Masukแสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนใหญ่ ธีร์ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเชื่องช้า เขายังคงอยู่ในท่าเดิม โอบกอดปลายฟ้าไว้แนบชิด ร่างกายของเธออุ่นขึ้นมากแล้ว แต่เธอยังคงซุกตัวอยู่กับอกของเขาด้วยความไว้ใจอย่างเต็มที่โดยไม่รู้ตัว
ธีร์รู้สึกว่านี่เป็นเช้าที่สงบที่สุดในรอบหลายปี เขาไม่ปรารถนาที่จะลุกขึ้น ไม่ปรารถนาที่จะกลับไปสู่โลกที่กร้านโลกภายนอก เขาเพียงแค่อยากกอดผู้หญิงที่เปราะบางคนนี้ไว้เฉยๆ
เขาลูบเส้นผมที่แห้งแล้วของเธอเบาๆ ปลายฟ้าในอ้อมกอดของเขาบอบบางเหลือเกิน เหมือนกับแก้วที่พร้อมจะแตกสลาย มันทำให้เขามีความรู้สึกอยากปกป้อง
ปลายฟ้าค่อยๆ ขยับตัว เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่คุ้นเคย เธอลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมอง เห็นใบหน้าคมคายของธีร์อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก
สติของเธอพลันกลับมาครบถ้วน เธอจำได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และใครกำลังกอดเธออยู่! ร่างของปลายฟ้าแข็งเกร็งขึ้นทันที
เธอรีบถอยห่างอย่างรวดเร็ว เหมือนกับลูกแมวตัวน้อยที่ถูกปลุกจากภวังค์ ร่างกายของเธอทำท่าจะตั้งขนขู่ แต่เธอไม่มีพละกำลังพอที่จะผลักเขาได้ เธอทำได้เพียงใช้ข้อศอกดันหน้าอกเขาไว้เบาๆ เพื่อสร้างระยะห่างเท่านั้น
เขาเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงและความรังเกียจตัวเองของเธอ
“ปลายฟ้า... ใจเย็นๆ ผม... ผมแค่กอดคุณเฉยๆ”
คำพูดของธีร์ไม่ได้ช่วยอะไร ปลายฟ้ามองชุดของเธอที่กลายเป็นเสื้อยืดตัวใหญ่ของธีร์ มองเสื้อผ้าเปียกที่กองอยู่ข้างเตียง และมองอ้อมกอดที่เธอเพิ่งหลับไปอย่างไว้ใจ
‘ฉันไม่สะอาด...’ ความรู้สึกตาตระหนกจากสัมผัส และความเจ็บปวดจากการถูกโอมหลอก ไหลทะลักเข้ามาพร้อมกัน ปลายฟ้าไม่ได้ตอบธีร์ แต่เธอเริ่มร้องไห้ เธอร้องไห้หนักกว่าคืนวาน ร้องไห้ด้วยความโง่เขลาของตัวเอง
“ฮือๆ ... ฉันมันโง่! โง่ที่ไปเชื่อผู้ชายอย่างโอม!”
“ไม่เป็นไรแล้ว ปลายฟ้า... ทุกอย่างจบแล้ว...”
“ไม่จบค่ะ! ไม่เคยจบ!” เธอยื่นมือที่สั่นเทาออกมาบีบแขนธีร์แน่น
“แม้แต่แม่... แม้แต่แม่ของฟ้าก็ยังเคยสั่งให้ฟ้า...” เธอพูดติดอ่างด้วยความอับอาย “...ให้ฟ้าไปทำตัวเป็นเมียน้อยของคนรวย! เพื่อแลกเงิน! ฮือๆ ... ฉัน... ฉันมันถูกกำหนดให้เป็นของสกปรกตั้งแต่แรกแล้ว”
ปลายฟ้ายังคงร้องไห้หนักหน่วงจนตัวโยน คำสารภาพเรื่องแม่ที่ผลักดันให้เธอเป็นเมียน้อยหลุดออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ตอกย้ำความรู้สึกต่ำต้อยที่กัดกินใจเธอมาตลอดชีวิต
ธีร์กอดเธอไว้แน่น เขาพยายามปลอบโยนด้วยคำพูดที่นุ่มนวล แต่ก็ตระหนักได้ทันทีว่า คำว่าไม่เป็นไร มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยในสถานการณ์นี้ ปลายฟ้ากำลังจมดิ่งลงไปอีก
เขาดึงปลายฟ้าออกจากอ้อมกอดเล็กน้อย บังคับให้เธอลืมตาที่แดงก่ำและชุ่มน้ำตาขึ้นมาสบตาเขา
