"จ้วง!.. จึก!.. จ้วง!.. จึก!.. จ้วง!.. จึก!.. จ้วง!.. จึก!"
.
"เฮืออออกกก!"
.
"โคร่งงงงงง!!!"
.
สโตกสุดท้ายมาพร้อมกับกงเล็บ ฝ่ามือทรายขนาดมหึมายักษาแยกออกเป็นแฉกบดบังดวงตะวันจนเกิดเงามืด มันกำลังจะตะปบลงมาใส่เจฟเฟอร์ ผู้ซึ่งบัดนี้ยังคงง่วนอยู่กับการรักษาแขนไม่จบไม่สิ้น
.
"ไอ้หยา! ทำไมมันมาถึงเร็วจังวะ? แขนกูยังไม่เสร็จเลย เดี๋ยวดิ! อย่าเพิ่ง! อิ๊บก่อน!"
"ฮึบ!"
.
"วืดดดดดดดด!"
.
จั่วลมไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด! ลำตัวของแซนดี้แทบจะบิดเป็นเกลียวตามหลักฟิสิกส์โมเมนต์ตัม มันจึงรีบชักแขนกลับพลางรีบยืดช่วงล่างของตัวเองที่ฝังอยู่ใต้ทรายให้สูงขึ้นพ้นจากพื้น จนกลายเป็นอสูรกายบิ๊กเบิ้มในร่างเดิมแบบ Full version ตาต่อตาฟันต่อฟัน สองสิ่งมีชีวิตประจันหน้าเข้าหากันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
.
"ฮู่ววว! เกือบหลบไม่พ้นไหมล่ะกู ถ้าไม่มีเจ้าแมลงพวกนี้ล่ะก็.. หึ่ย! ไม่อยากจะคิด!"
.
"หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ "
.
"รักษาระยะห่างเอาไว้อย่าเข้าไปใกล้มาก ลอยอยู่บนฟ้าให้เท้าพ้นจากพื้นแบบนี้แหละดีแล้ว ส่วนใครที่รักษาอยู่ก็ให้รีบเร่งมือเข้า!"
เจฟเฟอร์คิดในใจ ฝั่งฝูงแมลงเองก็ลงมือทำตามอย่างว่าง่าย
.
ณ ขณะนี้ชายหนุ่มกำลังมองเห็นภาพสองภาพซ้อนทับกันอยู่ หนึ่งคือเจ้าแซนดี้ปีศาจทรายที่ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า สองคือแถบแสดงสถานะร่างกายในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First- person) ที่เด้งออกมาแจ้งเตือนอยู่ตลอด นับตั้งแต่ที่พวกกองทัพแมลงบินเข้ามาช่วยเสียงติ๊ก ๆ ในหลอดเปอร์เซ็นนี่ดังถี่ขึ้นเรื่อย ๆ บ่งบอกว่าการรักษาดำเนินไปด้วยดี แขนขวาจวนจะหายสนิทแล้ว ในขณะที่ปริมาณทรายเป็นตัน ๆ ที่แทรกซึมอยู่ตามร่างกายก็ลดน้อยลงจนเกือบจะเป็นปกติ
.
"20 % for complete"
คือข้อความที่ระบบแจ้งให้เจ้าตัวทราบผ่านทางหน้าจอ
.
"เหลืออีกแค่ 20% จะสมบูรณ์ อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น! พยายามเข้าทุกคน!"
.
เจฟเฟอร์ยิ้มร่าเขาล่องลอยถอยห่างออกไปเรื่อย ๆ เพื่อประวิงเวลาและรักษาความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์เอาไว้ แต่ทว่าเจ้าแซนดี้ก็ไม่ได้โง่! มันจะเสียเวลายืนดูเหยื่อบินไปบินมาพร้อมกับแมลงวันอีกเป็นโขยงเพื่ออะไร ก็เลยเริ่มเปิดฉากโจมตีต่อ แล้วเที่ยวนี้ก็เป็นอะไรที่ต่างออกไปจากทุกครั้ง เพราะสิ่งที่มันประเคนมานั้นมีแต่อาวุธที่ใช้ในการโจมตีในระยะไกลแทบทั้งสิ้น!
.
