Share

บทที่ 7

last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-28 23:01:53

วันรุ่งขึ้น ธีร์สั่งให้คนจัดการย้ายของใช้ที่จำเป็นของปลายฟ้ามาที่เพนเฮ้าส์ของเขาทันที ด้วยข้ออ้างว่าที่พักเธอมันไม่ปลอดภัย

เพนเฮ้าส์นี้ของธีร์ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองเป็นห้องเพนเฮ้าส์ขนาดใหญ่บนชั้นสูง มองเห็นวิวเมืองยามค่ำคืนได้อย่างตระการตา ลักษณะของห้องเป็นสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ที่เน้นความโปร่งโล่ง ผนังส่วนใหญ่เป็นกระจกใสจากพื้นจรดเพดาน เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นหนังสีเข้มและโลหะ ซึ่งสะท้อนรสนิยมที่ดูดีและเรียบง่ายแต่แฝงความหนักแน่นของเขา

ภายในห้องมีพื้นที่จัดสรรไว้อย่างเป็นสัดส่วน มีห้องนอนแยกกันสองห้องโดยห้องหนึ่งเป็นห้องนอนใหญ่ของธีร์ และอีกห้องเป็นห้องนอนที่จัดเตรียมไว้สำหรับปลายฟ้า ห้องทำงานขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย พื้นที่นั่งเล่นขนาดกว้าง ที่ปูด้วยพรมสีเทาเข้มขนาดใหญ่

ปลายฟ้าจัดข้าวของเพียงเล็กที่เธอเอามา น้อยเข้ามาในห้องรับรองของเพนเฮ้าส์หรูของธีร์เรียบร้อยแล้ว

เธอออกมาจากห้องและกำลังเดินผ่านห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างหรูหรา จู่ๆ สายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่นอนแผ่หลาอยู่บนพรมขนแกะ

นั่นคือฟีนิกซ์แมวพันธุ์เบงกอลตัวอ้วนกลม ที่มีขนสีน้ำตาลทองและลายจุดสวยงาม มันไม่ใช่แมวพันธุ์สฟิงซ์ อย่างที่เธอเข้าใจ แต่เป็นเบงกอลที่มีขนหนาแน่น มันกำลังเลียขนตัวเองอย่างไม่สนใจโลก

ปลายฟ้าเดินเข้าไปหาธีร์ที่กำลังยืนอ่านหนังสือพิมพ์ดิจิทัลอยู่

“คุณธีร์คะขอฟ้าเล่นกับน้องได้ไหมคะ” เธอถามอย่างเกรงใจ ธีร์เงยหน้าขึ้นมองเธอ แล้วเหลือบมองแมวของเขา

“ได้สิครับ แต่ระวังหน่อยนะ ฟีนิกซ์เป็นแมวที่ ค่อนข้างหวงตัวมากๆ มีแค่ผมคนเดียวที่มันยอมให้เข้าใกล้ได้สนิทจริงๆ” ธีร์ยังพูดไม่ทันจบ

ปลายฟ้าไม่ได้สนใจคำเตือนของธีร์ เธอทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ฟีนิกซ์อย่างช้าๆ เธอไม่ได้พยายามจะสัมผัสตัวมัน แต่เพียงแค่นั่งมองมันอย่างใจเย็น ฟีนิกซ์หยุดเลียขน มันหันมามองปลายฟ้าด้วยดวงตาสีเขียวคู่โตอยู่ครู่หนึ่ง แล้วสิ่งที่ทำให้ธีร์ถึงกับอ้าปากค้างก็เกิดขึ้น

ฟีนิกซ์ลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า มันเดินเข้ามาคลอเคลียที่ขาของปลายฟ้า แล้วมันก็กระโดดขึ้นมานั่งบนตักของปลายฟ้าอย่างง่ายดายที่สุด

ฟีนิกซ์ซบใบหน้าเข้ากับมือของปลายฟ้าแล้วเริ่มส่งเสียง ‘ครืดคราด’ อย่างสบายอารมณ์ ปลายฟ้าเบิกตากว้างด้วยความดีใจ

“ว้าว! คุณธีร์คะ! น้องฟีนิกซ์ มันยอมให้ฟ้าอุ้มด้วยค่ะ” ธีร์มองภาพนั้นด้วยสีหน้าประหลาดใจที่แปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจอย่างรวดเร็ว เขาเดินเข้ามาใกล้โซฟา

“ฟีนิกซ์ ลูกพ่อมานี่มา!” ฟีนิกซ์หันไปมองธีร์อย่างไม่สนใจ ก่อนจะซุกตัวเข้ากับปลายฟ้าแน่นขึ้น

“กว่าฉันจะอุ้มแกได้แต่ละที ฉันต้องอ้อนวอน ต้องให้ขนม แกทรยศฉันอย่างง่ายดายแบบนี้เลยเหรอ!” ธีร์บ่นด้วยน้ำเสียงตัดพ้ออย่างน่าขัน

