Share

บทที่ 2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-25 12:32:11

         มือหนาของ ธีร์ เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ แต่ทรงพลัง เขาเลื่อนมือลงจากเอวปลายฟ้าไปตามแนวเรียวปลีน่องที่ตึงสวยก่อนจะลากไล้ขึ้นมาตามต้นขาอย่างแน่วแน่และหยุดลงที่โหนกเนื้อของหญิงสาวแม้จะมีเพียงผ้าผืนบางๆแพนตี้ที่แทบจะขวางกั้นอยู่

         แต่นั่นก็ไม่ได้ยับยั้งความตั้งใจของเขาได้เลย นิ้วเรียวยาวของเขากรีดลึกลงไป ตามบริเวณที่อ่อนไหวที่สุดอย่างจงใจ สร้างกระแสไฟฟ้าไปทั่วร่างของเธอปลายฟ้าสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ สติที่เคยเริ่มกลับมาบัดนี้ถูกความปรารถนากลืนกินไปจนหมดสิ้น

          “อ้า...” เสียงครวญครางหวาน ที่ทั้งแผ่วเบาและเร้าอารมณ์หลุดรอดออกมาจากลำคอของเธอเป็นครั้งแรก เป็นการยอมจำนนต่อสัมผัสของเขา ขณะที่ธีร์ยิ้มพอใจกับปฏิกิริยาที่เขาต้องการจากเธอ

          ธีร์ไม่ปล่อยให้ความตื่นเต้นเนิ่นนานไปกว่านี้ มือหนาที่เปี่ยมไปด้วยความเชี่ยวชาญ ปลดตะขอด้านหน้าของบราออกอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด เผยให้เห็นเนินอกอิ่มที่กำลังเต้นระรัวด้วยแรงปรารถนา

          เขาไม่รอช้าก้มลงซ่อนใบหน้าลงที่ซอกคอก่อนจะตามด้วยการดูดกลืนบริเวณยอดอกนั้นอย่างหนักหน่วงและหิวกระหาย พร้อมกับที่นิ้วเรียวยาวด้านล่างยังคงกรีดเร่งจังหวะอย่างไม่ลดละ

          การรุกเร้าจากทั้งสองจุดพร้อมกันนี้เอง ทำให้ปลายฟ้าไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป ร่างของเธอสั่นสะท้านอย่างรุนแรงบนเคาน์เตอร์หินอ่อน

          เสียงครวญครางหวานเปลี่ยนเป็นเสียงหอบกระเส่า ก่อนที่เธอจะถึง จุดสุดยอด อย่างรวดเร็ว ความสุขที่ถาโถมเข้ามาอย่างบ้าคลั่งทำให้เธอเกร็งไปทั้งตัว มือที่โอบรอบคอเขาก็ยิ่งจิกแน่นเข้า... ขณะที่ ธีร์ ยิ้มรับความพ่ายแพ้ของเธอด้วยความพึงพอใจ

          ขณะที่ความรู้สึกหลังจุดสุดยอดยังคงท่วมท้น ปลายฟ้าค่อยๆ ผ่อนคลายลงแต่ร่างกายก็ยังสั่นระริกด้วยความสุขเกินต้าน เธอใช้สองแขนที่โอบรอบคอ ธีร์อยู่ลูบไล้กลุ่มผมนุ่มที่ท้ายทอยเขาอย่างออดอ้อน พร้อมทั้งเอียงใบหน้าซบกับไหล่ของเขาอย่างไม่ยอมห่าง ส่งเสียงครางอ้อนวอน ราวกับจะเรียกร้องสัมผัสเพิ่มเติม

          ท่าทีนั้นทำให้ธีร์ที่กำลังยิ้มพึงพอใจอยู่แล้วถึงกับ อดใจไม่ไหวเขาผละออกจากยอดอกอิ่ม ช้อนใบหน้าหวานขึ้นมา กดจูบลงไปอย่างดูดดื่มอีกครั้งเป็นจูบที่นุ่มนวลกว่าครั้งแรก แต่ยังคงเต็มไปด้วยความเร่าร้อนที่แฝงอยู่

          ธีร์ก็ช้อนร่างของเธอขึ้นมาอุ้มอีกครั้งอย่างง่ายดายโดยที่เธอยังคงเกาะเกี่ยวเขาไว้แน่น เขาพาเธอก้าวข้ามเคาน์เตอร์หินอ่อนเย็นเฉียบ ตรงไปยังเตียงใหญ่ กลางห้องสวีทอย่างไม่รีรอ พร้อมที่จะเริ่มบทต่อไป 

