Episode 49
คุณเมาส์
ติ๊งหน่อง! ติ๊งหน่อง!
กดกริ่งอยู่ตรงหน้าบ้านหลังใหญ่แล้วรอเจ้าของบ้านออกมารับ เราสองคนนั่งกันอยู่ในรถ รอไม่นานประตูบานเลื่อนก็เปิดออก จากนั้นจึงขับเข้าไปจอดในโรงจอดรถของบ้าน โดยมีรปภ.โบกมือให้บอกตำแหน่งที่เหมาะสม
หลังก้าวเท้าลงจากรถฉันก็มองไปรอบ ๆ นานมากแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้มาที่นี่
“คุณคลาสรออยู่ข้างในค่ะ” เสียงแม่บ้านที่เดินออกมารับเอ่ยบอก ฉันกับฮีลพยักหน้ารับและเดินเข้าไปในบ้าน
“ไง”
“หวัดดีครับพี่” ฮีลยกมือไหว้อย่างนอบน้อมฉันจึงยกมือตาม ก่อนที่พี่คลาสจะผายมือบอกให้นั่งลง คนตัวสูงจึงรีบคว้าที่ต้นแขนแล้วออกแรงรั้งให้ฉันนั่งลงข้าง ๆ
ไม่นั่งธรรมดา นั่งเบียดมาก
“มีอะไรหรือเปล่า” พี่คลาสถามเสียงนิ่ง ๆ ดูไม่ยินดียินร้าย เขาเป็นคนเฉย ๆ ตามสไตล์ จะว่าไปนิสัยก็คล้ายไอ้ฮีลอยู่เหมือนกันนะ แบบนี้จะคุยกันรู้เรื่องไหมเนี่ย
“ผมมาธุระเรื่องไอ้เก่งครับ”
“แล้ว?”
“ผมขอ ผมต้องเอามันเข้าคุก”
“พอดีมันเป็นเพื่อนพี่”
“ผมก็เป็นน้องพี่”
“หึ!” พี่คลาสสบถในลำคอ บทสนทนาของทั้งสองคนไม่ได้เดือดอะไร เพียงแค่โต้ตอบกันแบบนิ่ง ๆ ทว่ากลับทำให้ฉันขนลุกซู่
“ผมไม่ยุ่งเรื่องพี่กับพี่ฮัท” ฟังแค่นั้นคนนิ่ง ๆ ก็เหมือนจะมีปฏิกิริยาเล็กน้อย แอบรู้สึกว่าหางคิ้วของพี่คลาสกระตุกขึ้นนิด ๆ ฉันที่นั่งฟังอยู่เงียบ ๆ จึงเตรียมที่จะช่วยพูด ทว่าไม่ทันการณ์เสียแล้ว “แต่ผมยังเป็นน้องพี่”
“เอาจริงก็ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นคนแจ้งเพราะพี่ให้พ่อช่วยจัดการ พี่ก็แค่ช่วยไอ้เก่งแค่นั้น”
“ครับ ถ้างั้นผมขอล่ะ ไอ้เก่งมันผิด” พี่คลาสเงียบไปเหมือนกำลังใช้ความคิด สีหน้าที่ดูหนักใจทำให้ฉันต้องพูดอะไรบางอย่างออกมา
“ถ้าตัดสินใจยากก็ช่วยฟังอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้ครับ” น้ำเสียงพี่คลาสหวานมาก คราวนี้หางคิ้วไอ้ฮีลกระตุกเลย
“ได้ดูคลิปยัง”
“ยังครับ”
“นั่นแหละ ผู้หญิงคนนั้นเป็นมิน มันกับมิรินน้องสาวนอกไส้ร่วมมือกันจะวางยาและจะข่มขืนมิน ทำให้มินเจอเรื่องแย่ ๆ โดยการอัดคลิปเพื่อปล่อยให้อับอาย!” พูดถึงเรื่องนั้นร่างกายของฉันก็เริ่มสั่น ขอบตาร้อนผะผ่าว น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ตั้งใจไว้ว่าก่อนที่มันจะเข้าคุกฉันต้องได้จัดการมันด้วยตัวเองสักครั้ง
“ทำไมไม่บอกให้ไวกว่านี้!” พี่คลาสขึ้นเสียงใส่ เวลานี้คนนิ่ง ๆ กลายเป็นคนใจร้อนไปเลย
ที่ปล่อยให้มันช้าแบบนี้เพราะอยากให้ไอ้ฮีลมันได้พยายามสักหน่อย เพราะเห็นว่ามันตั้งใจมากที่จะมาเคลียร์กับพี่คลาส “ก็บอกแล้วนี่ไง”
“ช้า!” เขาสบถ
“แล้ว...”