ปลายฟ้าหัวเราะออกมาอย่างเบาๆ เธอเห็นอาการงอแงขอชายหนุ่มตรงหน้า ธีร์หยิบขนมแมวเลียมาให้เจ้าแมวอ้วนแต่เจ้าฟินิกซ์กลับไม่สนใจเลยสักนิด มันเลียขนทำความสะอาดอยู่บนตักของปลายฟ้า

“นี่คุณหัวเราะผมเหรอ ปลายฟ้า”

“ขอโทษค่ะคุณธีร์” เธอพยายามกลั้นหัวเราะ “แต่น้องฟีนิกซ์คงจะรู้ว่าฟ้าไม่ได้เป็นอันตรายค่ะ”

ธีร์ยืนกอดอกมองคู่ใหม่บนตักของปลายฟ้า ความรู้สึกหงุดหงิดที่เกิดจากความภักดีของแมวที่เปลี่ยนไป ทำให้บรรยากาศระหว่างเขากับปลายฟ้าดูเบาลงและผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

หลังจากใช้เวลาเก็บข้าวของของปลายฟ้าเข้าที่เข้าทางในห้องรับรองและเล่นกับฟีนิกซ์จนแมวไร้ขนตัวอ้วนหลับปุ๋ยไปบนโซฟาแล้ว ทั้งสองคนก็ตัดสินใจสั่งอาหารเดลิเวอรี่มาทานเป็นมื้อเย็นในห้องนั่งเล่น

พวกเขาทานอาหารกันอย่างเงียบๆ โดยมีเพียงเสียงซุบซิบของปลายฟ้ากับฟีนิกซ์เป็นครั้งคราวเท่านั้น บรรยากาศไม่ได้อึดอัดเหมือนเมื่อก่อน แต่เป็นความสบายใจที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติธีร์รู้สึกว่านี่เป็นมื้ออาหารที่เขาไม่ต้องคอยระวังตัว

เมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ธีร์ก็ลุกขึ้นยืน

“ผมคงต้องไปแล้ว” เขาบอก

ปลายฟ้าหันมามองเขา เธอรู้ว่าธีร์ต้องเดินทางไปยุโรปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และเขาต้องไปเตรียมตัวที่บ้านพักของเขา

“คุณธีร์จะกลับบ้านแล้วเหรอคะ”

“ใช่ครับ”

ธีร์เดินไปหยิบกุญแจรถที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ เขาตั้งใจแล้วว่าจะกลับไป เพื่อไม่ให้ปลายฟ้าต้องรู้สึกอึดอัด หรือคิดไปในทางอื่น

ปลายฟ้าเดินตามธีร์มาที่ประตู เธอเหลือบมองไปยังประตูห้องนอนใหญ่ของธีร์ที่อยู่สุดโถงทางเดิน

“คุณธีร์คะ” เธอเรียกเขาเบาๆ ธีร์หยุดหันมามองเธอ “คุณธีร์นอนด้วยกันก็ได้นะคะ”

ธีร์เลิกคิ้ว “หมายความว่ายังไงครับ”

เขาแอบยิ้มขำให้กับประโยคชวนของเธอ จนปลายฟ้านึกขึ้นได้เลยรีบขยายความ ก่อนที่เขาจะคิดไปไกล

“ไม่ใช่ค่ะ ฟ้าหมายถึงนอนที่คอนโดนี้ค่ะ” เธอรีบอธิบายอย่างชัดเจน

“เห็นว่าห้องนอนใหญ่ก็เป็นของคุณธีร์อยู่แล้ว และแค่นอนคนละห้องก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะคะ ฟ้าไม่อยากให้คุณธีร์ต้องขับรถไปๆ มาๆ ” ปลายฟ้าพูดด้วยความจริงใจ

“คุณธีร์ช่วยฟ้าไว้มากแล้วค่ะ แค่นี้ฟ้าก็รู้สึกเป็นภาระมากพอแล้ว”

ธีร์มองเธอด้วยสายตาที่ซับซ้อน เขาไม่แน่ใจว่าการรับคำเชิญนี้จะทำให้ปลายฟ้าสบายใจขึ้น หรือทำลายขอบเขตที่เขาสร้างไว้

“คุณแน่ใจนะครับ ปลายฟ้า ถ้าผมอยู่ผมเกรงว่าคุณจะอึดอัด”

“ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณธีร์” เธอตอบอย่างหนักแน่น “ฟ้าสบายใจที่จะอยู่กับคุณธีร์มากกว่าอยู่คนเดียวค่ะ” แต่ก่อนที่เธอจะนึกได้ว่าประโยคของเธอมันดูเชิญชวนแปลกๆ แต่ก่อนที่จะไม่แก้ เสียงทุ้มของธีร์ก็ขัดขึ้นมาก่อน

“ถ้าอย่างนั้น...” ธีร์วางกุญแจรถลงบนโต๊ะข้างๆ ประตู “ผมจะอยู่ครับ แต่ถ้าคุณไม่สบายใจเมื่อไหร่บอกผมทันทีนะครับ”

