“พ่อว่าช่วงนี้พีร์ทำงานหนักเกินไปแล้วนะ” คุณธวัชชัยเอ่ยกับลูกชายคนโตที่กลับมาถึงบ้านแต่ละวันด้วยสภาพอิดโรยราวกับไปออกรบ
“ผมชินแล้วครับพ่อ” พีราวัชรหรือพีร์หนุ่มโสดวัย 35 ปีที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของ TP Shopping Mall ซึ่งมีสาขาอยู่ในกรุงเทพสองแห่ง ต่างจังหวัดอีกถึงสี่แห่งและปลายปีนี้ก็จะเปิดที่เวียดนามอีกหนึ่งแห่ง
“ได้ข่าวว่าช่วงนี้ห้างปรับปรุงใช่เหรอ ทำไมไม่ใช้ช่วงนี้พักผ่อนละ ไปภูเก็ตไหมล่ะ ทะเลกำลังสวยเลย” คุณประภัสสรบอกลูกชาย
“ไม่ดีกว่าครับแม่ ผมเพิ่งให้ตั๋วเครื่องบินกับที่พักฟรีกับลูกค้าที่เช่าพื้นที่ในห้างไป ถ้าไปเที่ยวแล้วบังเอิญเจอกันผมกลัวพวกเขาจะไม่สนุก” ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาข้างมารดาก่อนจะยกนำที่เด็กรับใช้เอามาเสิร์ฟเพื่อดับกระหาย
“พีร์คิดเหรอว่าคนพวกนั้นจะจำพีร์ได้ พีร์เคยเดินลงมาที่ห้างที่ไหนกันละ ไปถึงก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดเลยแล้วใครที่ไหนจะจำลูกแม่ได้กัน”
“แต่จำไม่ได้ก็ดีเหมือนกันนะคุณ พวกสาวที่ห้างก็จะได้ไม่วุ่นวาย”
“พูดถึงสาว แล้วเมื่อไหร่ลูกของแม่จะหาสะใภ้ให้แม่สักทีล่ะลูก แม่รอนานแล้วนะ”
“อย่ารอเลยครับแม่ ผมยังไม่คิดเรื่องนั้น”
“แต่พีร์จะสนุกไปวันๆ ไม่ได้นะ อีกหน่อยใครจะมาสืบทอดกิจการล่ะ”
“ก็ลูกนายวินกับข้าวหอมไงครับแม่” เขาหมายถึงน้องชายกับน้องสาวที่ตอนนี้ทั้งสองนั้นแต่งงานไปแล้ว
“พูดอย่างกับสองคนนั้นมีหลายให้แม่แล้วอย่างนั้นแหละ เฮ้อ! ไม่รู้ไปทำกรรมที่ไหนมา มีลูกกับเขาตั้งสามคนแต่ยังไม่มีหลานให้อุ้ม แม่ว่าพีร์ลองมาหาคนรู้ใจไว้บ้างก็ดีนะลูก”
“แม่ครับ ผมยังไม่เคยเจอใครที่ถูกใจจนอยากจะให้มาเป็นแม่ของลูกได้เลยนะครับ”
“ก็เราเอาแต่ทำงานไงล่ะ แล้วจะเจอใครที่ไหนล่ะ ลูกสาวของเพื่อนแม่ก็แต่งงานกันไปหมดแล้ว”
“อย่าคิดมากเลยครับแม่ เนื้อคู่ผมอาจจะยังไม่เกิดก็ได้นะครับ”
“ปีนี้พีร์อายุ 35 แล้วนะ เนื้อคู่เราอาจจะเกิดแล้วและรอเราที่ไหนสักแห่งนะ”
“แล้วผมจะรู้ได้ยังไงล่ะครับพ่อว่าเขารออยู่ที่ไหน ไม่เห็นเขาจะเมลหรือไลน์มาบอกเลยนะครับ” พีราวัชพูดพลางหัวเราะร่วน ชายหนุ่มไม่เชื่อเรื่องความรักหรือเนื้อคู่เพราะเคยมีแฟนที่รักกันมา คบกับตั้งแต่เรียนปีสอง แต่พอเขาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเพียงสามเดือนเธอก็แต่งงานกับนักธุรกิจชาวไต้หวันและย้ายไปอยู่กับสามีสิบกว่าปีแล้ว
