ปลายลิ้นสากลากวนหัวถันยอดเกสรลุกชูชันเกินจะต่อต้าน แพรวเริ่มขยับหนีตามจริตจะกร้านด้วยเพราะรู้โดยสันดานว่าตัวเองก็สมยอม แต่ก็ต้องพยายามขัดเอาไว้หน่อยไม่ให้ฝ่ายนั้นคิดว่าง่ายเกินไป เธอกระเถิบตัวขึ้นไปพิงกับพนักวางแขนของโซฟา ครานั้นพีก็ยังตามขึ้นมาโดยการใช้คางพาดไว้บนเนินอก
.
“หนีทำไม?”
เขาเค้นเสียงถาม ลมหายใจร้อนผ่าวจนผิวเต้าเกร็งลุก
.
“…….”
แพรวไม่ตอบเธอเหลือบมองไปทางอื่น พลันใช้มือปิดบังหน้าอกตัวเองเอาไว้ ก่อนจะดันร่างอันบอบบางกระเถิบหนีขึ้นไปพิงกับพนักโซฟา
.
“กูไม่ให้มึงหนีหรอก มึงพลาดแล้วที่คิดจะยั่วกูอีแพรว!”
.
ร่างหนาโผขึ้นไปประกบ ชั่วเสี้ยวอึดใจสองกายก็กลมกลึงรวมเป็นหนึ่ง พีสอดแขนเข้าล็อคตัวแพรวเอาไว้ก่อนจะใช้เข่าดันลำตัวส่วนบนอันแน่นหนาทาบลงไปทับ ช่างรุนแรงผิดมนุษย์มนาแรงจนแยกไม่ออกว่าเขาคิดจะปล้ำหรือบ้าคลั่งกันแน่ ซอกคอเนื้อบางใสจึงโดดดูดเข้าอย่างจัง
.
“จ๊วบบบ!!!”
.
“อ่าาา~ พี.. อืม..ม..ม.. พี.. อือ..อ..อ~”
.
แพรวสยิวเสียวจนเผลอหลุดเสียงครางออกมา เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแพรหนวดแหลม ๆ ของเกย์คิงย์จะสร้างมธุรสแห่งกามกำหนัดได้มากถึงเพียงนี้ ทุกครั้งที่พีบี้บดธอจึงต้องพยายามหันคอเปลี่ยนมุม ให้จุดบอบบางได้รับอานิสงห์แห่งความเสียวได้ถ้วนทั่ว
.
สาบานได้ว่าโคตรจะมีความสุขเลย ร่างกำยำของพีรูปคลึงไปโดนส่วนไหนก็มีแต่ความล่ำ ยิ่งเขารุกล้ำแพรวยิ่งมีแต่ความฟิน แต่ทว่าใบหน้านี่สิที่แสนจะเรียบเฉย ต่อให้พีจะเลื้อยขึ้นมาเลียเข้าที่ซอกหูแพรวก็ยังคงทำเป็นเฉยชา เธอไม่หลุดเสียงครางออกมาอีกเลยนับจากครั้งแรกแถมยังเลือกที่จะนอนนิ่งเป็นท่อนไม้แข็งทื่อไร้ความรู้สึก
.
“ทำกูเลยสิ! อยากทำอะไรก็ทำพวกผู้ชายสารเลว!”
เธอประชด
.
“มึงไม่ต้องพูดหรอกกูเอามึงแน่อีแพรว!”
.
กระเทยควายถลกเสื้อออก ตามติดมาด้วยการปลดตะขอกางเกงด้วยความคล่องแคล่ว ไม่ถึงชั่วเคี้ยวหมากแหลกร่างอันล่อนจ้อนก็จู่โจมหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดราวกับปีศาจร้าย กิจกามนี้ไม่จำเป็นต้องยื่นกู้ แค่ชูขาให้สูงเข้าไว้อวัยวะแห่งความเป็นชายก็โยกย้ายทิ่มแทงแต้มสะสม
.