เขาตัดสินใจที่จะเชื่อในความไว้ใจที่เธอเพิ่งมอบให้เขา

หลายสัปดาห์ผ่านไปในเพนเฮ้าส์ ปลายฟ้าเริ่มคุ้นชินกับการใช้ชีวิตร่วมกับชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของห้องเธอทำงานในฐานะผู้ช่วยส่วนตัวเต็มเวลา หน้าที่ของเธอครอบคลุมตั้งแต่การประสานงานธุรกิจ การจัดการตารางที่ซับซ้อน ไปจนถึงการบริหารจัดการชีวิตส่วนตัวทั้งหมดของธีร์

เธอไม่ได้ลำบากใจกับการมีเขาอยู่ห้องตรงข้าม แต่เธอต้องยอมรับว่า การอยู่ภายใต้มาตรฐานที่สูงลิ่วและละเอียดถี่ถ้วนของธีร์นั้นเหนื่อยหน่ายกว่าที่คิด

คุณธีร์ไม่ได้จุกจิกแค่เรื่องงาน แต่จุกจิกไปถึงทุกอณูของชีวิต

“การจัดเรียงตู้เสื้อผ้าของผมต้องแยกตามเนื้อผ้า และเฉดสีครับ นี่เป็นสีเทาหม่น ไม่ใช่สีเทาอ่อน คุณต้องแยกมันออกมา”

“ตารางการประชุมเช้านี้ถูกจัดซ้อนทับกับช่วงเวลาที่ผมต้องให้อาหารฟีนิกซ์! คุณต้องเรียนรู้ว่าลำดับความสำคัญของฟีนิกซ์มาก่อนการประชุมทั้งหมด!”

ปัญหาทุกกลับจบที่ธีร์จ้างแม่บ้านมาดูงานบ้านเป็นหลัก ส่วนปลายฟ้าทำแค่เรื่องดูและเขาและแมวของเขาพอ แม้จะมีความจุกจิกและดูเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการแต่ธีร์ก็มความเสเพลซ่อนอยู่

ในขณะที่บุคลิกผู้บริหารของเขาทำงานอย่างเคร่งเครียดและมีเหตุผลเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกค้าหรือหุ้นส่วน แต่เมื่ออยู่กับปลายฟ้าในพื้นที่ส่วนตัว เขาจะกล้าทิ้งความรับผิดชอบและปฏิเสธงานบางอย่างได้อย่างง่ายดาย

เขาจะสั่งให้เธอเตรียมแฟ้มงานสำหรับการประชุมสำคัญในวันรุ่งขึ้น แต่เมื่อถึงตอนเย็น เขากลับบอกว่า

“วันนี้พอแล้ว ปลายฟ้า! สมองผมไม่ทำงานแล้ว เกมใหม่ๆ มาเล่นด้วยกันดีกว่า”เขาจะปล่อยให้เอกสารสำคัญกองอยู่บนโต๊ะทำงาน แล้วหันไปเล่นเกมหรือสนใจแมวของเขา หรือนั่งมองวิวเมืองอย่างไม่ใส่ใจ ราวกับว่าการเงินมูลค่าหลายร้อยล้านเหล่านั้นสามารถรอเขาได้เสมอ

เขาเป็นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบ แต่ก็เป็นคนที่เล่นใหญ่และตามใจตัวเองที่สุดในโลก

เขาปฏิบัติต่อเธอในฐานะผู้ช่วยที่เขาวางใจมากที่สุด โดยไม่แยกแยะเลยว่าหน้าที่ของเธอจบลงตรงไหนและความจุกจิกในเรื่องส่วนตัวของเขาก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้งานซึ่งทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยล้า แต่ก็ขัดใจไม่ได้ เพราะเขาคือคนเจ้านายของเธอ

ในคืนหนึ่งที่ดึกสงัดปลายฟ้ากำลังนั่งทำงานจัดการตารางงานของธีร์ที่ค้างอยู่ ฟีนิกซ์นอนขดตัวอย่างสบายอยู่บนตักของเธอ

จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของธีร์ที่ปลายฟ้าเป็นคนเก็บไว้ก็สั่นขึ้นมา หน้าจอแสดงชื่อ “ธีร์” ซึ่งแปลว่าเขาใช้เบอร์สำรองโทรเข้ามาหาเบอร์หลักของตัวเอง

ปลายฟ้ากดรับสายอย่างไม่เต็มใจนัก

“สวัสดีค่ะคุณธีร์”

“ปลาย ฟ้า ผม อยู่ที่บาร์” เสียงของเขาฟังดูรื่นเริงอย่างน่ารำคาญ “คุณต้องมาหาผมเดี๋ยวนี้ ผม ขับรถไม่ได้แล้ว...”

ปลายฟ้าหันไปมองนาฬิกาบนผนัง เวลาบอก 00.30 น. เธอรู้สึกเดือดดาลกับความไร้ความรับผิดชอบของเขา

“คุณอยู่ที่ไหนคะ!”