ปลายฟ้ายังคงร้องไห้หนักหน่วงจนตัวโยน คำสารภาพเรื่องแม่ที่ผลักดันให้เธอเป็นเมียน้อย และความจริงเรื่องโอม ได้ตอกย้ำความรู้สึกต่ำต้อยที่กัดกินใจเธอมาตลอดชีวิต
ธีร์กอดเธอไว้แน่น เขาตระหนักว่าเขาไม่สามารถปล่อยให้เธอจมดิ่งลงไปได้อีกแล้ว เขาดึงปลายฟ้าออกจากอ้อมกอดเล็กน้อย บังคับให้เธอลืมตาที่แดงก่ำและชุ่มน้ำตาขึ้นมาสบตาเขา
“หยุด” เสียงคำสั่งที่เด็ดขาดดังขึ้นในความเงียบยามเช้า มันรุนแรงจนทำให้ปลายฟ้าที่กำลังสะอื้นอยู่ชะงักไปทันที
“หยุดร้องไห้ มองตาผม!” เขาใช้ชื่อเธอและคำสั่งที่ชัดเจน ปลายฟ้าสั่นสะท้าน เธอถูกสะกดด้วยคำสั่งนั้น เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงและสับสน
เมื่อเห็นว่าปลายฟ้ากลับมามีสติแล้ว ธีร์ก็ผ่อนน้ำเสียงลงทันที
“ผมขอโทษที่ต้องขึ้นเสียง” เขากล่าวเบาๆ
“แต่ตอนนี้คุณต้องฟังผม” ธีร์กุมใบหน้าของเธอไว้ด้วยมือทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยน
“ปลายฟ้า คุณเป็น ‘เหยื่อ’ ของคนชั่ว... ทั้งแฟนของคุณ และแม่ของคุณ”
“คุณถูกหลอก คุณไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ความผิดทั้งหมดอยู่ที่พวกเขา”
เขาปล่อยมือจากใบหน้าของเธอแล้วโอบเธอเข้ามากอดอีกครั้ง
“เรื่องทั้งหมดนี้ มันจบลงแล้ว คุณได้เลิกกับเขาแล้ว และคุณได้หลุดพ้นจากทุกอย่าง ชีวิตเป็นของคุณ”
ปลายฟ้าซบหน้าลงกับอกของเขา เธอรู้สึกว่าคำปลอบโยนของเขามันเจาะทะลุความมืดมิดในใจเธอได้ เป็นครั้งแรกที่มีคนย้ำว่าเธอไม่ใช่คนผิด
“คุณไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว คุณจะปลอดภัยปลายฟ้า”
เมื่อปลายฟ้าหยุดร้องไห้จนเหลือเพียงเสียงสะอื้นเบาๆ ธีร์ก็ผละออกห่างเล็กน้อย เขามองเธอด้วยสายตาที่ต่างไปจากเดิม
“คุณอยากทำอะไรก็ทำ ชีวิตนี้มันเป็นของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งแม่คุณ”
“ตอนนี้มีแค่เรื่องเดียว ตั้งใจทำงานให้ผม และใช้ชีวิตที่เหลือของคุณให้คุ้มค่าที่สุด” ธีร์เช็ดร่องรอยน้ำตาที่เหลืออยู่บนแก้มของเธอด้วยนิ้วหัวแม่มือ
“ผมสัญญาว่า ผมจะไม่ทำร้ายคุณ”
“ลุกขึ้น อาบน้ำ กินข้าว แล้วกลับไปทำงาน” เขาออกคำสั่งสุดท้ายอย่างหนักแน่น
“คุณเป็นผู้ช่วยของผม คุณต้องมีสติและเข้มแข็งสิ”
ปลายฟ้าพยักหน้ารับคำอย่างเงียบๆ แม้ว่าเธอจะยังไม่หายเจ็บปวด แต่เธอรู้แล้วว่า เธอได้พบกับผู้ปกป้องคนใหม่ ผู้ปกป้องที่แข็งแกร่งและเต็มใจที่จะทำลายความมืดมิดในชีวิตเธอ
ปลายฟ้าเดินเข้าไปในห้องน้ำ เธอใช้เวลาอาบน้ำนานกว่าปกติ เพื่อให้ความเย็นของน้ำช่วยชะล้างความเจ็บปวดและความอับอายทั้งหมดออกไป
เมื่อออกมาจากห้องน้ำ เธอเห็นชุดใหม่วางอยู่บนเตียง เป็นชุดเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีครีมตัวหลวมๆ และกางเกงขายาวผ้าเนื้อดี ซึ่งเป็นชุดที่ดูสุภาพแต่สบายๆ ที่ธีร์เตรียมไว้ให้ เธอนึกถึงคำปลอบโยนของธีร์มันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด
ธีร์ไม่เคยแสดงความจริงจังหรืออ่อนโยนแบบนี้ให้ใครเห็น แต่ตอนนี้กลับถูกใช้เพื่อปกป้องเธอ
