Share

บทที่ 5

last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-27 21:40:59

ทั้งแปดคนมานั่งรวมกันที่ร้านหมูกระทะชื่อดังที่อยู่ข้างๆ มหาวิทยาลัย โต๊ะถูกจัดแยกออกเป็นสองชุด ซึ่งทำให้ พิชชี่ ต้องบ่นออกมาเสียงดังก่อนจะยอมไปนั่งโต๊ะข้าง ๆ

“ฉันไม่อยากนั่งกินกับเธอย่ะเกล คนอะไรมากินหมูกระทะ ไม่ยอมกินหมูสามชั้น!” พิชชี่ว่าพลางกอดอกอย่างงอนๆ ทำเหมือนจำยอมต้องไปนั่งกับเดย์และข้าวฟ่างที่อีกโต๊ะหนึ่ง

โต๊ะนั้นเหมือนจะมีเสียงเฮฮามาตลอดส่วน แต่โต๊ะนี้ดูจะเงียบและมีบรรยากาศตึงเครียดกว่ามากเกลนั่งอยู่ข้างเมษาโดยมีคิรินนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและมีไนท์แฝดน้องของเดย์ที่บอกว่ารำคานพี่ตัวเองขอมานั่งโต๊ะนี้แทน

ดังนั้นโต๊ะของเกลจึงมีเพียงเกลนั่งอยู่ข้างเมษาโดยมีคิรินนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและมีหม้อไฟหมูกระทะที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นอยู่ตรงกลาง เกลกินอย่างกับคนระบายอารมณ์ แต่สิ่งที่เธอเลือกนั้นถูกเรื่องแต่คลีนๆไว้ เมษาค่อยส่งเนื้อหมูส่วนเนื้อแดงให้เธอเป็นบางครั้ง ส่วนใหญ่ที่เธอกินจะเป็น กุ้ง ปลา และผักมากกว่าเพื่อกันน้ำหนักที่จะขึ้นหลังกินมื้อนี้

โต๊ะข้างๆ ดูจะมีสีสันมากกว่าโต๊ะของเธอมากเพราะแค่เธอต้องสบตากวนประสาทของไอ้เด็กเลี้ยงแกะแล้วมันก็โคตรจะน่าหงุดหงิดเลย

คิรินใช้ตะเกียบของเขาคีบหมูสามชั้นชิ้นที่สวยที่สุด ชิ้นที่เกลรู้ดีว่าเธอต้องห้ามใจไม่ให้กินแล้ววางลงบนจานของเธอ

“กินสิ ชอบไม่ใช่เหรอ” คิรินพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและกวนประสาท ดวงตาคมเข้มของเขายิ้มอย่างกวนตีนในสายตาเธอ

เกลจ้องมองหมูสามชั้นชิ้นนั้นที่คิรินคีบมาให้ จริงๆเธออยากกินที่สุดๆแต่เธอเมินก็หมูชิ้นนั้นของคนตรงข้ามก่อนที่จะหันไปอ้อนเมษาอย่างน่ารักน่าเอ็นดู

“เมษาคีบหมูเนื้อแดงให้เกลหน่อยได้ไหม”

เมษายิ้มย่างขำเธอเห็นทุกอย่างทั้งที่คิรินเอาหมูให้แค่เพื่อนตัวเล็กข้างเธอไม่รับ แล้วมาอ้อนเธอแทน เมษารีบคีบหมูเนื้อแดงชิ้นใหญ่ใส่จานให้เธออย่างไม่ลังเล

คิรินได้แต่อ่อนใจกับคนตรงหน้า เขาเท้าคางมองเกลที่ทำท่าทางขี้อ้อนเหมือนเด็กน้อย ดูแล้วโตมานอกจากเรื่องหุ่นกับเรื่องเลือกการกินแล้ว นิสัยไม่ต่างจากเดิมเลย แต่เพราะไอนิสัยที่ไม่เปลี่ยนไปของเกลนั้นแหละทำให้เขาอยากแกล้ง

"ทำไมไม่กินหมูมันล่ะ" คิรินพูดถามร่างเล็กตรงหน้า เกลกัดริมฝีปากแน่น เธอกำลังใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่ปาจานหมูสามชั้นใส่หน้าเขา

