"ฮือ ๆ"
คนร่างเล็กแต่งตัวในชุดเก่ามอซอ ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หน้าโลงของบุพการีทั้งสอง เธอชื่อปรรณพัชร์ เด็กสาวยากจนที่เพิ่งเรียนจบมัธยมปลายที่ต่างจังหวัด สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักอย่างไม่มีวันหวนกลับมา
ท่านทั้งสองถูกรถชน ขณะที่ขับมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างไปร่วมแสดงความยินดี ในวันงานปัจฉิมนิเทศที่โรงเรียน
วันที่เธอเรียนจบคือวันที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต ปรรณพัชร์เอาแต่โทษตัวเอง รู้สึกผิดกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าท่านไม่ไปวันนั้น คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
บิดามารดาของเธอเป็นคนบ้านนอก ขับรถไม่เก่ง ชีวิตลำบากมาตลอด ทำงานรับจ้างหาเงินเลี้ยงดูเธอกับพี่สาว
พอพี่เรียนจบก็ไปทำงานหาเงินที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เรียนต่อ เพราะอยากหาเงินส่งเสียให้เธอได้เรียน อยากหาเงินมาให้พ่อกับแม่ได้สุขสบาย
"ปราณ" มือเล็กวางลงบนบ่าสั่นเทา ปรรณพัชร์ปาดน้ำตาแล้วหันไปมอง เธอโผเข้ากอดพี่สาวเอาไว้แล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
"พ่อกับแม่ไม่อยู่แล้ว ฮือ ๆ ปราณจะอยู่กับใครพี่ปลา ฮือ ๆ ปราณผิดเอง พ่อกับแม่ตายเพราะปราณ"
"มันไม่ใช่ความผิดของน้องเลย ฮึก! ไม่มีใครอยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น"
ปารวี ร้องไห้ออกมาไม่ต่างกัน ทั้งที่จะมาปลอบผู้เป็นน้องให้เข้มแข็ง กลับเป็นเธอที่อ่อนแอ เธอเป็นพี่สาวเพียงคนเดียวของปรรณพัชร์ เธอต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว ทำงานหนักส่งเสียให้น้องเรียน จนกระทั่งเธอจบมัธยมปลาย
มอเตอร์ไซค์ที่ได้มา ก็เป็นเงินที่เก็บออมที่ปารวีส่งมาให้ พอมีรถขับสบายขึ้นมาหน่อย ครอบครัวก็เกิดเรื่องขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นเธอไม่ได้โทษน้องหรือโทษใคร ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น ส่วนคู่กรณีขับรถหนี แจ้งความไปก็ไม่มีอะไรคืบหน้า
"ฮือ ๆ ปราณขอโทษนะพี่ปลา"
"มันไม่ใช่ความผิดของน้อง อย่าโทษตัวเอง" ปารวีลูบศีรษะทุยเล็กของน้องสาวเบา ๆ "เสร็จงานศพพ่อกับแม่ ปราณไปอยู่กรุงเทพกับพี่ พี่จะส่งเสียปราณเรียนต่อเอง"
"ปราณไม่เรียนหรอกค่ะ ฮึก ปราณจะเรียนต่อไปทำไม ให้ปราณได้ทำงานหาเงินช่วยพี่ดีกว่า"
"ปราณต้องเรียนต่อ พี่จะส่งเสียปราณเรียนเอง" ปารวีข่มใจเอาไว้ แล้วปาดน้ำตาให้น้องสาว "พี่จะทำให้พ่อกับแม่ได้เห็น ว่าพี่ดูแลน้องได้ พ่อกับแม่จะต้องภูมิใจ ที่ได้เห็นน้องรับปริญญา"
"พี่ปลา ฮือ ๆ"
"อย่าร้อง ปราณต้องเข้มแข็ง พ่อกับแม่มองมา ท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ท่านไม่ได้ไปไหน ท่านยังอยู่ในหัวใจของเราสองคน"
"...."