ดอกเบี้ยไม่ต้องคิด ค่าธรรมเนียมก็ไม่ต้อง แค่ทำเป็นเนียนเอากับเพื่อนได้นั้นก็แย่ยิ่งกว่าหมาตัวหนึ่งแล้ว พีร้องครางราวกับอยู่ในโรงฆ่าสัตว์ อวัยวะของเขาแหวกผ่านโพลงสวรรค์ด้วยน้ำหล่อเลี้ยงที่ปริ่มออกมาพอหลอมแหลม สิ่งนี้บ่งบอกว่าแพรวเองก็ไม่ได้มีอารมณ์เท่าไหร่ เธอขืนตัวเองไว้ นิ่งเงียบ จากจะเงี่ยนกลายเป็นเหลือเพียงความรังเกียจรังงอน
.
แพรวเหงื่อไคลเปรอะเปื้อนเต็มตัว อีกทั้งลำตัวก็ถูกจับโยนไปไหนต่อไหน หญิงสาวกำลังโดนประทุษร้ายโดยเจตนา หว่างขาของเธอถ่างอ้าร้อนวาบไปยันหัวหน่าวแถมยังแสบทรวงจวนจะทนมิอยู่ อีกนิดเดียวคงจะร้องให้พีหยุดกระหน่ำเป็นแน่ แต่ก็ทำไม่ได้เนื่องจากโดนริมฝีปากหนา ๆ โน้มลงมาประกบจูบซะก่อน
.
“จุ๊บ , จุ๊บ , จุ๊บ , จ๊วบบบ!”
.
“อ่าาา~ มึงเสร็จกูล่ะอีแพรว”
พีถอนปากออกมากระซิบที่ข้างหู โดยที่บั้นเอวยังคงทำงานเป็นแท่งปั้มไฮโดรลิค
.
“ช่างแม่งมึงสิ”
แพรวตอบกลับ ทั้งที่เหงื่อท่วมตัวปอยผมเปียก ๆ แปะเปื้อนแนบหน้าอก
.
“ปากดีนักนะมึง! หันหลังมา! อ้าาาา! เยส!!! , เร็ว! , กูบอกให้หันหลัง!”
.
“พรึบ!”
.
“ว๊ายยย!”
“พีอย่า! กูไม่ชอบท่านี้กูจุก!”
.
“เปรี๊ยะ!!!”
.
“โอ๊ย!.. อีพี.. ซีดดดด~!”
.
“เปรี๊ยะ!!!”
.
“อีเหี้ย! นั่นตูดกูนะ!”
.
“หึ! ตูดมึงก็เสร็จกูอยู่ดี กูจะล่อแม่งทั้งหน้าทั้งหลังเลย!”
.
จบคำพูดนี้สองเพื่อนซี้ก็ไม่มีบทสนาต่อกันอีกเลย กระบวนท่ารักกลายเป็นการด็อกกี้แบบสมบูรณ์แบบ น่มน๊มของแพรวพาดคาอยู่กับพนักพิงโซฟาดวงหน้าเธอแหงนเชิดขึ้นในทุก ๆ ครั้งที่พีกระแทกสวน เขาประกบหลังในท่าคุกเข่าใช้ฝ่ามือดึงรั้งกับหัวไหล่สาวเจ้า บางจังหวะก็ลามปามไปถึงการจิกผม
.
พีกระหน่ำสอดท่อนรักจนเนื้อตัวโยกโยน เสียงตุ๊บ ๆ ตั๊บ ๆ ทำเอาผมเผ้ากระเซอะกระเซิงเสียทรง หยาดเหงื่อหยดกระเซ็นช่านซัดใส่แผ่นหลัง ตัดภาพลงไปด้านล่างจะเห็นขาโซฟาโยกไปตามน้ำหนักตัว มันกระเถิบขึ้นหน้าทำระยะได้ 2 มิลิเมตรในทุกๆ ครั้งที่พีกระแทกดุ้น จากที่ตั้งอยู่กลางห้องหน้าจอทีวีบัดนี้ด้วยฤทธาของการบี้บด โซฟามหัศจรรย์ได้นำพาพีกับแพรวเขยื้อนมาจนจะชนกับผนังห้องฝั่งตรงข้ามอยู่รำไร แล้วถ้าหากก้มลงไปมองแล้วไซร้ เราจะเห็นหลักฐานเป็นรอยครูดลากยาวที่ทำกับพื้นอพาร์ทเมนท์
.