เริ่มจากการเตะทรายบนพื้นเข้าใส่! คุณพระช่วยกล้วยหักมุก! เหมือนจะธรรมดาแต่ไม่เลย! จากมุมมองฝั่งนี้เจฟเฟอร์พลันฉุดคิดขึ้นมาในเสี้ยวอึดใจเลยว่านั่นมันเม็ดทรายจริง ๆ หรือคลื่นยักษ์สึนามิกันแน่ เพราะด้วยความที่เท้ามันใหญ่มากแซนดี้เตะตู้มมม! เข้ากับสันทรายนูน ๆ ทีเดียว มวลทรายมากมายจึงตวัดรวมกันเป็นกำแพงสูงคล้ายกับเกลียวคลื่น พลันพุ่งตรงเข้าไปหาเจฟเฟอร์กับฝูงสัตว์ผู้ช่วยด้วยความเร็วสูง
.
"ครืดดดดด.. ครืนนนนนน.. ครืดดดดดด.."
.
"ป้องกัน! อย่าให้ทรายถูกตัวฉันได้!"
ชายหนุ่มรีบออกคำสั่ง!
.
แล้วชั่วขณะจิตหลังจากนั้น หมู่มวลภมรทั้งโขยงก็รวมตัวกันเป็นหนึ่ง พวกมันบินมาจากทุกทิศทุกทางบนฟากฟ้ากอดเกยกันไปมา ขัดสานกันเป็นบาเรียทรงโค้ง แล้วก็ห่อหุ้มเอาร่างกายของเจฟเฟอร์เอาไว้ราวกับลูกโลกลอยฟ้าในคาบเรียนดาราศาสตร์ วินาทีที่คลื่นสึนามิทรายพัดมาถึง พวกแมลงก็แค่เกร็งตัวเอาไว้ แรงปะทะหนักหน่วงรุนแรงมากก็จริง! แต่เม็ดทรายเหล่านั้นก็ไม่ละเอียดพอที่จะแทรกซึมผ่านแมลงวันบาเรียเข้ามาได้ เจฟเฟอร์ก็เลยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แถมยังไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเลยด้วยซ้ำ
.
"ห่ะ ๆ ๆ กระจอกฉิบหาย! แน่จริงก็เตะมาอีกสิวะ! ห่ะ ๆ ๆ "
.
โดยหารู้ไม่ว่าพฤติกรรมดังกล่าว ได้สร้างความไม่พอใจให้แก่เจ้าถิ่นอย่างแซนดี้เป็นอย่างมาก มันโกรธจนเลือดขึ้นหน้าจนทรายที่เคยเป็นสีน้ำตาลเริ่มกลายเป็นสีส้มอมแดงเดือดปุด ๆ ซุ่มเสียงในการคำรามที่เปลี่ยนไป คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ดูออก แซนดี้กำลังคลั่งมันรู้สึกเจ็บใจที่ทำอะไรเจฟเฟอร์ไม่ได้สักทีก็เลยซอยเท้ายิก ๆ วิ่งเข้าไปง้างเท้าเตะเข้าใส่เนินทรายลูกใหม่ ซึ่งคราวนี้แม่งแรงสัด ๆ แรงอย่างกับการยิงฟรีคิกระยะไกลของ โรแบโต้ คารอส
.
"ตรึมมมมม!!!"
.
เคยได้ยินคำว่า "คลื่นลูกเก่าหายไป คลื่นลูกใหม่ย่อมมีมาแทน" ไหม นั่นล่ะสถานการณ์ตอนนี้เลย มิหนำซ้ำยังหนักหนาขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าทวีอีก เมื่อเจ้ายักษ์จัมโบ้ดันทะลึ่งวิ่งตะบึงห้อกระโดดโหยงขึ้นไปยืนโต้คลื่นอยู่บนปลายยอดคลื่นสึนามินั่นด้วย เอากับมันสิ! ลองเป็นอีหรอบนี้โดนเข้าเต็ม ๆ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตกันเลยทีเดียว
.
ฟากฝั่งของเจฟเฟอร์เองก็มองเห็นอยู่ แม้จะไม่ค่อยแน่ใจนักแต่ระยะห่างที่มากประมาณนี้ ทำให้เจ้าตัวเชื่อว่ากว่าคลื่นทรายอัปปรีย์นั่นจะมาถึง แขนขวาของเขาก็น่าจะซ่อมเสร็จพอดี จึงหันไปวิงวอนกับเหล่าแมลงแกมขอร้อง
.