          ธีร์วางร่างบางลงบนเตียงนุ่มโดยที่เธอยังคงพัวพันเขาไม่ห่าง เขาปลดชุดที่เหลือออกจากร่างเธออย่างรวดเร็วและเด็ดขาด จนกระทั่งร่างของเธอเปลือยเปล่าอยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด ธีร์ชื่นชมความงามตรงหน้าเพียงชั่ววินาทีก่อนที่สัญชาตญาณอันเร่งรีบจะเข้าครอบงำ

          เขารีบสวมถุงป้องกันเข้ากับแก่นกายใหญ่ที่เกินขนาดอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมกริบมองไปยังปลายฟ้าที่สติเริ่มกลับมาเกือบเต็มร้อยจากความหวาดหวั่น

          ธีร์ทาบทับร่างลงคร่อมตัวเธอจัดการกดแก่นกายลงไปยังจุดศูนย์กลางที่อ่อนนุ่มของเธอ

          ทันทีที่เขากดปลายมันแทรกเข้าไป ความเจ็บปวดก็แล่นเข้าโจมตี ปลายฟ้าอย่างรุนแรงจนสติเธอพลันกลับมาเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ใบหน้าหวานเบ้ด้วยความเจ็บปวด เธอพยายามถอยหนีสุดชีวิตผลักแผงอกเขาออกด้วยมือทั้งสองข้างพร้อมทั้ง สะอื้นออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ

          “ฮึก... ไม่... ฮือ... ฉันเจ็บ...”

          ธีร์ไม่ยอมหยุดเขาล็อกสะโพกเธอไว้แน่นด้วยมือข้างเดียวก้มลงจูบซับน้ำตาให้เธออย่างรวดเร็วพร้อมกับใช้คำพูดปลอบโยนด้วยเสียงที่กระเส่าและนุ่มนวลอย่างประหลาด:

          “ทนหน่อยนะที่รัก... แป๊บเดียว... เชื่อฉัน... มันจะดีขึ้น...”

          ว่าแล้วธีร์ก็ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธอีก เขากดแทรกเข้าไปจนสุดด้วยแรงที่ไม่ปรานีท่ามกลางเสียงสะอื้นที่เริ่มขาดห้วงของปลายฟ้า และเสียงครางต่ำที่ถูกกดกลั้นไว้ในลำคอของเขาเอง

          เช้ามืดวันใหม่ ปลายฟ้าตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเหมือนมีค้อนทุบอยู่ที่ศีรษะ ความเจ็บปวดทางกายทำให้เธอตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอจำไม่ได้ทั้งหมด แต่ร่องรอยความสัมพันธ์ที่เธอไม่ต้องการนั้นชัดเจนเกินไป เธอมองไปเจ้าของแขนที่พาดอยู่ที่เอวเปลือยของเธอ

          ปลายฟ้าพยายามที่จะเอาตัวเองออกมาจากเตียงโดยไม่ให้คนข้างตัวตัว เธอยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้ากับเขาโดยตรง

          เธอตรงเขาไปในห้องน้ำ เรือนร่างปรากฏร่องรอยที่อีกฝ่ายฝากไว้ ร่องรอยที่ตอบย้ำเธอว่าเรื่องนี้เป็นความจริงความรู้สึกสกปรกกัดกินเธออีกครั้ง เธอรีบกระโดดลงจากเตียง สวมเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่อย่างเร่งรีบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอพยายามไม่ส่งเสียงดัง ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าชายหนุ่มว่าเป็นใคร ที่นอนหลับอย่างสงบอยู่ข้างกาย

          ปลายฟ้าวิ่งตรงไปที่ห้องน้ำ อาบน้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถูมือและแขนตัวเองอย่างรุนแรงจนผิวหนังแดงก่ำ เธอต้องการลบกลิ่น ลบสัมผัส ลบทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น

          ฉันมันน่ารังเกียจ... ฉันมันสกปรก...

          เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเกือบจะพังทลายอีกครั้ง เธอก็รีบออกจากห้องน้ำ และตัดสินใจวิ่งหนีไปจากที่แห่งนี้ทันที ปลายฟ้าเปิดประตูห้องอย่างเบาที่สุด และก้าวออกจากโรงแรมหรูไปราวกับไม่มีตัวตน เธอไม่ทิ้งอะไรไว้ นอกจากความเงียบงันและความอับอายของตัวเอง

          ไม่กี่นาทีต่อมาธีร์ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงประตูที่ปิดลง เขาหงุดหงิดเล็กน้อยที่ถูกปลุก แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก จนกระทั่งเขาเหลือบไปเห็น คราบสีแดงจางๆ ที่ปรากฏบนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด

          ธีร์ชะงักกึกไปครู่หนึ่ง เขาลุกขึ้นนั่ง และจ้องมองรอยเลือดที่ดูไม่คุ้นเคยนั้นด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

          หายไปไหน?