คิรินมองใบหน้าที่บูดบึ้งของเกลแล้วหัวเราะเบาๆ จากนั้นเขาเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วพูดเสียงกระซิบที่เบามากพอให้ได้ยินกันแค่สองคน

"ไม่อ้วนไปมากกว่านี้แล้วแหละ" เกลอยากจะปรี๊ดแตกกับคำพูดของไอ้บ้าตัวนี้ แล้วยังเสียงหัวเราะนั้นอีก น้องเกลจะไม่ไหวแล้วนะ

แต่เพราะเธอขี้เกียจจะฟังคำกวนตีนของคิริน รวมถึงลึกๆก็อยากกินหมูสามชั้นด้วย เกลเลยยอมกินหมูสามชั้น ชิ้นที่คิรินคีบมาให้

แชะ!

เสียงถ่ายรูปดังขึ้นทันทีที่ชิ้นหมูเข้าปาก เกลหันไปมองตามเสียง คิรินยกสมาร์ทโฟนให้ดู บอกว่า “จะเอาไว้ส่งให้คุณป้านะ” พร้อมยิ้มหล่อขยี้ใจ ที่ถ้ายัยพิชชี่เห็นต้องลมจับแต่สำหรับเธอแล้ว มันเป็นยิ้มของปีศาจชัดๆ

ไอ้เพื่อนเลว น้องเกลอยากจะฆ่าคน

เธอหยิบผักกาดที่อยู่ใกล้ที่สุดขึ้นมา ปาใส่ไอ้ตัวกวนประสาทนี้ ด้วยความโมโหสุดขีด แต่ผักกาดนั้นกระเด็นไปโดนไนท์ที่นั่งอยู่ข้างคิรินแทน

เมษาก็ตกใจเลยรีบเอื้อมมือไปเช็ดผักกาดที่หน้าไนท์ให้ทันทีก่อนที่จะห้ามทัพ ของคนสองคนที่เล่นกันเป็นเด็กอยู่

เมษาได้แต่แปลกใจ เพราะ คิรินนั้นใครๆ ก็บอกว่าเทพบุตร ทั้งหน้าตาและนิสัย แต่ที่เธอเจอมาคือ เกลหัวเสียมากๆ ที่อยู่กับคิริน ส่วนชายหนุ่มก็ดูจะสนุกที่ได้แกล้งเพื่อนสาวตัวเล็กของเธอ

หลังจากกินหมูกระทะเสร็จ ทั้งแปดคนก็ยังคงนั่งเล่นอยู่ในร้านเพื่อรอย่อยและคุยกันต่อ เสียงหัวเราะดังมาจากโต๊ะของเดย์ พิชชี่ และข้าวฟ่าง ส่วนโต๊ะของเกล เมษา คิริน และไนท์ ค่อนข้างเงียบกว่า

เกลขอตัวไปคุยโทรศัพท์กับแม่ก่อน เธอเดินแยกออกไปยืนที่มุมหนึ่งใกล้ทางไปห้องน้ำ

“อยู่ไหนลูก เกล” เสียงเข้มๆ ของ อรุณี ผู้เป็นมารดาดังลอดออกมาจากโทรศัพท์

“มากินหมูกระทะกับเพื่อนค่ะแม่” เกลตอบเสียงเรียบ พยายามไม่ให้เสียงดูตื่นเต้น

“อย่ากินให้มันเยอะนักลูก อ้วนไม่ไหวแล้วนะ”

“ค่ะแม่”

“ออกกำลังกายด้วยนะ แม่ต้องไปแล้วนะ รักลูกนะ”

เกลลดโทรศัพท์ลง เธอได้แต่ถอนหายใจยาวให้กับคำพูดของแม่ที่ตอกย้ำความกังวลเดิมๆ อยู่เสมอ เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เธอเพิ่งกินเข้าไปนั้น ทำให้ความรู้สึกผิดและรู้สึกแย่มาก มันรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว

เกลหายไปประมาณเกือบสิบนาที โดยที่ไม่มีใครสนใจนัก ยกเว้น คิริน ที่นั่งมองนาฬิกาอย่างเบื่อหน่าย เขาคิดว่าเธอหายไปนานเกินไปแล้ว เลยตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปตามทิศทางที่เกลเดินไป