"ช่วยฉันอีกสักครั้งเถอะนะ อดทนอีกนิดเดียวถ้าพวกเอ็งทนไหวพวกเราจะได้โอกาสสวนกลับ!"
.
"หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ "
เป็นเสียงอื้ออึงที่ดังมากกว่าทุกที ซึ่งเจฟเฟอร์ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเป็นเพราะพวกมันอยู่ใกล้ หรือเป็นเพราะพวกมันกำลังประชดเขาอยู่กันแน่
.
.
"ครืดดดดดด!.. ครืนนนนนน!.. ครืดดดดดด!.. ครืดดดดดด!.."
.
ครืดดดด.. โครมมมมมม!
.
.
ม่านเกาะกำบังแมลงวันสั่นสะท้าน! พวกมันต่างเกร็งตัวปกป้องเจ้านายราวกับไข่ในหิน เจฟเฟอร์ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะผ่านพ้น แต่รู้ว่าข้างนอกนั่นคงเป็นอะไรที่เจ็บปวดทรมานมาก คลื่นทรายที่สูงมากกว่าตึก 10 ชั้น ผนวกรวมเข้ากับขนาดลำตัวของเจ้าเบิ้มแซนดี้ที่กำลังโกรธจัด กลายเป็นอาวุธที่ทรงพลานุภาพที่สุดแล้วตั้งแต่เริ่มเรื่อง ทั้งหมดทั้งมวลถาโถมเข้าใส่กลุ่มสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจิ๋วกระจุกหนึ่งประดุจผู้ใหญ่รังแกเด็กทารก
.
ภาพจากด้านในแสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่า พวกแมลงเองก็ชักจะไม่ไหว! บางส่วนของบาเรียเริ่มเกิดรอยแยก! แล้วก็มีเม็ดทรายเริ่มไหลหลากเข้ามา เสียงหึ่ง ๆ ที่เคยดังก้องหูเมื่อครู่ บัดนี้กลับเงียบกริบลงไปกลายเป็นเสียงของคลื่นทรายดังแกรก ๆ ๆ ที่แทรกเข้ามาทดแทน
.
"อีกนิดเดียวอีกแค่ 5 % อดทนหน่อย! ประเดี๋ยวก็ผ่านไปแล้วช่วยทนกันอีกนิด!"
.
"กึก ๆ ๆ ๆ กัก ๆ ๆ ๆ กึกกกก"
.
ชายหนุ่มตะโกนบอกผู้ช่วยผ่านทางหูฟัง พลางหักปลายนิ้วแต่ละข้างเตรียมรอเอาไว้ กะว่าซ่อมเสร็จเมื่อไหร่จะยิงสวนออกไปทันที แม้ว่าในตอนนี้บาเรียจะอยู่ในสภาพง่อนแง่นเต็มทีแล้วก็ตาม
.
ระหว่างนั้นทรายจำนวนมากก็ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บาเรียแมลงเริ่มมีรอยแยกใหม่เกิดขึ้น จาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 จาก 4 เป็น 8 มิหนำซ้ำไอ้พวกรอยแยกเดิม ๆ ก็เริ่มเสียหายหนักขึ้น จากที่เคยยืนสบายใจชิว ๆ ตอนนี้ดูทรงแล้วเจฟเฟอร์คงทำแบบนั้นต่อไปอีกไม่ได้
.
"โอเค! เสร็จพอดี! เปิดทางให้ฉันออกไปได้!"
เขาออกคำสั่ง ทั้งที่คลื่นสึนามิทรายข้างนอกยังไม่ทันจะสลายตัว
.
"ไม่เป็นไร! เปิดเลยพวกเอ็งช่วยฉันไว้มากแล้ว ถึงเวลาที่พวกเราจะเอาคืนกันสักที!"
.
"หึ่ง หึ่ง หึ่ง หึ่ง หึ่ง"
.
บาเรียสลายออก กองทัพแมลงวันกระจายตัวออกเป็นแพรพุ่งออกมาเป็นสาย ความแข็งแรงของพวกมันไม่มากพอที่จะเจาะทะลุผ่านคลื่นสึนามิทรายได้หรอก แต่เพราะมีเลเซอร์จากปลายนิ้วของเจฟเฟอร์ยิงเปิดทางให้อะไร ๆ ก็เลยง่ายขึ้น
.