          ผู้หญิงที่เข้ามาหาเขาไม่เคยทิ้งร่องรอยแบบนี้ไว้ ธีร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดโทรหาผู้จัดการส่วนตัวของเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเคร่งเครียด

          “ไปเช็คให้หน่อยว่าเมื่อคืนผู้หญิงที่ชื่อ ไปเช็คกล้องวงจรปิดในบาร์เมื่อคืน ดูผู้หญิงที่สวมชุดพนักงานบาร์ที่เดินออกมากับฉัน แล้วหาข้อมูลมาให้หมด... ด่วนที่สุด”

           ธีร์ไม่ได้ตามหาเธอด้วยความรัก ความจริงเขาไม่จำเป็นต้องสนใจด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร เพียงแต่ดวงตาคู่สวยแต่แฝงไปดูความเศร้าคู่นั้นมันกวนใจเขา

            หลังจากวันนั้น ปลายฟ้าก็กลับไปสวมชุดทีมงานสีดำของเธอ และกลับไปทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีเพียงอาการวูบไหวในดวงตาที่บ่งบอกว่า เงาแห่งความมืดมิด กำลังก่อตัวขึ้นในใจเธออีกครั้ง

ผ่านไปสองสัปดาห์

          แสงสปอตไลต์สาดส่องลงบนร่างสูงของธีร์ ช่างภาพหญิงวัยกลางคนสั่งการด้วยเสียงกระฉับกระเฉง ขณะที่ธีร์ยืนโพสท่าอย่างสง่างามในเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีดำที่เปิดเผยช่วงอก

          “ดีมากค่ะคุณธีร์! นิ่ง... คม... ขอแววตาแบบ... หลงใหลแต่ควบคุมได้ ค่ะ!” เสียงช่างภาพบอกธีร์ นายแบบเพียงคนเดียวในที่นี้

          แชะ! แชะ! แชะ!

          ธีร์ทำตามอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ในใจเขามีแต่ภาพใบหน้าซีดเผือดของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังวิ่งหนี...

          เขาไม่ได้หลงใหลใคร เขาแค่กำลังรู้สึกว่าตัวเองถูกท้าทาย นับตั้งแต่ที่คราบสีแดงจางๆ ปรากฏบนผ้าปูที่นอนขาวสะอาดนั้น ความรู้สึกถูกหักหน้าก็เกาะกินใจเขาไม่หาย ในโลกของธีร์ ไม่มีใครปฏิเสธสิ่งที่เขาเสนอ ไม่มีใครเดินจากไปก่อนที่เกมจะจบลง

           ‘เธอคิดว่าฉันเป็นใครกันแน่? เข้ามาหาฉันอย่างผู้หญิงคนอื่น แล้วก็หนีไปราวกับฉันเป็นเชื้อโรค’

           เขานึกถึงตอนที่เธอเดินเข้ามาหาเขาในคืนนั้น แววตาที่ดูลังเลแต่เด็ดเดี่ยวอย่างประหลาด... มันไม่เหมือนการยั่วยวน แต่เหมือนการตัดสินใจที่เจ็บปวด

          ตอนแรกก็ทำเหมือนต้องการฉัน ไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเพื่อ ‘ปีนป่าย’ แต่ทำไมสุดท้ายถึงหนีไป? เธอต้องการจะพิสูจน์อะไร? ว่าเธอเหนือกว่า?

         ความรู้สึกรำคาญจากปริศนาที่ยังไม่คลี่คลายทำให้ใบหน้าของเขาแข็งกระด้างกว่าปกติ

         “คุณธีร์คะ! ขอผ่อนคลายกว่านี้หน่อยค่ะ ดูเหมือน... เหมือนคุณกำลังโมโหอะไรบางอย่างอยู่”

          ธีร์สูดหายใจลึกพยายามปรับสีหน้า แต่ไม่ทันแล้วอารมณ์กรุ่นโกรธได้ส่งผ่านไปยังภาพถ่ายอย่างชัดเจน

          ธีร์ปลีกตัวมานั่งที่มุมห้องรับรอง เขากดโทรศัพท์หาเอก ผู้จัดการส่วนตัวของเขาอีกครั้ง

          “เอก... ฉันถามไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าได้ข้อมูลถึงไหนแล้ว?” เสียงของเขาเย็นยะเยือกจนเอกที่อยู่อีกปลายสายต้องสะดุ้ง

          “เอ่อ ผมกำลังเร่งสุดความสามารถเลยครับคุณ แต่คนที่บาร์ไม่มีใครบอกเลยครับ” เสียงปลายสายบอก

          “หรอ...” เสียงทุ้มตอบกลับอย่างหงุดหงิด

          “ช่างมันเอก ไม่ต้องหาแล้ว”

           “ครับคุณธีร์!