ก่อนที่เธอจะทันเดินกลับมา เกลก็เดินเข้าห้องน้ำ และตัดสินใจทำในสิ่งที่เธอทำมาตั้งแต่ช่วง ม.ปลาย แล้ว

เธอล้วงคออ้วกเอาอาหารทั้งหมดที่กินเข้าไปออกจนแสบคอ ร่างกายของเธอสั่นเทาด้วยความรู้สึกผิดและทรมาน เธออ้วกออกจนแสบคอ และได้แต่ถอนหายใจอย่างอ่อนล้า เธอไม่ได้อยากอ้วก แต่พอเธอเริ่มคิดมากว่ากินแล้วมันจะอ้วน มันทำให้เธอท้องอืด คลื่นไส้ จนสุดท้ายเธอต้องไปอ้วกออก เรื่องนี้ไม่มีใครรู้

คิริน เดินมาถึงหน้าห้องน้ำชายที่อยู่ใกล้ๆ เขาหยุดยืนรอที่หน้าห้องน้ำหญิง เพราะคาดว่าเกลคงกำลังทำธุระอยู่ แต่ความเงียบที่กินเวลานานผิดปกติทำให้เขารู้สึกแปลกๆ

จังหวะนั้นเอง ประตูห้องน้ำหญิงก็แง้มออก เกล ก้าวออกมาด้วยใบหน้าซีดเผือด เธอใช้มือปาดมุมปากอย่างลวกๆ

เกลเงยหน้าขึ้นมา และ ดวงตาก็ปะทะเข้ากับดวงตาคมเข้มของคิริน ที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องน้ำชายอย่างจัง

สีหน้าของคิรินไม่ได้มีแววกวนประสาทเหมือนเคย แต่กลับเป็นแววตาที่ ว่างเปล่าและมองไม่เห็น ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“เป็นไร หน้าซีด” คิรินถามเสียงเรียบ ๆ น้ำเสียงนั้นไม่มีความเยาะเย้ยใดๆ เจือปน ทำให้เกลยิ่งรู้สึกทำตัวไม่ถูก

เกลสูดหายใจลึก เธอพยายามบ่ายเบี่ยงไปไม่ยอมตอบเขา เธอรู้ดีว่าต้องรีบกลับไปที่โต๊ะก่อนที่ใครจะสังเกตความผิดปกติของเธอ

ร่างบางเดินกลับไปที่กระจกห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเติมลิปสีหวาน สีสวยให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เธอใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการสวมหน้ากากที่สมบูรณ์แบบกลับคืนมา

แล้วเธอก็เดินกลับโต๊ะ โดยที่ไม่รอชายหนุ่ม

คิรินยืนนิ่งมองตามหลังเกลไปจนกระทั่งเธอเดินลบสายตาไปที่โต๊ะ ดวงตาของเขากลับมามีแววครุ่นคิด เขาไม่ได้กวนประสาทเธอต่อ เขาเดินตามเกลกลับไปที่โต๊ะ

หลังจากที่เกลกลับมานั่งที่โต๊ะได้ไม่นาน บรรยากาศก็เปลี่ยนไปสู่การร่ำลา ทุกคนเริ่มเตรียมตัวแยกย้ายกันกลับที่พัก

“เกล กลับพร้อมพวกฉันก่อนไหม? ให้พิชชี่ขับรถไปส่ง” เมษาถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรหรอกเมษา” เกลตอบพร้อมรอยยิ้ม "คอนโดเกลอยู่ใกล้ ๆ ตรงนี้เอง เดินไม่ไกลหรอก"

“ให้ไอ้คิรินไปส่งก็ได้นะ” เดย์ พูดแซวขึ้นมาอย่างกวนประสาท

เกลหันไปมองคิรินที่กำลังยืนกอดอกอยู่ข้างๆ “ไม่ต้อง” เกลปฏิเสธเสียงแข็ง “เราเดินได้”

เมษาส่งเสียง "อื้อ" ในลำคอ ก่อนจะหันไปจัดการเรื่องงานต่อ

“งั้นพรุ่งนี้นะคะ คิริน!” เมษาเรียก “เรามาวัดตัวกันตอน หกโมงเย็น นะคะ ให้ทุกคนเลิกเรียนกันก่อนรวมทั้งกินข้าวกันมาให้เรียบร้อยเลย”

