"ในกลุ่ม KG จะเรียกพวกพี่เขาว่า 'สองคิ' ก็คือคิรันกับคิริน และฉันขอย้ำนะว่า แค่ในกลุ่มกับครอบครัวเท่านั้น ที่เรียกแบบนั้นได้ คนอื่นห้ามเรียกเด็ดขาด เพราะพวกเขาไม่ชอบ
แม่ฉันเคยเล่าให้ฟังว่าชื่อพี่คิรัน แม่เขาเป็นคนตั้งให้ ส่วนพี่คิริน พ่อเป็นคนตั้ง ซึ่งมันมีที่มาของชื่อ...แต่ฉันไม่รู้ว่าที่มาของชื่อคืออะไร เพราะแม่ไม่ได้เล่าให้ฟัง"
"แล้วมันยังไงต่อหรอ..." มิเชลล์ถามต่อ...แค่ชื่อก็ฟังดูลึกลับแล้ว! แต่เหมือนจะมีอะไรที่ลึกลับกว่า...
"ทั้งสองคนเป็นแฝดคนละฝาที่หน้าตาไม่เหมือนกันเลย แม้กระทั่งนิสัย พี่คิรันเป็นแฝดพี่ นิสัยเรียบนิ่ง สุขุม เย็นชา ใจเย็นมากที่สุดในกลุ่ม เย็นมากแบบเย็นยะเยือกอ่ะ! แต่ถ้าอารมณ์ร้อนก็ร้อนแบบเดือดสุด ๆ จนสามารถเผาไหม้ทุกสิ่งอย่างได้ในพริบตาเดียว!!"
อึก! ขนาดนั้นเลยหรอวะเนี่ย? ทำเอาขนลุกเลย!!
"ส่วนพี่คิริน...แม่ฉันบอกว่าพี่เขามีนิสัยอบอุ่นและอ่อนโยนเหมือนแม่เขา มีความขี้เล่นและเฟรนลี่เบา ๆ แต่ไม่ได้เฟรนลี่ไปทั่วนะ แค่กับเพื่อนและคนสนิท... ใจเย็นเหมือนกันแต่ไม่เท่าพี่คิรัน แต่บางครั้งก็อารมณ์ร้อนมาก ถ้ามีอะไรไม่เข้าตาหรือไม่ถูกใจ"
"อ่าา~ ที่แกเล่ามามันก็เป็นข้อมูลพื้นฐานที่พวกฉันก็รู้อยู่แล้วหนิ ไม่เห็นจะมีเบื้องลึกอะไรเลย" พริกแกงกล่าวหลังจากเงียบฟังมานาน ทำให้ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
"หึ! เบื้องลึกที่ยังไม่ลึกมากคือ...พี่คิรันกับพี่คิรินเป็นลูกชายของเจ้าของมหาลัยนี้..."
"หะ อุ๊ปส์!!" รดากับมิลินเกือบจะส่งเสียงร้องห๊ะออกมา แต่มิเชลล์รีบเอามือปิดปากสองสาวไว้ก่อน
"ยังมีเรื่องที่แกต้องตกใจมากกว่านี้อีก! เรื่องนี้ลับมาก ๆ ฉันรู้มาว่าครอบครัวพี่เขาเป็น...มาเฟีย แล้วพี่คิรันก็ขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งแล้วด้วย!"
"อื้อ... O! M! G!" สองสาวกรีดร้องในลำคออย่างกดกลั้น ก่อนจะดึงมือเธอออกแล้วพูดเสียงเบา
"ทำไมแกเพิ่งบอกเนี่ย!!" พริกแกงโวยวายเพื่อนสาวเสียงเบา
"ก็มันเป็นความลับขั้นสุดยอดไง! พวกแกห้ามไปบอกใครนะ ไม่งั้นโดนสั่งเก็บแน่นอน!!"
"อึก! คะ...ใครจะกล้าพูดล่ะ จริงไหมมิเชลล์~" พริกแกงทำตาเลิ่กลั่ก แล้วหันมาถามมิเชลล์เสียงสั่น แต่คำถามนั้นกลับทำให้ร่างบางถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะตั้งสติแล้วตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเจื่อน ๆ
"ห๊ะ...อ๋อ! อะอืม...จริง!!" ใครต่างก็รักตัวกลัวตาย...ไม่กล้าเอาไปพูดหรอก!