ขณะที่ปลายฟ้ากำลังจัดทรงผมอยู่หน้ากระจก เธอได้ยินเสียงธีร์กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องทำงาน น้ำเสียงของเขาบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังหงุดหงิดและโต้เถียงกับคู่สนทนาอยู่
“ฉันบอกว่าไปไม่ได้ไง นายก็จัดการไปก่อนสิ”
ปลายฟ้าเดาได้ทันทีว่า ธีร์กำลังเถียงกับลูกพี่ลูกน้อง หรือคนในทีมงานเรื่องที่เขาเบี้ยวนัดไปอย่างกะทันหันเมื่อคืนนี้
“เออ ฉันรู้ว่ามันสำคัญแต่เมื่อคืนมันติดธุระ”
ธีร์เดินไปมาในห้องอย่างหงุดหงิด
“เออเดี๋ยวชดเชยให้ ฉันจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการเลื่อนนัดของนาย”
แล้วน้ำเสียงของธีร์ก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเสียงที่อ่อนลงอย่างแปลกประหลาด เขาหยุดเดิน และหันหน้าเข้าหากระจกบานใหญ่
ปลายฟ้าเดินออกมาจากห้องน้ำ ธีร์ยอมเบี้ยวนัดที่สำคัญมากๆ เพราะเธอ เธอรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องเสียงาน ธีร์ที่เห็นเธอออกมาก็รีบเก็บโทรศัพท์ทันที
“คุณพร้อมแล้วใช่ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงปกติ
“ค่ะคุณธีร์”
“ดี ตารางงานเราเริ่มเก้าโมงครึ่ง แต่คุณคงยังไม่ได้ทานอะไร” ธีร์เดินนำเธอไปที่ประตูห้อง
“เราไปทานอาหารเช้ากันก่อน... แล้วค่อยไปทำงาน”
ธีร์ไม่ได้พาเธอไปร้านหรูหราที่ไหน แต่เขาสั่งแม่บ้านให้นำเมนูเรียบง่ายมาส่งที่เพนเฮ้าส์ ธีร์ไม่ได้พูดถึงเรื่องโอม หรือเรื่องแม่ของเธออีกเลย เขาพูดถึงแต่งาน แต่การพาเธอมาทานอาหารเช้าอย่างใจเย็น
ในขณะที่ปลายฟ้ากำลังช่วยธีร์จัดอาหารใส่จาน ทันใดนั้น เสียงประตูเพนเฮ้าส์ก็ถูกเปิดออกอย่างแรงโดยไม่ทันให้สัญญาณ
เสียงทุ้มนุ่มของผู้ชายมีอายุที่เต็มไปด้วยอำนาจ แต่แฝงด้วยความเอ็นดูดังมาตั้งแต่ยังไม่เห็นตัว
“ไอ้ธี ธีเอ้ย! ตามาหา! ตื่นยังเนี่ย! วันๆ เอาแต่ทำงานทำการไม่สนใจคนแก่อย่างตาเลย!”
ปลายฟ้าตกใจสุดขีด เธอรู้ว่าการปรากฏตัวในสภาพเสื้อตัวใหญ่ของธีร์ในคอนโดของเขาต่อหน้าผู้ใหญ่ จะสร้างปัญหาได้ทันที
ปลายฟ้าไม่ลังเลเลยแม้แต่วินาทีเดียว เธอรีบวิ่งสุดฝีเท้าเข้าไปในห้องน้ำใหญ่แล้วปิดประตูลงกลอนทันที ธีร์ได้แต่ยืนอยู่กลางห้องรับแขก เขากุมขมับอย่างแรง
ให้ตายสิ! วันนี้มันหลายเรื่องเกินไปแล้ว! เขาเพิ่งจะปลอบเธอจนหยุดร้องไห้ได้ แต่ตอนนี้เธอก็วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วราวกับเห็นผี
ธีร์เดินไปหาคุณตาที่กำลังวางกระเป๋าลงบนโซฟาอย่างไม่ยี่หระ
“สวัสดีครับตา นี่มันเช้าอยู่นะครับ ทำไมไม่โทรมาบอกก่อน”
“บอกทำไม! จะให้แกเตรียมหนีหน้าตาหรือไง!” ชายสูงวัยตะโกนตอบหลานชายอย่างไม่จริงจัง คุณตามงคลกวาดสายตาสำรวจห้องรับแขก แล้วสายตาของเขาก็หยุดลงที่ รองเท้าแตะผู้หญิงคู่เล็กๆ ที่วางอยู่ข้างตู้เก็บของ
“อ้าว! นี่แกยังไม่เลิกสันดานนี้อีกเหรอไอ้ธีร์! ผู้หญิงมานอนด้วยอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย!”
