หมั่บ!!
ไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้เดินเข้าห้องไปก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งจับต้นแขนของน้ำตาลไว้จากด้านหลัง ทันทีที่เธอหันกลับไปมองก็ได้เห็นว่าเขาคือคนคนเดียวกันกับที่ผลักไสเธอให้คนอื่นนั่นเอง
ชายหนุ่มแอบตกใจเล็กน้อยเมื่อได้เห็นหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ตรงนี้ ตามเนื้อตัวนอกร่มผ้ามีรอยแดง ๆ ปรากฏให้เห็น คงเกิดจากการฉุดกระชากลากถูกันมา ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าน้ำตาลปฏิเสธคู่ค้าของเขา
“คุณจะทำอะไร” ชายหนุ่มทำหน้าแปลกใจเมื่อเห็นไคล์
“ผมเปลี่ยนใจแล้ว”
“ได้ไงล่ะ ตั้งแต่ทำธุรกิจร่วมกันมา คุณไม่เคยกลับคำพูดสักครั้ง” เขาโวยวาย ในเมื่อยกให้เขาแล้วจะมาเอาคืนได้ยังไง
“ครั้งนี้ผมวู่วามเกินไป” ไคล์แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ แต่ในใจลึก ๆ กลับยอมรับว่าเขาวู่วามจริง ๆ นั้นแหละ
“อย่าบอกว่าที่เธอพูดมาทั้งหมดคือเรื่องจริง” เขามองสลับกันระหว่างไคล์กับหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้าง ๆ ไคล์
“พูดว่าไงครับ”
“เธอบอกผมว่า เธอกำลังทะเลาะกับคุณ”
“ว่าไงนะ” ไคล์ตวัดสายตามองหญิงสาว ความรู้สึกผิดเมื่อก่อนหน้าก็มลายหายไป เธอเอาชื่อของเขาไปแอบอ้างได้ยังไง ความจริงเธอกับเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันด้วยซ้ำแล้วจะมีเรื่องอะไรให้ทะเลาะกัน
น้ำตาลหลุบตาต่ำลง มือสองข้างกุมเข้าหากันแน่น หากเขาปฏิเสธและเปลี่ยนใจอีกคราวนี้เธอก็คงไม่มีโอกาสรอดแน่นอน
“หรือว่าคุณยังติดใจเธออยู่” ชายหนุ่มสันนิษฐาน “ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้ได้”
“...”
“เอาเถอะ คู่ค้าทางธุรกิจอย่างเราไม่ควรมาทะเลาะกันเองเพราะเรื่องผู้หญิง คืนนี้ผมหาใหม่เอาก็ได้” ขณะพูดเขาก็หันไปมองเธอ แต่ในใจกลับรู้สึกเสียดาย “อ้อ...ถ้าคุณเบื่อวันไหน ผมขอละกัน”
“...” ไคล์ไม่ตอบ แต่เขากลับมองไปที่น้ำตาล
“ผมยกห้องนี้ให้คุณละกัน อุตส่าห์เปิดไว้หวังจะเชยชมเธอซะหน่อย แต่กลับผิดแผนซะงั้น” ว่าจบเขาก็เดินจากไป ทิ้งให้ทั้งคู่ยืนอยู่หน้าห้องเพียงสองคน
เกิดความเงียบระหว่างคนทั้งสอง เขายืนมองหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาด้วยความขัดใจ ผู้หญิงปากดีใจกล้าที่เขาเจอก่อนหน้าหายไปไหนแล้ว
“นี่เธอ” เขาเอ่ยเรียกขณะที่ทำทีเป็นเดินผ่านเธอไป แต่พอหันกลับมาเธอก็ยังยืนอยู่ที่เดิม “จะยืนอยู่อีกนานมั้ย”
“...” ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา เธอยังคงอยู่ในท่าเดิม
“จิ๊...จะรอให้หมอนั่นกลับมาเอาหรือไง” เขารู้สึกไม่สบอารมณ์จึงจิ๊ปากแล้วเดินกลับมาที่เธออีกครั้ง
เขายืนอยู่ด้านหลังของเธอโดยที่เธอไม่สนใจสักนิด ไม่มีท่าทีว่าจะเหลียวมอง หรือแสดงให้เขารู้ว่าเธอรู้ว่าเขายืนอยู่
หมั่บ!