"แล้วแกเอามาเล่าให้พวกฉันฟังแบบนี้ไม่กลัวบ้างหรอ?" มิเชลล์หันไปถามรดา
"กลัวสิ! ฉันถึงบอกให้พวกแกเงียบไว้ไง" อีกอย่างเธอคิดว่าตัวเองยังพอมีเปอร์เซ็นต์รอดอยู่บ้างถึงกล้าพูด เพราะเป็นญาติกับเขา แม้จะห่าง ๆ และไม่ได้สนิทกันก็เถอะ!
"อึก! พะ...พวกแก...นั่นพวกพี่เขาใช่ไหม" มิลินที่เงียบมานานสะกิดเพื่อนสาวแล้วเอ่ยถามเสียงสั่น
"ใช่! พวกเขาจริงด้วยแก...อยู่กันครบเลย" เวลานี้คนในหอประชุมเริ่มพูดคุยกันมากขึ้น เพราะการมาของ 5 หนุ่ม KG
"ทำไมฉันรู้สึกว่า สายตาพวกพี่เขามองมาทางนี้เลยอ่ะแก!"
อึก! พวกเขามองมาทางนี้จริงๆ ด้วย แถมยังจ้องเขม็งเหมือนพวกเธอทำอะไรผิดอีก โดยเฉพาะสายตาเฉี่ยวคมของผู้ชายหน้าหวานที่ยืนอยู่หน้ากลุ่มเพื่อน!
"เขามองพวกเรารึเปล่าวะ?"
"ไม่รู้~ แล้วถ้ามอง...พวกพี่เขาจะมองเราทำไมวะ?" พริกแกงถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
"หรือว่าเราทำอะไรผิด!! แต่ก็ไม่นะ เรายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย"
ใครบอกล่ะ สามสาว!!
"ผิดสิ! เราผิดตั้งแต่จับกลุ่มคุยกันเรื่องผู้ชายในหอประชุมแล้ว!!" มิเชลล์เอ่ยเตือนสติเพื่อน
"จะจริงด้วย! แล้วแบบนี้จะโดนทำโทษไหม?"
"ไม่รู้ แต่ฉันว่าตอนนี้เราเลิกคุยแล้วตั้งใจฟังอาจารย์พูดเถอะ แล้วก็เลิกจ้องพวกเขาตอบด้วย!!"
พวกเธอเลิกมองกลุ่มชายหนุ่มแล้วหันมาตั้งใจฟังอาจารย์ที่กำลังพูดอย่างตั้งอกตั้งใจ แม้บางครั้งจะวอกแวกหันไปมองกลุ่มชายหนุ่มอยู่บ้าง
ผ่านไปไม่นาน การปฐมนิเทศก็ได้จบลง
สรุปแล้วพวกเธอแทบจะไม่ได้ฟังการปฐมนิเทศเลย เพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เนื่องจากรู้สึกว่าเหมือนถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา!
เอาเป็นว่าการปฐมนิเทศครั้งนี้ พวกเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องผู้ชาย!!
นี่โชคดีนะ ที่ก่อนเข้าหอประชุมมีคนแจกใบกำหนดการ และข้อมูลกับรายละเอียดการประชุมให้แล้ว ไม่งั้นหลังจากนี้คงไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไรต่อ...
"พรุ่งนี้รับน้องวันแรกแล้ว รู้สึกตื่นเต้นจัง" มิลินพูดขณะเดินออกจากหอประชุม
"นั่นสิ! โชคดีนะที่คณะเราให้จัดการรับน้องก่อนที่มหาลัยจะเปิด ไม่งั้นเหนื่อยแย่เลย ทั้งเรียน ทั้งรับน้อง ทั้งกิจกรรมอื่นๆ ที่จะตามมาอีก"
"ใช่! เหนื่อยแย่เลย…หมายถึงพวกเธอตอนนี้น่ะ!"
"เฮือก!! พะ พะพวกพี่..."