“จริงๆ แค่คิรินมาก็พอแล้ว” ข้าวฟ่างเสริมพลางยิ้มแห้งๆ “แต่เห็นว่า วิน อยากจะมาดูด้วย พวกเราเลยนัดกันเวลานั้น”

“ครับ หกโมงเย็นเจอกันที่สตูดิโอคณะ” คิรินตอบรับเสียงเรียบ

ทุกคนโบกมืออำลาและแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง เหลือไว้เพียงเกลที่เดินออกมาจากร้านหมูกระทะอย่างรวดเร็ว เธอไม่ได้สนใจความเหนื่อยล้า แต่ใจจดจ่ออยู่กับการหนีสายตาที่เต็มไปด้วยความลับของคิรินให้พ้น

ระหว่างทางเดินกลับคอนโด เกลรู้สึกได้ถึงคน เหมือนเขาเดินตามเธอมาตั้งแต่ร้านหมูกระทะแล้ว เสียงเดินมันเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ร่างบางต้อง เดินเร็วขึ้น เพื่อจะให้รีบถึงคอนโด ความมืดสลัวของถนนข้างมหาวิทยาลัยทำให้ความรู้สึกหวาดระแวงพุ่งสูงขึ้น

ในใจของเธอกำลังเต้นระรัวด้วยความกลัว จู่ๆ...

ปรี๊ดดด!

เสียงแตรรถที่ดังสนั่น พร้อมกับ แสงไฟจากหน้ารถ ที่สาดเข้ามาอย่างจัง ทำให้เธอต้อง หรี่ตาลงมอง

รถคันนั้นคือ รถออดี้ สีดำคันหรู มันมาจอดเทียบอยู่ข้างๆ เธออย่างเงียบเชียบ กระจกด้านคนขับถูกเลื่อนลงช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาและดวงตาคมเข้มที่กำลังมองมา

เป็นคิริน

เกลรู้สึกใจชื้นขึ้นมาทันที จากใจที่เต้นระรัวหวาดกลัวเมื่อเธอรู้สึกดีใจที่ได้เจอเขา ความกลัวจากคนที่เดินตามเมื่อครู่หายไปจนหมดสิ้น ถูกแทนที่ด้วยความหงุดหงิดระคนโล่งใจที่คนที่มาคุกคามเธอคือ ไอ้เด็กเลี้ยงแกะ คนเดิม

คิรินยิ้มมุมปาก เขาเท้าแขนกับขอบประตูรถ

“เดินคนเดียวอันตรายนะครับ ยัยอ้วน” คิรินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความกวนประสาท แต่ก็ไม่มีความอบอุ่นเช่นกัน ร่างบางนั่งนิ่งไม่พูดอะไร ตลอดทาง รถออดี้สีดำ คันหรูแล่นไปอย่างเงียบเชียบ เกลมองออกไปนอกหน้าต่าง พยายามสงบสติอารมณ์ที่ปั่นป่วนจากการถูกข่มขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมคิรินถึงรู้จักคอนโดเกลได้ เพราะบางครั้ง แม่ก็ชอบฝากของกับคิรินเอามาให้เธอเป็นบางครั้ง นี่คือเหตุผลที่คิรินยังคงอยู่ในวงโคจรชีวิตของเธอแม้จะพยายามหลีกหนีมาตลอด

เมื่อรถจอดสนิทหน้าทางเข้าอาคารคอนโดมิเนียม ร่างบางรีบก้าวขาลงจากรถทันที โดยไม่พูดอะไรกับชายหนุ่มเลย เธอกระแทกประตูเบา ๆ แล้วรีบเดินเข้าอาคารไปอย่างรวดเร็ว เธอยังโมโหไม่หาย ที่เขาแกล้งถ่ายรูปจะไปฟ้องแม่เธออีกแล้ว และยังโกรธที่ตัวเองเผลอกินหมูสามชั้นเข้าไปเพราะคำพูดกวนประสาทของเขา

คิรินลดกระจกลง แล้วมองตามหลังเกลไปจนเธอหายเข้าไปในอาคาร ก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะจางหายไปเหลือเพียงสีหน้าครุ่นคิดแทน

