เปลือกตาหนักอึ้งเริ่มเคล่ือนเปิดกว้าง พรายแสงเจิดจ้าจากหลอดไฟเพดานคือสักขีพยานสำหรับการตื่นตัว บนเตียงผ่าตัดในห้องพยาบาลชั้น 4 ในที่สุดเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ก็วกกลับคืนสู่โลกภายนอกได้สำเร็จ พร้อมกับแขนและขาข้างใหม่ที่ทั้งสวยงามและวาววับ ไม่มีแล้วกับไอ้ด้วนแขนกุด นาทีนี้มีแต่เจ้าหน้าที่ภาคสนามที่พร้อมจะทำภารกิจทุกชนิด แบบใส่สุดไม่หยุดสุดสัปดาห์
.
แต่ก็แปลกตรงที่สิ่งแรกที่เจ้าตัวเลือกทำ กลับมิใช่การก้าวเท้าลงจากเตียงผ่าตัดแล้วขยับเขยื้อนยืดเส้นยืดสาย เหมือนกับที่ผู้ช่วยนาริตะทำกับร่างกายของออเจ้าดาวิกา เขากลับเลือกที่จะถามหมอยูมิโกะขึ้นว่า
.
"ดอกไม้ผมอยู่ไหน?"
พลางหันซ้ายแลขวา สอดส่ายสายตาลอกแลก
.
"ดอกไม้?! ดอกอะไรของคุณคะ หมอไม่เห็นรู้เรื่อง หรือว่าสมองคุณผิดปกติเพราะได้รับรังสีจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มันปวดตรงไหนรึเปล่าเอ่ย?"
.
"หืม..!"
"ก็ช่อดอกลาเวนเดอร์ไงหมอ! ผมถือเข้ามาช่อเบ้อเร่อกะว่าจะเอาไปให้บอสหลังรักษาตัวเสร็จ แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว ยิ่งเป็นของหายากราคาแพงซะด้วยสิ บัดโถ่!"
.
"เอ.. มันเป็นยังไงน้อทำไมหมอถึงจำไม่ได้เลย เด็ก ๆ มีใครเห็นของ ๆ คุณเจ้าหน้าที่เขาไหมจ๊ะ?"
.
อย่าว่าแต่หมอยูมิโกะเลยที่จำไม่ได้ แม้แต่คนอ่านเองก็ยังกดข้ามฉากพรรณนาพวกนี้ไปเป็นสิบ ๆ ตอน เพราะจ้องจะอ่านแต่ฉากโป๊วาบหวิว 18+ ท้ายที่สุดคนที่ต้องนั่งห้อยขาหน้านิ่วคิ้วขมวด ก็เลยกลายเป็นเจฟเฟอร์ผู้น่าสงสารแทน มันน่าน้อยใจไหมล่ะที่ไม่มีใครจำสิ่งที่เขาแปรสภาพออกมาได้เลยสักคน
.
"ไม่เป็นไรหมอมันอยู่ในห้องพยาบาลชั้น 4 นี่แหละ ผมได้กลิ่นหอมของมันอยู่ เดี๋ยวผมจะโชว์ให้ดูนะว่าขาข้างใหม่ของผมทำอะไรได้บ้าง"
.
"เอาสิคะ! หมอเองก็อยากเช็คผลข้างเคียงอยู่เหมือนกัน"
.
ว่าแล้วเจฟเฟอร์ก็จัดแจงเรียกหน้าจอเมนูมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First- person) ขึ้นมา ก่อนจะกวาดสายตาเลือกไปที่ชุดคำสั่ง "search" พลางเผยอจมูกฟุดฟิดสูดดมกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์เข้ามาจนเต็มปอด เพื่อให้ระบบค้นหาได้ใช้เป็นชุดข้อมูลอ้างอิง ในการระบุตำแหน่งวัตถุที่หายสาปสูญไป
.