สี่สาวสะดุ้งตกใจ เมื่อเดินออกมาด้านนอกแล้วก็เจอกับชายหนุ่มทั้ง 4 และหญิงอีก 1 คนยืนมองอยู่
"พวก พวกพี่มีอะไร...อึก! รึเปล่าคะ"
เสียงพริกแกงสั่นไหวจนแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์
"มีแน่นอน...เมื่อครู่ในหอประชุมพวกเธอคุยอะไรกัน?"
"พะ พวกเรา คือ พวกเรา..." ขณะนี้พวกเธอติดอ่างกันทั้งกลุ่มพูดอะไรไม่ออก เพราะนึกถึงคำพูดที่รดาเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้
'พวกแกห้ามไปบอกใครนะ ไม่งั้นโดนสั่งเก็บแน่!!'
"คือพวกเราแค่...ทำความรู้จักกันในฐานะเพื่อนใหม่" มิเชลล์เป็นหน่วยกล้าตายที่พูดออกไป
"หรอ? ทำความรู้จักกับใคร...ไม่ใช่ว่าพวกเธอสามคนรู้จักกันอยู่แล้วหรอ หน้าตาเหมือนกันขนาดนี้คงจะเป็นฝาแฝด"
"มะ-ไม่ใช่ค่ะพี่คะนิ้ง เราสามคนไม่ได้เป็นฝาแฝดกัน" รดารีบส่ายหัวเป็นพัลวัน พลางมองไปทางสองหนุ่มที่เป็นญาติห่างๆ กับตัวเอง
"จะเป็นอะไรก็ช่าง แต่รู้ไว้ซะว่าการกระทำของพวกเธอมันไม่เหมาะสม!!"
"คือ...ฉันผิดเองค่ะที่ชวนเพื่อนคุย ฉันมาเรียนที่นี่คนเดียว ก็แค่อยากรู้จักเพื่อนใหม่" เธอพลาดเองที่ชวน 3 สาวคุย ขอโทษนะเพื่อน~
"ถ้าพวกพี่จะลงโทษ ก็ลงโทษฉันคนเดียวเถอะค่ะ ฉันยอมรับผิด!"
"ได้ไงกันล่ะ! ตอนคุยเราก็คุยด้วยกัน ถ้าจะรับผิดก็ต้องรับผิดด้วยกันสิ"
มิลินเอ่ยเสียงดัง เธอจะปล่อยให้เพื่อนรับผิดคนเดียวได้ยังไง
"นั่นสิ! แกจะรับผิดคนเดียวได้ไง!"
"พวกพี่ลงโทษพวกเราด้วยกันเถอะค่ะ พวกเราผิดด้วยกันทั้งหมด!!" ทั้ง 4 ก้มหน้าลงต่ำเพื่อรอรับความผิด
"หึ! ครั้งนี้ก็แค่เตือน...แต่ถ้ายังมีครั้งต่อไปแบบเมื่อครู่อีก พวกเธอก็ไม่เหมาะที่จะเป็นนักศึกษามหาลัยนี้!" เสียงทุ้มของคิรันที่ยืนเงียบมานานเอ่ยขึ้นเสียงดัง ก่อนจะเดินนำกลุ่มเพื่อนออกไป
"ฟู่ววว~ เพิ่งเคยเห็นตัวจริงและยืนคุยด้วยครั้งแรก ไม่คิดว่าจะตื่นเต้นขนาดนี้"
"ตื่นเต้นหรือกลัวกันแน่พริกแกง ฉันเห็นยืนตัวสั่นเชียว!"มิเชลล์เอ่ยแซวเพื่อนสาว
"ว่าแต่ฉัน! แกเถอะไม่กลัวบ้างรึไงถึงได้พูดแบบนั้น ถ้าพวกเขาลงโทษแกคนเดียวจะทำยังไง!"
"ก็ทำใจ..." มิเชลล์ไหวไหล่ราวกับไม่ได้ทุกข์ร้อนใจ
"ทำเป็นพูด~ เมื่อกี้ฉันเห็นแกกล้าสบตาพวกพี่เขาทุกคนเลย...ยกเว้นพี่คิรัน! พอแกมองไปทางพี่เขาก็รีบก้มต่ำทุกที!"
ช่างสังเกตเก่งยัยรดา!!
"พวกแกกลับกันเถอะ ฉันขาสั่นจนจะทรงตัวไม่อยู่แล้ว~" เสียงมิลินดังขึ้น ทำให้พวกเธอมองตามก็พบว่าขาเล็กของมิลินมันสั่นอยู่จริงๆ
"คริ! จะเดินไหวไหมนั่นยัยมิลิน!!"
