บทที่ 3: ก้าวแรกสู่สมรภูมิ: จุดเริ่มต้นของการต่อสู้และมรดกที่ตื่นขึ้น (เสียงบรรยากาศการฝึกฝน เสียงอาวุธกระทบกัน เสียงคำสั่งที่เฉียบขาด เสียงลมหายใจเหนื่อยหอบ) โฮสต์: เมื่อแดเรียสตัดสินใจเข้าร่วม เขาถูกพาไปยังฐานลับของคณะปฏิวัติ ซึ่งเป็นสถานที่ซ่อนเร้นจากสายตาของผู้คน ประหนึ่งเมืองใต้ดินที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและสิ่งมีชีวิตหลากหลายเผ่าพันธุ์ ที่นั่น เขาได้เรียนรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่มนุษย์ โลกของเขาเป็นส่วนหนึ่งของสังสารวัฏ ซึ่งมีปีศาจที่มีอยู่จริง และปีศาจเหล่านั้นกำลังคุกคามโลก ที่นี่เหมือนได้เข้าสู่โลกของแฟนตาซีในความฝันของเขา ยังไงก็ต้องป้องกันและก้าวไปร่วมต่อสู้กับคณะปฏิวัติ ที่นั่น เขาได้พบกับเหล่าสมาชิกของคณะปฏิวัติที่มีความหลากหลายทางเผ่าพันธุ์ ทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือการต่อต้านอำนาจชั่วร้ายของ อากัส จักรพรรดิผู้บ้าคลั่งแห่งเผ่าพันธุ์เทวทูตผู้ร่วงหล่น ซึ่งหมายถึงการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของทุกคน ที่มีเสียงในใจของพวกเขาเองว่า "เราต้องร่วมมือกันเพื่อฟื้นฟูโลกนี้" โฮสต์: แดเรียสเริ่มได้รับการฝึกฝนอย่างหนักจากราฟาเอลและเจซซี่ เขาต้องเรียนรู้การต่อสู้ การควบคุมพลังไฟที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในตัวเขาอย่างเด่นชัด มันรุนแรงและร้อนแรงราวกับจิตวิญญาณของเขาเอง ด้วยอุปกรณ์และความรู้ที่เรียนรู้ เขายังได้ดาบอาดามันเต้ ซึ่งเป็นอาวุธคู่ใจในตอนแรก ดาบสีเงินวาววับที่ดูเหมือนจะหลอมรวมกับพลังของเขาได้ดี และสำคัญที่สุดเขาได้เรียนรู้ว่า อากัส ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวาย ไม่ใช่ปีศาจทั่วไป แต่เป็นตัวตนที่มีพลังมหาศาลและมีเป้าหมายที่น่าสะพรึงกลัว การสร้างวิกฤตการณ์นี้ได้เปิดโอกาสให้เขาใช้พลังในการทำลายล้างตามใจชอบ (เสียงบรรยากาศการเดินทางในสถานที่แปลก ๆ เสียงคล้ายมีบางสิ่งซ่อนอยู่ เสียงปริศนาเล็ก ๆ ที่ชวนให้สงสัย) โฮสต์: ขณะที่แดเรียสกับคณะปฏิวัติเริ่มออกปฏิบัติการ พวกเขาต่อสู้กับปีศาจของอากัส ได้รับบาดแผลนับไม่ถ้วน ส่วนหนึ่งต้องพบกับอุปสรรคทั้งกับดัก ปริศนา และศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม แต่ในการต่อสู้เหล่านี้ เขายังได้พบเพื่อนใหม่ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อนที่พร้อมกับเขาในทุกสถานการณ์ หนึ่งในนั้นคือ โจเซลีน เด็กสาวผู้โผล่มาพร้อมกับออร่าที่บริสุทธิ์และทรงพลัง ที่ดูเหมือนมีปฏิกิริยาบางอย่างกับแดเรียส เหมือนชะตากรรมของทั้งสองถูกผูกโยงกันตั้งแต่แรก เมื่อตั้งอยู่ร่วมกัน ทั้งสองคนก็เริ่มรู้สึกถึงการเชื่อมโยงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ซึ่งจะนำไปสู่การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกของพวกเขา แดเรียส (เสียงในความคิด): "เธอเป็นใครกันนะ? ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด... เหมือนเราเคยรู้จักกันมาก่อนนานแสนนาน... เพียงแค่พบกันครั้งแรก แต่เมื่อมองตากัน มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่เข้าใจได้ในความรู้สึกของกันและกัน" โฮสต์: ยิ่งสู้ แดเรียสก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เขารู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในตัว... พลังที่ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่จริง มันทำให้เขาสามารถทำสิ่งที่เกินขีดจำกัดของมนุษย์ได้ และในที่สุด เขาก็เริ่มเข้าใจว่า หนทางเดียวที่จะหยุดอากัสได้ คือการรวบรวมชิ้นส่วนพลังอีก 5 อย่างที่กระจัดกระจายไปทั่วสังสารวัฏ ซึ่งเรียกว่า 6 ขุมพลังแห่งแรก ได้แก่ อาย, เอีย, โน๊ส, เทอส, บอดี้, ฮาร์ส ที่แท้จริงแล้วคือส่วนหนึ่งของพลังที่ นีโอ ราชาปีศาจตนแรกได้ทิ้งไว้เพื่อผนึก แอสมาดิอุส ปีศาจแห่งบาปบรรพกาล ผู้กำเนิดจากความผิดพลาดของธรรมชาติผู้สร้าง!