“โธ่! ตาครับ! ไม่ใช่แบบที่ตาคิด...” ธีร์พยายามจะแก้ตัว
“ไม่ต้องมาแก้ตัว!วันๆ เอาแต่เจ้าชู้กระล่อนไปวันๆ แล้วเมื่อไหร่แกจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนจริงจังกับเขาบ้าง เอาแต่พาพวกผู้หญิงที่มาเกาะแกกินเข้าห้องอยู่ได้ ตาเห็นแล้วเพลียแทน!”
ปลายฟ้าที่หลบอยู่หลังประตูห้องน้ำ ได้ยินทุกคำพูดของคุณตามงคลอย่างชัดเจน
‘เอาแต่เจ้าชู้กระล่อน...’
ปลายฟ้าที่เพิ่งได้รับการปลอบโยนอย่างจริงจังเมื่อเช้า อดไม่ได้ที่จะนึกขำกับฉายาที่คุณตาตั้งให้เขา
‘คนที่เพิ่งสาบานว่าจะ ปลอบเธอจริงจังเมื่อเช้า... ก็ยังคงเป็นในสายตาของผู้ใหญ่ว่า ‘เจ้าชู้กระล่อน’ อยู่ดี’
เสียงหัวเราะเบาๆ ที่พยายามกลั้นไว้ของปลายฟ้าเล็ดลอดออกมาเล็กน้อย ใช้เวลาอีกเกือบสิบนาที ธีร์จึงสามารถเกลี้ยกล่อมคุณตาให้ยอมกลับไปได้ โดยอ้างเรื่องการประชุมด่วนที่ต้องไปพบผู้บริหารที่สนามบินหลังจากเสียงประตูเพนเฮ้าส์ปิดลงอย่างสนิท ธีร์ก็รีบเดินตรงมาที่ห้องน้ำใหญ่ ธีร์เคาะประตูเบาๆ
“ปลายฟ้า ตาผมไปแล้วครับ”
“ออกมาเถอะครับ” เขาบอก “ผมเข้าใจว่าคุณตกใจ แต่ตอนนี้... เราต้องไปทานอาหารเช้า แล้วไปทำงานกันได้แล้วครับ”
ปลายฟ้าเปิดประตูออกมา เธอยังคงดูซีดเซียวเล็กน้อย แต่แววตาไม่ได้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว ความขบขันที่ได้ยินเสียงบ่นเมื่อครู่ช่วยให้เธอลืมความเศร้าไปได้ชั่วขณะ
“ค่ะ... คุณธีร์” เธอยอมตามเขาออกไป
สองวันถัดมาจากเหตุการณ์ที่เธอรู้ว่าโอมแต่งงานแล้ว เธอก็ไม่ปิดทุกช่องทางของเขาทั้งหมด แม้ว่าแม่จะพยายามโทรมาบอกให้เธอกลับไปคบ เธอก็ไม่ฟัง ทันทีที่เธอขับรถเข้าไปจอดหน้าหอพัก โอมก็ปรากฏตัวขึ้นจากมุมมืดทันที
“ฟ้า ทำไมไม่รับสายพี่เลย!”
“เราจบกันแล้วโอม คุณกลับไปหาภรรยาของคุณเถอะ” ปลายฟ้าเดินเลี่ยงเขาไปที่ประตูหอพัก แต่โอมไม่ยอมแพ้ เขาตามเข้ามาในโถงทางเดินของหอพัก แล้วคว้าแขนเธอไว้
“ไม่ พี่รักฟ้านะ พี่จะหย่ากับเขาแล้ว
ขณะที่โอมกำลังยื้อยุดอยู่กับปลายฟ้า รถคันหรูของธีร์ก็เคลื่อนเข้ามาจอดหน้าหอพักเก่าๆ อย่างโดดเด่น ธีร์ลงจากรถด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ปล่อยเธอซะ” ธีร์ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาและหนักแน่น
“ใครวะ! เรื่องผัวเมียอย่ามายุ่ง!” โอมหันไปมองธีร์อย่างไม่เป็นมิตร โอมพุ่งเข้าใส่ธีร์ทันที
