เพราะถูกหักหลังจากคนรักและเพื่อนสนิท พิจิกาจึงดื่มจนเมาแล้วนอนกับชายแปลกหน้า แต่เมื่อรู้ว่าคือเจ้านายที่เธอต้องทำงานด้วย เธอจะถอยหรือยอมทำงานกับเขา เพราะนี่เป็นงานที่เธออยากทำมากที่สุด
View MoreTP Shopping Mall 22.00 น.
ร้านค้าทุกร้านในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ปิดไฟทุกดวง ทั้งพ่อค้าแม่ค้าพนักงานห้าง รวมถึงผู้มาใช้บริการต่างพอกันยืนออที่หน้าห้าง บ้างก็รอรถที่เรียกมารับ บ้างก็รอคนมารับส่วนคนที่ขับรถมาเองหรือเอาจักรยานยนต์มาก็ลงไปยังลานจอดรถที่อยู่ชั้นใต้ดิน
พิจิกาหญิงสาววัย 24 ปีก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากปิดร้านและเช็กสต๊อกแล้วเธอก็ลงมายังชั้นใต้ดินเพื่อจะขี่จักรยานยนต์คู่ใจกลับบ้าน
หญิงสาวเช่าพื้นที่เล็กๆ ในโซนพลาซ่าของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เพื่อขายเสื้อผ้าวัยรุ่น ซึ่งร้านของเปิดมานานถึงสีปีแล้ว นับตั้งแต่เรียนจบปวส. แล้วหางานทำไม่ได้เธอจึงเอาเงินเก็บที่ได้จากการทำงานพิเศษมาเปิดร้านที่นี่ แม้ค่าเช่าจะแพงหูฉี่แต่เธอก็กัดฟันขายมาได้ เพราะนอกจากจะขายที่หน้าร้านแล้วเธอยังไลฟ์สดขายอีกด้วย การมีหน้าร้านแบบนี้มันก็ทำให้ลูกค้ามั่นใจมากขึ้น
“ฝนยังไม่หยุดเลย ให้พี่ไปส่งไหม” พี่ญาดาเจ้าของร้านขายของเล่นและเสื้อผ้าเด็กถามขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ญา ผิงมีเสื้อกันฝนค่ะ”
“แล้วเค้กจะไม่เปียกเอาเหรอ”
“เดี๋ยวผิงใส่ใต้เบาะก็ได้ค่ะ”
“ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ”
“ไม่ค่ะขอบคุณนะคะพี่ญา”
พอญาดาเดินไปยังรถยนต์ของเธอแล้วพิจิกาก็เปิดเบาะรถจักรยานยนต์เอาเค้กชิ้นเล็กลงไปวางอย่างทะนุถนอม
วันนี้เป็นวันเกิดของกรวีร์เพื่อนสนิทคนเดียวของเธอที่คบกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย พิจิกาเลยจะเอาเค้กไปเซอร์ไพรส์วันเกิดเพราะหอพักของเพื่อนอยู่ทางผ่านที่จะกลับไปบ้านของเธอพอดี
ฝนยังคงตกอย่างนักพิจิกาต้องขับขี่อย่างระมัดระวัง กว่าจะมาถึงของพักของเพื่อนก็กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงทั้งที่ปกติแล้วใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ
“เฮ้อ ถึงสักทีหวังว่าฟางจะยังไม่นอนนะ” หญิงสาวถอดเสื้อกันฝนแล้วใต้เบาะเอาเค้กและกล่องของขวัญออกมาให้เพื่อน
พิจิกาถือเค้กแล้วเดินขึ้นมายังชั้นสามเธอเคาะประตูห้องอยู่หลายครั้งแต่คนด้านในก็เงียบ หญิงสาวจึงโทรหาแต่กรวีร์ก็ไม่รับสาย เธอจึงเอาเค้กและของขวัญแขวนที่ลูกบิดประตู ก่อนจะเดินกลับมายังรถของตัวเองอีกครั้ง