           ธีร์กดตัดสายด้วยความหงุดหงิด เขาย้ำตัวเองว่าการตามหาเธอเป็นเรื่องไร้สาระตั้งแต่แรก

            ธีร์มาถึงงานเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับยักษ์ในฐานะแขกคนสำคัญ เขายังคงอยู่ในชุดสูทกึ่งลำลองหลังจากการถ่ายแบบเสร็จสิ้น งานนี้มีผู้คนคับคั่ง เสียงดนตรีแจ๊สบรรเลงคลอเบาๆ แสงไฟสลัวสร้างบรรยากาศหรูหรา แต่ธีร์ยังคงมีสีหน้าเคร่งเครียด

           เขากำลังคุยเรื่องธุรกิจกับนักลงทุนรายใหญ่ แต่สายตาของเขากลับกวาดมองไปรอบๆ อย่างไร้จุดหมาย เหมือนกับว่าเขากำลังมองหาอะไรบางอย่างโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังมองหามันอยู่

          ‘ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยเหรอ?’ ธีร์คิดถึงข้อความล่าสุดที่เอกส่งมา

           ขณะที่เขากำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ สายตาของเขาก็ปะทะเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงบูธบริการข้อมูลด้านข้าง

          หญิงสาวคนนั้นไม่ได้อยู่ในชุดพนักงานบาร์สีดำรัดรูปเซ็กซี่เหมือนคืนนั้น เธออยู่ในชุดเดรสสีเทาเรียบๆ ที่ปิดมิดชิด ผมยาวของเธอถูกม้วนเป็นลอนใหญ่สีแดงอมน้ำตาลดูโดดเด่น แว่นตากรอบหนาสีดำขนาดใหญ่ปิดบังใบหน้าส่วนบนเกือบทั้งหมด ทำให้ใบหน้าดูจืดชืดและเรียบร้อยกว่าที่เขาจำได้

          ท่าทางของเธอที่กำลังก้มหน้าจดบันทึกบนแฟ้มเอกสาร ดูขยันขันแข็งและจริงจัง แตกต่างจากพนักงานบาร์ที่เคยเข้ามาทำสีหน้าออดอ้อนและส่งสายตาเย้ายวนให้เขาในคืนนั้น

          ผมสีนี้? ไม่น่าใช่  ธีร์พึมพำในใจ

           ผู้หญิงที่เขานอนด้วยคือคนที่มีแววตาเศร้าสร้อยแต่ท้าทาย เธอเปล่งประกายแม้ในชุดพนักงานบาร์ที่เรียบง่าย แต่ผู้หญิงตรงหน้าเขานั้นดูเหมือนหนอนหนังสือที่พยายามจะกลมกลืนไปกับฝูงชน

           ธีร์หันกลับไปสนใจการสนทนาต่อทันที ความรู้สึกหงุดหงิดจากการค้นหาผู้หญิงที่เขาคิดว่าได้ "หักหน้า" เขา มันรุนแรงเกินกว่าจะปล่อยให้ภาพลวงตามาหลอกได้ง่ายๆ

            คงเป็นแค่คนหน้าคล้ายๆ กัน

            ในขณะที่เขาเดินผ่านบูธนั้นไป มือของเขาก็เกือบจะชนเข้ากับแขนของหญิงสาวที่สวมแว่นตา

             จังหวะที่เธอเงยหน้าขึ้นมาขอโทษอย่างรวดเร็ว... ธีร์ก็เห็นดวงตาของเธอภายใต้กรอบแว่นหนา

             มันเป็นดวงตาคู่เดิม ดวงตาคู่สวยที่ฉายแววความเศร้าและหวาดระแวงเล็กน้อย แววตาที่เขาจดจำได้ดีจากภาพวงจรปิดของโรงแรม และจากคืนที่น่ารำคาญนั้น

             “ขอโทษค่ะ...”