“อย่ามาทำเป็นตลกนะพีร์”
“ก็ผมพูดจริงนี่ครับแม่”
“แต่ก่อนพ่อก็คิดแบบนี้ แต่พอเจอแม่แค่ครั้งเดียวพ่อก็รู้เลยว่าแม่คือเนื้อคู่”
“แล้วพ่อจะรู้ได้ยังไงล่ะครับว่าแม่เป็นเนื้อคู่”
“เรื่องนี้เจอกับตัวเองแล้วก็จะรู้”
“แม่ละครับ รู้ได้ยังไง” เมื่อถามบิดาแล้วไม่ได้คำตอบเขาก็ถามมารดาบ้าง
“สำหรับแม่ต้องใช้เวลา ไม่ใช่เจอปุ๊บรู้ปั๊บหรอกนะ แม่คุยกับพ่ออยู่หลายครั้งยิ่งคุยก็รู้สึกเหมือนคนเคยที่เจอกันมานาน ทั้งที่เพิ่งได้เจอกันไม่กี่ครั้ง จังหวะหัวใจของแม่เต้นแปลกไปจากเดิม แล้วยิ่งได้อยู่ใกล้พ่อมันเหมือนกับว่ามันเต้นประสานกับจังหวะหัวใจของพ่อ”
“ผมว่าพ่อกับแม่นี่ดูละครมากไปแล้วนะครับ”
“เราถามแม่เองนะพีร์แม่ก็ตอบไปตามนั้นจริงไหมคะคุณ”เธอหันไปถามสามีเพื่อให้ช่วยยืนยัน
“จริงจ้ะ อย่างเจ้าพีร์นี่หัวใจมันคงตายด้านไปแล้วล่ะมั้ง พ่อว่าลูกชายคนโตของบ้านนี้คงจะอยู่เป็นโสดไปจนแก่แน่ๆ”
“ผมว่าพ่อกับกำลังกดดันและท้าทายผมนะครับ”
“พ่อพูดตามความจริงนี้พีร์ อายุอย่างเราควรจริงจังได้แล้ว เรื่องงานก็เข้าที่เข้าทาง เหลือแค่เรื่องครอบครัวนี่แหละที่พ่อกับแม่เป็นห่วง”
“ถ้าผมเจอคนที่ถูกใจผมแต่ไม่ถูกใจพ่อกับแม่ละครับ ประมาณว่าครอบครัวเราไม่เท่าเที่ยวกัน ฐานะเขาด้อยกว่า เขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอะไรทำนองนี้พ่อกับแม่จะรับได้เหรอครับ”
“นาที่นีแม่ขอใครก็ได้ ที่รักลูกก็พอเรื่องอื่นไม่สนใจอยู่แล้ว”
“แล้วถ้าเจอคนที่ใช่ก็รีบบอกพ่อเลยจะได้ไปสู่ขอให้นะ”
“พ่อครับ จะไม่ให้เราลองคบกับหน่อยเหรอคะครับ”
“จะลองคบกันให้เสียเวลาทำไมเจอก็แต่งเลยสิ แล้วค่อยมาศึกษากันทีหลังก็ได้ ดูพ่อกับแม่สิคุยกันแค่เดือนเดียวเองนะ”
“มันคงไม่กี่คนหรอกครับที่จะเจอคนที่ใจตรงกัน ผมว่าพ่อกับแม่เป็นพรหมลิขิตหรือไปก็คงทำบุญร่วมกันมาแน่ๆ”
“พูดถึงทำบุญ วันพรุ่งนี้บ้านน้าตุ๊กจะทำบุญเลี้ยงเพลพระพีร์ไปกับแม่หน่อยนะลูก” คุณประภัสสรยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะเพื่อนรุ่นน้องคนนี้บอกว่าจะพาหลานสาวมาแนะนำให้กับพีราวัชรู้จัก
