LOGINคิรินเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายอารมณ์ ทิ้งให้เกลยืนอยู่กลางห้องพร้อมกับความสับสน ความโกรธ และความอับอายที่ปนเปกันอยู่ เกลหยิบเสื้อผ้ามาสวมอย่างรีบร้อน โดยพยายามไม่มองไปที่ประตูห้องน้ำ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งคิรินและเกลก็รีบออกจากคอนโดมาขึ้นรถออดี้สีดำคันหรู เพื่อไปมหาวิทยาลัย
เกลนั่งเงียบ ๆ ที่เบาะข้างคนขับ เธอพยายามจดจ่ออยู่กับวิวข้างทางเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับคิริน แต่ความเงียบสงบนั้นก็ถูกทำลายลงทันที
เสียงไลน์กลุ่มแรดเรียกพี่ กระทิงเรียกน้อง กรีดร้องไม่หยุด
เกลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว กลุ่มแชทของเพื่อน ๆ เต็มไปด้วยข้อความและอิโมจิกรีดร้องนับไม่ถ้วน
MISSPichy: กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! @Glae แกทำอะไร!!! **แม่ดาราออกมาแถลงสื่อค่ะ
คนออะไรเป็นข้าว: [ภาพที่คิรินลงถูกแคปลงกลุ่มไลน์] เกล! นี่มันรูปอะไร! แกกับคิรินคือ คือผีผลักกันจริง ๆ เหรอคะ!!!
Maysa: อุ๊ย!!!
MISSPichy: บอกมาว่านี้แค่ซ้อมเดินแบบด้วยกัน ทำไมถึงนอนซบกันเบอร์นี้! OMG! แกหลงเสน่ห์เจ้าชายแห่งมอ ไปแล้วใช่ไหม!
เกลหน้าแดงก่ำ เธอหันไปมองคิรินที่กำลังขับรถอย่างสบายอารมณ์
“บ้าจริง คินลงรูปบ้าอะไรเนี่ย ผู้ชายเกลหายหมดใครจะรับผิดชอบ” เกลโวยวายพร้อมกับเขวี้ยงโทรศัพท์กลับไปที่เบาะหลัง
“ก็ถ้าไม่มีก็เดี๋ยวรับผิดชอบเอง ให้อาหารตรงเวลาด้วยนะ” คิรินหัวเราะเบา ๆ
“คนนะไม่ใช่หมู ไอบ้า” เกลด่ากลับเสียงแหลม ใบหน้าน่ารักที่บรรจงแต่งหน้ามาฉายความหงุดหงิด คิรินจอดรถติดไฟแดง เขาเอียงตัวไปหยิบโทรศัพท์ของเกลกลับมาวางไว้บนตักเขา
“มันก็แค่รูป พวกนั้นไม่โง่หรอก” คิรินมองเกลด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย พอเห็นท่าทางฟึดฟัดของคนข้างๆ ริมฝีปากบางยกยิ้มที่ถ้าคนอื่นเห็นก็คงหลงกันกับภาพเทพบุตรของมัน เกลถอนหายใจยาว แต่กับเธ เกลมองแล้วรู้สึกขัดใจสุดๆเธอรู้ดีว่าคิรินเป็นผู้ชนะ ทั้งในเรื่องกวนตีนและการปะทะคารม
เมื่อมาถึงลานจอดรถของคณะวิจิตรศิลป์ คิรินก็จอดรถออดี้สีดำคันหรูลงข้าง ๆ รถเก๋งสีขาวของปลายฟ้าที่จอดอยู่ก่อนแล้ว
“ฉันโดดคาบเช้านะ” คิรินบอก “วันจะอยู่กับเธอ”
เกลถอนหายใจอย่างหงุดหงิด “เกลจะฟ้องคุณน้า”
ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเดินเข้าตึก เสียงตะโกนกวนประสาทก็ดังมาจากทางด้านหน้า
“ไอคิริน มึงหายหัวไปไหนมาวะ อยู่กับสาวแล้วเงียบเลยนะ” นั่นคือ เดย์ ที่มาพร้อมกับ วิน และ ไนท์
กลุ่มเพื่อนทั้งสองกลุ่มกำลังเผชิญหน้ากันครั้งแรก เมษา และ พิชชี่ ที่เพิ่งมาถึงก็รีบเดินเข้ามารวมกลุ่มกับ ข้าวฟ่าง ที่รออยู่
“เกล!” เมษาวิ่งเข้ามากอดเพื่อนด้วยความเป็นห่วง “แกไม่เป็นไรแน่นะ! คิรินบอกว่าแกปวดหัว!”