            ปลายฟ้าหลบสายตาเขาแทบจะทันที แล้วก้มหน้ากลับไปจดจ่ออยู่กับแฟ้มงานในมือ ท่าทางหวาดระแวงและพยายามซ่อนตัวนั้นมันเหมือนกับปลายฟ้าอย่างไม่ผิดเพี้ยน

            ธีร์ชะงักกึก เท้าของเขาหยุดนิ่งกลางอากาศ เขาจ้องมองผมลอนสีแดงของเธอ แว่นตากรอบหนาของเธอ ชุดเรียบร้อยของเธอ

             ความรู้สึกหงุดหงิดที่สะสมมาหลายวันพลันพุ่งสูงขึ้น ความโกรธ ที่ถูกใครบางคนเล่นตลกและพยายามหลบหนีความรับผิดชอบ ทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีก เขาไม่สนใจการสนทนาทางธุรกิจที่ค้างอยู่ เขาเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวที่บูธทันที

           “คุณ...”

            หญิงสาวคนนั้นถึงกับเกร็งตัว แฟ้มงานในมือสั่นเล็กน้อย เธอไม่เงยหน้า แต่เธอรู้ว่าเขาเรียกใคร

           “ชื่ออะไร?” ลมหายใจของปลายฟ้าติดขัดอยู่ในลำคอหลังจากการเผชิญหน้าที่น่าตื่นตระหนก

            ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เธอเชื่อว่าการหนีออกมาทันทีในตอนเช้า การขัดถูร่างกายจนแดงก่ำ และการโยนความทรงจำทั้งหมดลงไปในหลุมดำแห่งความเมามาย จะช่วยให้เธอรอดพ้นได้

            หลังจากคืนที่จบลงด้วยความเข้าใจผิด พี่จันทร์รุ่นพี่สาวโทรมาขอโทษเธอเรื่องที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอก่อเรื่องเอา และขอให้เธอไม่แจ้งความ ถึงจะโกรธเคืองลูกพี่ลูกน้องของพี่จันทร์ แต่เพราะรุ่นพี่สาวมีประคุณกับเธอ ปลายฟ้าจึงไม่เอาความอะไร

           เธอจ้องมองข้อมือของตัวเองที่ยังคงมีร่องรอยความร้อนจากแรงบีบเมื่อครู่ กลิ่นหอมสะอาดของบุรุษเพศที่ปะปนกับกลิ่นเครื่องเทศหายาก ลอยกรุ่นขึ้นมาแตะจมูก

           มันไม่ใช่แค่กลิ่น มันมีทั้งภาพ เสียง และสัมผัสที่ถูกสมองพยายามกักเก็บไว้ในส่วนลึกที่สุด แต่บัดนี้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง

           แต่กลิ่นนั้น กลิ่นที่แสนคุ้นเคยจากผ้าปูที่นอนสีขาวของโรงแรมหรู และจากร่างกายของเธอเองในเช้าวันนั้น ได้ตอกย้ำความจริงที่เธอพยายามจะปฏิเสธ

           ผู้ชายคนนั้นคือเขา ผู้ชายที่ฉันหนีออกมา

          “คุณจำคนผิดแล้วค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ” ปลายฟ้าตอบรวดเดียวแบบไม่หายใจ

           ความโล่งใจที่สามารถปฏิเสธและหลอกล่อเขาได้สำเร็จเมื่อครู่ แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกเหมือนถูกค้อนทุบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความจริงที่ว่าเธอจำ 'เขา' ซึ่งเป็นคู่กรณีคนสำคัญในเหตุการณ์สะเทือนใจไม่ได้เลยตั้งแต่แรก เป็นสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกโง่เขลา

          ปลายฟ้าก้มลง จดจ่ออยู่กับแฟ้มเอกสารตรงหน้า พยายามทำให้ตัวเองดูยุ่งอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้คนรอบข้างเชื่อว่าพนักงานในชุดเดรสสีเทาผู้นี้คือ 'ปลายฟ้า' พนักงานออร์แกไนเซอร์ผู้ขยันขันแข็งไม่ใช่ผู้หญิงพนักงานบาร์ชั่วคราววันนั้น

          เธอใช้แว่นตากรอบหนาเป็นโล่ป้องกัน ใช้ผมสีแดงอมน้ำตาลเป็นกำแพง

แต่เธอรู้ดีว่า การถูกจับข้อมือเมื่อครู่ ไม่ใช่แค่การทักทายผิดคน มันคือการถูก 'คุกคาม' ที่มาพร้อมกับคำเตือนที่เงียบงัน

          เขาอาจจะยังไม่มั่นใจ... แต่เขาสงสัยแล้ว

          การที่เขาเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะเขาเชื่อในการปฏิเสธของเธอ แต่กลิ่นหอมของเขากลับกลายเป็นหลักฐานเดียวที่สามารถหักล้างการปฏิเสธของเธอได้ และตอนนี้กลิ่นนั้นก็ติดอยู่กับตัวเธอ