รอให้รันข้อมูลอยู่สักครู่ ชั่วเคี้ยวหมากแหลกแถบดาวน์โหลดก็เต็มหลอดครบร้อยเปอร์เซนต์ เจฟเฟอร์หันหน้าไปทางไหนคราวนี้ล่ะแม่เจ้าโว๊ย! เคอร์เซอร์สีน้ำเงินเข้มนี่วิ่งตื๋อ! ส่ายยึกยือแสกนผ่านทุกสิ่งอย่างไปทั่ว ตัวเลขค่าพิกัดต่าง ๆ วิ่งตึ๊ด ๆ ๆ จนท้ายที่สุดมันก็หยุดลงตรงบริเวณใต้ชั้นวางของข้าง ๆ ตู้ยา ซึ่งอยู่เยื้องกันกับหัวเตียงผ่าตัดไปเพียงนิดหน่อย
.
"จึกจัก! , จึกจัก! , ฟู่!!!"
.
หมอยูมิโกะถึงกับอึ้ง ยูมิจัง กับนาริตะจังยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกหล่อนแทบไม่อยากเชื่อในสายตาตัวเอง เมื่อเห็นจะ ๆ ว่าขาข้างใหม่ที่ทำขึ้นด้วยไทเทเทียมอัลลอยด์ มันยกทั้งเนื้อทั้งตัวของเจฟเฟอร์ให้ยืนขึ้นด้วยระบบกลไกที่คล้ายกับโช้คอัพ มีควันเป็นสายพุ่งออกมาเป็นไอพ่น ฟันเพืองกลไกต่าง ๆ หมุนเวียนเปลี่ยนสลับ รับส่งกันได้อย่างลงตัวมีความสมูท ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเจฟเฟอร์ไม่ได้สั่งการอะไรเลย
.
เขาหลับตาลงเป็นนัยว่าจะโชว์ให้พวกคุณหมอเห็นถึงศักยภาพ ซึ่งขาข้างใหม่ก็ไม่ได้พลาด เมื่อมันจ้วงเท้าจึกจัก ๆ ๆ ไปยังพิกัดทิศทางของดอกลาเวนเดอร์ได้ด้วยตัวของมันเอง ลืมตาขึ้นแล้วก้มลงไปเอื้อมเก็บ ไม่ช้าไม่นานช่อดอกลาเวนเดอร์ที่เจฟเฟอร์โหยหามานาน ก็ย้อนกลับมาเป็นของเขาแม้จะเหี่ยวลงไปบ้างก็ตามที
.
"โห.. คุณเจ้าหน้าที่คะ! ถ้าขาคุณทำได้ขนาดนี้คุณไปจากชั้น 4 นี้ซะเถอะค่ะ หมอไม่มีอะไรจะรักษาคุณแล้ว"
.
"นั่นสินะครับ เอาเป็นว่าผมขอบคุณ ๆ หมอมากละกันสำหรับทุกอย่าง อย่าว่าแต่ขาเลยแม้แต่แขนซ้ายที่เพิ่งต่อมาใหม่ ก็ใช้งานได้ดีเยี่ยมพอกัน"
จบประโยคมือซ้ายข้างใหม่ก็ได้ทำการโยนช่อดอกไม้ขึ้น ให้หมุนติ้ว ๆ 360 องศากลางอากาศ ก่อนจะสอดมือเข้ามารับไว้ได้โดยพลัน บ่งบอกว่ากระบวนการรักษาทั้งหมดนั้นได้เสร็จสิ้นลงแล้ว แล้วก็ถึงเวลาซะทีที่ชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
.
.
ณ บริเวณบานประตูหน้าห้องพยาบาลที่มีหมอยูมิโกะเป็นประมุข เจฟเฟอร์หันมาโบกมือลาเธอกับผู้ช่วยด้วยความอาลัยอันน้อยนิด ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีทั้งความสุขและความซวยปะปนกันไป แต่ยังไงซะหากเลือกได้จริง ๆ เจ้าหน้าที่ภาคสนามของเราก็คงจะไม่ย้อนกลับมาที่นี่อีกถ้าไม่บาดเจ็บหนัก
.