"รับปากกับพี่นะ ว่าปราณจะเข้มแข็ง"
"ค่ะ" ปรรณพัชร์พยักหน้า แล้วกอดพี่สาวของตัวเอง
****
หลังจากที่งานศพพ่อกับแม่เสร็จสิ้นไปฉันกับพี่สาวก็เตรียมข้าวของ ฉันไม่ได้มีข้าวของอะไรมาก มีเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นแล้วก็กระเป๋ากับตุ๊กตา
พี่สาวของฉันเก็บเสื้อผ้าให้ประมาณ 3-4 ชุด ส่วนเสื้อผ้าตัวอื่น ๆ ก็ให้เก็บเอาไว้ที่บ้าน บ้านที่ฉันอาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็ก เป็นบ้านทรงหมาแหงน มีสังกะสีผุ ๆ มุงเอาไว้ มันใช้หลบแดดได้ แต่ไม่สามารถใช้หลบฝน
เวลาหนักบ้านจะรั่วเวลาลมกรรโชกแรง แม่ก็จะพาฉันมุดไปอยู่ที่ใต้แคร่เพราะหลังคากลัวบ้านจะพังหล่นมาทับหรือไม้ก็กลัวจะหลุดแล้วปลิวมาปาดคอด
ส่วนฝาบ้านก็ถูกมุงด้วยประการอื่นนอกจากนั้นมันผุและเก่ามาก แต่ส่วนใหญ่นี้ส่วนใหญ่จะมีชีวิตอยู่ในส่วนเล็ก ๆ ของโต...
ชีวิตที่โดดเด่นด้วยความเห็นของฉันฮาร์ดใช้ชีวิตอย่างยากๆ ส่วนใหญ่แต่ในบางครั้งนั้นมันจะต้องกลับมาอีกครั้งเพื่อให้พ่อเรียนกับแม่พยายามทำงานทุกอย่างเพื่อหาเงินมาฉันกับพี่ส่วนหนึ่งของพี่สาวของความรักฉันมาก ยอมจำนนต่อข้อมูลเพื่อให้พ่อเรียนหนังสือ
ฉันเคยเขียนฝันว่าคิดว่าฉันอยากเรียนสูงมีงานดีทำตามปกติมีเงินเสียครอบครัวให้พ่อกับแม่ได้สุขสบาย ๆ และอาจเป็นไปได้ที่ฉันจะดูแลต่อไปก็คือนี่แหละของฉันคนที่ดีเสมอมาพี่ปลาเป็นญาติคนสุดท้ายคนเดียวที่เหลืออยู่
" ชุดมันเก่ามากแล้วพี่จะซื้อให้ใหม่" พี่ปลาพูดแล้วพับเสื้อเก่าของฉันใส่กระสอบไม่จำเป็นต้องถามว่าทำไมไม่ใส่กล่องหรือใส่ตู้บ้านฉันจนแค่พับใส่กระสอบมันก็ดีมากแล้ว
" เคยหรอกค่ะพี่ปลาแนวตั้งใส่ได้อยู่ปราณไม่อยากให้พี่ต้องอธิบาย" ฉันพูดอย่างเชื่อใจ พี่สาวฉันทำงานเป็นเด็กปั๊ม เงินเดือนน้อยนิดหาเงินได้แต่ล่ะเดือนก็จะต้องใช้บ้านเกือบหมดเพื่อให้พ่อแม่ซื้อข้าวสารเสียค่าน้ำค่าไฟส่งมาให้เรียนอีกครั้ง
" เหตุผลที่ว่าทำไมชุดที่ปราณใส่อยู่มันเก่าแล้ว"
" มันเก่าก็ใส่ได้ปราณไม่อยากรบกวนเงินของพี่"
" เหตุผลที่ว่าเราเป็นพี่น้องกันก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้วพี่อาจจะช่วยปราณดูแลปราณ แต่หลังจากนั้นปราณเรียนจบและมีงานดีทำปราณอาจจะได้เป็นคนดูแลพี่ก็ได้"
" เมื่อมาถึงปราณสัญญาครับว่าปรานจะดูแลพี่ปลาเจล" ฉันจะพูดอย่างมาดมั่นตั้งใจเรียนวันพรุ่งนี้ที่ก้าวข้ามที่เจอมาชีวิตเอง
" อื้อ!" พี่สาวของฉันข้อดียิ้มอ่อนๆ อีกครั้งในการพิจารณายิ้มตอบพี่สาวอีกคนและรอยยิ้มเป็นครั้งแรกที่เสียพ่อกับแม่ไป
ฉันกับพี่ฝากบ้านอาจจะกับคุณยายข้างบ้านฝากให้ท่านช่วยดูให้คนอื่นกลัวใครจะจับอะไรไปบางทีอาจจะช่วยดูแลเผื่อมีขี้เมายามาพี้ยาที่บ้าน
ฉันนั่งรถทัวร์รูปเก่าของพ่อกับแม่ออกมาดูแล้วร้องไห้ออกมาอีกครั้งอาจจะยังทำใจไม่ได้มาสักพักหนึ่งภายภาคฉันจะทำใจแล้วก้าวข้ามความเจ็บปวดที่เติบโตได้
ผ่านหกชั่วโมงรถก็เดินทางไปยังเมืองใหญ่ฉันมองถนนมองแสงสีในเมืองใหญ่ที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยการเยี่ยมชมด้วย...