“แกร็ก ๆ , แกร็ก ๆ , แกร็ก ๆ , แกร็ก ๆ”
เสียงโซฟาร้องทรมานพอ ๆ กับคนที่กำลังทำเซ็กส์
.
โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ใกล้เสร็จกิจ การซอยยิกของมันยิ่งสั่นรัวยิ่งกว่าดิลโด้ที่ต่อกับไฟบ้านซะอีก พีหลับตาในขณะที่แพรวเองก็ด้วย เขาเกร็งจากขาไล่ขึ้นมาจนสุดลำ พลันพ่นน้ำกามอัดเขาใส่กลีบร่องแบบไม่เกรงใจ
.
“อ๊าาาาาาาาาา!!!”
.
“ปิ๊ดดดด!”
.
แพรวพุ่งตัวขึ้นหน้า ก้นของเธอสะบั้นสั่นสะท้านพลันโย้ขึ้นไปตามแรงกระแทก ทิ้งไว้เพียงมวลของเหลวยืดขาวที่หลากลงมาจากร่องเสียว หยดใส่โซฟาเกรอะกรัง
.
“แฮ็ก ๆ , แฮ็ก ๆ , แฮ็ก ๆ , เฮ้อ..!”
หญิงสาวหายใจหอบรัวเธอพาดใบหน้าเข้ากับพนักพิงโซฟา และทันทีที่แหงนขึ้นมาก็เจอเข้ากับผนังทึบตันไร้ซึ่งการหลบหนี ด้วยความสัตย์จริงว่าสีหน้าแพรวดูไม่ดีนัก อาจจะเป็นเพราะตกใจหนักไม่คิดว่าเพื่อนจะปล่อยในก็เป็นได้
.
“อีพี! อีเหี้ยเอ๊ย!”
เธอคิดในใจก่อนจะหลับตาลงทิ้งลำตัวส่วนบนเข้ากับพนักวางแขน แล้วหอบหายใจต่ออีกสักพัก
.
ตรงข้ามกับพีที่ถึงกับหมดสภาพ กระเทยควายหลับลงที่ด้านข้างแพรวเขาพาดลำตัวดำขลับลงติด ๆ กับเธอ แล้วก็มีการสบตากันอยู่แว็บหนึ่ง ก่อนที่เสี้ยวอึดใจต่อมาแรงโน้มถ่วงจะลากพีลงไปกองกับพื้นด้านล่างสลบไสล
.
“ตุ๊บ!”
.
“แพรวของมึงดีจริง กูยอมรับเลย”
ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วภาพก็ตัดไป พีหลับด้วยพิษของความเหนื่อย
.
“อีห่าแล้วมึงคิดว่ากูไม่เจ็บกับไอ้นั่นของมึงรึไง แฮ็ก ๆ , แฮ็ก ๆ เสือกแตกในเป็นอีก มึงมันไม่ใช่ตุ๊ดแล้วอีเวร!”
“เฮ้อ.. เหนื่อย..ย..ย..ย~!”
สาวเจ้าพลิกตัวเป็นนอนหงายยกขาเรียวขึ้นพาดกับพนักโซฟา วางศีรษะกับที่วางแขนจากตรงนี้พอมองลงไปแพรวยังเห็นกลีบร่องของตัวเองแดงเรื่ออยู่เลย
.
“เจ็บชะมัดอีเพื่อนเหี้ย!”
“วู่วววว.. เอาเป็นว่ากูขอนอนพักเป็นเพื่อนมึงก่อนล่ะกัน”
.
หลับตาลงอีกครั้งซึ่งคราวนี้ก็ทำให้ทั้งคู่หลับไหลกันไปเลย แพรวนอนบนโซฟาล่อนจ้อนพีเองก็ล่อนจ้อนเช่นกันแต่แผ่หลาอยู่บนพื้น นี่มันคือการได้กันประเภทไหน จะว่าฝืนก็ไม่ใช่จะว่าเต็มใจก็ไม่เชิง ความสัมพันธ์ของพวกเขาเมื่อเพื่อนได้กับเพื่อนแล้วจะมองหน้ากันติดอยู่หรือเปล่า?
.
