เจ้าของร่างบางบนเตียง...เปิดตาขึ้นจากการงีบหลับ ริมฝีปากหยักสวย ขนตาเป็นแพงอนกระพริบตาถี่ๆอยู่หลายครั้ง ก่อนที่ปลายฝนจะใช้มือประสานกันวางที่ท้องและเพ่งมองเพดาน คิดกังวลกับเรื่องบางอย่างที่เธอปรึกษาใครไม่ได้
เธอมองและคิดทวน..มองและหาคำตอบให้ตัวเอง ถึงเหตุการ์ณต่างๆที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสิบสองปีที่แล้ว วันนั้นมันตรงกับวันนี้พอดี ครบรอบสิบสองปีนักษัตรที่ผู้ชายกำยำบึกบึนคนนั้นเคยพูดไว้กับเธอ
เธอเจอเขาคืนนั้นเวลา 3:33 น. ปลายฝนเมื่ออายุสิบสองใส่ชุดนอนหมีพูสีชมพูหวาน เธอสะดุ้งตื่นเพราะเสียงลมหวิวๆที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง เสียงนั้น..ดังราวกับเสียงโหยหวน ดังขึ้นๆจนร่างเล็กหยัดตัวนั่งและขยี้ตา..หันมองหน้าต่างที่ปิดสนิทสองบานด้วยความแปลกใจ ก่อนสุดท้ายจะหันไปเห็นนาฬิกาบนโต๊ะแล้วตัดสินใจล้มตัวนอน
แต่ร่างเล็กของเด็กสาว...ก็ถึงกลับชะงัก เมื่อเธอเห็นว่าร่างตัวเองยังนอนหลับสนิทแน่นิ่งหนุนหมอนใบนั้นอยู่เช่นเดิม
สัญชาตญานความกลัวทำปลายฝนดีดตัวรีบลุกขึ้น เธอยืนมองร่างเล็กใต้ผ้าห่มหนาก่อนจะลูบหน้าลูบตาตัวเองหลายครั้ง นี่ก็เนื้อหนังเธอ บนเตียงล่ะ...ร่างนั้นคนที่เหมือนเธอทุกอย่างคืออะไร?!!
หนึ่งสมองแต่สองจิตสองใจคาดเดาไม่ได้..ว่านี่คือฝันหรือเรื่องจริง แต่เธอขอทำในสิ่งที่ตัวเองสงสัย ปลายฝนจึงค่อยๆเดินเข้าไปหาร่างที่หลับสนิทบนเตียงที่มันเป็นตัวเธอเอง ก่อนจะแตะมือสัมผัสที่แก้มขาวนวลนั้นช้าๆ แต่ทว่าปลายฝนแตะได้เพียงอากาศ ไม่ได้สัมผัสผิวหนังหรือมวลสารอื่นเลย
มือเล็กของเด็กอายุสิบสองกุมอกข้างซ้าย เธอตกใจและปวดหน่วงๆในใจ ก่อนจะหลับตาสะอื้นไห้..ส่ายหน้ามองสิ่งที่คิดว่าตัวเองคงฝัน
ยังไงต่อล่ะ..ถ้าฝันแล้วยังไงต่อ?!!
นอกจากฝันตอนนั้นเด็กอายุสิบสองคิดได้แค่ตัวเองตายไปแล้ว ถ้าดูตามหนังตามละคร..สักพักคงมีคนมารับวิญญาณเธอไป เด็กน้อยคิดเสียดายและเศร้าที่เธอตายโดยไม่ทันล่ำลา ที่สำคัญ..เธอยังไม่ได้บอกความรู้สึกจริงๆกับพี่ชายต่างสายเลือดห้องข้างๆของเธอด้วยซ้ำ
"ไม่..ไม่เป็นแบบนี้สิ ฮึกๆ"
ก้อกๆ ก้อกๆ ก้อกๆ...
เสียงเคาะประตูดังขึ้นรัวๆราวกับตื่นตระหนกและล่วงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนเด็กสาวรีบหันกลับไปมองร่างที่หลับสนิทของตัวเองอีกครั้ง แล้ววิ่งไปส่องกระจกเพื่อความแน่ใจอีกรอบ
เมื่อเห็นว่าเป็นตัวเอง ปลายฝนก็วิ่งไปมาแล้วหยุดกระโจนทับร่างแน่นิ่งบนเตียง ทำครั้งแล้วครั้งเล่าทำยังไงก็ไม่เป็นผล..เหมือนทุกอย่างลอยลิ่วอยู่ในอากาศ ไม่มีแรงโน้มถ่วงใดๆฉุดเธอลงไปนอนทับร่างที่หลับสนิทนั้นได้เลย เมื่อเสียงกุกกักดังขึ้นที่ลูกบิดประตู ปลายฝนก็รีบลุกขึ้นมาอีกครั้ง เธอยืนจ้องตัวเอง..จ้องร่างที่หลับสนิท ก่อนจะพยายามจับผ้าห่มปกปิดร่าง แต่ก็ยังไขว่คว้าได้เพียงอากาศเหมือนเดิม นี่เธอไม่สามารถแตะต้องอะไรได้เลยเหรอ??!!!!
แอดดดดดด....ฟุบ! เสียงพวงกุญแจหล่นลงพื้น ทำปลายฝนสะดุ้งหันไปมองตามเสียงทันที ก่อนจะเอ่ยเรียกคนที่ประตูสะอื้นไห้
"มะ แม่..."
"ปะ..ปลายฝน?!!”
"แม่ หนูไม่รู้..ว่ามันคือ"
"ไม่ต้องพูด เงียบ! แม่จะไปตามพ่อ!! ฮือๆ!” แม่บุญธรรมที่เก็บเธอมาเลี้ยงวิ่งออกจากห้องหน้าตาตื่น เพื่อไปตามพ่อบุญธรรมที่เป็นอาจารย์ศัลยแพทย์มา เด็กสาวมองตามหลังแม่ได้แต่ส่ายหน้าสะอื้น...ถ้าพ่อเข้ามาพ่อคงไม่เชื่อ หมอยังไงก็คือหมอทุกๆอย่างต้องมีเหตุและผลไปทางวิทยาศาสตร์เสมอ แต่เธอจะทำอะไรได้! เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง!
