ครืดดด ครืดดด ~
ฉันควานหาเสียงเจ้ากรรมที่โทรมารบกวนเวลานอนอันแสนเช้าตรู่ ดวงตากลมค่อย ๆ เปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาไปตีสอง เพราะระหว่างทางที่กลับหอฉันเห็นป้ายรับสมัครคนล้างจานแบบพาร์ทไทม์พอดีได้โอกาสก็เข้าไปสมัครหาเงินระหว่างรองานประจำ
แล้วเวลาหกโมงเช้าเช่นนี้ใครกันที่โทรมา หน้าจอโทรศัพท์ไม่ได้ปรากฏชื่อคนโทร ถ้าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรมาสัญญาเลยว่าฉันจะด่ายันบรรพบุรุษเลยคอยดู
"ฮัลโหลค่ะ…" ฉันหลับตาพูดด้วยเสียที่งัวเงียก่อนที่ปลายสายจะตอบกลับมาทำเอาฉันถึงกับลืมตาตื่นลุกมานั่งแทบไม่ทัน
"สวัสดีครับผมโทรมาจากบริษัทเดรโกกรุ๊ปครับ"
"ดะ เดรโกกรุ๊ปเหรอคะ!?" ปลายฝนคนขี้เซาหายไปในพริบตาเดียว
"ครับ ขอโทษที่รบกวนแต่เช้าครับ ผมจะโทรมาแจ้งว่าคุณผ่านการคัดเลือกตำแหน่งเลขาซีอีโอครับ ไม่ทราบว่าเก้าโมงวันนี้สะดวกเข้ามาสัมภาษณ์หรือเปล่าครับ?"
"สะดวกค่ะสะดวกมากเลยค่ะ"
"ครับ งั้นเจอกันที่บริษัทเวลาเก้าโมงตรงนะครับคุณปาณิสรา"
"ขอบคุณค่ะ"
กรี๊ดดดดดด ฉันซุกหน้าไว้กับหมอนแล้วตะเบ่งสุดเสียง ในที่สุดฉันก็ได้ทำงานแล้ว ไม่เสียแรงที่เมื่อวานสิงสถิตอยู่บริษัทนั้นทั้งวัน ไอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่างเหมาะเจาะเสียเหลือเกิน ฉันมั่นใจมากว่าเหตุการณ์ที่ฉันดักรอเขามาทั้งวันแล้วบังเอิญได้จัดการให้เมื่อวานเข้าตาซีอีโอของบริษัทถือว่ายังพอมีความดีที่สวรรค์ประทานสถานการณ์อย่างเป๊ะปังอยู่บ้าง
แต่ที่ดีใจไปกว่านั้นคือแผนการแก้แค้นของฉันคืบหน้าแล้ว ก่อนหน้านี้ข่าวหน้าหนึ่งด้านธุรกิจลงกันให้ควักว่าไรอันกับเดรโกที่จับมือคู่ค้ากันมานานฉีกสัญญาทะเลาะกันครั้งใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์ที่ฉันเห็นคนหล่อคนนั้นหรือคุณดีแลนทายาทของเดรโกยืนยันว่าพวกเขาบาดหมางกันจริง ๆ ศัตรูของศัตรูคือเพื่อนกันก็แวบเข้ามาในหัวของฉัน ฉันอาจจะไม่มีอำนาจมากพอที่จะแก้แค้นมันด้วยตัวเองแต่ฉันยืมมือเขาทำให้ได้
แต่คนอย่างคุณดีแลนใช่ว่าจะเข้าถึงตัวเขาได้ง่าย การสมัครเป็นเลขาเป็นเรื่องที่ฉันทำได้มากที่สุด ได้ทั้งงานทั้งใกล้ชิดยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว…
พี่ฟ้ารอฝนก่อนนะ ฝนจะพาคนที่ฆ่าพี่ฝนมารับผิดให้ได้
ฉันรีบเข้าไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวเพื่อไปสัมภาษณ์งาน ถ้าให้เดาวันนี้ซีอีโอของบริษัทคงจะเป็นคนลงสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง ตำแหน่งที่ฉันได้รับถือว่าเกินคาดสำหรับคนจบใหม่แบบฉันมาก ฉันไม่คิดด้วยซ้ำว่าวันนี้จะมาถึงง่ายเช่นนี้คงต้องขอบคุณเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คุณดีแลนเห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของฉัน
แต่จะพูดออกไปเยอะมากไม่ได้ อย่างไรวันนี้ฉันยังคงต้องผ่านด่านการสัมภาษณ์อีก พ่อจ๋าแม่จ๋าพี่ฟ้าดลบันดาลให้ฝนได้งานนี้ด้วยนะคะ…
ก็อก ๆ