ธีร์เบี่ยงตัวหลบหมัดแรกได้อย่างง่ายดายแต่หมัดที่สองของโอมก็กระทบเข้าที่โหนกแก้มของธีร์อย่างจัง ปลายฟ้าตกใจสุดขีดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอรีบเข้าไปดึงโอมออกห่างจากธีร์อย่างสุดกำลังเมื่อเห็นว่าธีร์บาดเจ็บ
“หยุดเถอะพี่โอม! คุณกลับไปซะ!” โอมก็ยิ่งโมโห
“ไม่ มันสำคัญกับเธอมากเลยเหรอวะ ผู้ชายคนนี้มันเป็นใคร!” โอมชี้ไปที่ธีร์ที่กำลังเอามือกุมแก้ม
“ทีกับมันล่ะยอม ทีกับพี่ล่ะไม่เคยให้ขึ้นห้อง มันคงดีกว่าพี่มากสินะถึงขนาดต้องวิ่งมาหาถึงที่” คำด่าทอที่เสียๆ หายๆ ของโอมบาดลึกเข้าไปในจิตใจของปลายฟ้า
“พี่กลับไปซะ!” เธอพูดเสียงดังและเด็ดขาด
โอมมองปลายฟ้าด้วยความเจ็บปวดและแค้นเคือง ก่อนจะยอมแพ้และเดินจากไปในที่สุดปลายฟ้าพยุงธีร์ขึ้น
“คุณธีร์ รีบขึ้นไปทำแผลบนห้องฟ้าก่อนค่ะ”
เมื่อปลายฟ้าพยุงธีร์เดินผ่านประตูเข้าหอพัก เธอรู้สึกถึงสายตาที่มองตามมาจากด้านนอก โอมยังคงยืนมองพวกเขาอยู่ สายตาของโอมเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่คิดว่าเขาผิด มันเป็นเพราะปลายฟ้าหวงเนื้อหวงตัวเกินไป
ปลายฟ้าพาธีร์เข้ามาในห้องพักเก่าๆ ของเธอ แล้วหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมาทันที ขณะที่เธอใช้สำลีทำความสะอาดรอยแตกที่มุมปากและแก้มของธีร์
“รอยนี้ที่คุณธีร์เคยช่วยทำแผลให้ฟ้าในวันนั้น วันนี้ฟ้าชดเชยให้แล้วนะคะ” เธอกล่าวเบาๆ ธีร์เงียบไป เขาจ้องมองใบหน้าของปลายฟ้าที่อยู่ใกล้แค่คืบ เขารู้ว่าเธอหมายถึงการที่เขาเคยทำแผลให้เธอในสตูดิโอ
ธีร์สังเกตเห็นดวงตาของปลายฟ้าดวงตาของเธอมีน้ำตาเอ่อคลออยู่เต็มที่ แต่เธอไม่ยอมให้มันไหลออกมา เธอพยายามอย่างที่สุดที่จะกลั้นมันไว้
“ร้องไห้ออกมาก็ได้นะครับ อย่าไปเก็บมันไว้” ปลายฟ้าส่ายหน้าเบาๆ
“แต่ถ้าคุณไม่ร้อง คุณเก่งมากครับ” ธีร์มองสำรวจห้องพักเก่าๆ ของเธอ ห้องแคบๆ ที่มีแต่ความไม่ปลอดภัย ประตูห้องที่ล็อกไม่ได้มาตรฐาน
“ผมคงปล่อยให้คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว”
“คุณก็เห็นเองว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย โอมมันจะกลับมาก่อกวนอีกแน่นอน คุณไม่มีที่ที่จะปลอดภัยเลย” ธีร์ยื่นมือออกไปหาเธอ
“แต่ฟ้าไม่มีที่อื่นให้อยู่” เธอบอกกลับ
“ย้ายไปอยู่กับผมที่เพนเฮ้าส์ก่อนก็ได้ครับ ปลายฟ้า ระหว่างที่หาที่พักใหม่” ปลายฟ้าเงยหน้าขึ้นมอง “คะ?”