"ไม่! ประคองที~"
"งั้นพวกฉันกลับก่อนนะมิเชลล์ พรุ่งนี้เจอกัน"
"โอเค~ บ๊ายบายนะพวกแก"
มือเล็กโบกมือให้เพื่อนสาว ก่อนจะเดินไปอีกทาง เพื่อกลับที่พักของตัวเองเหมือนกัน
กึก!!
ร่างบางชะงักกึก เมื่อเดินลงบันไดมาก็เห็นว่ามีใครคนหนึ่งยืนหลบมุมอยู่ที่ซอกตึก
"ยังไม่กลับอีกหรอ?" เธอเอ่ยถามอีกคนเสียงเบา
"ถ้ากลับแล้วจะเห็นว่ายืนอยู่ไหม?"
"ก็คิดว่าผี..." เธอไหวไหล่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ
"เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย...ตามมา เดี๋ยวไปส่ง!" ชายหนุ่มว่าพลางเดินนำหญิงสาวไป แต่ไม่นานก็ต้องชะงักเท้า เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้เดินตามมาด้วย
"เป็นอะไรอีก?" เสียงทุ้มถามอย่างไม่เข้าใจ
"เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร...ว่าแต่ลืมไปแล้วหรอว่าช่วงนี้เราต้องห่างกันสักพัก"
คำพูดของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาในทันที
"ไม่ได้ลืม...แต่ทำไมต้องทำขนาดนั้นด้วยวะ ไม่เข้าใจ!!"
"อย่าเสียงดังสิ...เฮ้อออ ก็ไหนตอนแรกเราตกลงกันรู้เรื่องแล้วไง แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้เป็นแบบนี้อีก?"
"ก็คิดถึงไง! ไม่เข้าใจรึไงว่าคนมันคิดถึง!!" ตึกๆๆ ใจบางเต้นระรัวทันทีที่ได้ยินอีกคนพูดแบบนั้น ก่อนจะหันซ้ายหันขวาเพื่อดูว่ามีใครอยู่แถวนี้รึเปล่า
"ไม่มีใครอยู่หรอก ไม่ต้องห่วง ฉันเฉดหัวกลับไปหมดแล้ว! ทีนี้จะกลับด้วยกันได้รึยัง?" เขารู้ว่าเธอกำลังกังวลอะไรอยู่
พรึ่บ!!
"ถ้ายังกลัวอยู่ก็เอานี่ไปคลุม!!" แจ็คเก็ตตัวใหญ่คลุมลงบนหัวของหญิงสาว แต่ด้วยความที่เธอตัวเล็กมาก ทำให้มันเกือบจะปิดได้หมดทั้งตัวเลย
"หึ! ตัวเล็กลูกหมา..."
"จิ๊! ทำไมชอบว่า!?" ร่างบางถึงกับหน้าบึ้ง เมื่อได้ยินที่อีกคนพูด...นิสัยไม่ดีอ่ะ ชอบหลอกด่ากันตลอดเลย
"เดินไป อย่างอแง..." มุมปากหยักกระตุกยิ้ม ก่อนจะใช้มือหนาจับแขนเล็ก แล้วหิ้วปีกเธอพาไปที่รถ...ให้ตายเถอะ! นี่เขาเห็นเธอเป็นลูกหมาจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย ถึงทำอะไรไม่ไว้หน้ากันเลย!?