“ปวดหัวจนต้องซบกันเลยเหรอคะ แม่ดารา” พิชชี่ แซวอย่างรวดเร็ว โดยทำตามสัญญาว่าจะเรียกเกลว่า 'แม่ดารา' เมื่อพูดถึงไลฟ์สด
ทุกคนในกลุ่มประสานเสียงกรี๊ดเบาๆ โดยเฉพาะเดย์ ที่กำลังยิ้มกวนประสาท
“ฉันว่ามันไม่ใช่ปวดหัวแล้วเมษา” เดย์เดินเข้ามาพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์
“เพื่อนกูเนี่ย มันคงโดน ผีผลัก เข้าไปแล้วแหละ จะเอาแบบเพื่อนกันมันส์ดีหรอมึง”
คิรินไม่ได้ปฏิเสธ แต่ยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น เขาปล่อยให้เพื่อน ๆ สร้างสตอรี่ให้เขากับเกล เพื่อเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดจากสตอล์กเกอร์
เกลหน้าแดงก่ำ เธอแทบจะควบคุมตัวเองให้ไม่ปาแฟ้มงานใส่หน้าคิรินไม่ได้
“หุบปากไปเลยนะเดย์!” เกลตะโกนเสียงแหลม “นายมันโรคจิต! นายมันกะล่อน!”
“อ้าว! รุมกูหรอ!” เดย์โวยวาย
“มึงไปดูในแชทแล้วนี่หว่า คนอื่นแค่พูดเรื่องจริง” ไนท์ ที่ยืนนิ่งๆ มานานแทรกขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเย็น ๆ วินยืนมองอยู่เงียบ ๆ เขายกมือถือขึ้นมาแอบถ่ายภาพ ความปั่นป่วนของเพื่อน ๆ ไว้ในกลุ่มแชทลับของแก๊งเขาเอง
“พอแล้วทุกคน หยุดเล่นได้แล้ว เกลต้องไปพรีเซนต์งานสำคัญนะ คิริน! นายมากับเกลใช่ไหม? งั้นมาช่วยฉันจัดโต๊ะสำหรับพรีเซนต์งานหน่อย” เมษารีบเข้ามากอดเกลไว้
คิรินสบตาเกลอย่างท้าทาย ก่อนจะยักไหล่แล้วเดินตามเมษาไปอย่างง่ายดายในห้องประชุมของคณะวิจิตรศิลป์ คิรินกำลังนั่งพิงกำแพงเงียบ ๆ หลังจากช่วยเมษาจัดเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว เขาสวมเสื้อยืดสีดำคอวีและแจ็คเก็ตหนังทับ เป็นลุคที่ดูโดดเด่นและไม่เข้ากับบรรยากาศการพรีเซนต์งานวิชาการเลยแม้แต่น้อย
เกล ยืนอยู่หน้าคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการ เธอหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเริ่มต้นนำเสนอแนวคิดการออกแบบชุดที่จะส่งเข้าประกวด
“คอนเซปต์ของเราคือการออกนอกกรอบวัฒนธรรมค่ะ…” เกลกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นคง
เธอใช้เวลาสิบห้านาทีอธิบายถึงการนำ ลายผ้าโบราณของภาคเหนือ มาตีความใหม่ ผสมผสานกับดีไซน์เสื้อผ้าแนว Streetwear ที่เน้นความสบายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Sustainable Fashion) เมษา พิชชี่ และข้าวฟ่างยืนให้กำลังใจอยู่ด้านข้าง
คิรินมองเกลตั้งแต่ต้นจนจบ เขาเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลในงานศิลปะ แตกต่างจากยัยอ้วนขี้วีนที่เขาเจอทุกเช้า มันทำให้เขายอมรับในใจว่า เธอคือศิลปินตัวจริง
“ดีมากครับ” อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิสรุปด้วยรอยยิ้ม “แนวคิดมีความชัดเจนและน่าสนใจมาก โดยเฉพาะการเชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับเรื่องความยั่งยืนสมัยใหม่ อาจารย์อนุมัติให้เดินหน้าโครงการได้เลยครับ” เสียงกรี๊ดเบา ๆ ถูกกลั้นไว้ด้วยความดีใจ
ทันทีที่พรีเซนต์เสร็จและโค้งขอบคุณคณะกรรมการ พวกแก๊งสาว ๆ ก็โผเข้ากอดกันด้วยความโล่งอก
“โอ๊ย! น้ำตาจะไหล!” พิชชี่โวยวาย “ฉันคิดว่าอาจารย์จะตีกลับให้แก้แล้วนะเนี่ย!”