เมื่อเสียงเคาะประตูเงียบไปแล้วคนด้านในก็เปิดออก
“ใครมาเหรอบอล”
“ไม่รู้เหมือนกัน เขาไม่อยู่แล้ว แต่มีของพวกนี้แขวนอยู่ตรงลูกบิดน่ะ” ชายหนุ่มหยิบถุงที่แขวนอยู่ตรงลูกบิดออกมายื่นให้เจ้าของห้อง
“ของอะไร ไหนมาดูซิ”
“นี่ไง มีเค้กกับกล่องของขวัญ ฟางแอบคบใครอยู่หรือเปล่า เขาถึงเอาของมาให้ถึงห้อง”
“ฟางก็มีบอลคนเดียว จะแอบคบใครที่ไหนล่ะ” หญิงสาวที่สวมเพียงผ้าเช็ดตัวกอดชายหนุ่มที่ท่อนบนเปลือยเปล่าอย่างประจบ
“แล้วใครมันเอาของพวกนี้มาให้ฟางกันล่ะ”
“คนที่รู้วันเกิดฟางก็มีไม่กี่คน ถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะเป็นยัยผิงนั่นแหละ”
“อ้อ ดีนะที่เมื่อกี้เราไม่เปิด” เพราะตอนที่ได้ยินเสียงเคาะประตั้งสองกำลังโรมรันพันตูกันอยู่บนเตียง
“นั่นสิ ฟางลืมไปเลยว่าวันเกิดทีไรยังผิงจะต้องเอาของขวัญมาให้”
“แต่ผมไม่มีของขวัญวันเกิดให้ฟางเลยนะ ฟางน้อยใจไหม”
“แค่บอลอยู่กับฟางแบบนี้ฟางก็มีความสุขมากๆ แล้วล่ะ”
“งั้นพรุ่งนี้ผมจะชดเชยให้ดีไหม เราไปเที่ยวทะเลกันไหม”
“จริงนะ”
“จริงสิ ได้หยุดทั้งทีก็ควรไปเที่ยวบ้าง”
“นั้นสิ ทำงานบริษัทมันก็ดีแบบนี้เองนะ” กรวีร์ยิ้ม เมื่อนึกไปถึงงานค้าขายของเพื่อนที่ไม่เคยจะได้หยุดเพราะทำสัญญากับทางห้างไว้แล้วว่าจะหยุดก็ต้องจ้างคนมาขายแทน ซึ่งน้อยครั้งมากที่เพื่อนของตนจะยอมจ้างคนมาขาย
“ครับ” ชายหนุ่มกับกรวีร์ทำงานบริษัทเดียวกันมาได้ครึ่งปีแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองเข้ากันได้ดีในเรื่องบนเตียง และการใช้ชีวิตเพราะทั้งคู่มีวันหยุดตรงกันและมักจะไปเที่ยวด้วยกันอยู่เสมอ
แต่บอลหรือปรัชญาไม่ได้คิดกับเธอถึงขั้นแต่งงานเพราะเขาเองมีคนรักอยู่แล้ว เรื่องนี้กรวีร์เองก็รู้ แต่ที่หญิงสาวยอมมีอะไรกับเขาก็เพราะหวังว่าเรื่องบนเตียงที่มอบให้เขานั้นจะมัดใจเขาได้ อีกอย่างแฟนของชายหนุ่มก็เอาแต่ทำงานจนแทบไม่มีเวลา
“คืนนี้บอลจะค้างกับฟางไหมคะ” หญิงสาวนั่งคร่อมอยู่บนหน้าตักของชายหนุ่มที่กำลังมองกล่องเค้กด้วยใบหน้าที่เครียดเล็กน้อย แต่พอเธอขยับกายบดเบียดเขาก็เลิกสนใจเค้กและกล่องของขวัญตรงหน้า
“วันเกิดฟางทั้งทีผมก็ต้องอยู่กับฟางสิครับ หรือฟางไม่อยากให้ผมค้างด้วย”
“ฟางอยากให้บอลอยู่กับฟางตลอดเวลาอยู่แล้วล่ะค่ะ แล้วบอลเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ฟางเห็นบอลเอาแต่นั่งจ้องเค้ก แบบนั้นคิดอะไรอยู่เหรอคะ”
“คิดสิ”
“คิดอะไร ไหนลองบอกฟางมาสิคะ” นิ้วเล็กไต่ไปตามลำตัวชายหนุ่มอย่างยั่วยวน
“ผมกำลังคิดว่าผมจะก่อนเค้กก่อนหรือกินฟางก่อนดีล่ะ” ปรัชญาไล้มือไปตามหัวไหล่เนียน