เพี๊ยะ!!
มือเล็กฟาดไปบนใบหน้าของเขาอย่างแรงด้วยความโกรธ เธอโกรธเขาจนตัวสั่นจนลืมไปว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่อาจจะทำให้เขาโกรธและทำร้ายเธอ แต่เวลานี้ใครจะสนล่ะในเมื่อเขาทำให้เธอตกอยู่ในสภาพนี้
“อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ” เธอตวาดใส่เขา “คุณไม่ใช่เจ้าชีวิตของฉัน คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง”
เสียงสั่น ๆ ของหญิงสาวตรงหน้าทำให้เขาแอบตกใจจนลืมไปว่าเขาเพิ่งโดนเธอตบหน้า แต่ในตอนนี้ภายในใจของเขากำลังสั่นไหว เขาทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งโดยการผลักใสให้เธอไปกับผู้ชายแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จัก หากแม่ของเขารู้เขาคงโดนแม่โกรธแน่ ๆ
ปึก! ปึก!
กำปั้นเล็ก ๆ ทุบไปบนอกของเขา เธอโกรธผู้ชายตรงหน้าเหลือเกิน มีสิทธิ์อะไรมาทำกับเธอแบบนี้
“คุณมันเลว...ฮึก ๆ” เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“อย่ามาทำเป็นเล่นตัว เธอเองไม่ใช่เหรอที่เสนอตัวให้ฉัน” เขาจับแขนของเธอไว้พร้อมทั้งต่อว่าเธอ
“ใช่...ฉันเองที่เสนอตัวให้คุณ” เธอเงยหน้ามองเขา แม้ภาพด้านหน้าจะไม่ชัดเจน เพราะโดนน้ำตาที่เอ่อล้นอยู่ในดวงตาบดบังก็ตาม “แม้ว่าคุณจะไม่ต้องการ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ยกฉันให้คนอื่น”
“ที่เข้าหาฉันไม่ใช่เพราะเงินเหรอ หมอนั่นก็เงินหนานะ” แม้จะตกใจ แต่เขาก็ยังคงหาข้ออ้างมาโทษเธอ
“คุณยังไม่รู้จักฉันดีพอ คุณจะมาว่าฉันแบบนี้ไม่ได้นะ” อยู่ ๆ น้ำตาลก็รู้สึกแปลก ๆ มันหวิว ๆ เหมือนจะวูบ หรือเป็นเพราะเธอรีบออกมาจนไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่ตอนเย็น
“ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อเธอเอาแต่เสนอตัวให้ฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะเงินและเพราะอะไร...หา!” เขาขมวดคิ้วใส่เธอ “เธอจะให้ฉันเอาเธอฟรี ๆ หรือเปล่าล่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันจะได้เปลี่ยนความคิดซะใหม่”
“...” ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา แต่หน้าของน้ำตาลกลับซบลงไปตรงอกของเขาก่อนตัวของเธอจะค่อย ๆ ทรุดลง
หมั่บ!!