“ยัยเกลสุดยอด” ข้าวฟ่างหัวเราะร่า
เมษารีบหันไปเก็บแฟ้มเอกสาร “ฉลอง ต้องฉลองสถานเดียว” เกลเดินตรงไปยังคิรินที่กำลังเดินตามมาติด ๆ
“จะไปที่ไหนกัน” คิรินเริ่มพูด
เกลชิงตัดบทอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ขอบคุณที่ช่วยนะคิริน แต่คืนนี้เป็น ‘Girl Gang Only’ ค่ะ” เธอเน้นคำว่า Girl Gang Only พร้อมกับมองเขาด้วยสายตาที่ชัดเจนว่า ‘คินไม่มีสิทธิ์มาตามเกลนะ’ คิรินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขายิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วพยักหน้า
“ได้ ก็แค่คืนนี้” เขาตอบสั้น ๆ และเดินไปส่งกลุ่มสาว ๆ ที่รถ
“คืนนี้เจอกันที่ ‘มินิมา’ ร้านประจำนะ! เกลเป็นเจ้ามือ!” เมษากระโดดขึ้นรถพร้อมกับตะโกนบอกเพื่อน ๆ
“เริ่ด! แยกย้าย!” พิชชี่กล่าว
เกลขึ้นรถไปพร้อมกับความรู้สึกโล่งอก เธอไม่ได้ต้องการให้คิรินติดสอยห้อยตามไปด้วย ในค่ำคืนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวกับเพื่อน ๆ
ทุกคนแยกย้ายกันไปแต่งตัวหลังจบงานพรีเซนต์ วันนี้คิรินไม่ได้ตามเกลกลับมาด้วย เขาบอกว่าเขาต้องไปช่วยงานรุ่นพี่ก่อนที่คณะ ซึ่งทำให้เกลรู้สึกสบายใจอย่างประหลาดที่ได้พื้นที่ส่วนตัวกลับคืนมา
เกลกลับมาถึงห้องก็จัดการ แต่งหน้าทำผมแบบจัดเต็มสุด ๆ ใบหน้าคมสวยถูกเฉดดิ้งอย่างบรรจงจนได้รูป ดวงตาถูกวาดเส้นอายไลเนอร์อย่างเฉียบคม
ชุดที่ใส่คือ ชุดจากคอลเลกชันใหม่ของแบรนด์ Siren Strings ของเธอเอง มันเป็นชุดที่ กึ่งบิกินี่กับชุดไปเที่ยว สไตล์เวียดนามที่ไอดอลเกาหลีชอบใส่ ตัวเสื้อเป็นสายเดี่ยวผ้าซาตินบางเบาตัดเย็บแบบบอดี้สูท ที่เน้นความโค้งเว้าของหน้าอกและลำตัวจะมีลูกเล็กเป็นผ้าลูกไม้ยาวๆดูรุงรัง แต่มันกลับสร้างความน่ารักให้กับชุดนี้ ส่วนท่อนล่างเป็น กางเกงยีนส์เอวต่ำตัวใหญ่ ดูเท่และเซ็กซี่อย่างลงตัว ผมเธอทำเป็นมวยต่ำ ๆ ปักปิ่นเล็ก ๆ น่ารัก ภาพรวมคือ ปังสุด ๆ เกลหมุนตัวดูตัวเองในกระจกบานใหญ่ เธอภูมิใจกับชุดวันนี้มาก เพราะมันคือการประกาศอิสรภาพจากความกดดันตลอดสัปดาห์
ติ๊ง! ข้อความจากรูมเมทจำเป็นเด้งขึ้นมาในแชท:
Kirin: จะไปร้านไหน? อย่ากลับดึก ให้ไปรับมั้ย
เกลเมินข้อความนั้น เธอไม่มีอารมณ์จะตอบโต้กับไอ้เด็กเลี้ยงแกะตอนนี้ เธอกำลังโฟกัสที่ความมั่นใจของตัวเอง ตอนนี้ก็เกือบสามทุ่มแล้ว เธอกดโทรศัพท์ตามเมษาให้มารับ