" ดูทำหน้าสิ" พี่ปลาหัวเราะกับความบ้านนอกของฉัน
" ปราณอีกครั้งตอนไปแอบดูทีวีของป้าชะมัยยาวนานมากแล้วปราณบางทีอาจจะสวยขนาดนี้" พี่ปลาทำหน้าเศร้าลงเล็กน้อยที่จะได้ยินเรื่องนี้ไปแอบดูทีวีป้าชะมัย
ทีวีฉันยังเด็กมากบ้านฉันไม่มีฉันเลยไปแอบดูทีวีดูเหมือนฝาบ้านแก ป้าชะมัยแกเอาไม้ทิ่มตาฉันเนื้อตาเลยบอดรักษาตาอยู่เป็นเดือนพ่อโกรธมากแต่ทำอะไรไม่ได้คนจนอย่างพวกเราจะเริ่มได้โดยตรงที่หน้ารับมัน
" หลังจากนั้นปราณจะดูทีวีทุกวัน ในขณะที่พ่อกับแม่จะเสียพี่ไปซื้อทีวีจากร้านซ่อมมา กะว่าได้กลับจะเอาไปฝาก แต่น่าเสียดายส่วนหนึ่งไม่ได้ดู"
"......." พูดพูดต่อแต่ความรู้สึกมันจุกในอกกับพี่สาวเข้าใจความรู้สึกของความรู้สึกของฉันก่อนที่จะยื่นมือไปกุมมือพี่ปลาแล้วบีเบาเบาเพื่อปลอบใจ
5- Just Prana | เพียงปราณ --เลิกยุ่งปรรณพัชร์เล่นโทรศัพท์อยู่ที่บันไดรอพี่สาวกลับมา เธอนั่งรออยู่สองชั่วโมง ปารวีก็เปิดประตูเข้ามาในบ้าน"พี่ปลา" เธอรีบลงบันไดไปหาพี่สาว "ปราณดีใจจังที่พี่กลับมา""พี่ต้องกลับมาสิจ๊ะ ขอโทษที่พี่ไม่ได้ไปรับ" ปารวีเอ่ยอย่างรู้สึกผิด ใบหน้าของเธอเศร้าหมอง เพราะวันนี้เกิดเรื่องทำให้เธอไปรับน้องสาวไม่ได้"ไม่เป็นไร คราวหลังปราณไปกลับเองก็ได้""พี่เป็นห่วงปราณนะ" ปารวีหน้าเศร้า "พี่ขอโทษที่เป็นพี่ที่ไม่ได้เรื่องเลย""พี่เป็นพี่ที่ดีที่สุดของปราณแล้วค่ะ ปราณรักพี่ปลานะ" ปรรณพัชร์เดินกระเผลก ๆ ไปหาพี่สาวแล้วสวมกอด"พี่ก็รักปราณจ้ะ ว่าแต่ขาเป็นอะไร ทำไมเดินแบบนั้น""ปราณล้มตอนรับน้องค่ะ" ปรรณพัชร์พูดปด เพราะไม่อยากให้พี่สาวต้องกังวล แค่นี้เธอก็ทำให้พี่สาวรู้สึกแย่แล้ว"แย่จริง ไหนพี่ดูหน่อย" ปารวีผละกอดแล้วดูหัวเข่าของน้องสาวอย่าอาทร "ทำไมถึงไม่ระมัดระวังตัว เดี๋ยวพี่ทำแผลให้ คราวหลังต้องระมัดระวังกว่านี้นะ""ค่ะ" ปราณพัชร์พยักหน้า มองพี่สาวที่เดินไปหยิบกล่องยาสามัญประจำบ้าน "พี่ปลาทำงานที่ไหนคะ ทำไมถึงกลับค่ำจัง" คำถามของน้องสาวทำเอามือที่กำลังเปิดกล่องยาชะงั
บทที่4 พี่เทคของเธอฉันไม่ได้ตอบอะไรหรือพูดอะไร คนเมามักพูดไม่รู้เรื่อง ฉันเลยเลือกที่จะก้มหน้าแล้วเดินผ่านไป พี่ปลาบอกว่าถ้าเราไม่สนใจคนพวกนั้นก็จะไม่ใส่ใจเราเอง แต่ทว่า..."กรี๊ด!" มือหนาตามมากระชากแขนของฉันเเรง ๆ จนร่างเล็กเซถลาล้มไปกองกับพื้น หัวเข่าของฉันกระแทกกับพื้นหยาบคอนกรีตจนมีเลือดไหลซึมออกมา ผู้ชายที่อยู่วงเหล้าอีกสองคนลุกขึ้นมาแล้วล้อมตัวฉันไว้ และแน่นอนฉันกลัวมาก กลัวจนตัวสั่น น้ำตาไหลปริ่มที่ขอบตา ฉันกอดกระชับกระเป๋าตัวเองแน่น "หยะ...