แต่ทันทีที่ปลายฝนหันกลับไปมองร่างตัวเอง เธอก็ต้องก้าวถอยหลังสะดุ้งโหย่ง เมื่อเห็นผู้ชายคนนึงร่างบึกบึนหน้าคมเข้ม เขาใช้ดวงตาที่แดงก่ำถลึงมองเธอบ่งบอกชัดเจน...ว่าเขาไม่ได้มาดี
"ละ...ลุงเป็นใครคะ?”เด็กสาวถามเสียงสั่น รู้สึกกล้าๆกลัวๆที่จะสนทนากับผู้ชายคนนี้ ก็ดูรูปร่างการแต่งตัวเขาสิ ทั้งน่ากลัว ทั้งน่าขนลุก เขาใส่แค่โจงกระเบนสีดำมอซอ รองเท้าก็ไม่ใส่ แถมตามขาตามแขนเต็มไปด้วยแผลและคราบดำเป็นปื้นๆ อีก
"ข้ามาเตือนเจ้า...สิบสองปีที่เจ้าโกงโชคชะตามาเกิด ตอนนี้มันใกล้ถึงเวลาแล้ว!” เสียงทุ้มใหญ่ทำปลายฝนขมวดคิ้ว มองร่างสูงอย่างงุนงง นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย เรื่องบ้าอะไรโกงอะไร? นอกจากโกงข้อสอบเธอไม่เคยโกงอะไรใครเลยนะ เธออายุแค่สิบสองเองประจำเดือนยังไม่มาด้วยซ้ำ
"วะ..เวลาอะไรคะลุง หนูไม่เข้าใจ หนูงงมาก”
"อีกสิบสองปีครบรอบปีนักษัตรเจ้าต้องคืนร่างนี้ให้เจ้าของ มิเช่นนั้นเจ้าจะถูกสาปให้เป็นอย่างข้า..และไม่ได้ผุดได้เกิดชั่วกัลป์”
ใครคือเจ้าของ? ก็เธอเป็นเธออยู่นี่ไง นี่เธอไม่ได้ดูการ์ตูนเยอะเกินไปใช่ไหม ถ้าเป็นฝันก็ตื่นสักที! มันเลอะเทอะออกนอกโลกไปหมดแล้ว
"ละ..ลุงคะหนูงง ลุงมาเข้าฝันหนูทำไม? ใครคือเจ้าของร่าง? ก็หนูเป็นหนู หนูคือปลายฝนนะคะ” ร่างบึกบึนขมวดคิ้วมองเด็กสาวด้วยความรำคาญ ก่อนจะลอบหันไปถอนหายใจอีกฝั่ง กลัวอดตะหวาดเธอไม่ได้
"ฮึ่ม! ถึงเวลาเจ้าจะรู้เอง มันเป็นวันที่เจ้ามีความสุขที่สุด และเจ้าของร่างทุกข์ใจที่สุด พ่อแม่บุญธรรมเจ้ากำลังมา...ข้าไปล่ะ ไว้รอบปีนักษัตรหน้าข้าจะมาใหม่”
ร่างใหญ่หายวับไปกับตา พร้อมๆกับปลายฝนที่วูบกลับเข้าไปในร่างที่หลับสนิทอย่างไม่ทันตั้งตัว....
ทุกอย่างวูบเข้ามาเหมือนเดิม ความคิด เรื่องเก่าๆตลอดสิบสองปีที่ผ่านมาจนปัจจุบัน..ปลายฝนยังรอ รอว่าเมื่อไหร่ชายรูปร่างยักษ์คนนั้นจะกลับมาหาเธอ และตอนนี้มันก็ผ่านมาสิบสองปีแล้วสิบสองปี..ผู้ชายคนนั้นคงแก่และโตมาก แต่เนิ่นนานที่นอนนิ่ง..แม้หลับตาแล้วหลับตาอีกเธอก็ไม่เห็นวี่แววเขาอะไรกันนี่ ถึงวันแล้ว..ตอนนี้ก็อายุยี่สิบสี่ครบรอบปีนักษัตรแล้ว ใครจะทวงอะไรก็มาสิ มาเถอะ..ฉันจะได้สบายใจสักที!!หญิงสาวนึกในใจ มือสองข้างก็ทุบที่นอนไปด้วย แต่ก็เงียบฉี่..นอกจากเสียงแอร์และเสียงนกร้องจิ๊บๆ ตอนนี้เธอไม่ได้ยินเสียงใครเลย"เฮ้อ!!!" ร่างเล็กลุกขึ้นถอนหายใจ และปัดผมเพ้าที่รุงรังไปข้างหลัง ก่อนจะลุกจากเตียงไปเปิดม่านเปิดหน้าต่าง และยืนรอชายกำยำคนนั้นอีกครั้ง"เมื่อไหร่จะมาคะคุณลุง มาเถอะค่ะ..หนูโตแล้ว ถ้าไม่มา..ลุงผิดคำสัญญานะ"บ่นเสร็จก็หน้างอคอตก เธอทำแบบนี้แทบทุกวันหลังจากครบรอบปีนักษัตรนี้ จนแล้วจนเล่าจนผ่านมาสองปีจวบจนเธออายุยี่สิบหก ตอนนี้เธอก็ยังทำ2ปีต่อมา....ก๊อก ก๊อก ก๊อก!! "ปลายฝนวันนี้หนูมีนัดสัมภาษณ์งานนะ พี่ณภัทรจะไปส่ง รีบๆนะลูกกับข้าวก็ตั้งโต๊ะแล้ว เสร็จรึยัง?"เสียงแม่ดังขึ้นหน้าปร