“ที่พักของคุณ” ธีร์เดินไปยืนที่หน้าต่าง มองออกไปยังวิวเมือง “มันไม่ปลอดภัยเลย ระบบรักษาความปลอดภัยหละหลวม และประตูห้องของคุณไม่สามารถป้องกันใครได้เลย” ธีร์หันกลับมามองปลายฟ้าอย่างจริงจัง
“ผมไม่สามารถปล่อยให้คุณอยู่ตรงไหนได้ครับ” ปลายฟ้าก้มหน้าลง เธอก็แค่ไม่กล้าที่จะอยู่กับเขาในฐานะผู้ถูกปกป้องไปตลอด
“ไม่ดีกว่าค่ะคุณธีร์” เธอพยายามที่จะปฏิเสธคำสั่งของเจ้านายหนุ่ม
ธีร์เข้าใจความลังเลของเธอ
“คุณไม่ต้องกังวลถึงความสัมพันธ์แบบนั้น ผมไม่มีความปรารถนาแบบนั้นกับคุณอีกแล้ว ผมเพียงแค่รู้สึกว่าตัวเองต้องรับผิดชอบในฐานะเจ้านายคุณ”
ธีร์เดินไปนั่งลงที่โซฟาใกล้ๆ
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงยอมทำอะไรถึงขนาดนี้” ธีร์ยอมรับอย่างเปิดเผย “ผมก็แค่รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทิ้งคุณไว้ได้อีก ถ้าทิ้งคุณไว้ผมคงรู้สึกผิดไปอีกนานเลบ” เขายิ้มให้เธอ ใบหน้าของเขามันหล่อมาๆ จริง เธอยอมรับเลย
“ถ้าคุณไม่สบายใจที่จะอยู่กับผม ผมจะย้ายไปอยู่บ้านแล้วคุณอยู่เพนเฮ้าส์ไปได้เลย”
“หรือถ้าไม่สบายใจจริงๆ ผมจะคิดค่าเช่ากับคุณก็ได้ คิดในราคาที่สมเหตุสมผลถือเป็นการจ้างคุณมาดูแลในช่วงที่ผมไม่อยู่”
ปลายฟ้าเงยหน้ามองธีร์ ไม่ว่าจะเป็นการอยู่คนเดียวหรือการจ่ายค่าเช่าทั้งหมดล้วนอยู่ภายใต้เงื่อนไขของธีร์ แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าของโอมที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นในคืนนั้น ความกลัวก็เข้าครอบงำเธอ
“ถ้าอย่างนั้น ฟ้าขอจ่ายค่าเช่าตามที่คุณธีร์เสนอมานะคะ และฟ้าจะย้ายไปอยู่ห้องรับรองให้เป็นที่เป็นทางค่ะ” ธีร์พยักหน้ารับคำ
“ดีมากครับ คุณจะได้มีที่ที่ปลอดภัย” ธีร์เดินไปที่ตู้เก็บของ หยิบกุญแจเพนเฮ้าส์ชุดสำรองออกมาวางไว้บนโต๊ะ ปลายฟ้าหยิบกุญแจขึ้นมาถือไว้
“ขอบคุณค่ะ”
หลายวันผ่านไป กิจวัตรของปลายฟ้ายังคงเหมือนเดิม ตื่นเช้ามาทำอาหารคลีนให้ธีร์ จัดตารางงานที่แสนจะยุ่งเหยิงของเขา และคอยตามเก็บซากเขาที่ชอบไปเมาที่บาร์ การทุ่มเททำงานอย่างหนักทำให้ปลายฟ้าดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดธีร์เห็นปลายฟ้าที่สวมเสื้อเชิ้ตเชยๆ กับกางเกงทำงานตัวหลวม ๆ พร้อมแว่นตาหนา ๆ ก็นึกถึงวันแรกที่เจอกันไม่ได้“ฟ้าครับ!” ธีร์เรียกเสียงดังขณะที่เขากำลังเล่นเกมมือถืออยู่ “วันนี้งานผมว่างทั้งวัน ตารางงานคุณก็ว่างใช่ไหม”“ค่ะ”“ดี งั้นไปดูชุดกัน” ธีร์สั่งอย่างเอาแต่ใจ “การที่ผู้จัดการของผมดูไม่ดี มันกระทบต่อภาพลักษณ์ของผมด้วยนะครับ”ปลายฟ้าไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งของเขาได้ ธีร์พาเธอไปช้อปปิ้งใน ห้างสรรพสินค้าหรูทันที เขาใช้เวลาเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้เธออย่างพิถีพิถันราวกับกำลังเลือกเสื้อผ้าให้ตัวเองเขาบังคับให้เธอเปลี่ยนจากแว่นตาหนาๆ เป็น คอนแทคเลนส์ ทำให้ดวงตาคู่สวยแต่เศร้าของเธอปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ตามด้วยการพาไปตัดผมและแต่งหน้าใหม่“ใส่ชุดนี้” ธีร์ยื่น เดรสเข้ารูปสีน้ำเงินเข้มที่โชว์เรียวขา ให้เธอ “ผมเสียดายความสวยของคุณ”กว่าจะได้ชุดที่ถูกใจและธีร์จะอนุมัติก็เกือบเย็นปล