"จิ้ว! , จิ้ว! , จิ้ว! , จิ้ว!"
.
"กระจายตัวออกไปเป็นสามทาง ล้อมมันเอาไว้แล้วโจมตีพร้อมกัน!"
.
เจฟเฟอร์สั่งการพลางลอยตามออกมาทีหลัง โดยที่ยังมีฝูงแมลงวันบางส่วนหนุนอยู่ตรงพื้นรองเท้าทำให้เจ้าตัวโผทะยานอยู่กลางอากาศได้อย่างอิสระเสรี
.
เสี้ยววินาทีที่เริ่มตั้งตัวได้กระแสคลื่นยักษ์ก็สงบลง เจ้าปีศาจแซนดี้ยืนจังก้าจ้องหน้าเจฟเฟอร์เขม็ง มันพ่นลมหายใจแรงเพื่อแสดงออกถึงความโกรธ แล้วก็โมโหฉุนเฉียวสุด ๆ ที่รอบตัวมีแต่ฝูงแมลงวันสกปรกบินอยู่เต็มฟากฟ้า
.
"ตอนนี้แหละ! มันเปิดช่องแล้วเอาเลยพวกเรา! รุม!!!"
.
"หึ่งๆ หึ่งๆ หึ่งๆ หึ่งๆ หึ่งๆ หึ่งๆ หึ่งๆ"
.
โหมดต่อสู้กลับมาเริ่มต้นทำงาน นิ้วทั้ง 5 สลับกันยิงลำแสงใส่เนื้อตัวแซนดี้จนพรุนเป็นรังผึ้ง ก่อนจะกวักมือสั่งให้พวกแมลงบินเข้าไปรุมทึ้งจากข้างในออกมาข้างนอก พวกมันบินโฉบเข้าไปกัด แทะ ฉุด กระชาก จนเห็นละอองทรายกระซวกออกมาเป็นผง ๆ
.
แซนดี้ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากปัดป้อง ด้วยความที่กองทัพภมรของเจฟเฟอร์นั้นมีมากกว่าล้านตัว ต่อให้พยายามแค่ไหนสิ่งที่่เจ้าอสูรกายทำก็เหมือนจะสูญเปล่า อาการมันเข้าขั้นวิกฤต! เคยได้ยินแต่หมาหมู่สิบรุมหนึ่งเพิ่งจะเคยเห็นล้านรุมหนึ่งเอาก็วันนี้ ตัวของแซนดี้กำลังจะขาดครึ่ง ขาของมันเองก็เว้าแหว่งเป็นรูเหวอะหวะ เพราะถูกเจฟเฟอร์โฉบลงมากระหน่ำยิง
.
ครั้นพอคิดจะโต้กลับด้วยการถ่มกระสุนทรายออกจากปากเพื่อโจมตี เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการก็ได้เรียกให้ฝูงแมลงวันเข้ามาขวางเอาไว้ ต่อให้แซนดี้จะทำยังไง จะเขวี้ยง! จะปา! จะเตะ! ทรายเข้าใส่ เป็นร้อยเป็นพันครั้ง เหล่าหมูมวลมหาแมลงวันก็จะพุ่งเข้ามาตัดหน้ารับแรงกระแทกเอาไว้หมด เล่นเอาเม็ดทรายนี่แตกเป็นละอองมูลฝอยเลย จึงเท่ากับเหนื่อยฟรีแซนดี้ไม่สามารถเข้าถึงตัวเจฟเฟอร์ได้อีกต่อไป
.
ครั้นจะดึงตัวเหยื่อเข้ามาหาแบบเก่าแซนดี้ก็ทำไม่ได้อีก เพราะเท้าของเจฟเฟอร์นั้นลอยไม่แตะพื้น พอคิดที่จะวิ่งเข้าไปต่อยแบบตรง ๆ โต้ง ๆ แค่จังหวะการง้างหมัดขึ้น ความไวของเจฟเฟอร์ก็โผทะยานพรวด ๆ หนีขึ้นไปบนฟ้าได้ทุกครั้ง
.