"กรี๊ดดด ยัยน้อง!! ขึ้นสองขีด!" คะนิ้งตะโกนพูดเสียงดัง ทำให้มิเชลล์ที่หลับตาอยู่ ต้องเปิดตากว้างและชะโงกหน้าเข้าไปดูแท่งสีขาวให้เห็นกับตาเฮือก!! สะสองขีดจริงๆ ด้วย!!"อึก! มะมันจะไม่พลาดใช่ไหมคะ""พี่ก็ไม่แน่ใจ งั้นลองดูแท่งอื่นดูไหม พี่ซื้อมาหลายแท่ง..." หงึกๆ มิเชลล์พยักหน้ารัว ขณะนี้อารมณ์ความรู้สึกของเธอมันหลากหลายมาก จนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้เลย!"อะนี่! ลองดู..." มือเล็กรับที่ตรวจครรภ์มาแล้วค่อยๆ หยดฉี่ที่ยังเหลืออยู่ลงไปบนที่ตรวจครรภ์ทุกแท่ง และยืนรอผลด้วยความลุ้นระทึกพรึ่บ!"เอ๊ะ? ยัยน้อง นี่มันก็ที่ตรวจครรภ์หนิ!" คะนิ้งเปิดถังขยะ เพื่อที่จะนำกล่องลงไปทิ้ง ทว่าเธอก็เจอเข้ากับที่ตรวจครรภ์จำนวนหลายสิบชิ้นอยู่ในนั้น…"เอ่อค่ะ มันเป็นของที่เชลล์เคยตรวจไปเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่มันขึ้นขีดเดียว""แล้วทำไมมันถึงได้เยอะขนาดนี้ล่ะ!?" ก็หลังจากที่ร่างสูงรู้ว่าเธอมีเปอร์เซ็นต์ที่จะท้อง เขาก็บังคับให้เธอตรวจครรภ์ทุกวันเลย และที่มันเยอะขนาดนี้ก็เพราะว่ามันถูกสะสมมาตลอดหนึ่งอาทิตย์ยังไงล่ะ แต่ช่วงสองวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้บังคับให้เธอตรวจเลย เพราะคงจะท้อกับผลที่ออกมาเป็นขีดเดียวทุกครั้ง"แห
"คะคิรัน...มาได้ไง!!?" นั้นสิ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!?"ผลตรวจออกมาว่ายังไง..." คิรันไม่ได้ตอบคำถามที่ร่างบางสงสัย แต่กลับเป็นฝ่ายตั้งคำถามกลับไปแทน"กึก! ผะผลตรวจอะไร?" ร่างบางผงะกับคำถามที่สุดจะตรงประเด็นของเขา ก่อนจะเฉไฉทำเป็นไม่เข้าใจ"อย่าเฉไฉ...ตอบมา ผลตรวจออกมาว่ายังไง" คิรันถามย้ำอีกครั้งเสียงดังจนทุกคนในที่นี้หันมามอง"อย่าเสียงดังสิ!"หมับ!"เฮ้ออ~ กลับเถอะ..." มิเชลล์ฉุดรั้งมือใหญ่ เพื่อบังคับให้เขาเดินตาม จนมาถึงหน้าโรงพยาบาลพรึ่บ!"จะบอกได้ยังว่าผลตรวจเป็นยังไง!" คิรันหยุดเดินแล้วออกแรงกระตุกเบาๆ ให้ร่างบางมาอยู่ในอ้อมแขน"อื้ออ~ คิรันนี่มันหน้าโรงพยาบาลนะ!"“…..”"เฮ้ออ~ โอเค! เชลล์บอกก็ได้...แต่ต้องไม่ใช่ตรงนี้" ร่างบางยกมือยอมแพ้ เมื่ออีกคนยังจ้องมองเธอไม่ลดละ"งั้นก็ไปที่รถ!"ปัง!!"ถึงรถแล้ว คราวนี้ก็พูดมา!""ก่อนเชลล์จะตอบคำถาม…คิรันตอบมาก่อนว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?""ก็ตามเด็กเจ้าเล่ห์ที่แอบหนีผัวมาไง!!" เมื่อเช้าเขารู้สึกตัวตั้งแต่เธอพยายามแกะท่อนแขนเขาออกจากตัวแล้ว แต่ที่ยังแกล้งหลับต่อเพราะอยากรู้ว่าคนตัวเล็กจะทำอะไร และก็แอบตามเธอมานี่แหละ"อึก!" นี่เมื่อเช้า