ไคล์ที่สังเกตเห็นอาการแปลก ๆ ของน้ำตาล เขารีบคว้าตัวเธอไว้แล้วอุ้มขึ้น
“นี่เป็นวิธีอ่อยของเธอเหรอ” เขาพึมพำออกมาเบา ๆ แม้ว่าคนในอ้อมแขนจะหมดสติไปแล้วก็ตามแต่เขาเองก็อดคิดไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมีแผนอะไรอีก
ไคล์ไม่ได้พาน้ำตาลเข้าไปในห้องพักที่คู่ค้าของเขายกให้ แต่เขากลับพาเธอออกไปทางด้านหลังของโรงแรมเพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกต
“เกิดอะไรขึ้นครับ” ทันทีที่ลูกน้องหันมาเห็นว่าเจ้านายของเขากำลังอุ้มผู้หญิงเดินมาที่รถด้วยตัวเอง เขาก็รีบวิ่งเข้าไปเพื่ออาสาจะช่วย “ส่งมาให้ผมครับ”
“นายไปเปิดประตูรถ”“ครับบอส”
ไคล์วางน้ำตาลลงตรงเบาะด้านหลัง ก่อนจะถอดเสื้อสูทของตัวเองคลุมตัวให้เธอ
“หาผ้าเย็นให้ฉัน” ขณะพูดก็ปัดปอยผมบนใบหน้าหวาน
“ครับบอส”
“ยาทาแก้ฟกช้ำด้วย”
“ครับบอส”
หลังปฐมพยาบาลเสร็จเรียบร้อยเขาก็พาน้ำตาลกลับคอนโดของเขา เพราะไม่รู้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหน หรือแม้แต่ทำงานอะไร กระทั่งชื่อของเธอเขาก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำ
เขาวางเธอลงบนเตียงในห้องที่อยู่ติดกับห้องของเขา ก่อนจะจัดการห่มผ้าให้เธอ หลังจากนั้นก็ถอยออกมาแล้วยืนมองหน้าคนที่หลับสนิท
“คงจะเหนียวตัวน่าดู แต่จะให้ฉันเปลี่ยนผ้าให้เหรอ ไม่มีทาง” เขากอดอก รู้สึกไม่พอใจเมื่อคิดถึงหลาย ๆ เหตุการณ์ที่เธอทำกับเขา
ยังมีอีกเรื่องที่เขาไม่เข้าใจ ครั้งก่อนเธอเข้ามาในห้องนี้กับเขาได้ยังไง ปกติบอดี้กร์ดของเขาจะรู้ว่าเขาไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าออกที่นี่เด็ดขาด ไม่ว่าใครก็ตามหากเขาไม่อนุญาต แล้วทำไปผู้หญิงต่างชาติคนนี้ถึงเข้ามาได้ ที่น่าแปลกใจอีกอย่างคือ ทำไมเขาไม่เอาเธอไปทิ้งที่โรงแรม พาเธอกลับมาในพื้นที่ส่วนตัวของเขาทำไม
“ฉันคงเสียสติไปแล้ว เพราะเธอคนเดียว” เขาโทษเธอ “คืนนี้ฉันจะปล่อยให้เธอหลับอย่างสบายใจ ส่วนพรุ่งนี้ฉันจะล้วงความลับจากเธอให้ได้คอยดู”
ปัง!!
ว่าจบเขาก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้คนที่นอนอยู่บนเตียงสับสน เธอได้ยินทุกอย่างที่เขาพูดเพราะเธอรู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่เขาพาเธอเข้ามาในห้องนอนแล้ว เพียงแต่เธอไม่กล้าลืมตาขึ้นมามองเขา
น้ำตาลคิดว่าถ้าเธออยู่ถึงพรุ่งนี้แผนของเธออาจจะสำเร็จ คืนนี้เธออาจจะย่องเข้าไปหาเขาในห้องแล้วปิดงาน แต่นั่นก็หมายความว่าชีวิตของเธอคงจะสั้นลงด้วยเช่นกัน ดีไม่ดีเธออาจจะหมดลมหายใจก่อนจะทำงานสำเร็จ
“ฉันควรต่อลมหายใจของตัวเองไปอีกสักพัก” เธอบอกตัวเองเบา ๆ