“เมษา! รีบมาเลยนะคะ! เกลเสร็จแล้ว!” พิชชี่กับข้าวฟ่าง ไปถึงร้านก่อนตั้งแต่ สองทุ่มครึ่ง เพื่อจัดการจองโต๊ะ ไม่ต้องใช้หัวก็รู้ว่า ไปถึงร้านตอนนี้ นังพิชชี่มันบ่นเป็นหมีกินผู้ชาย แน่ ๆ ที่เธอปล่อยให้เพื่อนไปเอาโต๊ะก่อนเพราะความช้าของตัวเอง แต่ช่างเถอะ! คืนนี้คือคืนแห่งการฉลอง และความสวยของเธอก็พร้อมจะสะกดทุกคนในร้านแล้ว
ภายในห้องทำงานโปรเจกต์ของคณะบริหารธุรกิจ คิรินกำลังนั่งปั่นงานในสภาพที่เสื้อเชิ้ตถูกปลดกระดุมเม็ดบนออกอย่างลวก ๆ แสงจากหน้าจอ MacBook Pro ส่องกระทบใบหน้าตึงเครียดของเขา
พี่รหัสของเขากำลังยืนเท้าสะเอวอยู่ด้านหลัง คิรินโดนโขกสับให้ทำงานเหมือนกับทาสมาตั้งแต่บ่าย
เขามองนาฬิกาที่มุมจอ 21:15 น.
คนที่ไม่ยอมตอบข้อความเข้าคงไปอยู่ที่ร้านเหล้าที่ไหนสักที่แล้ว ก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล เขาพยายามสะกดอารมณ์แล้วก้มหน้าพิมพ์ข้อมูลงานลงไปบนหน้าจอต่อ
ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนจากกลุ่มไลน์ดังขึ้น คิรินรีบคว้าโทรศัพท์ไปดูอย่างรวดเร็ว
Day: มึงงง รู้มั้ยกูเจอใคร!
Kirin: ปั่นงานอยู่. แล้วไงต่อ.
Day: กูมาหาน้องเปิ้ล คณะอักษร ดาวปีสอง อะมึงกูว่ากูคงได้เบอร์น้องเขาละวันนี้ 555555 เดย์ยังคงโม้ต่อแบบไม่สนใจคำถามของเขาเลยแม้แต่น้อย
Day: [รูปถ่ายมุมสูงภายในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง]
คิรินกดเปิดรูปที่เดย์ส่งมา มันเป็นรูปที่เดย์ถ่ายเซลฟี่คู่กับผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง แต่สายตาของคิรินไม่ได้จดจ่อที่เพื่อนของเขา ร่างบางที่คุ้นเคย ติดมาในรูปด้วย เธอสวมเกาะอกสีดำ กำลังยืนหันหลังคุยกับพิชชี่อย่างออกรส อยู่ห่างออกไปทางด้านหลังของเดย์
“เชี่ย!” คิรินสบถออกมาเบา ๆ
เขากดโทรไปหาเดย์ทันทีโดยไม่ต้องคิด
(ตู๊ด... ตู๊ด...)
“ว่าไงมึง! อิจฉาความหล่อกูอะดิ๊!”
“มึงอยู่ไหน! บอกที่ตั้งมาเดี๋ยวนี้เดย์!” เขาถามมันด้วยความรู้สึกร้อนในอก ยิ่งคิดไปถึงร่างบางในชุดเซ็กซี่แล้วมันยิ่งทำให้เขาโมโห บวกกับไอเพื่อนตัวดีที่กวนตีนไม่เลือกเวลาอีก
“โอ๊ย! อะไรของมึงวะ! กูบอกแล้วไงว่ากูอยู่กับน้องเปิ้ล!”
“กูเห็นเกลในรูปมึง! บอกที่มา!”
“อ๋อ ยัยอ้วนของมึงมาด้วยเหรอ โทษทีว่ะ กูมองไม่เห็น” เดย์หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง “มึง มึงแล้วรู้มั้ยกูเจอใครอีก!”
“เดย์! อย่ากวนตีน!”
