@ อพาร์ทเม้นท์ JJ
“เฮียขา~~”
“อือ!” ผมขานรับด้วยเสียงปนหงุดหงิดหน่อยๆ พร้อมกับวางร่างบางลงยืนทรงตัวบนพื้นโดยมีผมประคองอยู่เพื่อจะหากุญแจในกระเป๋าเธอเพื่อไขเข้าห้อง
“งุ้ยย ดุหนูอีกแล้วววว~” เสียงเล็กเอื้อนเอ่ยขณะที่ผมกำลังพาเธอไปยังห้องนอน และคือจะไม่ให้ผมหงุดหงิดได้ไง เรียกเสียงแบบนี้มาตลอดทาง แล้วผมก็เป็นผู้ชายเปล่าวะ ลำพังไม่เมาเรียกเสียงอ้อนแบบนี้ผมก็อ่อนระทวยไปหมดแหละ พอเมาปุ๊บ...คือระดับความหวานของเสียงมันก็เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าไหมล่ะ คิดถูกคิดผิดวะเนี่ย ถ้าให้เพื่อนเขามาส่งเอง เหมือนจะปลอดภัยกว่านะ หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ
ผมวางร่างสะลึมสะลือลงบนเตียงนอนที่ถูกปูด้วยผ้าสีหวานแล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างให้ ก่อนจะหมุนตัวเพื่อจะเดินออก กะจะไปจัดการไอ้สองตัวข้างล่างซะหน่อย ไม่รู้แม่งเฝ้าอีท่าไหน ปล่อยให้ออกไปโผล่อยู่ที่ผับได้เฉย แต่...ฝีเท้าก็ต้องหยุดกึกลงทันทีที่หันกลับมาเห็นรูปตัวเองที่ถูกอัดใส่กรอบบานใหญ่แขวนไว้บนผนังด้านข้าง
รูปนี้มันตั้งแต่ผมเรียนมหาลัยเลยนะ...ยัยเด็กนี่คงชอบผมมานานมากแล้วจริงๆนั่นแหละ
“ผมถอนจูบออกพลางเอาลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองที่ยังมีความหวานติดอยู่ด้วยความเสียดาย แต่ถ้าไม่หยุดก่อนมีหวังยัยตัวเล็กตรงหน้าขาดใจตายก่อนแน่ ร่างเล็กโน้มตัวลงมาเอาหน้าซบไหล่ผมจนรู้สึกถึงอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างชัดเจน บวกกับอาการหอบจนตัวโยนเพราะผมเล่นสูบอากาศจากตัวเธอออกมาจนแทบหมด จะช็อกไหมล่ะนั่น...ใจเต้นแรงขนาดนี้ แต่ก็นะ...ไม่เคยมีใครตายจากจูบซะหน่อย เหอะ...เด็กน้อยจริงๆ“อื้อออ”ผมอดไม่ได้ที่จะซุกหน้าลงบนซอกคอขาว ที่พอหันไปก็ดันอยู่ในระดับสายตาพอดี บวกกับกลิ่นพีชหอมอ่อนๆ จากตัวเธอที่ลอยมาปะทะเข้ากับจมูกผมและไหนจะเสียงครางหวานนั่นอีก ทุกอย่างมันทำให้ผมไม่สามารถหยุดการกระทำตรงหน้าได้อีกแล้ว มีแต่จะปล่อยให้มันเป็นไปในแบบที่ควรจะเป็นก็เท่านั้นมือผมเลื่อนขึ้นค่อยๆ รูดซิปด้านหลังชุดเดสแขนกุดสีเทาของหนูเฌอลงจนสุด ความไม่เป็นประสาของคนตัวเล็กตรงหน้า ทำให้ผมแทบคลั่ง ไม่อยากเชื่อเลย ปกติผมแทบไม่เคยเล้าโลมให้ใครแบบนี้ด้วยซ้ำ ผมเลื่อนมือขึ้นมาวางตรงไหล่เล็กทั้งสองข้างก่อนจะกระซิบบอกร่างเล็กที่อยู่ในอาการเคลิบเคลิ้มเสียงแหบพร่า“หนูเฌอ เฮียข