“ครับแม่” ชายหนุ่มรับคำแต่เขาก็เห็นว่ามารดาแอบยิ้ม ชายหนุ่มจึงตัดสินใจได้ทันทีว่าเขาควรหาเวลาพักผ่อนบ้าง
พอมารดาเดินขึ้นไปยังชั้นสองแล้วเขาก็มองหน้าบิดาที่กำลังกลั้นยิ้มอยู่เหมือนกัน
“ผมว่าไม่ใช่แค่ทำบุญใช่ไหมครับ แม่ต้องมีอะไรแอบแฝงแน่”
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”
“ผมเห็นแม่แอบยิ้มครับ ผมว่าพรุ่งนี้ผมไปเที่ยวดีกว่า ผมฝากพ่อบอกแม่ด้วยนะครับว่าผมอยากไปพักผ่อนสักสองสามวัน”
“ไหนว่ากลัวจะเจอคนรู้จักไง”
“ผมไม่ได้ไปภูเก็ตนี่ครับพ่อ ไปแค่เสม็ดเอง ไปวันธรรมดานักท่องเที่ยวไม่เยอะครับ บางทีจะได้หาสะใภ้ฝรั่งมาให้มา”
“ให้มันจริงเถอะพ่อก็อยากมีหลานเป็นลูกครึ่งเหมือนกัน” ธวัชชัยหัวเราะก่อนจะเดินตามภรรยาขึ้นชั้นสอง
พีราวัชรกำลังจะกดโทรออกเพื่อให้เลขาจองโรงแรมแต่ เปลี่ยนใจเพราะถ้าเลขาเป็นคนจองมารดาจะต้องรู้แน่ว่าเขาหลบไปเที่ยวที่ไหน
พอจองโรงแรมเสร็จเขาก็จัดของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋า ชายหนุ่มเปิดตู้เสื้อผ้าด้านริมสุดที่เป็นชุดสำหรับใส่เที่ยวทะเลซึ่งน้องสาวเคยซื้อไว้ให้ เขาเลือกแต่เสื้อเชิ้ตแขนและกางเกงผ้ายาวแค่เขากับรองเท้าแตะแบบสวมเพื่อข้ากับบรรยากาศริมทะเล
จัดของเสร็จก็ขับรถไปนอนที่คอนโดเพราะกลัวว่าถ้าออกบ้านตอนเช้ามารดาจะสงสัยที่เห็นเขาถือกระเป๋าเดินทาง
“ขอโทษนะครับแม่ แต่ผมอยากพักผ่อน ผมยังไม่พร้อมจะมีใครครับแม่” เขามองไปบนชั้นสองของตัวบ้านก่อนจะขับรถออกมาในเวลาเกือบเที่ยงคืน
เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนี้พิจิกาและพีราวัชรก็แต่งงานกันได้หลายเดือนแล้ว คุณกิ่งแก้วที่ลาไปคลอดลูกก็ยังไม่กลับมาทำงานทำให้สองสามีภรรยามีเวลาหวานด้วยกันทั้งที่บ้านและที่ทำงาน “ไม่น่าเชื่อนะคะว่าเราจะได้แต่งงานกัน” “ถ้าคืนนั้นผมไม่มาส่งผิงที่นี่ ผมคงเสียดายไปจนตาย” “ผิงไม่คิดเลยนะคะว่าความเมาจะทำให้ผิงได้สามีที่หล่อแบบนี้” “ผิงรู้ไหม ว่าผมแอบมองผิงตั้งแต่ผิงออกไปเต้นแล้ว” “เหรอคะ” “ครับ ผิงสวยสะดุดตาผมมาก ผมดีใจมากแค่ไหนรู้ไหมที่ผิงเดินกลับมาดื่มต่อที่บาร์” “แล้วคุณคิดจะมาส่งผิงแล้วกลับหรือคิดอย่างอื่น” “ผมสารภาพเลยครับว่าผมคิดไม่ซื่อกับผิงตั้งแต่ต้น ผมเคยเจอผู้หญิงในบาร์แล้วเราก็ไปต่อกันจากนั้นทุกอย่างก็จบภายในคืนเดียว ผมแทบไม่รู้ชื่อพวกเธอด้วยซ้ำ แต่พอเจอผิง ผมกลับลืมไม่ลง” “เพราะอะไรคะ จะว่าเพราะหน้าตาก็ไม่น่าจะใช่เพราะคนสวยกว่าผิงมีเยอะไปหมด” “ผมเองก็หาเหตุผลไม่ได้ ผมรู้แค่ต้องเป็นผิง ผมรู้แค