“มีนาไง เด็กเก่ามึง อะ! เธอมากับกลุ่มเพื่อนของเธอ แล้วก็ดูเหมือนจะเดินไปทักน้องเปิ้ลอยู่แถว ๆ โต๊ะโน้นแหละ”
นี่มันน่าจับมาตีแทนคุณป้าอรุณีจริง ๆ เลย สั้นจนเห็นตูดละนั้น! ถ้าไม่ติดว่าผ้ามันพลิ้ว ๆ แล้วมีกางเกงซับในนะ...คิรินวางโทรศัพท์ลงอย่างช้า ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาเกลที่กำลังหมุนตัวอยู่หน้ากระจก“ชุดนี้สวยนะ” คิรินพูดเสียงทุ้ม เขายืนประชิดด้านหลังเกลจนเธอสัมผัสได้ถึงความร้อนจากร่างกายของเขา“แน่นอน” เกลตอบอย่างภูมิใจ คิรินโน้มตัวลงมาใกล้จนปากของเขาอยู่ข้างใบหูของเธอ แล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนเป็นจริงจังอย่างรวดเร็ว“แต่เกลมันโป๊ไป”เกลหันขวับมามองเขาอย่างกวนๆ “โป๊อะไรละ ยาวเป็นคืบ”คิรินไม่ได้ตอบเป็นคำพูด เขาละเบื่อไอนิสัยดื้อตาใสของยัยอ้วนจริงๆเขาใช้มือข้างหนึ่งจับเข้าที่เอวบางของเกล ก่อนจะเลื่อนมือลงไปสัมผัสที่ขอบกระโปรงสั้นกุดของเธอ การสัมผัสที่ดูรุกล้ำและคุกคามทำให้เกลตัวแข็งทื่อทันที“มันถอดง่ายไงล่ะ” คิรินพูดเสียงต่ำ ดวงตาของเขามองลึกเข้าไปในดวงตาของเกลอย่างดุดัน “ผู้ชายมันไม่ได้คิดดีแบบที่เธอคิดหรอกนะเกล”เขาหยุดมือไว้ที่ขอบกระโปรงนั้น ก่อนจะเลื่อนมันขึ้นไปสัมผัสที่ต้นขาของเธอเบา ๆ เป็นการแสดงให้เห็นถึงขีดจำกัดของชุดที่ง่ายต่อการเข้าถึง“ขนาดฉันที่อยู่กับเกลแบบ
คิรินปล่อยให้เดย์จัดการเรื่องข้างนอกร้าน ก่อนที่เขาจะพุ่งกลับเข้ามาในร้าน ‘มินิมา’ อีกครั้ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาลและร่องรอยของการต่อสู้เล็กน้อยเขาตรงไปที่โต๊ะของเกลทันที เกลที่กำลังเต้นอยู่กับพิชชี่ ด้วยท่าทางยั่วยวน ก็ต้องชะงักเมื่อ โดนกระชากแขนอย่างแรงเสียงหวานร้องครางออกมานิดหน่อย ด้วยความเจ็บที่ข้อมือ เธอถูกแรงกระชากจนตัวของเธอ ปลิวไปชนกับร่างสูง แผ่นอกของเธอกระแทกเข้ากับกล้ามเนื้อแข็ง ๆ ของคิรินอย่างจัง“เป็นบ้าอะไรเนี่ย คิริน!” เกลบ่นออกมาอย่างหัวเสีย เธอพยายามจะดึงมือกลับคิรินไม่รอช้า เขาหันไปบอกลาเพื่อน ๆ ของเกลอย่างรีบร้อย โดยใช้ท่าทางที่สุภาพแต่เด็ดขาด“ขอโทษนะเมษา ข้าวฟ่าง ฉันขอพาเกลกลับก่อนนะ”ก่อนที่เมษาจะทันได้ตอบ คิรินก็ ดึงร่างบางให้เดินตามเขาไป เกลอารมณ์เสียมากแต่เพราะตัวเธอเล็กกว่ามากเลยสู้แรงไม่ไหว ต้องจำยอมเดินตามเขาออกมาจากร้านเหล้าที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายคิรินไม่พูดอะไรกับเธอ ตลอดทางที่ขับรถ รถออดี้คันหรูก็พุ่งไปสู่จุดหมายของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว“จะพาเกลไปไหน เกลถามเสียงดังด้วยความหวาดระแวงและหงุดหงิด แต่คิรินก็ยังคงนิ่งเงียบรถมาจอดเทียบหน้าอาคา