“ไม่เป็นอะไร ฮีลไปช่วยไว้ทัน”
“ครับ” ตอบรับแล้วเบนสายตาคมกริบไปหาฮีล “แล้วสองคนนี้ยังไง”
“เป็นผัวเมียกันครับ” กำลังจะอ้าปากตอบฮีลก็ชิงตอบแทนฉันเสียก่อน นั่นทำให้ฉันค้างปากไว้อย่างนั้นอยู่ครู่หนึ่ง คือมันบอกว่าแฟนก็ได้ไหม ทำไมต้องใช้คำว่า ‘ผัวเมีย’
หูยยย! ฉันเสียหาย
พี่คลาสถอนหายใจ คล้ายเดาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นออกเล็กน้อยว่ามันกำลังแสดงความเป็นเจ้าของ อาจจะเพราะรู้ว่าฉันกับพี่คลาสเคยจะคบกันในช่วงวัยมัธยม ทว่าความก็มาแตกเสียก่อนว่าเราเป็นญาติกัน
ปู่ของฉันก็เจ้าชู้ไม่ต่างจากพ่อเลย นั่นทำให้ท่านมีบ้านเล็กบ้านน้อยมากมายเต็มไปหมด แม่พี่คลาสก็เป็นลูกสาวของท่านเช่นกัน แต่ดันเป็นลูกนอกสมรสเราจึงไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกัน กระทั่งตอนจีบกันช่วงนั้นนั่นล่ะ
ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวของเราค่อนข้างห่างเหินพอสมควร หมายถึงภายในบ้านอะนะ แต่จริง ๆ ระหว่างฉันกับพี่คลาสก็ไม่ได้แย่หรอก
เอาจริงตอนนั้นก็แอบเสียดาย แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ เพราะฉันมีคนเด็ด!
“คลิปอยู่ไหน” ฮีลถาม จำได้ว่าตอนนั้นที่ฉันเกือบจะโดนทำมิดีมิร้ายก็ถูกบันทึกภาพเอาไว้ได้ หากหลักฐานอันนั้นยังอยู่ แน่นอนว่าพวกมันดิ้นไม่หลุดแน่!
“อยู่กับเลขาฯ ของพ่อ”
“ผมขอ”
“อือ แต่ก่อนอื่นขอซัดหน้าไอ้เก่งหน่อย!”
“ผมจัดการเอง มันทำเมียผม พี่แค่ส่ง Memory Card มาให้ก็พอ” คนขี้หวงอัปเลเวลหนักขึ้นจนฉันต้องถอนหายใจตามพี่คลาสไป เราสองคนประสานสายตาและส่ายหน้าไปพร้อม ๆ กัน
“นี่น้องกู!”
“...”
“มินนี่น้องกู จบไหม!”
กว่าจะอธิบายให้คนขี้หึงได้เข้าใจก็พักหนึ่ง ฉันแวะขึ้นไปหาอาเค้กก่อนลากลับ ส่วนเรื่องคลิปที่เป็นหลักฐานมัดตัวสองคนนั้นเลขาฯ ของอาจะเป็นคนเอามาให้ภายหลัง
“อยากไปกินข้าวบ้านพ่อไหม” เมื่อกลางวันพ่อแวะมาหา แต่ฉันกับฮีลไม่อยู่เพราะต้องไปเคลียร์เรื่องยุ่ง ๆ กับพี่คลาส ดังนั้นฮีลเลยถามแบบนี้
“เอาดิ ซื้อไรเข้าไปนิดหน่อย”
“อือ” แวะซื้อของนิดหน่อยเราสองคนก็ตรงเข้าบ้านพ่อในทันที
“พ่อ!” ฉันเรียกพ่อ ก่อนเดินเข้าไปหาท่าน ตั้งแต่ที่เรากอดกันครั้งนั้นฉันก็ไม่กล้าขอกอดเขาอีกเลย เราสองคนเพียงแค่ยิ้มให้กันก็เท่านั้น
ฮีลยกมือสวัสดีพ่อ ท่านพยักหน้าให้เป็นการรับไหว้แล้วเชิญเข้าไปในบ้าน “เข้าบ้านกัน”
บ้านที่ฉันอยู่มาตั้งแต่เด็ก ๆ ก่อนหน้านั้นเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น ข้าวของทุกอย่างยังคงอยู่ที่เดิมไม่ได้ถูกเคลื่อนออกไปไหน เว้นแต่บรรยากาศที่ดูจะเงียบเหงากว่าเดิมลงไปมาก เพราะนอกจากจะไม่มีฉันกับแม่แล้ว ตอนนี้ก็ไม่มีมิริน