เริ่มงานวันแรกหลังจากหยุดยาว พิจิกาไม่ค่อยมีสมาธิทำงานเท่าไหร่เพราะเย็นนี้เธอจะต้องเข้าไปทานอาหารเย็นที่บ้านของพีราวัชร แม้จะเคยเจอบิดามารดาของเขาแล้ว แต่ครั้งนี้มันต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะเขาจะพาเธอเข้าไปในฐานะคนรักไม่ใช่ผู้ช่วยเลขาอย่างครั้งก่อน“ผิง มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”“นิดหน่อยค่ะพี่กิ่ง”“เล่าให้พี่ฟังได้นะ”“ผิงก็อยากเล่าค่ะ แต่เรื่องนี้ผิงบอกใครไม่ได้จริงๆ ค่ะ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับผิงคนเดียว”“คงเป็นเรื่องสำคัญมากใช่ไหม”“ค่ะพี่กิ่ง”“พี่ไม่รู้นะว่าเรื่องไร เอาเป็นว่าพี่ให้กำลังใจผิงก็แล้วกันนะ ใช้สติให้มาก พี่ว่าปัญหาทุกอย่างจะผ่านได้ด้วยดี”“ขอบคุณค่ะพี่กิ่ง พี่กิ่งจะกลับเลยก็ได้นะคะเดี๋ยวตรงนี้ผิงทำต่อเองค่ะ”“แล้วผิงไม่รีบกลับบ้านเหรอวันนี้เจ้านายไม่อยู่น่าจะรีบกลับนะ”“กลับตอนนี้รถเมล์แน่นค่ะพี่กิ่ง ผิงรออีกนิดดีกว่าค่ะ”“งั้นพี่ไปก่อนนะ”“ค่ะพี่กิ่ง”พอเลขารุ่นพี่กลับไปแล้วพิจิกาก็จัดการงานตรงหน้าต่ออย่างไม่เร่งรีบเพราะพีราวัชรเพิ่งลงจากเครื่องเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน กว่าเขาจะขับรถมาถึงที่นี่ก็คงอีกนานเมื่อทำงานตรงหน้าเสร็จแล้วหญิงสาวก็เข้าห้องน้ำสำรวจความเรีย
เกือบสิบโมงเช้าของวันใหม่สองหนุ่มสาวก็ยังคงนอนกอดกันอยู่บนเตียงกว้าง ความสุขที่มีร่วมกันมันมากมายราวกับเป็นความฝัน พิจิกาตื่นตั้งนานแล้วแต่เธอยังไม่อยากขยับออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขา เธอเงยมองใบหน้าหล่อที่ตอนเช้าไรหนวดเขียวเริ่มเห็นชัดเจนและมันเพิ่มเสน่ห์ในตัวเขาได้เป็นอย่างดี หญิงสาวไล้มือไปตามสันกรามอย่างแผ่วเบา และคิดว่าถ้าเขาเอาใบหน้านี้ซุกไซร้ไปตามลำตัวเธอมันจะจั๊กจี้หรือเสียวซ่านมากแค่ไหน เธอสำรวจใบหน้าของเขานานไปหน่อยตอนนี้เจ้าตัวก็เลยและทำให้คนที่แอบมองต้องรีบหลบตา“แอบมองแบบนี้คิดอะไรอยู่”“ผิงไม่ค่อยได้เห็นเวลาหน้าคุณพีร์มีหนวดเลย