วันต่อมาหลังเลิกเรียนตามที่เมษานัดไว้ เวลาหกโมงเย็น

เกลนั่งอยู่ในห้องสตูดิโอของคณะที่เตรียมไว้สำหรับการวัดตัว วันนี้คิรินมาพร้อมกับเดย์แค่คนเดียว โดยมีเมษาและข้าวฟ่างอยู่ด้วยเพื่อเตรียมอุปกรณ์

ร่างสูงของคิริน เดินเข้ามาในห้องอย่างสง่างาม ในขณะที่ เกลกำลังนั่งกินแรปสลัดอกไก่ อย่างหงุดหงิด มันคืออาหารที่รสชาติไม่อร่อยเอาเสียเลย แต่เธอต้องกินเพื่อควบคุมน้ำหนักตามวินัยที่ตั้งไว้

ยัยข้าวฟ่าง ที่นั่งอยู่ไม่ไกล ดันเอาข้าวเหนียวไก่ทอด มานั่งกินยั่วเธอ! เสียงเคี้ยวกรุบกรอบและกลิ่นหอมของไก่ทอดทำให้แรปสลัดในมือเธอราวกับกระดาษ

เกลกำลังเคี้ยวอาหารในปากอย่างมาดร้าย จู่ๆ เธอตกใจเพราะมีมือของใครบางคนมาจับที่แก้มที่กำลังเคี้ยวตุ้ยๆ อยู่ แรงสัมผัสเบาๆ แต่เธอรู้สึกถึงความรุ่มร่ามของมันทันที

“เป็นกระรอกรึไง แก้มป่องขนาดนี้” เสียงทุ้มต่ำติดจะแกล้งดังขึ้นข้างหู

เธอตวัดสายตามองเขาอย่างจะฆ่ากันให้ได้ เมื่อวานก็ว่าเธอเป็นหนู วันนี้บอกเป็นกระรอกอีก! ถึงมันจะน่ารักทั้งคู่แต่พอออกมาจากปากอีตานั้นมันกลับหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก

“ปล่อยนะ!” เกลพูดเสียงลอดไรฟัน พยายามสะบัดหน้าหนี

คิรินหัวเราะในลำคออย่างพอใจ แล้วดึงมือออก

“โอ๋ๆ โกรธเหรอครับ ยัยอ้วน” คิรินแกล้งใช้คำเรียกเดิมที่เคยใช้เมื่อวาน

เดย์ ที่ยืนอยู่ข้างๆ คิรินรีบเบนสายตาไปทางอื่น เขาทำเหมือนกำลังสนใจรายละเอียดของหุ่นตัดเสื้ออย่างมาก เขาจึงปล่อยให้คิรินทำตามใจชอบ

“เอาล่ะ! วัดตัวกันเถอะ สุดหล่อ” เมษาเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเรียกคิรินให้เข้ารูปเข้ารอย เพื่อหยุดการปะทะก่อนที่สตูดิโอจะพัง

คิรินพยักหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปยืนตรงหน้าหุ่นตัดเสื้อตามที่เมษากำหนด แต่ก่อนจะเริ่มงาน...

“ไหนดูซิ ไก่ทอด น่าสนใจกว่า แรปสลัด ขนาดไหน” คิรินแกล้งหันไปหยิบไก่ทอดจากกล่องของข้าวฟ่างมางับไปหนึ่งคำอย่างไม่เกรงใจ

เกลมองภาพนั้นอย่างขุ่นเคือง นั่นหมายความว่าเขากำลังทำให้เธอต้องทรมานกับอาหารอร่อย ๆ รอบตัวต่อไปอีกแล้ว!

เมษาเรียกคิรินให้ยืนตรงหน้าหุ่นตัดเสื้อพร้อมสายวัดในมือ ตอนแรกเมษาจะวัดให้ เอง แต่ทันใดนั้น เดย์ก้มลงกระซิบที่ข้างหูเมษา ประโยคสั้น ๆ ที่ทำให้ใบหน้าของเมษาเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Friend Are Just...Lovely ก็เพื่อนมันน่า...รัก   บทที่ 7