แล้วสุดท้ายในที่สุดแซนดี้ก็ล้มลง! ฝูงแมลงวันปิรันย่ารุมกัดกินทรายจากข้างในจนตัวมันขาดครึ่ง! วินาทีที่ลำตัวท่อนบนล้มลงฟาดพื้นช่างเป็นอะไรที่น่าสยดสยอง เพราะกองทัพภมรนี่บินหึ่ง ๆ ออกมาจากศพแซนดี้ราวกับเพิ่งเสร็จจากการตอมของเน่าในตลาดสด
.
"ฮู้ววว! เรียบร้อย! เสร็จซะทีเล่นเอาเหงื่อซึมเลยดูสิ"
.
เจฟเฟอร์เป่าปากด้วยความโล่งใจ พลางพับนิ้วมือทั้ง 5 ให้กลับมาเป็นโหมดปกติ แล้วก็ใช้มือข้างเดียวกันนั้นปาดเหงื่อบนหน้าผาก
.
"เอ๋? น้ำนี่นา? น้ำในตัวเรากลับมาแล้วนี่หว่า ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"
.
"ถุย ถุย ขากกกกกก ถุย!!!"
.
คราวนี้เป็นน้ำลายมันพุ่งออกมาเป็นก้อนผสมเสมหะ ก่อนจะหล่นแหมะลงไปตรงหน้าผากเจ้าแซนดี้ที่นอนแน่นิ่งอยู่เบื้องล่าง แล้วทันใดนั้นเอง! สายลับหนุ่มก็ต้องผงะกับสิ่งที่เกิดขึ้น!
.
"เชี้ย! หมอยูมิโกะแม่งพูดความจริงวะ ทรายมันจับกันเป็นก้อนจริง ๆ ด้วยแต่!"
.
"แกร็ก ๆ ๆ ๆ ครืดดดดดด ๆ ๆ"
.
"โคตรแม่งเอ๊ย! กูต้องใช้น้ำมากขนาดไหววะ ถึงจะหยุดการรีเซ็ตตัวเองใหม่ของไอ้ยักษ์นี่ได้ ไอ้ระยำซั่มแม่เอ๊ย! มันเริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาใหม่อีกแล้ว!"
.
หูฟังถูกจับกระชับเข้ากับรูหูให้แน่นขึ้น ฝูงแมลงวันผู้ช่วยเข้าที่เตรียมพร้อม การต่อสู้อันแสนยาวนานยืดเยื้อกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง มันคืออินฟินิตี้วอลล์อันไร้จุดจบอย่างแน่นอน หากเจ้าหน้าที่ภาคสนามของเราหาน้ำที่มากพอมาไม่ได้
.
เจฟเฟอร์ลอยตัวขึ้นฟ้ายืนดูการก่อตัวขึ้นใหม่ของแซนดี้ตาเป็นมัน ก่อนจะค่อย ๆ ลดระดับสายตาลงมาจับจ้องที่เป้ากางเกงตัวเอง
.
"เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนซิ?"
"อันที่จริง "ควย" กูก็ก่อร่างสร้างตัวได้เหมือนกันนี่หว่า ซึ่งถ้ามันแข็งพอนะ.. ข้างในแม่งก็มีน้ำ! "
"อืม.. หึ ๆ ได้การล่ะมึง!"