"ว่าไง เธอมั่นใจไหม...""อึก! มะมั่นใจสิ มั่นใจมากด้วย!!" มั่นใจกับผีสิ ใครเชื่อก็บ้าแล้ว ตอนนี้ทั้งตัวและหัวใจเธอสั่นยิ่งกว่าเจ้าเข้าทรงอีก...แต่จะให้ยอมรับกับเขาตามตรงได้ยังไงไม่ได้การแล้ว พรุ่งนี้เธอต้องไปฉีดยาคุมให้เร็วที่สุด แต่มันจะทันไหมนะ!!"โอเค ถ้าเธอมั่นใจว่าไม่ได้ท้องงั้นฉันก็เ-ดเธอแรงๆ ได้ใช่ไหม""ได้…เฮ้ย!! ไม่ได้!!" อะไรของเขาเนี่ย ทำไมถึงวกเข้าเรื่องนี้ได้ ซ้ำยังถือจังหวะตอนเธอกำลังกังวลมากๆ จนเผลอตอบออกไปแบบนั้นอีก!!"ทำไมจะไม่ได้! มานี่!!""อ๊ะ!!" ร่างบางถูกมือหนาฉุดรั้งให้เข้ามานั่งบนตัก แล้วกอดรัดไว้แน่น"คะคิรันไม่เอา เราลงไปข้างล่างเถอะนะ ทุกคนรออยู่...""รู้ได้ไงว่ารอ ป่านนี้พวกเขาคงกลับไปหมดแล้วล่ะ""งะงั้นเชลล์ไปอาบน้ำนอนดีกว่า!" มิเชลล์พยายามหลีกเลี่ยงอย่างสุดฤทธิ์ เพราะเธอจะยอมให้เขาทำแบบนั้นตอนนี้ไม่ได้!!"อย่าเพิ่งสิ! ฉันยังไม่ได้แกะของขวัญเลยนะ...""แต่ของขวัญอยู่ข้างล่าง...งั้นเราลงไปแกะของขวัญกันนะ!" ดีเหมือนกันเขาจะได้เลิกหมกมุ่นเรื่องอย่างว่า!"ไม่ต้องลงไปหรอก เพราะของขวัญชิ้นนั้นอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว..." เสียงแหบพร่ากระซิบแผ่วข้างหู จนคนฟังขนลุกซู่อึก
พรึ่บ!! คาเรนกับคาริสช่วยกันฉุดรั้งพี่ชายทั้งสองคนไว้เมื่อได้ยินเช่นนั้น...ไม่ได้ ให้ไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นแผนเซอร์ไพรส์ล้มแน่นอน!!"มาจับเฮียไว้ทำไมเนี่ยคาเรน ปล่อย!" คิรินแกะมือเล็กของคาเรนออก แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมปล่อยให้เขาเป็นอิสระได้อย่างง่ายดาย ซ้ำยังกอดรัดขาเขาไว้แน่นอย่างกับงูเหลือมอีก..."ไม่! ใกล้ถึงเวลาเป่าเค้กแล้ว ออกไปข้างนอกกันเถอะนะ...""ใช่ๆ ไม่ต้องไปหรอกเดี๋ยวพวกพี่เขาก็มาแล้ว!""เอ่อออ คุณหนูคะ!" สาวใช้คนหนึ่งเอ่ยเรียกคุณหนูของเธอเสียงเบา เนื่องจากขณะนี้พวกเธอไม่ได้อยู่กันแค่สองคน"อ๊ะ! พี่แจ่มเสร็จแล้วหรอคะ?""เสร็จแล้วค่ะ""อะไรเสร็จ จะทำอะไรกัน?""ไม่บอก! ตามไปดูเองเถอะ..." คาเรนกับคาริสปล่อยพี่ชายทั้งสองให้เป็นอิสระ แล้วก็วิ่งออกจากห้องครัวไป ทำให้คิรันกับคิรินต้องเร่งเดินตาม จนมาถึงห้องโถงกว้าง ที่ขณะนี้มีทุกคนอยู่ด้วย และดูเหมือนกำลังล้อมวงมุงดูอะไรสักอย่าง"กล่องอะไรครับม๊า ทำไมมันใหญ่ขนาดนี้" คิรินถามผู้เป็นแม่ด้วยความแปลกใจ เมื่อเข้ามาในวงล้อมของทุกคนก็เห็นว่ามีกล่องขนาดใหญ่วางอยู่1 ใบ"กล่องของขวัญของลูกสองคนไง!" หืม! ด้านในต้องเป็นของขวัญที่ใหญ่ขนาดไหนกัน กล่