เสียงธีร์ดังเข้ามาทางโทรศัพท์อย่างกระท่อนกระแท่นปลายฟ้าถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ เธอสวมเสื้อแจ็กเก็ตตัวหนาทับชุดลำลองแล้วรีบขับรถไปยังผับตามที่ได้รับแจ้ง

ณ ร้านเหล้าหรู

เมื่อปลายฟ้าก้าวเท้าเข้าไปในผับ สิ่งแรกที่ปะทะเธอคือ เสียงเพลงอิเล็กทรอนิกส์ที่ดังกระหึ่มจนพื้นสั่น แสงไฟเลเซอร์หลากสีสาดส่องไปทั่วบริเวณที่เต็มไปด้วยผู้คนแต่งตัวจัดเต็มที่กำลังเต้นรำกันอย่างเบียดเสียด

ปลายฟ้าต้อง ฝ่าฝูงชน เข้าไปอย่างทุลักทุเล เธอเดินตามป้ายนำทางไปยัง โซน VIP ซึ่งแยกออกมาเป็นห้องกระจกที่อยู่ชั้นบน

เมื่อเปิดประตูห้อง VIP เข้าไป ภาพที่เห็นทำให้ปลายฟ้าต้องถอนหายใจอีกครั้ง

ภายในห้องตกแต่งอย่างหรูหราด้วยโซฟาหนังตัวยาว กลุ่มเพื่อนของธีร์นั่งอยู่เต็มห้อง และข้างๆ ทุกคนนั้น มีสาวสวยแต่งตัวเซ็กซี่นั่งอยู่ใกล้ชิดเพื่อเอาใจ บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงเชียร์ที่ดังไม่แพ้ด้านนอก

ธีร์นั่งอยู่ตรงมุมโซฟา ใบหน้าหล่อเหลาของเขาขึ้นสีแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ เขาสวมเสื้อยืดสีดำที่เผยให้เห็นต้นแขน ข้างกายเขานั้นไม่มีผู้หญิงนั่งเบียดเหมือนคนอื่น

แต่มีสาวสวยคนหนึ่งที่พยายามโน้มตัวเข้าหาและพยายามจะแตะต้นแขนของเขา

ธีร์เห็นแล้วว่าปลายฟ้ากำลังเดินเข้ามา แม้จะเมามาก แต่สายตาของเขาก็ยังคมกริบพอที่จะมองเห็นเธอ ธีร์ทำท่าทางเบื่อหน่าย ปัดมือของสาวสวยคนที่พยายามเข้าหาเขาออกอย่างหงุดหงิด

“ออกไป” ธีร์พูดเสียงดังอย่างไม่สนใจสาวคนนั้น เขาพยายามลุกขึ้นยืน แต่ก็โซเซไปมา จนต้องยันตัวเองกับขอบโซฟาไว้

“ปลายฟ้า” ธีร์เรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่ยานคางเล็กน้อย ก่อนจะเดินตรงมาหาเธออย่างไม่มั่นคง

“เฮ้ย ธีร์! กลับแล้วเหรอวะ? นั่งต่ออีกแป๊บดิ!” เพื่อนคนหนึ่งของธีร์ตะโกนถาม

“ไม่ล่ะ! เมีย เอ๊ย! คนขับรถมารับแล้ว” ธีร์ตอบอย่างมึนๆ พลางเท้าแขนลงบนไหล่ของปลายฟ้า

“น้องๆ กินอะไรหน่อยไหม? มาร์ตินี่สักแก้ว?” เพื่อนธีร์ถามปลายฟ้าอย่างเชื้อเชิญ

ปลายฟ้าเหลือบมองแก้วของธีร์ที่ยังเหลือเหล้าอยู่ครึ่งแก้ว แล้วหันไปมองเพื่อนของเขา

“ไม่เป็นไรค่ะ” ปลายฟ้าตอบอย่างสุภาพ “ฟ้าไม่ดื่มเหล้าค่ะ ขอตัวพาเขากลับก่อนนะคะ”

ธีร์หัวเราะหึๆ กับคำปฏิเสธของปลายฟ้า ก่อนจะปล่อยให้เธอยื่นมือมาประคองเขา แล้วทั้งคู่ก็เดินฝ่าเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มออกจากห้องไป

ปลายฟ้าพาธีร์กลับมาบถึงเพนเฮ้าส์อย่างทุลักทุเล ขณะที่เธอต้องประคองเขาไว้ เธอได้แค่คิดว่า คนอื่นคงคิดว่าเธอน่าอิจฉา แต่เปล่าเลยมันโคตรจะเหนื่อยเลยกับตาคนนี้

ปลายฟ้ามองโครงหน้าด้านหน้าของชายหนุ่ม ที่หลับตาพริ้ม ขนตายาวที่ทำเอาเธอยังอาย ดั้งจมูกโด่ง คิ้วดกดำ ปอยผมที่ปกติเซทอย่างดีตอนนี้มันตกลงมาบดบังใบหน้าหล่อ