กับแม่ของมันแล้วเหมือนกัน“เอาอะไรมาเยอะแยะเลยลูก”
“ของกินค่ะ วันนี้จะมาทานข้าวที่นี่”
“ดีเลย พ่อยังไม่ทันได้ทานอะไรเลย” พ่อดูดีใจมากที่ฉันมาหา เราสามคนทานข้าวกันก่อนที่ฉันกับฮีลจะถูกชวนให้ค้างคืนที่นี่ เนื่องจากฝนตกหนัก การขับรถในตอนมืดและฝนที่โหมกระหน่ำแบบนี้จึงดูอันตรายเกินไป
“ห้องเธอน่ารักมาก” คนหน้านิ่งพูดออกมาหลังปรายตามองรอบห้อง ก็ห้องนี้ฉันอยู่มาตั้งแต่เด็ก ๆ มันจะมีของน่ารักตามวัยสมัยนั้นก็ไม่แปลก
ร่างสูงจับ ๆ ดึง ๆ ตุ๊กตาเล่น มันคือตุ๊กตาบลายธ์ที่ตัวเล็ก ๆ คล้ายบาร์บี้ทว่าหัวโตกว่า เป็นของสะสมของฉันที่มีอยู่ล้นตู้ “ตุ๊กตาบลายธ์ ฉันชอบมันมากเพราะมันเหมือนฉัน”
พูดแบบนี้ฮีลก็หยิบมันออกมา ก่อนยกขึ้นมาวางเทียบกับหน้าฉัน “ตาโตและหวานเหมือนเธอเลย”
“ประมาณนั้น”
“ของสะสมน่ารักดี”
“แล้วตอนเด็ก ๆ นายชอบอะไรเหรอ” หย่อนสะโพกนั่งก็ถามออกมา ฮีลทำหน้านึก นึกนานเหมือนไม่มีอะไรที่เป็นของเล่นชิ้นโปรดของมันเลย
“ฉันไม่เคยมีของรักของหวงอะไร” นั่นไง จริง ๆ ด้วย “นอกจากเธอ...”
ทว่าคำนั้นทำให้ใบหน้าของฉันร้อนผ่าว นี่มันกำลังหยอดฉันอยู่จริง ๆ ใช่ไหม
“ไม่มีของเล่นชิ้นไหนที่ฉันผูกพันเท่ากับตุ๊กตาบลายธ์ตัวนี้” ชี้มือมาที่ฉันแล้วตอบ ฉันจึงปัดมือมันทิ้งแทบจะทันที
“ฉันไม่ใช่สิ่งของ”
เปรียบเทียบซะ!
“ขอโทษ เธอไม่ใช่สิ่งของแต่เธอเป็นเมีย เมื่อกี้นึกว่าเธอชอบที่ฉันเปรียบเธอเป็นตุ๊กตา เห็นชอบมัน”
“อยากใช้คำน่ารัก ๆ ว่างั้น” เลิกคิ้วถามคนหน้านิ่ง ฮีลทำเพียงแค่พยักหน้าตอบ
“งั้นลองเรียกฉันโดยไม่ใช้ชื่อสิ จะเรียกว่าอะไร” ใบหน้านิ่งมุ่นคิ้ว ท่าทางตรึกตรองราวกับคิดหนักว่าคำไหนจะเหมาะสมกับฉัน เห็นแล้วก็นึกอยากขำออกมา จึงเม้มปากแน่นกลั้นรอยยิ้มตัวเองเอาไว้
“คนดี”
คนดี? เอาจริงดิ มันเห็นฉันเป็นแบบนั้นเหรอ ตอนแรกฉันคิดว่ามันจะบอกว่า ‘ที่รัก’ ‘เบ๊บ’ ‘เบบี๋’ อะไรเทือกนี้เสียอีก แต่สไตล์มันอะเนอะ เหมือนชาวบ้านชาวช่องซะที่ไหนกัน
“ไม่เอา! ฉันไม่ใช่คนดี”
“คุณหนู”
“นายอยากเป็นคนใช้ฉันหรือไง”
“ไม่เป็นคุณหนูงั้นคุณเมาส์ได้ไหม” ‘คุณเมาส์’ งั้นเหรอ อะไรของมันวะ
“หมายถึงอะไรอะ”
“ไว้ค่อยบอก คุณเมาส์ไปอาบน้ำก่อนดึกแล้ว” ฉันก้มหน้าลง แกว่งเท้าไปมาแล้วเอนตัวเล่น จะว่าไปคำนี้ก็น่ารักเหมือนกันนะ ไม่มีใครเหมือนด้วย
ชอบจัง...ทำไมช่วงนี้อะไร ๆ ที่ออกจากปากฮีลถึงได้ดูน่ารักไปหมดเลยก็ไม่รู้
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น