“แล้วบอลชอบแบบหวานแต่เลี่ยนหรือชอบแบบแซ่บๆ เผ็ดล่ะคะ”
“ผมชอบแบบแซ่บๆ งั้นคืนนี้ขอกินฟางก่อน เค้กนั่นก็ทิ้งไว้แบบนั้นแหละ”
“เค้กมันคงเลี่ยนมากสินะ”
“ผิง / ผิง”
เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนี้พิจิกาและพีราวัชรก็แต่งงานกันได้หลายเดือนแล้ว คุณกิ่งแก้วที่ลาไปคลอดลูกก็ยังไม่กลับมาทำงานทำให้สองสามีภรรยามีเวลาหวานด้วยกันทั้งที่บ้านและที่ทำงาน “ไม่น่าเชื่อนะคะว่าเราจะได้แต่งงานกัน” “ถ้าคืนนั้นผมไม่มาส่งผิงที่นี่ ผมคงเสียดายไปจนตาย” “ผิงไม่คิดเลยนะคะว่าความเมาจะทำให้ผิงได้สามีที่หล่อแบบนี้” “ผิงรู้ไหม ว่าผมแอบมองผิงตั้งแต่ผิงออกไปเต้นแล้ว” “เหรอคะ” “ครับ ผิงสวยสะดุดตาผมมาก ผมดีใจมากแค่ไหนรู้ไหมที่ผิงเดินกลับมาดื่มต่อที่บาร์” “แล้วคุณคิดจะมาส่งผิงแล้วกลับหรือคิดอย่างอื่น” “ผมสารภาพเลยครับว่าผมคิดไม่ซื่อกับผิงตั้งแต่ต้น ผมเคยเจอผู้หญิงในบาร์แล้วเราก็ไปต่อกันจากนั้นทุกอย่างก็จบภายในคืนเดียว ผมแทบไม่รู้ชื่อพวกเธอด้วยซ้ำ แต่พอเจอผิง ผมกลับลืมไม่ลง” “เพราะอะไรคะ จะว่าเพราะหน้าตาก็ไม่น่าจะใช่เพราะคนสวยกว่าผิงมีเยอะไปหมด” “ผมเองก็หาเหตุผลไม่ได้ ผมรู้แค่ต้องเป็นผิง ผมรู้แค
เริ่มงานวันแรกหลังจากหยุดยาว พิจิกาไม่ค่อยมีสมาธิทำงานเท่าไหร่เพราะเย็นนี้เธอจะต้องเข้าไปทานอาหารเย็นที่บ้านของพีราวัชร แม้จะเคยเจอบิดามารดาของเขาแล้ว แต่ครั้งนี้มันต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะเขาจะพาเธอเข้าไปในฐานะคนรักไม่ใช่ผู้ช่วยเลขาอย่างครั้งก่อน“ผิง มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”“นิดหน่อยค่ะพี่กิ่ง”“เล่าให้พี่ฟังได้นะ”“ผิงก็อยากเล่าค่ะ แต่เรื่องนี้ผิงบอกใครไม่ได้จริงๆ ค่ะ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับผิงคนเดียว”“คงเป็นเรื่องสำคัญมากใช่ไหม”“ค่ะพี่กิ่ง”“พี่ไม่รู้นะว่าเรื่องไร เอาเป็นว่าพี่ให้กำลังใจผิงก็แล้วกันนะ ใช้สติให้มาก พี่ว่าปัญหาทุกอย่างจะผ่านได้ด้วยดี”“ขอบคุณค่ะพี่กิ่ง พี่กิ่งจะกลับเลยก็ได้นะคะเดี๋ยวตรงนี้ผิงทำต่อเองค่ะ”“แล้วผิงไม่รีบกลับบ้านเหรอวันนี้เจ้านายไม่อยู่น่าจะรีบกลับนะ”“กลับตอนนี้รถเมล์แน่นค่ะพี่กิ่ง ผิงรออีกนิดดีกว่าค่ะ”“งั้นพี่ไปก่อนนะ”“ค่ะพี่กิ่ง”พอเลขารุ่นพี่กลับไปแล้วพิจิกาก็จัดการงานตรงหน้าต่ออย่างไม่เร่งรีบเพราะพีราวัชรเพิ่งลงจากเครื่องเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน กว่าเขาจะขับรถมาถึงที่นี่ก็คงอีกนานเมื่อทำงานตรงหน้าเสร็จแล้วหญิงสาวก็เข้าห้องน้ำสำรวจความเรีย