น้ำตาลกลิ้งไปกลิ้งมาเพื่อซึมซับความนุ่มสบายของที่นอนและผ้าห่ม เธอจะมีโอกาสได้ซื้อของราคาแพงแบบนี้เข้าห้องหรือเปล่านะ หรือยังคงต้องใช้ชีวิตประหยัดต่อไป ทำงานทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ได้นอนและค่อย ๆ ตายไป
“ไม่เอาน่า...คิดอะไรฟุ้งซ่านล่ะเนี่ย เสร็จงานนี้ฉันจะตั้งใจเก็บเงินซื้อบ้าน และอยู่กันอย่างมีความสุขกับน้องชายเจ้าปัญหาของฉัน” เธอเพ้อฝัน “ก่อนอื่นคืนนี้ต้องออกไปจากที่นี่ก่อน”
วาเลนไทน์หมุนเวียนมาอีกรอบ หญิงสาวในชุดสีชมพูกำลังอุ้มเด็กน้อยวัย 6 เดือนเดินเข้าไปในบริษัท เนื่องจากผู้เป็นสามีต้องเข้าประชุมด่วนเขาจึงออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดและสั่งให้บอดี้การ์ดพาภรรยาและลูกตามมา“เชิญคุณน้ำตาลพาคุณหนูเข้าไปรอให้ห้องทำงานของบอสก่อนครับ คาดว่าไม่นานก็ประชุมเสร็จแล้วน้ำตาลเดินเข้าไปในห้อง เธอวางลูกน้อยลงบนเบาะนุ่ม ๆ ที่ถูกเตรียมไว้ ภายในเบาะมีของเล่นมากมาย เรียกได้ว่าตอนนี้ห้องทำงานของไคล์แทบจะเป็นที่สำหรับเลี้ยงเด็กเล็กก็ว่าได้น้ำตาลมองไปรอบ ๆ เธอจำได้ว่าห้องนี้คือที่ที่เธอมีจูบแรกกับเขา ไม่รู้เขาจะจำได้หรือเปล่า คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องทั้งหมดมันจะลงเอยแบบนี้ก็อก! ก็อก! ก็อก!แกร็ก!เสียงประตูทำให้น้ำตาลหันไปมองทันที เมื่อเห็นพนักงานสาวที่เคยปกป้องเธอจากหลินหลินในวันนั้นเธอก็ยิ้มกว้างให้กับหญิงสาว“ฉันจะเข้ามาถามว่าคุณน้ำตาลอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ”“ขอบคุณมากค่ะ แต่ฉันทานอาหารเช้ามาเรียบร้อยแล้ว”“ถ้าคุณต้องการอะไรเพิ่มเติมเรียกดิฉันได้เลยนะคะ”“ค่ะ”“จา! จา!” ไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เดินออกจากห้องเด็กน้อยก็ส่งเสียงทักทาย จึงทำให้เธอรีบหันกลับมาทันที“คุณหนู” พนักงา
ในห้องคลอดบรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความวิตกกังวล แต่ยังคงมีความหวังที่แฝงอยู่ในจิตใจของเขา เสียงเครื่องตรวจสอบการเต้นของหัวใจของทารกยังคงดังอย่างต่อเนื่อง เสียงหายใจหนักๆ ของน้ำตาลที่พยายามควบคุมตัวเองอย่างสุดความสามารถน้ำตาลนอนอยู่บนเตียง ร่างกายของเธอเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ความเจ็บปวดจากการปวดท้องคลอดทำให้เธอกุมมือไคล์ไว้แน่น ใบหน้าของเธอซีดแต่เปี่ยมด้วยความกล้าหาญ น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาตามข้างแก้มเมื่อเธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ยังคงคืบคลานมาอีกระลอก“ไม่เป็นไรนะครับ” ไคล์เกลี่ยน้ำตาและเช็ดเหงื่อบนใบหน้าให้เธอไปพร้อม ๆ กัน “หายใจเข้าลึก ๆ ครับ”ไคล์ขอเข้ามาในห้องคลอด เขายืนอยู่ข้างเตียงไม่ยอมห่างไปไหน จับมือน้ำตาลไว้แน่น สายตาของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใยและความกังวล เขาพูดเบาๆ กับเธอ“ที่รัก ผมอยู่ตรงนี้แล้วนะ” เสียงของเขาแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความรักที่ยิ่งใหญ่พยาบาลคอยให้คำแนะนำ และเตือนให้น้ำตาลหายใจลึกๆ เพื่อคลายความเจ็บปวด ก่อนจะบอกให้เธอกลั้นหายใจและเบ่งในช่วงเวลาสำคัญ การเคลื่อนไหวที่ทุกคนต่างรอคอยเริ่มต้นขึ้น“อุแว้!! อุแว้!!”เสียงร้องแรกของท