มีนา? คิรินปิดเปลือกตาลงอย่างหงุดหงิด มีนา แฟนเก่าที่เพิ่งเลิกกันไปเมื่อหลายเดือนก่อน กำลังอยู่ในร้านเดียวกับเกล!“มึงอยู่ที่ ‘มินิมา’ ใช่ไหม!” คิรินถามย้ำจนสุดท้ายก็ได้ตำแหน่งที่ชัดเจน“เออ! แต่กูไม่รู้แล้วนะว่ายัยอ้วนไปอยู่ไหนแล้ว!” คิรินตัดสายทิ้งทันที เขาลุกพรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคว้าแจ็คเก็ตและกุญแจรถ“พี่สอง! ผมไปก่อนนะ งานเสร็จแล้ว!”ก่อนที่พี่รหัสจะอ้าปากโวยวาย คิรินก็รีบพุ่งออกจากห้องไปทันที เขาควบรถออดี้ สีดำ ออกจากตึกคณะอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เดย์บอกทันทีร้าน ‘มินิมา’ เต็มไปด้วยเสียงเพลงอิเล็กทรอนิกส์ที่เร้าใจและแสงไฟนีออนสลัว ๆ โต๊ะของแก๊ง แรดเรียกพี่กระทิงเรียกน้อง โดดเด่นอยู่กลางร้านเมษา ที่ปกติจะดูเป็นสาวเข้มงวดและเคร่งเครียดกับการเป็นประธานรุ่น วันนี้กลายเป็น สาวเซ็กซี่ เต็มตัว ร่างบางสูงโปร่งของเธอสวมชุดราตรีสั้นสีแดงสดผ่าข้างเล็กน้อย เรียกสายตาของคนรอบข้างได้ไม่ยากเลยส่วน ข้าวฟ่าง ที่ปกติจะเรียบร้อยและแต่งตัวติสต์ ๆ วันนี้ผมที่ชอบม้วนเป็นมวยและต้องมีดินสอปักทุกครั้ง ได้ ปล่อยปลายสยายลงมาเกือบถึงบั้นเอว ร่างเล็กใส่สายเดี่ยวสีขาว กระโปรงขาวถึงข
คิรินเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายอารมณ์ ทิ้งให้เกลยืนอยู่กลางห้องพร้อมกับความสับสน ความโกรธ และความอับอายที่ปนเปกันอยู่ เกลหยิบเสื้อผ้ามาสวมอย่างรีบร้อน โดยพยายามไม่มองไปที่ประตูห้องน้ำครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งคิรินและเกลก็รีบออกจากคอนโดมาขึ้นรถออดี้สีดำคันหรู เพื่อไปมหาวิทยาลัยเกลนั่งเงียบ ๆ ที่เบาะข้างคนขับ เธอพยายามจดจ่ออยู่กับวิวข้างทางเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับคิริน แต่ความเงียบสงบนั้นก็ถูกทำลายลงทันทีเสียงไลน์กลุ่มแรดเรียกพี่ กระทิงเรียกน้อง กรีดร้องไม่หยุดเกลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว กลุ่มแชทของเพื่อน ๆ เต็มไปด้วยข้อความและอิโมจิกรีดร้องนับไม่ถ้วนMISSPichy: กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! @Glae แกทำอะไร!!! **แม่ดาราออกมาแถลงสื่อค่ะคนออะไรเป็นข้าว: [ภาพที่คิรินลงถูกแคปลงกลุ่มไลน์] เกล! นี่มันรูปอะไร! แกกับคิรินคือ คือผีผลักกันจริง ๆ เหรอคะ!!!Maysa: อุ๊ย!!!MISSPichy: บอกมาว่านี้แค่ซ้อมเดินแบบด้วยกัน ทำไมถึงนอนซบกันเบอร์นี้! OMG! แกหลงเสน่ห์เจ้าชายแห่งมอ ไปแล้วใช่ไหม!เกลหน้าแดงก่ำ เธอหันไปมองคิรินที่กำลังขับรถอย่างสบายอารมณ์“บ้าจริง คินลงรูปบ้าอะไรเนี่ย ผู้ชา