ฉันยืนรอหน้าห้องพร้อมกับรวบมือถือแฟ้มเอกสารด้วยใจที่เต้นรัว ครั้งนี้นับว่าเป็นการสัมภาษณ์งานครั้งแรกหลังจากที่ฉันเรียนจบแถมยังเป็นการสัมภาษณ์กับบริษัทยักษ์ใหญ่และตำแหน่งที่ค่อนข้างจะเกินตัวทำเอาคนที่ไม่ค่อยกลัวแบบฉันประหม่าอยู่ไม่น้อยเลย
"เชิญครับ" ทันทีที่คนในห้องเอ่ยอนุญาตฉันก็รีบบิดประตูเข้าไปด้วยท่าทางที่มั่นใจ แม้ข้างในจะซ่อนทั้งความประหม่าและตื่นเต้นไม่น้อย
"เชิญนั่งครับ" มือหนาของคนที่ขึ้นชื่อว่าซีอีโอบริษัทผายมือยังเก้าอี้ตรงหน้าเขา พระเจ้า…มองจากไกล ๆ ว่าหล่อวัวตายมาก ๆ แล้วดูใกล้ ๆ เขาโคตรจะหล่อเลยดวงตาคมสีดำมืดสนิทจมูกโด่งเป็นสันคมและริมฝีปากอมชมพูใบหน้าออกไปทางลูกครึ่งฝรั่งไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีคนหล่อสมบูรณ์แบบอยู่ในโลกใบนี้
แต่มันใช่เวลาไหมปลายฝน รีบดึงสติแล้วนั่งลงซะ แกจะชวดงานเพราะบ้าผู้ชายไม่ได้
"สวัสดีค่ะ อันนี้เป็นแฟ้มสะสมผลงานของฉันค่ะ"
"ครับ" ซีอีโอสุดหล่อรับแฟ้มงานจากมือฉัน ก่อนที่จะวางไว้ข้าง ๆ โดยไม่คิดจะเปิดอ่าน
อะไรกัน…ไม่สนใจผลงานของฉันหน่อยเหรอ ในนั้นบรรจุทั้งประสบการณ์ฝึกงานถึงสี่ปีซ้อนรวมไปถึงรางวัลการแข่งขันหลายรายการระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัยเขาไม่มีท่าทีที่จะเปิดอ่านเลยหรือไง
"ผมอยากฟังคุณเล่าด้วยตัวเอง" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยเสียงเรียบเขาจดจ้องฉันอย่างไม่ละสายตาหรือนี่จะเป็นการทดสอบการวางตัวและบุคลิกของฉันหรือ…
"ได้ค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนค่ะดิฉันชื่อนางสาวปาณิสรา…" แล้วฉันก็ร่ายคำพูดยาวมากมายงัดทั้งประสบการณ์และความสารถทั้งหมดที่มีพูดออกไปให้หมด แนวโน้มที่คาดว่าจะทำให้เขารับฉันเข้าทำงานฉันก็ไม่ปล่อยให้ขาดตกบกพร่องพูดคนเดียวราว ๆ ห้านาทีโดยที่มีเขานั่งจดจ้องอยู่เงียบ ๆ ไม่รู้ว่ากำลังฟังหรือหลับในใส่ฉันกันแน่ เขาเงียบมากเงียบเสียจนฉันกลัวว่าเขาจะเบื่อที่ฉันพูดเป็นต่อยหอย หรือว่าฉันกำลังจะชวดงานนี้จริง ๆ
"คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้ค่ะ"
"…" ไม่มีเสียงตอบรับจากเขาเลยสักคำ ฉันเริ่มใจไม่ดีแล้ว
จนกระทั่ง…
"ออกไปข้างนอกเซ็นสัญญาร่วมงานกับผู้ช่วยของผมได้เลยครับ"
"ขะ ขอบคุณค่ะ" ในที่สุดฉันก็ยิ้มออกรีบพนมมือขอบคุณเขาโดยเร็ว ฉันได้งานแล้ว ~
"คุณปลายฝนสะดวกเริ่มงานพรุ่งนี้เลยหรือเปล่า"
"สะดวกค่ะ จริง ๆ เริ่มงานวันนี้ก็ได้ค่ะ ฉันเตรียมตัวมาแล้ว"
"งั้นวันนี้ผมจะสอนงานให้คุณปลายฝนแล้วกันครับ ผมอีธานยินดีที่ได้ร่วมงานครับ" คุณอีธานยื่นมือซ้ายให้ฉัน ยินดีที่ได้ร่วมงานเป็นคำที่ฉันอยากได้ยินมากที่สุดเลย
"ขอบคุณค่ะ คุณอีธานเรียกฉันว่าปลายฝนเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องคุณก็ได้" ฉันยื่นมือจับพร้อมกับกดยิ้มตาหยี การผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นอันดับแรกแต่ทำไมพี่อีธานมองหน้าฉันแล้วชะงักล่ะ
"มีอะไรหรือเปล่าคะ?"