ร่องรอยจากขาโซฟาที่กรีดร้าวพื้นกระเบื้องที่ครูดจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยง แพรว , พี , มิวท์ , เปรม , พวกเขาอาจจะร้าวกันขนาดนี้แล้วก็ได้ (แค่ยังไม่รู้ตัว)
“โครมมม!”.“หึ! ทำไมประตูบานนี้พังเข้ามาง่ายจัง เหมือนแค่วางพิงไว้เฉย ๆ เลย?”เจ้าหน้าที่ผู้ถือวิทยุหันมาคุยกับเพื่อน พวกเขาทำแบบนี้กับทุกห้องและล่าตัวบุคคลกลุ่มเสี่ยงสูงที่เป็นชาวสีม่วงผิดเพศ ลงไปกักขังไว้ด้านล่างได้หลายรายแล้ว.“ระวังตัวด้วยล่ะ อาจจะเป็นกับดักก็ได้ คนข้างในอาจจะมีอาวุธ”เสียงทีมที่มาด้วยกันร้องเตือน.“อืม..จริง ทุกคนระวังตัวด้วยนะ!”เขาตะโกนบอกทุกคนพลางกระชับวิทยุไว้จนมือเปียก โดยทุกคนที่พูดถึงนั้นก็มีทั้งกระสอบป่าน , ปืนช็อตไฟฟ้า , แล้วก็ลูกดอกอาบยาสลบ.ประหนึ่งรู้มาก่อนกาล ว่าที่นี่คือห้องของพีกระเทยควายรูปร่างสูงโปร่งแห่งทุ่งบางกะปิ ผู้ซึ่งบัดนี้กำลังหมดแรงอ่อนล้าหลังเพิ่งผ่านการถ่างขาสังวาชกับเพื่อนสาวมาหยก ๆ.“สองคนทิศ 12 นาฬิกา อีกคนมากับฉัน! ชิดกำแพงไว้! เราจะโอบจากด้านข้าง!”.“ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! ”.ฝ่าเท้าโหมกระหน่ำโรมรันไม่มีการย่องเบาแบบภารกิจสายลับใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างเต็มไปด้วยความอึกทึกครึกโครม ส่วนหนึ่งก็เพราะอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บนแขน ที่มีการแจ้งเตือนอย่างแน่ชัดว่าในห้องแห่งนี้มีชาวรักร่วมเพศอาศัยอยู่ เลือดของพวกเขากำลังเป
จ้วงขาออกไปพร้อมกับการเชิดหน้า บานประตูกลายเป็นที่รองตีนให้เหยียบย่ำ ประดังความแค้นสุมทรวงทำให้แพรวแสดงออกเช่นนี้ เธอหยุดเจรจาพาทีมุ่งหน้าออกไปจากอพาร์ทเมนต์แห่งนี้โดยเร็ว และถึงแม้ว่าพีจะพยายามตะโกนไล่หลังพลันวิ่งเปลือยท่อนบนออกมาตาม แพรวก็ไม่สนอีกแล้ว.“อีแพรวเดี๋ยว! ชุดมึงมันไม่เรียบร้อย มึงจะโนบลาออกไปเดินโทง ๆ ไม่ได้!”.เห็นแต่แผ่นหลังเดินลงบันไดไปไกลลิบ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงตามสไตล์ของคนที่เพิ่งเสียตัว พีหยุดแล้วแต่แพรวไม่ยอมหยุด เขาไม่ใช่พระพุทธเจ้าแล้วแพรวก็ไม่ใช่องคุลีมาล ไม่มีทางที่จะตรัสรู้ชอบได้ด้วยตนเอง กระเทยหนุ่มเลยต้องปล่อยเลยตามเลยเดินวกกลับเข้าไปในห้อง พร้อมกับยกบานประตูทั้งบานเอาไปประกบไว้คืนที่เดิม.“อีห่า! ค่าส่วนกลางกูก็ต้องจ่ายอีก! ขอให้มึงไม่ท้องอย่าให้กูต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการแต่งมึงเป็นเมียเลยอีแพรว!”..ตัดภาพมาที่หญิงสาวเพื่อนสนิท เธอยังคงมุ่ยหน้าเดินเหวี่ยงลงบันไดมาด้วยความหงุดหงิด ห้องของพีอยู่ชั้นบนสุดคือชั้น 5 ซึ่งไม่สูงพอที่จะทำให้อพาร์ทเมนต์แห่งนี้มีลิฟท์ไว้อำนวยความสะดวก สาวเจ้าจึงได้แต่เดินแล้วก็เดิน เดินไปคิดไปว่ายังไงซะสถานที่ ๆ จะไปก็คงไม่พ้