ปกติคุณพีร์โกนทุกวันเหรอคะ”“ครับ ผมต้องโกนทุกเข้า”“อยู่ที่นี่กับผิงไม่โกนได้ไหมคะ ผิงชอบนะคะ มันเซ็กซี่ดีค่ะ”“ผมไม่อยากให้มันทิ่มผิงเวลาที่ผมจูบผิงนี่ครับ”“นิดหน่อยเองไม่เป็นไรหรอกค่ะ นะคะ”“ก็ได้ครับแล้วถ้าเจ็บอย่ามาบ่นก็แล้วกัน”“แล้วผิงเคยบ่นให้คุณพีร์ฟังไหมล่ะคะ”“ไม่เลย ผิงไม่เคยบ่นว่าเจ็บ ผมไม่รู้เพราะผิงไม่เจ็บหรือเพราะผิงทนเพื่อผม”“ถ้าบอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ถูกหรอกค่ะ ผิงเจ็บแต่มันไม่มากถึงขั้นทนไม่ไหว คุณพีร์ทำให้ผิง
ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในสภาพเปลือยเปลา พีราวัชรขึ้นมาคร่อมทับตัวหญิงสาว เขามองหน้าเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ก่อนบดจูบลงบนริมฝปากบางอยางดูดดื่ม มือหนาทั้งสองข้างคลึงเคลาสองปทุมอวบอิ่มอย่างมันมือ ปลายนิ้วสะกิดยอดปทุมถันปลุกเร้าจนเสียงหวานครางระงม“อื้อ....”จูบจนพอใจเขาก็ลากไล้ความเปียกชื้นไปตามซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มดูดดึงไปตามแรงอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูง ผิวเนียนนุ่มขึ้นรอยแดงไปทั้งทุกจุดที่ปากร้อนเลื่อนผ่าน ลากไล้มาจนถึงร่องปทุมอวบอิ่ม ลิ้นร้อนลากปัดป่ายบนยอดสีสวย ก่อนจะส่งปากร้อนครอบครองด้วยความเสน่ห์หาหญิงสาวได้แต่ดิ้นพล่านเสียงหวานครางเพื่อระบายความเสียว เขาหยอกเย้าดูดกินจนอิ่มหนำก็เลื่อนตัวลงไปเรื่อยๆ จนหยุดกลางขาเรียวทั้งสองข้าง เธอชันเข่าขึ้นอย่างรู้งานไม่นานความสุขก็แตกกระจายเข้าสู่กายของพิจิกา หญิงสาวหอบสะท้านก่อนจะถูกเขาโน้มกายลงหาตัวเธอนอนคว่ำไปกับที่นอน ขณะที่ท่อนเอ็นของเขายังคงกระตุกอยู่ในกายเธออย่างยาวนาน ปากร้อนพรมจูบลงบนแผ่นหลังอย่างหลงใหล“ผมไม่เคยเจอใครที่สุดยอดเหมือนคุณมาก่อน ที่รัก ผมรักคุณนะผิง”“ผิงก็รักคุณพีร์ค่ะ”พิจิกายิ้มอย่างมีความสุข เมื่อชายหนุ่มถอด