กลุ่มม่านควันขนาดใหญ่สยายตัวขึ้นรอบบริเวณ ด้วยทรัพยากรที่มีเจฟเฟอร์คือแม่งเต็มที่กับชีวิตแล้ว เขาทำได้แค่ใช้ควันประวิงเวลาเปิดทางให้องค์หญิงหนี แต่ม่านควันดังกล่าวก็ได้ผลดีอย่างชะงักงัน มันโหมกระพือออกตามทิศทางลมในมโนอารมณ์เดียวกับคนเผาอ้อยผู้ก่อให้เกิดมลพิษ PM 2.5 งั้นเหรอ? ไม่รู้สิ! รู้แต่แม่งแสบตาสัด ๆ และทหารแตกฝอยหนีหายกลายเป็นละอองฝน.สบโอกาสให้สายลับหนุ่มวิ่งแจ้นตามไปที่หัวมุม เขาคลาดกับองค์หญิงซะแล้ว แต่ก็ยังดีที่พอจะอนุมานเส้นทางต่อไปได้ คำพูดสุดท้ายนาตาชาบอกว่าแยกข้างหน้าเลี้ยวไปไม่ไกลนัก เพราะงั้นต่อให้พิกัดตรงนี้จะเต็มไปด้วยตรอกถนนมากมายและซอยเล็กซอยน้อยนับไม่ถ้วน ยังไงซะเจฟเฟอร์ก็เลือกที่จะหยุดฝีเท้าลงที่ร้านรวงตรงนี้อยู่ดี.แต่!."สัดเอ๊ย! แม่งใช่เหรอวะ?".ถึงกับเท้าสะเอวสะบัดหน้าขึ้นไตร่ถามไรท์เตอร์อย่างมีน้ำโห เพราะสิ่งที่เขาเผชิญอยู่คือป้ายริ้วทรงกระบอกหมุนติ้ว ๆ ที่คล้ายกับสัญลักษณ์ร้านตัดผม พอทอดสายตาขึ้นไปข้างบนเหนือประตูร้าน ก็พบกับอักษรภาษายึกยือที่อ่านไม่ออก มีรูปหมากับแมวคาบกรรไกรยิ้มแป้นเป็นแบล็คกราวน์อยู่ด้านหลัง ห้อมล้อมไปด้วยไฟกระพริบวูบวาบหลากสีสัน ดุจ
สืบเท้ากระท่อนกระแท่นเดินเข้าเมืองไปได้หน่อยเดียว องค์หญิงนาตาชาก็สัมผัสได้ถึงน้ำหนักของฝ่ามือขนาดใหญ่ที่วางลงบนหัวไหล่ตนเอง เรี่ยวแรงดังกล่าวรั้งตัวเธอไว้จนต้องไพล่หน้ากลับหลังมองหาต้นตอ."คุณ! คุณมาได้ไงอ่ะ! ทั้งที่เจ็บปางตายขนาดนั้น"เผลอแผดเสียงซะดังลั่นก่อนจะใช้นัยน์ตาเฉี่ยวชำเลืองมองกลับไปยังจุดที่เจฟเฟอร์ตกลงมา ตัวเขายืนอยู่ตรงนี้ก็จริงในขณะที่ ณ จุดเกิดเหตุดันมีร่างไหม้ ๆ ของพลเมืองอลาลัสคนหนึ่งนอนอยู่ทดแทน."ผมถ่ายทอดความเจ็บปวดให้คนอื่นได้น่ะครับ แต่ช่างมันเถอะ! องค์หญิงบอกผมมาก่อนดีกว่าว่าท่านกำลังจะไปไหน เรื่องราวเป็นมายังไงกันแน่ ทำไมท่านถึงถูกตามล่า?"."ฉันจะกลับไปที่วังพรบ.ฟรีเซ็กส์ได้ข้อสรุปแล้ว พวกฉันทำพลาดการปลอมตัวไปเจรจาล้มเหลว พวกมันถึงจะจับฉันไปเป็นเครื่องต่อรองในการปฏิวัติ การกลับวังจะทำให้ฉันปลอดภัย"."อืม.. ไม่ค่อยเข้าใจแฮะ แต่ผมว่าอย่าเพิ่งดีกว่า ดูทรงแล้วท่านพ่อของท่านคงจะไม่ปลื้มในส่ิงที่ท่านทำลงไปนะครับ ถึงได้ตั้งรางวัลนำจับลูกตัวเองเอาไว้! โน่นลองดูสิ!".เบื้องหลังม่านพลังทรงโค้งขนาดใหญ่ที่ปิดบังอาคารสถานของอลาลัสอันสาปสูญ ภายในนี้หากพูดไปคงยากที่จะเ