ปลายฟ้าพยายามประคองธีร์ให้ไปถึงเตียงราคาแพง เธอทิ้งร่างหนาลงเตียงคิงไซส์ จัดท่าทางให้นอนสบายโดยพยายามให้โดนตัวน้อยที่สุด ถอดรองเท้าหนังราคาแพงให้

ก่อนที่จะเดินออกมาลูบแมวอ้วนที่นอนนอนขดอยู่บนโซฟา ปกติปลายฟ้าที่ต้องอยู่คอนโดคนเดียวในหลายๆ ช่วงเวลามักจะออกมานั่งทำงานเงียบๆ ที่โซฟา ฟีนิกซ์ กลายเป็นตัวกลางที่ทำให้ปลายฟ้าได้ปลดปล่อยความรู้สึกที่ซ่อนไว้ เธอชอบซบหน้าลงกับความอบอุ่นของมัน และบางครั้งก็นั่งคุยกับมันราวกับเป็นเพื่อนที่เข้าใจ

บ่อยครั้งที่ธีร์ออกจากห้องนอนของเขาตอนกลางคืน เขาจะเห็นปลายฟ้าที่สวมแว่นตาหนา และปล่อยผมลอนยาวกำลังกอด ฟีนิกซ์ อย่างอ่อนโยน ธีร์เคยพูดกับเธอว่า

“แมวผมมันขี้รำคาญนะ” ธีร์พูดเสียงเรียบ แต่ก็ไม่ได้ห้ามเธอเล่นกับมัน

“แต่ดูเหมือนมันจะยอมให้คุณทำแบบนี้”

ปลายฟ้าทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรง แต่ความเหนื่อยล้าทางกายไม่ได้ช่วยให้จิตใจสงบลง ความฝันร้ายที่เธอพยายามหนีมาตลอดก็ตามมาหลอกหลอน

ปลายฟ้าไม่ได้หลุดพ้นจากภาวะซึมเศร้า ทุกคืนเธอจะถูกหลอนด้วย ฝันร้าย ถึงฉากที่ถูกพ่อเลี้ยงลวนลาม และฉากที่แม่ยืนยันคำโกหกต่อตำรวจ ภาพความทรงจำเหล่านั้นทำให้เธอตื่นกลางดึกพร้อมอาการตัวสั่น

เวลาที่เธอมีฝันร้ายปลายฟ้าจะออกมาจากห้องนอนและมานั่งขดตัวอยู่บนโซฟาเดียวกับที่ฟีนิกซ์นอนอยู่ การอยู่ตรงนั้นทำให้เธอรู้สึกว่ามีคนอยู่ใกล้ๆ แม้จะเป็นเพียงความอบอุ่นจากสัตว์เลี้ยงก็ตาม

เป็นเวลาเกือบตีสาม ธีร์ที่นอนอยู่ห้องตรงข้ามก็ตื่นขึ้นมากลางดึกตามที่ตั้งใจไว้ คลำหาน้ำที่วางไว้ข้างเตียงแล้วดื่มจนหมดแก้ว เพื่อป้องกันอาการแฮงค์ในเช้าวันรุ่งขึ้น

ความมึนเมาของเขาสลายไปเกือบหมดเมื่อเขาได้ยินเสียงแผ่วเบาที่ดังแทรกความเงียบของเพนเฮ้าส์

นั่นคือปลายฟ้า

เธอไม่ได้นอนอยู่ในห้องรับรอง แต่มานอนขดตัวอยู่บนโซฟาด้วยชุดนอนของธีร์ที่ตัวใหญ่โคร่ง ข้างๆ ตัวเธอมีฟีนิกซ์ แมวพันธุ์เบงกอลสุดรักของธีร์ที่ปกติไม่ยอมเข้าใกล้คนแปลกหน้า นอนซุกตัวอยู่ใกล้ๆ

“เมี้ยว” เสียงร้องเบาๆ ดังขึ้น

“เงียบๆ” เขากล่าวเสียงเบา

ธีร์วางแก้วน้ำลง แล้วเดินเข้าไปใกล้ปลายฟ้าอย่างเงียบกริบ

ธีร์ยืนอยู่ตรงนั้น สลัดความมึนเมาทั้งหมดทิ้งไป เขาสูดหายใจเข้าลึกอย่างเงียบๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้

เขายกฟีนิกซ์ขึ้นมาอุ้มไว้ข้างลำตัว แล้วค่อยๆ อุ้มร่างของปลายฟ้าขึ้นมาแนบอกอย่างเบามือที่สุด

ขณะที่เขาอุ้มเธอเพื่อพาเธอกลับไปที่เตียงในห้องรับรอง ปลายฟ้าก็ขยับตัวเล็กน้อย เธอยกมือขึ้นกำเสื้อยืดของธีร์ที่เปียกชื้นเพราะน้ำตาของเธอไว้แน่น