ประตูหน้าถูกเลื่อนปิดเจฟเฟอร์ย่ำเท้าเดินต๊อกอ้อยอิ่งไปตามทางเดิน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ห้องของบอสใหญ่ ผู้ซึ่งเป็นดั่งประมุขที่แท้จริงขององค์กร ปลายเท้าจิกพื้นเขย่งโบยบินอย่างกับนักกีฬายิมนาสติก สายลับหนุ่มอารมณ์ดีจัด เพราะของที่เจ้าตัวตั้งใจจะเอามากำนัลแก่บอสนั้น เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากเหลือเกินในโลกยุคปัจจุบัน
.
จากชั้น 4 เคลื่อนมา 5 ผ่านไป 6 แป๊บเดียวก็มาถึงชั้น 7 แต่ทว่าจู่ ๆ ระหว่างที่เขากำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างเงียบเชียบ และจวนเจียนจะถึงห้องทำงานของบอสอยู่รอมร่อ ช่อดอกไม้ที่ถืออยู่ในมือก็เกือบจะร่วงหลุดมือ Oh my goodness! ใครก็ได้ช่วยบอกเขาทีว่าที่นี่คือสำนักงานขององค์กรลับพิทักษ์โลก หรือสตูดิโอถ่ายหนังโป๊ของค่าย Tokyo Hot กันแน่
.
แม่งแทบจะเย็ดกันอยู่ทุกมุมห้อง ลองจินตนาการถึงกล้องวงจรปิดตามมุมต่าง ๆ ดูสิ ถ้าในองค์กร Parallel แห่งนี้มีผู้กำกับมากความสามารถสักคน แล้วได้โอกาสตัดต่อเอาแต่ฉากสำคัญ ๆ ที่ได้จากกล้องมาทำเป็นหนังนะ รับประกันได้เลยว่าตัวเลข GDP ของพันทิพย์ประตูน้ำจะต้องขยับตัวสูงขึ้นเพราะแผ่น DVD อนาจารกันอีกหลายเปอร์เซ็นต์
.
"อืม.. บอสขา~! ไม่เอาค่ะในชุดทำงานอยู่เลยนะคะ"
.
"จ๊วบบบบบ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ ไม่มีใครรู้หรอกน่า มันตื่นเต้นดีออก อ่าาา ปากเธอหวานจัง "
.
ร่างบางในเงาตะคุ่มปรี่่ตัวขึ้นคร่อมร่างของชายร่างท้วมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหาร เธอโยนแฟ้มเอกสารให้ไปค้างเต่ิงอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะรีบซุกใบหน้าลงที่ซอกคอฝ่ายชาย
.
"ดูดคอฉันซิ! ไซร้ให้ฉันเสียวขึ้นหน่อย ให้สมกับที่ฉันเล็งเธอไว้ตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์ที เยสสสส~!"
.
"อ่ะ.. อืม.. ค่ะ"
.
"ด๊ววววววบ ซีดดดดดดด จ๊วบบบบบบ ๆ ๆ ๆ"
.
ประหนึ่งว่าจะยังไม่สาแก่ใจ มือหยาบกร้านของบอสก็เลยกดหัวเธอให้ขยี้ริมฝีปากลงมาอีก พลางใช้มืออีกข้างล้วงเข้าไปใต้กระโปรงทรงพลีสที่ทั้งบางแล้วก็ผ่าสูง
.
กางเกงในตัวจิ๋วลายลูกไม้โดนเกี่ยวออกมาด้วยความว่าง่าย มันร่นลงมาคล้องอยู่กับข้อเท้าห้อยต่องแต่งเอาไว้แบบนั้นด้วยเหตุผลของความจงใจ ก่อนที่ชายสูงวัยในเงามืดจะพาดขาทั้งสองข้างของตัวเองไว้กับขอบโต๊ะ จัดแจงตำแหน่งบั้นท้ายเธอให้ตรงกับแท่งหรรษาของเขาในชุดยูนิฟอร์มบริษัท
.
"เฮือกกกกก! อ่าาาา บอสขาาาา ฉันไม่อยากทำเลย แบบนี้มันไม่เหมาะสม มันผิดจรรยาบรรณค่ะ เจ้านายกับลูกน้องไม่ควรจะ..!"
.