@ อพาร์ทเม้นท์ JJ“เฮียขา~~”“อือ!” ผมขานรับด้วยเสียงปนหงุดหงิดหน่อยๆ พร้อมกับวางร่างบางลงยืนทรงตัวบนพื้นโดยมีผมประคองอยู่เพื่อจะหากุญแจในกระเป๋าเธอเพื่อไขเข้าห้อง“งุ้ยย ดุหนูอีกแล้วววว~” เสียงเล็กเอื้อนเอ่ยขณะที่ผมกำลังพาเธอไปยังห้องนอน และคือจะไม่ให้ผมหงุดหงิดได้ไง เรียกเสียงแบบนี้มาตลอดทาง แล้วผมก็เป็นผู้ชายเปล่าวะ ลำพังไม่เมาเรียกเสียงอ้อนแบบนี้ผมก็อ่อนระทวยไปหมดแหละ พอเมาปุ๊บ...คือระดับความหวานของเสียงมันก็เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าไหมล่ะ คิดถูกคิดผิดวะเนี่ย ถ้าให้เพื่อนเขามาส่งเอง เหมือนจะปลอดภัยกว่านะ หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆผมวางร่างสะลึมสะลือลงบนเตียงนอนที่ถูกปูด้วยผ้าสีหวานแล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างให้ ก่อนจะหมุนตัวเพื่อจะเดินออก กะจะไปจัดการไอ้สองตัวข้างล่างซะหน่อย ไม่รู้แม่งเฝ้าอีท่าไหน ปล่อยให้ออกไปโผล่อยู่ที่ผับได้เฉย แต่...ฝีเท้าก็ต้องหยุดกึกลงทันทีที่หันกลับมาเห็นรูปตัวเองที่ถูกอัดใส่กรอบบานใหญ่แขวนไว้บนผนังด้านข้างรูปนี้มันตั้งแต่ผมเรียนมหาลัยเลยนะ...ยัยเด็กนี่คงชอบผมมานานมากแล้วจริงๆนั่นแหละ
“ขอโทษค่ะ”ฉันรีบเอ่ยบอกคนตรงหน้าพร้อมกับโค้งตัวลงอย่างรีบร้อนเพราะกลัวว่าเธอจะโกรธที่ฉันซุ่มซ่ามเดินไม่ดูตาม้าตาเรือมาชนเธอ“อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ” เธอตอบกลับมาแบบยิ้มๆ“ขอโทษอีกทีนะคะ” ฉันพูดพร้อมกับส่งยิ้มกลับไปให้ ก่อนเธอจะเดินออกไปพร้อมกับผู้ชายที่คิดว่าน่าจะเป็นแฟนเธอ แต่ที่ฉันข้องใจก็คือ ผู้ชายคนนั้นเขามองฉันแปลกๆ เหมือนสงสัยอะไรบางอย่าง แถมเดินไปแล้วยังหันกลับมามองอีกรอบด้วยนะ รู้จักฉันงั้นเหรอ...จะว่าไปก็หน้าคุ้นๆ นะ แต่นึกไม่ออก ช่างเถอะๆ รีบไปเข้าห้องน้ำดีกว่าจะได้กลับไปที่โต๊ะ……………พอเข้าห้องน้ำเสร็จฉันก็เดินกลับมาที่โต๊ะทันที แต่ไม่มีใครสนใจฉันหรอกนะ เพราะพวกหล่อนกำลังสนุกสุดเหวี่ยงอยู่กับการโยกย้ายส่ายสะโพกไปมาประกอบเสียงดนตรีที่ดังสนั่นอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะมากนัก จะมีก็แต่หันมายิ้มให้เล็กน้อยเท่านั้นและหันไปเต้นต่อฉันเอื้อมมือไปหยิบเหยือกน้ำปั่นสีหวานที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมารินใส่แก้วน้อยน่ารักแล้วจิบไปพลางๆ ระหว่างที่รอเพลงที่อยู่โหมดแดนซ์ของพวกมันจบ แอลกอฮอล์
ผัวะ!!ทันทีที่ผมได้ยินประโยคแสลงหูจากปากของไอ้เหี้ยแม็กซ์มือผมก็ฟาดลงไปกลางกระบาลมันโดยอัตโนมัติเสียงดังลั่นพร้อมกับพ่นคำออกมาอย่างลืมตัว“ไอ้สัส!!! ไม่ใช่!”“แม่งเอ๊ยย...ตบซะแรงเลย ไอ้ห่า กูก็ลืมป่ะ?”“ห้ามลืม ห้ามทักผิดด้วย จำไว้ในซีกสมองอันน้อยนิดของพวกมึงเลยนะ” ผมออกคำสั่งเสียงเข้มพลางชี้หน้ามันทั้งสองตัวอย่างคาดโทษ ผมยิ่งกลัวจะทักผิดคนอยู่มองผิวเผินแม่งเหมือนกันเด๊ะ ขนาดผมเห็นแค่แวบเดียวยังคิดว่าเป็นหนูเฌอเลย ไอ้หมอมันไม่เคยจำคนผิดบ้างเหรอวะ“สรุปยังไง” ไอ้ฟิวส์ถามขึ้นเสียงเรียบ ผมเหลือบมองหน้ามันเล็กน้อย ก่อนจะหยิบบุหรี่ออกจากปาก ซึ่งมันเรียบจริงๆ นะ หน้าแม่งนิ่งสัส คือมึงเคยตื่นเต้นกับอะไรบ้างไหม ผมล่ะอยากรู้จริงๆ เวลามันเอาผู้หญิงมันยังทำหน้านิ่งแบบนี้ไหม“ตอนนี้กูทำได้แค่ส่งคนตามดูเด็กนั่นไม่ให้คาดสายตาก็เท่านั้น แล้วถ้ากูบุกไปตอนนี้ มีแต่เสียกับเสีย กูจะนิ่งไว้ก่อน” ผมตอบ“คือมึงจะให้มันคิดว่าเด็กนั่นไม่ใช่เป็นตัวแปรสำคัญ”“ถูก” ผมเสร