อย่าทำอะไรหนูนะคะ" "พวกพี่ไม่ทำอะไรหรอก!" แม้ปากบอกว่าจะไม่ทำอะไร แต่สีหน้าท่าทางแต่ไม่ใช่อย่างนั้น "หนูขอตัวนะคะ" ฉันพยายามหยัดกายลุกขึ้น พอยืนได้สำเร็จก็จะเดินไป แต่ก็โดนคนที่ล้อมดักเอาไว้"มาดื่มกับพวกพี่ดีกว่านะน้อง" "ไม่ค่ะ""บอกให้ดื่มก็ดื่มสิ!" ชายคนนั้นเข้ามากระชากแขนฉันแรง ๆ พาไปที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่พวกเขานั่งดื่มประจำ แต่ฉันขืนตัวเอาไว้ ไม่ตามพวกเขาไปนั่ง "จะลีลาทำไม!" "ปล่อยหนู" ฉันฝืนสุดกำลัง เมื่อเห็นท่าไม่ดีฉันจึงตัดสินใจเอากระเป๋าสะพายฟาดแรง ๆ"โอ๊ย! อีเด็กบ้านี่!" ฉันสะบัดมือจนพ้นพันธนาการแล้ววิ่งตรงไปที่บ้านพัก แต่ไม่
บทที่3 พี่เทคเขายังคงจ้องหน้าฉัน ในขณะที่ฉันเอง มองเขาเล็กน้อย แล้วหลุบตาต่ำลง ถึงเขาจะไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาทางสีหน้า แต่ฉันกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างในตาของเขา ฉันนั่งลงเป็นคนสุดท้าย วันนี้มีกิจกรรมรับน้องพร้อมกับจับฉลากเลือกพี่รหัส มหาวิทยาลัยก็ตั้งชื่อโค้ดเนม แล้วก็ให้น้องปีหนึ่งจับเอา ฉันตื่นเต้นมาก มองเพื่อน ๆที่จับฉลากเเล้วได้คำถาม ไปถามพวกรุ่นพี่ ส่วนฉันจับฉลากเป็นคนสุดท้าย พอจับออกมาเปิดดูก็เป็นตัวเลขแปลก ๆ แล้วก็มีชื่อฉลาม หรืออะไรสักอย่างอยู่ข้างใน ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะดูยังไม่ค่อยรู้เรื่อง รุ่นพี่ที่ชื่อเควิลก็ดึงฉลากในมือฉันออก เขาลุกขึ้นแล้วยืนตัวตรง ก่อนจะโน้มตัวมาที่ฉัน "ฉันขอเป็นพี่เทคของเธอได้ไหม?""หูยย!" เสียงทุกคนฮือขึ้น ฉันยืนนิ่งอึ้ง มองเข้าไปในตาของเขา แต่มันก็ไม่อาจที่จะคาดเดาได้ว่า เขากำลังคิดจะทำอะไร ฉันไม่เข้าใจว่าพี่เทคคืออะไร ฉันบ้านนอก ที่พอรู้ก็เพียงเรื่องพี่รหัสเท่านั้น ที่รู้ก็เพราะแฟนพี่ปลาเป็นคนเล่าให้ฟัง ว่าถ้าเราเรียนมหาวิทยาลัย เราก็จะมีพี่รหัสลุงรหัสปู่รหัสอะไรประมาณนี้ พี่รหัสก็จะช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ ทั้งเรื่องเรียน งาน อาจารย์ ท