พุ่งตรงดิ่งทะยานจากความสูงประมาณภูเขา 2 ลูกขี่คอกัน ด้วยความสูงที่ไม่มากเท่าไหร่เจฟเฟอร์เลยเหลือเวลาอยู่น้อยนิด แผ่นหลังองค์หญิงสยายกว้าง ในชุดหมีที่ห่อหุ้มเนื้อตัวไว้เพียงหลวม ๆ การสะบัดพือของมันรีบรัดจนเห็นสัดส่วนโค้งรัดตวัดร่องตูด อกเป็นอกเอวเป็นเอว ครั้นมีแต่จะลอยลับตาฉีกหนีทิ้งห่างออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งเจฟเฟอร์ไม่มีวันยอม.เป็นห่วงเธอจับใจเหมือนร่างกายมีแรงดึงดูด สายลับหนุ่มถวิลหาองค์หญิงนาตาชาโดยไม่ทราบสาเหตุ เขารีบม้วนตัวงอเข่าทำตัวเป็นก้อนกลม ก่อนจะพลิกเอาปมเชือกที่มัดแขนไว้ตวัดมาอยู่ด้านหน้า เจตนาใช้ฟันแก้ปมกลางอากาศแล้วก็ทำให้ร่างกายต้านลมให้น้อยที่สุด!."ฟู่~! , ฟิ้ววว~! , ฟู่~ ฟิ้ววว~!"สายลมเกรี้ยวกราดตรงเข้าเล่นงานจากทั่วทุกสารทิศ แต่เขาก็หาได้ใส่ใจ สายลับหนุ่มยังคงผงกหัวงึก ๆ ก้มปากลงกัดแทะเชือกออกจากข้อมือ ด้วยท่าทางละม้ายคล้ายกับคนป่วยโรคจิตที่คิดจะโม๊คควยตัวเองแต่เสือกหำสั้น.แล้วก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจหรือเพราะแพ้ฝุ่นผง PM 2.5 บนชั้นบรรยากาศก็มิอาจทราบ สมองถึงสั่งให้ฮัมเพลงขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ฮัมไม่ฮัมเปล่าจาก "ฮัม" แปลงเป็น "หำ" แถมยังใส่ทำนองเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้อันเป็
บนยานฟาลคอน ดีเซ็มเบอร์ (ลำสำรอง) ที่ไอ้มือมีดหัวไหมพรมเรียกมา องค์หญิงนาตาชาอกภูเขาไฟกับเจฟเฟอร์ถูกควบคุมตัวอยู่บนนั้น ทั้งสองถูกจับมัดมือหันหลังพิงกันบั้นท้ายแนบชิดสนิทพื้น ดีอย่างที่เชือกมันหมดก็เลยไม่เหลืออะไรเอาไว้มัดปาก เปิดโอกาสให้เจฟเฟอร์พร่ำเพ้อถึงโลกที่เจ้าตัวรู้ออกมา."โลกมีเนื้อที่ 510,100,000 ตร.กม. เป็นดาวเคราะห์ลำดับที่สามจากดวงอาทิตย์ กำเนิดเมื่อ 4,500 ล้านปีก่อน มีอันตรกิริยาเชิงโน้มถ่วงกับวัตถุอื่นในอวกาศโดยเฉพาะดวงจันทร์ ซึ่งเป็นดาวบริวารถาวรเพียงหนึ่งเดียว ปฏิกิรยาฟิชชั่นจากกัมมันตรังสีแผ้วถางทุกสรรพสิ่ง อันเป็นจุดจบของสงครามไปพร้อมกับวงศ์ทนงพงเผ่าชีวิต เพราะงั้นสิ่งที่หมอนั่นพูดถึง? อลาลัสอันเดอร์กราวน์? นอกจากยอร์คชินแล้ว.. หรือว่าโลกจะยังมีพื้นที่ให้มีชีวิตอยู่อีก! ตกลงมันไม่ใช่แค่ข่าวลือใช่ไหม? ".จัดเป็นการกระแอมกระซิบกระซาบที่ยืดยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ สายลับหนุุ่มนั่งบ่นด้วยท่าทีที่ตื่นเต้นลุกลี้ลุกลนต่างจากทุกครั้ง เขาตื่นเต้นจริงจังซะยิ่งกว่าตอนโดนโรบ็อทซอมบี้บนกองขยะรุมทึ้งชิงอะไหล่ซะอีก พลางกระทุ้งข้อศอกตุบ ๆ ใส่เอวองค์หญิงไปสองสามทีให้เธอตอบกลับ.แต