ธีร์ชะงักไปครู่หนึ่ง เขาคิดว่าเธอตื่นแล้ว แต่ปลายฟ้าไม่ได้ลืมตา เธอยังคงหลับอยู่ และเธอก็ ละเมอจับเสื้อของเขาไว้แน่น เหมือนกลัวว่าไออุ่นจากตัวเขาจะหายไป ธีร์อุ้มเธอไปวางลงบนเตียงในห้องรับรอง แล้วห่มผ้าให้เธอจนมิดชิด

ธีร์ยืนมองใบหน้าของเธอที่ยังคงขมวดคิ้วแน่นเป็นปม เขาต้องการหาวิธีทำให้ปลายฟ้ารู้สึกดีขึ้น แม้ในยามที่เธอหลับอยู่ ธีร์ใช้มือข้างเดิมที่เพิ่งอุ้มเธอ จิ้มลงไปที่หน้าผากของเธอ เพื่อคลายปมระหว่างคิ้วนั้น เขาทำอย่างอ่อนโยนที่สุด

“ไม่เป็นไรนะครับ ปลายฟ้าทุกอย่างจบแล้ว”

“คุณเก่งที่สุดแล้วครับ”

เหมือนคำพูดของธีร์จะสามารถแทรกซึมเข้าไปในความฝันอันมืดมิดของเธอได้ เสียงสะอื้นของปลายฟ้าค่อยๆ ลดลงจนเงียบสนิท รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอแทน ธีร์มองดูรอยยิ้มนั้นด้วยความโล่งใจ เขาคิดว่าเธอคงจะฝันดีขึ้นแล้ว

“ฝันดีนะครับ ขอให้คุณไม่ฝันร้ายอีก”

ธีร์เดินออกจากห้องรับรองอย่างเงียบเชียบ ปิดประตูเบาๆ แล้วเดินกลับเข้าห้องนอนใหญ่ของเขา ให้ปลายฟ้านอนหลับอย่างสงบอยู่ในอ้อมกอดของความปลอดภัยที่เขาได้มอบให้

ปลายฟ้าตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเธอฝันร้าย เลยออกมานอนที่โซฟากับเจ้าแมวอ้วน

ปลายฟ้าลุกขึ้นนั่ง เธอหันไปมองรอบๆ ห้อง เห็นเพียงความว่างเปล่า

‘คุณธีร์’ ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัว

รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าของเธอ เธอพับผ้าห่มอย่างเรียบร้อย แล้วเริ่มวันใหม่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำงานของตัวเองต่อไป

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Fear to love you คนโปรดที่กลัวถูกรัก   บทที่ 8

    หลายวันผ่านไป กิจวัตรของปลายฟ้ายังคงเหมือนเดิม ตื่นเช้ามาทำอาหารคลีนให้ธีร์ จัดตารางงานที่แสนจะยุ่งเหยิงของเขา และคอยตามเก็บซากเขาที่ชอบไปเมาที่บาร์ การทุ่มเททำงานอย่างหนักทำให้ปลายฟ้าดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดธีร์เห็นปลายฟ้าที่สวมเสื้อเชิ้ตเชยๆ กับกางเกงทำงานตัวหลวม ๆ พร้อมแว่นตาหนา ๆ ก็นึกถึงวันแรกที่เจอกันไม่ได้“ฟ้าครับ!” ธีร์เรียกเสียงดังขณะที่เขากำลังเล่นเกมมือถืออยู่ “วันนี้งานผมว่างทั้งวัน ตารางงานคุณก็ว่างใช่ไหม”“ค่ะ”“ดี งั้นไปดูชุดกัน” ธีร์สั่งอย่างเอาแต่ใจ “การที่ผู้จัดการของผมดูไม่ดี มันกระทบต่อภาพลักษณ์ของผมด้วยนะครับ”ปลายฟ้าไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งของเขาได้ ธีร์พาเธอไปช้อปปิ้งใน ห้างสรรพสินค้าหรูทันที เขาใช้เวลาเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้เธออย่างพิถีพิถันราวกับกำลังเลือกเสื้อผ้าให้ตัวเองเขาบังคับให้เธอเปลี่ยนจากแว่นตาหนาๆ เป็น คอนแทคเลนส์ ทำให้ดวงตาคู่สวยแต่เศร้าของเธอปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ตามด้วยการพาไปตัดผมและแต่งหน้าใหม่“ใส่ชุดนี้” ธีร์ยื่น เดรสเข้ารูปสีน้ำเงินเข้มที่โชว์เรียวขา ให้เธอ “ผมเสียดายความสวยของคุณ”กว่าจะได้ชุดที่ถูกใจและธีร์จะอนุมัติก็เกือบเย็นปล