"อะ อ๋อ เปล่าครับ ถ้าไม่รังเกียจเรียกผมว่าพี่ก็ได้ครับ ผมเป็นผู้ช่วยของท่านประธานครับ เราคงจะได้ร่วมงานกันบ่อย ๆ"
"ได้ค่ะพี่อีธาน" ฉันส่งยิ้มอีกครั้ง คราวนี้คนตรงหน้าเริ่มหน้าแดงและทำตัวไม่ถูก อย่าบอกนะว่าพี่อีธานกำลังเขินฉันอยู่งั้นเหรอ…
"ระ เราไปกันดีกว่าครับ ผมจะสอนงานให้" ว่าจบพี่อีธานก็เดินหันหลังหนีฉันทันที อะไรกันคนตัวโตร่างบึกบึนกำลังอายฉันอยู่เหรอ เขาหน้าตาดีมากพอที่จะมีสาว ๆ มายิ้มให้แบบนี้นะ ถึงจะหล่อน้อยกว่าท่านประธานแต่พี่อีธานก็ไม่ได้แย่เลย
"อันนี้โต๊ะทำงานของเรานะ อยู่หน้าห้องท่านประธานพี่จัดการเรื่องของใช้เลขาคนเก่าออกไปหมดแล้ว มีอะไรสงสัยหรือเปล่า"
"เอ่อพี่อีธานคะ คือ…"
"มีอะไรเหรอ?"
"ฝนไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่ควรถามหรือเปล่า แต่ฝนแค่สงสัยว่าทำไมเลขาคนเก่าถึงลาออกไปเหรอคะ?" ฉันแค่สงสัยเพราะเหตุผลการลาออกเลขาคนเก่ามีผลต่อการทำงานของฉัน
"พี่ไม่แน่ใจแต่เหมือนว่าจะรู้สึกว่าท้องก็เลยลาออกไปเลี้ยงลูกครับ"
"อ๋อ…" สบายใจขึ้นเยอะเลย ถ้าลาออกไปโดยไม่มีเหตุผลฉันคิดว่างานที่นี่คงหนักหรือท่านประธานอาจจะไร้เหตุผลจนทำงานต่อไม่ได้แน่
"ทำไมครับ กำลังนินทาอะไรอยู่ในใจหรือเปล่าครับ"
"แหะ หน้าฝนดูออกขนาดนั้นเลยเหรอคะ" ฉันยิ้มแห้ง ๆ
"แทบจะตะโกนออกมาเลยครับ" ฉันกับพี่อีธานยิ้มออกมาพร้อมกัน โดนจับจนได้ พี่เขาก็คงจะมีนินทาเจ้านายในใจเหมือนฉันบ้างแหละแค่ไม่ได้พูดมา ทว่าในขณะนั้น…
แกร็ก!
ประตูห้องของคนที่ฉันกำลังนินทาดันเปิดออกมาพอดี รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของฉันและพี่อีธานหุบลงพร้อมกันก่อนที่จะยืนรวบมือแล้วก้มหน้าลงให้คนที่เดินมาออกมาใบหน้าเรียบ
"ผมจะให้คนเตรียมรถครับ" พี่อีธานพูดจบก็โค้งคำนับแล้วรีบเดินนำออกไป เท้าหนาของท่านประธานที่กำลังจะเดินผ่านหน้าฉันหยุดเดิน เหลือบมามองฉันพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินตามออกไป
"สนิทกับคนเร็วดีนะครับ…"
"แม่ไม่สบายเหรอครับ?" เดลตาปรายมองหน้าฉันที่นอนเหงื่อซกข้างกายของเดนิสอีกที จะบอกลูกไปตรง ๆ ก็ไม่ได้ว่าแม่ไม่ใช่ไม่สบายแต่แค่ถูกพ่อของเขารังแกมาสภาพเลยเหมือนซอมบี้ตายซากแบบนี้…"เปล่าครับ แม่ไม่ได้เป็นอะไร แค่ข้างนอกมันร้อนนิดหน่อย""ถ้าแม่อ่านไม่ไหวผมอ่านให้น้องฟังก็ได้นะครับ" โถ่…พ่อเทพบุตรสุดหล่อของแม่ แค่นี้ก็หลงรักไม่ไหวแล้วเหมือนเห็นคุณดีแลนย่อส่วนในร่างของเดลตาไม่มีผิดเลย"แม่ไหวครับ แล้ววันนี้ลูกรักของแม่สองคนอยากฟังนิทานเรื่องไหนดีคะ?""อันนี้!!!" เดนิสชิงพี่ชายตอบยกใหญ่ และแน่นอนว่าเดลตาไม่เคยขัดใจน้องสาวมีแต่จะเสียสละเพื่อน้องได้ทุกอย่าง ลูกฉันแสนดีไม่มีใครเกินเลย"ปาป๊า~" ยังไม่ทันที่ฉันจะเล่าเดนิสก็ลุกพรวดจากเตียงนอน ก่อนที่จะกระโดดกอดคนเป็นพ่อของเขาที่เพิ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้น"ทำไมยังไม่นอนอีกคะหื้ม…" คุณดีแลนกดหอมแก้มลูกสาวตัวดี แล้วอุ้มมานอนข้างกายเดลตาที่ขยับมากอดฉันแทนจริงอย่างที่เขาบอกไม่มีผิด ส่วนใหญ่ลูกชายจะติดแม่และลูกสาวจะติดพ่อบ้านฉันเป็นแบบนั้นเลย เดลตาจะสุขุมเมื่ออยู่กับพ่อของเขาขณะที่อยู่กับฉันเขาก็จะขี้อ้อนและแสดงความรักไม่เคยอาย ส่วนเดนิสผลพลอยมาจากที่ฉัน
ก็อก ๆ"ปลายเข้าไปนะคะ" ประตูห้องทำงานของดีแลนถูกเปิดออกด้วยร่างของภรรยาสาว เธอเดินยิ้มเข้ามาพร้อมกับถาดที่ถือพายแอปเปิ้ลที่เพิ่งออกมาจากตู้อบร้อน ๆปลายฝนวางมันไว้บนโต๊ะทำงาน ก่อนที่จะหย่อนตัวนั่งลงบนตักแกร่งแล้วโอบรอบคอคนเป็นสามี"ลูกล่ะ?" เรียวปากหนาเอ่ยถามพร้อมกับฝ่ามือหนาที่โอบเอวคอดแล้วกระชับกายให้ชิดกับเรือนร่างกำยำ"ขึ้นไปอาบน้ำแล้วค่ะ""เหนื่อยไหมคะ ปลายเอาพายมาให้""นิดหน่อย""งั้นปลายป้อนนะ""อยากให้นวดมากกว่า""นวดก็ได้ค่ะ สบายมาก" ปลายฝนพูดจบก็บีบเข้าที่หลังคอของคนตัวสูงตามคำขอ เธอใช้สองมือออกแรงแล้วบีบคลายความเมื่อยล้าเพื่อให้เขาบรรเทา ช่วงนี้ดีแลนกำลังมีโปรเจ็คใหม่ให้ต้องดูแลมากมายนับไม่ถ้วน ไหนจะงานหลักของเดรโกที่เขากลับมาเป็นประมุข กิจการโรงแรมที่กำลังขยายตัว รวมไปถึงคาสิโนหลายที่ที่ทุกอย่างเหมือนจะถาโถมเข้ามาจนเขาไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน"ให้ปลายเข้าไปช่วยไหมคะ?" ปลายฝนเสนอความเห็นจนคนที่หลับตาผ่อนคลายต้องลืมตาขึ้นมามอง"แค่เธอเลี้ยงลูกก็เหนื่อยมากแล้ว แค่นี้ฉันจัดการเองได้""แต่ปลายเคยเป็นเลขาคุณนะ ปลายสามารถช่วยคุณได้เยอะเลย" เคยเป็นที่แปลว่าตอนนี้ไม่เป็นแล้ว หลังจากที