"อ่ะ.. อ่ะ.. อ่า.. อ่า.. อ้าาาาา.. อ๊ายยยย.. อ๊ายยยยย.. บอสขา อ๊ายยย บอสสสส.. อ่ะ.. อ่ะ อ๊ายยยย.. บอสสสส ซีดดดดด! "
.
ไม่ทันการณ์ซะแล้วเธอสู้แรงเขาไม่ไหวเลย มันออกจะคล้ายกับการขืนใจปลุกปล้ำอยู่หน่อย ๆ เมื่อลำควยอันใหญ่ยาว เริ่มประหัตประหารเยื่อพรหมจารีให้ขาดสะบั้น! ร่างบางในชุดเลขาฯ เด้งขึ้นเด้งลง! ด้วยฤทธาของการกระเด้าสวนทางจากด้านล่าง ในขณะที่สองมืออันแสนหยาบกร้าน ก็ได้คืบคลานขึ้นไปโอบรัดไว้ที่เอว กระชับตัวเธอเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหน
.
"ตับ ๆ , ตับ ๆ , ตับ ๆ , ตับ ๆ , ตับ ๆ , ตับ ๆ , ตับ ๆ , ตับ ๆ"
.
"อื้อออ.. บอสขา อ่ะ อะ่ อ่า ควยบอสใหญ่จังเลยค่ะ เมื่อวานตอนที่อม.. อื้อ...ยังไม่ใหญ่ขนาดนี้เลยนะคะ อ่า.. อ่ะ.. อ่ะ.. อ่ะ แน่นรูมากอ่ะ แน่นหีเหลือเกินค่ะบอสสสสส อ๊ายยยยยย!!!! บอสสสส!!!!"
.
ช่องประตูที่แคบแสนแคบอันเป็นผลพวงมาจากการปิดไม่สนิท กลายเป็นสเปรชสุดสยิวที่เปิดโอกาสให้เจฟเฟอร์เกิดอาการควยแข็ง ด้วยความสัตย์จริง ณ ตอนนี้ ในบริบทแบบนี้ เจฟเฟอร์ไม่รู้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร มันมืดเกินกว่าที่แสงธรรมชาติจะส่องลอดมาถึง ประกอบกับพวกเขาเองก็ไม่ได้เปิดไฟในห้องมันก็เลยมืดมากจนยากจะคาดเดา รู้แต่เพียงว่าไอ้อ้วนที่แอ่นพุงกระเด้าสาวอยู่นั้น คือบอสแน่ ๆ เพราะเจฟเฟอร์จำได้แม่นว่า ท่า Woman on the Top เป็นท่าที่แกโคตรจะปรีชาชาญเป็นที่สุด
.
แต่แล้วพอเผลอละสายตาลงมามองที่ช่อดอกลาเวนเดอร์ เจฟเฟอร์ถึงเริ่มคิด
.
"คงต้องรอให้บอสเสร็จก่อนถึงจะเข้าไปได้ ไป ๆ มา ๆ ดูทรงแล้วดอกไม้ช่อนี้น่าจะเหมาะกับแม้สาวปริศนานั่นมากกว่าแฮะ ท่วงท่าลีลาเย่อร์ของเธอมันร่านซะยิ่งกว่าคำว่า "อีดอก" ซะอีก"
.
.