“วางถุงกาวแล้วตั้งสติ” ถ้าเป็นวลีฮิตสมัยก่อนต้องใช้คำนี้ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ต้องบอกเลยว่าพลาดที่ไม่ได้ใส่ถุง แพรวลุกขึ้นพรวดจากโซฟาเธอเดินไปเก็บเสื้อผ้า ค่อย ๆ ทยอยสวมใส่ทีละชิ้นด้วยความใจเย็น แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าใส่ไปก็มีแต่รอยขาดจากการถูกกระชากก็ตามที.“……”เงียบเป็นเป่าสาก สาวเจ้าสวมเสื้อนอกตัวบางเป็นลำดับสุดท้าย ก่อนจะขยับตัวไปยืนอยู่หน้าประตู.“มึงจะไปไหน?” พีถาม เขาถูฝ่ามือขยี้หน้าตัวเอง .กระเทยควายอยู่ในอาการจิตตกขั้นสุด บางทีเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยให้เซลล์อสุจิงอกอยู่ในช่องคลอดเพื่อน แพรวจึงโพล่งคำขึ้น.“ก็ไปหาทางแก้ปัญหาไง! กูขอถอนคำพูดที่ว่าไม่เป็นไรนะพี!”“ไอ้พวกผู้ชายสารเลว หน้าไหนก็ไม่ต่างจากหมา ตอนเอาก็ทำรุนแรงพอเลยเถิดทำเรื่องแดง แม่งเห็นมีแต่ผู้หญิงอย่างกูนี่แหละที่เดือดร้อน!”“เหี้ยเอ๊ย! ทำไมมึงปล่อยในวะ อีสัด..ด..ด..ด!”กำหมัดแน่นแถมยังกัดกรามเค้นเสียงสั่นในลำคอ ดูทรงแล้วแพรวคงจะโกรธมากจริง ๆ.แข้งขาเธออ่อนยวบยาบไปหมด แค่นึกถึงกลีบผกาก็สั่นไหว ไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวกันไหมแต่เหมือนแพรวจะรู้สึกว่าจุดซ่อนเร้นข้างในนั้นช่างชุ่มแฉะ โกรธจนหยาดน้ำเสียวเล็ดซึมอ
ภายใต้ผนังห้องที่ทึบตันอับทึบแสง แดดจะแยงยังยากลำบาก มิหนำซ้ำยังถูกพอกทับด้วยกระดาษกาวนานาชนิดที่ปิดผนึกทุกอย่างเอาไว้กันเชื้อโรค ให้ตายเถอะถ้าไม่ขาดใจตายก็มีแต่จะร้อนตายกันเท่านั้น เพื่อนซี้ที่เพิ่งได้กันเลยค่อย ๆ เผยอเปลือกตาสะลึมสะลือขึ้น.แพรวลุกขึ้นได้ก่อนเธอเห็นทุกอย่างขาวพร่าดวงตายังไม่โฟกัส แต่สติยังอยู่ดีไม่ได้ความจำเสื่อม กลีบผกายังคงแสบเสียวสะท้อนให้เห็นว่ากระเจี๊ยวที่แยงแหย่นั้นเร่าร้อนขนาดไหน.“ซีดดด.. มึนหัวจัง”พูดพลันเอื้อมมือไปคว้าเอาเสื้อยืดตัวบางมาสวมใส่แบบโนบลา ก่อนจะนั่งลงห้อยขาโน้มตัวมาด้านหน้าทำสีหน้าเศร้า.“มึงเป็นไงบ้างพี..?”.ร่างใหญ่ตวัดพลิกดีดตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิ ในชุดนุ่งลมห่มฟ้าเนื้อตัวดำกร้านของเขากลืนไปกับบรรยากาศห้องที่มืดหม่น เขาลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา เอามือผสานกันวางไว้ที่ตักแบบเดียวกับที่แพรวทำ.