ในขณะที่ปลายฝนนั่งรอและลุ้น รถสปอร์สคันหรูราคาหลักสิบล้านก็ขับมาจอดหน้าประตู ลิลิน รัญญาลินท์ ก้าวขาเรียวสวยเปิดประตูลงมาพร้อมๆประตูปีกนกที่สวิงขึ้นอย่างสง่ารองเท้าส้นสูงสีแดงสดสีสันแสบตา แต่ไม่เท่าใบหน้าสวยไร้ที่ติของเธอตาเฉี่ยวๆที่ทั้งเซ็กซี่และน่าค้นหา ริมฝีปากอวบอิ่มที่แสนเย้ายวน กับอกอวบๆสะโพกผายๆ มันเด่นในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปและสูทหลวมๆที่คลุมไหล่เธอลงตัวสมส่วนทุกอย่าง..ราวกับกำลังดูแฟชั่นวีคที่เมืองคานส์ยังไงอย่างงั้น"เลขาที่นัดสัมภาษณ์ มาถึงรึยัง?"ลิลินเอ่ยถามพนักงานที่วิ่งก้มหน้าก้มตามาถือกระเป๋าให้ ในขณะที่เธอก้าวฉับๆถอดแว่นตาดำเข้าบริษัทกับผมที่ปลิวไสวและไล่สายตามองรอบๆอย่างสำรวจ"มาแล้วค่ะ นั่งรอคุณลิลินข้างบน" ได้ยินคำตอบ ลิลินก็พยักหน้าเบาๆก่อนจะก้าวเข้าลิฟต์ที่พนักงานอีกคนเปิดรอก่อนที่เธอจะถอนหายใจเมื่อเห็นตัวเลขที่ขยับขึ้นๆสลับกับก้มมองนาฬิกาข้อมือ ที่จวนเที่ยงและถึงเวลาพักใช่เธอมาสาย และเธอก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร แต่ที่หงุดหงิดคือ เธอไม่มีเวลามากที่จะสัมภาษณ์เลขาคนใหม่ เพราะอีกไม่ถึงยี่สิบนาทีแฟนซีอีโอสายการบินเวลฟาย ก็จะมารับไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันแล้ว"จะทันมั้ย
'หวงก็เป็นของพี่สิครับ'แน่นอนว่าประโยคนี้ทำให้ลิลินยิ้มกว้างปากแทบฉีก แล้วเธอก็รีบยื่นมือไปควงแขนติณห์ทันที ก่อนที่จะเอนไปซบไหล่กว้างๆของเขา"รอแต่งงานนะคะ ลินจะเป็นของพี่ติณห์ทั้งตัวเลย^^""โถ่ลิน..อีกไม่กี่เดือนเองนะ พี่ขอทดลองก่อนไม่ได้เหรอ? เราคบกันมานานแล้วยังไงๆก็ต้องแต่งอยู่ดีนี่"ติณห์หว่านล้อม พร้อมกับยกมือใหญ่ๆของเขาแตะเบาๆที่มือลิลินด้วย"ไม่ได้ค่่ะ ลินจะไม่ผิดคำสัญญากับปาป๊าเด็ดขาด พี่ติณห์ชวนบ่อยๆแบบนี้จำไม่ได้เหรอคะ ว่าปาป๊าบอกพี่ติณห์วันที่ท่านจับได้ว่าเราคบกันว่าอะไร^^""จำได้ ห้ามล่วงเกินลินก่อนแต่งงาน-_-""เยส!!ถูกต้อง!! ฉะนั้นรอหน่อยนะคะ อีกแปปเดียวเอง ลินไม่หายไปไหนหรอกค่ะ^^"ติณห์ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจเฮือก ถึงเขาจะรู้ว่ายังไงๆก็ต้องสมปรารถนา แต่ความเป็นชายทั้งแท่งของเขา ที่อยู่แนบชิดกับลิลินแฟนสาวทุกวันนั้นมันชักจะทำเขาความอดทนต่ำลงไปทุกวันเขาต้องการให้ลิลินเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะทางพฤตินัยหรือนิตินัย อยากเชยชมเรือนร่างที่เขาเฝ้าทะนุถนอมไว้มาตลอดนี้สักที เพราะที่ผ่านมาจวนจะสามสิบปีนี้ ชายทั้งแท่งอย่างเขาไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนเลย"เฮ้อ รอก็ได้..แ
เสียงรองเท้าส้นสูง ตึกๆ ตึกๆถูกกระแทกดังขึ้นๆ เมื่อลิลินหันกลับไปมองเข้าไปในร้านที่เธอเปิดประตูออกมาเมื่อครู่...แล้วเห็นติณห์ยังนั่งอยู่ที่เดิมให้ตายสิ...เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ปกติเขาต้องตามออกมาแล้วขอไปส่ง! เมื่อรู้แบบนั้นลิลินก็โมโหมากขึ้น เธอรีบโทรหาคนขับรถของบริษัทและเดินดุ่มๆออกจากบริเวณร้านทันที ก่อนที่ปลายฝนที่นั่งแท็กซี่ผ่าน...เธอจะบังเอิญเห็นเข้า"พี่คะ..จอดค่ะๆๆ"ปลายฝนเห็นลิลินเดินดุ่มๆปาดน้ำตาริมถนน เธอก็รีบกวักมือบอกโชเฟอร์จอดรถทันที ถึงแม้ในใจลึกๆตอนนี้จะแอบกลัวว่าตัวเองก้าวก่ายก็ตาม แต่สัญชาตญาณผู้หญิงของเธอมันตัดสินให้ทำแบบนั้น ผู้หญิงสวยๆอย่างลิลินเดินร้องไห้ข้างถนนแดดเปรี้ยงๆแบบนี้ มันไม่ปกติแล้ว"คุณลิลินคะ"เมื่อรถแท็กซี่จอดสนิท ปลายฝนก็รีบลงจากรถเดินไปทักลิลินทันที จนร่างเล็กที่เดินอยู่หยุดชะงักค่อยๆหันมา และปาดน้ำตาลวกๆ"มะ..มีธุระอะไร?""ฉันเซ็นสัญญาเป็นเลขาคุณแล้วค่ะ ขอถามได้ไหมคะ? คือ...ไม่ทราบว่าจะไปไหน ให้ฉันไปส่งมั้ย?"ลิลินได้ยินแบบนั้น..เธอก็ไล่สายตาเฉี่ยวๆมองปลายฝนอย่างชั่งใจ ก่อนจะมองไปที่ปากทางร้านอาหาร ที่มีรถลัมโบร์กินีของติณห์กำลังบึ่งออกมาด้วย