นี่คือเรื่องราวก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มขึ้น บทนำ: กำเนิดของผู้สร้างและคำสาปแห่งอสูร ในห้วงอวกาศอันว่างเปล่า "ธรรมชาติผู้สร้าง" ได้ถือกำเนิดขึ้นจากสิ่งๆ หนึ่งที่เขาเรียกว่า "เด็กแห่งจินตนาการ" ผู้สร้างได้สรรค์สร้าง "สังสารวัฏ" ซึ่งเป็นวัฏจักรแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย และสรรพสิ่งทั้งมวลขึ้นมาด้วยพลังอำนาจอันไร้ขีดจำกัด แต่ในความเดียวดายนั้นเอง เขาก็ปรารถนาที่จะมีใครสักคนอยู่เคียงข้าง จึงได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกนามว่า แอสมาดิอุส แต่สิ่งที่ควรจะเป็นความสุขกลับกลายเป็นโศกนาฏกรรม เพราะด้วยความผิดพลาดบางอย่าง ผู้สร้างได้มอบชีวิตให้แก่บุตรชายที่มีจิตใจที่มืดมิดและโหดเหี้ยม แอสมาดิอุส เติบโตขึ้นมาเป็นปีศาจร้ายที่ไร้ซึ่งเมตตา เขาทำลายทุกอย่างที่ผู้สร้างสร้างขึ้นมา และพยายามที่จะลอบสังหารผู้เป็นบิดาของตนเอง ด้วยพลังอำนาจที่มากเกินไป ผู้สร้างจึงจำต้องใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อกักขังจองจำแอสมาดิอุสไว้ในคุกที่มืดมิดและลึกที่สุดในสังสารวัฏ แต่ผู้สร้างก็รู้ดีว่า สักวันหนึ่งแอสมาดิอุสจะต้องหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ เขาจึงได้ให้กำเนิดบุรุษและสตรีคู่แรกขึ้นมานามว่า ฟาเธอร์ และ มาเธอร์ เพื่อหวังว่าในอนาค
บทที่ 13: กำเนิดนิวเวิลด์: ยูโทเปียแห่งสังสารวัฏ (เสียงเพลงแห่งความสงบสุข ความหวัง และการเริ่มต้นใหม่ที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เสียงเหมือนจักรวาลกำลังก่อร่างสร้างตัว) โฮสต์: หลังจากสงครามอันยาวนานจบลง... ผู้ที่เคยเข้าร่วมกับอากัสก็ถูกจับเป็นนักโทษ รวมถึง เวอร์เม้า พี่ชายฝาแฝดของแดเรียสด้วย ซึ่งเขาถูกส่งไปคุมขังในคุกมิติที่เข้มงวดที่สุด เพื่อรอวันที่จะได้รับการตัดสินและไถ่บาปในสิ่งที่ได้ทำลงไป และด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่จากการร่วมมือกันโค่นล้มแอสมาดิอุส ธรรมชาติผู้สร้าง ที่เฝ้ามองทุกสิ่งมาตลอด จึงได้สร้าง นิวเวิลด์ หรือโลกใหม่ขึ้นมา! เป็นโลกที่เป็นยูโทเปียอย่างแท้จริง! เพื่อเป็นที่อยู่ของทุกสรรพสิ่งในสังสารวัฏ! นิวเวิลด์มีลักษณะเป็นดวงดาวทรงกลมที่สวยงาม ส่องประกายระยิบระยับในห้วงอวกาศ มีขนาดใหญ่มากๆ ใหญ่กว่ากาแล็กซีทางช้างเผือก หรือ มิวกี้เวย์ หลายเท่า มีเขตเมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและสถาปัตยกรรมที่งดงาม เขตหนาวจัดที่ปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง เขตร้อนจัดที่เต็มไปด้วยป่าฝนเขียวขจี ทะเลทรายอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา อุณหภูมิเยือกแข็งที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ได้ ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่