เกือบสิบโมงเช้าของวันใหม่สองหนุ่มสาวก็ยังคงนอนกอดกันอยู่บนเตียงกว้าง ความสุขที่มีร่วมกันมันมากมายราวกับเป็นความฝัน พิจิกาตื่นตั้งนานแล้วแต่เธอยังไม่อยากขยับออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขา เธอเงยมองใบหน้าหล่อที่ตอนเช้าไรหนวดเขียวเริ่มเห็นชัดเจนและมันเพิ่มเสน่ห์ในตัวเขาได้เป็นอย่างดี หญิงสาวไล้มือไปตามสันกรามอย่างแผ่วเบา และคิดว่าถ้าเขาเอาใบหน้านี้ซุกไซร้ไปตามลำตัวเธอมันจะจั๊กจี้หรือเสียวซ่านมากแค่ไหน เธอสำรวจใบหน้าของเขานานไปหน่อยตอนนี้เจ้าตัวก็เลยและทำให้คนที่แอบมองต้องรีบหลบตา“แอบมองแบบนี้คิดอะไรอยู่”“ผิงไม่ค่อยได้เห็นเวลาหน้าคุณพีร์มีหนวดเลย ปกติคุณพีร์โกนทุกวันเหรอคะ”“ครับ ผมต้องโกนทุกเข้า”“อยู่ที่นี่กับผิงไม่โกนได้ไหมคะ ผิงชอบนะคะ มันเซ็กซี่ดีค่ะ”“ผมไม่อยากให้มันทิ่มผิงเวลาที่ผมจูบผิงนี่ครับ”“นิดหน่อยเองไม่เป็นไรหรอกค่ะ นะคะ”“ก็ได้ครับแล้วถ้าเจ็บอย่ามาบ่นก็แล้วกัน”“แล้วผิงเคยบ่นให้คุณพีร์ฟังไหมล่ะคะ”“ไม่เลย ผิงไม่เคยบ่นว่าเจ็บ ผมไม่รู้เพราะผิงไม่เจ็บหรือเพราะผิงทนเพื่อผม”“ถ้าบอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ถูกหรอกค่ะ ผิงเจ็บแต่มันไม่มากถึงขั้นทนไม่ไหว คุณพีร์ทำให้ผิง
ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในสภาพเปลือยเปลา พีราวัชรขึ้นมาคร่อมทับตัวหญิงสาว เขามองหน้าเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ก่อนบดจูบลงบนริมฝปากบางอยางดูดดื่ม มือหนาทั้งสองข้างคลึงเคลาสองปทุมอวบอิ่มอย่างมันมือ ปลายนิ้วสะกิดยอดปทุมถันปลุกเร้าจนเสียงหวานครางระงม“อื้อ....”จูบจนพอใจเขาก็ลากไล้ความเปียกชื้นไปตามซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มดูดดึงไปตามแรงอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูง ผิวเนียนนุ่มขึ้นรอยแดงไปทั้งทุกจุดที่ปากร้อนเลื่อนผ่าน ลากไล้มาจนถึงร่องปทุมอวบอิ่ม ลิ้นร้อนลากปัดป่ายบนยอดสีสวย ก่อนจะส่งปากร้อนครอบครองด้วยความเสน่ห์หาหญิงสาวได้แต่ดิ้นพล่านเสียงหวานครางเพื่อระบายความเสียว เขาหยอกเย้าดูดกินจนอิ่มหนำก็เลื่อนตัวลงไปเรื่อยๆ จนหยุดกลางขาเรียวทั้งสองข้าง เธอชันเข่าขึ้นอย่างรู้งานไม่นานความสุขก็แตกกระจายเข้าสู่กายของพิจิกา หญิงสาวหอบสะท้านก่อนจะถูกเขาโน้มกายลงหาตัวเธอนอนคว่ำไปกับที่นอน ขณะที่ท่อนเอ็นของเขายังคงกระตุกอยู่ในกายเธออย่างยาวนาน ปากร้อนพรมจูบลงบนแผ่นหลังอย่างหลงใหล“ผมไม่เคยเจอใครที่สุดยอดเหมือนคุณมาก่อน ที่รัก ผมรักคุณนะผิง”“ผิงก็รักคุณพีร์ค่ะ”พิจิกายิ้มอย่างมีความสุข เมื่อชายหนุ่มถอด