LINE ~ Calling LILIN(ว่าไง หึหึ..ที่โทรกลับมาเนี่ยพร้อมทำงานแล้วใช่มั้ย?)ปลายฝนเม้มปากบางๆของเธอ และหลับตาสงบสติอารมณ์ที่แทบอยากจะระเบิดออกมาใส่คนปลายสาย"ไม่ต้องขู่ฉันเรื่องพี่ณภัทรหรอกค่ะ เขาไม่ใช่แฟนฉัน"(อ้าวเหรอ? ตลกจังได้ข่าวแว่วๆว่าเขาเป็นคู่หมั้นเธอนี่ คล้ายๆฉันกับพี่ติณห์ไง โถ่ๆไม่ต้องเขินหรอก..ไหนๆเราก็มีแฟนเหมือนกันเธอควรจะเข้าใจฉันนะ)"ทำไมคุณลิลินไม่สั่งลูกน้องของคุณพ่อคุณล่ะคะ?"(นี่! พูดมาได้ ถ้าสั่งลูกน้องพ่อฉันพี่ติณห์ก็ไหวตัวทันน่ะสิ แต่ตอนนี้เขายังไม่ง้อฉัน..และฉันก็เริ่มมั่นใจมากๆว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากล งั้นพรุ่งนี้เธอเริ่มงานซะ ฉันจะส่งไกด์ไลน์ไปให้ แค่นี้ล่ะ สวัสดี)LILIN ~วางสายไม่ปีศาจ ก็นางมารร้ายชัดๆ! ปลายฝนหงุดหงิดมาก ตั้งแต่เกิดมาจนโต ไม่เคยมีใครทำให้เธอประสาทเสียเท่านี้มาก่อน นางมารลิลินคนนี้เป็นคนแรก!และมันก็ยังไม่จบแค่นี้!ตึ้ง!~ LINE -LILINLILIN : 1. สะกดรอยตามพี่ติณห์เช้าเที่ยงเย็นจนเขากลับบ้าน 2. ถ่ายรูปผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เขา เท่านี้ล่ะไว้ฉันคิดออกจะบอกอีกที เริ่มที่สำนักงานสายการบินเวลฟายแปดโมงเช้าเลยนะ PLAIFON: ค่ะLILIN : ตอบแค่นี้?!PLA
ผับ X"มึงจะเอาไงต่อไอ้ติณห์ กูเห็นมึงนั่งถอนหายใจสิบรอบแล้วนะ" อลันหนึ่งในเพื่อนสนิทฝาแฝดของติณห์ถามขึ้น พร้อมๆกับกลั้วไวน์ในแก้วมองเพื่อนสนิทตัวเอง"กูเหนื่อยว่ะ โสดแบบพวกมึงคงจะดี ไม่ต้องมานั่งเหนื่อยแบบกู" ติณห์ตอบ ก่อนจะเปรยหางตามองเพื่อนฝาแฝดที่หน้าตาละม้ายคล้ายกันทั้งสองของเขา ซึ่งมันก็คล้ายแค่หน้าเท่านั้นแหละ เพราะนิสัยของเซอร์กับอลันแตกต่างกันชัดเจนอลันเป็นผู้ชายที่กึ่งเพลย์บอยทะเล้น และเขาก็เฟรนลี่ตามสไตล์เจ้าของผับ แต่เซอร์เป็นคนนิ่งๆวางมาด..เขาเป็นผู้บริหารที่เนี้ยบน่าเกรงขามจนใครๆไม่กล้าเข้าใกล้"อยากโสด ก็แค่เลิก..จบ-_-" เซอร์ให้ความเห็น แต่ความเห็นนั้นไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ เพราะติณห์ได้ยินแบบนั้นเขาลอบถอนหายใจ และหันไปมองหน้าอลันทันที"เฮ้ยๆไอ้ติณห์..มึงอย่าไปเชื่อไอ้เซอร์ คบมาตั้งนานยังไม่ได้แอ้มเลย อย่าเพิ่งเลิก!!"เซอร์ได้ยินน้องชายฝาแฝดแย้ง ก็ถึงกับถอนหายใจเฮือก ก่อนที่ติณห์จะฉุกคิดและวางแก้วไวน์ในมือ หันมองเซอร์ผู้บริหารหนุ่มถามความเห็น"ถ้าเป็นมึง มึงจะทำยังไงไอ้เซอร์""ขอเลิก ไม่ก็ขอห่าง..ให้ยัยนั่นไปทบทวนนิสัยของตัวเอง เพราะมึงก็ตามใจมาเยอะแล้ว ให้รู้ตัวบ้างก
"ฉัน..จะโทรแล้วนะ""ค่ะ โทรเถอะ..ถ้าไม่โทรผู้หญิงคนอื่นอาจจะชิ่งแฟนคุณไปก่อนก็ได้"ลิลินได้ยินแบบนั้นก็ตกใจ เธอรีบลนลานกดโทรศัพท์ที่ถือไว้โทรหาติณห์ทันที ทั้งที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง...Calling ~ P' Tiin ~ตืดดดดด ตืดดดดดด~~ตืดดดดด ตืดดดดดด~"เขาไม่รับ! เห็นมั้ยว่าพี่ติณห์ไม่รับโทรศัพท์ฉัน!!!"พังพินาศ สิ่งที่ปลายฝนบอกเธอทุกคำพังไปกับตา ลิลินโกรธมาก เธอรีบเข้าเกียร์รถสปอร์ตคันหรูขับเลี้ยวเข้าไปในสำนักงานทันที โดยที่ไม่สนใจปลายฝนตอนนี้ ที่สาวมือดึงเข็มขัดนิรภัยรัด!เอี๊ยดดดดด~"ว้าย! คุณลิลิน เบรคดีๆสิคะ>[]ทันทีที่ยามเห็นใบหน้าคนขับ เขาก็รีบทำความเคารพและเปิดประตูให้ทันที ก่อนที่ลิลินจะรีบเหยียบคันเร่ง! บึ่งไปจอดที่หน้าประตูสำนักงาน และเปิดประตูลงจากรถไปตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ เสียงรองเท้าส้นสูงของลิลินที่ก้าวยาวๆ ทำทุกคนในสำนักงานรีบเดินหลบทางให้ ทุกคนต่างรู้จักว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แถมยังรู้ถึงความร้ายของเธอด้วย"พี่ติณห์อยู่ข้างในรึป่าว!?" ลิลินถามเลขาหน้าห้องที่ลุกพรวดขึ้นกลัวๆ จนเลขาคนนั้นหมดทางเลือก เธอกระพริบตาปริบๆมองหน้าปลายฝ