“ครือ..อ..อ..อ..อ~!”เสียงแอร์ดังกลบทุกสรรพสิ่ง ราวกับว่าต่างคนต่างรอให้อีกคนมีปฏิกิริยาก่อน .“เราได้กันแล้ว..”พีเปิดประเด็น.“กูขอโทษ~ กูไม่เมาหรอก~ กูไม่~ แบบ..บ..บ..บ”“เหี้ยเอ๊ย! แม่งทำอะไรลงไปวะ?”ตีอกชกตัวทำทุกอย่างที่มีความรุนแรง แต่ใบหน้าดำคล้ำ
ปลายลิ้นสากลากวนหัวถันยอดเกสรลุกชูชันเกินจะต่อต้าน แพรวเริ่มขยับหนีตามจริตจะกร้านด้วยเพราะรู้โดยสันดานว่าตัวเองก็สมยอม แต่ก็ต้องพยายามขัดเอาไว้หน่อยไม่ให้ฝ่ายนั้นคิดว่าง่ายเกินไป เธอกระเถิบตัวขึ้นไปพิงกับพนักวางแขนของโซฟา ครานั้นพีก็ยังตามขึ้นมาโดยการใช้คางพาดไว้บนเนินอก.“หนีทำไม?”เขาเค้นเสียงถาม ลมหายใจร้อนผ่าวจนผิวเต้าเกร็งลุก.“…….”แพรวไม่ตอบเธอเหลือบมองไปทางอื่น พลันใช้มือปิดบังหน้าอกตัวเองเอาไว้ ก่อนจะดันร่างอันบอบบางกระเถิบหนีขึ้นไปพิงกับพนักโซฟา.“กูไม่ให้มึงหนีหรอก มึงพลาดแล้วที่คิดจะยั่วกูอีแพรว!”.ร่างหนาโผขึ้นไปประกบ ชั่วเสี้ยวอึดใจสองกายก็กลมกลึงรวมเป็นหนึ่ง พีสอดแขนเข้าล็อคตัวแพรวเอาไว้ก่อนจะใช้เข่าดันลำตัวส่วนบนอันแน่
เทปกาวหลายขนานปิดทับช่องว่างใต้ประตู ขอบหน้าต่างอัดแน่นไปด้วยกาวยางซิลิโคน ชนิดที่แม้แต่แมลงวันสักตัวก็แทรกผ่านเข้ามาไม่ได้ แอร์ถูกปิด เปิดเพียงระบบฟอกอากาศพอให้ได้ใช้หายใจ และถ้าหากฆ่าแพรวที่มีส่วนร่วมในการแย่งหายใจทิ้งได้ พีก็คงทำไปแล้ว.“มึงเว่อร์อ่ะอีพี!”แพรวตะโกนบอก ขณะนั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่บนโซฟา.“ช่างมึงสิ! ก็นี่มันห้องกู ๆ จะทำอะไรก็ได้ มึงไม่เห็นสิ่งที่มิวท์ทำเหรอ? มึงเห็นกับตาแล้วมิใช่รึไงว่าข้างนอกนั้นเป็นยังไงบ้าง กันไว้ดีกว่าแก้นะมึง!”ร่างหนาดั่งหมีป่าแบกตู้กับข้าวโครม ๆ พีลากมันมากั้นประตูหน้าห้องเอาไว้ เขากลัวเชื้อไวรัสขึ้นสมองจนต้องรีบกลับมารีโนเวทห้องตัวเอง ให้เป็นดั่งห้องปิดตายอย่างที่เห็น.“เฮ๊อะ! ตื่นตูมชะมัด! ต่อให้มีโคนัน 10 คนก็ไขเข้ามาไม่ได้หรอกถ้ามึงทำขนาดนี้”แพรวประชด.“ไม่ช่วยก็อย่าพาลดิ กูรู้หรอกว่ามึงคิดอะไรอยู่ในหัว ทำเป็นกลบเกลื่อนความเสียใจใช่ไหมล่ะ? ตอนซ้อนมอไซต์กูกลับมามึงถึงไม่พูดไม่จาสักคำ”.เจอประโยคนี้เข้าไปเล่นเอาสาวเจ้าถึงกับจุก แพรวเสยผมหนึ่งทีถึงรู้ว่าใบหน้าที่เคยขาวเด้งบัดนี้มีแต่คราบน้ำตา พีแทบไม่อยากเชื่อว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเห