Episode 23
หวง
“เย็นนี้ ปาร์ตี!”
“ปาร์ตีไรวะ ไม่เอา เหนื่อยสุด!” ยัยลูกปลาขัดฉันแทบจะทันที พูดเลยว่าวันนี้กว่าจะเลิกเรียนได้พวกเราก็น่วมกันหมดแล้ว
รวมถึงฉันที่หลับไปไม่รู้กี่รอบ ช็อปออนไลน์หมดไปไม่รู้กี่บาท
“อื้อ ๆ ลูกพีชก็ไม่ไปนะ อยากนอน” อะ ลูกพีชก็อีกคน
คราวนี้ฉันจึงหันไปมองแสนดีกับไอดี พวกมันทั้งสองต่างก็ส่ายหน้า
อะจ้า โดนเท
ทำไมเวลาฉันอยากเพื่อนไม่อยู่ข้าง ๆ บ้างอะ ขอน้อยใจได้ไหม
“ไรวะ” บ่นกระปอดกระแปดแล้วหันไปหาคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ “เอาไง สองคนไหม”
“ยังไง ๆ ไม่มีเพื่อนก็อยากนะ” ไม่ทันที่ฮีลมันจะตอบยัยลูกปลาก็แซวขึ้น จะอะไรนักหนายัยนี่! ฉันแค่อยากเมา
“อยากเมาค่ะ” ฉันตอบอย่างมั่น ๆ ก่อนหันไปตบบ่าฮีลสองสามที “เจอกันนะ”
ว่าจบก็เดินออกมาอย่างเฉิดฉาย ทว่าก้าวออกไปได้ประมาณร้อยเมตรก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ตัวเองไม่ได้เอารถมา จึงหันกลับไปหาพวกเพื่อนซึ่งตอนนี้เหลือเพียงฮีลและลูกปลาเพราะทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว
“ลูกปลา กลับด้วยดิ”
“ฉันจะแวะออฟฟิศผัว” ลูกปลาตอบกลับ ยัยคนนี้นี่ กลายเป็นคนติดผัว 2021 ไปแล้ว
ได้ยินแล้วก็บิดปากใส่เล็กน้อย ในเวลาเดียวก็เห็นน้องฟางกำลังเดินตรงมาทางนี้ แล้วก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่ลูกปลามันลั่นคำบางคำออกมา “กลับกับผัวแกดิ”
“ไปค่ะผัวขา กลับไปนอนกอดกัน” ยกแขนข้างหนึ่งตวัดคอฮีลเอาไว้แน่น พร้อมกันนั้นก็ใช้ดวงตากลมโตมองทอดไปยังร่างแน่งน้อยซึ่งหยุดชะงักฝีเท้าไปแล้ว
“ออกตัวแรงจังนะเดี๋ยวนี้” คนพูดประโยคนั้นคว่ำปากลงคล้ายคลึงกับฉัน
“อ๊ะ ๆ อย่านะคะ อย่านะคะ ท่านี้สงวนไว้เฉพาะมินนี่คนสวยเท่านั้นค่ะ”
“หวงกระทั่งท่าเบะปากได้อะเนอะ” ลูกปลาแซะเบา ๆ แววตาสีน้ำตาลเคลื่อนไปมองคนข้าง ๆ ฉัน “แล้วคนที่กอดคออยู่อะ หวงด้วยป้ะ?”
“ไม่เสือกค่ะ รีบกลับไปหาผัวเลยนะคะ”
“กอดแน่น ๆ ล่ะ”
ลูกปลาพูดทิ้งท้ายก่อนเดินออกไป อะไรของมันวะ อะไรคือการกอดแน่น ๆ พูดอย่างกับว่าฮีลมันจะหลุดลอยไปไหน
อืมก็…สัญญาณมันก็มาแล้วแหละ แต่ไม่รู้มันจะขี้ขลาดไปได้อีกนานแค่ไหน
ฉันมองตามแผ่นหลังของยัยลูกปลาไปด้วยสีหน้ามีคำถาม ก่อนเคลื่อนดวงตาไปมองน้องฟางหญ้าที่เห็นว่าฉันกำลังแนบชิดฮีลอยู่น้องมันถึงไม่ยอมเข้ามา แต่ไม่ได้หมายความว่านางจะถอยนะจ๊ะ น้องฟางคนงามยังคงส่งยิ้มให้ไอ้ฮีลอยู่จ้า
“เมียน้อยมาน่ะ” รั้งต้นคอของคนตัวสูงให้ขยับตัวเข้ามาเบียดเสียดมากขึ้นแล้วกระซิบบอก “ไว ๆ นะ ต้องเอารถไปซ่อมอีก”
ว่าจบก็ปล่อยแขนออกจากคอ ก่อนกระชากกุญแจรถมันมาถือไว้แล้วก้าวเดินฉับ ๆ ผ่านหน้าน้องฟางหญ้าไปแล้วสตาร์ตรถรอ จนในที่สุดร่างสูงก็มา
“นาน!” ฉันบ่นเสียงงัวเงีย ถึงไม่ได้จับเวลาแต่ถ้าฉันหลับไปตื่นหนึ่งขนาดนี้ก็อาจจะนานเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
“…” อะ มันเงียบ
เข้าสู่โหมดอมพะนำอีกแล้ว
ปล่อยให้ฮีลมันน้ำลายบูดไปส่วนตัวเองก็ยกแขนบิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้วคาดเข็มขัด สั่งมันสั้น ๆ ว่า “ขับนิ่ม ๆ” แล้วหลับต่อ
“มินนี่!” เสียงฮีลเรียกให้ฉันตื่นขึ้น จึงค่อย ๆ กะพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับโฟกัส พอผงกหัวขึ้นหน้าผากของฉันก็ชนกับปลายจมูกของฮีล มันสบโอกาสก็สูดกลิ่นตัวฉันเข้าไปหนึ่งฟอด
“ถอยไป!” จะมาใกล้อะไรนักหนา
ฮีลถอนตัวออก นั่นทำให้ฉันมองเรื่อยเปื่อยออกไปข้างนอก จึงรู้ว่ารถจอดสนิทอยู่ตรงลานจอดรถของคอนโดแล้ว
“เฮ้ย! รถหาย” ซวยอะไรเยี่ยงนี้ เมื่อเช้ายางแบนพอตกเย็นรถหาย
ฉันรีบควานมือหากุญแจรถในกระเป๋าเพื่อกดสัญญาณ เผื่อว่าตัวเองจะเข้าใจผิดว่าจอดไว้ชั้นนี้
“ฉันโทรเรียกอู่มารับไปซ่อมแล้ว” ฮีลตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย นั่นทำให้ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อยากขอบคุณมันนะ แต่ว่ามันจะทำอะไรก็ควรต้องบอกฉันสักหน่อยไหมล่ะ เพราะมันเป็นของของฉัน ลำไย! กับท่าทีอมพะนำของมันจริง ๆ เลย
วุ!
“ของของฉัน คราวหลังไม่ต้อง” มันจะเกินเลยไปละ ขนาดกุญแจรถซึ่งอยู่ในกระเป๋าฉันมันยังล้วงเอาไป
เกินเบอร์!
“หวังดี”
“ก็รู้! แต่มันก้าวก่ายเกินไป นี่กระเป๋าฉันนายไม่ควรมายุ่ง!”
“อืม” ตกปากรับคำสั้น ๆ แล้วทุกอย่างก็เงียบไป ฉันจึงเปิดประตูรถแล้วเดินหนี
เพราะนอนไปมากแล้ว ดังนั้นพอกลับถึงคอนโดฉันจึงอาบน้ำแต่งตัวหอม ๆ วันนี้ไม่มีเพื่อนดื่มงั้นก็ขอไปนั่งดื่มชิล ๆ ร้านตรงหน้าคอนโดเอาละกัน อีกฝั่งของถนนมีร้านเปิดใหม่ คนเยอะมากแถมยังครึกครื้นดีเป็นบ้า หนุ่ม ๆ เฟรชชี
คงจะเยอะน่าดูหุหุ เดี๋ยวจะไปมองให้หนำใจเลย
ว่าแล้วก็หยิบอายพาเลตมาแต่งตาเฉี่ยว ๆ เอาแบบชนิดที่ว่าต่อให้ผู้ชายในร้านนั่งห่างออกไปสองร้อยเมตรก็สามารถสะกดสายตาได้
จะว่าไปก็ไม่ได้มีโมเมนต์นี้นานแล้วเหมือนกันนะ วันนี้ต้องไปบริหารเสน่ห์สักหน่อย
ปล่อยให้ควายมันรับโทรศัพท์น้องฟางหญ้าไป
ฉันเดินเข้ามายังร้านนั่งชิลที่เต็มไปด้วยผู้คน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าร้านเด็ดหรือร้านใหม่คนถึงได้เยอะขนาดนี้ ถัดจากนั้นก็สั่งอาหารไว้สองสามอย่างเพื่อไม่ให้โต๊ะว่าง รวมไปถึงเบียร์อีกสามขวดแก้กระหาย
วันนี้เบา ๆ เพราะนอกจากจะมาคนเดียวแล้ว ฉันยังต้องข้ามถนนกลับคอนโดตัวเองอีกต่างหาก
ดังนั้นจึงตั้งเป้าไว้ว่า ‘เอาแค่หลับฝันดีพอ’ ส่วนสโลแกนไม่เมาไม่กลับเก็บไว้ใช้ตอนมีคนดูแลแล้วกัน
เวลาผ่านไป ฉันจิบเบียร์เบา ๆ แล้วโคลงศีรษะไปกับเสียงเพลงเมื่อรู้สึกอิน ตอนนี้เฟรชชงเฟรชชีอีมินนี่ไม่สนแล้ว เพราะกำลังอิน อินสุด ๆ!
ไม่ใช่อินเพลงนะ
อินหน้านักร้องอะ โคตรหล่อเลยวุ้ย! อีมินนี่อยากได้
ฉันดีดดิ้นอยู่ในใจ มองไปก็กลืนน้ำลายลงคอไปกระทั่งนักร้องคนนั้นเล่นเพลงจบ ร่างสูงของผู้ชายหน้าตี๋จึงเดินมาหาฉันซึ่งนั่งอยู่คนเดียว
“มาคนเดียวเหรอคะ” มะ…แหม เราสบตากันนานแล้ว ถ้ามีคนอื่นเขาก็ต้องเห็นบ้างแล้วสิ
“มาคนเดียวค่ะ” ฉันตอบเขา ก่อนที่นักร้องคนหล่อจะนั่งลง
เอาไงดี ขอแหกกฎ Friends with benefits ดีไหม
นักร้องงานดี อีมินนี่น้ำลายหก
“ทอยครับ” เขาแนะนำตัวเอง ฉันจึงเปรยยิ้มแบบพอดี ๆ แต่เป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุดไปให้ ถัดมาก็บอกชื่อตัวเองบ้าง “มินนี่ค่ะ”
“ชื่อเพราะนะครับ” ชมอะไรอย่างนี้ ขออนุญาตบิดตัว
“ดื่มไหมคะ” ฉันชูแก้วเพื่อเชิญชวน อีกฝ่ายจึงยื่นมือมารับ
“เดี๋ยวใช้แก้วใหม่ดีกว่าค่ะ” เพราะผู้ชายตรงหน้าคือคนแปลกหน้าฉันจึงต้องเว้นระยะห่าง ถึงแม้ในใจอยากจะเข้าไปเบียดเสียดบนเตียงเดียวกันแล้วก็ตาม
หัวใจคนเรามันก็ร่ำร้องแต่อะไรชั่วร้ายอะเนาะ แต่ความตั้งใจของวันนี้คือแค่มามองผู้ชายหล่อเฉย ๆ
ไม่กะเอาค่ะ พอดีมีคนเด็ดอยู่แล้ว
เอี๊ยดดด!
เสียงเลื่อนเก้าอี้ดังขึ้นในตอนที่ฉันหันไปขอแก้วเพิ่ม ทว่าพอหันกลับมา จากในตอนแรกที่จะสั่งหนึ่งก็ต้องสั่งเพิ่มอีกหนึ่ง
“มาไม?” เลิกคิ้วถามคนตรงหน้า มันนี่ตายยากจริงอะไรจริง เมื่อกี้กำลังคิดถึงคนเด็ดอยู่เลย ไม่ทันไรก็มาให้เห็นหน้าเสียแล้ว
“มาดื่มด้วย” อะจ้า ตอบไม่พอตวัดแขนมากอดคอฉันไว้อีก
“ใครอะ”
“นักร้องน่ะ เขามานั่งด้วย”
“ทอยครับ” อะ พี่ทอยก็จะงง ๆ หน่อย เขาคงบ่นในใจไปแล้วว่า ‘ไหนมึงบอกว่ามึงมาคนเดียวไง’ อะไรประมาณนี้แน่ ๆ ซึ่งฉันเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้เหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าฮีลมันจะมา
“ฮีล” ลักษณะการตอบของฮีลไม่ได้ต่างไปจากเดิมนัก น้ำเสียงเรียบนิ่ง ดูไร้ชีวิตชีวา
พี่ทอยอาจจะมองว่าท่าทีแบบนี้คือการเขม่น ทว่ากับฉันแล้วมันคือเรื่องปกติ
“วันนี้จะหาผัวใหม่อีกเหรอ” ฮีลกระซิบข้างหู รั้งตัวฉันให้เขยิบเข้ามาใกล้อีกนิด “ฉันยังเด็ดไม่พอใช่ไหม”
ว่าไป อวดเก่งจริง ๆ
“เปล่าเลย ก็บอกแล้วว่าวันนี้จะดื่ม แต่บังเอิญเขามาคุยด้วย”
“…” คราวนี้คนข้าง ๆ ฉันเงียบไป ก่อนเคลื่อนใบหน้าคมคายไปมองพี่ทอยพร้อมทั้งส่งสายตาเย็นเยียบแบบคาดเดาไม่ได้
สไตล์เดิมแหละ
“ยังโกรธอีกเหรอ” พอเงียบไปไม่นานก็พูดขึ้น ใช้น้ำเสียงปกติไม่ได้กระซิบเหมือนอย่างตอนแรก คล้ายจงใจให้พี่ทอยได้ยิน
“ถ้าโกรธก็ขอโทษ”
“อือ” ฉันตอบรับสั้น ๆ พี่ทอยจึงยกแก้วขึ้นดื่มรวดแล้วขอตัวลุกออกไป
กันซีนเก่ง
หวงร่างกายฉันอีกอะดิ มันต้องกลัวว่าฉันจะไปทำกับคนอื่นแน่ ๆ
“คุยกับน้องฟางเสร็จละไง”
“อืม”
“ถามจริง?” ฉันเลิกคิ้วถาม ดวงตาเริ่มเลื่อนลอยไม่มีจุดโฟกัส จากตอนแรกกะเบา ๆ แต่พอไอ้ฮีลมาฉันก็สั่งเบียร์เพิ่มกรุบ ๆ
“…” เงียบอีกแล้ว เลือกที่จะใช้แววตามีคำถามสื่อสารกลับมาแทน
“เชื่อน้องมันเหรอ เรื่องแผนบ้า ๆ แล้วเอาความน่าสงสารกับความเดียงสามาเป็นข้ออ้างอะ”
“ก็ช่วยน้องมันไป”
“โง่!” ฉันพูดออกมาดัง ๆ เมื่อเช้าด่ามันในใจไปแล้วแต่ถ้ามันจะหน้าโง่ขนาดนี้ก็ต้องด่าดัง ๆ แล้วละ
“หวง?” ในตอนที่พูดคำนี้มันก็หันมาเลิกคิ้วใส่ ฉันจึงเบะปากสวน
“การที่ฉันด่านายแปลว่าฉันหวงเหรอ” งงนะ ตรรกะอะไรของมันวะ
“หวงฉันบ้าง” มันอ้อนวอน แต่ทำไมฉันต้องหวงมันด้วย “ฉันยังหวงเธอเลย”
ดะ….เดี๋ยวนะ!
What?
จู่ ๆ ก็บอกด้วยน้ำเสียงอ่อยเหมือนวันนั้นแล้วบอกให้ฉันหวงกลับ แบบนี้คืออะไร
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น