ตึก ตึก!เสียงฝีเท้าหนังราคาแพงกระทบกับพื้นห้องให้เกิดเสียงดังทุกท่วงท่าการเดิน พนักงานหลากหลายคนในละแวกพากันถอยหลังชิดขอบแล้วจ้องมองร่างดูดีทั้งสองไม่วางตา หนึ่งในนั้นคือดีแลนสวมสูทสีดำสุขุมส่วนอีกคนก็คือเจ้าของโรงแรมแห่งนี้เด็กชายเดลตาวัยห้าขวบที่วันนี้อยู่ในชุดสูทสีกรมท่าและหูกระต่ายสีดำเดินทางมาดูงานโรงแรมด้วยตัวเอง"สะ สวัสดีค่ะคุณดีแลน" พนักงานต้อนรับพนมมือไหว้เสียงติดขัด เพราะความหล่อของทั้งสองคนนั้นดันเปล่งประกายจนเธอเกือบเผลอหลวมตัว"วันนี้มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?" ดีแลนถามเสียงเรียบ"ไม่มีค่ะ ทุกอย่างปกติดี ลูกค้าเยอะเหมือนเดิมเลยค่ะ""อืม" ว่าจบดีแลนก็ผละความสนใจจากพนักงานแล้วหันมาย่อตัวนั่งเพื่อคุยกับลูกชายคนเดียว"ให้ลุงอีธานพาไปเดินเล่นก่อนหรือเปล่า เดี๋ยวพ่อจะต้องไปทำงาน" ช็อตนั้นทำพนักงานหลายคนตายเรียบ เขาเย็นชากับคนนอกทุกคนแต่เมื่อเป็นลูกชายชายหนุ่มกลับใช้เสียงนุ่มขึ้นแทบทุกคำที่พ่นออกมา"ไม่ครับ ผมอยากไปทำงานกับป๊า" เด็กน้อยตอบเต็มเสียง เขาเป็นเด็กที่โตเกินกว่าไวไปมาก สุขุม และเย็นชา ถอดแบบดีแลนในร่างของเด็กน้อยสองร่างเดินขึ้นลิฟต์ผู้บริหารกดขึ้นไปยังชั้นสูงสุดที่เป
งานแต่งงานริมทะเล D&P"สวยมาก เหมือนตุ๊กตาเลย" เสียงน้ำอิงเอ่ยกับเพื่อนสนิทที่อยู่ในชุดเจ้าสาวแสนสวย เป็นชุดเดรสฟูฟ่องสีขาวยาวเสมอเข่าและรองเท้าผ้าใบสีขาวปล่อยผมยาวถึงแผ่นหลังเป็นการใส่ชุดแต่งงานที่รองรับความปลอดภัยของเจ้าสาวท้องอ่อนเป็นอย่างดีด้วยความเห็นด้วยของดาร์ลินและดีแลนที่ไม่อยากให้เธอเหนื่อยกับงานแต่งมาก วันนี้จึงถูกจัดเป็นงานแต่งงานเล็ก ๆ ริมทะเลที่เชิญแต่แขกคนสนิทราว ๆ ยี่สิบคน ซึ่งเป็นงานที่ปลายฝนเองก็ชอบมาก งานเล็ก ๆ ที่มีแต่คนที่เธอรู้จักแถมสถานที่จัดยังเอาใจเธอที่เป็นคนชอบทะเลมีคนรักมากมายรวมตัวกันแค่นี้ก็มีความสุขจนล้นออกจากหัวใจแล้วแต่แน่นอนหลังจากที่เธอคลอดทายาทของตระกูล งานแต่งก็จะถูกจัดขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับสะใภ้เดรโกอย่างสมฐานะ เป็นพิธีการที่ถึงปลายฝนจะไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นเพราะสิ้นเปลือง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะดีแลนเองเป็นถึงทายาทของเดรโกตระกูลที่มีหน้ามีตาในสังคมจะน้อยหน้าก็คงจะไม่ได้"แกพร้อมหรือยัง จะถึงเวลาแล้ว" น้ำอิงเอ่ยให้คนเหม่อส่องกระจกรู้สึกตัว จนเธอยกยิ้มแล้วลุกขึ้นประตูห้องแต่งตัวก็ถูกเปิดออกมา"ลุงมารับลูกสาวอีกคนของลุง" คนเอ่ยคือดัสติน เขากางแ