วันรุ่งขึ้น ธีร์สั่งให้คนจัดการย้ายของใช้ที่จำเป็นของปลายฟ้ามาที่เพนเฮ้าส์ของเขาทันที ด้วยข้ออ้างว่าที่พักเธอมันไม่ปลอดภัยเพนเฮ้าส์นี้ของธีร์ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองเป็นห้องเพนเฮ้าส์ขนาดใหญ่บนชั้นสูง มองเห็นวิวเมืองยามค่ำคืนได้อย่างตระการตา ลักษณะของห้องเป็นสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ที่เน้นความโปร่งโล่ง ผนังส่วนใหญ่เป็นกระจกใสจากพื้นจรดเพดาน เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นหนังสีเข้มและโลหะ ซึ่งสะท้อนรสนิยมที่ดูดีและเรียบง่ายแต่แฝงความหนักแน่นของเขาภายในห้องมีพื้นที่จัดสรรไว้อย่างเป็นสัดส่วน มีห้องนอนแยกกันสองห้องโดยห้องหนึ่งเป็นห้องนอนใหญ่ของธีร์ และอีกห้องเป็นห้องนอนที่จัดเตรียมไว้สำหรับปลายฟ้า ห้องทำงานขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย พื้นที่นั่งเล่นขนาดกว้าง ที่ปูด้วยพรมสีเทาเข้มขนาดใหญ่ปลายฟ้าจัดข้าวของเพียงเล็กที่เธอเอามา น้อยเข้ามาในห้องรับรองของเพนเฮ้าส์หรูของธีร์เรียบร้อยแล้วเธอออกมาจากห้องและกำลังเดินผ่านห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างหรูหรา จู่ๆ สายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่นอนแผ่หลาอยู่บนพรมขนแกะนั่นคือฟีนิกซ์แมวพันธุ์เบงกอลตัวอ้วนกลม ที่ม
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนใหญ่ ธีร์ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเชื่องช้า เขายังคงอยู่ในท่าเดิม โอบกอดปลายฟ้าไว้แนบชิด ร่างกายของเธออุ่นขึ้นมากแล้ว แต่เธอยังคงซุกตัวอยู่กับอกของเขาด้วยความไว้ใจอย่างเต็มที่โดยไม่รู้ตัวธีร์รู้สึกว่านี่เป็นเช้าที่สงบที่สุดในรอบหลายปี เขาไม่ปรารถนาที่จะลุกขึ้น ไม่ปรารถนาที่จะกลับไปสู่โลกที่กร้านโลกภายนอก เขาเพียงแค่อยากกอดผู้หญิงที่เปราะบางคนนี้ไว้เฉยๆเขาลูบเส้นผมที่แห้งแล้วของเธอเบาๆ ปลายฟ้าในอ้อมกอดของเขาบอบบางเหลือเกิน เหมือนกับแก้วที่พร้อมจะแตกสลาย มันทำให้เขามีความรู้สึกอยากปกป้องปลายฟ้าค่อยๆ ขยับตัว เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่คุ้นเคย เธอลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมอง เห็นใบหน้าคมคายของธีร์อยู่ใกล้แค่ปลายจมูกสติของเธอพลันกลับมาครบถ้วน เธอจำได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และใครกำลังกอดเธออยู่! ร่างของปลายฟ้าแข็งเกร็งขึ้นทันทีเธอรีบถอยห่างอย่างรวดเร็ว เหมือนกับลูกแมวตัวน้อยที่ถูกปลุกจากภวังค์ ร่างกายของเธอทำท่าจะตั้งขนขู่ แต่เธอไม่มีพละกำลังพอที่จะผลักเขาได้ เธอทำได้เพียงใช้ข้อศอกดันหน้าอกเขาไว้เบาๆ เพื่อสร้างระยะห่างเท่านั้นเขาเห็นแววตาที่เต็มไปด
หลายวันผ่านไปแสงบ่ายอ่อนๆ สาดเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ของคอนโด ธีร์ออกไปถ่ายแบบนิตยสารตั้งแต่เช้า และน่าจะกลับมาในช่วงเย็น ปล่อยให้ปลายฟ้าอยู่คนเดียวในห้องทำงานที่เงียบสงบปลายฟ้ากำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ทำงานที่น่าเบื่อที่สุดอย่างการ จัดการเอกสารค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งหลายรายการเป็นของใช้ส่วนตัวของธีร์ที่ฟุ่มเฟือยจนน่าตกใจ เธอสวมเสื้อเชิ้ตเรียบๆ และทำงานด้วยสมาธิเต็มที่โทรศัพท์มือถือของเธอที่ตั้งเป็นระบบสั่นอยู่บนโต๊ะทำงาน ดังขึ้นเบาๆ ชื่อ ‘โอม’ ปรากฏขึ้นบนหน้าจออีกครั้งปลายฟ้าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ความรู้สึกผิดที่ไม่ได้คุยกับแฟนหนุ่มอย่างจริงจังมาหลายวัน ทำให้เธอตัดสินใจรับสาย เธอหยิบโทรศัพท์แล้วลุกเดินออกไปยังระเบียงห้องทำงานที่ติดกับวิวเมือง เพื่อสร้างพื้นที่ส่วนตัวเล็กๆ“ฮัลโหลค่ะพี่โอม” เธอพูดเสียงเบา“ทำไมเพิ่งรับสาย ฟ้า พี่คิดถึง” “ฟ้าทำงานอยู่ค่ะ เลยรับช้า พี่โอมว่างหรอคะ” ปลายฟ้าได้ยินเสียงกรุกกรักมาจากปลายสายแทนเสียงคำพูด“ใช่ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ออกเวร ฟ้าว่างไหม ไปกินข้าวกัน”“เอิ่ม แปปนะคะพี่โอม ฟ้าดูตารางแปปนึง” ปลายฟ้าเช็คตารางงารข
ในช่วงที่ปลายฟ้าเพิ่งเริ่มทำงานเป็นผู้ช่วยของธีร์ใหม่ๆ และยังมีความเกร็งในความสัมพันธ์กับเขาปลายฟ้าได้รับมอบหมายให้ติดตามธีร์ไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ระดับประเทศในฐานะนายแบบหลักของคอลเลกชัน งานนี้เต็มไปด้วยแสงสี เสียงเพลง และผู้คนในวงการที่เต็มไปด้วยสีสันปลายฟ้ายืนอยู่ด้านข้างเวที ดูแลคิวและเสื้อผ้าให้ธีร์อย่างเคร่งเครัด เธอพยายามรักษาระยะห่างจากเขาอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือทำให้ความกลัวผู้ชายของเธอปะทุขึ้นมาธีร์เดินออกจากห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมขึ้นแคทวอล์ก เขาอยู่ในชุดสูทสีเข้มที่ขับเน้นรูปร่างให้ดูสง่างามและอันตราย ในขณะที่กำลังเดินผ่านปลายฟ้า ธีร์ก็หยุดเล็กน้อย“มือถือของผมอยู่ไหนครับปลายฟ้า” ธีร์ถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นทางการ แต่ดวงตาของเขากำลังมองสำรวจใบหน้าของเธอ“อยู่... อยู่ในกระเป๋าสำรองค่ะคุณธีร์” ปลายฟ้าตอบอย่างตะกุกตะกัก พยายามหลบสายตาธีร์รู้ดีว่าเธอพยายามหลีกเลี่ยงเขา และนั่นทำให้เขารู้สึกแปลกใจระคนไม่พอใจ เพราะปกติผู้หญิงทุกคนต่างพยายามเข้าหาเขา ธีร์ยื่นมือออกไปแล้ว แกล้งแตะที่ไหล่ของปลายฟ้าเบาๆ ก่อนจะชักมือกลับอย่างรวดเร็วปลายฟ้าสะดุ้งตัวเล็กน้อยทันที แม้จะเป
ปลายฟ้าพยายามใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอจมอยู่กับกองงานเบื้องหลังที่หนักหน่วง และหลีกเลี่ยงการดื่มอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองควบคุมไม่ได้อีกวันนี้กองถ่ายโฆษณาของแบรนด์นาฬิกาหรูดูวุ่นวายกว่าปกติและพระเอกของงานคือ ธีร์ วรโชติสกุลธีร์ไม่ได้จำได้แม่นยำว่าผู้หญิงในคืนนั้นคือใคร ใบหน้าของเธอภายใต้แสงไฟสลัวและฤทธิ์แอลกอฮอล์นั้นเลือนราง แต่เขายังคงจำความหงุดหงิดที่ต้องตื่นมาพบว่าเธอหนีไปเขามองไปยังปลายฟ้าที่กำลังจัดอุปกรณ์อยู่มุมหนึ่งของฉาก เขาจำเสื้อผ้าและท่าทางที่ดูคุ้นตาได้เพียงเลือนรางเท่านั้น เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่สงสัยและพยายามประเมินอยู่เงียบ ๆผู้หญิงคนนี้... มันคุ้นตาอย่างน่าประหลาด ธีร์คิด“ฟ้า มาช่วยฉันยกกล่องนี้หน่อยสิ” เสียงเรียกจากเพชรสไตลิสต์สาวดังขึ้นอย่างไม่เป็นมิตรนักขณะที่ปลายฟ้ากำลังพยายามยกกล่องอุปกรณ์ขนาดใหญ่ออกมา เพชรก็แกล้งสะดุดขาตัวเองเบา ๆ ทำให้ร่างของเธอชนเข้ากับปลายฟ้าอย่างจังโครม!ปลายฟ้าเซถลาพร้อมกับกล่องอุปกรณ์ร่วงลงพื้น ข้อศอกและหัวเข่าของเธอครูดไปกับพื้นคอนกรีตอย่างแรง“โอ๊ย! เธอเดินยังไงของเธอเนี่ยยัยฟ้า! ดูสิ อุปกรณ์ฉันเกือบพัง!” เพช