"หนึ่งช่อมีหลายดอกฉันใด! ไม่แน่บางทีเราอาจจะขอแจมด้วยสักดอกสองดอก! ฉันนั้น หวังว่าบอสคงจะอนุญาตนะ! หึ ๆ ๆ "
ลมโชยโบยแก้มเจฟเฟอร์บึ่ง Gravitybike ทะยานฟ้าจนหนังหน้าชาไปเป็นแถบ ริมฝีปากเผยอตีนผมโบกพัดวือกระพือเสียทรง ให้ตายสิเขาทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นบอร์ดี้การ์ดของเธอยังไงยังงั้น ทั้งที่ความจริงแล้วดวงหน้าขององค์หญิงนาตาชาแบบใกล้ ๆ เขายังไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง เจฟเฟอร์รู้แต่เพียงว่าเธอคือภารกิจ ขืนปล่อยให้รัชทายาทแห่งอลาลัสองค์นี้เป็นอะไรไป ข้อมูลการประชุมที่บอสอยากได้ก็คงจะล้มเหลว.มองไปตรง ๆ เห็นแต่ความสยดสยองบนท้องฟ้า ก้มลงด้านล่างก็เห็นแต่ตึกรามบ้านช่องที่เล็กเท่ากับจิ๋มมดในเมืองยอร์คชิน กระทั่งลองมองที่หน้าปัดยานความซวยจึงบังเกิด."เชี้ยแล้ว! ไอ้สัดเอ๊ย! นี่จะขับพ้นขอบชายแดนแล้วเหรอวะเนี่ยะตั้งแต่เมื่อไหร่กัน""ตาย ๆ ๆ แคทเธอรีนไม่ได้เตรียมอาวุธใส่ Gravitybike มาซะด้วย ไหนจะพิกัดขององค์หญิงที่หายไปจากหน้าจออีก เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลยงานงอกแล้วไงกู!".โปรดอย่าสงสัยว่าทำไมเจฟเฟอร์ถึงออกอาการลนลานแปลก ๆ เพราะแม้ว่าในตัวเขานั้นจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำลายล้างมากมาย แต่ก็ยังเทียบไม่ได้อยู่ดีกับไอ้พวกที่อยู่ด้านล่าง เราพูดมาตลอดว่ายอร์คชินคือเมืองที่เปรียบเสมือนฐานที่มั่นสุดท้ายของโลก หลังเกิดส
แสงสว่างสองหย่อมเปล่งประกายออกมาตรงบริเวณแก้มก้น ภายใต้ชุดหนังรัดรูปอันเป็นเอกลักษณ์ของทีมงาน Parallel เจฟเฟอร์รับรู้ได้ถึงพลังงานความร้อนที่กำลังโรมรันผิวตูดของเขา มันอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ จนค่อนไปทางร้อน กระทั่งเจ้าตัวย่อขาลงแล้วเอื้อมมือทั้งสองข้างลงไปตะปบไว้นั่นแหละมันถึงได้หยุด! ก่อนจะได้ออกมาเป็นแผ่นกระดานบางใส 2 แผ่นที่เรียกว่า "Jumper board".ขนาดกับรูปร่างเหมือนกับจานร่อนพลาสติกที่คนรักหมาใช้ปาให้เจ้าตูบกระโดดงับ ต่างกันนิดตรงที่ "Jumper board" นั้นอยู่ในรูปของคลื่นพลังงานมากกว่า มันเรืองแสงตลอดเวลา บางเบาแต่แข็งแกร่ง มิหนำซ้ำบริเวณด้านล่างยังมองเห็นประกายไฟสปาร์คเป็นเส้น ๆ ราวกับสายฟ้าจากค้อนโยเนียร์ของธอร์เทพเจ้า."เอาล่ะพอถือไว้ในมือแล้วจากนั้นก็.. , ฮึบ!"."พลั๊ว! , พลั๊ว! , พลั๊ว!""ฟิ้ววววว~!".ประหนึ่งเคยได้เสียกับจาพนมมาก่อน เจฟเฟอร์ตีลังกาใส่เกลียวพลันปาเจ้าแผ่น jumper board ออกไปกลางอากาศ! ม้วนตัวทีก็ปาไปอันนึง หกคะเมนหกรอบก็ปาออกไปหกแผ่น มันแทบจะวาร์ปขึ้นมาบนก้นได้เองในทุก ๆ ครั้งที่เขาไพล่มือไปสัมผัสโดนเข้า แผ่นบอร์ดพุ่งแหวกอากากาศฟึบฟับ ๆ ๆ ! คล้ายกับดาวกระจาย ก่อ