  • Fear to love you คนโปรดที่กลัวถูกรัก   บทที่ 7

    วันรุ่งขึ้น ธีร์สั่งให้คนจัดการย้ายของใช้ที่จำเป็นของปลายฟ้ามาที่เพนเฮ้าส์ของเขาทันที ด้วยข้ออ้างว่าที่พักเธอมันไม่ปลอดภัยเพนเฮ้าส์นี้ของธีร์ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองเป็นห้องเพนเฮ้าส์ขนาดใหญ่บนชั้นสูง มองเห็นวิวเมืองยามค่ำคืนได้อย่างตระการตา ลักษณะของห้องเป็นสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ที่เน้นความโปร่งโล่ง ผนังส่วนใหญ่เป็นกระจกใสจากพื้นจรดเพดาน เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นหนังสีเข้มและโลหะ ซึ่งสะท้อนรสนิยมที่ดูดีและเรียบง่ายแต่แฝงความหนักแน่นของเขาภายในห้องมีพื้นที่จัดสรรไว้อย่างเป็นสัดส่วน มีห้องนอนแยกกันสองห้องโดยห้องหนึ่งเป็นห้องนอนใหญ่ของธีร์ และอีกห้องเป็นห้องนอนที่จัดเตรียมไว้สำหรับปลายฟ้า ห้องทำงานขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย พื้นที่นั่งเล่นขนาดกว้าง ที่ปูด้วยพรมสีเทาเข้มขนาดใหญ่ปลายฟ้าจัดข้าวของเพียงเล็กที่เธอเอามา น้อยเข้ามาในห้องรับรองของเพนเฮ้าส์หรูของธีร์เรียบร้อยแล้วเธอออกมาจากห้องและกำลังเดินผ่านห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างหรูหรา จู่ๆ สายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่นอนแผ่หลาอยู่บนพรมขนแกะนั่นคือฟีนิกซ์แมวพันธุ์เบงกอลตัวอ้วนกลม ที่ม

  • Fear to love you คนโปรดที่กลัวถูกรัก   บทที่ 6

    แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนใหญ่ ธีร์ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเชื่องช้า เขายังคงอยู่ในท่าเดิม โอบกอดปลายฟ้าไว้แนบชิด ร่างกายของเธออุ่นขึ้นมากแล้ว แต่เธอยังคงซุกตัวอยู่กับอกของเขาด้วยความไว้ใจอย่างเต็มที่โดยไม่รู้ตัวธีร์รู้สึกว่านี่เป็นเช้าที่สงบที่สุดในรอบหลายปี เขาไม่ปรารถนาที่จะลุกขึ้น ไม่ปรารถนาที่จะกลับไปสู่โลกที่กร้านโลกภายนอก เขาเพียงแค่อยากกอดผู้หญิงที่เปราะบางคนนี้ไว้เฉยๆเขาลูบเส้นผมที่แห้งแล้วของเธอเบาๆ ปลายฟ้าในอ้อมกอดของเขาบอบบางเหลือเกิน เหมือนกับแก้วที่พร้อมจะแตกสลาย มันทำให้เขามีความรู้สึกอยากปกป้องปลายฟ้าค่อยๆ ขยับตัว เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่คุ้นเคย เธอลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมอง เห็นใบหน้าคมคายของธีร์อยู่ใกล้แค่ปลายจมูกสติของเธอพลันกลับมาครบถ้วน เธอจำได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และใครกำลังกอดเธออยู่! ร่างของปลายฟ้าแข็งเกร็งขึ้นทันทีเธอรีบถอยห่างอย่างรวดเร็ว เหมือนกับลูกแมวตัวน้อยที่ถูกปลุกจากภวังค์ ร่างกายของเธอทำท่าจะตั้งขนขู่ แต่เธอไม่มีพละกำลังพอที่จะผลักเขาได้ เธอทำได้เพียงใช้ข้อศอกดันหน้าอกเขาไว้เบาๆ เพื่อสร้างระยะห่างเท่านั้นเขาเห็นแววตาที่เต็มไปด

  • Fear to love you คนโปรดที่กลัวถูกรัก   บทที่ 5

    หลายวันผ่านไปแสงบ่ายอ่อนๆ สาดเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ของคอนโด ธีร์ออกไปถ่ายแบบนิตยสารตั้งแต่เช้า และน่าจะกลับมาในช่วงเย็น ปล่อยให้ปลายฟ้าอยู่คนเดียวในห้องทำงานที่เงียบสงบปลายฟ้ากำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ทำงานที่น่าเบื่อที่สุดอย่างการ จัดการเอกสารค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งหลายรายการเป็นของใช้ส่วนตัวของธีร์ที่ฟุ่มเฟือยจนน่าตกใจ เธอสวมเสื้อเชิ้ตเรียบๆ และทำงานด้วยสมาธิเต็มที่โทรศัพท์มือถือของเธอที่ตั้งเป็นระบบสั่นอยู่บนโต๊ะทำงาน ดังขึ้นเบาๆ ชื่อ ‘โอม’ ปรากฏขึ้นบนหน้าจออีกครั้งปลายฟ้าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ความรู้สึกผิดที่ไม่ได้คุยกับแฟนหนุ่มอย่างจริงจังมาหลายวัน ทำให้เธอตัดสินใจรับสาย เธอหยิบโทรศัพท์แล้วลุกเดินออกไปยังระเบียงห้องทำงานที่ติดกับวิวเมือง เพื่อสร้างพื้นที่ส่วนตัวเล็กๆ“ฮัลโหลค่ะพี่โอม” เธอพูดเสียงเบา“ทำไมเพิ่งรับสาย ฟ้า พี่คิดถึง” “ฟ้าทำงานอยู่ค่ะ เลยรับช้า พี่โอมว่างหรอคะ” ปลายฟ้าได้ยินเสียงกรุกกรักมาจากปลายสายแทนเสียงคำพูด“ใช่ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ออกเวร ฟ้าว่างไหม ไปกินข้าวกัน”“เอิ่ม แปปนะคะพี่โอม ฟ้าดูตารางแปปนึง” ปลายฟ้าเช็คตารางงารข