ตึง ตึง ตึง ~~~ตอนนี้เสียงสัญญาณฉุกเฉินในรถดังเตือน ถุงลมนิรภัยรอบทิศอัดเข้าไปที่ร่างเล็กสองร่าง แต่ความเร็วก่อนชนมันทำให้แรงอัดมหาศาล..ทำทุกอย่างพังไม่มีชิ้นดีต่อให้มาตรฐานจะการันตีสักแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรป้องกันได้ กับความเร็วและสภาพรถที่พังยับเยินแบบนี้และมันก็ทำให้เลือดสีแดงฉาดท่วมตัวลิลิน เธอขยับได้แค่ปลายนิ้วที่ค้างอยู่ปุ่มเบรคมือไฟฟ้าทีละนิดๆเพื่อพยายามเอื้อมไปหาปลายฝน"ยะ..ยัยบ้า ขับรถประสาอะไร! ฉันรอดฉันจะฆ่าเธอ""ฮึก ขอโทษ ที่ฉัน...ทำคุณซวยไปด้วย"ปลายฝนพร่ำขอโทษเสียงขาดหาย และเธอก็หนักอึ้งที่สมองราวกับโดนหินก้อนใหญ่ทุบ มันถึงเวลาของเธอที่จะได้ชดใช้เรื่องที่เคยก่อ แต่ทำไมชายกำยำคนนั้นต้องใจร้ายใจดำ ทำคนที่ไม่เกี่ยวข้องเจ็บปวดไปด้วย? นั่นมันยิ่งทำให้ปลายฝนรู้สึกผิดและโทษตัวเอง"ฉันทรมานเหมือนจะตาย ฮึกๆ แต่ฉันตายไม่ได้.. ฉันยังไม่เสียตัวให้พี่ติณห์เลย"ลิลินพูดออกมาน้ำตาอาบแก้ม ขณะที่เธอ..พยายามประคองลมหายใจที่รวยรินของตัวเองไว้ให้นานที่สุด"ฉันขอโทษ คุณต้องหาย...ยังไงคุณก็ต้องได้แต่งงานกับคุณติณห์""เหรอ? เหอะๆ แต่ฉัน..ไม่ไหวแล้วยัยโง่ ฉันง่วง""คุณลิลิน...อย่าหลับนะคะ"".
พรวิเศษที่ตัวเองได้มา เด็กน้อยไม่รู้ตัวเลยสักนิด เขาเอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่ โม้กับปาป๊าว่าตัวเองเก่งที่สามารถช่วยอันอันไม่ให้วิ่งชนโต๊ะได้จนกลับมาจากเกาะของครอบครัว ลิลินก้พาพร้อมไปทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ ต่อให้มันจะเป็นพรวิเศษที่ได้มา...แต่เธอก็ไม่สบายใจอยู่ดี "หนูกังวลอะไรอยู่เหรอ?" เมื่อถวายสังฆทานเสร็จ พระสงค์ที่รับไปก็ไถ่ถามขึ้นมา ทั้งที่ลิลินเอง..ยังไม่ได้บอกเล่าเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับลูกชายเธอเลยด้วยซ้ำ"คะ?..ถามหนูเหรอคะ?" หญิงสาวถามและชี้ที่ตัวเองงุนงง"ใช่ หนูนั่นแหละ""ค่ะกังวลนิดหน่อย คือ..อยู่ๆลูกชายหนูก็แปลกๆ เขาหายตัวได้ ไม่สิ..หนูไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะหลวงพ่อ พูดไม่ถูก""หลวงพ่อรู้แล้ว ถึงได้ถาม..ว่าทำไมหนูต้องกังวลกับเรื่องนี้ ลูกชายหนูเป็นคนดี วาสนาดีและมีบุญมหาศาล เขาได้พรวิเศษนั้นมา มันจะช่วยปกป้องเขาและคนอื่นๆอีกมาก"ลิลินเม้มปากบางๆของเธอแล้วพยักหน้าตาม ก่อนจะพนมมือขึ้นอีกครั้ง และตัดสินใจพูดบางสิ่งบางอย่าง ที่เธอกำลังอัดอั้นกับหลวงพ่อ"แต่หนูห่วงว่าเขาจะแวบไปตรงนู้นตรงนี้ แล้วเกิดอันตราย ถ้าเลือกได้...หนูอยากให้ลูกชายเป็นคนธรรมดาปกติ หลวงพ่อพอจะช่วยได้มั้ยคะ?""ไ