"เอ่อออ...""ก็ได้ค่ะ!!" มิเชลล์กับคะนิ้งพยักหน้าตกลงพร้อมกัน หลังจากชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งเฮ้ออ~ หวังว่าเธอจะตัดสินใจถูกนะ...แอบกลัวใจร่างสูงเหมือนกันแฮะ กลัวว่าเขาจะรู้สึกนอยด์ที่ไม่ได้ของขวัญพิเศษเหมือนพี่คิริน...แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา แม้ว่าเขาจะจบมหาลัยและมีงานทำแล้ว แต่เธอนี่สิ เธอยังต้องเรียนอีก1 ปีนะ เพราะตอนนี้เธออยู่ปี4"เย้!!" สองคาโผเข้ากอดพี่สะใภ้ด้วยความดีใจสุดฤทธิ์ เนื่องจากครั้งนี้พวกเธอมีส่วนร่วมในการเซอร์ไพรส์พี่ชายทั้งสองด้วย"ยัยเรน ยัยริส! กอดพี่คะนิ้งเบาๆ สิลูก!" คริสตัลปรามสองแสบเสียงดัง เพราะทั้งคู่พุ่งเข้ากอดคะนิ้งแรงเกินไปด้วยความลืมตัว"อุ๊ย! ขอโทษค่ะหนูลืมตัว" สองคารีบผละออกแล้วขอโทษ"คิก! ไม่เป็นไรค่ะ" คะนิ้งยกยิ้มเอ็นดูเด็กน้อยทั้งสอง"งั้นพวกหนูไปแปรงโฉมกับม๊ากันลูก!""หืม? ทำไมต้องแปรงโฉมด้วยล่ะคะม๊า" มิเชลล์เอียงคอสงสัย...ชุดที่เธอกับพี่คะนิ้งใส่อยู่ตอนนี้มันก็สวยและน่ารักดีออก"จะเซอร์ไพรส์ของขวัญคนรักสักที เราก็ต้องสวยที่สุดสิลูก ป่ะ ไปห้องม๊ากัน...""คาเรน! คาริสพวกเราไม่ต้องตามไปหรอก เดี๋ยวเฮียของลูกจะสงสัย คอยอยู่ช่วยม๊าถ่วงเ
2 ปีต่อมา“คิรันแต่งตัวเสร็จยัง เชลล์อยากไปหาป๊าม๊าแล้วนะ!!” ร่างเล็กตะโกนเร่งเร้าคิรันที่กำลังแต่งตัวอยู่ด้วยความเร่งรีบ พลางกระโดดเหยงๆ ไปมาเป็นการกดดันเขาอย่างหนัก“เสร็จแล้ว จะรีบอะไรขนาดนั้น หืม?” คิรันเดินออกมาจากห้องแล้วโยกหัวเล็กเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว“ก็ต้องรีบสิ! เพราะทุกคนกำลังรออยู่...วันนี้เป็นวันเกิดคิรันกับพี่คิริน แล้วก็ป๊าเลยนะ!” มีผู้ใหญ่รอเขากับเธออยู่ที่นั่นมากมาย แล้วจะให้ไปสายได้ยังไง มันเสียมารยาท“หึ! กลัวเสียมารยาทว่างั้น?”“ก็ใช่น่ะสิ!”“…แต่ฉันรู้สึกได้ว่าเธอกำลังตื่นเต้น มากกว่ากลัว!” คิรันจ้องมองคนตรงหน้าอย่างต้องการจับผิด...ยัยเด็กต้องมีแผนอะไรในหัวแน่นอน เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าแผ่นอะไร“ก็ ก็ตื่นเต้นด้วย วันนี้ที่บ้านมีปาร์ตี้วันเกิดคนต้องเยอะมากแน่ๆ” มิเชลล์เบี่ยงหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาจ้องจับผิดของอีกคน“ทุกปีก็มีแต่คนในครอบครัว ไม่เห็นจะเยอะตรงไหน...ปีที่แล้วก็เหมือนกัน” เออว่ะ! ปล่อยโป๊ะทำไมเนี่ยมิเชลล์~“แต่มันก็เยอะกว่าทุกวันที่เราไปบ้านม๊าไง เพราะมีคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย แล้วก็เพื่อนกับคนสนิทของพี่กับป๊าม๊าด้วยไง!”“โอ๊ย!! คิรันอย่าสงสัยมากไ