ฉันลงจากรถแล้วนั่งรถสามล้อไปที่บ้านพัก บ้านพักพี่สาวฉันอยู่ในซอยลึก สามล้อจึงจอดหน้าซอยแล้วให้พวกฉันเดินไปฉันเดินตามพี่ปลาผ่านวงเหล้าของคนที่อาศัยอยู่ระแวกนั้น โดยมีมือเล็กจับมือฉันแน่น สายตาคนพวกนั้นจ้องมองฉันจนฉันรู้สึกไม่ปลอดภัย"หูย แม่งโคตรสวย ตัวเล็ก ๆ อายุไม่ถึงยี่สิบแน่ ๆ เลย" ชายคนหนึ่งพูดขึ้น ทำให้ทุกคนมองฉันกับพี่เป็นตาเดียว"ระวังคุกนะไอ้เวร!""กูไม่กลัว คุกเข้าได้ก็ออกได้""เออจริง""ฮ่า ๆ""ไม่ต้องสนใจ เดินตามพี่มา" พี่ปลาพูดแล้วพาฉันเดินไป ผ่านบ้านวงเหล้าไปประมาณห้าหลัง เป็นบ้านไม้สองชั้น รอบ ๆ บ้านค่อนข้างมืด เพราะมีป่ากระถินรกทึบของบ้านร้างอยู่ทางด้านหลัง"ถึงบ้านที่พี่พักอยู่แล้ว""ทำไมมันน่ากลัวแบบนี้ล่ะพี่ปลา" ฉันพูดพร้อมกับลูบแขนตัวเองเบา ๆ กวาดสายตามองไปรอบ ๆ"ยิ่งหน้ากลัวค่าเช่ายิ่งถูก ไป ๆ มันไม่มีอะไรหรอก พี่มาอยู่นานแล้วไม่เห็นจะมีอะไร""พี่เช่าเท่าไหร่บ้านหลังนี้ มันมีผีหรือเปล่า?""แปดร้อยเอง ที่สำคัญไม่มีผี ไป ๆ เอาของไปเก็บได้แล้ว จะนอนห้องเดียวกับพี่หรือจะนอนอีกห้อง" พี่ปลาพูดแล้วถอดรองเท้า ฉันมองบ้านที่จัดเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วยิ้มออกมา ถึงบ้านจะเก่า
"ฮือ ๆ"คนร่างเล็กแต่งตัวในชุดเก่ามอซอ ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หน้าโลงของบุพการีทั้งสอง เธอชื่อปรรณพัชร์ เด็กสาวยากจนที่เพิ่งเรียนจบมัธยมปลายที่ต่างจังหวัด สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักอย่างไม่มีวันหวนกลับมาท่านทั้งสองถูกรถชน ขณะที่ขับมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างไปร่วมแสดงความยินดี ในวันงานปัจฉิมนิเทศที่โรงเรียนวันที่เธอเรียนจบคือวันที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต ปรรณพัชร์เอาแต่โทษตัวเอง รู้สึกผิดกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าท่านไม่ไปวันนั้น คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นบิดามารดาของเธอเป็นคนบ้านนอก ขับรถไม่เก่ง ชีวิตลำบากมาตลอด ทำงานรับจ้างหาเงินเลี้ยงดูเธอกับพี่สาวพอพี่เรียนจบก็ไปทำงานหาเงินที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เรียนต่อ เพราะอยากหาเงินส่งเสียให้เธอได้เรียน อยากหาเงินมาให้พ่อกับแม่ได้สุขสบาย"ปราณ" มือเล็กวางลงบนบ่าสั่นเทา ปรรณพัชร์ปาดน้ำตาแล้วหันไปมอง เธอโผเข้ากอดพี่สาวเอาไว้แล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก"พ่อกับแม่ไม่อยู่แล้ว ฮือ ๆ ปราณจะอยู่กับใครพี่ปลา ฮือ ๆ ปราณผิดเอง พ่อกับแม่ตายเพราะปราณ""มันไม่ใช่ความผิดของน้องเลย ฮึก! ไม่มีใครอยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น"ปารวี ร้องไห้ออกมาไม่ต่างกัน ทั้งที่จะมาปลอบผู้เป็น