หลังจากการไลฟ์สดสั้น ๆ สิ้นสุดลง เกลก็ถอดเครื่องสำอางออกอย่างรวดเร็ว เธออาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนผ้าไหมซาตินสีดำที่ให้สัมผัสเย็นสบาย แล้วเดินออกมาจากห้องนอนเธอเห็น คิรินกำลังนั่งอยู่บนโซฟาหนังตัวยาวในห้องนั่งเล่นอย่างสบายอารมณ์ เขาสวมแค่กางเกงวอร์มตัวเดียว เผยให้เห็นแผ่นหลังที่กว้างและรอยกล้ามเนื้อที่คมชัดดูก็รู้ว่าเขาออกกำลังกายอย่างหนัก“นายมานั่งตรงนี้ทำไม!” เกลโวยทันที คิรินเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือที่กำลังเล่นเกมอยู่“อ้าว ก็โซฟามันสบายที่สุด จะให้ไปนั่งโซฟาเล็ก ๆ ตรงนั้นทำไม”“แต่มันคือโซฟาของเกลนะ เกลต้องใช้นอนดูหนัง!” เกลเดินไปหยุดอยู่หน้าโซฟา “เกลต้องใช้พื้นที่ในการเยียวยาตัวเองจากโรคจิตที่อยู่แถวนี้”“งั้นนั่งนี้ปะ” คิรินลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิ คิรินยิ้มกวน ๆ มือหนาก็ตบตักตัวเองสองสามที “ฉันก็ต้องใช้พื้นที่ทั้งหมดเพื่อดูแลเธอเหมือนกะนนั่นแหละ ยัยอ้วน”เกลไม่อยากสนใจคนแถวนี้ ไม่รู้คนด้านนอกหรือด้านในไหนโรคจิตกว่ากัน เธอทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างแรง ตั้งใจจะเบียดให้คิรินขยับออกไป แต่แทนที่จะขยับ คิรินกลับทิ้งน้ำหนักลงมาเล็กน้อย ทำให้เกลถูกบีบให้ติดอยู่กับพนักพิงโซฟา พวกเขาอยู่ในระยะประช
“เกลอ้วนแล้วมันหนักหัวคินรึไง” เสียงหวานพูดอย่างฉุนๆ“ถ้าเธอป่วยขึ้นมา จะทำยังไง” เสียงทุ้มต่ำตอบกลับทันทีที่เธอระเบิดอารมณ์ใส่ เกลเคี้ยวอาหารช้า ๆ พยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ระเบิดอีกครั้ง“คินเห็นใช่ไหม” เกลเงยหน้าขึ้น ดวงตาดื้อดึง “คินเห็นสิ่งที่เกลทำในห้องน้ำเมื่อคืน” คิรินจิบชาจีนร้อน ๆ แล้ววางแก้วลง“ใช่! แล้วก็ไม่ได้มีอะไรให้เข้าใจเธอเลยสักนิด”“มันไม่ใช่นาย ไม่ใช่ชีวิตนาย คิริน!” เกลพูดเสียงต่ำ “นายไม่มีสิทธิ์มาตัดสินว่าเกลจะดูแลร่างกายของเกลยังไง”คิรินวางตะเกียบลงแล้วเท้าแขนกับโต๊ะ เขายื่นใบหน้าเข้ามาใกล้จนเกลสัมผัสได้ถึงกลิ่นกาแฟและหมูสับจากลมหายใจของเขา“ฉันไม่ได้ตัดสิน แต่ฉันเป็นห่วงเพื่อนสมัยเด็กที่กำลังจะตายเพราะไอ้เรื่องไร้สาระแบบนี้” คิรินมองลึกเข้าไปในดวงตาของเกล “เธอจำไม่ได้เหรอ เมื่อสิบปีก่อนเธอเคยมีความสุขแค่ไหนกับการกิน”คำพูดนั้นของคิรินทำลายเกราะป้องกันของเกลลงได้สำเร็จ น้ำตาเริ่มเอ่อคลอที่ขอบตา แต่เธอก็รีบปาดมันออก“มันไม่เหมือนกันแล้ว” ร่างบางพูดเสียงเบาจนเกือบกระซิบ“มันเหมือนกันทุกอย่าง” คิรินยิ้มบาง ๆ “ห้ามอดอาหารเด็ดขาด! เพราะถ้าเธอเป็นอะไรไป ฉันนี่แหละที่จะ