เป็นครั้งแรกที่พี่จิกต้องนั่งเครื่องคนเดียวข้ามประเทศแต่พอลงจากเครื่องก็ได้เจอกับพีราวัชรที่รออยู่ตรงจุดรับกระเป๋า“บังเอิญจังเลยนะครับที่ได้เจอกันที่นี่”“ค่ะ บังเอิญมาก ว่าแต่จะบังเอิญพักที่เดียวกันด้วยไหมคะ” พิจิกาถามก่อนที่ทั้งสองจะเดินตามกันไปยังรถของโรงแรมที่จอดอยู่เที่ยวบินที่พวกเขาโดยสารมาเป็นเที่ยวบินที่ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิดึกที่สุดพอมาถึงสิงคโปร์และเข้าที่พักก็เกือบจะตีหนึ่ง โรงแรมที่ชายหนุ่มพาเธอมาพักเป็นโรงแรมหรูห้าดาวที่อยู่บริเวณอ่าวมารีนา สามารถมองเห็นวิวยามค่ำคืนรวมถึงแลนด์มาร์คสำคัญอย่างสิงคโปร์ฟลายเออร์ได้อีกด้วย“สวยจังค่ะคุณพีร์ ผิงไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้มาพักโรงแรมหรูแบบนี้” พิจิกตื่นเต้นกับภาพความสวยตรงหน้า“ถ้าผิงชอบเราจะมากันทุกวันหยุด”“ไม่เอาหรอกค่ะ ราคาห้องมันคงแพงมาก”“แพงแค่ไหนผมก็ยอมจ่ายถ้าผิงชอบ” พีราวัชรเดินมาสวมกอดเธอด้านหลัง“ค่ะผิงชอบ แต่ถ้ามาบ่อยๆ ผิงกลัวว่าคุณพีร์จะหมดตัวเสียก่อน”“ถ้าผมหมดตัวผิงยังจะรักผมไหม”“รักสิค่ะ ผิงไม่ได้รักคุณพี่ที่เงิน”“ผมรู้ ผมถึงได้รักผิงมากยังไงล่ะ”“วิวสวยมากเลยนะคะ เหมือนอยู่บนสวรรค์”“เคยเห็นเหรอครับว่าสวรรค์เป
หลังจากเคลียร์เอกสารทุกอย่างเสร็จแล้วพีราวัชรก็เรียกกิ่งแก้วและพิจิกาเข้ามาในห้องทำงาน“นั่งก่อนทั้งสองคนนั่นแหละ”“ขอบคุณค่ะ/ ขอบคุณค่ะ” เลขาและผู้ช่วยเลขาพูดพร้อมกันก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะของรองประธาน“ผมอย่างจะถามคุณกิ่งว่าผ่านมาสองเดือนแล้วพิจิกาทำงานเป็นยังไงบ้าง”“น้องผิงทำงานเรียบร้อยดีค่ะ เรียนรู้ได้เร็วมากค่ะ”“แล้วคุณมั่นใจไหมว่าถ้าคุณหยุดงานไปหกเดือนงานทุกอย่างจะไม่มีปัญหาอะไร”“กิ่งมั่นใจค่ะ ที่ผ่านมาน้องผิงไม่เคยทำงานพลาดเลย เธอรอบคอบและมีไหวพริบมากกว่ากิ่งด้วยซ้ำ”“ถ้าอย่างนั้นช่วงที่คุณลางานผมคงไม่ต้องหาใครมาเพิ่มใช่ไหม”“ผิงคิดว่าไหวไหม” กิ่งแก้วหันมาถามผู้ช่วย“คิดว่าไหวค่ะพี่กิ่ง”“ถ้าไหวก็ดี เอาล่ะเรื่องงานผ่านไปแล้ว ทีนี้ก็มาถึงเรื่องวันหยุดยาว”“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณพีร์”“ผมอยากให้คุณกิ่งช่วยดูให้หน่อยว่าหลังวันหยุดผมต้องไปเจอลูกค้าหรือไปตรวจงานที่สาขาไหนหรือเปล่า”“สักครู่นะคะ” กิ่งแก้วเปิดตารางงานของเจ้านายขึ้นมาดูก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบเขาอีกครั้ง“คุณพีร์ต้องไปร่วมงานเปิดสาขาใหม่คู่ค้าที่สิงคโปร์ค่ะ”“เดี๋ยวผมจัดการจองตั๋วเองนะ”“ได้ค่ะ ครั้งนี้คุณพีร์จะใ