3 ปีต่อมา..เสียงคลื่นกระทบฝั่ง แสงแดดยามเช้า กลิ่นอายของทะเลที่พัดเข้ามากระทบหน้าตามแรงลม ทำให้หญิงสาวที่นอนกินลมชมบรรยากาศ ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขลิลินทอดมองไปที่ทะเลกว้าง...มองไปที่เกลียวคลื่นกระทบฝั่ง...ซ่า ซ่าแต่ระหว่างนั้นหางตาของเธอ ก็มองลูกชายและหลานๆ ที่กำลังนั่งก่อกองทรายกันริมหาดด้วย"ห้ามโยนทรายนะลูก ยังไม่ทานมื้อเช้าเลย เดี๋ยวอาบน้ำใหม่นะ-_-""ได้เลยๆมาม๊า^^"แหมะ! หมดกัน ไม่ทันขาดคำ..ลินินก็กุมขมับ และลุกขึ้นจากเตียงชายหาดทันที เพราะพอบอกจบเท่านั้น..ลูกชายวัยสามขวบของเธอ ก็ปั้นทรายก้อนโต โปะ!เข้าที่หัวสาวๆที่นั่งเล่นอยู่จนหมอณัทร..ที่กำลังเดินออกมาจากตัวบ้าน เห็นหญิงสาวก้าวสามขุมไปหาลูก เขารีบตะโกนตามหลังทันที"ลิน! ไม่ว่าลูกนะ..ค่อยๆสอน~~""รู้แล้วหมอ! โอ๋กันจริงๆเลย" ลิลินบ่นอิบ ก็เดินไปหยุดที่ลูกชายและหลานสาว ก่อนที่ทั้งสามจะเงยขึ้นทำตาปริบๆมองลิลินราวกับเธอเป็นนางพันธุรัตน์ "พร้อม เล่นแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะลูก ไปแกล้งอันอันกับปลายฝันได้ยังไง ม๊าบอกเมื่อกี้ไม่ได้ยินใช่มั้ย>ลิลิน ไม่ดุลูก~" หมอณภัทรตะโกนบอกอีกครั้ง"เออ รู้แล้วหมอ! ไม่ได้ดุ!""ก็..ก็มาม๊าบอกช้
ตอนนี้รอยยิ้มของติณห์กำลังจางหายไป เพราะน้ำตาลูกผู้ชายของเขา..กำลังเอ่อออกมาท่วมท้นพิธีกร : เห็นมั้ยคะ..ว่าบางครั้งความรักก็ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความสวยงามเสมอไป แต่ตอนนี้เจ้าบ่าวของเราดูท่าจะไม่ไหวแล้วนะคะ คุณติณห์คะ..ว่าไงบ้าง^^แล้วปลายฝนก็ส่งไมค์ให้ทันที ก่อนที่จะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาของซีอีโอหนุ่มดูซิ คุณซีอีโอเขาอ่อนไหวอีกแล้ว...ร้องไห้อีกแล้ว..ติณห์ : ผมก็..อยากขอบคุณปลายฝนที่ให้โอกาสผม แล้วผมสัญญาครับ ผมจะรักษาโอกาสนี้ให้ดี...หลังจากวันนี้จะไม่มีใครมาแทนที่ปลายฝน และผมสัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดี เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี จะรักและดูแลเธอคนนี้จนแก่เฒ่า ขะ..ขอบคุณครับมีคำพูดมากมายที่เขาอยากพูด แต่หลังๆเสียงติณห์เริ่มสั่นเครือจวนไม่ไหว เขาจึงรีบตัดบทไว..ทิ้งท้ายด้วยคำขอบคุณพิธีกร : หวานชื่นมากเลย อิจฉา~ แต่งานวันนี้มีโยนช่อดอกไม้ด้วยนะคะ เพื่อนเจ้าสาวคนไหนอยากได้ช่อดอกไม้บ้างเอ่ย^^ไม่มีใครตอบ เพราะเพื่อนเจ้าสาวที่มาก็ท้องกันหมด และถ้าได้มาแย่งชิงช่อดอกไม้ของปลายฝน มีหวังได้ล้มตึงกันแน่ แต่เมื่อช่อดอกไม้ ถูกยื่นให้เจ้าสาวอย่าปลายฝนโยนเท่านั้นแหละเธอก็ถือมันเด
"เกี่ยวอะไรกับลีออง!" คนเป็นแม่ถามลูกทั้งสอง แต่ไม่มีใครตอบ เพราะติณห์กับอันติงเอาแต่จ้องหน้ากันตั้งแต่เกิดมาจนโต ทั้งคู่ไม่เคยมีปากเสียงกันเลยด้วยซ้ำ...ครั้งนี้ครั้งแรก และที่ผ่านมา..ติณห์รักน้องห่วงน้องแค่ไหน..ใครๆก็รู้"ไม่ใช่มัน แล้วจะเป็นใคร?! อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะ! ว่าอันติงชอบมัน"อันติงเบิกตากว้าง มองหน้าพี่ชายตกใจมาก แต่สักพักก็รีบเก็บอาการ โดยยกมือกอดอกเชิดหน้าขึ้นทันที"ทำไมคะ?! แค่เคยชอบเคยปลื้มเท่านั้น! แต่เราไม่ได้มีอะไรกัน พี่ติณห์คิดว่าชีวิตหนูจะไม่มีผู้ชายคนอื่นเลยรึไง ไม่ได้ลีอองผู้ชายคนอื่นก็มีตั้งเยอะ!""อันติง!!"เสียงตวาดลั่น ทำให้หญิงสาวที่ยืนกรานเถียงถึงกับนิ่ง เธอไม่ได้ตกใจหรอก แต่ใครดุด่าว่ายังไง..มันก็ไม่รู้สึกปวดใจเท่ากับพี่ติณห์ของเธอจนตอนนี้อันติงน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม และค่อยๆลดมือสองข้างไปกำแน่นข้างลำตัวเธอเหนื่อยกับปัญหาเหลือเกิน และมันจะไม่ไหวแล้ว"ฮึกๆอันติงขอโทษ...อันติงคิดว่ามันแค่สนุก ขำๆ ฮือๆแต่ทั้งหมดอันติงป้องกันนะคะ ไม่รู้ว่าพลาดได้ไง อันติงขอโทษค่ะพี่ติณห์ ขอโทษนะคะ ฮือๆ"หญิงสาวยกมือไหว้พี่ชายสะอื้นไห้ตัวงอ จนซีอีโอหนุ่มที่เดือดดาลเริ่มใจอ