บทที่ 14: คำทำนายสุดท้าย: บุรุษสีแดงและการสิ้นสูญ (เสียงเพลงปิดที่ทิ้งท้ายด้วยความลึกลับและน่าติดตาม เสียงคล้ายคำทำนายที่ดังแผ่วเบาและสะท้อนก้อง) โฮสต์: ทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยความสุขในโลกยูโทเปียแห่งนิวเวิลด์... สังสารวัฏเข้าสู่ยุคแห่งสันติสุขที่ยั่งยืน... แต่เรื่องราวนี้ยังคงมีปริศนาอีกอย่างที่รอคอยการเปิดเผย... ปริศนาที่จะกำหนดชะตากรรมของทุกสรรพสิ่งในสังสารวัฏในอนาคตอันไกลโพ้น... คำทำนายของเด็กหญิงตาบอด โซฮี ผู้เป็นธิดาของนักทำนายผู้ล่วงรู้ ได้ทำนายเอาไว้ว่า: (เสียงเด็กหญิงพูดช้าๆ เสียงสะท้อนเล็กน้อย เหมือนเสียงก้องมาจากอดีตหรืออนาคต) "อีกหลายแสนกัปข้างหน้า... โลกใหม่จะถึงจุดตกต่ำ... และจะถูกทำลายล้างทั้งสังสารวัฏ... ด้วยน้ำมือของบุรุษสีแดงผู้ถูกพันธนาการด้วยดาบที่หัก... เมื่อถึงวันนั้น... มังกรยักษ์จะหมดลมหายใจล้มลงใส่ต้นไม้... เลือดของมังกรจะไหลออกไปจนถึงอีกโลกธาตุ... และทุกอย่างจะสิ้นสูญ... และจะถือกำเนิดขึ้นใหม่จากเลือดของบุรุษสีแดง..." (เสียงเพลงปิดพอดแคสต์ที่ทิ้งท้ายด้วยความลึกลับและน่าติดตาม ค่อยๆ เฟดลง) โฮสต์: คุณผู้ฟังครับ... เรื่องราวของแดเรียส มลาด อากัส และตำนานแห่
บทที่ 12: สงครามที่บานปลายและการไถ่บาปครั้งสุดท้าย (เสียงบรรยากาศแห่งสงครามโลกครั้งใหญ่ เสียงปะทะของกองทัพขนาดมหึมาที่โหมกระหน่ำไม่หยุด เสียงคำรามของปีศาจ เสียงพลังงานมหาศาลที่ปะทุขึ้นทั่วทั้งสังสารวัฏ) โฮสต์: การกระทำของอากัสทำให้เกิดกลุ่มต่อต้านก่อกบฏมากมายทั่วสังสารวัฏ โดยมี เจซซี่ หญิงสาวผู้แข็งแกร่ง และ ราฟาเอล องครักษ์ผู้พ่ายแพ้ในอดีต เป็นหัวหน้าผู้นำในการต่อสู้กับอำนาจของอากัส แต่อากัสก็ส่งคนไปกำจัดตลอด และเขาก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะหาชิ้นส่วน 5 อันที่เหลือให้ครบเพื่อปลุกแอสมาดิอุส ระหว่างช่วงเวลาแห่งสงครามอันยาวนานนี้เอง... ในชีวิตที่เต็มไปด้วยความมืดมิด... อากัสก็ได้เจอรักแท้อีกครั้ง! เป็นหญิงสาวที่ชื่อ ลอเลน เทพแห่งสงคราม! เธอเป็นคนเดียวที่เข้าใจเขา ยอมรับในความมืดในใจของเขา และได้ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง เดวิน ผู้ที่ภายหลังแดเรียสจะนำไปเลี้ยงดู! (เสียงเพลงรักที่เศร้าหมอง แต่มีความหวังเล็กๆ เสียงหัวใจอากัสที่เต้นผิดจังหวะเมื่ออยู่กับลอเลน) โฮสต์: อากัสเชื่อว่าการปลุกแอสมาดิอุสจะนำไปสู่การชำระล้างครั้งยิ่งใหญ่ และสร้างโลกใบใหม่ที่บริสุทธิ์ในแบบที่เขาต้องการ แต่ในสงครามสุดท้าย...