          ปลายฟ้าใช้หลังมืออีกข้างถูกับข้อมือที่ถูกสัมผัสอย่างรุนแรง พยายามขจัดกลิ่นออกไปอย่างเงียบเชียบในขณะที่ยังยิ้มรับลูกค้าคนต่อไป รอยยิ้มนั้นแข็งกระด้างและฉาบด้วยความหวาดกลัว

          เมื่อนาฬิกาบอกเวลาเลิกงาน ทุกนาทีที่เธอต้องอยู่ในศูนย์ประชุมแห่งนี้กลายเป็นความทรมาน

           เธอรีบเดินออกจากงาน เลี่ยงที่จะใช้เส้นทางปกติ เธอไม่ต้องการแม้แต่จะหายใจเอาอากาศเดียวกับผู้ชายที่ชื่อ ธีร์ อีกต่อไป ชุดเดรสสีเทากลายเป็นชุดเกราะที่รุ่มร่าม และแว่นตาก็ทำให้วิสัยทัศน์ของเธอพร่ามัว

เธอไม่ได้วิ่งหนีด้วยความอับอายอีกแล้ว แต่เธอกำลังวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Fear to love you คนโปรดที่กลัวถูกรัก   บทที่ 8

    หลายวันผ่านไป กิจวัตรของปลายฟ้ายังคงเหมือนเดิม ตื่นเช้ามาทำอาหารคลีนให้ธีร์ จัดตารางงานที่แสนจะยุ่งเหยิงของเขา และคอยตามเก็บซากเขาที่ชอบไปเมาที่บาร์ การทุ่มเททำงานอย่างหนักทำให้ปลายฟ้าดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดธีร์เห็นปลายฟ้าที่สวมเสื้อเชิ้ตเชยๆ กับกางเกงทำงานตัวหลวม ๆ พร้อมแว่นตาหนา ๆ ก็นึกถึงวันแรกที่เจอกันไม่ได้“ฟ้าครับ!” ธีร์เรียกเสียงดังขณะที่เขากำลังเล่นเกมมือถืออยู่ “วันนี้งานผมว่างทั้งวัน ตารางงานคุณก็ว่างใช่ไหม”“ค่ะ”“ดี งั้นไปดูชุดกัน” ธีร์สั่งอย่างเอาแต่ใจ “การที่ผู้จัดการของผมดูไม่ดี มันกระทบต่อภาพลักษณ์ของผมด้วยนะครับ”ปลายฟ้าไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งของเขาได้ ธีร์พาเธอไปช้อปปิ้งใน ห้างสรรพสินค้าหรูทันที เขาใช้เวลาเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้เธออย่างพิถีพิถันราวกับกำลังเลือกเสื้อผ้าให้ตัวเองเขาบังคับให้เธอเปลี่ยนจากแว่นตาหนาๆ เป็น คอนแทคเลนส์ ทำให้ดวงตาคู่สวยแต่เศร้าของเธอปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ตามด้วยการพาไปตัดผมและแต่งหน้าใหม่“ใส่ชุดนี้” ธีร์ยื่น เดรสเข้ารูปสีน้ำเงินเข้มที่โชว์เรียวขา ให้เธอ “ผมเสียดายความสวยของคุณ”กว่าจะได้ชุดที่ถูกใจและธีร์จะอนุมัติก็เกือบเย็นปล

  • Fear to love you คนโปรดที่กลัวถูกรัก   บทที่ 7

    วันรุ่งขึ้น ธีร์สั่งให้คนจัดการย้ายของใช้ที่จำเป็นของปลายฟ้ามาที่เพนเฮ้าส์ของเขาทันที ด้วยข้ออ้างว่าที่พักเธอมันไม่ปลอดภัยเพนเฮ้าส์นี้ของธีร์ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองเป็นห้องเพนเฮ้าส์ขนาดใหญ่บนชั้นสูง มองเห็นวิวเมืองยามค่ำคืนได้อย่างตระการตา ลักษณะของห้องเป็นสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ที่เน้นความโปร่งโล่ง ผนังส่วนใหญ่เป็นกระจกใสจากพื้นจรดเพดาน เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นหนังสีเข้มและโลหะ ซึ่งสะท้อนรสนิยมที่ดูดีและเรียบง่ายแต่แฝงความหนักแน่นของเขาภายในห้องมีพื้นที่จัดสรรไว้อย่างเป็นสัดส่วน มีห้องนอนแยกกันสองห้องโดยห้องหนึ่งเป็นห้องนอนใหญ่ของธีร์ และอีกห้องเป็นห้องนอนที่จัดเตรียมไว้สำหรับปลายฟ้า ห้องทำงานขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย พื้นที่นั่งเล่นขนาดกว้าง ที่ปูด้วยพรมสีเทาเข้มขนาดใหญ่ปลายฟ้าจัดข้าวของเพียงเล็กที่เธอเอามา น้อยเข้ามาในห้องรับรองของเพนเฮ้าส์หรูของธีร์เรียบร้อยแล้วเธอออกมาจากห้องและกำลังเดินผ่านห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างหรูหรา จู่ๆ สายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่นอนแผ่หลาอยู่บนพรมขนแกะนั่นคือฟีนิกซ์แมวพันธุ์เบงกอลตัวอ้วนกลม ที่ม