"ปลอมมาก-_-^""อะไรเหรอคะ? เพชรปลอมเหรอคะ?" เมื่อปลายฝนถาม ลิลินก็วางมือถือที่เปิดแอพพลิเคชันเฟสบุ๊คลงบนโต๊ะ ก่อนเธอจะเขี่ยมันด้วยปลายนิ้วชี้ จนโทรศัพท์จนไถล~ฟรึบ! ไปหยุดตรงหน้าปลายฝนแล้วตอนนี้หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็งุนงง หยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสงสัยอ๋อ รูปถ่าย..หมอณภัทรกับติณห์ ที่ทำตัวเผลอๆและอุ้มตุ๊กตาเด็กอาบน้ำที่โรงพยาบาล"เธอดูสิ..ปลอมมาก ทำเป็นเผลอถ่าย..แต่อัพรูปลงเฟสตัวเอง หึหึ-_-" ลิลินบอกย้ำแล้วหัวเราะเบาๆออกมาจนปลายฝนเงยขึ้นถามว่า.."ถ้าไม่ปลอม..มันจะเป็นยังไงเหรอคะ?" "เธอเนี่ย ไม่ทันผู้ชายเลยนะ..ฉันน่ะแปลกใจตั้งแต่ท้องแล้ว หมอณภัทรเคยลงรูปที่ไหน? แต่ทุกวันนี้ทำอะไรก็ลง แถมยังอ้อนฉันว่าอยากมีลูกตั้งสี่คนอีก! ""สี่คน!! พี่ณภัทรที่โลภมากขนาดนั้นเลยเหรอคะO_O""ระวังไว้เถอะ สองคนนั้นอยู่ด้วยกัน..ต้องย้ายมาอยู่อุดมการ์ณเดียวกันแน่ ฉันสี่คนเธออาจจะแปด เพราะพี่ติณห์เวอร์จะตาย"เวอร์...เวอร์....สุดจะเวอร์เลย แค่เห็นรูปที่ลิลินให้ดูไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อปลายฝนเลิกงานกลับถึงบ้านติณห์ เธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นในห้องโถงลังสีน้ำตาลเกือบยี่สิบกล่องวางเรียงเป็นตับ! ขณะที่แม่
เมื่อได้รับอนุมัติจากธนาคารประจำบ้าน ติณห์ก็จัดการดิวบริษัทแอร์บัสทีี่ฝรั่งเศษทันที ซึ่งบริษัทแอร์บัสนี้เป็นบริษัทผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ จากการรวมทุนของกลุ่มประเทศฝั่งยุโรป ซีอีโอหนุ่มสั่งเครื่องบินเพิ่มสองลำ เป็นเครื่องบินAirbus-A320(-200) รุ่นฮิตบินภายในประเทศหรือแถบเอเชีย Rangeหรือพิสัยการบินราวๆ6,150 กิโลเมตร แลนด์ที่แดนอาทิตย์อุทัยอย่างญี่ปุ่นได้สบายซึ่งติณห์วุ่นวายเจรจากับบอร์ด และบริษัททางฝรั่งเศสจนถึงเย็น ก่อนที่จะสั่งให้โรงงานพ่นสีพิเศษที่เขาจะทำเซอร์ไพรส์ปลายฝนอีกด้วย"เรียบร้อย! ช่วยก็อปปี้เอกสารสั่งซื้อส่งให้บอร์ดบริหารทุกคนด้วยนะ^^""ได้ค่ะคุณติณห์^^" เลขารับแฟ้มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินออกไปหลังจากมีเป้าหมาย..ทุกๆวันของติณห์ก็ทำงานอย่างหนัก อาจจะมีแพ้ท้องบ้างเวียนหัวบ้าง แต่อาการเหล่านั้นมันก็ค่อยๆทุเลา เมื่อเขามองผ่านและพยายามอุดอู้อยู่กับงานอย่างเดียวและที่เป็นแบบนี้ ซีอีโอหนุ่มไม่ได้เฉยเมยต่อลูกและเมียอะไรทั้งนั้น เขาแค่อยากให้ของขวัญปลายฝนกับลูก และเร่งทุกอย่างให้เสร็จทัน เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมงานแต่งงานที่ใกล้จะมาถึงนี้"เหนื่อยชิบ" ทันทีที่ติณห์ถึ