แล้วเขาก็เร่ิมเล่าออกไม้ออกมือราวกับจราจรตำรวจ ผู้โบกรถหน้าโรงเรียนกลางแดดรุมร้อน ทุกถ้อยคำที่สื่อสารนำพาความสนใจให้ก่อเกิดในหมู่ผู้ฟังได้อย่างเหลือเชื่อ ทุกคนต่างนิ่งงัน สงบ และตกใจหน้าถอดสี ขนมเค้กที่แบ่งไว้ในจานถึงกับร่วงหล่นออกจากมือเอ็มม่า แคทเธอรีนต้องเดินกลับเข้าไปเปิดไฟให้สว่างโพลง พลางปิดเพลงจิงเกอร์เบลลงด้วยเหตุผลที่ว่า แต่นี้ต่อไปคงไม่มีใครเหลืออารมณ์พอจะปาร์ตี้อีกแล้ว แม้กระทั่งบอสประมุขสาวแห่งองค์กรผู้อยู่ในจุดสูงสุด."คุณอย่าพูดเป็นเล่นน่ะ! เหตุการณ์ไม่น่าจะบานปลายขนาดนั้น แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์รึเปล่าเบอร์แบโต้ แหล่งข่าวอาจจะบิดเบือนก็ได้นะ?"บอสทำเสียงเข้มใส่ พลางยกตัวเองขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะจ้องเขม็งเข้าไปถึงลูกนัยน์ตาของสายลับฝึกหัด."ไม่ผิดแน่ครับผมจะโกหกทำไม! ป่านนี้พี่เจฟเฟอร์จะเป็นไงบ้างไม่รู้! แกเป็นคนกำชับให้รีบเอาเรื่องนี้มาบอกกับบอสก่อน แล้วผมก็ติดต่อพี่แกไม่ได้อีกเลยตั้งแต่นั้น คือยังไม่เข้าใจหรอกครับว่าพวกมันจับองค์หญิงแห่งอลาลัสไปทำไม แต่ดูจากที่พวกมันฆ่าพี่ปิเก้กับทุกคนในงานจนเกลี้ยงแล้ว บางทีการที่ท่านนายกจัสตินหนีรอดมาได้ อาจจะเป็นความตั้งใจของมัน!"."เ
ก้อนความคิดถูก Drain ด้วยฝ่ามือฉันใด ครั้นจะพุ่งกลับคืนเข้าไปย่อมทำได้ฉันนั้น ท่ามกลางมวลมหาประชากรอสุจินับพันล้าน เบอร์แบโต้แฝงตัวรวมอยู่ในนั้นอย่างแนบเนียน มันถึงเวลาแล้วที่ดวงจิตของเขาจะกลับเข้าร่าง ช่วงจังหวะที่ซอยยิกปู้ยี่ปู้ยำกลีบผงาของชะเอมซะจนขาดกระเจิง น้ำรักของเธอไหลเยิ้ม น้ำตาไหลพับพรากสิโรราบให้กับความเสียว สาวเจ้าไม่รู้ตัวเลยสักนิดเดียว ว่าเบอร์แบโต้ได้ฉวยโอกาสพุ่งออกจากร่างพี่แฟรงค์ผ่านทางปลายควย!.โคตรอุบาทว์แต่แม่งเป็นเรื่องจริง! ในทิศบูรพา 32 องศา 70 ลิบดาตะวันออก ลำควยใหญ่โค้งชักออกจากร่องเสียวเด็กสาวอย่างรวดเร็ว พลันหักหัวไปทางหน้าต่างที่มีผ้าม่านโบกไสว ใช่แล้ว! นี่คือสิ่งที่เบอร์แบโต้วางแผนเอาไว้ทั้งหมด เขาใช้สองมือกระชับลำควย กัดฟันถลึงตามองไปที่เป้าหมาย แล้วก็.. ชัก ๆ ๆ ชัก ๆ ๆ ชัก ๆ ๆ ชัก! ชัก! จนน้ำกามปริมาณ 1.25 ลิตรพุ่งเป็นสายสะบัดจากฟูกเตียงโผทะยานแหวกผ่านผ้าม่าน ไปเปรอะแหมะ! เข้ากับร่างเปล่าของตัวเอง ที่พาดคางไว้กับวงกบหน้าต่างหน้าห้องได้เป็นผลสำเร็จ.ในมุมมองที่เล็กพอ ๆ กับจุลินทรีย์ หากส่องกล้องลงไปจะเห็นเลยว่าในมวลอสุจิเหล่านั้น เบอร์แบโต้กำลังออกแรงจ้