เป็นครั้งแรกที่พี่จิกต้องนั่งเครื่องคนเดียวข้ามประเทศแต่พอลงจากเครื่องก็ได้เจอกับพีราวัชรที่รออยู่ตรงจุดรับกระเป๋า“บังเอิญจังเลยนะครับที่ได้เจอกันที่นี่”“ค่ะ บังเอิญมาก ว่าแต่จะบังเอิญพักที่เดียวกันด้วยไหมคะ” พิจิกาถามก่อนที่ทั้งสองจะเดินตามกันไปยังรถของโรงแรมที่จอดอยู่เที่ยวบินที่พวกเขาโดยสารมาเป็นเที่ยวบินที่ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิดึกที่สุดพอมาถึงสิงคโปร์และเข้าที่พักก็เกือบจะตีหนึ่ง โรงแรมที่ชายหนุ่มพาเธอมาพักเป็นโรงแรมหรูห้าดาวที่อยู่บริเวณอ่าวมารีนา สามารถมองเห็นวิวยามค่ำคืนรวมถึงแลนด์มาร์คสำคัญอย่างสิงคโปร์ฟลายเออร์ได้อีกด้วย“สวยจังค่ะคุณพีร์ ผิงไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้มาพักโรงแรมหรูแบบนี้” พิจิกตื่นเต้นกับภาพความสวยตรงหน้า“ถ้าผิงชอบเราจะมากันทุกวันหยุด”“ไม่เอาหรอกค่ะ ราคาห้องมันคงแพงมาก”“แพงแค่ไหนผมก็ยอมจ่ายถ้าผิงชอบ” พีราวัชรเดินมาสวมกอดเธอด้านหลัง“ค่ะผิงชอบ แต่ถ้ามาบ่อยๆ ผิงกลัวว่าคุณพีร์จะหมดตัวเสียก่อน”“ถ้าผมหมดตัวผิงยังจะรักผมไหม”“รักสิค่ะ ผิงไม่ได้รักคุณพี่ที่เงิน”“ผมรู้ ผมถึงได้รักผิงมากยังไงล่ะ”“วิวสวยมากเลยนะคะ เหมือนอยู่บนสวรรค์”“เคยเห็นเหรอครับว่าสวรรค์เป
หลังจากเคลียร์เอกสารทุกอย่างเสร็จแล้วพีราวัชรก็เรียกกิ่งแก้วและพิจิกาเข้ามาในห้องทำงาน“นั่งก่อนทั้งสองคนนั่นแหละ”“ขอบคุณค่ะ/ ขอบคุณค่ะ” เลขาและผู้ช่วยเลขาพูดพร้อมกันก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะของรองประธาน“ผมอย่างจะถามคุณกิ่งว่าผ่านมาสองเดือนแล้วพิจิกาทำงานเป็นยังไงบ้าง”“น้องผิงทำงานเรียบร้อยดีค่ะ เรียนรู้ได้เร็วมากค่ะ”“แล้วคุณมั่นใจไหมว่าถ้าคุณหยุดงานไปหกเดือนงานทุกอย่างจะไม่มีปัญหาอะไร”“กิ่งมั่นใจค่ะ ที่ผ่านมาน้องผิงไม่เคยทำงานพลาดเลย เธอรอบคอบและมีไหวพริบมากกว่ากิ่งด้วยซ้ำ”“ถ้าอย่างนั้นช่วงที่คุณลางานผมคงไม่ต้องหาใครมาเพิ่มใช่ไหม”“ผิงคิดว่าไหวไหม” กิ่งแก้วหันมาถามผู้ช่วย“คิดว่าไหวค่ะพี่กิ่ง”“ถ้าไหวก็ดี เอาล่ะเรื่องงานผ่านไปแล้ว ทีนี้ก็มาถึงเรื่องวันหยุดยาว”“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณพีร์”“ผมอยากให้คุณกิ่งช่วยดูให้หน่อยว่าหลังวันหยุดผมต้องไปเจอลูกค้าหรือไปตรวจงานที่สาขาไหนหรือเปล่า”“สักครู่นะคะ” กิ่งแก้วเปิดตารางงานของเจ้านายขึ้นมาดูก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบเขาอีกครั้ง“คุณพีร์ต้องไปร่วมงานเปิดสาขาใหม่คู่ค้าที่สิงคโปร์ค่ะ”“เดี๋ยวผมจัดการจองตั๋วเองนะ”“ได้ค่ะ ครั้งนี้คุณพีร์จะใ
Comments