อันติงคิดแบบนั้น ก็รีบลุกขึ้นคว้ากระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะหันไปบอกกับแม่ที่นั่งงุนงงฝั่งตรงข้ามทันที"พอดีคืนนี้มีติวหนังสือค่ะ ไว้เรืิ่องชุดอันติงจัดการเอง ขอตัวไปโรงพยาบาลก่อนนะ สวัสดีค่ะ""อ้าวอันติง รีบไปไหนลูก" ขณะที่อันติงกำลังวิ่งออกไปจากห้องอาหาร พ่อก็เดินลงบันไดมาพอดี แต่ทั้งนี้หญิงสาวไม่ตอบ เธอรีบไปที่โรงรถและขับรถมินิคันเล็กนั้นออกไป"คุณเต้ ฉันว่าอันติงแปลกๆ""อืม..ผมก็คิดว่าแปลก ลูกอ้วนขึ้น..สงสัยอ่านหนังสือดึกกินดึก^^""ไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ แต่ลูกสติสตังไม่มีเลย ไม่รู้ว่ามีเรื่องเครียออะไรรึป่าว-_-?""เครียดที่อ้วนมั้งครับ" แล้วทุกคนก็หันมองไปที่พี่ชายคนโตของบ้านที่เดินเข้ามาร่วมโต๊ะอีกคน ขณะที่เขาพาดเสื้อสูทไว้ที่เก้าอี้ และนั่งลงข้างๆปลายฝนด้วย"ก็น่าจะใช่ พักนี้อันติงอ้วนจริงๆ...สงสัยต้องเร่งให้ลดก่อนวันงานแต่งแล้วล่ะ"เท่านั้นแหละซีอีโอหนุ่มก็วางแก้วกาแฟลงทันที ก่อนที่จะมองหน้าแม่กับปลายฝนสลับกันก็เขายังไม่รู้เรื่องฤกษ์ ไม่รู้อะไรสักอย่าง!"เดี๋ยวนะ..แล้วงานแต่ง ได้ฤกษ์แล้วเหรอครับ?""อืม..อีกสองเดือน เราก็เตรียมตัวได้แล้ว-_-"บนรถ"ตั้งสองเดือน มันนานเกินไป!" ที่โต๊ะอ
พิธีกร : แสดงว่าคุณลิลินก็ไม่ได้ปรับอะไรเลยใช่มั้ยคะลิลิน : ไม่หรอก..ฉันปรับค่ะ พอหมอเขาพูดแบบนั้นฉันเองก็ไม่อยากให้เขาเหนื่อยใจ ฉันพยายามปรับอะไรที่ปรับได้ เช่นเรื่องเข้าครัว เรื่องนิสัยใจร้อนของตัวเอง ฉันก็พยายามปรับๆลดๆมันลงบ้าง พิธีกร : แหม ก็เพราะรักและแคร์ใช่มั้ยคะ? เอาล่ะค่ะ เรามาฝั่งเจ้าบ่าวบ้าง..^^พิธีกรเว้นช่วงครู่นึง เมื่อลิลินก้มเช็ดน้ำตาและส่งไมค์คืนให้หมอณภัทร ก่อนที่จะเปิดกระดาษสคริปต์อ่าน และถามเขาว่า..พิธีกร : คุณหมอ...พูดจริงหรือเปล่าคะ? ที่บอกว่ารับได้และไม่ให้คุณลิลินเปลี่ยนอะไร?ลิลินหันขวับมองหน้าพิธีกรทันที ที่เธอพูดไปเมื่อกี้มันไม่มีความหมายเลยรึไง เดี๋ยวเถอะ.. หมอณภัทร : พูดจริงครับ แต่มันก็เป็นคำพูดที่เป็นจิตวิทยาด้วย การที่เราจะเปลี่ยนใครสักคนจริงๆมันไม่จำเป็นต้องพูดหรือสั่ง เราแค่ทำให้เธอรู้สึกรัก..จนรู้ว่าต้องทำเพื่อเราเท่านั้น แต่ทั้งนี้ผมก็รับได้จริงๆนะครับ เพราะผมรักผู้หญิงคนนี้ไปแล้ว..ไม่ว่าเธอจะบอกว่าตัวเองนิสัยไม่ดี หรือไม่เป็นงานบ้าน ผมก็รัก^^ทุกคำ..ทุกประโยค..ลิลินตื้นตันมาก เธอมองชายหนุ่มที่ตัวเองรักทั้งน้ำตา และตอนนี้ก็ไม่สนว่าเครื่องสำอา
"ผมไม่รู้ น้ำตามันไหลเองTT""อะไรเนี่ย" หมอณภัทรงงงวยขนาดหนัก เขาหันซ้ายหันขวามองคนอื่นๆทำตัวไม่ถูกที่ติณห์เป็นแบบนี้เขาเคยเห็นคนไข้บางคน..สามีแพ้ท้องแทนก็จริง แต่ไม่คิดว่าจะเห็นว่ามีคนอ่อนไหว ถึงขั้นร้องไห้แทนเมียได้ตลกดีว่ะ"หมอทำอะไรพี่ติณห์น่ะ-_-"ลิลินเดินมาถาม เมื่อเห็นซีอีโอหนุ่มพยายามเช็ดน้ำตาตัวเอง และถ้าแฟนของทั้งคู่ไม่ท้องไส้.. มองเผินๆเธอคิดว่าคู่รักชายชายกำลังทะเลาะกันนะเนี่ย"ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย" หมอณภัทรตอบ แล้วเหลือบมองติณห์เป็นระยะ เพราะชายหนุ่มเป็นเอามากเหลือเกิน ถึงป่านนี้น้ำตาก็ยังไม่หยุดไหล"ไม่มีอะไรลิน น้ำตาพี่ไหลเอง..พี่แพ้ท้องแทนปลาย ฝนน่ะ ""อ๋อ..ค่ะ แหมแพ้ท้องอ่อนไหวแทนขนาดนี้ ปลายฝนสบายเลยเนอะ""อืม T_T"ตอบทั้งน้ำตาก็ว่าได้ ไม่ว่าจะได้ยินประโยคอะไรที่กระทบกับความรู้สึก ซีอีโอหนุ่มก็น้ำตาไหลพราก จนผ่านไปสักพักผู้ใหญ่มาครบ ทุกคนก็ได้มานั่งรวมตัวกัน และเขากับปลายฝนก็นั่งพับเพียบต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสี่ที่ตอนนี้...มีพ่อแม่ของติณห์ พ่อแม่บุญธรรมของปลายฝน และสักขีพยานก็คือลิลินกับหมอณภัทร รวมถึงพี่สาวคนโตอย่างพี่ปลายฟ้าด้วย"ผมอยากขอโทษที่ล่วงเกินปลายฝนครับ