วันต่อมา….18:00 น.กลุ่มควันสีหม่นถูกพ่นออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากปากผม มือหนึ่งถือแก้วเหล้า อีกมือคีบบุหรี่ เหอะ! ดูโสมมยังไงก็ไม่รู้ แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ ใครมีวิธีแก้เครียดได้ดีกว่านี้ไหม ช่วยบอกทีเถอะ‘หนูชอบเฮีย ชอบมานานมากแล้วด้วย และไม่มีวันที่จะเปลี่ยนใจ ต่อให้เฮียจะไล่ จะด่า จะปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยขนาดไหน สุดท้ายหนูก็เลิกชอบเฮียไม่ได้อยู่ดี’ประโยคนี้ของเธอยังคงดังก้องอยู่ในหัวผมซ้ำๆ สลัดเท่าไหร่ก็ไม่ออก และอะไรสั่งให้ผมจูบเธอไปแบบนั้นวะ ตั้งแต่ที่ไปส่งยัยเด็กหัวรั้นนั่นเมื่อกลางดึก จนมาถึงตอนนี้ผมยังไม่ได้ปล่อยให้มันพักเลยด้วยซ้ำ ทั้งภาพและเสียงสอดประสานกันทำงานอยู่แบบนั้น และคือเข้าใจป่ะ? ที่ผมปฏิเสธไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบเธอ แต่ตอนนี้อะไรๆ มันก็ดูเสี่ยงไปหมด ทั้งเรื่องอันตรายที่เธอจะต้องเจอ ทั้งเรื่องที่ผมก็ยังไม่แน่ใจตัวเอง ใช่...ตอนนี้ผมอาจจะชอบเธอ แต่จะเอาอะไรมามั่นใจว่าผมจะสามารถมีเธอแค่คนเดียวได้ไปตลอด หนูเฌอไม่มีวันเอาผู้ชายอย่างผมอยู่หรอก ข้อนี้ผมทุ่มหมดหน้าตักเลย และสุดท้ายเธอก็จะเสียใจนี่ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไ
“หายตกใจแล้วเหรอเราอะ” ประโยคทำลายความเงียบหลุดออกมาจากปากเฮียวาโยหลังจากที่ต่างคนต่างไม่พูดอะไรกันมาพักใหญ่“ค่ะ...หนูอยากกลับแล้ว” ตอนนี้ต้องใช้คำว่าช็อกมากกว่า...ฉันพูดขึ้นเสียงแผ่วเหมือนคนหมดแรงและยังคงก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองอยู่แบบนั้น ฉันควรไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะเจ็บไปมากกว่านี้“เดี๋ยว! ใครอนุญาต” มือหนาคว้าแขนเล็กไว้หลังจากที่ฉันเดินผ่านหน้าเขามาได้เพียงไม่กี่ก้าว“หนูจะกลับไปอยู่ในที่ของหนู ต้องรอใครอนุญาตด้วยเหรอคะ” คำพูดประชดประชันหลุดออกไปจนได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้ด้วยซ้ำ“ความจริงก็ไม่ต้อง แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว เราต้องอยู่ที่นี่” เฮียวาโยว่าทั้งๆ ที่ยังรั้งแขนฉันไว้แบบนั้น ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจที่เขาพูดเท่าไหร่ แต่คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่โดนทำร้าย ถึงจะยังงั้นก็ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่ดี“แต่…”“ไม่มีแต่” สิ้นเสียงเข้มของเฮียวาโย ร่างฉันก็ถูกดึงกลับไปนั่งที่เตียงเหมือนเดิม ร่างหนาของผู้กระทำนั่งยอ