บทที่ 56 แนะนำตัว"เธอจะไม่แนะนำฉันให้ครอบครัวเธอรู้จักเหรอ?" ร่างบางปรายมองคนที่เพิ่งจะเอ่ยจบ ทั้งสองยังคงยืนอยู่ตรงหน้าที่เก็บอัฐิของพ่อแม่และพี่สาวปลายฝน เมื่อได้ยินดังนั้นคนตัวเล็กก็ยกยิ้มขึ้น ก่อนที่จะเอื้อมไปจับฝ่ามือใหญ่แล้วพูดกับเจดีย์เล็ก ๆ ตรงหน้า"พ่อแม่พี่ฟ้า…คนนี้คือแฟนหนูเองค่ะคุณดีแลน""สวัสดีครับคุณลุงคุณน้าแล้วก็พี่ปลายฟ้า" ดีแลนเอ่ยเสียงอ่อนโยนเปลี่ยนจากจับมือเล็กมาโอบรอบเอวคอดไว้หลวม ๆ"ทั้งสามคนไม่ต้องเป็นห่วงปลายฝนนะครับ ผมจะดูแลเธอให้ดีที่สุด และไม่มีทางทำให้เธอเสียใจเด็ดขาด""ถ้าเขาผิดคำพูด พ่อกับแม่หักคอเขาได้เลยนะคะ" ปลายฝนพูดติดขำ เจอเรื่องเครียดมามากพอแล้ว ตอนนี้ในใจรู้สึกสบายราวกับปุยนุ่นเลย"วันนี้ฝนไม่ได้พาแค่คุณดีแลนมาให้พ่อแม่และพี่รู้จักนะ แต่วันนี้ฝนจะบอกทุกคนว่าฝนมีลูกแล้วนะคะ หลานของทุกคนอยู่ในท้องของฝนแล้ว" ปลายฝนลูบหน้าท้องแบนราบขอบตาเริ่มรื่นด้วยความดีใจยิ่งได้คิดว่าหากครอบครัวรับรู้จริง ๆ คงจะมีความสุขมากกว่านี้"ถึงจะไม่มีทุกคนอยู่กับฝนแล้ว แต่ฝนก็ไม่เหงาแล้วนะคะ ฝนกำลังจะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว เราจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง พ่อกับแม
วันนี้ดีกว่าทุกวันคือมีคุณดีแลนไปทำงานพร้อมกันด้วย เขาบอกว่ากิจการโรงแรมใหม่เคลียร์จนเสร็จหมดแล้วกำลังอยู่ในขั้นตอนการเปลี่ยนชื่อจากไรอันเป็น DELTA.P งงไหมว่าทำไมไม่อยู่ในเครือเดรโกแล้วเป็นชื่อนี้ได้ แรก ๆ ฉันก็ไม่เข้าใจไม่ต่างแต่เพิ่งได้เฉลยจากเขาที่ว่าเดลต้ามาจากชื่อลูกของเรา ใช่…เขาได้ชื่อลูกตั้งแต่เขาเพิ่งอายุครรภ์แค่สามเดือนไม่รู้เพศเลยด้วยซ้ำแต่ไม่ว่าจะหญิงหรือชายชื่อเดลต้าก็เหมาะสมทั้งคู่ ส่วนดอทพีคือชื่อตัวแรกของฉันที่คุณดีแลนตั้งใจจะให้โรงแรมนี้เป็นของลูกแต่มีฉันอยู่ร่วมด้วยโรงแรมนี้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวไม่เกี่ยวกับเดรโก เขาจึงมีอำนาจหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์และพร้อมโอนเป็นชื่อลูกเมื่อถึงเวลาที่เขามีความสามารถมากพอ ฉันเองก็ไม่ได้ขัดอะไร เห็นด้วยกับความคิดของเขาทุกอย่างรวมไปถึงชื่อลูกของเราสองคนด้วย"ฉันมีเรื่องจะบอกเธอ…" ระหว่างทางไปบริษัทคนตัวโตก็พูดขึ้น เขาเอื้อมมือจับฉันไว้แน่นจนฉันสัมผัสได้ว่ามันเป็นเรื่องไม่ค่อยดี"คะ?""มันอาจจะไม่เหมาะสมที่ฉันจะพูดในตอนที่เธอกำลังท้อง แต่ฉันไม่อยากปิดบังกับเธอและคิดว่าเธอสมควรต้องรู้ แต่ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงฉันก็ตามใจเธอทุกอย่างและอยู่ข้