รังสีอำมหิตแผ่ซ่านสยายไกลมาถึงคนนอก เบอร์แบโต้กับเจฟเฟอร์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ รับรู้ได้เลยว่าปิเก้กำลังแบกรับความกดดันอยู่มากแค่ไหน พวกเขาเหงื่อแตกซิก หายใจติด ๆ ขัด ๆ ไม่อยากจะคิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง เพราะความจริงแล้วถ้าเขาไม่มัวเถลไถลหาแขนข้างใหม่อยู่ เหตุการณ์สุดสยองทำนองนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับปิเก้เป็นแน่."เชี้ยเอ๊ย! ถ้ากูใส่เกียร์หมาเร่งกระเด้าเย็ดผู้หญิงให้แตกเร็วกว่านี้นะมึงเอ๊ย ไอ้ปิเก้มึงคงไม่ตายกูพูดจริง ๆ กูขอโทษเพื่อน"ส่ายหน้าไปมาปลดปลง จนเจฟเฟอร์ลืมไปเลยว่าทุกอย่างที่ฉายอยู่นั้นพุ่งออกมาจากตาของเขา."เฮ๊ย! พี่เจฟ! ใจเย็นก่อนพี่! เส้นโฮโลแกรมมันแตกกระจายหมดแล้ว ผมเวียนหัวดูไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร แล้วพี่ก็อย่าโทษตัวเองไปเลย ความเสียใจของพี่ผมสิต้องเป็นคนแบกรับเอาไว้ ผมน่ะรับงานโดยตรงมาจากบอสเลยนะ"เบอร์แบโต้พยายามพูดปลอบใจ แล้วทันใดนั้นเองภาพเหตุการณ์จากเครื่องฉายในม่านตาก็กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง เส้นลำแสงวูบไหวไปจังหวะหนึ่ง ตัดกลับมาหนนี้เจฟเฟอร์สังเกตเห็นเลยว่า ขณะนั่งคุกเข่าอยู่และกำลังจะถูกบ่วงเชือกไนล่อนกระชากคอขึ้นไป ปลายนิ้วชี้ของปิเก้ได้หักมุมลงมาแล้ว เขาเตร
"พี่ปิเก้กำลังบอกใบ้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากบนนั้นใช่ไหมครับ? พี่เขาต้องการให้เราขึ้นไปสืบข้างบนใช่ไหมพี่เจฟ?"เบอร์แบโต้ตวาดเสียงดุดัน ท่าทางเขาดูจริงจังจนออกนอกหน้า ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับสีหน้าสีตาของสายลับรุ่นพี่เป็นที่สุด."โอ่ย! โอ่ย! โอ่ย! ๆ ไอ้โต้เอ๊ย! ไอ้โต้! นี่ตอนเด็ก ๆ แม่มึงบดแกลบให้แดกกับกาบมะพร้าวเหรอ สมองมึงถึงอุ้มน้ำได้ถึงเพียงนี้! มันใช่ซะที่ไหนล่ะเจ้าทึ่ม! ตอนนั้นปิเก้มันนอนแหงนหน้าอยู่ใช่ไหม?"."ใช่ครับ.. พี่เขาหนุนตักผมอยู่?"."ถ้างั้นก็ไม่ผิดหรอก! เพราะที่มันชี้น่ะไม่ใช่รูแหว่งโบ๋บนหลังคา หากแต่เป็นของที่ขวางอยู่เบื้องหน้าอย่างหน้าผากแกต่างหากล่ะเจ้างั่ง!".ได้ยินเช่นนั้นมือหนาหยาบกร้านของเบอร์แบโต้ ก็รีบตะปบวนไปวนมาบนหน้าผากตัวเองทันที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมีอะไรผิดสังเกต."หน้าผากผมมันมีอะไรเหรอครับพี่เจฟ ผมไม่เห็นจะเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดเลย?"."เฮ้อ..! คืออย่างงี้สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ ธรรมชาติของหน่วยภาคสนามอย่างเราน่ะ มันต้องพร้อมที่จะตายตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ เอาไว้อย่างลับ ๆ ผ่านทางชิบที่ฝังไว้ในส