“ผมมีบางอย่างให้คุณ” ไคล์พูดขณะที่วางน้ำตาลลงบนที่นอน เขาเริ่มอุ้มเธอตั้งแต่ออกจากลิฟต์ จนมาถึงห้องพัก“อะไรคะ”“มีช่วงหนึ่งที่ผมไม่ค่อยได้อยู่กับคุณ” เขาเดินไปหยิบซองเอกสารบางอย่างแล้วเดินกลับมาหาน้ำตาล“...”“ช่วงที่คุณเพิ่งรู้ว่าท้องแต่ไม่ยอมบอกผม”“คุณไปไหนคะ” เธอจำได้ว่าช่วงนั้นเขาหายหน้าหายตาไปบ่อยมาก จนเธอคิดว่าเขาแอบไปอยู่กับคนรัก“ผมไปประเทศไทย”“...” ผู้หญิงคนนั้นก็อยู่ที่ประเทศไทย“ผมไปโรงพยาบาลที่คุณเคยทำงาน เพราะผมรู้มาว่าคนที่นั่นเล่นสกปรกกับคุณ” หลังจากรู้เรื่องของน้ำตาลมากขึ้น เขาก็ตามเอาคืนคนที่แกล้งเธอทุกคนอย่างสาสม“คุณทำอะไรพวกเขาคะ” น้ำตาลตกใจไม่น้อยที่ได้ยินแบบนั้น“ผมแค่ทำเหมือนที่พวกเขาทำกับคุณ”“คุณไม่ได้ฆ่าใครใช่มั้ย” น้ำตาลถามออกไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เธอกลัวว่าเขาจะทำแบบนั้นกับใครสักคนที่เธอเคยรู้จัก“ตั้งแต่คุณขอไว้ ผมก็ไม่ทำแบบนั้นอีกเลย”“ขอบคุณนะคะ” เธอกอดเอวเขาไว้ รู้สึกโล่งใจที่ไม่มีใครตายเพราะเธอ“ตอนนี้คุณมีสิทธิ์ในโรงพยาบาลนั้นครึ่งหนึ่ง”“คุณเอามันมาได้ยังไง” น้ำตาลก้มมองเอกสารที่ไคล์ยื่นมาให้เธอ ในนั้นระบุว่าเธอเป็นผู้ถือหุ้นของโรงพยาบาลที่เธอเคยทำ
“แต่งงานกันนะ”ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว ประโยคนี้ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของน้ำตาล วันนั้นเธอดีใจจนไม่ทันได้คิดไตร่ตรองว่าหากรับปากแต่งงานแล้วชีวิตของเธอจะเป็นยังไง แต่วันนี้ความคิดนั้นของเธอได้มลายหายไป เมื่อตลอดสองอทิตย์ที่ผ่านมาเขาทำให้เธอเห็นแล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนหนึ่ง“คิดดอะไรอยู่ครับ” วงแขนกว้างโอบกอดหญิงสาวจากด้านหลัง พลางกดจูบลงไปบนไหล่มน“คิดว่าวันนี้ใช่ความฝันหรือเปล่า”“...” ไคล์เอียงหน้ามองภรรยาของเขา“ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มาอยู่ตรงนี้กับคุณ ไม่คิดว่าคุณจะให้เกียรติฉันมากขนาดนี้ ทั้งที่บนโลกใบนี้มีผู้หญิงมากมายที่เหมาะกับคุณ แต่คุณก็เลือกฉัน”“...”“ฉันทำผิดต่อคุณ จนไม่กล้าคิดว่าคุณจะให้อภัยฉันได้ แต่คุณก็ยังให้อภัย”ไคล์จับให้น้ำตาหันมาเผชิญหน้ากับเขา มือข้างหนึ่งเชยคางของน้ำตาลให้เงยหน้ามาสบตากับเขา“เพราะผมรักคุณ รักกว่าอะไรทั้งหมดที่ผมมีในตอนนี้”“...”“ผมไม่อยากให้คุณกังวลอะไร วันนี้เป็นอีกวันสำคัญของเราสองคนนะครับ ทุกคนกำลังรอชื่นชมความงามของเจ้าสาวอยู่”“แล้วพ่อของคุณล่ะ พิธีคริสต์ท่านจะมาด้วยหรือเปล่า”เนื่องจากตอนเช้าทั้งคู่ได้จัดพิธีแบบจี