บทที่ 10: อากัส: เบื้องหลังความมืดมิดของจอมวายร้าย (เสียงเพลงประกอบที่มืดหม่นและหดหู่ แสดงถึงความเจ็บปวดในอดีตที่ฝังลึกและก่อร่างสร้างความแค้น) โฮสต์: เราได้รู้ถึงปมในอดีตของแดเรียสและตระกูลของเขาไปแล้ว ตอนนี้เราจะมาเจาะลึกถึงชีวิตของจอมวายร้ายอย่าง อากัส กันบ้างครับ... บางครั้งความชั่วร้ายก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง แต่มันถูกหล่อหลอมมาจากความเจ็บปวดอันแสนสาหัสที่เขาต้องเผชิญมาตั้งแต่เกิด... ความเจ็บปวดที่ผลักดันให้เขากลายเป็นจักรพรรดิผู้บ้าคลั่ง อากัส เกิดมาเป็นลูกของจักรพรรดิ นูมะ แห่งเผ่าพันธุ์เทวทูตผู้ร่วงหล่น... จักรพรรดิผู้เหี้ยมโหด เห็นแก่ตัว และไร้ซึ่งความเมตตา แต่เขาก็มี มีอา ราชินีผู้แสนใจดี และเป็นมารดาผู้มอบความรักให้ลูกจนวาระสุดท้าย ราชินีมีอา เป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของอากัสและฮามัส ชีวิตของอากัสและน้องชายของเขา ฮามัส จึงเริ่มต้นด้วยความเจ็บปวดครับ พวกเขาถูกพ่อทุบตีทารุณทั้งร่างกายและจิตใจอยู่เสมอ ไม่เว้นแต่ละวัน ถูกบังคับให้ฝึกฝนอย่างหนักจนเกินขีดจำกัด ถูกปลูกฝังความโหดเหี้ยมตั้งแต่ยังเด็ก มีเพียงราชินีมีอาผู้เป็นแม่เท่านั้นที่คอยปลอบโยนทั้งสองเสมอ แม้ว่าตัวท่านเอ
บทที่ 11: การแสวงหาพลังและการแก้แค้นของอากัส (เสียงบรรยากาศที่มืดมิดและน่ากลัวมากขึ้น เสียงเหมือนมีบางสิ่งกำลังถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากหลับใหล) โฮสต์: อากัสและฮามัสใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ด้วยความเสียใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อากัสเครียดแค้นผู้เป็นพ่อและนิน่ามากกว่านั้น... ความแค้นนั้นกลายเป็นแรงขับเคลื่อนอันมหาศาล เขาเริ่มศึกษา ศาสตร์มืดโบราณ ที่ถูกกล่าวขานในตำนาน และพยายามค้นหา ชิ้นส่วนทั้ง 6 ซึ่งเป็นสิ่งที่เหลืออยู่จาก 6 ขุมพลังแห่งแรก ของนีโอ ราชาปีศาจตนแรก ที่ใช้ผนึกแอสมาดิอุส ความมุ่งมั่นของอากัสไม่ใช่แค่การแก้แค้นครับ! เขามีปรัชญาที่บิดเบี้ยวแต่ลึกซึ้ง... เขาเชื่อว่าสังสารวัฏนี้เน่าเฟะเกินจะเยียวยา เขาต้องการที่จะปลุกคืนชีพแอสมาดิอุส ปีศาจแห่งบาปบรรพกาลให้มาเป็นพลังของเขา และใช้พลังนั้นทำลายทุกอย่างที่มันโสมมในสังสารวัฏ! เพื่อให้วัฏจักรแห่งชีวิตและความตายกลับไปสู่ความว่างเปล่า และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง! เขาเชื่อว่านี่คือทางเดียวที่จะล้างความสกปรกทั้งหมดที่เขามองเห็น โฮสต์: เขาศึกษาประวัติศาสตร์ของสังสารวัฏอย่างลึกซึ้ง จนรู้เรื่องราวของธรรมชาติผู้สร้าง และสิ่งที่สร้างธรรมชาติมาก่อ