัวไปหมด ฉันไม่อยากจะกินข้าวด้วยซ้ำแต่ก็ต้องฝืนเพื่อให้ตัวเองมีแรง ไม่อย่างนั้นมะรืนอาจจะไม่ได้ไปมัลดีฟส์น่ะ ฉันอยากจะไปมัลดีฟส์จริง ๆ นะ“เธอจะทิ้งเกียร์กับลูก” เขาย้ำ ส่วนฉันก็มุ่นคิ้วมอง“อะไรเธอ พูดอะไร” ฉันถามแล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ“เธอกินข้าวนะจะได้มีแรง นอ