    เกลเดินเข้าห้องคอนโดมาอย่างเงียบเชียบ เธอรีบล็อกประตูถึงสองชั้น ความเหนื่อยล้าทางร่างกายผสมกับความหวาดระแวงทำให้เธอไม่ทันสังเกตว่ามีใครติดตามมาหรือไม่ เกลโชคดีที่มาถึงคอนโดโดยปลอดภัยเธอไม่ได้สนใจจะเปิดไฟมากนัก ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างอ่อนแรง และพยายามบังคับตัวเองให้ข่มตาหลับเพื่อหนีความเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งวันแต่หลังจากที่เธอนอนหลับไปได้ไม่นานก๊อก... ก๊อก... ก๊อก...เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เป็นจังหวะสั้น ๆ แต่ดังชัดเจนในความเงียบสงัดของยามวิกาลเกลสะดุ้งสุดตัว เธอผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที หัวใจเต้นรัวราวกับกลองที่ถูกรัวตีด้วยความหวาดกลัวที่กลับมาอีกครั้ง เธอตกใจมากจนต้องร้องไห้นี่มันก็ตีสองแล้ว!เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ดังและถี่ขึ้น เกลมองไปที่ประตูห้องด้วยความหวาดผวา เธอรู้ดีว่าคนที่พักอยู่ในคอนโดนี้ส่วนใหญ่เป็นคนมีฐานะ และไม่มีใครมาเคาะประตูบ้านคนอื่นในเวลานี้แน่ๆเธอไม่รู้ควรโทรไปหาใครดี จะโทรหาเมษาหรือข้าวฟ่างตอนนี้ก็คงจะรบกวนมากเกินไป และเธอก็ไม่กล้าปลุกใครมือของเธอสั่นเทาเมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สายตาของเธอกวาดมองรายชื่อในสมุดโทรศัพท์อย่างว้าวุ่น

  • Friend Are Just...Lovely ก็เพื่อนมันน่า...รัก   บทที่ 6

    เมษาเรียกคิรินให้ยืนตรงหน้าหุ่นตัดเสื้อพร้อมสายวัดในมือ ตอนแรกเมษาจะวัดให้ เอง แต่ทันใดนั้น เดย์ก้มลงกระซิบที่ข้างหูเมษา ประโยคสั้น ๆ ที่ทำให้ใบหน้าของเมษาเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเมษาดูเหมือนจะ ลังเล อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะหันไปทางเกลด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ“เกล... ฝากวัดตัวคิรินก่อนได้มั้ย พอดีข้าวฟ่างอยากจะปรึกษาฉันเรื่องผ้าข้างนอกน่ะ”เกลไม่ทันจะพูดถามเหตุผลหรือปฏิเสธ เมษาและข้าวฟ่างก็รีบลากเดย์ที่ยังยืนทำหน้ากวนประสาทออกไปจากสตูดิโออย่างรวดเร็ว ทุกคนในห้องนอกจากเธอกับคิรินก็ออกไปกันหมดคิรินยิ้มอย่างได้ใจ เขายืนกอดอกมองเกลที่กำลังถือสายวัดอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นก็ได้ครับ ดีไซเนอร์” คิรินพูดกวน ๆเกลไม่พูดอะไร แต่ความโมโหทำให้เธอต้องระบายออก เธอฟาดไปที่ต้นแขนคิรินแน่นทันที ด้วยม้วนสายวัดที่อยู่ในมือ เสียงดัง "เพียะ" ดังขึ้นเบาๆคิรินไม่ได้เจ็บ แต่เขายิ้มกว้างกว่าเดิมอีก“โอ๊ย! ทำอย่างกับไม่อยากอยู่ด้วยเลยนะครับ เพื่อนรัก”เกลกัดฟันแน่น เธอตระหนักได้ทันทีว่าการวัดตัวนี้คือ กับดัก ที่คิรินกับเดย์วางแผนไว้แน่นอนนอกห้องสตูดิโอเมษาที่เพิ่งออกจากห้องมาพร้อมกับข้าวฟ่างและ