  • Fear to love you คนโปรดที่กลัวถูกรัก   บทที่ 4

    ในช่วงที่ปลายฟ้าเพิ่งเริ่มทำงานเป็นผู้ช่วยของธีร์ใหม่ๆ และยังมีความเกร็งในความสัมพันธ์กับเขาปลายฟ้าได้รับมอบหมายให้ติดตามธีร์ไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ระดับประเทศในฐานะนายแบบหลักของคอลเลกชัน งานนี้เต็มไปด้วยแสงสี เสียงเพลง และผู้คนในวงการที่เต็มไปด้วยสีสันปลายฟ้ายืนอยู่ด้านข้างเวที ดูแลคิวและเสื้อผ้าให้ธีร์อย่างเคร่งเครัด เธอพยายามรักษาระยะห่างจากเขาอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือทำให้ความกลัวผู้ชายของเธอปะทุขึ้นมาธีร์เดินออกจากห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมขึ้นแคทวอล์ก เขาอยู่ในชุดสูทสีเข้มที่ขับเน้นรูปร่างให้ดูสง่างามและอันตราย ในขณะที่กำลังเดินผ่านปลายฟ้า ธีร์ก็หยุดเล็กน้อย“มือถือของผมอยู่ไหนครับปลายฟ้า” ธีร์ถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นทางการ แต่ดวงตาของเขากำลังมองสำรวจใบหน้าของเธอ“อยู่... อยู่ในกระเป๋าสำรองค่ะคุณธีร์” ปลายฟ้าตอบอย่างตะกุกตะกัก พยายามหลบสายตาธีร์รู้ดีว่าเธอพยายามหลีกเลี่ยงเขา และนั่นทำให้เขารู้สึกแปลกใจระคนไม่พอใจ เพราะปกติผู้หญิงทุกคนต่างพยายามเข้าหาเขา ธีร์ยื่นมือออกไปแล้ว แกล้งแตะที่ไหล่ของปลายฟ้าเบาๆ ก่อนจะชักมือกลับอย่างรวดเร็วปลายฟ้าสะดุ้งตัวเล็กน้อยทันที แม้จะเป

  • Fear to love you คนโปรดที่กลัวถูกรัก   บทที่ 3

    ปลายฟ้าพยายามใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอจมอยู่กับกองงานเบื้องหลังที่หนักหน่วง และหลีกเลี่ยงการดื่มอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองควบคุมไม่ได้อีกวันนี้กองถ่ายโฆษณาของแบรนด์นาฬิกาหรูดูวุ่นวายกว่าปกติและพระเอกของงานคือ ธีร์ วรโชติสกุลธีร์ไม่ได้จำได้แม่นยำว่าผู้หญิงในคืนนั้นคือใคร ใบหน้าของเธอภายใต้แสงไฟสลัวและฤทธิ์แอลกอฮอล์นั้นเลือนราง แต่เขายังคงจำความหงุดหงิดที่ต้องตื่นมาพบว่าเธอหนีไปเขามองไปยังปลายฟ้าที่กำลังจัดอุปกรณ์อยู่มุมหนึ่งของฉาก เขาจำเสื้อผ้าและท่าทางที่ดูคุ้นตาได้เพียงเลือนรางเท่านั้น เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่สงสัยและพยายามประเมินอยู่เงียบ ๆผู้หญิงคนนี้... มันคุ้นตาอย่างน่าประหลาด ธีร์คิด“ฟ้า มาช่วยฉันยกกล่องนี้หน่อยสิ” เสียงเรียกจากเพชรสไตลิสต์สาวดังขึ้นอย่างไม่เป็นมิตรนักขณะที่ปลายฟ้ากำลังพยายามยกกล่องอุปกรณ์ขนาดใหญ่ออกมา เพชรก็แกล้งสะดุดขาตัวเองเบา ๆ ทำให้ร่างของเธอชนเข้ากับปลายฟ้าอย่างจังโครม!ปลายฟ้าเซถลาพร้อมกับกล่องอุปกรณ์ร่วงลงพื้น ข้อศอกและหัวเข่าของเธอครูดไปกับพื้นคอนกรีตอย่างแรง“โอ๊ย! เธอเดินยังไงของเธอเนี่ยยัยฟ้า! ดูสิ อุปกรณ์ฉันเกือบพัง!” เพช

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status