  • Fear to love you คนโปรดที่กลัวถูกรัก   บทที่ 6

    แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนใหญ่ ธีร์ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเชื่องช้า เขายังคงอยู่ในท่าเดิม โอบกอดปลายฟ้าไว้แนบชิด ร่างกายของเธออุ่นขึ้นมากแล้ว แต่เธอยังคงซุกตัวอยู่กับอกของเขาด้วยความไว้ใจอย่างเต็มที่โดยไม่รู้ตัวธีร์รู้สึกว่านี่เป็นเช้าที่สงบที่สุดในรอบหลายปี เขาไม่ปรารถนาที่จะลุกขึ้น ไม่ปรารถนาที่จะกลับไปสู่โลกที่กร้านโลกภายนอก เขาเพียงแค่อยากกอดผู้หญิงที่เปราะบางคนนี้ไว้เฉยๆเขาลูบเส้นผมที่แห้งแล้วของเธอเบาๆ ปลายฟ้าในอ้อมกอดของเขาบอบบางเหลือเกิน เหมือนกับแก้วที่พร้อมจะแตกสลาย มันทำให้เขามีความรู้สึกอยากปกป้องปลายฟ้าค่อยๆ ขยับตัว เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่คุ้นเคย เธอลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมอง เห็นใบหน้าคมคายของธีร์อยู่ใกล้แค่ปลายจมูกสติของเธอพลันกลับมาครบถ้วน เธอจำได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และใครกำลังกอดเธออยู่! ร่างของปลายฟ้าแข็งเกร็งขึ้นทันทีเธอรีบถอยห่างอย่างรวดเร็ว เหมือนกับลูกแมวตัวน้อยที่ถูกปลุกจากภวังค์ ร่างกายของเธอทำท่าจะตั้งขนขู่ แต่เธอไม่มีพละกำลังพอที่จะผลักเขาได้ เธอทำได้เพียงใช้ข้อศอกดันหน้าอกเขาไว้เบาๆ เพื่อสร้างระยะห่างเท่านั้นเขาเห็นแววตาที่เต็มไปด

  • Fear to love you คนโปรดที่กลัวถูกรัก   บทที่ 5

    หลายวันผ่านไปแสงบ่ายอ่อนๆ สาดเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ของคอนโด ธีร์ออกไปถ่ายแบบนิตยสารตั้งแต่เช้า และน่าจะกลับมาในช่วงเย็น ปล่อยให้ปลายฟ้าอยู่คนเดียวในห้องทำงานที่เงียบสงบปลายฟ้ากำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ทำงานที่น่าเบื่อที่สุดอย่างการ จัดการเอกสารค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งหลายรายการเป็นของใช้ส่วนตัวของธีร์ที่ฟุ่มเฟือยจนน่าตกใจ เธอสวมเสื้อเชิ้ตเรียบๆ และทำงานด้วยสมาธิเต็มที่โทรศัพท์มือถือของเธอที่ตั้งเป็นระบบสั่นอยู่บนโต๊ะทำงาน ดังขึ้นเบาๆ ชื่อ ‘โอม’ ปรากฏขึ้นบนหน้าจออีกครั้งปลายฟ้าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ความรู้สึกผิดที่ไม่ได้คุยกับแฟนหนุ่มอย่างจริงจังมาหลายวัน ทำให้เธอตัดสินใจรับสาย เธอหยิบโทรศัพท์แล้วลุกเดินออกไปยังระเบียงห้องทำงานที่ติดกับวิวเมือง เพื่อสร้างพื้นที่ส่วนตัวเล็กๆ“ฮัลโหลค่ะพี่โอม” เธอพูดเสียงเบา“ทำไมเพิ่งรับสาย ฟ้า พี่คิดถึง” “ฟ้าทำงานอยู่ค่ะ เลยรับช้า พี่โอมว่างหรอคะ” ปลายฟ้าได้ยินเสียงกรุกกรักมาจากปลายสายแทนเสียงคำพูด“ใช่ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ออกเวร ฟ้าว่างไหม ไปกินข้าวกัน”“เอิ่ม แปปนะคะพี่โอม ฟ้าดูตารางแปปนึง” ปลายฟ้าเช็คตารางงารข