  • Friend Are Just...Lovely ก็เพื่อนมันน่า...รัก   บทที่ 5

    ทั้งแปดคนมานั่งรวมกันที่ร้านหมูกระทะชื่อดังที่อยู่ข้างๆ มหาวิทยาลัย โต๊ะถูกจัดแยกออกเป็นสองชุด ซึ่งทำให้ พิชชี่ ต้องบ่นออกมาเสียงดังก่อนจะยอมไปนั่งโต๊ะข้าง ๆ“ฉันไม่อยากนั่งกินกับเธอย่ะเกล คนอะไรมากินหมูกระทะ ไม่ยอมกินหมูสามชั้น!” พิชชี่ว่าพลางกอดอกอย่างงอนๆ ทำเหมือนจำยอมต้องไปนั่งกับเดย์และข้าวฟ่างที่อีกโต๊ะหนึ่งโต๊ะนั้นเหมือนจะมีเสียงเฮฮามาตลอดส่วน แต่โต๊ะนี้ดูจะเงียบและมีบรรยากาศตึงเครียดกว่ามากเกลนั่งอยู่ข้างเมษาโดยมีคิรินนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและมีไนท์แฝดน้องของเดย์ที่บอกว่ารำคานพี่ตัวเองขอมานั่งโต๊ะนี้แทนดังนั้นโต๊ะของเกลจึงมีเพียงเกลนั่งอยู่ข้างเมษาโดยมีคิรินนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและมีหม้อไฟหมูกระทะที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นอยู่ตรงกลาง เกลกินอย่างกับคนระบายอารมณ์ แต่สิ่งที่เธอเลือกนั้นถูกเรื่องแต่คลีนๆไว้ เมษาค่อยส่งเนื้อหมูส่วนเนื้อแดงให้เธอเป็นบางครั้ง ส่วนใหญ่ที่เธอกินจะเป็น กุ้ง ปลา และผักมากกว่าเพื่อกันน้ำหนักที่จะขึ้นหลังกินมื้อนี้โต๊ะข้างๆ ดูจะมีสีสันมากกว่าโต๊ะของเธอมากเพราะแค่เธอต้องสบตากวนประสาทของไอ้เด็กเลี้ยงแกะแล้วมันก็โคตรจะน่าหงุดหงิดเลยคิรินใช้ตะเกียบของเขาคีบหมูสามชั้นช

  • Friend Are Just...Lovely ก็เพื่อนมันน่า...รัก   บทที่ 4

    ห้องสตูดิโอของคณะศิลปกรรมศาสตร์ดูวุ่นวายกว่าปกติ เสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ คลอไปกับเสียงฝีเท้าของนางแบบที่กำลังซ้อมเดินอยู่บนเวทีชั่วคราวเกลอยู่ในชุดนักศึกษาที่เสื้อเข้ารูปและกระโปรงสั้นตามแฟชั่น เธอผมบลอนด์อ่อน และแต่งหน้าอย่างประณีตราวกับเป็นนางแบบเสียเอง เธอนั่งอยู่ตรงกลางโต๊ะกรรมการอย่างมาดมั่น ข้างๆคือข้าวฟ่างผู้กำลังจดบันทึกด้วยความตั้งใจและพิชชี่ ผู้ทำหน้าที่วิจารณ์ด้วยความละเอียดถี่ถ้วน“คนนี้ดีไซน์สวยมาก แต่แววตาดูนิ่งๆไปหน่อย เราน่ะมันต้องใช้คนที่มี จิตวิญญาณนะยะ ไม่ใช่หุ่นยนต์!” พิชชี่บ่นพลางโบกมือปฏิเสธนางแบบคนที่สิบ“ใจเย็นๆ นะคะพิชชี่” ข้าวฟ่างพยายามปราม “เราเน้นที่รูปร่างก่อนค่ะ เพราะชุดของเรายังไม่เสร็จ”“แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถ้านางแบบเราหากันไม่ได้จริงๆ ก็ให้เมษานี้แหละถ่าย” เกลสรุปเพราะตอนนี้เธอยังไม่เจอใครถูกใจเลย เมษารูปร่างสูงเพียวเหมือนนางแบบ ที่เธอกำลังเครียดตอนนี้คงจะเป็น นายแบบชายมากกว่าเมษา ในฐานะผู้ประสานงานหลัก ยืนอยู่ใกล้ประตู เธอกำลังใช้โทรศัพท์มือถือจัดการธุระอย่างเคร่งเครียด ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออก พร้อมกับกลุ่มนักศึกษาชายสามคนที่ก้าวเข้ามาเดย์ เดินนำหน้ามา