บนถนนที่ทอดยาวออกไป ชายหนุ่มที่เคยใช้ชีวิตเร่งรีบมาตลอด วันนี้ไม่รู่อะไรดลใจให้เขาออกมาเดินบนถนน สายตาคมที่กวาดมองไปรอบ ๆ ก็สังเกตเห็นการแต่งตัวของผู้คนมากมายที่เดินสวนไปมา ทำไมพวกเขาถึงแต่งตัวด้วยโทนสีชมพู“วันนี้วันที่เท่าไหร่”“14 กุมภาพันธ์ ครับ”“วันวาเลนไทน์ใช่มั้ย”“โทรหาคุณเจียให้หน่อย” เขาหันไปบอกเซียวหม่า “แล้วถามว่าวันนี้ฉันมีนัดกับลูกค้าหรือเปล่า ถ้ามีบอกว่าให้เลื่อนนัดไปก่อน”“ครับบอส”ไคล์ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงระหว่างรอให้เซียวหม่าโทรหาเลขา เขาหันไปเห็นคู่รักหลายคู่ที่แสดงความรักต่อกัน ก็ยิ่งชวนให้คิดถึงหญิงสาวที่เขาเพิ่งแอบไปหามาเมื่ออาทิตย์ก่อนเขาตั้งใจว่าจะไปหาเธออีกครั้งหลังจากที่เขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แต่เพราะความคิดถึงมันล้นออกมาจนยากที่จะเก็บกักความรู้สึกนั้นไว้ได้ วันนี้เขาจึงตั้งใจไปหาเธออีกครั้งณ.บ้านเช่าหลังเล็กที่เขาเคยมาครั้งหนึ่งตอนที่เจ้าของบ้านนอนหลับสนิท แต่เวลานี้กลับเงียบสงัดไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว“วันนี้วันวาเลนไทน์ ร้านคงจะปิดช้ากว่าปกติครับ”“วันวาเลนไทน์แบบนี้ยังต้องทำงานอีกเหรอ”“ถึงจะเป็นวันวาเลนไทน์ก็ยังคงเป็นวันทำงานครับ ไม่ใช่ว
หลังจากที่ไคล์พักรักษาตัวจนหายดี เขาก็เริ่มกลับไปทำงาน แต่ทุก ๆ ตอนเที่ยงเขาจะพาน้ำตาลออกไปทานข้าวด้วยกันทุกครั้ง เขาไม่เคยปล่อยให้เธออยู่บ้านโดยไม่มีเขาเลยสักครั้ง“รีบ ๆ สิครับ”“รีบไปไหนกันคะ”“ผมมีที่ที่อยากจะพาคุณไป”“อะไรกันคะ คุณทำให้ฉันกังวลนะ”“ผมมีพิรุธขนาดนั้นเลยเหรอ”“ก็คุณดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ สีหน้าของคุณดูง่ายจะตาย”“แสดงว่าที่ผ่านมาคุณอ่านความคิดของผมออกหมดเลยเหรอ”“เปล่าหรอกค่ะ เพราะก่อนหน้านี้แม้แต่หน้าของคุณฉันยังไม่กล้ามอง แล้วฉันจะสังเกตได้ยังไง”“แล้วตอนนี้ล่ะ”“ก็มองทุกวันไงคะ มองจนจำได้หมดแล้วว่าถ้าทำปากแบบนี้” เธอดึงแก้มของสามีจนปากของเขาเป็นเส้นตรง “แสดงว่ากำลังงอล”“รักคุณจังเลยครับ”“ไม่เบื่อบ้างเหรอคะ”“หรือคุณเบื่อที่จะฟังแล้ว”“ไม่เลยค่ะ ฉันฟังได้ทุกวัน”“ผมก็บอกรักคุณได้ทุกวัน ไม่เบื่อเลย”“คุณสั่งตัดชุดมาให้ฉันอีกแล้วเหรอ”“ครับ” เขาเดินเข้าไปช่วยน้ำตาลรูดซิปด้านหลัง “ก็ท้องของคุณเริ่มโตแล้ว”“พอคลอดแล้วฉันจะเอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปไว้ที่ไหนละคะ”“จะกังวลไปทำไมครับ คลอดเสร็จก็ท้องอีก”“อะไรนะ”“เราจะมีลูกด้วยกันสักห้าคนดีมั้ย”“คุณท้องเองมั้ยล่ะคะ ถ้าท้องเองจะ