  • Fear to love you คนโปรดที่กลัวถูกรัก   บทที่ 4

    ในช่วงที่ปลายฟ้าเพิ่งเริ่มทำงานเป็นผู้ช่วยของธีร์ใหม่ๆ และยังมีความเกร็งในความสัมพันธ์กับเขาปลายฟ้าได้รับมอบหมายให้ติดตามธีร์ไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ระดับประเทศในฐานะนายแบบหลักของคอลเลกชัน งานนี้เต็มไปด้วยแสงสี เสียงเพลง และผู้คนในวงการที่เต็มไปด้วยสีสันปลายฟ้ายืนอยู่ด้านข้างเวที ดูแลคิวและเสื้อผ้าให้ธีร์อย่างเคร่งเครัด เธอพยายามรักษาระยะห่างจากเขาอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือทำให้ความกลัวผู้ชายของเธอปะทุขึ้นมาธีร์เดินออกจากห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมขึ้นแคทวอล์ก เขาอยู่ในชุดสูทสีเข้มที่ขับเน้นรูปร่างให้ดูสง่างามและอันตราย ในขณะที่กำลังเดินผ่านปลายฟ้า ธีร์ก็หยุดเล็กน้อย“มือถือของผมอยู่ไหนครับปลายฟ้า” ธีร์ถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นทางการ แต่ดวงตาของเขากำลังมองสำรวจใบหน้าของเธอ“อยู่... อยู่ในกระเป๋าสำรองค่ะคุณธีร์” ปลายฟ้าตอบอย่างตะกุกตะกัก พยายามหลบสายตาธีร์รู้ดีว่าเธอพยายามหลีกเลี่ยงเขา และนั่นทำให้เขารู้สึกแปลกใจระคนไม่พอใจ เพราะปกติผู้หญิงทุกคนต่างพยายามเข้าหาเขา ธีร์ยื่นมือออกไปแล้ว แกล้งแตะที่ไหล่ของปลายฟ้าเบาๆ ก่อนจะชักมือกลับอย่างรวดเร็วปลายฟ้าสะดุ้งตัวเล็กน้อยทันที แม้จะเป

  • Fear to love you คนโปรดที่กลัวถูกรัก   บทที่ 3

    ปลายฟ้าพยายามใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอจมอยู่กับกองงานเบื้องหลังที่หนักหน่วง และหลีกเลี่ยงการดื่มอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองควบคุมไม่ได้อีกวันนี้กองถ่ายโฆษณาของแบรนด์นาฬิกาหรูดูวุ่นวายกว่าปกติและพระเอกของงานคือ ธีร์ วรโชติสกุลธีร์ไม่ได้จำได้แม่นยำว่าผู้หญิงในคืนนั้นคือใคร ใบหน้าของเธอภายใต้แสงไฟสลัวและฤทธิ์แอลกอฮอล์นั้นเลือนราง แต่เขายังคงจำความหงุดหงิดที่ต้องตื่นมาพบว่าเธอหนีไปเขามองไปยังปลายฟ้าที่กำลังจัดอุปกรณ์อยู่มุมหนึ่งของฉาก เขาจำเสื้อผ้าและท่าทางที่ดูคุ้นตาได้เพียงเลือนรางเท่านั้น เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่สงสัยและพยายามประเมินอยู่เงียบ ๆผู้หญิงคนนี้... มันคุ้นตาอย่างน่าประหลาด ธีร์คิด“ฟ้า มาช่วยฉันยกกล่องนี้หน่อยสิ” เสียงเรียกจากเพชรสไตลิสต์สาวดังขึ้นอย่างไม่เป็นมิตรนักขณะที่ปลายฟ้ากำลังพยายามยกกล่องอุปกรณ์ขนาดใหญ่ออกมา เพชรก็แกล้งสะดุดขาตัวเองเบา ๆ ทำให้ร่างของเธอชนเข้ากับปลายฟ้าอย่างจังโครม!ปลายฟ้าเซถลาพร้อมกับกล่องอุปกรณ์ร่วงลงพื้น ข้อศอกและหัวเข่าของเธอครูดไปกับพื้นคอนกรีตอย่างแรง“โอ๊ย! เธอเดินยังไงของเธอเนี่ยยัยฟ้า! ดูสิ อุปกรณ์ฉันเกือบพัง!” เพช

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status