  • Friend Are Just...Lovely ก็เพื่อนมันน่า...รัก   บทที่ 3

    ห้องประชุมคณะกรรมการนักศึกษา, มหาวิทยาลัย Xเกลกับข้าวฟ่างกำลังก้มหน้าปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียด โต๊ะเต็มไปด้วยกระดาษสเก็ตช์และนิตยสารแฟชั่นเล่มหนา“ฉันคิดว่าเราควรใช้ผ้าดิบเป็นหลักนะเกล” ข้าวฟ่างเสนอ“แล้วค่อยใช้เทคนิคการปัก การลงสี และการพิมพ์ลายแบบศิลปะเข้ามา มันจะสื่อถึงคอนเซปต์เข้าถึงยาก ได้ชัดเจน”“อืม… ดีเลยข้าวฟ่าง” เกลตอบขณะที่กำลังวาดโครงสร้างคอเสื้อที่ดูแปลกตา“เราต้องออกแบบชุดสำหรับผู้หญิงให้เสร็จก่อน แล้วค่อยปรับให้เข้ากับสรีระนายแบบที่จะมาเดินคู่กัน แต่ปัญหาคือนายแบบน่ะสิ” เรื่องนางแบบเธอไม่ค่อยเป็นห่วง เพราะเมษาจะรับหน้าที่นั้น เสียงประตูเปิดผางออกอย่างไม่สุภาพ ก่อนที่พิชชี่จะพุ่งเข้ามาพร้อมเมษาตามมาติด ๆ“เจอแล้ว! คนที่จะมาเป็นนายแบบของแกแล้ววเกล!” พิชชี่ประกาศเสียงดัง เขาลากเก้าอี้มานั่งข้างเกลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปิดโทรศัพท์มือถือที่เซฟรูปชายหนุ่มในอินสตาแกรมไว้แล้ว“ดูนี่สิ! วิน! ลูกชายเจ้าของแกลเลอรี่! เขาคือความดิบที่แสนจะแพง! เขาคือความหล่อของประเจ้าเลย”เกลหยิบโทรศัพท์ของพิชชี่มาดูอย่างพิจารณา ภาพชายหนุ่มที่ดูเย็นชาในชุดเสื้อผ้าเรียบ ๆ แต่มีร่องรอยของสีและผงฝ

  • Friend Are Just...Lovely ก็เพื่อนมันน่า...รัก   บทที่ 2

    โรงอาหารกลาง มหาวิทยาลัย Xกลุ่มเพื่อนทั้งสี่คนมานั่งรวมกันที่โต๊ะประจำในโซนที่เงียบสงบที่สุดของโรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัยเกลซึ่งมีใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างประณีตราวกับเพิ่งออกจากสตูดิโอกำลังกินสลัดไก่ย่าง ที่ไร้น้ำสลัดรสจัดจ้านเพื่อควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด ขณะที่ข้าวฟ่างกินข้าวมันไก่ชามโตได้อย่างสบายอารมณ์“นี่! ฉันบอกแล้วไงว่าปีนี้เด็ดจริง! ฉันเห็นน้องปีหนึ่งสาขาการแสดงคนหนึ่งชื่อ ต้า” พิชชี่เริ่มเปิดประเด็นเม้าท์มอยทันทีที่นั่งลง เขาเลือกสั่งบะหมี่เกี๊ยวและกำลังใช้ช้อนเขี่ยหมูแดงส่วนมัน ๆ ออกอย่างประณีต“ไม่ต้องเขี่ยก็ได้มั้งพิชชี่” เมษาที่นั่งตรงข้ามพูดพลางหัวเราะเบา ๆ เธอเลือกเมนูมังสวิรัติ“ไม่ได้ย่ะ! ฉันเป็นศิลปะการแสดง! ฉันต้อง Maintain หุ่น! ไม่เหมือนพวกดีไซเนอร์บางคนที่กินแต่ผักกาดหอมจนจะกลายเป็นกระต่าย” พิชชี่ว่าพลางเหลือบมองจานสลัดของเกลเกลตักผักเข้าปากอย่างใจเย็น เธอจัดระเบียบเส้นผมสีบลอนด์และตรวจสอบการเขียนขอบตาของตัวเองผ่านกระจกในตลับแป้งเล็ก ๆ อย่างรวดเร็ว แม้จะกินสลัด เธอก็ยังคงไว้ซึ่งความงามที่สมบูรณ์แบบ“แล้วต้าที่ว่านั่นมันดียังไงเหรอ?” ข้าวฟ่างถามอย่างสนใจ ด

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status