สะบัดลำตัวสะดีดสะดิ้งหวิดหวิวเสียวสะท้าน ทันทีที่ภาพเสมือนโดนตัดสัญญาณ เจฟเฟอร์ก็รีบดึงสติกลับมาที่ตัวเอง เดชะบุญที่เขาไม่ได้ไปไหนไกลจากเบอร์แบโต้นัก จากตรงนี้ในชุดรัดรูปที่ใช้สำหรับทำภารกิจโดยเฉพาะ เจฟเฟอร์ยังคงมองเห็นเจ้าหน้าที่รุ่นน้องได้อย่างชัดเจน."โถ่เอ๊ย! ไอ้โต้ ดูสิดูมันทำ! ทำอย่างกับคนไม่เคยฝึกมา รื้อสถานที่เกิดเหตุกระจุยกระจาย ถุงมือก็ไม่ใส่ หลักฐานสำคัญหายหมดแล้วมั้งน่ะ! "."น่าเสียดายที่บอสรู้ตัวเร็วไปหน่อย ไม่งั้นเราคงได้ข้อมูลมามากกว่านี้ ดอกลาเวนเดอร์สดดอกหนึ่งราคาเฉียด 500 เหรียญ ไม่อยากจะเชื่อว่าแกจะกล้าปาเข้าใส่เราได้! ชูู่ววววว! ถึงที่ส่งไปจะเป็นแค่ภาพ visual ระบบ wireless ก็เถอะ แต่มันก็เสียวท้องน้อยดีเหมือนกันแฮะ.. วู้วววว!".วนมือเป็นวงบนพุงตัวเองวูบวาบ สายลับหนุ่มเป่าปากพ่นลมหายใจพรู อย่างที่เราทราบว่านวัตกรรมของ Parallel นั้นมีมากมายหลายชิ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเจ้านี่ "เครื่องฉายภาพระยะไกลระบบ wireless " มันเป็นอุปกรณ์ย่อยที่ถูกติดตั้งเข้ามาใหม่ เพียงแค่กลับด้านหัวเข็มขัดนิดเดียว จากอุปกรณ์แปลงร่างก็จะกลายเป็นเครื่องส่งสัญญาณในทันที เดชะบุญที่โลกยุคนี้เป็น
บรรยากาศมาคุแผ่สยายปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ เงียบจนได้ยินเสียงเข็มหล่น เงียบซะจนได้ยินเสียงแอร์ดังครือ ๆ ครือ ๆ เจฟเฟอร์หน้าซีดเป็นไก่ต้ม เขาทำได้เพียงคุกเข่่าแล้วก็ก้มหน้าลงปลดปลงกับบานประตูอันเว้าแหว่ง กูไม่น่าพังมึงเข้ามาเลย!."ว่าไงล่ะ! จะเงียบทำไมมิทราบไม่ได้ยินในสิ่งที่ฉันถามเหรอ ว่าคุณเสียมารยาทเข้ามาที่นี่ทำไม!"บอสสาวแห่งองค์กรตวาดเสียงเข้มดุดัน และระหว่างที่เจฟเฟอร์กำลังจะอ้าปากตอบ."อ่ะ.. เอิ่ม คือผมจะเอา.. า.. า.."."หยุด! อย่าเพิ่งพูดอะไร ส่งหัวเข็มขัดคุณมาก่อน!"."หัวเข็มขัด! บอสจะเอาคืนเหรอครับ งั้นก็หมายความว่า.. ห๊ะ! นี่อย่าบอกนะว่า! บอสจะไล่ผมออก! ด้วยเรื่องแค่นี้เนี่ยะนะ! ไม่ครับบอสไม่ ไม่ ไม่ ๆ ๆ ไม่มีทาง! ยังไงผมก็ไม่ออก ออกไปผมจะเอาไรแดก!"."ใครอนุญาตให้เงยหน้ามิทราบคุณเจ้าหน้าที่ ฉันบอกว่าส่งมาก็คือส่งมาไง! ทำไมต้องให้ย้ำ!".กัดกรามกรอด ๆ ฝืนใจเจ็บทน ต้องก้มหัวให้ผู้หญิงแล้วยังต้องมาโดนปลดออกจากตำแหน่ง เพราะความจังไรของตัวเองอีก รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั้น ถึงจะไม่อยากทำแต่สุดท้ายก็ต้องยอมปลดหัวเข็มขัด ที่มีตราสัญลักษณ์เครื่องหมายเท่ากับ (=) แห่งองค์กร Parallel ค